**เรื่องที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริง....ตอน2.....***

Previous topic - Next topic

pall




ตอนที่2 ถ่านไฟเก่า
 
 
 เย็นวันนั้นหลังจากทำกิจวัตรประจำวัน
 อาบน้ำอาบท่าปะแป้งแม้กระทั่งซอกนิ้วteen
 ก็ทาจนหอมกรุ่นไปทั้งตัว
 โดยเฉพาะใบหน้าจะเอาแป้งปะหัว
 สิวแต่ละหัวจนขาววอกไปหมด  
 
 อยู่บ้านจะนุ่งด้วยเสื้อผ้าอันเป็นสัญลักษณ์เดิม
 คือเสื้อเชิ้ตแขนสั้นปิดลูกกระเดือก
 และผ้าถุงปาเต๊ะtoodปะตัวเก่า
 เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของไทยเรา  
 ว่าไปมันดีอยู่อย่างหนึ่งทำให้การเคลื่อนไหวไปมา
 สะดวกสบาย..คล่องตัวดี
 อากาศได้ถ่ายเทตลอดเวลา  
 แต่ต้องระมัดระวังอยู่อย่างเดียว
 ไม่นั่งอ้าซ่าให้ต้องขายหน้าประชาราษฎร์  
 
 ป้าเห็นตัวอย่างมาเลยเกิดความกลัวว่า
 จะทำอะไรผลุบๆโผล่ๆแบบนั้นบ้าง
 เพราะตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะเซ่อซ่าไม่เรียบร้อย
 เหมือนม้าดีดกะโหลก  
 แม่แกด่าตลอดเวลาจะลุกจะนั่ง
 แทบจะเหยียบหัวคนนั่งคอหักตาย  
 แต่ถ้าจะต้องเดินทางไปไหนไกลๆจึงจะใส่กางเกงยีนต์ขายาวตัวเก่งซึ่งมีอยู่ตัวเดียว  
 
 ป้าเดินกระย่องกระแย่งขากางเพราะเมื่อเช้าลื่นล้ม…
 หมูมันมาดันtoodป้าตอนก้นโค้งทำความสะอาด
 โชคดีที่ของสำคัญไม่บุบสลาย….
 นอกจากออกสีเขียวปนม่วงนิดหน่อย  
 ป้าไปตะแคงtoodนั่งบนเก้าอี้ที่ใช้งานหนัก
 นั่งจนบุ๋มเป็นรอย  
 เก้าอี้ตัวนี้เขาบริจาคมาให้อีกที
 ป้ารีบตะครุบเลยกลัวคนให้เปลี่ยนใจ….
 มันกระดำกระด่างถลอกปอกเปิกจนหาสีเดิมไม่เจอ
 ตรงกลางเป็นมันย่องเหมือนคนหัวล้าน
 และโต๊ะประจำตำแหน่ง….ขาเป๋
 จนต้องใช้เชือกผูกรั้งขาไว้ไม่ให้ขากางแยกออกจากจากกัน  
 ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่มุมห้องใกล้หน้าต่าง  
 
 จัดเตรียมกระดาษปากกาพร้อมดิกชันนารีคู่ใจ
 ที่สำคัญขาดไม่ได้เอาวางไว้บนโต๊ะ
  หยิบจดหมายของน้องสาวมาอ่านอีกครั้ง
 เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนที่จะตอบจดหมายของลุงโรเบิด  
 จะมาตอบแบบซี้ซั้วไม่ได้ต้องตั้งใจหน่อยงานนี้งานช้าง
   
