ถามพี่ๆน่ะค่ะ ว่าถ้าเราจะไปจดทะเบียนที่สวิสเนี่ย เราต้องขอวีซ่าแบบไหนคะ

Previous topic - Next topic

ผักบุ้ง

หรือว่าต้องขอวีซ่าแบบ เยี่ยนเยียนประเภท 3 เดือนไป แล้วไปทำเรื่องที่นู่น แต่ว่าจะทันไหมคะสำหรับระยะเวลา 3 เดือนสำหรับการทำเรื่องจดทะเบียน หรือว่าเราต้องขอวีซ่า คู่หมั้น (ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่าค่ะ)  หรือว่าขอวีซ่า ประเภท 6 เดือนคะ
 รบกวนพี่ๆผู้รู้ช่วยผักบุ้งหน่อยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0048 ห้อง lifestyle (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

สวัสดีค่ะคุณผักบุ้ง
 เดี๋ยวรอคนที่มีประสพการณ์ทำมาเรียบร้อยแล้ว
 หรือคนที่กำลังยื่นเรื่องทำเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้ามาช่วยตอบนะคะ
 มีหลายคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีค่ะ
 
 ขอบคุณสำหรับคำตอบของทกุๆคนค่ะ

ใบเตย




สวัสดีคะป้าและคุณผักบุ้ง  
 
 เตยขอตอบตามที่เตยเคยยื่นเรื่องนะคะ...ตอนนั้นเตยยื่นเรื่องขอวีซ่าคู่หมั้นคะ...
 
 โดยการขอวีซ่าคู่หมั้นเริ่มจาก คุณผักบุ้งเตรียมเอกสารดังนี้ คือ
 
 - ทะเบียนบ้าน
 - สูติบัตร
 - หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน (ใช้หนังสือเดินทางนะคะจะได้ไม่ต้องแปล)
 - หลักฐานการเปลี่ยนแปลงชื่อตัวและชื่อสกุล
 - ข้อมูลชื่อสกุลเดิมของมารดา (อันนี้จะมีในใบสูติบัตรอยู่แล้วไม่ต้องกังวลคะ)
 - หลักฐานแสดงสถานภาพ (โสด, หย่าร้าง, ม่าย) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
 - สำเนาทะเบียนการหย่า (กรณีหย่าร้าง)
 - มรณบัตรของคู่สมรสเดิมที่ถึงแก่กรรม (กรณีม่าย)
 - ใบรับรองความประพฤติ (อันนี้หากคุณอยู่กรุงเทฑฯ ไปขอได้ที่สถานีตำรวจแห่งชาตินะคะ...ที่ตั้งอยู่ระหว่างมาบุญครองกับเวิร์ดเทรด...ตรงข้ามวัดสระปทุมคะ) * ใบนี้ขอเป็นภาษาอังกฤษนะคะจะได้ไม่ต้องเสียค่าแปล
 
 แล้วเดินทางไปที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ...ไปครั้งแรกเจ้าหน้าที่ก็จะ
 ให้เอกสารเราอีกหนึ่งใบ คือ..."ใบคำร้องขอเตรียมการสมรส" เอกสารใบนี้เจ้าหน้าที่จะให้ส่งมาให้คุณว่าที่ฯ เขียนยื่นคำร้อง คุณผักบุ้งหากยื่นเรื่องขอวีซ่าคู่หมั้นก็อย่าลืมให้ทางคุณว่าที่ฯ แนบสำเนาหนังสือเดินทางของเค้าส่งกลับมาพร้อมใบคำร้องขอเตรียมการสมรสด้วยนะคะ
 
 และทางสถานฑูตก็จะให้เราไปแปลเอกสารโดยเจ้าหน้าที่จะถามว่าพื้นที่เขตที่คุณว่าที่ฯ ของคุณอาศัยอยู่ใช้ภาษาราชการภาษาใด....เยอรมัน อิตาลี่ หรือฝรั่งเศส แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้ Translation office มาคะทั้งแนะนำด้วยว่าคุณควรไปแปลเอกสารที่ไหน...เมื่อไหร่คุณผักบุ้งแปลและจัดการเอกสารเรียบร้อยก็ค่อยกลับไปยื่นเอกสารคะ
 
