ผู้ชายสวิสส่วนใหญ่นิสัยเป็นอย่างไรค่ะ ????

Previous topic - Next topic

nat

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนค่ะเป็นสมาชิกได้ 2 วัน ตอนนี้อยู่เมืองไทย ชื่อ ณัฐ ค่ะ คบแฟนคนสวิสมาประมาณ 2 ปี
ย่างเข้าปีที่3 ปีแรกส่ง mailคุยกัน ไม่ได้ chatเพราะใช้ภาษาอังกฤษไม่คล่อง รู้จักกันโดยพี่สะใภ้(คนไทย)ของผู้ชายเป็นคนแนะนำ ตุลาคม ปีที่แล้วมาสวิส อยู่ประมาณ 3 อาทิตย์(สวิสเป็นประเทศที่สวยมากๆค่ะ,........)ปีแรกเขาส่งให้เรียนภาษา ปี 2 เลิกเรียนเพราะมีปัญหาเรื่องเวลาเรียนกับที่ทำงาน...เคยคุยกันเรื่องแต่งงานบ้างแต่ไม่จริงจังเพราะทางบ้านณัฐไม่อยากให้ไปอยู่ต่างประเทศ.... ในความรู้สึกเรารู้ว่าเรารักเขา รู้สึกว่าเขาเป็นคนเปิดเผย จริงใจ เวลาอยู่กับเขาไม่ต้องเสแสร้ง เป็นตัวของตัวเอง เรารู้เกี่ยวกับครอบครัวและญาติพี่น้องเขา เขาก็รู้จักครอบครัวและญาติพี่น้องเรา......
ฟังดูดีไม่น่ามีปัญหาไช่ใหมคะแต่.......
   เมื่อ เมษายน ที่ผ่านมา อยู่ดีดีก็มีผู้หญิงไทยโทรมาบอกว่าแฟนเราอยู่เมืองไทยและตอนนี้อยู่ด้วยกัน.....คงไม่ต้องให้บอกความรู้สึกนะคะ....คือ shock มากๆค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะโดนฝรั่งหลอกได้ขนาดนี้....แล้วหลังจากนั้น 1 วันเขาก็มาหาเรา
และบอกว่าขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอโอกาสอีกครั้งได้ใหม?...เขาขอแต่งงานปลายปีนี้ได้ใหม?....
   หลังจากเขากลับไปแล้ว 1 อาทิตย์ ณัฐก็ mail ไปบอกเลิกเขา เขาถามว่ายังรักเขาอยู่ใหม?..เราก็บอกรักนะ
(ไม่รู้ใช้อะไรคิด) แต่รับพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ จริงๆ.... เขาไม่ยอมเลิก และ โทรมาง้อเกือบทุกวัน ส่งดอกไม้มาให้ 2 ครั้ง.
นี้ก็ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ แล้ว....ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวใจอ่อน แต่ก็ไม่อยากเสียใจอีก...

   ถ้าพี่ๆเพื่อนๆ มีคำแนะนำดีๆ ก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ เอาแบบตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อมค่ะ.....ขอบคุณค่ะ





the sun

สวัสดีค่ะคุณณัฐ (กะว่าจะเข้ามาอ่านเฉยๆ และไม่ตอบกระทู้ แต่อดไม่ได้ค่ะ ต้องได้ตอบ)
   อ่านกระทู้ของคุณแล้วเห็นใจคุณนะคะผู้ชายร้อยแปดพันประการ มีดีมีเลว ไม่ต่างกับไทยเรานะคะ พร้อมกันนั้นก้อมีความรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวค่ะ ฐานะสะใภ้สวิสนะคะที่คิดแบบนี้ ดิฉันขอไม่อ้อมค้อมเหมือนที่คุณบอกเลยนะคะว่า เลิกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กับผู้ชายคนนี้ก่อนที่จะสร้างบ้านแบบไม่ได้คิดแปลนไม่ได้เลือกแบบ เสียใจตอนอยู่ภายหลัง น้ำจะรั่วลงหลังคาคุณตลอด  ถึงขนาดคบกันมาได้ จะ 3 ปี ยังกล้าให้เบอร์โทรศํพท์คุณกับผู้หญิงคนอื่นโทรมาหาคุณเพือนเยาะเย้ยเหรอคะว่าอยู่ด้วยกันตอนนั้น  ถ้าผู้ชายไม่ให้เบอร์ ดิฉันขอถามอีกนิดหนึ่งว่าใครเป็นคนให้เบอร์คุณกับผู้หญิงคนนั้น เรียกว่าไม่รักแล้วยังไม่ให้เกียรติเราอีก ณ ตอนนั้นเค้าคงคิดว่า จับปลาตัวที่สองอยู่ จะเลือกปลาตัวนั้นแล้ว เพราะท่าจะอวบเนื้อเต็มอร่อยดี กินอร่อย แต่รสชาติกินไปแล้วคงจะขมมากๆ เลยอยากจะคิดกลับมากินปลาตัวเดิม นั้นก้อเห็นแก่ตัวนะคะ สำหรับผู้ชายคนนี้ บอกตรงๆ คุณณัฐอาจจะทำใจลำบากนะคะ สำหรับตัดเค้าออกจากใจ แต่ก้อดีกว่าคุณจะมานั่งเป็นวัวเจ็บหลังต่อไปนะคะ(เจ็บหลังแต่เราไม่ได้ทำนะ แต่ระแวงวันยังค่ำ) หรือคิดว่าเขาจะทำไรให้คุณอีก ภายหลังไหม
  ยังไงก้อคิดให้ดีนะคะ ให้คิดเองอย่าฟังสิ่งรอบข้างให้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้น อะไรหลายๆ อย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณเองค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
บายๆๆ