 ก่อนอื่นขอพูดถึงชีวิตนิสัยใจคอของป้า
 ให้รู้คร่าวๆก่อนว่าเป็นคนค่อนข้างขี้อาย
 เก็บเนื้อเก็บตัวมิดชิดคล้ายนางอาย  
 ชื่อสัตว์ชนิดหนึ่ง  
 ไม่ค่อยพูดจาโต้เถียงกับใคร
 แบบปากอมฮอลก์รสเมลทอล  
 เป็นคนบ่อน้ำตาตื้นชอบร้องไห้มาก  
 บางเรื่องไม่น่าจะร้องไห้ป้าก็บีบน้ำตาแล้ว…
 และชอบแหกปากร้องไห้ดังๆแบบเรียกร้องความสนใจ…
 แม่ทนดูไม่ไหวต้องใช้ลูกแปรของแกดีดถึงหยุดได้  
 แกว่าป้าเจ้าเล่ห์ถ้าแสดงละครรับรองได้ตุ๊กตาทองมาครองหลายตัว
 
 ….นางเอกละครที่รับบทรันทดทั้งหลายในปัจจุบัน
 ชิดซ้ายไปได้เลยเพราะตีบทแตกมาก  
 อย่างน้องกบ สุวนันท์ คงยิ่ง
  ที่ชอบรับบทรันทดใจร้องไห้ยังสู้ป้าไม่ได้เลย  
 ปัจจุบันสันดานแบบนี้ป้ายังมีอยู่นะ…..ร้องไห้จนผัวเบื่อ…..
   
 ตอนป้าอายุ 8 ขวบ
 ยังเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายหัวอ่อน
 แม่สอนอะไรเชื่อหมด  
 แกจับเข้าครัวฝึกฝนเสน่ห์ปลายจวักเต็มที่
 บอกว่าถ้าการครัวเก่งมีแต่คนอยากได้เป็นเมีย  
 ตำครกต้องตำให้เสียงดังระรัวไม่หยุด  
 สมัยก่อนถ้าใครตำครกเสียงดังไม่หยุด
 แสดงว่าเก่งการครัว..
 ไม่ขี้เกียจสันหลังยาวแบบนี้หาผัวได้ง่ายๆไม่มีปัญหา  
 
 ป้าเชื่อแม่ทุกอย่างตั้งแต่เล็กจนโต
 ตำครกแตกไปหลายใบก็ยังหาผัวไม่ได้  
 สงสัยคงจะตำดังมากไปเลยไม่มีใครกล้ามาขอไปเป็นเมีย
 คงจะกลัวสากกะเบือลอยใส่หัวเป็นแน่  
 
 แม่แกสอนต่ออีกว่า….
 คนที่ทำหน้าที่มาดูตัวผู้หญิง
 เขาจะดูตั้งแต่น้ำล้างteen
 ก่อนขึ้นบ้านว่าสะอาดมีน้ำเต็มไหม
 และมีพวกตะใคร่น้ำอันเขียวชอุ่มตามขอบอ่าง
 หรือดูโอ่งน้ำกินว่ามีน้ำเต็มตุ่มหรือไม่  
 
 สมัยก่อนยังไม่มีน้ำประปาใช้
 ต้องไปตักมาจากแม่น้ำซึ่งน้ำมีสภาพขุ่นมาก  
 เขาใช้สารส้มก้อนใหญ่เอามาแกว่ง
 จนน้ำใสเป็นตาตั๊กแตน
 แต่รสจะออกเฝื่อนๆเลยต้องใช้น้ำอุทัยหยดใส่
 และโรยดอกมะลิให้หอม  
 และขันดื่มน้ำต้องแวววาวจนแทบจะส่องหน้าได้  
 แม่สอนจนป้าอ่อนใจไม่อยากมีผัวขอขึ้นคานดีกว่า  
 ถ้าแกรู้ว่าป้าโทษแก…สงสัยคงดีดกระเด็นแน่ๆ  
 เห็นไหมกว่าจะมีผัวได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ
 
 
 ว่าไปไม่ยุติธรรมเลย
 ทำไมไม่ดูผู้ชายบ้างว่าเป็นคนดี
 หรือเป็นแย้ลากดินหรือเปล่า….
 หรือพอได้ไปแล้วชอบเอาซี่โครงเมีย
 เป็นเครื่องประดับเหน็บข้างฝา….ดื่มเหล้าดูดยา….
 ขว้างหัวหมาปาหัวคน…หรือไม่  
 เท่าที่สังเกตดูแม่จะอบรมลูกสาวให้เป็นเมียที่ดีเท่านั้นแต่ผู้ชายไม่เห็นแม่อบรมสั่งสอนบ้างเลย……………..  
 
