การทำเรื่องการนำบุตรที่เกิดกับแฟนคนไทยมาอยู่ที่สวิส ( Familliennachzug)

Previous topic - Next topic

Thanapa


nu_may

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ เมย์อยู่ Thurgau ค่ะ เมย์เดินเรื่องตั้งกะต้นปีแล้วล่ะค่ะ
สามเดือนแรกที่ยื่นเรื่องไป ไม่มีการตอบกลับค่ะ เลยโทรไปถาม เค้าบอกว่า เออ ขอโทษทีพอดีว่าเอกสารของคุณอยู่บนโต๊ะ ของพนักงานที่พึ่งจะลาออกไป โอ้ว แม่เจ้า สามเดือนที่ผ่านมา ไม่บอก ไม่กล่าวกันเลย เซ็งอย่างแรงค่ะ แล้วก็ต้องเริ่มต้นใหม่ที่กทม. แต่ก็เสียเวลาอีกหนึ่งเดือน ที่กทม.ค่ะ เพราะจ้างบริษัทเค้าทำให้ ตอนนี้เอกสารก็ส่งมาที่่นี่ได้เดือนกว่าแล้วค่ะ สามีบอกว่า เค้าจะหาหนทางทุกทางเพื่อไม่ให้ชาวต่างชาติอย่างเราเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะว่าไม่งั้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเยอะ อะไรประมาณเนี่ยค่ะ เมย์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เค้าให้ยื่นเอกสารประมาณว่า ทำไมต้องพาเด็กมาที่นี่ ประมาณว่าเราต้องเขียนบอกเค้า เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งค่ะ  ก็ลุ้นอยู่ค่ะว่าเค้าคงจะเห็นใจบ้าง แล้วที่สำคัญ ตอนนี้หลักฐานทางการเงินของเมย์ก็แน่น พอแล้วค่ะ พอดีตอนที่ส่งเอกสารไปนั้น มันเป็นเอกสารเก่า หวังว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้นค่ะ อยากกลับบ้านไปหาลูก ไปรับลูกมาอยู่ด้วยเต็มแก่แล้วล่ะค่ะ

Saranya B.

สวัสดีค่ะ ป้าพอล, คุณจิ๋ว,คุณเมย์ และเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคนค่ะ
   ปุ้มอยู่คันโทน Bern ค่ะ ซึ่งทีแรกปุ้มกับสามีก็ไปติดต่อที่ เกมายเด่ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้โทรไปที่ ต.ม ที่เบิร์นค่ะ ทางนั้นเลยบอกว่าต้องไปติดต่อเดินเรื่อง
จากที่กรุงเทพก่อน จากนั้นเอกสารทั้งหมดจะถูกส่งมาที่สวิส เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนค่ะ และถ้าโชคดีทุกอย่างเรียบร้อย ทางนี้ก็จะส่งจดหมายมาแจ้งให้ไปรับวีซ่าของลูกค่ะ  ..(ถ้าโชคดีนะคะ  ::)ทีแรกปุ้มก็เตรียมเอกสารแปลเสร็จเรีบยร้อบแล้วค่ะ ก็นึกว่าจะยื่นเรื่องที่นี่ก่อนได้ แต่กลับได้คำตอบว่าต้องกลับไปทำเรื่องที่
เมืองไทย ก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่อีกรอบค่ะ ก็ต้องรออีกสองเดือนค่ะกว่าจะกลับเมืองไทย ก็ตั้งใจว่าจะพาสามีไปด้วยค่ะเพราะเป็นช่วงฮอลิเดย์พอดีค่ะ  แล้วไม่ทราบว่าคุณจิ๋วจะกลับไปรับลูกอีกที ช่วง เม.ษ เลยหรือคะ น้องเพิ่ง 6 ขวบ  กำลังน่ารักเลย โอยเราเป็นแม่ ไม่ว่าลูกจะยังเล็กหรือโตแค่ไหน ให้ห่างลูกนานๆ ก็ไม่ไหวจริงๆนะคะ ปุ้มเองก็จะเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ  อีกไม่นานค่ะ คุณจิ๋วก็จะสมหวังแล้ว และสำหรับเพื่อนๆคนอื่นๆ ที่ยังไม่สมหวังก็ขอให้สู้ๆนะคะ สู้จนถึงที่สุดเลยค่ะ .. :)

    รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

    ปุ้มค่ะ

กิ๊ป

สวัสดีค่ะป้าพอล คุณเมย์ คุณจิ๋ว คุณปุ้มและทุกๆคนค่ะ

อย่างแรกขอเข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกๆคนได้รับข่าวดีเรื่องวีซ่าของเด็กๆด้วยนะค่ะ :) :)

ตอนที่กิ๊ปยื่นให้ลูกก็ลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะหลังจากยื่นไปประมาณ2-3อาทิตย์ก็ได้รับจดหมายจากตม.ที่เบิร์นค่ะเข้าให้เราตอบคำถามประมาณ3-4ข้อและให้แนบเอกสารเพิ่มเติมก็มีเอกสารการันตรีตัวเด็กและเอกสารเกี่ยวกับที่อยู่สัญญาเช่า/ชื่อบ้าน-อพาร์ทเม้นค่ะและเราก็ส่งไปค่ะก็มีเอกสารตอบจม.+เอกสารการันตรีเด็ก+สำเนาสัญญาชื้ออพาร์ทเม้นค่ะพอส่งไปแล้วก็ลุ้นและกังวลค่ะเรื่องที่กงวลก็คือเรื่องการัตรีเด็กเพราะเขาตั้งไว้ประมาณ30000ฟรั้งของรายจ่ายที่จะมาใช้ชีวิตที่สวิสค่ะและอีกอย่างคือว่าสามีมีลูกติดกับภรรยาเก่าเขา2คนต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูทุกเดือนจนลูกคนโตอายุครบ18ปีถึงจะหยุดจ่ายค่ะและยังต้องผ่อนบ้านอีกและกิ๊ปก็ยังไม่ได้ทำงานด้วยค่ะ....แต่ ณตอนนี้ลูกสาวก็มาอยู่ที่สวิสแล้วค่ะ :)การพิจรณาวีซ่าก็ขึ้นอยู่แต่ละคันโตนด้วยค่ะ ส่วนกิ๊บอยู่คันโตนเบิร์นค่ะ.

ยังก็ขอให้คุณแม่ทุกคนได้อยู่กับลูกๆกันเร็วๆนะค่ะ สู้ๆๆๆๆๆเพื่อลูกค่ะ :) :) :)

Saranya B.

สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคนค่ะ
ปุ้มอยากจะขอรบกวนถามในรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเตรียมเอกสารในการยื่นวีซ่าลูกติดตามแม่น่ะค่ะ เพราะยังไม่แน่ใจในตัวเองว่าเข้าใจถูกต้องดีแล้วหรือยังค่ะ  ขอถามดังต่อไปนี้นะคะ
1)เอกสารที่เป็นสำเนานั้นต้องนำไปประทับรับรองก่อนที่จะนำไปแปล  ถูกต้องหรือเปล่าคะ
2)ในกรณีที่ลูกมีบัตรประชาชน (ของปุ้มลูกอายุ 15ค่ะ)จะต้องใช้สูติบัตรพร้อมกับบัตรประชาชน คู่กันในการยื่น หรือใช้อย่างใดอย่างหนึ่งคะ
3)ในส่วนเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
    3.1, แบบฟอร์มการขอวีซ่าD 3 ชุด
    3.2, รูปถ่าย ขนาด 3.5x4 cm 3  ใบ
    3.3, Passport+ Copy 2 แผ่น  
    3.4, สูติบัตรตัวจริง + Copy 2 แผ่น (บัตรประชาชนด้วยหรือไม่คะ)
 3.5, ทะเบียนบ้านตัวจริง + Copy 2 แผ่น
     3.6, เอกสารรับรองบุตร ( ป.ค 14)+ Copy 2 แผ่น (ของปุ้มมีใบนี้ค่ะ)
 3.7, เอกสารการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)+ Copy 2 แผ่น
เอกสารตามนี้ใช่หรือไม่คะ ละก็ส่วนที่จะต้องนำไปแปลเป็นภาษาท้องถิ่น (ภาษาเยอรมัน) ก็จะเป็นในส่วนของ ข้อ 3.3-3.7 ถุกต้องหรือไม่คะ
ต้องขอบอกว่ารายละเอียดเรื่องเอกสารนี้ปุ้มได้มาจากท่ีคุณกิ๊ปเขียนโพสต์ไว้ แต่อยากจะทราบว่าที่จะต้องนำไปแปลนั้นมีอะไรบ้างค่ะ

