คุยกันต่อ....หางาน...ทำงาน...หาเรียน.....การเรียน

Previous topic - Next topic

เจนนี่

น้องเทวี ขออีเมลติดต่อด้วยค่ะ
 หรือไม่ก้อ ช่วยเมลกลับมาที่อีเมล ที่ให้ไว้ข้างบนด้วยนะคะ
 
 ไว้เมลมาก่อนนะ จะเมลกลับด่วนเลยจ้า
 
 :-)


mayhunsa@yahoo.com

ตามมาอ่านจากกระทู้ที่แล้วเหมือนกันมีเรื่องจะเล่าด้วยแต่ไม่มีเวลาเลย แต่อขอแสดงความคิดเห็นนิดนึง
 สำหรับคุณเทวีและคุณบัวขาว น่าจะเขียนหนังสือนะคะ
 เพราะที่คุณสองคนเขียนมาอ่านแล้วมันมากๆค่ะ
 ชวนให้น่าติดตามตอนต่อไป ไม่น่าเบื่อน่ะค่ะ
 ขอบคุณมากนะคะ ที่มาเล่าสู้กันฟัง หนุกหนานมากค่ะ
 เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางาน
 ขอบอกคุณเทวีว่า ลองสมัครงานที่ร้านขายของที่ระลึก,นาฬิกา
 ที่ขายของให้นักท่องเที่ยวสิคะ ทั้งภาษาและวุฒิที่คุณมีอยู่
 เป็นอะไรที่น่าสนใจและน่าจะได้เปรียบมากค่ะ
 ตอนนี้ทำอยู่สองปีแล้วค่ะเพื่อนๆ ร่วมงานคนไทยเยอะ
 มีจบ ป,ตรี แค่สองคนเอง อย่างคุณน่าโอเคมากๆ
 แนะนิดหนึ่งหากอยากสมัครงานเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว
 ให้สมัครราวเดือน กุมภาหรือมีนาค่ะ เค้าจะเริ่มรับและพิจารณาบุคคลากร เพื่อต้อนรับ ซัมเม่อร์  
 ขอบคุณค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี

เทวี

ขอบคุณมากค่ะคุณ mayhunsa ใจจริงๆเทวีก็อยากทำงานด้านที่เรียนมาเหมือนกันแต่เมืองที่อยู่เนี้ยหาไม่ค่อยจะเจอเลย นักท่องเที่ยวเนี้ย แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เทวีเองยังไม่เคยสมัครงานทางนี้เหมือนกันแล้วจะลองดูค่ะ เรื่องที่เข้ามาอ่านของเทวี บางทีเทวีก็แอบคิดว่าคนอ่านเขาจะรู้สึกยังไงหน้อเวลาเราเขียนอะไรลงไป ประการเรียก หมั่นไส้ หรือเห็นใจ หรืออะไรอีกต่างๆนานา ยังไงก็เข้ามาคุยกันบ่อยๆนะคะ
 อีกเรี่องค่ะ เทวีอยากถามคุณบัวขาวอีก เรื่องเรียนที่คุณบัวขาวแนะนำมาไม่ทราบว่าเทวีจะหาข้อมูลได้จากที่ไหนคะ คุณบัวขาวอยู่เมืองอะไรเหรอ แล้วมันต้องจ่ายค่าเรียนเปล่า เพราะเทวีเคยเข้าไปดูของ เบเนดิค เห็นค่าเรียนแล้วอยากมีลูกให้รู้แล้วรู้รอดมันตอนนั้นเลย เพราะแพงมั๊กกกกกกกกก เป็นหมื่นสวิสฟรังค์ บ่มีปัญญาจ่ายค่ะ ยังไงเข้ามาแนะนำอีกทีนะคะ ขอบคุณค่ะ

บัวขาว

ผ่อนเอาค่ะคุณเทวี .... นี่ค่ะจ่ายสี่ครั้ง ครั้งจะ 1175 fr ปีหนึ่งนะค่ะ  
 http://benedict.ch/be,ha,1
 เราอยู่เมืองเบริน์ค่ะ  
 เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ดูที่ Kosten ล่างสุดค่ะ รวมทุกอย่างเลยค่ะทั้งหนังสือด้วย จ่ายแล้วหิ้วกระเป๋าเข้าเรียนได้เลยค่ะ  
 