Fon2008

สวัสดีค่ะคุณณัฐ อ่านกระทู้ของคุณแล้วต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ในฐานะที่ฝนก็มีแฟนเป็นคนสวิตฯ แต่ก็คงตอบไม่ได้ว่าผู้ชายสวิตฯส่วนใหญ่เป็นคนอย่างไร ต่างคนก็คงต่างนิสัยใจคอค่ะ  ส่วนกรณีแฟนของคุณณัฐฝนขอแสดงความคิดเห็นนะคะว่าผู้ชายคนนี้
ไม่น่าคบอีกต่อไปค่ะ กัับระยะเวลาที่คบกันมาก็ไม่ใช่น้อยเลยแต่เค้ากลับไม่นึกถึงความรักของคุณ
ที่มีต่อเค้าสักนิดกล้าที่จะมาเมืองไทยโดยที่ไม่บอกคุณแถมยังไปลักลอบพบกับหญิงคนอื่นอีกต่างหาก แค่นี้ก็พอจะทำให้รู้นิสัยของเค้าแล้วค่ะว่าเค้ายังอยากที่จะเลือกต่อไปอยู่เรื่อยๆ  แล้วการที่เค้ามายอมรับผิดทุกอย่างและขอคุณแต่งงานปลายปีนี้ก็ไม่รู้ว่ามาจากใจจริงของเค้าหรือเปล่า หรือเพราะต้องการให้คุณอภัยให้เค้าในตอนนี้เท่านั้นเองเพราะอาจจะไม่เหลือใครแล้ว แต่หากคุณคิดจะอภัยให้เค้าและคิดจะแต่งงานกับเค้าตอนปลายปีนี้คุณคงต้องคิดให้ดีๆนะคะ ขนาดเวลาที่ผ่านมายังพิสูจน์เค้าไม่ได้เลยแล้วหากแต่งงานกันไปแล้วเค้ามาทำพฤติกรรมแบบนี้อีกคุณจะ
ต้องเจอความลำบากตามมาแน่นอนค่ะ เพราะหากย้ายไปอยู่กับเค้ามันต้องห่างบ้านห่างเมือง
และเค้าก็ควรที่จะต้องเป็นที่พึ่งให้เราได้ คือถ้าเป็นฝนฝนก็คงตัดสินใจเลิกอ่ะค่ะเพราะคิดว่าผู้ชายดีๆใน
โลกนี้ี้น่าจะยังมีรอเราอยู่อีกแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณณัฐจะตัดสินใจอย่างไรก็คงขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง
นะคะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะและขอให้การตัดสินใจของคุณก่อให้เกิดผลดีกับตัวคุณค่ะและขออภัยด้วย
นะคะหากคอมเม้นต์ตรงไปหน่อย(เอาแบบไม่อ้อมค้อมอย่างที่คุณณัฐบอกน่ะค่ะ)

Api

สวัสดีค่ะ คุณ Nat

ถือว่าคุณทำบุญมาดี ที่เห็นพฤติกรรมเค้าก่อนที่จะใช้ชีวิตแต่งงานแต่นั่นก็ไม่ใช่คำตอบหรอกค่ะ การที่คุณคบกับแฟน 2 ปีแล้ว เค้ายังคงคบเผื่อเลือกอีกและคงไม่ใช่นิสัยของผู้ชายสวิสทุกคนหรอกค่ะ ผู้ชายไทยส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะ ว่าจริงๆ แล้วผู้ชายหรือผู้หญิงที่ซื่อสัตย์เวลาคบใคร เค้าจะคบหนึ่งคน หนึ่งเวลา ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิก แล้วก็ไปเริ่มคบกับคนใหม่  แต่ถ้าคุณ Nat รักแฟนคุณและสามารถทำใจยอมรับความไม่ซื่อสัตย์ของแฟนคุณได้ ก็ให้อภัยเค้าเถอะค่ะ ความรักและชีวิตคู่มันเป็นศาสตร์และศิลป์ที่เราต้องเรียนรู้เอง ความรู้สึกของคุณ จะเป็นคำตอบให้ตัวคุณเอง  เมื่อก่อนตอน Apiยังไม่ได้แต่งงานเวลาเพื่อนมีปัญหาชีวิตคู่ Apiจะใช้ความรู้สึกตัวเองตัดสินใจแทนเพื่อน พอเห็นเพื่อนร้องไห้ก็บอกไปว่า ถ้ามันไม่ดีก็เลิกเถอะ พอเราได้มีชีวิตคู่เอง มันพูดยาก ไม่มีใครดีพร้อมไปเสียทุกเรื่อง บางครั้งบางสถานการณ์จะเป็นแบบทดสอบจิตใจคนสองคนว่าอดทน และรักกันมากแค่ใหน เหมือนแบบทดสอบนี้ไงค่ะ คุณมีคำตอบอยู่แล้ว Api เชื่อ และขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

