คุยกันต่อ....หางาน...ทำงาน...หาเรียน.....การเรียน

Previous topic - Next topic

บัวขาว

เพื่อน เพื่อน กระทู้นั้นยาวมากตกไปหน้าสองแล้วค่ะ เปิดกระทู้ใหม่คุยกันต่อนะค่ะ วันนี้ตอนเย็นเราก็ไปเรียนค่ะ แต่วันนี้ยังไม่ได้เปิดอ่านหนังสือธุรกิจเลย ง่วง ง่วงค่ะ เมื่อคืนหลับไม่ค่อยสนิท เลยเปิดหนังสือคอม คล่ำ คล่ำ คลิก คลิก คอมไปนะค่ะ  
 
 คุณเทวี คุณเพ็ญ คุณคารุสุ คุณZHR  คุณUmm และเพื่อน เพื่อน ทุกคน ที่กำลังหาเรียน หางาน ทำงาน หรือ เรียนอยู่ เชิญเข้ามาคุยกันนะค่ะ .....
 การได้คุยกันเป็นสิ่งสำคัญเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันสารทุกข์สุขดิบ แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้  เขามาคุยกันเยอะ เยอะนะค่ะ เราคุยกันไปเรื่อย เรื่อยค่ะ ไม่จำกัดระยะเวลา เอาเป็นว่าจนกว่ากระทู้ตกหน้าแล้วกัน :)

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0613 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

ZRH

สวัสดีครับ
 เออ กระทู้ยาวเหยียดเลย เช้านี้ผมเข้ามาดู เฮ้ย กระทู้หายไปไหน งง แต่ก็ไม่ได้ค้นหาต่อ พอกลับมาบ่ายนี้คุณบัวขาวเปิดกระทู้ให้ใหม่แล้ว
 
 เมื่อวานผมไปสัมมนามา เรื่องเรียนเอา Kaufmann/-frau กับ AKAD ตอนแรกที่อ่านในอินเตอร์เนต ฟังดูดีมากๆ แต่พอไปฟังเค้าพูดแล้ว กลับท้อเลยละครับ ไม่ใช่อะไรหรอก ตอนแรกผมนึกว่าเรียนทางไปรษณีย์จนถึงขั้น Handelsdiplom ได้ แต่จริงๆแล้ว ได้แค่ Bürofachdiplom ถ้าอยากไปสูงกว่านั้นต้องไปโรงเรียน (มันก็ถูกของเค้านะ เรียนอยู่กับบ้านอย่างเดียว เราคงเรียนอะไรได้ไม่มาก)
 
 เค้าบอกว่าถ้ามีแค่ Bürofachdiplom ไปสมัครงาน ไม่มีใครรับหรอก มันก็คงจริง
 ปัญหาคือ ผมยังไม่กล้าไปโรงเรียน ภาษาเยอรมันยังไม่คล่องเลย เลยอยากเรียนทางไปรษณีย์ไปก่อน ... เมื่อวานเค้าก็ถามว่าจะให้เค้าพูด Hochdeutsch หรือ Schweizerdeutsch ผมก็เลือกตัวเลือกแรกนะครับ แต่... Hochdeutschของพี่เค้าสำเนียงสวิสชัดๆครับ ฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง เออ จะไปโทษเค้าอย่างเดียวก็ไม่ได้อีก เพราะตัวเราเองยังไม่คล่องเยอรมันเลย แต่ไม่เป็นไร ไม่บ่นมากละครับ เค้าให้ของฟรีกลับบ้านด้วย ปากกา1ด้าม สมุดบันทึก1เล่ม ลูกอม(อร่อยมาก)ด้วย แถมเลี้ยงน้ำอีก ... เออ เข้าท่าแฮะ นึกว่าที่สวิตฯไม่มีของฟรีหลงเหลืออยู่แล้ว... ผมก็ไม่ได้หวังของฟรีนะ แต่ถ้าได้ก็เอา ฮิฮิ
 
 เดี๋ยวมีคืบหน้าอะไร ผมจะมาเล่าให้ฟังอีก วันนี้ต้องพอแค่นี้ก่อน ผมอยู่หน้าจอคอมฯทั้งวันเลย หาทั้งงาน ทั้งที่เรียน แต่สรุป ไม่ได้อะไรเลย เซ็งครับ...
 