 น้องสาวที่ชื่อแป้งมันสบประมาทว่า
 ถ้าให้หาผัวเองชาตินี้คงหาไม่ได้  
 มันจะรับภาระหาผัวให้  
 ในจดหมายเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า  
 มันเดินของมันอยู่ดีๆ ลุงโรเบิดเป็นคนสายตาสั้นมาก
 สงสัยคงลืมเช็ดแว่นตาให้สะอาด
 พูดถึงแว่นตาทีไรป้าอะเน็จอะนาจใจกับแกมาก  
 เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาแกไม่เคยเช็ดแว่นตาเองเลย
 แล้วชอบบ่นว่าสายตาแย่มากมองอะไรไม่ค่อยเห็น  
 จะให้เห็นได้อย่างไรเมื่อแว่นตาสกปรกเป็นคราบ
 ไม่เคยเช็ดเลย  
 ป้าต้องล้างให้แกแทบทุกวันเหนื่อยหัวใจจริงๆ  
 
 วันนั้น….วันที่แกจะลืมไม่ได้เลยจนชั่วชีวิต
  กามเทพคงจะแผลงศรยิงใส่toodของแกแรงไป สงสัยคงจะโดนกระดูกศรเลย*นกลับ…
 ทำให้ลุงหน้าทิ่มเดินตกหลุมมาชนน้องสาว
 จนได้รู้จักและคุยถูกคอหอยลูกกระเดือกกัน  
 
 บอกว่าถูกชะตามากถ้ามีพี่สาวจะขอสมัครเป็นพี่เขย
  แป้งมันได้โอกาสเลยรีบบอกว่ามีพี่สาว
 แต่อยู่ต่างจังหวัดถ้าสนใจจะติดต่อให้
 รับรองคุณภาพสุดขีด  
 ลุงเห็นน้องสาวสวยน่ารักมากเลยรีบบอกตกลงทันที
 คงคิดว่าพี่สาวคงจะสวยพอฟัดพอเหวี่ยงกับน้องสาว
 เรื่องคุณภาพคงจะไม่ได้ฟังเท่าไร  
 
 ป้าคิดว่าฝรั่งคนนี้มันคงโชคร้ายพอๆกับป้า..
 มาเจอกามเทพมือใหม่สงสัยเพิ่งเรียนจบหลักสูตร…
 หรือค่อนข้างจะโน๊ะเน๊ะ…
 ไม่ค่อยจะชำนาญงานมากนัก
 จึงทำหน้าที่ขาดๆเกินๆอ่อนซ้อมมาก  
 ขนาดชักพาให้มาเจอกันยังตกหลุมตกบ่อ
 และไม่ค่อยจะเลือกคนให้มาใช้ชีวิตร่วมกัน…….
 ทำงานมั่วจริงๆกามเทพองค์นี้…
 แล้วจะมาโอดครวญขอ 2 ขั้นตอนสิ้นปี…….
 