Api  :D

nat

   สวัสดีค่ะคุณตะวัน,คุณฝน และคุณ Api ขอบคุณนะค่ะสำหรับข้อคิดดีๆและกำลังใจ
ณัฐขอตอบคุณตะวันก่อนนะค่ะ....ณัฐถามผู้หญิงคนที่โทรหาณัฐว่าได้เบอร์โทรมาอย่างไร
เขาบอกว่าเขาขโมยจากมือถือของผู้ชาย และเห็นข้อความต่างๆที่ณัฐส่งไป....เชื่อมั้ยค่ะว่า
2 ปีกว่าที่คบกันณัฐไม่เคย check มือถือแฟนเลย (ไม่รู้ว่าบ้า หรือโง่)ไม่รู้ว่าคนอื่นๆเป็นอย่างไร...รู้มาว่า คนสวิส เขาจะถือเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม..ไม่ทราบว่าจริงหรือป่าว ?
   พอณัฐเจอเค้าวันถัดมา...ณัฐก็ถามเขาว่า..ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้? รู้จักกับผู้หญิงคนนั้นนานแค่ใหน? แล้วรักผู้หญิงคนนั้นมั้ย?..........................
ส่วนคำตอบนั้นไม่รู้เชื่อได้หรือป่าว ช่วยพิจารณาหน่อยนะค่ะ ...เขารู้จักกันมา ประมาณ
6-7 เดือนใน web thaikissen (อะไรประมาณนี้ ไม่รู้ถูกหรือป่าว), เขาบอกว่าที่ทำแบบนี้เเพราะเขาอยากจะเลิกกับณัฐ เขาว่าเขาพยายามเลิกอยู่ 2-3 ครั้ง(รวมครั้งนี้ด้วย)
แต่ทำไม่สำเร็จเพราะเขารักณัฐ...ณัฐบอกว่า...ไปใหนไม่รอดเพราะไม่มีใครเอาละซิ!
เขาบอกว่า...คนอย่างเขาไม่ทนอยู่ตั้ง 2 ปีกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักหรอก,เขาบอกว่า...เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นแต่เขาอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับผู้หญิงไทย,ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียเราไป(เห็นแก่ตัวสุดๆ?)
   แต่ณัฐก็กลับมาดูตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากเลิกกับเรา....เขาบอกว่าณัฐเห็นแก่เงิน...รักเงินของเขามากกว่าตัวเขา.....?????
   ถ้าเขียนมากไป จะเบื่ออ่านกันมั้ยค่ะ ? มันไม่ใช่นิยายแต่มันเป็นเรื่องจริง
ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องขี้ผง ,ไร้สาระ สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว แต่สำหรับณัฐแล้วนี้คือบทเรียนราคาแพงในชีวิต ในมหาลัยไม่มีสอน อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว บางครั้งก็นึกอายตัวเอง
นะคะที่เขียนมา แต่ณัฐคิดว่าเป็นโอกาศดีที่เราได้เปิดตัวเองมองดูในมุมของคนอื่นๆบ้าง คนเรามักมองในมุมของตัวเองเสมอ ณัฐก็เป็นหนึ่งในนั้นคะ.แล้วณัฐจะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณจริงๆสำหรับทุกคำแนะนำและกำลังใจค่ะ.
   ps.ครอบครัวณัฐไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลย











nadaa

สวัสดีค่ะK.Nat

จากเรื่องราวที่คุณเล่ามาทั้งหมด ดิฉันเชื่อว่าผู้ชายคนนี้
เหมือนว่าจะไม่จริงใจกับคุณเลย
อย่าโกรธนะคะ จากที่อ่านผ่านความรู้สึกของคุณ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งโมโหว่า "ทำไมถึงเป็นอย่างงี้นะ"
เรื่องที่เค้าทำผิด และตอนนี้เขายอมรับผิดแล้ว
ถ้าคุณให้อภัยได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ คุณก็ต้องทำ
เพราะมันเกิดขึ้นไปแล้ว และตอนนี้จะกลับไปไม่ให้เขามีอะไรกัน
ก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน.. :'(
ตอนนี้ที่คุณมีความกังวลอยู่ เพราะคุณยังรักเขา
---ถามว่า
เหตุผลอะไร ที่เขาอยากจะเลิกกับเราหลายครั้ง
เราทำผิดอะไร เรามีคนใหม่หรือ?ก็ไม่ใช่
อีกอย่างนะ แต่ก่อนเคยพูดเรื่องแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้จริงใจอะไร
แต่พอตัวเองมีทำผิด กลับจะรีบแต่งงานเลยภายในปีนี้.. >:(
ส่วนเรื่องการเช็คโทรศัพท์แฟน เบอร์โทรเข้า-ออก เนี่ย
โดยส่วนตัวนะคะ เมื่อคนเรารักกัน เราต้องไว้ใจกันค่ะ
เขาสามารถดูหรือจะเช็คปล่อยเขา เราก็มีสิทธิ์เหมือนกันค่ะ
เพราะโทรศัพท์เนี่ย ของส่วนตัวที่สุดและก็สำคัญด้วย
อย่าละเลยค่ะ คุณจะรู้ได้ก็เพราะมันนี่แหล่ะ
แต่ก็อย่างว่านะคะ ทำแต่พองาม
นาดาเองยังขอ password เมล์แอดเดรสจากเขาเลยค่ะ

ดิฉันเห็นด้วยกับทุกความเห็นของทุกคนและอยากให้ K.Nat
คิดดีๆนะคะ ดิฉันให้ความเห็นได้เพียงแต่รับฟังและให้ความเห็นได้ไม่มาก
แต่คุณจะเข้าใจ ทั้งความคิดและความรู้สึกที่คุณมีให้เขา
ตั้งแต่คุณเริ่มคบกันมาจนถึงวันนี้
คำตอบของหัวใจคุณสำคัญที่สุด ค่ะ Good Luck..นะคะ :)