 คุณบัวขาวขยันจริงๆครับ ขอซื้อความขยันซัก 2กิโล จะขายมั้ยครับ จัดส่งทางไปรษณีย์ละกัน เพราะช่วงนี้ผมชอบอะไรๆทางไปรษณีย์หมด แม้แต่ความรู้ 555
 
 สวัสดีครับ
 
 ป.ล. คุณบัวขาวเรียน Vorkursด้วยหรือเปล่าครับ หรือว่าเริ่ม Semester 1 ไปเลย


ZRH

สวัสดีครับทุกๆคน
 
 หวังว่าคุณเทวีจะมาอ่านด้วยนะครับ มีเรื่องมาฟ้องคุณด้วยแหละ เดี๋ยวนี้ก็อ่านๆประสบการณ์ผมไปก่อน เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องคุณเทวีให้ฟังตอนท้ายๆ ... ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหรอกครับ
 
 คือว่า วันนี้ผมไปสัมภาษณ์งานมาครับ งานที่คุณเทวีไปนะแหละครับ ทุกอย่างโอเคดี ไม่มีการติชมอะไรทั้งสิ้น คนสัมภาษณ์เป็นผู้หญิงสาว 2คน (ผู้จัดการกับผู้ช่วยผู้จัดการ) ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสดี หัวเราะบางครั้ง ส่วนเรื่องภาษาที่ใช้สัมภาษณ ์ผมขอเป็นอังกฤษครับ ผมถามเค้าว่า Können wir Englisch sprechen? Mir ist einfacher. ก็ไม่รู้ว่าพูดถูกหรือเปล่าแหละครับ แต่ก็ไม่สนครับตอนนั้น พูดอังกฤษไปได้สักช่วง เค้าขอลองเยอรมันครับ ทีนี้ผมก็ช็อคจนพูดเกือบไม่ออก จนสุดท้ายเราก็เปลี่ยนมาเป็นอังกฤษเหมือนเดิม ภาษาอังกฤษของผมใช้ได้(คิดว่าอย่างนั้น) แต่ศัพท์เฉพาะทางเกี่ยวกับการค้าแย่เอามากๆ  
 
 แล้วมีช่วงหนึ่ง ผมคิดว่าเค้าพาดพิงถึงคุณเทวีด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจนะครับ เค้าบอกว่า มีคนหนึ่ง (เค้าไม่ได้บอกชายหรือหญิง)มีวุฒิการเรียนการท่องเที่ยวมาสมัครด้วย แต่เค้าไม่ถูกใจเพราะเรียนมาคนละด้านกับงานของเค้า
 
 เออ ในเมื่อคุณเทวีมีประสบการณ์ มีปริญญามาสมัครขนาดนั้น เค้ายังไม่เอา ผมว่าเดี๋ยวบริษัทก็ส่งแห้วมาให้ผมอีกแน่ๆเลย เพราะผมแค่ใช้วุฒิม.6ไปสมัครเอง
 
 ตอนสัมภาษณ์ผมทำตัวสะบายมากๆ ยกเว้นตอนแรกๆที่เกรงนิดๆ ผมถามเค้าไปเยอะตามความอยากรู้อยากเห็น แล้วคำถามหนึ่งที่ผมอยากถาม ผมก็ถามไปว่า - คุณต้องการอะไรจากคนที่มาสมัครงาน - เค้าตอบว่า เค้าต้องการคนที่มีกริยามารยาทดีและต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติม - ผมดันปากพล่อยเอ่ยออกไปว่า "นั่นมันสำหรับผมเลย" สงสัยเค้าหาว่าผมหลงตัวเองแน่ๆเลย แต่ก็ไม่เป็นไร......  
 
 ผมพิมพ์จนตาลายแล้วครับ งั้น วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับทุกคน

๋เจนนี่

สวัสดีค่ะ
 แวะเข้ามาอ่านค่ะ พอดีเพื่อนบอกให้เค้ามาอ่าน
 เท่าที่อ่านมา ก้อน่าลุ้นนะคะ สำหรับคุณ ZRH ยังงัยก้อขอให้โชคดีนะคะ
 
 พอดีเห็นความคิดเห็นของคุณเพ็ญจากกระทู้ที่แล้วด้วย
 ก้อเลยสนใจอยากทราบรายละเอียดงานที่พูดถึงกันนี้อ่ะคะ
 จริงๆ ภาษาเยอรมันของดิฉันแย่มากๆค่ะ แค่พอสื่อสารได้นิดหน่อย
 ภาษาอังกฤษก้อแค่พอใช้  
 ไม่ทราบว่าพอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานที่พูดถึงกันนี้ได้มั้ยค่ะ
 ดิฉันฝากอีเมลไว้ให้นะคะ  ยังงัยก้อกรุณาติดต่อกลับด้วยนะคะ
 หรือไม้ก้อฝากอีเมลไว้ เดี๋ยวดิฉันติดต่อกลับไปค่ะ dkueng75@yahoo.com
 
 ขอบคุณล่วงหน้ามากๆค่ะ
 
 

umm

ตามมาอ่านอีกค่ะ อยากเรียนอะไรซักอย่างที่นี่เหมือนกัน แต่เยอรมันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ทำงานช่วยในครัว เขาก็ไม่ได้พูดเยอรมันกันมากเท่าไหร่ ส่วนมากจะพูดเป็นคำ ๆ พอสื่อสารกันได้ อยากทำงานเกี่ยวกับเอกสารหรือในออฟฟิศ (เยอรมันไม่แข็งแรงอังกฤษพอไปได้) ไม่รู้ว่าจะต้องเรียนสาขาไหนของที่นี่ อย่างคุณบัวขาวบอก(กระทู้แรก) เราคงไม่อยากจะอยู่กับที่ ต้องพัฒนากันไปบ้าง ไม่อยากเป็นแจ๋วในครัวตลอดไปน่ะ