ต้องขอขอบคุณเว็ปป้าพอลอีกครั้ง และขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกคนด้วย ที่ทำให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ดีๆค่ะ  :) :) :)

ปุ้มค่ะ

กิ๊ป

สวัสดีค่ะทุกๆคน :)
@คุณปุ้ม:กิ๊บขอแนะนำว่าให้นำเอกสารที่เป็นภาษาไทยตามข้อ3.4-3.7ไปแปลเป็นภาษาเยอรมันก่อนพอแปลเสร็จแล้วก็นำเอกสารที่แปลและที่เป็นสำเนาไปรับรองที่กรมการกงศุสแจ้งวัฒนะพร้อมกันเลยค่ะจะได้ไมเสียเวลาค่ะและร้านแปลเอกสารก็ต้องเป็นรเานที่สถานทูตสวิสรับรองด้วยค่ะ
นี้เป็นลิ้งร้านแปลที่สถานทูตรับรองค่ะ >>> http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0283.File.tmp/Translation%20offices_en.pdf
****และสูติบัตรกับบัตรประชาชนของบุตรต้องใช้ทั้ง2อย่างค่ะ****
*****และอย่าลืมสำเนาเอกสารของตัวคุณปุ้มและของแฟนคุณปุ้มแนบไปด้วยนะค่ะ******
      1.สำเนาหนังสือเดินทาง+3ชุด(ของคุณปุ้ม)
      2.สำเนาหนังสือเดินทาง+3ชุด(ของแฟนคุณปุ้ม)
      3.สำเนาบัตรประชาชน+3ชุด(ของคุณปุ้ม)
      4.สำเนาทะเบียนสมรส+3ชุด(ถ้าจดที่ไทยก็ใบคร.2)ค่ะ
ทั้งหมดก็ตามนี้ค่ะ :) :) 

Saranya B.

สวัสดีค่ะป้าพอล,คุณกิ๊ป และเพื่อนๆสมาชิกทุกคนค่ะ
  ปุ้มต้องขอขอบคุณ คุณกิ๊ปมากๆนะคะ ที่ช่วยให้รายละเอียดแบบครบถ้วนจริงๆค่ะ ช่วงนี้ก็กำลังเตรียมเอกสารว่ายังขาดเหลืออะไรบ้าง
ส่วนอาทิตย์หน้าคิดว่าจะโทรถามที่ร้านแปลถึงรายละเอียดอีกทีค่ะ เพราะปุ้มอาจจะให้น้องที่เมืองไทยเป็นคนถือเอกสารไปให้ที่ร้านแปลและไม่ทราบว่าทางร้านสามารถนำเอกสารที่แปลเสร็จแล้วนำไปประทับรับรองให้ได้เลยหรือไม่คะ (ยังไงเด๊๋ยวปุ้มจะลองถามทางร้านดูอีกทีค่ะ)อยากให้เขาเตรียมไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่ปุ้มจะกลับ และพอปุ้มไปถึงก็จะได้โทรนัดสถานทูติ เพื่อยื่นเอกสารเลยค่ะ ว่าแต่เราจะบอกทางเจ้าหน้าที่ๆรับนัดหมายว่าเราต้องการจะยื่นขอวีซ่า ลูกติดตามแม่ ใช่หรือไม่คะ ก็ตั้งใจกันว่าจะเข้าไปยื่นด้วยกันกับสามีนี่ล่ะค่ะ (ค่อยอุ่นใจหน่อย  ;D เจ้าบ้านมาด้วยตัวเอง )ถ้ามีอะไรคืบหน้าหรือถ้าเผื่อตัวเองยังไม่เข้าใจอะไรอีก
ปุ้มจะเข้ามารบกวนถามอีกนะคะ  ขอบคุณเว็ปดีๆแบบนี้  ขอบคุณป้าพอล ขอบคุณคุณกิ๊ปและเพื่อนทุกๆคนอีกครั้งค่ะ