NA-SP

หวัดดีค่ะ
พอเห็นข้อความที่โพสต์ สำหรับคำถาม และคำตอบของแต่ละคนแล้ว รู้สึกตะหงิด หงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ในเวปไซด์นั้น เขาเรียกว่า เวปไซด์หาคู่ ที่ชื่อ Thaikisses.com (หรือเรียกง่ายๆ ว่าเวป search หาเมีย หรือ หาสามี หาคู่ควง)
มีคนที่เขียนหรือโพสต์ ต่างๆนานา นับประการ สุดแล้วแต่จะพรรณากันไป ตามความเป็นจริงบ้าง  หรือหลอกกันบ้างก็มี
หลายรูปแบบ ร้อยพ่อ พันแม่ หมื่นผัว หมื่นเมีย โอ้ยเยอะแยะ เชื่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ตอนที่เจอกันจะๆ จริงๆ นั่นละค่ะ
และที่สำคัญมันไม่สามารถตัดสินได้ว่า "ผู้ชายสวิสฯส่วนใหญ่มีนิสัยอย่างไร" อันนี้ขอตอบแบบง่ายๆ เลยค่ะ
"" มันอยู่ที่สันดาน หรือความที่มีนิสัยเสียส่วนตัวของแต่ละคนเองค่ะ ""
ผู้ชายแต่ละประเทศก็มี ไม่เฉพาะสวิสฯ มีดี  มีเลว  ปะปนกันไป
เรื่องของคุณนัท มันอยู่ที่ดุลพินิจของตัวเราเองค่ะ ว่าคุณนัทจะทำอย่างไรต่อไป ในอนาคต?????
เพื่อนๆ ก็คงให้ได้แค่คำปรึกษา คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ สำหรับเพื่อนๆๆๆๆๆ
หลังจากที่เพื่อนๆ แต่ละคนได้ให้ความเห็นที่ดีๆ และแก้ไขข้อข้องใจให้แล้ว
หวังว่าคุณนัทคงจะเคลียร์เรื่องต่างๆ ให้จบไปได้ด้วยดีน่ะค่ะ

Fon2008

สวัสดีค่ะ เข้ามาเม้นท์อีกรอบแต่ครั้งนี้ยอมรับว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปจากครั้งแรกค่ะ จากที่เม้นท์ไปครั้งแรกก็ยอมรับว่ามองในมุมที่ว่าแฟนคุณณัฐไปมีคนอื่นอย่างเดียวซึ่งทำให้รู้สึกว่าเค้าช่างไม่
ซื่อสัตย์ในความรักเอาเสียเลย แต่เมื่อได้มาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณณัฐเขียนมา อืมมม...จริงๆแล้วเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนยังมีรายละเอียดอีกเยอะซึ่งคงจะเป็นคนทั้งสอง
เท่านั้นที่จะรู้ดีกว่าใครๆ จากที่คุณณัฐบอกว่าแฟนคุณพยายามที่จะเลิกกับคุณมาก่อนนั่นก็แสดงว่า
เค้ามีเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงอยากจะทำแบบนั้น และที่เค้าบอกคุณว่าคุณรักเงินของเค้ามากกว่าตัวเค้า อะไรที่ทำให้เค้าคิดแบบนั้น? จริงหรือไม่? จะี้จริงเท็จประการใดตัวคุณเท่านั้นที่จะเป็นคนตอบได้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่แฟนคุณว่าคุณก็ควรที่จะพิสูจน์ให้เค้าเห็นว่ามันไม่จริง เมื่อเค้าพูดแบบนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเป็นข้ออ้างในการที่เค้าอยากจะไปศึกษาผู้หญิงคนใหม่
หรือหากว่ามันเป็นจริงอย่างที่เค้าว่าก็คงไม่แปลกที่เค้าอยากจะลองค้นหาคนที่รักเค้าจริงๆไม่ใช่รักเฉพาะเงิน
ของเค้าซึ่งคนเราทุกคนย่อมรักตัวเองและอยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตัวเอง เมื่อคุณตอบคำถามนี้ได้แล้วบวกกับลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของแฟนคุณดูอีกที ฝนคิดว่าคุณน่าจะรู้ว่าคุณควรจะให้อภัยเค้ามั้ย ส่วนเรื่องรักฝนมั่นใจว่ายังไงคุณก็ยังรักเค้าอยู่คงตัดกันไม่ขาดง่ายๆหรอกค่ะ โชคดีนะคะ

moo5202

สวัสดีค่ะ คุณ Nat

เมื่ออ่านข้อความของคุณแล้ว ทำให้รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ เรื่องนิสัยของคนเนี้ย เป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย ขนาดคนที่เค้าแต่งงานกันมาสิบปีจนมีลูกกันสองสามคนแล้ว เค้ายังเพิ่งจะมาเห็นนิสัยกันก็มีนะค่ะ (ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน) ส่วนตัวแล้วตัวบีเองก็ยังเอาตัวไม่รอด ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่เราคบอยู่เนี้ยลูกผีลูกคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่การตัดสินใจของคุณเอง หากคุณยอมรับและให้อภัยเค้า คุณต้องทำให้ได้อย่างที่คุณคิดนะค่ะ ไม่งั้นในชีวิตคู่ของคุณจะไม่มีความสุขเลย มันคงทำใจยากมากกับการตัดสินใจ และ่เราต้องเลือกระหว่างความรักกับความจริงค่ะ ความจริงก็คือเค้าเป็นคนที่ไม่ซื้อสัตย์กับเรา แต่ความรักคือเรารักเค้าถ้าหากคุณพร้อมที่จะยอมรับและให้อภัย ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะค่ะ เพราะไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างคุณสองคนไปดีไปกว่าตัวคุณเอง เอาเป็นว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร บีก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นไปในทางไหนก็ตาม แต่อย่ามัวไปโทษตัวเองว่าเราทำอะไรผิดนะค่ะ และก็อย่าไปจมอยู่กับความทุกข์หรือสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ อย่าลืมว่าไม่มีใครมีความทุกข์ไปตลอด และไม่มีใครมีความสุขไปตลอดหลอกค่ะ อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน (เอ๋.....เกี่ยวกับเปล่าหว่า ;D) สู้ ๆ ค่ะ  

ป.ล. บีมีประสบการณ์ญาติของบีมาเล่าให้ฟังซึ่งไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่บีคิดว่าหน้าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะค่ะ มีญาติคนหนึ่งเค้าก็คิดจะหย่ากับสามีเค้าเหมือนกัน วิธีของเค้าก็แปลกดีค่ะ คือเค้าจะใช้วิธีการเลือกข้อดีและข้อเสียของแต่ละฝ่ายออกมา แล้วเอามาดูว่าเค้ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียเท่าไหร่ และข้อเสียที่เรายอมรับได้เท่าไหร่ ผลสรุปออกมาก็คือ เค้าทั้งคู่แทบจะไม่มีข้อดีให้เขียน มีแต่ข้อเสียเกือบเต็มหน้ากระดาษทั้งคู่ และเค้าก็ลองเอามาคิดกันว่าจริงเท็จแค่ไหน แล้วก็ลองอยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้าย ข้อที่เค้าคิดว่าเป็นข้อเสียที่หน้าจะรับได้ก็รับไม่ได้ในที่สุด ผลสุดท้ายก็คือหย่ากัน แต่เค้าก็ยังหย่ากันด้วยดี อย่างน้อยก็มีเหตุผลบอกคนอื่นได้ว่าไม่ได้หย่าเพราะอารมณ์ แต่อย่ากันเพราะไปด้วยกันไม่ได้ ญาติคนนี้ของบีเค้าก็เลยบอกน้องหลาน ๆ มาตลอดว่า หากว่าเราคิดว่าเรารักเค้าแล้วเราต้อนทน กรุณาอย่าทนค่ะ ต่อให้คุณรักมากขนาดไหนก็ตาม เพราะการอดทนผลสุดท้ายคือการสุดทนค่ะ  ;)

nat

     สวัสดีค่ะ และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความคิดเห็นดีๆและกำลังใจค่ะ.....
จริงอย่างที่คุณ Na พูด ผู้ชายทุกชาติ มีทั้งคนดี และ คนเลว ปนกันไป แต่เพื่อนๆที่แต่งงานแล้วมาอยู่ที่นี้โชคดีจังที่ได้เจอผู้ชายสวิสดีๆ...ขออนุญาติเล่าต่อจากครั้งที่แล้วนะค่ะและช่วย comment ด้วยค่ะ บางที่อาจจะเป็นณัฐเองที่ไม่ดีพอ คนเรามักมองไม่เห็นความผิดของตัวเอง........
   สาเหตุที่เขาบอกว่าณัฐเห็นแก่เงินคึอ...ปีแรกที่คบกันเขาให้ไปเรียนภาษา ที่ Goethe
อยู่สาทร ณัฐทำงานอยู่ที่สามเสน เขาจ่ายค่าเรียนให้...ปีแรกผ่านไปเรารู้สึกว่า ทำไมเราลำบากและเหนื่อยจัง เพราะรายจ่ายเราเพิ่มขึ้นแต่รายได้เราลดลง (เงินเดือนณัฐประมาณ 13,000 บาทรวม OT,PT ก็เกือบจะ 20,000 บาท)แต่เราก็มีภาระคือผ่อนรถค่ะ
(ซื้อก่อนรู้จักกัน)พอเราไปเรียนเงิน OT,PT มันหายไปหมดเลย...เราเลยถามเขาว่าคุณ
support ฉันได้มั้ย? ตอนถามก็อายเหมือนกัน แต่คิดว่าดีกว่าให้เขาคิดเองว่าเราไม่มีปัญหา (เค้าว่าฝรั่งชอบพูดตรงๆ?)และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องเรียนไปอีกกี่ปี....เขาถามว่า
จะเอาเท่าไร? เราขอ 10,000 บาท/เดือน (มากไปมั้ย?)เพราะเรารู้ว่าเขาจ่ายได้ไม่เดือด
ร้อน (เงินเดือนเขา 15,000 CHF/เดือน)แต่เขาบอกจะให้เรา 6,000-7,000 บาท/เดือน เราไม่เข้าใจว่าทำไมเงิน 10,000 บาทสำหรับเขามันมากไปเหรอ? แต่ก็เรา O.K
เรียนต่ออีก แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ ...ไปเรียนเดินทางไป-กลับประมาณ 3-4 ชั่วโมงแต่เรียน 1.45 ชั่วโมง....หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมเราไม่มีความอดทนเลย จริงๆเราก็ไม่ได้เป็นผู้ดีมาจากใหนหรอกค่ะ แต่งานณัฐมันเหนื่อยและเครียดต้องเข้าเวรกลางคือ(อยู่ รพ.รัฐบาล)
    แล้วอยากจะถามว่าณัฐผิดเหรอค่ะ? ที่ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากลำบาก ก่อนเจอเขาเราก็อยู่ของเราได้ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ....ขอบอกด้วยความสัตย์จริงไม่ได้คบเขา
เพราะเงิน เพราะเราก็มีงานทำ (ฝรั่งส่วนใหญ่คิดว่าผู้หญิงไทยเห็นแก่เงิน?)...แต่ขอบอกว่าเราน้อยใจ....จะไม่ให้น้อยใจได้ยังงั้ย เงิน 3,000-4,000 บาทเพิ่มให้เราไม่ได้ แต่ดื่มไวท์ที่ขวดละ 1,000-2,000 บาท โรงแรมคืนละหลายพันบาทก็จ่ายได้ ณัฐเคยถามเขาว่าเงิน 10,000 บาทมันมากนักเหรอสำหรับคุณ? ทำไมคุณถึงจ่ายเพื่อฉันไม่ได้?(ไม่ทราบว่าคนอื่นคิดยังงั้ย หรือเราคิดเข้าข้างตัวเองมากไป?)แต่ถ้าเขามีรายได้น้อยกว่านี้ เราก็คงไม่เรียกร้องอะไรมาก (เพราะตอนนั้นรักเขาไปแล้ว)ก่อนคบกันไม่ได้ถามเรื่องรายได้
เราคิดแค่ว่าเราอยากได้คนที่รักเรา จริงใจ สามารถอยู่กับเราจนแก่เฒ่าได้ และเราก็อายุมากแล้ว
เพราะเงินทองเราก็มีความรู้พอช่วยกันทำมาหากินได้......หลังจากนั้นมาเราก็คุยกันเรื่องเงินมากขึ้นมีทะเลาะกันบ้างแต่ณัฐก็ไม่เคยคิดจะเลิกกับเขา (จนมาเกิดเรื่อง)เพราะเขาก็มี
ข้อดี(ในความคิดของณัฐ) เช่น เขาทำกับข้าวเก่ง(เขาบอกเขาชอบทำอาหาร),
เขาไม่พูดเสียงดัง (เวลาทะเลาะกัน)ไม่สูบบุหรี่,พูดตรง(แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วเพราะโกหก
เราซะอ่วมเลย).....และทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่เขาว่าเรารักแต่เงิน และเป็นเหตุผลที่เขาอยากจะเลิกกับเรา....พี่ๆเพื่อนๆช่วยวิจารณ์ด้วยค่ะ แบบตรงๆไม่ต้องเกรงใจ...
     ข้อมูลเพิ่มเติม เขาทำงานที่ Bank Credit Suisse หย่ากับเมียมา 4-5 ปี
ไม่มีสมบัติใดๆ (บ้าน,รถ ยกให้เมียหมด)มีลูก 2 คน ผู้หญิงอายุ 19 ปีอยู่กับแม่,
ผู้ชายอายุ 16 ปี อยู่กับพ่อ.....
     ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อคิดดีๆและกำลังใจค่ะ.