เทวี

สวัสดค่ะคุณZRH ใช่เลยค่ะ2สาวนั่นเป็นคนสัมภาษณ์เทวีด้วย เราคุยกันภาษาเยอรมันก่อนแล้วเขาก็ขอเป็นภาษาอังกฤษด้วยก็เลยคุยกันทั้ง2ภาษา เรื่องที่คุณบอกไปเทวีเเองก็บอกเขาไปเหมือนกัน เขาถามเทวีว่า เทวีคิดว่าเทวีมีอะไรดีและเหมาะการงานแบบนี้ เทวีบอกว่าเรื่องเทวีเป็นคนที่พร้อมที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง และเป็นคนที่เรียนรู้ได้เร็ว ส่วนเรื่องปริญญาที่เรียนมาเอกด้านการท่องเที่ยวและโทการตลาด และงานที่ทำก็งานด้านบริการลูกค้า จนทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไปเทวีถึงได้แห้วมากิน เพราะตอนที่คุยกันเทวีก็ยิ้มแย้มและเขาก็ด้วย ศัพท์ที่เขาคุยไม่ว่าจะเป็นเยอรมันหรืออังกฤษมันก็เป็นศัพท์ธุรกิจและสาวเจ้าก็พูดเบามากๆแต่เทวีก็พยามยามฟังและคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องในขั้นที่เทวีเองก็พอใจ เขายังบอกก่อนกลับเลยว่าหากเทวีมีปัญหาอะไรก็ให้โทรหาเขาได้โดยตรง นี่ถ้าเขาไม่ให้อีกคนโทรมาบอกว่าเทวีไม่มีประสบการณ์เทวีคงคิดว่าเทวีได้งานนี้แน่แล้ว แต่แล้วมันก็แห้ว ยังไงตอนนี้เทวีก็เอาใจช่วยคุณนะคะ แล้วมารายงานด้วยนะคะ ว่าเป็นยังไง ของเทวีเขาให้รอ1อาทิตย์แล้วก็โทรมาบอกข่าวร้าย แง้ๆๆๆๆๆ แห้วๆๆ
 แล้วคุณเอาวุฒิม.6ไปสมัคร แต่เทวีว่าหากคุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านนี้เขาคงจะรับคุณ เอาใจช่วยแล้วกันค่ะ

บัวขาว

แง่ม....แง่ม...มาแล้วค่ะเพื่อน เพื่อน ไม่ได้จับคอมนานเลย คือมันต้องอ่านหนังสือ ทำงานในส่วนของตัวเอง และแทนคนอื่นที่มาไม่ได้ (มันก็ดีได้ตังค์ด้วย) เลี้ยงดูแลลูก ลูก   ความคืบหน้าตอนนี้ วันศุกร์ร้านเบอรเกอรี่ที่เราสมัครไปข้างบ้าน ทำแซนวิชตอนเช้า โทรมาเรียกสัมภาษณ์ ดีใจ เราก็ไม่คิดว่าเขาจะเรียกสัมภาษณ์ เพราะเขียนไปทางอีเมล์เฉย เฉย ไม่ได้ส่งเป็นจดหมายเป็นกิจะลักษณะ แต่เนื้อความ เราพยายามเขียนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำไป ถ้าได้งานนี้ดีเลย ใกล้บ้านมาก มาก เดินไปแปดนาที เวลาทำงานไม่เดือนร้อนใคร และเป็นประจำด้วยไม่ต้องเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา คือ สามชั่วโมงตอนเช้ามืด จันทร์ถึงศุกร์ สัมภาษณ์วันพุธนี้ มีลุ้นอีกแล้วค่ะ :-)ขอให้เพื่อน เพื่อน เป็นกำลังให้ด้วยนะค่ะ :-) ถ้าได้ที่นี่อีกเราก็ทำงานสองที่ไปเลยค่ะ
 
 เรื่องสัมภาษณ์ .... ตามความสังเกตุเรานะ.....เรา ว่าHR (ผู้สัมภาษณ์) ที่นี่กลับ HR ที่เมืองไทยมองต่างมุมกันนะ HR ที่นี่เราว่าน่าจะเป็นออกแนวเรามีอะไรเราก็ใส่ ใส่ ไปนะ gibst alles , was du hast  (แต่จริง จริง ก็ไม่ต้องทั้งหมดหรอกเดี๋ยวเข้าตัว หุ หุ) HR ที่เมืองไทยอีกแบบ ออกแนวนอบน้อมจะดี  
 