อากาศเริ่มเย็นแล้ว  รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ปุ้มค่ะ

Thanapa


สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม

อยากแนะนำให้คุณปุ้มโทรนัดคิวก่อนล่วงหน้าสักประมาณ 1 เดือนค่ะ ให้ญาติที่เมืองไทยโทรนัดให้ก่อนที่คุณปุ้มจะกลับเมืองไทยก็ได้ เพราะบางครั้งคิวอาจจะยาวไม่ว่างเป็นเดือนเลยก็มี จิ๋วมีน้องคนหนึ่งที่รู้จัก เค้าลงไปเมืองไทยเพื่อยื่นวีซ่าให้ลูก ปรากฎว่าโทรนัดแล้วคิวในเดือนนั้นไม่ว่างเลย น้องเค้าก็เลยต้องเอาเอกสารฝากไว้ให้ญาติยื่นแทน เพราะตัวเองต้องกลับมาสวิส 

ตอนโทรนัดก็เตรียมแค่ passport ค่ะ  เค้าจะถามข้อมูลในนั้น และให้รหัสนัดมาค่ะ

อย่าลืมอัพเดทความคืบหน้าให้ฟังนะค่ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ โชคคดีนะคะ

Thanapa


โทรนัดหมายในชื่อของลูก นะคะ ใช้ข้อมูลของลูกค่ะ

Saranya B.

สวัสดีค่ะป้าพอล,คุณจิ๋ว,คุณกิ๊บ และเพื่อนๆสมาชิกทุกคนค่ะ
   กลับมาทักทายกันนะคะ ต้องขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจิ๋ว จากทีแรกปุ้มก็กังวลเรื่องการเตรียมเอกสาร  แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี คือไม่เครียด ไม่กังวลแล้วค่ะ
เพราะได้เพื่อนๆช่วยให้ข้อมูล แต่พอมาตอนนี้ สถานการ์ณน้ำท่วมใน กทม กลับจะมาพาให้กังวลอีกครั้ง เพราะเอกสารก็ยังไม่ได้แปล แต่เรื่องนัดวันกับทางสถานทูติ
คงไม่มีปัญหาค่ะเพราะตั้งใจจะโทรนัดล่วงหน้าสัก เดือนครึ่งตอนนี้ปุ้ม ก็ได้แต่ภาวนาให้ กทม อย่าวิกฤต หนักไปกว่านี้ เพราะทีแรกตั้งใจจะให้น้องถือเอกสารเข้ามาแปลทิ้งไว้ให้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถเดินทางเข้า กทม ได้แล้วนี่ล่ะค่ะคือปัญหา เพราะบ้านปุ้มอยู่ที่โคราชค่ะ  ตอนนี้ก็ต้องวางแผนสำรองสุดท้ายกันล่ะค่ะว่าจะทำยังไง
คือปุ้มจะมีเวลาแค่หนึ่งห้าวันเท่านั้นเมื่อเดินทางถึงเมืองไทยและต้องนำเอกสารทั้งหมดไปแปลและประทับตรารับรอง เพราะนัดยื่นวีซ่าในวันจันทร์ถัดไปค่ะ
ก็ต้องมาลุ้นกันต่อล่ะค่ะว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว กทม ของไทยเราจะเป็นอย่างไร  ไม่ทราบว่า ทางบ้านของคุณจิ๋วและเพื่อนๆเป็นยังไงกันบ้างคะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะขอให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ   ส่วนเรื่องจะคืบหน้าไปแค่ไหนอย่างไรแล้วปุ้มจะกลับมาเล่าให้ป้าพอลและเพื่อนๆฟังอีกครั้งค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ 

ปุ้มค่ะ  :)

Thanapa

สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม

จิ๋วขอแชร์เพิ่มเติมสำหรับประสบการณ์ในการเตรียมเอกสารนะค่ะ เอกสารที่จิ๋วใช้ไปยื่นที่กรุงเทพฯ จิ๋วแปลและรับรองที่สถานกงสุลไทยที่บาเซิลค่ะ ก็จะมี 1.สูติบัตรลูก 2.ปค.14 3.ทะเบียนบ้านลูก 4.ใบเปลี่ยนชื่อของตัวเอง    จิ๋วแปลแค่ 4 รายการนี้ค่ะ ค่าแปลเอกสารฉบับละ 85 ฟรังค์ ส่งไปแปลทางไปรษณีย์ค่ะ เราไม่ต้องไปเอง