nat

ต้องขอโทษด้วยนะค่ะเขียนซะยาวเลย แถมลืมจัดหน้ากระดาษอีก เลยทำให้อ่านยาก

nadaa

สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณณัฐ

ครั้งนี้เราขอออกความคิดเห็นเรื่องเงินที่เค้าส่งมาละกันนะ
เราว่าเงินที่เค้าส่งมาจำนวนแค่หมื่นเดียวมันไม่มากหรอกค่ะ
แต่รวมหลายๆเดือนเข้ามันก็เยอะอยู่ แต่มันน้อยเมื่อเทียบเป็นเงินบ้านเค้า
แต่สำหรับเราแล้วถ้าเค้ามามัวแต่คิดเรื่องนี้ แล้วในอนาคตอีกหล่ะ
เค้าได้เงินเดือนนาดาถือว่าเยอะนะคะ 15,000chf
กับเงินแค่หมื่นเองทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โต หรือมาเสียดาย(จากที่เราคิดนะ)
เราก็เคยมีประสบการณ์อย่างนี้นะ เพราะเราคิดว่าเค้าไม่มั่นใจในตัวเรามากพอ
คิดว่าจะหลอกเอาเงินเค้า พอสมใจเราก็ทิ้งเค้าไป ทำนองนี้แหล่ะค่ะ
จนทุกวันนี้เราเองก็พยายามทำให้เค้ามั่นใจว่าเรารักเค้าจริง และเงินที่เค้ามาsupport
เรา เราก็เอามาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ และถือว่าเค้าก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเราบ้างค่ะ
จริงอยู่คนเรารักกันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องทอง แต่เราต้องเข้าใจนะคะว่า
เมื่อเราจะมาอยู่ด้วยกันจริงๆ มันสำคัญเป็นเรื่องแรกๆเลย
เราอยากให้ตรงนี้มีความเข้าใจเหมือนกันทั้งสองฝ่ายและเราคิดว่าเรื่องอื่นๆ
ก็คงดีตามมาด้วย..