 เรื่องงาน .... ในครัวนะ ..ไม่ต้องเน้นการปราณีตอะไรมากมาย ออกมาดูดี เร็ว เร็ว พอ เวลาทำงานเสียงดังวางของโครมครามไม่เป็นไร เน้นงานดี และเร็ว  
 
 เรื่องเรียน .... ตอนนี้เรียนไปสามวิชาแล้ว มีคอมพิวเตอร์ บัญชี และ Betrieb Kunden พิมพ์ดีดเขาให้ฝึกที่บ้านเอาเอง (เขาจะมีซีดีการฝึกให้) สำหรับเราตอนนี้ คอมพิวเตอร์ กับ บัญชี พอได้นะ คือคอมพิวเตอร์มีอยู่ที่บ้านปรึกษาคุงสามีได้ บัญชีนี่เคยเรียนมาบ้างแล้วจากเมืองไทย พิมพ์ดีดเคยเรียนมาแล้วไม่มีปัญหา แต่..... Betrieb Kunden ง่ายสำหรับทุกคนในห้องเรียน (มีแต่คนสวิส กับ เยอรมัน ในห้องมีนักเรียนสิบเอ็ดคน) แต่ยากสำหรับเราคนเดียว เพราะมันไม่ใช่ภาษาแม่ เราต้องใช้เวลากับการเปิดคำศัพท์ เตรียมตัวก่อนเรียน แต่พอฟังครูอธิบายก็แจ่ม..ขึ้นมาหน่อย กลับบ้านมาก็งมอ่านคนเดียว เรื่อย เรื่อย เท่าที่ครูเขากำหนดก็เพิ่งอ่านจบนี้แหละถึงมาจับคอม  
 
 คุณ ZRH จริง จริง เราเป็นคนขี้เกียจค่ะ แต่พออยู่บ้านเลี้ยงลูกมาห้าปี พบว่า จริง จริง การทำงาน การเรียนเป็นเรื่องสนุกค่ะ เราเรียน Semester 1 ไปเลยค่ะ ตกก็ตก ผ่านก็ผ่านค่ะ ไม่เป็นไร เพื่อนที่เรียนด้วยกันนะค่ะ เขาก็แนวเดียวกับเราค่ะ อยากเปลี่ยนลองทำอะไรใหม่ ใหม่ดูบ้าง อยากได้เงินเดือนสูง หุ หุ เพื่อน เพื่อนที่เรียนด้วยกัน เป็นคนสวิสซะส่วนใหญ่ ไม่แน่ใจว่าหนึ่งในสามคนข้างหลังเป็นคนเยอรมันหมดหรือเปล่า เพราะคนหนึ่งนามสกุลยูแชงโก ออกแนว ยุโรตะวันออก แต่ภาษาเขาก็โป๊ะเช่กว่าเรามากมาย
 เราก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด สมกับที่เราได้ทุน (ทุนสามี หุ หุ ) กลับบ้านเห็นเราดูแล ลูก ลูก และอ่านหนังสือ เขาก็ดีใจ ตกก็ไม่เป็นไร แต่ก็ต้องอ่านหนังสือนะ สามีจะออกแนวนี้ตลอด ทุกอย่างให้ทำไป จองทัวร์ ติดต่อเนอรเซอรี่ลูก ติดต่อหาอาพาร์เมนต์ ให้ทำไป ผิดถูกก็ทำไป พูดไม่รู้เรื่องก็พูดไป เพราะสามีต้องทำงานหาเงินไม่มีเวลา ถ้าทำอะไรผิดแล้วก็ค่อยแก้ หรือ ถ้าไม่ได้จริง จริง ค่อยปรึกษาเขา แล้วกลับไปแก้ให้ถูก  
 
 คุณ เจนนี่ เราแอ็ดอีเมล์ไว้แล้วนะค่ะ ถ้าออนไลน์เจอกันก็คุยกันได้นะค่ะ :-)
 
 คุณ umm หาตัวเองให้เจอว่าอยากเรียนอะไร และก็เดินไปตามนั้นเลยค่ะ เรื่องภาษาในครัวที่เราอยู่มีหลายภาษามาก ทั้งอินเดีย ยูโกสลาเวีย ภาษาเยอรมัน หรือ สวิสถูกต้องจริง จริง ไม่ค่อยจะมีอ่ะ แต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่อง แต่เราไม่จับการออกเสียงเขาตรงนั้นมาใช้เพราะมันผิด เขาก็ไม่ใช่เจ้าของภาษาเหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้เสียงเจ้าของภาษาจริง จริง ก็ลงเรียนพวก เต้นแอโรบิกแบบนี้ เจ้าของภาษาตรึม คอสภาษาฝรั่งเศลเหมือนกันคนเยอรมันลงตรึม มีอยู่ครั้งหนึ่งเราลงเรียนภาษาฝรั่งเศล ปรากฎได้ฝึกภาษาเยอรมันซะ  
 