 คุณ mayhunsa ขอบคุณค่ะ เราเขียนไปตามเรื่อง ตามราวค่ะ อยากแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อน เพื่อน ที่มาอยู่ใหม่ไว้เป็นแนวทางด้วย อยากแชร์ข้อมูลสารทุกข์สุขดิบ กับเพื่อน เพื่อนด้วยค่ะ เพราะแต่ละคนก็มากันจากคนละที่ พอมาอยู่ที่นี่ก็อยู่กันคนละที่ละทาง บางคนก็ไม่รู้เหนื่อ รู้ใต้อะไร ถ้าเข้ามาอ่านก็อาจเกิดประโยชน์จุดประกายได้ค่ะ .....สำหรับเราการได้คุยกันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เข้ามาคุยกันบ่อย บ่อยนะค่ะ :-)

บัวขาว

วันนี้ไปสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ เขาถามว่าเราจะเอาชั่วโมงเท่าไรด้วยอ่ะค่ะ ... หยุดคิดนานจิ๊ดหนึ่งแล้วก็ตอบไป .... เพราะไม่ได้คิดค่ะว่าเขาจะถามด้วย .... เขาตอบเออสูงไปจ่ายไม่ไหว .... เราก็เลยถามไปว่าปกติจ่ายอะไรกันยังไง เขาก็บอกมา เราว่าขอขึ้นอีก ห้าสิบรับเพ้นได้เปล่า เขาว่าเอาไว้ดูผลงานอีกที เออ เออ ก็ได้วะ (ที่จริงค่าแรงงานที่ให้มาต่อชั่วโมงถือว่าโอ เค ค่ะ ต่อไปงั้นแหละ เพื่อได้เพิ่ม หุ หุ ) อาทิตย์หน้าเขาจะให้ลองไปทำงานให้เขาดูสองชั่วโมงค่ะ วันไหน เวลาไหน แล้วจะโทรมานัดอีกที ภาษาเยอรมันเขาพูดว่า schnuppern???? หรืออะไรเนี่ยะแหละค่ะ เขาบอกว่าต้องดูผู้สัมภาษณ์รายอื่นด้วย .... แต่เขาว่าเรานี่บ้านใกล้ ... อืมก็อาจจะพิจราณาให้พิเศษกว่าคนอื่นเขาหน่อยอ่ะค่ะ แต่ก็ต้องรอดูคนอื่น ก็ยังไม่รู้อ่ะค่ะ ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาก็เชิญให้ไปดูห้องครัว เพื่อนร่วมงานค่ะ ก็ดีค่ะ เราไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรเท่าไรค่ะ (คิดว่าผู้ที่มาสัมภาษณ์เราเสียอีกออกจะตื่นเต้น หุ หุ) เพราะมีสามสาขาเท่านั้น เขาก็คงไม่ค่อยได้สัมภาษณ์ใคร เขาก็ถามไปว่าไปตามเรื่องที่มันเป็นอยู่ในการทำงาน ถ้าเราทำงานจริง จริง คนทำแซนวิชก็จะมีเรากับพี่อีกคนเท่านั้นเป็นสองคน ทำแซนวิชประมาณวันละ สามร้อยห้าสิบอันถึงห้าร้อยอันค่ะ ส่งไปสามสาขา   วันนี้เดี๋ยวไปเรียนบัญชีกับ Betrie Kunden อีกแล้ว ..... เออ......สู้ สู้  สู้กับวิชาที่เรียนค่ะ หุ หุ

umm

ผู้จัดการให้โอกาสอีกแล้ว ทำงานครบ สามเดือน (ตามสัญญา)ให้ทำต่อไปอีกเรื่อย ๆ ประมาณว่าต่อสัญญา แต่ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน ปีต่อปี หรืออย่างไรก็แล้วแต่เขาล่ะ  
 หลังจากที่ได้ทุ่มเทพลัง (ที่มี) ทำงานผ่านมาได้ หนึ่งเดือน (สาหัสพอสมควร เพราะไม่เคยผ่านงานแบบนี้มาก่อน:-) ก็พอจะทำ (ใจ) ได้ดีขี้นบ้าง แต่ความเร็ว (และดูดี)ในการทำต้องฝีกอีกพอสมควร สาธุ...ขอให้ลูกและเพื่อนร่วมชาติ (ในสวิต) ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยดีเถิด :-)
 