คุณปุ้มลองดูแล้วกันค่ะ ว่าจะสะดวกแปลที่นี่ หรือไปแปลที่กรุงเทพฯค่ะ

@ พูดถึงเรื่องน้ำท่วมแล้วก็น่าเห็นใจคนที่เดือนร้อนนะค่ะ บ้านจิ๋วอยู่ขอนแก่นค่ะ แถวบ้านจิ๋วไม่ท่วมแต่จะท่วมบ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำนะค่ะ 

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

Saranya B.

สวัสดดีอีกครั้งค่ะป้าพอล,คุณจิ๋วและเพื่อนๆทุกคน
คุณจิ๋วสามารถใช้เอกสารที่แปลจากที่นี่ไปยื่นที่เมืองไทยได้ด้วยหรือคะ  ถ้าได้คือของปุ้มก็มีแปลไว้แล้ว ปุ้มแปลและประทับตรารับรองจากทางสถานทูตไทยในเบิร์น
แปลเตรียมไว้เพราะทีแรกคิดว่าจะสามารถยื่นเรื่องที่สวิสได้เลยไงคะ แต่ก็ต้องกลับไปยื่นที่เมืองไทย แต่ก็เห็นมีบางเสียงว่าเอกสารที่แปลที่นี่ใช้ได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
อันนี้ก็ สับสน นิดหน่อยแล้วล่ะค่ะ  แต่ถ้าใช้ไปยื่นที่ไทยได้จริงๆปุ้มก็จะหมดกังวลไปได้เดี๋ยวนี้เลยล่ะค่ะ   :D :D แต่คุณจิ๋วไปยื่นมาเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยคะ  และก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ยคะ  ... ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่ช่วยแชร์ประสบการ์ณดีๆให้กันและกัน

   ปุ้มค่ะ

Thanapa

สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม

ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะจิ๋วก็ยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้วค่ะ  จิ๋วส่งเอกสารไปให้ป้าที่เมืองไทยยื่นให้ค่ะ จัดเป็นชุดให้เค้าเรียบร้อยเลย  จิ๋วจัดเอกสารแบบคำร้องที่กรอกแล้ว 3 ชุด แนบด้วยเอกสารต่างๆ ที่เป็นสำเนา (เอกสารที่เราแปลและประทับตราจากกงสุลที่นี่ก็ให้แนบทั้งภาษาไทยและภาษาเยอรมัน)  ส่วนเอกสารต้นฉบับทั้งหมดก็ใส่ซองไว้ต่างหาก เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดูค่ะ

รอบแรกที่จิ๋วยื่นไม่ได้แปลทะเบียนบ้านลูก (เนื่องจากตอนยื่นเรื่องที่สวิสเกมายเด่ะ ไม่เอาเอกสารนี่)  ทางกรุงเทพฯก็เลยไม่รับเอกสาร  ป้าจิ๋วมาจากต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยสะดวกวิ่งเรื่องแปลเอกสารและไปรับรองที่กงสุลในกรุงเทพฯ    จิ๋วก็เลยต้องแปลทะเบียนบ้านลูกที่สวิส แล้วส่งไปให้ป้า แล้วก็ไปยื่นเรื่องอีกครั้งค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร

** เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ จิ๋วแนบเอกสารใบพำนัก B ของจิ๋วไปด้วยค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ทราบว่าเรามาอยู่ที่สวิสแล้ว อีกอย่างเค้าจะได้เข้าใจว่าทำไมเราถึงแปลเอกสารที่สวิสค่ะ ** 

Saranya B.



  สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนที่น่ารักทุกๆคนนะคะ

กลับมาทักทายกันอีกครั้งหลังจากที่หายเงียบไปนาน ;D เพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้างคะสบายดีกันทุกคนหรือป่าวต้องเจอกับสภาพอากาศที่ติดลบอย่างที่ไม่เคยเป้นมานานมาก ยังไงแล้วก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ส่วนตัวปุ้มเองตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการรอคอยผลวีซ่าของลูกอยู่ค่ะ ตอนนี้ตัวเองก้ยังอยู่ที่เมืองไทย
หลังจากปุ้มได้ทำการยื่นเอกสารขอวีซ่าให้ลูกไปตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค 2011 จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็บอกให้รอประมาณ 2 เดือนค่ะ แต่หลังจากยื่นเอกสารไปได้ประมาณ 3 วีค ก็มีจดหมายจากทางคันโทน(คงจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะคะ)ส่งไปที่บ้าน ขอเอกสารเพิ่มเติม พร้อมทั้งคำถาม 4-5 ข้อ ให้เขียนตอบกลับไป แบบเดียวกับที่คุณกิ๊ปเคยให้ข้อมูลไว้เลยค่ะ (คันโทนเดียวกัน)เพียงแต่ลูกชายอายุ 15 ปี รายละเอียดในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ค่อนข้างเครียดเหมือนกันค่ะ พอส่งเอกสารทุกอย่างกลับไปในช่วงวีคที่ 5 จากนั้นประมาณ 3 วัน ทางคันโทนก็โทรมาขอเอกสารเพิ่มอีกหนึ่งใบค่ะ ทางแฟนก็ก็จัดการไปเรียบร้อย ตอนนี้ก็ได้แต่รอ รอ รอ แล้วก็รอค่ะ ไม่ทราบว่าเราจะทราบผลได้โดยทางเจ้าหน้าที่จะโทรแจ้งหรือจะส่งเป็นจดหมายมาหาเราคะ นี่ก็ตั้งใจว่าจะให้แฟนโทรไปถามวันศุกร์ที่ 17 ก.พ นี้ค่ะ เพราะจะครบกำหนดในการรอพอดี แล้วไม่ทราบว่าถ้าผลออกมาว่าวีซ่าผ่าน เราจะต้องนำพาสลูกไปรับวีซ่าที่สถานทูตใช้เวลาอีกกี่วันคะ และต้องนำตั๋วเครื่องบิน(เที่ยวเดียว)พร้อมประกันเดินทางซึ่งเราจะทำจากที่เมืองไทยไปก่อนแล้วค่อยไปทำใหม่ที่สวิสจะได้หรือป่าวคะ (หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย อยากพาลูกไปด้วยแล้วค่ะ) ยังไงต้องขอรบกวนเพื่อนๆที่มีประสบการ์ณช่วยให้ข้อมูลปุ้มด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ อากาศที่โคราช ร้อนนนนนมากกกกก บวกกับใจร้อนด้วยเลยจะอยู่ไม่ไหวแล้วค่ะเพื่อนๆ ... จะรอการอัฟเดทจากเพื่อนๆนะคะ 
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน

ปุ้ม..


Saranya B.


สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนๆสมาชิกทุกคน

     ทราบผลวีซ่าแล้วนะคะ วีซ่าของลูก ไม่ผ่านค่ะ เขาให้เหตุผลตามกฏหมายของสวิตฯเลยว่า ถ้าเด็กอายุเกิน 12 ปีต้องทำเรื่องภายใน 1 ปี หลังจากที่จดทะเบียน เหตุผลของเราที่พร้อมหรือไม่พร้อมในก่อนหน้านั้นเขาไม่สนใจ กฏหมายคือกฏหมาย .. ตอนนี้เสียใจมากค่ะเครียดมาก ยัง งง กับตัวเองอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไปดี ส่วนทางแฟนได้ติดต่อนัดหมายทนายเพื่อจะหาหนทางว่าจะทำอะไรทางไหนได้อีกบ้าง คงจะทราบความคืบหน้าวันพุธที่จะถึงนี้ค่ะ .. ไม่ทราบว่าเราสามารถยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวต่อได้เลยหรือไม่คะ ถ้าหลังจากที่วีซ่าติดตามที่ขอนั้นไม่ผ่าน หรือต้องใช้เวลาในการรอเพื่อยื่นใหม่นานเท่าไหร่คะ ปุ้มอยากขอรบกวนเพื่อนๆคนไหนที่มีประสบการ์ณคล้ายในกรณีเดียวกับปุ้ม ช่วยบอกปุ้มด้วยเถอะนะคะ ขอบคุณมากๆค่ :'( :'( :'(

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ... ปุ้ม