 คุณ เทวี เก่งจังเลยค่ะ จบเอกด้านการท่องเที่ยว จบโทการตลาด  
 
 

เจนนี่

แวะมาอ่านกระทุ้ก่อนนอนค่ะ
 
 ขอบคุณคะคุณบัวขาว ลืมไปว่าyahoo
 ไม่ค่อยได้ใช้แล้วนะคะ แต่จะใช้ hotmail ออนmsn
 dkueng75@hotmail.com ค่ะ
 ว่างๆก้อแวะมาคุยกันนะคะ ยินดีรุ้จักทุกๆคนค่ะ
 ไปนอนละคะ ก ุ๊ดไน้ท

เทวี

สวัสดีค่ะคุณบัวขาวและทุกๆคน เทวีสนใจเรียนบ้างจัง*ที่คุณบัวขาวเรียนนะคะ มันเป็นการเรียนอะไรยังไงเหรอคะ คือเทวีไม่อยากเรียนแค่ะภาษาเยอรมันนะคะ เพราะหากเราได้ภาษาเยอรมันซึ่งคนที่นี่เขาก็พูดกันอยู่แล้ว แต่เรากลับไม่มีออฟชั่นอื่นให้เขาอีกคือว่าง่ายๆก็แค่พูดได้เหมือนคนที่นี่(ซึ่งนั่นถือว่าสุดยอดสำหรับเรา)แต่เราก็ไม่มีความรู้ด้านอื่นไปให้เขาดูเพราะเขาไม่รับการศึกษาจากต่างประเทศ ตอนนี้เทวีสับสนมากๆเลยค่ะ เพราะว่าใจหนึ่งก็อยากเรียน HV หรือไม่ก็พวกในออฟฟิศน่ะค่ะ  ซึ่งประสบการ์ตรงนั้นเรามีมาจากเมืองไทยอยู่แล้วแต่เรากลับไม่มีใบเบิกทางที่นี่ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะมีน้อง ตอนนี้เทวีอายุ27ค่ะสามีน่ะ36แล้ว ปล่อยมาจะ1ปีแล้วก็ยังไม่ติด แต่ถ้าจะทำงานก็ต้องพักเรื่องลูกก่อน สับสนมากๆ เพราะเราเองก็กลัวว่าเราจะมีลูกยากเหมือนพ่อกะแม่ของเทวีรอเทวีมาตั้ง7ปี ถ้ามันเป็นยังงั้นจริงๆเทวีก็คิดว่ายังไงลูกก็คงสำคัญกว่าการเรียนและการทำงานที่นี่ เทวีมาที่นี่เพราะเทวีแต่งงานและมีสามี ดังนั้นการมาอยู่ที่นี่คือการมาใช้ชีวิตครอบครัวมิได้มาหางานทำ แต่พอมาเข้าจริงๆถ้าทุกอย่างลงตัวมีงานทำด้วยนี่จะสุดยอดมากเลย ใครเคยมีปัญหาตัดสินใจไม่ได้แบบเทวีบ้าง ว่าจะทำอะไรก่อนหลังดี ช่วยแนะนำเทวีหน่อยค่ะ เรื่องแบบนี้ที่โรงเรียนเขาไม่สอน  เทวีกะว่าจะอยู่ที่นี่แค่ไม่เกิน13-14ปี อย่างช้าที่สุ....ดดดดด เพราะตอนนี้อยู่มาแล้ว2ปีค่ะ แม่ที่เมืองไทยก็อยากให้กลับบ้านเหลือเกิน ส่วนแม่สามีที่นี่ก็แก่แล้วสามีก็ทิ้งแม่ไม่ได้เราก็เข้าใจ อีกอย่างตัวเองก็ยังไม่อยากกลับหรอกอยากอยู่ที่นี่ให้มีลูเข้าโรงเรียนก่อนให้ลูพูดได้สัก5ภาษาก่อน แบบว่ากลัวว่าอยู่เมืองไทยแล้วลูกจะพูดแค่2-3ภาษาน่ะคะ (แบบว่าเทวีโลภน่ะคะ) ไหนๆก็มีสามีเป็นฝรั่งแล้วอะ แถมเป็นฝรั่งลูกครึ่งที่อยู่ต่างประเทศอีก นั่นคือความซวยและความโชคดีปนกัน เพราะที่บ้านเรามีด้วยกันทั้งหมด5ภาษาเน้นๆ ซวยคือเทวีต้องเรียนเพิ่มอีก3ภาษา และโชคดีคือถ้าเทวีพูดได้ทั้งหมด5ภาษา มันจะสุดยอกมากเลย ...อันนี้มีเวลเรียนทั้งชีวิตไม่ต้องรีบซึ่งตอนนี้เทวีเรียนเพิ่มแล้วอีก2ภาษาจากสามี คือสเปน และเยอรมัน ที่เหลือภาษาอังกฤษและไทย ได้อยู่แล้ว ภาษาสุดท้ายคือ อิตาลี สามีบอกว่าถ้าพูดสเปนได้แล้วภาษาอิตาลีไม่ยากหรอก เหมือนๆกับ โฮคดอยช์กับสวิสดออยช์ละ เทวีเลยอยากเรียนมันให้หมดเลย ภาษาสเปนสำหรับเทวีเพราะมากๆไม่เหมือนเยอรมันฟังแล้วเซ็ง แล้วเทวีก็เลยอยากให้ลูกพูดได้มากว่าพ่อของเขาน่ะคะ ฝันไกล...จังเลยเนอะ แต่ถ้าไม่ฝันนี้ก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหนเนอะนั่นคือความฝันของเทวีแล้วเราค่อยกลับไปเมืองไทย ยังไงก็มาแนะนำกันหน่อยนะคะ เอ่ออีก2เรื่องทีอยากรู้จากคุณบัวขาวค่ะ คือว่าก่อนที่จะรียนแบบคุณบัวขาวนี่ต้องเรียนดอยช์จบชั้นไหนคะ แบบว่าเทวีจบC1 mittlen stufe น่ะค่ะ แล้วต้องมีทดสอบอะไรก่อนหรือเปล่าคะ  
 ส่วนอีกเรื่องคืออยากถามเรื่องลูกของคุณนะคะถ้าไม่รบกวนมากไปแบบว่าเลี้ยงลูกครึ่งเนี้ยยากไหมคะ ลูกพูดทั้งภาษาพ่อและภาษาแม่หรือเปล่า มีประสบการณ์อะไรดีๆมาแบ่งกันบ้างนะคะ เอ่อ เทวีชื่นชมสามีคูณจังที่คอยช่วยเหลือ น่ารักดี สามีเทวีด้วยค่ะถ้าใครคิดมากนี่คงเลิกเรียนภาษาเยอรมันไปแล้วหากอยู่กะสามีเทวี เพราะเขาย้ำทุกคำที่เราพูดผิดเลย (พูดถูกนี่เฉยๆ)สำเนียงนี่ขอโทษนะคะ อย่ามาอ้างว่ามาจากเมืองไทย ของอย่างนี้เรียนกันได้ สามีบอก เธอต้องพยายามให้มาก และต้องใส่ใจหน่อยก่อนจะพูดอะไรออกไป อย่าสักแต่ว่าพูด เพราะการพูดเร็วๆมิได้หมายความว่าเธอพูดดี แต่ถ้าอักขระถูกต้อง(ซึ่งมันยากมากสำหรับคนไทย)มันจะดีมากๆ พออักขระถูกแล้วคำลงท้าย เอย พหุพจน์เอยต้องถูกด้วย ทุกวันนี้เทวีเรียนมาก็เยอะค่ะ แต่ก็ยังผิดประจำ ที่รู้เพราะว่าสามียังคงตอกย้ำทุกวันๆๆๆๆๆ แต่ไม่เป็นเรา คนไทยสู้โว๊ย