the sun

สวัสดีค่ะคุณ nat ตะวันเข้ามาเอาใจช่วยอีกคนอีกครังนะคะ
    แฟนคุณณัฐเค้าอายุก้อคงไม่ใช่น้อยแล้วสินะคะ เท่าที่ฟังๆ มา ด้วยความที่เขาเคยมีประสบการณ์ ครอบครัวแตกแยกมาก่อน อาจจะทำให้เขาคิดละเอียดมากขึ้นสำหรับคู่ครองคนต่อไป ก้อเป็นได้นะคะ ยิ่งสวิสด้วยแล้ว การหย่าร้าง พร้อมีกับมีลูก นั้นเป็นภาระสำคัญเลยที่เขาต้องส่งเสียลูกจนโต แต่ลูกเขา โตๆ กันแล้วนะ ถ้าผู้ชายคิดเล็กคิดน้อยได้ขนาดเขา แสดงว่าเขาต้องมีภาระจ่ายเยอะพอสมควร เงินเดือนสูงขนาดนั้น เขาก้อคงมีรายจ่ายที่สูงตามตัวไปด้วย อาจจะทำให้เขาคิดไปได้ (ปกติของคนมีอายุคิดถี่ถว้นไปหมด) กรณีของคุณณัฐ ตะวันเข้าใจดีค่ะ ถือความรู้สึกอึดอัด เวลาเงินไม่พอใช้ มีแฟนก้อไม่กล้าขอ พอขอพอพูดให้ ซัพพอร์ตหน่อยก้อว่าเรามองเงินเขา ถ้าเขารักคุณณัฐแบบอยากใช้ชีวิตด้วย ไม่ไม่กังขาแล้วเขาจะไม่ได้คิดขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เท่าที่อ่านคุณณัฐเขียน ดีเทลสำหรับเรื่องราวต่างๆ มาแล้วนั้น ก้อถือว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ คุณณัฐไม่ได้มีความรู้สึกอยากได้เงินเขาเลย ถ้าไม่เดือนร้อนจริงๆ ดิฉันก้อเคยตกในสถานะแบบนี้ก้อเข้าใจคุณณัฐดี คุณณัฐติงเขาบ่อยไหมค่ะเรื่องเงินที่ว่า ทำไมให้คุณณัฐไม่ได้ แค่เงิน 1 หมื่นบาทต่อเดือน พูดบ่อยไหม ทะเลาะบ่อยจนแบบว่าเขารำคราญไปเลยไหม ยิ่งเขาเป็นคนคิดแบบนั้นอยู่แล้ว ขอหมื่นไมได้ ได้ 6-7 พัน ถ้าเขาให้ทุกเดือน ก้อถือว่าเขาทำตามที่เราขอ แต่เขาทำตามใจเขามากกว่าทำตามใจเรา คือลดจำนวนเงินลง แต่ถ้าเขาให้ทุกเดือน ก้อถือว่า โอเคนะคะ  ไปบวกกับเงินเดือนเราเอาเอง ก้อเท่ากับว่าเขาจ่ายค่าโอทีให้เราไปส่วนที่ขาดหายไป ถ้าคิดในแง่ไม่อยากมีปัญหากับเขานะคะ ให้ปัญหาเรื่องนี้น้อยลง (แต่เรื่องทรยศ ให้อภัยไม่ได้ๆ คนหล่ะเรื่องและคนหล่ะส่วนกัน )
  เงินเดือนเขา ขนาดนั้น บอกตรงๆ ถ้าเขาไม่คิดมากเกินไปว่าคุณณัฐจะคิดแต่เรื่องเงินกับเขา เขาช่วยคุณณัฐได้สบายๆ เลย บอกตรงๆ เท่ากับค่าเงินเขาแค่ 334sfr นั้นเป็นเงินมากไหม สำหรับค่าใช้จ่ายที่สวิสนี้ ก้อเท่ากับไปจ่ายตลาดของกินของใช้ในบ้านในห้างซุปเปอร์ สำหรับครอบครัวใหญ่ 1 ครั้งค่ะ  หรืออาจจะมากกว่านั้น
    โดยส่วนตัวตะวันแล้ว ตะวันคิดว่า แฟนคุณณัฐเองที่ไม่เปิดใจที่จะเข้าใจคุณณัฐมากกว่าคำว่าคิดถึงแต่เรื่องกลัวว่าเราจะผลาญเงิน คิดมากไป แต่ก้อไม่คิดที่จะเปลียนสัญชาติผู้หญิงไปจีบประเทศอื่นๆ วนเวียนแต่อยู่กับพี่น้องสาวไทยนี่แหล่ะ...คุณณัฐต้องได้นั่งอธิบายให้เขาเข้าใจค่ะ ถึงความจำเป็นให้เขาเข้าใจให้ได้ หากเข้าใจแล้วคุณณัฐต้องเลิกพูดบ่อยๆ เลิกถามเขาว่าทำไมให้คุณณํฐไม่ได้เงินแค่นี้ ปล่อยไปเลย เงียบไปเลยค่ะ วันหนึ่งตัดสินใจแต่งงานกันมาแล้ว เขาละเลยจุดๆ นี้ คุณณัฐมีสิทธิ์พูดเต็มๆ เลยเขาไม่มีสิทธิ๊มาพูดคำว่า คุณเห็นแก่เงินฉันเหรอ..   ยังไงก้อเอาใจช่วยนะคะ ให้ผ่านพ้นปัญหาความไม่เข้าใจกันไปได้ด้วยดีนะ หรือคุณณัฐต้องเข้าใจต้วคุณเองเท่านั้น รอให้เขามาเข้าใจคุณณัฐคงจะลำบาก ตัดอกตัดใจ เดินหน้าใหม่ หรือเดินผ่านสายกลางนะคะ ไม่ยึดติดยึดมั่นในตัวเขามากจนเกินไป (หาใหม่ไปด้วย หุหุ) วิธีเดินสายกลาง คิคิๆๆๆ
บายๆ ฟอร์นาว จุ๊บๆ

angkanaruk

สวัสดีค่ะ นั่งอ่านตั้งแน่แรกจนจบ ยังไงก้อขอเปงกำลังใจคุณนัดน่ะค่ะ แฟนกิฟเค้าก้อทำงานที่เดียวกับแฟนคุณนัดอยู่เลย ในความรูสึกของกิฟน่ะค่ะ กิฟว่าแฟนคุณคงมีรายจ่ายมากเหมือนกันเพราะว่าต้องส่งให้ลูกเมียเก่าที่แยกกันไปแล้ว เพราะแฟนกิฟก้อยังเด็กแต่เค้าก้อเปงคนที่รู้จักใช้อ่ะค่ะ ตอนที่กิฟอยู่เมืองไทยแฟนก้อส่งให้แค่ หมื่นสองเองต่อเดือนค่ะ แต่กิฟไม่ได้ทำงานน่ะค่ะ เพราะเค้าจำกัดเงินของตัวเองด้วยว่าต้องใช้เท่าไหร่เพราะว่าต้องจ่ายภาษีเยอะเหมือนกัน กิฟว่าแฟนคุณก้อคงจ่ายภาษีเยอะเหมือนกันอ่ะค่ะ เพราะเค้าได้เงินเดือนเยอะนี่ค่ะ

