หย่า กับสามี

Previous topic - Next topic

ยน

ขอเรียนถาม ป้าพอลและเพื่อนๆในบ้านหลังนี้นะคะ
 หนูแต่งงานและก่อนแต่งไม่ได้ทำสัญญาแบ่งทรัพย์สินอะไรทั้งนั้นกับแฟน แค่ จดทะบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย กับแฟนที่นี่หนึ่งปีแล้วและรู้ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าหนูหย่า หนูมีสิทธิอะไรบ้างค่ะจากสามี ทั้งทางด้านทรัพย์สิน และสิทธิที่หนูควรจะได้ ช่วยตอบหนูหน่อยนะค่ะ
 ขอบคุณมากค่ะ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0028 ห้อง lifestyle (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

#1
สวัสดีค่ะคุณยน
คิดว่าคุณคงเข้ามาอ่านคำถามของคุณจากห้องนี้แล้วนะคะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ย้ายทู้จากห้องนั่งเล่น   นำมาลงในห้องนี้
รอคำตอบหน่อยนะคะ  ใครที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
หรือมีประสบการณ์ช่วยเข้ามาช่วยตอบด้วยนะคะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

นุช

คือเพื่อนกำลังหาบ้าน ตอนนี้อยู่ในตัวเมือง bern ถ้าย้ายไป heimberg หรือ steffisburg จะต้องเปลี่ยนหลักฐานอะไรบ้างเพราะ heimberg หรื่อ steffisbug ขึ้นกับ gemeinde thun ใช่หรือไหมค่ะ

nut

คุณยนคะ่คุณเข้าไปอ่าในหัวข้อswiss law การแยกกับสามี หรืออันดับแรกคุณต้องหาล่ามแปลเพื่อนคุยกับทนายว่าขั้นตอนอย่างไรจะได้รับสิทธิอะไบ้าง นุชก็ไม่ทราบอะไรมากบอกเท่ารู้

t.o.s

u need lawyer (expensive mak mak)
 i think u will get AHV half from yr husband and not sure u will get only 1 year or not (u married him only 1year)
 also not sure if u divorced u have to go back to thailand bcoz u have B or u will get marry again?
 it takes abt 5-6 months (not sure all kantons r the same or not)
 anyway u just married 1year r u sure u can divorced???
 safe yr money for the lawyer and the court
 ps.from my experienced in baselcity (last year)
 it takes time and a lot money
 viel glück

pall

#5
สวัสดีจ๊ะนุชที่เข้ามาช่วยตอบ

สวัสดีค่ะ คุณt.o.s
ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยนำประสบการณ์เข้ามาช่วยตอบ
น่าสนใจมากจริงๆไม่ทราบกรณีย์ของคุณt.o.s   และของคุณยนแตกต่างกันกันแค่ไหน
เกี่ยวกับปัญหาและจำนวนปีของคู่สมรส  และมีบุตรด้วยกันหรือไม่..
เห็นด้วยค่ะว่าค่าจ้างทนายที่นี่แพงมาก   ไม่จำเป็นไม่อยากเกี่ยวขอ้งกับทนายเลย
คุณ t.o.sคะ  ป้าคิดว่าคุณคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่า...AHV
จากตัวอย่าง
i think u will get AHV half from yr husband and not sure u will get only 1 year or not (u married him only 1year)
เพราะAHVเป็นเงินประกันสังคมสำหรับคนสูงอายุ  ผู้ชายถ้าอายุครบ65ปี   ผู้หญิงอายุครบ64ปี
จึงจะได้รับเงินคนแก่แบบนี้  ที่เราเรียกว่า
** Erste Saeule **
Staatliche Vorsorge  Existenzsicherung
**AHV/IV**
เป็นเงินประกันสังคมของรัฐที่บังคับให้ทำ   ถ้าเราอายุยังไม่ครบกำหนดจะไม่ได้รับ
และเงินส่วนนี้ไม่มีการแบ่งครึ่งกันค่ะ  ป้าคิดว่าคุณคงหมายถึงเงินPKแน่ๆเลย
ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับประกันสังคมลองแวะไปอ่านนะคะ
<<<DAS DREI - SAEULEN - MODELL>>>

ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับข้อมูล

เกตุ

ย้ายคันโตนไม่รู้ต้องใช้เอกสารอะไรหรือเปล่านะคะ
 
 เคยแต่ย้ายเขตเฉยๆ ของเกตุใช้แค่พาสเบ ไปแจ้งที่เขตที่เราอยู่ขอย้ายชื่อออก พร้อมกับแจ้งที่อยู่ใหม่ แล้วเขาจะให้เอกสารการแจ้งย้ายมาค่ะ แล้วเราก็เอาไปแจ้งชื่อเข้าที่เขตใหม่ที่เราจะย้ายไปอยู่ค่ะ พร้อมกับพาสเบด้วย
 