st.gallen

ถามคุณ ZHS และคนอื่นๆว่า เวลาสำภาษณ์งานต้องแต่งกายสุภาพแค่ไหน เช่น ชายต้องแบบสูท ผูกเนกไทเลยไหม หรือแค่เชิ้ตพอ แล้วถ้าเป็นผู้หญิงต้องใส่กระโปรงไหม เพราะมันค่อนข้างต่างจากบ้านเรา จากที่เห็นชุดทำงานทั่วไปของคนที่นี่ และยังไม่มีประสบการณืการสัมภาษณ์งานที่ไหน  
 ขอความรู้จากผู้ที่เคยผ่านมา เผื่อจะมีประโยชน์ในวันข้างหน้ามั้งจ๊ะ -.-

บัวขาว

ตอบคุณเทวีค่ะ.....ที่เรียนตอนนี้เป็นตัวนี้ค่ะ Bürofachdiplom vsh (verband Schweizerischer Handelsschulen)  ใช้เวลาเรียน หนึ่งปี คิดเป็นสองเทอม ถ้าได้คะแนนเกิน 4.5 ก็พุ่งตรงไปเรียน Kaufmann/frau BVS หรือ Kader-Jahreskurs Höheres หรือ Wirtschaftsdiplom HWD/VSK ก็เลือกเอาเองตามความถนัด แต่ถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 4.5 ต้องเรียน Handelsdiplom VSM อีกครึ่งปีก่อน ถึงจะขึ้นไปเลือกเรียนสามตัวข้างบนได้ สำหรับคุณเทวีเรียน Deutsch c1 แล้วสมัครเรียนได้ค่ะ จะเลือกเรียนสองเย็น หรือ เฉพาะวันเสาร์ หรือ เฉพาะวันจันทร์ก็สุดแล้วแต่จะสะดวก  
 