 เมื่อเราแปลเสร็จทุกอย่างเสร็จ...เอกสารเรียบร้อยทุกๆ อย่าง...ก็เดินทางไปยื่นเอกสารที่สถานฑูตฯ (ยื่นต้นฉบับเอกสารทั้งหมด พร้อมทั้งสำเนาที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้วและเอกสารที่แปลมา)
 
  เอกสารต่างๆ ที่เป็นภาษาไทย และฉบับแปลเป็นภาษาราชการของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ภาษาใดภาษาหนึ่ง (ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส หรืออิตาเลียน) นั้น****ไม่ต้องไปขอให้กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยรับรองนะคะ ....แปลเสร็จนำไปยื่นที่สถานฑูตฯ ได้เลย...หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารอีกครั้ง...หากไม่มีปัญหาอะไรเจ้าหน้าที่ก็จะให้จ่ายค่าธรรมเนียม และบอกให้รอคะ (ระยะการพิจารณาจะใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์)
 
 
 ส่วนลิ้งค์อันนี้คือ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ กรุงเทพฯ
 http://www.eda.admin.ch/bangkok_emb/e/home.html
 
 เวลาทำการ วันจันทร์ถึงวันศุกร์
 09.00 - 11.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)
 
 Telephone (Mo. - Th. 08.00 AM - 04.00 PM, Fr. 08.00 AM - 00.30 PM)
 ++ 66 2 254 45 96
 02 254 45 96 (from Thailand)
 
 Fax
 ++ 66 2 254 4804
 02 254 4804 (from Thailand)
 
 ...เตยตอบตามที่เตยเคยทำนะคะ...หวังว่าจะช่วยคุณผักบุ้งได้บ้าง
 และขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยนะคะ
 

นิด ( แม่ลูกหมูสามตัว )

ขอบคุณ คุณใบเตย ที่ช่วยตอบให้คุณผักบุ้งตามคำขอ โดยใช้ข้อมูลจากประสพการณ์ของตัวเองเลย ซึ่งเป็นคำตอบที่ดีและชัดเจน ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ผักบุ้ง

ขอบคุณมากนะคะคุณ เตย ข้อมูลละเอียดมากเลยค่ะ แต่ว่าผักบุ้งขอถามอีกนิดนึง ถ้าสมมุติว่าในใบสูติบัตรของผักบุ้งไม่ได้มีนามสกุลเดิมของมารดาล่ะคะ คือว่าเห็นมีแต่ชื่อของมารดาน่ะค่ะ คาดว่าเจ้าหน้าที่คงจะลืมเขียนน่ะค่ะ แล้วจะมีปัญหาไหมคะ