 

บัวขาว

คุณ umm แล้วต่อสัญญาให้แสดงว่าเราทำงานดี ถ้าทำงานไม่ดีเขาก็ไม่ต่อสัญญาให้หรอก ดีแล้วเนอะ  
 
 วันนี้ทำงานเหนื่อย เหนื่อย หัวหน้าก็ลืมเวลาหยุดพักให้ (เวรกรรม) แล้วเขาก็แก้ไขให้ ว่าให้เวลาพัก (แต่จริง จริง ไม่มี แต่เขาบวกไป คือเป็นความผิดเขา) คือเราออกมาเวลา 17.04 แต่เขาจะบอกให้ เป็น 17.20 แต่ตอนที่เราออกมาเขายังไม่ได้ต๊อกให้ คือเขาต๊อกให้เป็นเวลาเริ่มทำงาน 11.45 ถึงกี่โมงก็ไม่ได้ดูที่ว่ามันควรจะเป็นเวลาพัก แล้วเขาจะต็อกเวลากลับเป็นเวลา 17.20 ให้ที่หลัง ยังไงเราก็จดไว้ในสมุดหละ ถ้าจ่ายตังค์ไม่ถูกยังไงก็ต้องทวงกันบ้างหละ (เออ เวรกรรม)  ทำงานผ่านไปเดือนหนึ่งเหมือนกัน ยังไม่ได้ไปเช็คเงินเดือนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเช็ค

nanstor

คุณบัวขาวพูดเรี่องลูกแล้วเห็นภาพเลยคะ ต้องอยู่เลี้ยงลูกคนเดียวเร็วๆนี้ด้วยคะ เฮ้อ...

umm

อ้าว คุณบัวขาวทำแต่งาน (เหมือนเราเลยแฮะ) ไม่ได้เช็คเงิน (เหมือนกัีน) ระวังเงินเดือนหายเน้อ  
 ตอนนี้เชพปล่อยให้ทำงานคนเดียวในส่วนจัดสลัด,ของหวาน และอื่น ๆ จิปาถะ   เหนื่อย เหนื่อย เหลือเกิน บ่าสองข้าง ถ้าพูดได้ก็คงจะบอกว่า "ใช้งานฉันน้อย ๆ หน่อย" ไม่รู้ว่าคุณบัวขาวจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า  
 
 

บัวขาว

คุณnanstor ยินดีด้วยกับตำแหน่งว่าที่คุณแม่คนใหม่ ถามว่าทำงาน เรียน กับเลี้ยงลูก อันไหนเหนื่อยที่สุดสำหรับเรา ตอบได้เลยว่า เลี้ยงลูก แต่ก็เลี้ยงแล้วก็มีความสุข เห็นเขาโตขึ้นทุกวัน จากที่ขาดเราแล้วจะอยู่ไม่ได้เลย ต้องดดูแต่นมเราตลอด จนวันนี้ วิ่งกัน ลิ่ว ลิ่ว ลิ่ว ฟังว่าเราพูดอะไร ก๊อปเรามาทุกอย่าง คุณกันจ่อเลยสองคน แกล้งกันบ้าง ถามหากันบ้าง เล่นกันดีบ้าง มีหมดทุกอย่าง ลูกคนโตปีหน้าก็จะได้เข้า คิดเดนการ์เทน แล้ว คนเล็กก็ผ้าอ้อมไม่มีแล้ว ภูมิใจนะทำมาได้ถึงขนาดนี้ (โดยสองมือแม่นี้ที่สร้างลูก ลูก )  ที่นี่เขาจะ Muttersberatung (ให้คำปรึกษาคุณแม่คนใหม่ หาข้อมูลได้จากเกมายเดที่อาศัยอยู่หรือ จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น) ฟรีค่ะ เราลูกคนแรกก็พาไปนะ พาลูกไปวัดความสูง ชั่งน้ำหนัก มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเขาได้ เช่น เจ็บเต้านม ให้นมลูกอะไรอย่างไง อาหารเสริมให้เมื่อไร อย่างไงบ้าง ปรึกษาฟรีค่ะ มีทั่วประเทศ ดีนะค่ะ เราช่วงลูกคนแรกน้ำนมมาเยอะมากลูกตัวน้อยก็ดื่มไม่หมด เจ็บ ไข้ขึ้นเลยค่ะ โทรไปปรึกษา Mutterberatung เขามาเยี่ยมที่บ้านเลยค่ะ ดีมากเลย แม้แต่การพาลูกไปหมอหรืออะไร เขาแนะนำทุกอย่าง จำได้ว่าพอลูกครบเดือนก็ต้องรีบพาลูกไปฉีดยาวัคซีนที่หมอ อย่าไปช้า เพราะถ้าไปช้าเกินไปเกินลูกเกินเป็นโรคอะไรขึ้นมา เดี๋ยวบริษัทประกันจะไม่จ่ายขึ้นมาซะ หาว่าเป็นว่าความผิดของเราพาลูกไปหมอช้าเอง มันก็เป็นไปได้เหมือนกัน ทุกอย่างต้องหาข้อมูล ต้องระวังนะค่ะ ไม่งั้นเราก็จะเสียตังค์ หุ หุ
 