   
 ถ้าพูดถึงความรู้สึกจริงๆของป้า
 หลังจากที่ได้มาแต่งงานอยู่กินกับลุงโรเบิดใหม่ๆ  
 ถ้าสามารถถอยหลังกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่
 หรือหมุนนาฬิกากลับย้อนหลังไปได้
 แบบหนังเจาะเวลาหาอดีต
 จะภาวนาไม่ให้ลุงแกมาเดินเส้นทางเดียวกับน้องสาว
   
 ถ้าป้ารู้อนาคตข้างหน้าจะตัดสินใจใหม่
 คิดให้ดีๆคิดให้ลึกซึ้ง
 การมีผัวไม่เหมือนกับการซื้อรองเท้า
 จะได้สบัดตี..น ทิ้งได้วลาไม่พอใจแล้วเลือกหาซื้อคู่ใหม่  
 เราต้องทนหวานอมขมกลืน
 จนคิดว่าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆจึงเลิกกัน
 แต่ถ้ามีลูกด้วยกันจะเป็นปัญหาใหญ่ติดตามต่อมา  
 
 การเลิกกันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก  
 อยากให้ใครก็ตามที่อ่านเรื่องที่เขียนนี้
 ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรควรจะคิดให้รอบคอบ  
 ไม่มีใครที่ได้ผัวฝรั่งจะโชคดีกันหมดทุกคน
 ที่โชคร้ายก็มีมากด้วย  
 การเริ่มต้นมีครอบครัวใช้ชีวิตที่ต่างแด
 นต้องอาศัยความอดทนมากที่สุด
 เพราะต่างกันทุกอย่างต่างกันทุกด้าน
 ยิ่งความนึกคิดเป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน  
 
 ฝรั่งไม่ได้ร่ำรวยต้องปากกัดteenถีบ
 เหมือนคนไทยเราเช่นกัน  
 บางครั้งต้องกัดก้อนเกลือกิน
 การที่แต่งงานเพื่อจะไปอยู่อย่างสุขสบาย
 กอบโกยเงินทองอย่าไปหวังมากนัก  
 และฝรั่งไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษ
 เหมือนในหนังที่เขาเอามาฉายให้ดู  
 
 วกเข้าเรื่องต่อ….
 หลังจากอ่านจดหมายของน้องเสร็จ……
 ป้านั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับชีวิต
 เหมือนเสาไม้ปักโคลนเป๋ไปเป๋มาของตัวเอง  
 แป้งมันอยากจะให้ป้ามีผัวมาก
 การพูดนั้นง่ายแต่การทำตามนั่นยากมาก….
 ป้าต้องคิดหนักวุ่นวายไปหมดจนผมล่วงไปหลายเส้น
   
 ชีวิตของคนเราถ้าคิดดูดีๆแปลกมาก
 แต่ละคนต่างมีวิถีชีวิตแตกต่างกันไป  
 เช่น….บางคนอยากมีผัวมาก
 ตะเกียกตะกายหาแทบตาย
 ไม่ว่าจะประกาศหาคู่ทางหนังสือพิมพ์  
 ทางอินเทอร์เน็ต แต่หาไม่ได้  
 ขนาดทำผ้าเช็ดหน้าหล่นลงบนพื้น
 แต่โชคร้ายเป็นคนตาบอดเดินผ่านมาจึงมองไม่เห็น…
 แบบนี้จัดว่าดวงจู๋สุดขีด
 ไม่ต้องตระเกียกตระกายหาผัวแล้ว
   
 บางคนอยู่เฉยๆถึงคราวที่จะตกจากคานทอง
 ก็ตกกันง่ายๆไม่ต้องไปกระเสือกกระสนอะไร
 เเบบป้าก็หาผัวได้…
 .เพราะอยู่ดีๆก็มีอ้ายหนุ่มสวิสสายตาสั้น
 มาสมัครขอเป็นเพื่อนและอนาคตเป็นแฟนกัน  
 
 ป้ารีบเขียนจดหมายไปบอกน้องว่า
 ตัดสินใจเขียนจดหมายติดต่อกับลุงโรเบิด
  หลังจากเขียนจดหมายถึงน้องเสร็จแล้ว
 ก็เอาจดหมายของลุงโรเบิดออกมาจากซองจดหมายตั้งใจอ่านข้อความที่แกเขียนมาใหม่อีกครั้ง…
 .อ่านให้ดีๆละเอียดกว่าเดิม  
 อ่านไปต้องดมยาหอมไป….ตาลายเหลือเกิน เ
 พราะลายมือลุงแกตัวใหญ่
 และหัวหางพันกันวุ่นวายไปหมด  
 แต่เอ…ทำไมเมื่อเช้าอ่านได้ไวรู้เรื่องเร็วกว่าตอนเย็น………อ้อรู้แล้วเพราะเมื่อเช้าอ่านมั่วๆไปหน่อย….  
 