AOM

สวัสดีค่ะ ขอช่วยป้าเพลากับพี่นิดตอบคำถามสักครั้งนะคะ จากประสบการณ์มีหลายคนบอกว่าทำวีซ่าคู่หมั้นจากเมืองไทยมาแต่งที่สวิสค่อนข้างยุ่งยากบางคนก็ผ่านบางคนก็ไม่ผ่านแล้วเจ้าหน้าที่ทางเมืองไทยค่อนข้างดุโดยเฉพาะตอนสัมภาษณ์แม้กระทั่งวีซ่าเยี่ยมญาติยังยิงซะหลายคำถามเลยแฟนก็เลยไปถามที่ GEMEINHAUS ในเขตที่อยู่เขาก็บอกให้ถือวีซ่าเยี่ยมญาติมาพร้อมกับเตรียมเอกสารมาแต่งงานที่สวิสให้พร้อมจะง่ายกว่าขอวีซ่าคู่หมั้นมาค่ะ อ้อมเองก็เตรียมเอกสารที่ใช้ยื่นแต่งงานมาจากเมืองไทยแล้วส่งเอกสารที่จะต้องแปลไปให้สถานฑูตไทยใน BASEL แปลและรับรองให้ราคาฉบับละ 85 CHF ค่ะ จากนั้นอ้อมกับแฟนก็พากันไปยื่นขอแต่งงานโดยยื่นก่อนวีซ่าหมดอาทิตย์กว่าๆเองค่ะแต่ด้วยวีซ่าจะหมดก่อนกำหนดแต่งงานแฟนก็เลยไปขออยู่ต่อให้โดยตอนนี้ถือพาส L 3 เดือนค่ะ โดยเหตุผลที่ถูกระบุในพาสเพื่ออยู๋รอการแต่งงานในวันที่ 5 พฤษภาที่จะถึงนี้ค่ะ อ้อมว่าวิธีนี้ดีนะคะเพราะอ้อมถือวีซ่าเยี่ยมญาติมาก่อนเสร็จแล้วทดลองอยู่ด้วยกันมีเวลาศึกษากันอีกนิดหน่อยก่อนแต่งงาน แต่ทางสถานฑูตสวิสในไทยเค้าไม่ให้ถือวีซ่าเยี่ยมญาติมาแต่งงานค่ะ แต่ทางสวิสไม่มีปัญหา ถ้าป้าเพลากับพี่นิดจำได้ก่อนอ้อมจะมาสวิสเคยสงสัยสับสนว่าจะทำยังไงดีกันแน่ สำหรับตอนนี้ผ่านฉลุยทุกอย่าง วันนี้ก็เพิ่งไปเลือกแหวนมาค่ะ ใกล้ถึงวันแต่งงานเข้าไปทุกทีตื่นเต้นจังค่ะจะมีสามีแล้ว 5555

pall

สวัสดีค่ะคุณใบเตย
 ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบที่แน่นและละเอียดมากค่ะ
 ดีใจมากจริงๆที่เข้ามาช่วยให้ข้อมูลกันขอบคุณอีกครั้งค่ะ

pall

สวัสดีจ๊ะอ้อม
 จำได้จ้า..ถ้าเป็นน้องอ้อมเชียงใหม่จำได้ไม่ลืม
 ดีใจจริงๆ...ป้ายังคิดเลยว่าหายเงียบไป
 อย่างไรก็ตามป้าขอให้ชีวิตใหม่ของอ้อมจงมีความสุขมากๆนะจ๊ะ
 ถ้าทุกอย่างผ่านเรียบร้อยมาช่วยเขียนเล่า
 และประสบการณ์การขอวีซ่าแบบอ้อม
 และการแต่งงานสำหรับคนไทยที่ยังไม่คอ่ยเข้าใจ
 ถือว่าเป็นการให้ประสบการณ์ความรู้แก่คนที่ประสงค์
 จะมาแต่งงานที่นี่
 
 เป็นไงบ้างงานไปถึงไหนแล้วและที่มาถามได้พยานแต่งงานหรือยังจ๊ะ

ใบเตย




สวัสดีทุกๆ คนคะ...
 
 คุณผักบุ้งเรื่องข้อมูลชื่อสกุลเดิมของมารดาไม่ต้องกังวลมากหรอกคะ...จำได้เมื่อก่อนเตยก็ยังงงเลยว่า...เอกสารที่ว่านี่ยังไงกันต้องใช้เอกสารอะไรหนอ เตยเลยโทรฯ ไปถามเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทางไปยื่นเอกสารครั้งแรก (ตอนนั้นหลักฐานแสดงสถานภาพโสดยังไม่มีเลย)....เจ้าหน้าที่ก็บอกให้มายื่นเอกสารได้เลยเอกสารไหนขาดเหลือทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งเองว่าให้หาเอกสารใดมาแทนคะ...
 