 ถ้าย้ายต่างเขตต้องแจ้งภายใน 10 วันค่ะ แต่ถ้าย้ายในเขตเดียวกันแจ้งภายใน 6 เดือนค่ะไม่รู้เหมือนกันหรือเปล่านะคะ บางที่อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะของเกตุย้ายเข้ามาในเมืองต้องย้ายภายใน 10 วัน แต่เพื่อนที่ย้ายพร้อมๆกันเขาอยู่ในเมืองอยู่แล้ว แต่ย้ายบ้านใหม่ในเมืองเหมือนกันนี้ล่ะค่ะเขามีเวลา 6 เดือนในการแจ้งย้ายค่ะ

เกตุ

เอางี้นะคะคุณยน ถ้ายังไม่รีบ เดี๋ยววันอาทิตย์นี้เกตุจะไปถามมาให้ เดี๋ยวเกตุจะจดแล้วไปสัมภาษณ์มาให้ค่ะ แล้วเกตุจะมาพิมพ์ให้นะคะ ไม่รับปากวันไหนนะคะ

pall

#8
ถ้าได้ข้อมูลมาเมื่อไรนำมาลงเลยนะจ๊ะ   ขอบใจมากกับการไปสืบหาข้อมูลมาที่จะนำมาตอบ
ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ข้อมูลกับหลายๆคน

เกตุ

วันนี้เกตุไปถามให้แล้วนะคะ แต่ได้ข้อมูลมาไม่เยอะเท่าไร เพราะราย
 ละเอียดน้อยมากๆ ถ้าคุณยนอยู่ในซูริคเขาบอกอยากให้มาคุยเอง
 เพราะรายละเอียดน้อยเกินไป แต่ก็ได้บอกมาคร่าวๆดังนี้นะคะ
 
 1. ต้องดูรายได้ของสามีว่าในระหว่างแต่งงานมีรายได้เท่าไร หรือสิน
 สมรสนะคะ ถ้าเป็นรายได้ก่อนแต่งงานคุณยนไม่มีสิทธิ์ และคาดว่า
 คุณยนคงจะได้ไม่เท่าไร เพราะแต่งงานน้อยเกินไปแค่ 1 ปี
 
 2. ถ้าตกลงเรื่องสินสมรสไม่ได้ก็ต้องขึ้นศาลค่ะ ฉะนั้นคุณยนต้องหา
 ทนาย เขาจะจัดการและคำนวณที่คุณยนควรจจะได้ให้ค่ะ แล้วศาลจะ
 เป็นคนตัดสินอีกที
 
 3. คุณยนน่าจะรอ (ถ้ารอได้นะคะ) สัก 2-3 ปี แล้วค่อยทำเรื่องหย่า
 หรืออาจจะทำเรื่องแยกกันอยู่ดีกว่า เพราะยังทำให้คุณยนสามารถอยู่
 ที่นี่ได้ เขาบอกว่าการแยกกันอยู่ จะเป็นการดีเพราะคุณยน (อาจจะ) มี
 สิทธิ์ได้อยู่ที่นี่ต่อไป เพราะสถานภาพคือยังแต่งงานอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
 คือคุณยนต้องสู้และอย่ากลัวค่ะ และมีอะไรหลายอย่างประกอบกัน
 ด้วย ถ้าคุณยนมีงานทำเลี้ยงดูตัวเองได้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนส่งกลับ
 แต่ถ้าไม่มีงานทำและไม่มีลูกก็มีสิทธิ์ลุ้นโดนส่งกลับค่ะ แต่เขาแนะนำ
 ว่าสู้ก่อน สู้แล้วเขาส่งกลับก็ถือว่าเราได้สู้แล้วค่ะ
 
 4. คุณยนต้องคิดให้ดีถ้าจะฟ้องร้องเอาสินสมรสว่ามันคุ้มมั๊ย กับค่า
 ทนายค่าศาล (ในกรณีตกลงกันไม่ได้นะคะ)
 
 สรุปได้มาแค่นี้ค่ะ เพราะรายละเอียดน้อยเกินไปค่ะ
 

pall

ขอบใจมากจ๊ะเกตุกับการสละเวลาไปหาข้อมูล
 มาช่วยตอบไม่ทราบว่าคุณยนยังเข้ามาอ่านอีกหรือเปล่า
 ถึงแม้คุณยนจะไม่เข้ามาอ่านแล้วแต่ข้อมูลก็ยังสามารถ
 ให้ประโยชน์แก่คนอื่นที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย
 

ปวดมือ(หายปวดแล้ว)