 หลังจากอ่านจดหมายของลุงโรเบิดเสร็จแล้ว
 ก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
 พยายามสร้างบรรยากาศสุดฤทธิ์  
 แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
 กับการสร้างความประทับใจในการตอบจดหมาย  
 ขนาดตอบจดหมายภาษาไทยยังแทบจะแย่…
 แล้วนี่เป็นจดหมายภาษาต่างด้าวซะด้วย
 กว่าจะหาคำศัพท์เสร็จแทบจะเดี้ยงเลย  
 แต่ป้าซะอย่าง
 
 ……จากประสพการการอ่านหนังสือนิยายรัก
 ที่ขายดีทุกเล่มในท้องตลาด
 และอ่านฟรีตามห้องสมุดต่างๆ
 เอามากลั่นกรองไว้ที่ปลายปากกาหมด…….  
 ถึงแม้อยากให้ลุงแกมาสนใจป้ามากเพียงใด
 แต่ป้ายังรักษาศักดิ์ศรีของหญิงไทย
 ไม่แสดงความสนใจอย่างออกหน้า
 ยังรักษาชั้นเชิงเพียบเขียนตอบแบบธรรมดา
 แต่หยอดคำหวานไว้พอสมควร  
 
 เขียนจดหมายซักถามไม่ให้แกรู้ตัว
 เพราะอยากรู้ประวัติแกมาก  
 เราต้องทำให้ตัวเราเองมีค่า
 ข้อนี้สำคัญที่สุดสิ่งไดได้มาง่ายๆ
 จะไม่ค่อยมีค่าประทับใจเท่าไร
 ถ้ายิ่งยากเท่าไรก็ยิ่งกระตุ้นต่อมกระหาย
 อยากเอาชนะมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
   
 ข้อความจดหมายที่ป้าตอบเขียนหวานจ๋อยหยดย้อยมาก
 ไม่ต้องมาถามนะว่าถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ไหม
 เพราะเขียนมั่วไปหมด
  ขนาดอ่านของตัวเองยังตาเยิ้มเลย
 คงจะเยิ้มเพราะอดนอนแปลจดหมายของลุงโรเบิด  
 ป้าเปิดหาคำศัพท์บางคำ
 จนหนังสือแทบจะช้ำเลยหาไม่เจอ
 ตอนหลังถึงได้รู้ว่าคำนั้นเป็นภาษาเยอรมัน
 เป็นจุดเริ่มต้นของอุปสรรคต่อการไช้ชีวิตคู่ในต่างประเทศ ต่อมา
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0437 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

 
 ป้าเขียนจดหมายกว่าจะเขียนเสร็จ
 ขอบตาดำเหมือนขอบตาหมีแพนด้า  
 ต้องคอยค้นหาคำศัพท์ไม่ได้หลับไม่ได้นอน วั
 นรุ่งขึ้นตอนสายๆ ไปไปรษณีย์
 เหลียวซ้ายแลขวากลัวคนที่รู้จักจะเห็นเข้า  
 ไปส่งจดหมายของน้องสาวและของลุงโรเบิด
 ดีนะที่ไม่เจอลุงพร้อม  
 