 ไปเช็คมาแล้วคุณ umm เข้าแล้ว หุ หุ ดีใจ อืมทำมันทุกอย่างแหละในครัว ทุกแฮมเบอร์เกอร์ จัดสลัด เช็คโต๊ะ เช็คพื้น เช็คส้วม ทุกอย่าง เตรียมของ ของอะไรขาดก็เอาใส่เตรียมไว้ ในครัวเราถ้าไม่มีลูกค้า ต้องเช็ดเรียบร้อยตลอดเวลา เพราะเป็นครัวเปิด ลูกค้าเข้ามาในร้านก็ต้องเห็น ของตกพื้นเก็บทันที ต้องทำงานให้ ดีและเร็ว เร็ว ลูกค้าเยอะ เยอะก็ดีอ่ะมีงานทำ สนุกดี  สิ้นเดือนมาเงินก็เข้าบัญชี ก็ดีอีก
 
 วันนี้ที่ร้านเบอเกอรี่ก็โทรมานัดให้ไป schnuppern อาทิตย์หน้าวันพุธ ถ้าได้ที่นี่ก็ดีมันใกล้บ้านดี แล้วก็ไม่ยุ่งยาก ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ สามชั่วโมงเช้ามืด ใส่ชุดไรไปทำงานก็ได้ เราก็แค่ตื่นนอนเช้า แต่งตัวเดินแค่แปดนาทีก็ถึงที่ทำงานหละ โทรศัพท์เป๋าตังค์ ก็ไม่ต้องเอา ไปแต่ตัวกับผ้ากันเปื้อนอีกผืน ง่ายดีและแน่นอน ทำงานสองคน ช่วยกันทำแซนวิช วันละ สามร้อยห้าสิบอันถึงห้าร้อยอัน จะหยุดพักผ่อนอะไรก็ปรึกษากันสองคน ก็เปลี่ยนกันไป แล้วเขารับเป็นพนักงานประจำไปเลย (อันนี้หมายถึงถ้าได้ทำนะ)  ถ้าได้งานที่นี่จริง จริง เราก็จะลดเวลางาน บริษัทแรกที่ทำอยู่ลง ทำเยอะก็ไม่ไหว สำคัญจริง จริง คือเรียนหนังสือให้ดี สอบให้ผ่าน เรื่องงานเรื่องเงิน เอาไว้รองลงมา ตอนนี้ที่เรียนอยู่ก็ถือว่าโอ เค ไม่ยากจนเกินไป คิดว่าน่าจะไปด้วยกันได้จนตลอดรอดฝั่ง แต่ก็นั่นแหละ ทุ่มเท ทุ่มเท ตั้งแต่เริ่มเรียนกับเริ่มทำงาน ลงทุนซื้อตั๋วรถไฟเป็นรายปีไว้แล้ว สามโซน ก็คุ้มค่า นั่งเกือบทุกวัน นั่งพาลูกไปเที่ยวด้วย  ไปschnuppern มาเป็นไงไว้มารายงานบรรยากาศต่อเป็นระย ระยะ