 เรื่องลูกนะค่ะ  ถ้าเราจัดการดีดีมันจะไม่เหนื่อยค่ะ แต่ที่ผ่านมาเราว่าเราจัดการไม่ค่ะดีก็เลยเหนื่อย ถ้าเราจัดการหา Tageseltern หรือ Krippe ให้เขาช่วยเลี้ยงเราก็จะสบายค่ะ หุ หุ เรื่องเลี้ยงลูกนี่เกี่ยวกับการจัดการของแต่ละคนมากกว่า ถ้าเราไม่ไว้ใจให้ใครเลี้ยง มานั่งเลี้ยงคนเดียวเราก็จะเหนื่อยคนเดียวค่ะ (ซึ่งเราช่วงลูกเล็ก เล็ก ก็เป็นแบบนี้ค่ะ ) เราเลี้ยงลูกคนโตจนถึงสองขวบคนเดียวทุกวัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน จึงส่งไปเนอรเซอรี่อาทิย์ละสองวัน ต่อมาลูกคนเล็กก็เหมือนกัน  เลี้ยงเองคนเดียวจนถึงสองขวบแล้วก็ส่งไปเนอรเซอรี่อาทิตย์ละสองวัน ตอนนี้ลูก ลูก ไปเนอรเซอรี่กันหมดแล้วและก็มีเวลา ปลอดโปร่งโล่งสบาย จะหางานทำ และเริ่มเรียนค่ะ ลูกพูดได้สามภาษา เราพูดไทยร้อยเปอร์กับลูก สามีพูดฝรั่งเศล เยอรมันลูกไปเรียนเอาเองที่เนอรเซอรี่ค่ะ พวกเขาสามารถพูดได้เป็นธรรมชาติทั้งสามภาษาค่ะ แต่ดีที่สุดในตอนนี้เป็นภาษาไทย เพราะมีเวลาอยู่กับเราเยอะค่ะ  ถ้าจะวางแผนมีลูกด้วยเรียนด้วย ก็อย่างน้อยลูกโตสักขวบก็คงจะดีแล้วค่อยไปเรียนค่ะ เพราะอยู่ที่บ้านก็ต้องให้นมลูกด้วย ลูกกวนด้วย จะไม่ค่อยมีสมาธิเรียนค่ะ ถ้าจะเอาลูกฝากเนอรเซอรี่ก็ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหกเดือนค่ะ ที่เต็มสุด สุด ก็วางแผนไว้แบบคุณเทวีดีแล้วค่ะ มีอะไรก็คิดไว้ก่อน อย่างเรามาถึงก็ท้องเลย ยังไม่ทันตั้งตัวอะไรสักอย่าง ไม่มีข่าวสารข้อมูลอะไร ไปไหนไม่ถูก เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก เรื่องที่ไม่ควรต้องเหนื่อย ก็ต้องมาเหนื่อย เหมือนไม่รู้เหนือ รู้ใต้อะไร แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ เข้าทางลูกตัวค่ะ  
 
 ตอบคุณ st.gallen สำหรับเราแต่งตามตำแหน่งงานที่ไปสัมภาษณ์ค่ะ ถ้าเป็นบริหารเราก็จะล่อใส่สูทไปเลย แต่ถ้าเป็นใช้แรงงาน เราก็จะไม่เวอร์ใส่สูทไปแน่นอน กลัวเขาว่าจะมาชี้นิ้วหรือจะมาทำงานกันแน่ อันนี้ความเห็นส่วนตัวค่ะ

เพ็ญ

มาเป็นกำลังใจให้ทุกคน  โดยเฉพาะคุณเทวี  อย่าสับสนเลยค่ะ  พูดถึงลูก   อย่างโบราณว่า มีเร็ว เราก็สบายเร็ว  ทันกิน ทันใช้  ไม่รู้ถูกหรือเปล่า  มีตอนพอดี พอดีกับเวลา กับอายุ ร่างกายพร้อม ใจพร้อม คนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม   ทุกอย่างพร้อม ไม่น่าคิดมากเลยค่ะ
 ส่วนการเรียน คนเราไม่มีใครแก่เกินเรียนค่ะ  ถ้ามีลูกตอนนี้  ไม่เกินห้าปีก็สบาย  พอมีเวลาเป็นของตัวเอง  ทีนี่ก็จัดเวลาเรียน เวลาทำงานให้ตัวเองได้  อีกอย่างมีพ่อบ้านน่ารัก คอยช่วย ให้กำลังใจอย่างนี้  ตัดสินใจไปได้เลยค่ะ

เทวี

สวัสค่ะคุณบัวขาวคุณเพ็ญและทุกๆคนด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำจากทั้ง2คน เอาว่ะ ปล่อยโรดอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด *เราก็อยากมีลูกจนตัวสั่นลูกเลยไม่มาสักที ปล่อยธรรมชาติแล้วกันเรื่องอื่นว่ากันอีกที ตอนนี้ก็ไปเรียนเยอรมันไปก่อน แล้วเรื่องอื่นแล้วแต่เวลาและสถานะภาพจะเอื้ออำนวย.  