 อ้อ...ลืมบอกคุณผักบุ้ง...วันแรกที่ไปยื่นเอกสารเจ้าหน้าที่จะให้ใบคำร้องขอวีซ่ามาในวันนั้นเลย คือ...กรอกเสร็จเลยในวันนั้น แต่เตยเห็นมีพี่ข้างๆ เค้าไม่มีปากกาไม่ได้กรอกเสร็จในวันนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้เอากลับไปกรอกที่บ้านคือมายื่นในครั้งต่อไป
 
 และเรื่องที่สองที่ลืมบอกคือ...เตยตอนนั้นไม่มีสัมภาษณ์นะคะ มีแค่เอกสารอีกหนึ่งใบที่เจ้าหน้าที่กรอกให้เป็นเอกสารการเลือกใช้นามสกุล...คุณผักบุ้งเลือกได้ที่เมืองไทยเลยคือจะใช้นามสกุลเดิม นามสกุลคุณว่าที่ฯ หรือทั้งสอง เช่น
 
 นามสกุลเดิม  Phisanbadin
 
 นามสกุลคุณว่าที่ฯ Nembrini
 
 ทั้งสอง  Phisanbadin -  Nembrini
 
 เพราะเมื่อคุณผักบุ้งมาถึงที่นี่คุณว่าที่ฯ ไปติดต่อทางเขตก็จะมีจดหมายแจ้ง สามารถเลือกวันจดทะเบียนสมรสได้พร้อมชื่อพยาน(เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว) เมื่อพร้อมใจเลือกวันไหน วันที่ไปจดทะเบียนสมรส...คุณก็จะได้ใบทะเบียนสมรสที่คุณเลือกนามสกุลไว้คะ..  
 
 คุณผักบุ้งไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่ดุหรอกนะคะ....สงสัยเรื่องเอกสารต่างๆ ถามเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจไปเลย ต้องบอกเลยไม่ทราบว่าท่านอื่นเจอมายังไงกันบ้างนะคะแต่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ กรุงเทพฯ  ใจดีจริงๆ ยิ่งฝั่งเจ้าที่ที่งานทะเบียนบอกแนะนำทุกอย่างคะ(แยกเป็นฝั่งทะเบียนและวีซ่านะคะ)....แต่เมื่อครั้งเตยไปรับวีซ่าเจ้าหน้าที่บอกให้มารับในวันถัดไปคือเค้าจะเก็บหนังสือเดินทางเราไว้เพื่อติดแสตมป์วีซ่าแต่เหตุที่เตยต้องเดินทางต่างประเทศในวันถัดไป...เจ้าหน้าเลยบอกให้มารับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าในวันนั้นเลย ดังนั้นในความรู้สึกเตยคือใจดีไม่แพ้กัน
 
 ระยะเวลาที่เตยใช้ทั้งหมดในการขอวีซ่าคู่หมั้นครั้งนั้น เริ่มนับจากไปยื่นเรื่องครั้งแรก จนถึงได้รับวีซ่าใช้เวลาทั้งหมด 9 สัปดาห์ถ้วนคะ...เตยว่าคุณผักบุ้งอาจจะเร็วกว่าเตยด้วยซ้ำไปเพราะตอนนั้นแปลนะเร็วมากแต่เตยทำงานออฟฟิตกว่าจะลางานเพื่อไปขอใบรับรองโสดได้นี่ล่าช้าไปสามสี่วันเลย
 
 พูดถึงเรื่องแปล...ราคาค่าแปลเอกสาร ขึ้นอยู่กับภาษาที่แปลนะคะ(ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส หรืออิตาเลียน) ตกราคาประมาณ 800 - 1200 บาทต่อแผ่นคะ
 
 หวังว่าจะช่วยคุณผักบุ้งได้บ้างนะคะ....ยินดีด้วยจริงๆ คะ
 
 
 

นิด ( แม่ลูกหมูสามตัว )

ขอบคุณน้องอ้อม และ คุณใบเตย อีกครั้งดีใจมากๆที่เห็นคนที่มีประสบการณ์ นำสิ่งที่ตัวเองได้สัมผัสมาตอบข้อสงสัยช่วยเหลือไขข้อสงสัยทางข้อมูลแก่เพื่อนๆกันแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร จะตอบให้มากให้น้อย ก็ถือว่า มีน้ำใจมาก
 
 น้องอ้อม  จำได้แน่นอนค่ะ ยังนึกอยู่ว่าเป็นอนย่างไรบ้างหายไปเลย แต่เข้าใจว่าคงกำลังยุ่งกับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว
 ขอแสดงความยินดี ขอให้มีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตคู่มากๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ

สวัสดีค่ะ จากประสบการณ์นั้นทำเหมือนคุณ ใบเตยค่ะ
 แต่แนะนำให้ทำอย่างน้องอ้อมเพราะถูกกว่าค่ะ
 วีซ่าแต่งงานตั้งเจ็ด แปดพัน วีซ่าเยี่ยมญาติ แค่พันหน่อย ๆ
 ต่างกันมาก
 จะต่างกันแค่ วีซ่าแต่งงาน เอกสารจะพร้อมรอ
 เรากำหนดวันแต่ง เมื่อเราไปถึง
 แต่วีซ่าเยี่ยมญาติ เราจะต้องมาเตรียมเอกสารก่อน
 แต่ก็ไม่ยุ่งอยากอะไร
 ยังไงก็อวยพรให้สำเร็จ ลุล่วงด้วยดี ทำอะไรให้ราบรื่น
 นะค๊ะ

อ้อม

จริงอย่างที่คุณสวัสดีค่ะบอกว่าวิธีแบบถือวีซ่าเยี่ยมญาติแล้วเตรียมเอกสารการแต่งงานมาทำเรื่องที่สวิสค่าใช้จ่ายจะประหยัดกว่า
 ขอวีซ่าเตรียมตัวแต่งงานมาจากเมืองไทยค่ะ และระยะเวลาที่จะต้องรอวีซ่าก็ต่างกันค่ะ อ้อมรอวีซ่าเยี่ยมญาติใช้เวลาหลังจากไปติดต่อยื่นเรื่่องที่สถานฑูตสวิสที่กทม.ส่งเอกสารให้แฟนดำเนินการที่สวิสรวมแล้วอาทิตย์
 กว่าๆเองค่ะเสียค่าธรรมเนียม 1,800 บาทค่ะ แต่วีซ่าแต่งงานเคยทราบล่าสุดประมาณ 7พันมั้งคะถ้าจำไม่ผิดและใช้เวลาดำเนิน
 การประมาณ 2 เดือนค่ะ ก็ลองศึกษาพิจารณาอีกทีละกันนะคะวิธีไหนที่คุณผักบุ้งและแฟนสะดวก เป็นกำลังใจค่ะ เพราะเพิ่งผ่าน
 อาการสับสนนี้มาหมาดๆเหมือนกัน เอาใจช่วยค่ะ

เกตุ

ลองให้แฟนไปถามที่เเขตเพื่อความชัวร์ด้วยนะคะ เพราะบางเขตเขาไม่รับวีซ่าท่องเที่ยวอ่ะค่ะ เพื่อนเคยเจอเขาให้ยื่นแต่งงานไว้ได้ โดยที่
 ยื่นเอกสารไว้รอ แล้วให้กลับไปเมืองไทยไปทำวีซ่าแต่งงานมาให้ถูก
 ต้อง พอมาถึงก็แต่งงานได้เลยอ่ะค่ะ ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ

แพรว

ดิฉันคิดเหมือนคุณเกตุนะคะ...ยังไงให้แฟนคุณถามให้แน่ใจดีกว่าหากมาที่นี่ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว หรือ วีซ่าเยี่ยมญาติ มีเพื่อนที่รู้จักของเขตGrisons ต้องเดินทางกลับเมืองไทยไปยื่นวีซ่ามาใหม่อีกครั้งเหมือนเพื่อนคุณเกตุเลย...ส่วนที่ว่าถูกกว่านี่ในส่วนตัวดิฉันเลยที่สวิตฯ ไม่ถูกหรอกนะคะ....อีกอย่าง ถ้าคุณมาในวีซ่าคู่หมั้นเพื่อแต่งงานคุณซื้อตั๋วเครื่องเที่ยวเดียวนะ
 
 ตัดสินใจยังไงก็แล้วแต่...ขอให้โชคดีคะ

ผักบุ้ง

ขอบคุณทุกคำตอบมากเลยนะคะ เป็นข้อมูลที่ละเอียดมากเลยค่ะ