กิฟขอลงความเห็นนิดนึงน่ะค่ะ เพราะแฟนก้อเคยคิดแบบนั้นเหมือนกันเค้าชอบอ้างว่าเราของเงินเค้าก้อเลยทำให้เค้าคิดว่าเราชอบเค้าเพราะเงินมานเปงธรรมดามั้งค่ะที่เค้าจะคิดแบบนั้นแต่เค้าไม่รุหรอกว่าเราต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่ถ้าขอเรื่องวีซ่าไม่เคยมีบ่นเลย งงกะเค้าเหมือนกัน
เท่าที่กิฟอ่านมานั้นกิฟคิดว่าแฟนคุณคงอยากมีคนที่รักเค้าจริงๆแต่กิฟก้อไม่เข้าใจกะแค่เรื่องเงินนั้นทำไมเค้าถึงอยากเลิกกับเรา ทำไมไม่ถามเราตรงๆแต่ทำไมไปหาผูหญิงคนอื่นแต่ในความรู้สึกกิฟคิดว่าขนาดตอนเปงแฟนกันยังทำได้ขนาดนี้เลย ถ้าแต่งงานไปแล้วเค้าทำแบบนั้นอีกแล้วเราจะทำยังไง เลิกก้อเลิกยาก เค้าอาจจะมาพูดดีๆกะเราตอนนี้เพราะอยากให้เราให้อภัย เพราแฟนกิฟเค้าก้อบอกว่ากิฟอยากได้เงินของเค้าเหมือนกันและพยายามเลิกกับกิฟแต่ก้อทำไม่ได้สักที พอสิ่งที่เค้าพูดให้กิฟฟัง กิฟก้อบอกงั้นก้อเลิกกันซิ จะมาคบกันอยู่ทำไมในเมื่อพยายามจะเลิกกับเรา แต่เค้าก้อไม่เลิก ความรักนี้มันช่างทรมานและก้อปวดหัวหลือเกิน เห้อ ยังไงก้อคิดหน้า คิดหลังให้ดีๆน่ะค่ะ กิฟว่าถ้าพี่ไม่มีเค้าก้อคงอยู่ได้กับไปทำงานโอที ใช้ชีวิตอยู่แบบเดิมๆ คิดซะว่าหมดเวรหมดกรรมกานไป อาจจะเจ็บบ้าง แต่ก้อต้องอดทน สู้ๆน่ะค่ะ เปงกำลังใจให้อย่าคิดมากเลย ยังไงก้อต้องขอโทดด้วยน่ะ ถ้าเขียนรบกวน

nat

สวัสดทุกๆคนอีกครั้งค่ะ และขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ตอนนี้ความรู้สึกของณัฐดีขึ้นมากแล้ว จิตใจนิ่งมากขึ้น ไม่รุ่มร้อนเหมือนแต่ก่อน. :'( อาจเป็นเพราะได้เขียนระบายความคับข้องใจ และได้รับฟังความคิดเห็นในมุมมองของคนอื่นๆบ้าง เพราะก่อนหนัานั้นคิดอยู่คนเดียว ไม่ได้ปรึกษาใคร ยังงั้ยก็ต้องขอบคุณป้าพอลมากๆ(เรียกตามคนอื่น)ที่มีพื้นที่ดีๆให้ณัฐได้เขียน กระทู้ของณัฐอาจจะไม่ได้มีประโยชน์มากนัก ค่อนข้าง negative เพราะอ่านกระทู้ของคนอื่นๆรู้สึกว่ามีประโยชน์ มีความรู้ ....ยังงั้ยก็ถือว่าแชร์ประสบการณ์กันนะคะ เหรียญยังมี 2 ด้านเสมอ ก็อ่านทั้งด้าน negative and possitive ทุกอย่างไม่แน่นอนเหมือนกับพายุลูกเห็บของป้าพอลนั้นแหละ  :'(

พออ่านหลายๆความคิดเห็นมันก็จริงนะ อย่างที่น้องกิฟว่า...ความรักมันช่างทรมานจริงๆ(แต่หลายคนก็แสวางมัน)สงสัยตอนนี้พี่กำลังชดใช้กรรมเก่าอยู่ (สงสัยชาติที่แล้วไปทำเขาไว้เยอะ) :'(บ้างครั้งอยากใช้หัวใจในการแก้ปัญหาเหมือนอย่างคุณนาดาแนะนำ เพราะเรายังรักเขาอยู่มันตัดใจไม่ได้ง่ายๆอย่างคุณฝนว่านั้นแหละ แต่สมองเราก็ยังทำงานอยู่ เราต้องอยู่กับความเป็นจริง ชีวิตจริงๆ จริงอยู่ว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์และดีพร้อมไปหมดทุกอย่างแม้แต่ตัวเราเอง ชีวิตคู่มันเป็นศาสตร์และศิลป์ (สงสัยณัฐจะสอบตกศิลป์นะคุณ Api)...ถ้าณัฐกลับไปเริ่มต้นใหม่ ณัฐก็ไม่แน่ใจว่าจะมีความสุขมั้ย เพราะต้องมานั่งหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะกลับไปทำเหมือนเดิมมั้ย อย่างที่คุณตะวันว่าแหละ :( สู้ดีว่าณัฐไม่ควรยึดมั่นถือในตัวเขา เดินสายกลาง (หาใหม่ไปด้วย ;Dอย่างคุณตะวันดีกว่าเนอะ)

จริงๆตอนนี้ณัฐก็ไม่รู้จะทำยังงั้ยนะ คงจะอยู่เฉยๆไปก่อน แต่ที่แน่ๆปีนี้คงยังไม่แต่งงานแน่นอน >:( หรือถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรณัฐจะมาเล่าให้ฟังใหม่ ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ สู้ สู้ (บอกตัวเองค่ะ)  ;D