บัวขาว

เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องลูกค่ะ พอดีตอนเย็นรีบไปเรียนตอนนี้กลับมาแล้ว วันนี้เรียนคอมพิวเตอร์อย่างเดียว ... สบาย .... ตอนนี้เลยได้มาอยู่หน้าคอม มาฝึกค่ะ  
 ค่ะเรื่องลูก ..... คลอดลูกแล้วจะเหนื่อยค่ะ ...โดยเฉพาะเลี้ยงนมแม่ .... ให้ลูกดูดนมแล้วแม่จะเหนื่อยอยากนอนค่ะ ลูกคนโตดื่มนมแม่ถึงสิบเดือนค่ะ เพราะดื่มขวดนมไม่เป็น จากนมแม่แล้วก็ดื่มแก้วเลย ไม่ใช้ขวดนมเลยค่ะ คนที่สองกินนมแม่ถึงสี่เดือน แม่เหนื่อยเลี้ยงลูกสองคน นมไม่ค่อยมี คนนี้ชอบดูดขวดนมด้วย  กลางคืนนะค่ะจะไม่ได้หลับได้นอนสบายหรอกค่ะ ลูกจะร้องหิวนม หรือบางทีฉี่ ถ่าย ผ่านไปจนลูกอายุประมาณหกเดือนเริ่มได้กินอาหารบดอย่างอื่นบ้าง แล้วก็ลูกก็จะเริ่มหลับตลอดคืนไม่ค่อยกวนค่ะ พอลูกโตขึ้นมาประมาณ ขวบกว่าเห็นจะได้ ลูกจะช่างเลือกจะมีความคิดเป็นของตัวเอง ข้าวปลา อาหารก็บ้างทีก็ป้อนอย่าง ก็แล้วแต่เด็กอีกที พวกอายุสองขวบกว่ายิ่งเอาใหญ่ไม่พอใจอะไร ชักดิ้นชักงอค่ะ พอไปนอนก็นอนยาก แล้วพอสามขวบขึ้นไปแล้วเริ่มสบาย ลูกพูดรู้เรื่อง เชื่อฟังดีค่ะ กินข้าวก็กินดี เข้านอนก็นอนดีค่ะ ไม่มีผ้าอ้อม ข้าวก็ไม่ต้องบด ...สบายค่ะ.......
 
 ที่นี่ถ้าช่วงลูกเป็นเบบี้ถ้ามีญาติก็ให้ญาติช่วยเลี้ยง ถ้าไม่มีญาติก็มี Tagesseltern กับ  
 Babysitter กับ Kippe ค่ะ อนุบาลเข้า ถ้าเกิดก่อน สิ้นเดือน พ.ค. ก็เข้าสี่ขวบ ถ้าหลังจากนั้นก็เข้าห้าขวบค่ะ เขาจะมีจดหมายมาที่บ้าน ไม่ต้องจ่ายตังค์ใด ใด ดีจังเลย (ซึ่งปีหน้าลูกชายเราก็เข้าค่ะ หุ หุ ประหยัดค่าเนอรเซอรี่ไปอีกเปราะหนึ่ง)  เข้าอนุบาลสองปีจากนั้นก็เข้าโรงเรียนค่ะ  โรงเรียนบางที่ก็จะมี Tagesschule บางที่ก็ไม่มีค่ะ (โรงเรียนข้างบ้านเรา โชคดีว่าเริ่มมีปีนี้พอดีเลยค่ะ หุ หุ )  คลอดลูกที่นี่ดีค่ะ พอลูกเข้าโรงเรียนเราไม่ต้องค่าเล่าเรียนใด  ใด ไม่ต้องปวดหัวค่าแปะเจี้ยะอะไรต่าง ต่าง การเรียนเขาก็ดี เพราะสวิสเซอแลนด์ ไม่ค่อยมีทรัพยากรธรรมชาติอะไร ดังนั้นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศนี้คือมนุษย์ จะเห็นได้ว่า บริษัทใหญ่ ใหญ่ดัง ดังมากมายเข้าลงทุนในสวิส เพราะมีทรัพยากรมนุษย์พร้อม ดังนั้นทางรัฐเขาจึงทุ่มทุนกับตรงนี้ด้วย และคนก็ต้องเรียนด้วย การเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับที่นี่ ประกาศนียบัตรก็สำคัญ ดังนั้นคนที่นี่พอมีเวลาก็เรียนเพิ่มโน้น เพิ่มนี้กันเรื่อย เรื่อย (ชักนอกเรื่องมากไปแล้ว พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ เดี๋ยวไปซ้อมมือกับคอมที่เรียนมาวันนี้ก่อนค่ะ)