pall

สวัสดีค่ะทุกๆคน
 สวัสดีจ๊ะบัวขาว
 บัวขาวเก่งจังเลยโชคดีจริงๆที่มีงานให้ทดลองทำตลอดเวลา
 อ่านดูการทำงานแล้วน่าสนุกอย่างมากเลย
 ชอบงานเกี่ยวร้านเบอเกอรี่  
 ขอบคุณอย่างมากที่เข้ามาเล่าถ่ายทอดประสบการณ์แก่กัน
 คนอื่นๆที่กำลังหางานทำอย่างเพิ่งท้อแท้ใจนะคะ
 ถ้าเราไม่เลือกงานจะมีงานรอเราตลอดเวลา
 ขอเอาใจช่วยให้คนที่กำลังหางานทำได้งานตามความต้องการนะคะ
 เอาใจช่วยทุกๆคนค่ะ



บัวขาว

เงือก....เงือก.....มาแล้วค่ะ...เพิ่งค่อยฟื้นค่ะ สองวันที่ผ่านมาเหนื่อยค่ะ คืนวันจันทร์ดูรักทรนงค์ซะเกือบตีห้าค่ะ (แฟนละครทางอินเตอร์จะรู้กันดีว่า ดูแล้วจะหยุดมันยาก จนกว่าจะจบกันไปข้างหนึ่งค่ะ) ตื่นเช้ามาวันอังคารเจ็ดโมงเช้า แต่งตัวให้ลูกเตรียมไปเนอรเซอรี่ กลับเข้าไปนอนหลับต่อถึงเกือบสิบเอ็ดโมง ตื่นมาอาบน้ำกินข้าวอ่านหนังสือเรียน บ่ายสามกว่า กว่านั่งรถไฟไปทำงาน เจอผู้จัดการบอกว่าเขียนเวลาทำงานผิด ที่เขียนวันนี้ที่เราเห็น บ่ายสี่โมงถึงสามทุ่ม เขาบอกที่จริงมันควรจะเป็นหกโมงเย็นถึงปิดร้าน(ตีหนึ่ง ตีสองโน้นละนะ) มันก็ความผิดเขาอ่ะนะ เขาก็เลยถาม จะอยู่เลยหรือกลับบ้านก่อนและหกโมงเย็นค่อยมาใหม่ เราก็เลยเออ อยู่เลยก็ได้ค่ะ(กลับไปfor what กลับไปเดี๋ยวก็กลับมาอีกอยู่ดีเหนื่อยเปล่า) ก็เออทำงานไปเรื่อย เรื่อย บอกหัวหน้าโทษทีตีหนึ่งฉันต้องไปหละนะ พอดีตีสี่วันพุธมี schnupper หัวหน้าก็เอาเหรอ แล้วใครจะมาช่วยเช็คร้านเนี่ยะ (คือปิดร้านมันต้องช่วยกันเช็ดห้า หก คน ) เขาก็เลยเออ ไม่เป็นไรไปเถอะ (ก็เหลือที่เช็ดก็อีกไม่มากหรอก เริ่มเช็ดเริ่มเก็บไป ขายไปต้องแต่สี่ทุ่มแล้ว) ก็เออสามีมารับ(รถไฟหมด)กลับบ้านนอนหลับ อีกห้านาทีจะตีสี่ตื่นนอน เดินไปที่ร้านเบอเกอรี่ รอสักครู่เจ้าของคนสัมภาษณ์ก็มาเปิดประตู เข้ามาครัวข้างบนเงียบไม่มีคนสักคน เขาก็พาลงลิฟไป โอ้โห้ ทั้งหญิง ทั้งชาย ประมาณสิบกว่า ช่วยกันทำของหวาน ขนมปัง เขาก็พาเราไปหาคนที่ทำแซนวิช ก็พากันขึ้นไปทำแซนวิชครัวข้างบน ก็มีหัวหน้าอีกคนช่วยทำอยู่ พวกเขาProfional ตัดขนมปังทำแซนวิชนี่ฉับ ฉับ เร็วมากเลย แล้วก็ดีนะ (แบบว่าคนเขาทำมานานแล้วอ่ะเนอะ) ก็เริ่มทำกันตั้งแต่ตีสี่ ทำแชนวิชเสร็จก็ เตรียมของทำแซนวิชพรุ่งนี้ต่อ หัวหน้านั้นก็เป็นคนฝรั่งเศล สังเกตุได้ กำมองแบก พูดชัดมาก ภาษาเยอรมันพูดไม่เหมือนเจ้าของภาษาอ่ะ ลุงที่ทำแซนวิชเป็นคนโปรตุเกส ครัวทั้งมีแต่ฝรั่ง มีคนศรีลงกาอีกคนล้างจาน ผู้ชายอีกสองคนคนอีนเดียศรีลังกานี่แหละ มารับของ คนส่วนใหญ่ในครัวเป็นหนุ่มสาวชาวสวิสทั้งนั้น ที่เห็นเป็นต่างประเทศก็มีลุงที่ทำแซนวิชนี่กับ คนศรีลังกาที่ล้างจาน กับหัวหน้า(อาจเป็นสวิสฝั่งฝรั่งเศลก้ได้ ไม่มีเวลาสัมภาษณ์อ่ะ) พอทำอะไรทุกอย่างเสร็จ เจ็ดโมงครึ่งมั่ง เขาก็บอกให้เราไปที่ห้องสำนักงาน ลุงเจ้าของที่สัมภาษณ์ก็บอก ทางทีมงานตัดสินใจเลือกผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เขาก็ช่วยค่าเดินทาง ยี่สิบฟรัง เราก็รับมา เราก็ยิ้มไว้นะ เราก็ได้ไม่ได้มีค่าเท่ากัน เหมือนมาประกวดร้องเพลงอะไรอย่างไงอย่างงั้น(ก็ว่าไปนั้นอ่ะนะตามประสาคนชอบเมาท์ หุ หุ) เขาถามว่าจะเอาครัวกลับไปกินบ้านเปล่า เราก็คิดแป็บหนึ่ง(คิดว่าจะเอากี่อันดี) เราก็บอกว่าเอา เขาถ้าจะเอากี่อัน เราก็ห้าอันกำลังเหมาะ ก็เออ จากกันด้วยดีอ่ะ เราก็ยิ้มอ่ะ มีอะไรก็ยิ้มสู้ไว้ก่อน เราก็ทำได้นะ แต่คนอื่นที่คล่องกว่าก็ต้องได้งานไป รับคนเดียวอ่ะ เราก็ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร จริง จริง ค่าจ้างมีต่ำกว่า ที่เราทำที่แรกหน่อยหนึ่งด้วย แล้วก็เราก็ไม่ใช่ว่าจะสนใจงานด้านเบอเกอรี่อะไรเท่าไรหรอก แต่ที่สมัครไปเพราะเห็นว่ามันใกล้บ้านและเป็น เวลาที่เราสามารถทำได้ ก็เลยสมัคร ได้ไม่ได้มีค่าเท่ากัน ถ้าว่าเป็นประสบการณ์การ schnupper  ก็ยังได้ตังค์อีกยี่สิบฟรัง กับ ครัวซองอีกห้าอันอ่ะ หุ หุ ทุกอย่างมันก็มีทำได้และได้ โลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเจ๋ง อยู่คนเดียวซะเมื่อไร คนอื่นที่เก่ง ที่คล่องกว่าเราก็ยังมีอีกเยอะ ก็ต้องฝึกจิตใจด้วยในด้านการยอมรับความจริง กลับบ้านไม่โศกไม่เศร้าอะไรหรอก เอาครัวซองว่าไว้ในครัว พุ่งหัวนอนหลับเลย ก็บอกสามีว่าไม่ได้นะ ครัวซองอยู่ในครัวไปกินด้วย สามีบอกไม่ได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องตื่นเช้า แค่ทำที่แรกก็เต็มแล้ว เลี้ยงลูกดีดี เรียนดีดีแล้วกัน แล้วเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งรอเรากลับตอนเช้าด้วย เขาจะตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้เลย  วันนี้เวรกรรม ง่วงก็ง่วง ลูก ก็กวน (คนจะนอนอ่ะเนอะ ) ก็ได้พักบ้าง ตอนนี้ก็ค่อย ค่อยฟื้นแล้วหละค่ะ วันนี้ตอนเย็นไปเรียนต่อ ดีว่าอ่านเตรียมไว้แล้วค่ะ...ตอนนี้ก็พักก่อน .. (ไม่ค่อยจะพักสักเท่าไรค่ะ พักไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยอ่ะ) ไปพักต่อก่อนนะค่ะ :-)   หุ หุ