#11
สวัสดีป้าพอล และเพื่อนๆ ทุกท่าน และสวัสดีเจ้าของกระทู้ค่ะ

คุณยนค่ะ ไม่ทราบเหตุผลที่บอกเข้ากันไม่ได้ เขาทำร้ายคุณหรือเปล่า และจะเลิกกันด้วยเหตุผลใด
ขอให้ไปที่หน่วยปรึกษาสตรีนะค่ะ แจ้งเรื่องเขา เขาจะให้คำปรึกษาคุณได้อย่างดี
ส่วนตัวดิฉันไปหาแล้ว (แต่อาจจะสายไปนิด น่าจะไปหาตั้งแต่คิดว่าจะออก ไม่ใช่ออกแล้วไปหา)
เขาก็จัดการหาทนายความให้ค่ะ
ตอนนี้เดินเรื่องแล้ว ดิฉันไม่ต้องจ่ายค่าทนายความแม้แต่บาทเดียวค่ะ
แล้วทนายความพูดภาษาอังกฤษได้ ดิฉันก็โชคดีไป ก็ไม่จำเป็นต้องมีล่ามค่ะ
เพราะทนายช่วยแปลให้ ส่วนตัวดิฉันก็เข้าใจภาษาเขาบ้างแต่ไม่ดีเท่าไร

กฏหมายสวิสฯยุติธรรมกับผู้หญิงค่ะ ไม่ต้องกลัว..ว่าจะถูกส่งกลับ "ถ้าเราไม่ได้ทำผิดใดๆ"
อันดับแรกไปหาที่ปรึกษาของศูนย์สตรีก่อนนะค่ะ และคุณจะทราบความคาดหมายอย่างดีต่อไปว่า
คุณควรทำอย่างไร    ถ้าโชคดีได้คนปรึกษาที่ศูนย์ดีก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าเจอคนหงุดหงิดไม่ค่อยรับฟัง
ก็จะพูดว่าส่งกลับๆ อย่างเดียว
แต่พอดิฉันคุยกับทนาย ดิฉันสบายใจขึ้นเยอะ สามีอย่างไรก็ต้องจ่ายดิฉันค่ะ
จนกว่าดิฉันจะหางานทำและอยู่ได้ด้วยตัวเอง

ข้อมูลของดิฉัน   ดิฉันไม่มีลูก ไม่มีงานทำ อยู่สวิส สองปีกว่าเท่านั้นค่ะ

ปวดมือ(หายปวดแล้ว)

#12
เพิ่มเติมอีกนิด   ถ้าคุณบอกได้ว่าคุณอยู่เขตไหนของสวิสฯก็จะเป็นการดีนะค่ะ
เพราะเพื่อนๆ เขตนั้นๆ จะได้มาแนะนำว่าคุณควรไปที่ไหน
ศูนย์ให้คำปรึกษากับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมีปัญหาก็ไม่เสียเงินค่ะ

ดิฉันไปหาวันที่ 16/01/2006 ได้จดหมายตอบรับในการปกป้อง
และเร่งทำเรื่องคุ้มครองดิฉันด่วนมาก(ไม่รู้คนอื่นเร็วหรือเปล่านะค่ะ)
และก็มีจดหมายนัดให้ฉันคุยไปคุยกับที่สำนักความทนายความ 30/01/2006

เสร็จแล้วก็คุยกันว่าดิฉันต้องการอย่างไร แล้วเขาจะทำอย่างไร  
ทนายบอกว่าถ้ายังรักแฟนอยู่ ก็ทำเรื่องแยกกันอยู่ เพราะเผื่อว่าจะกลับมาคืนดีกัน
ถ้าคิดว่าไม่กลับมาคืนดีแล้วชาตินี้ ก็หย่า  ดิฉันเลือกหย่าค่ะ

แต่ทนายก็แนะนำว่าจะทำ การปกป้องคุ้มครองดิฉันตามหนังสือที่แจ้งมาที่เขาก่อน
แต่เขาก็รู้เป้าหมายของดิฉันแล้วว่า ต้องการหย่าให้เร็วที่สุด เพราะเขาทำร้ายจิตใจฉันมานานปีแล้ว

ทนายทำเรื่องเอารายละเอียด (ก่อนออกจากบ้าน คุณต้องแอบซีร๊อก ใบสลิปเงินเดือนของสามีแต่ละเดือน
ค่าเช่าบ้านรายเดือน ใบจดทะเบียนสมรสกับสามี  เก็บไว้ในที่ลับ
เพราะตอนไปคุยกับทนายต้องใช้ในการยื่นเรื่องต่อศาลค่ะ

และดิฉันก็ได้ขึ้นศาล วันที่ 30/03/2006 ที่ผ่านมา ตื่นเต้นมากค่ะ  ครั้งแรกในชีวิต  
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี อย่ากลัวอะไรนะค่ะ ทุกอย่างมีทางแก้ไข