 “ ส่งจดหมายไปสวิตเซอร์แลนด์หน่อยค่ะ  
 ใช้เวลานานไหมคะกว่าจะถึงมือผู้รับ“  
 
 ป้ากระซิบถามเบาๆ  
 หน้าซีดมากช่างโชคร้ายจริงๆ
 ต้องไปถามช่องของพ่อเด็กชั้นที่ป้าสอน
 และรู้จักคุ้นเคยกันดีมาก ชื่อน้าบุญธรรม  
 แกเห็นป้ามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก…
 นุ่งผ้าถุงใช้เชือกกล้วยมัดเอวไว้ไม่ให้ผ้าหลุด
 ตอนนั้นไม่ได้ใส่กางเกงใน…
 ถ้าหลุดสงสัยคงจะคงจะตากุ้งยิงกันเป็นแถวๆ….
 และใส่เสื้อคอกระเช้าโชว์ใหปลาร้า  
 
 “ คงจะใช้เวลาประมาณร่วมอาทิตย์ครับครู  
 ส่งให้แฟนเหรอครับ ”  
 แกส่งเสียงล้อดังๆทันที…ที่สายตาเหลือบไปเห็นคำว่ามิสเตอร์ตรงหน้าซอง
   
 “อื้อ…อ้า…ไม่ใช่หรอกน้า  
 แหมเป็นเพื่อนค่ะ ค่าส่งเท่าไรคะ?”
 ป้ายืนบิดไปมาและรีบจ่ายเงินทันทีเมื่อรู้ค่าส่ง…
 อายแทบจะเอาหน้ามุดไปใต้เค้าเตอร์
 จ่ายเงินของไปรษณีย์
 
  หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว
 ป้ารีบเผ่นออกแทบไม่ทันอายจนวางหน้าไม่ถูก
  การอยู่บ้านนอกจะทำอะไรคนรู้หมด
 และคนที่นี่ชอบถามหรือทำอะไรแบบนี้  
 ถือว่าเป็นเรื่องปรกติถ้ารู้จักกัน  
 และการเรียกชื่อก็เหมือนกัน
 เรียกทียกตระkunมาเลย
 แบบเรียกจนหัวหน้าตระkuลที่ตายไปแล้ว
 ถึงกับสะดุ้งแทบจะลุกออกมาจากหลุม  
 
 หลังจากนั้น….เวลาผ่านไปร่วม 2 อาทิตย์  
 ป้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
 แต่จริงๆแล้วก็คอยเงี่ยหูผึ่ง
 ฟังเสียงปิ๊น ปิ๊น แทบทุกวัน
 อยากรู้นักว่าฝีมือในจดหมายของป้าจะเป็นอย่างไง
 บ้างใช้ได้ไหม….สยบใจคนอ่านหรือเปล่า……
 .  
 เรียกว่าลุ้นระทึกรอรับจดหมายตอบ
 จากลุงแทบทุกวัน
 แต่ยังวางฟอร์มไว้ตลอดเวลา
 แบบไม่สวยแต่ยังทำเป็นหยิ่ง  
 
 ปัจจุบันนี้ไม่ต้องรอลุ้นกันหรอก
 ติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต
 ได้คุยทางเสียงได้เห็นหน้าตากันปุ๊บ
 แต่จะถูกใจกันปั๊บหรือไม่นี่ไม่กี่นาทีก็รู้เรื่องกันแล้ว
  แต่ป้าชอบแบบติดต่อทางจดหมาย
 แบบต้องรอลุ้นทำให้มีรสชาติมากกว่า  
 ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง  
 
 ในที่สุดลุงโรเบิดก็ตอบกลับมา…..
 เล่าประวัติพร้อมส่งรูปถ่าย….
  ตะลึง ตึง ตึง ตึง  
 แบบเพลงของอันวา  
 อยากตะโกนดังๆ ฉันเกลียดมากชายมีหนวด  
 โดยเฉพาะหน้าตาแบบผู้ร้ายตู..ดปอดในหนังไทย
   
 ใบหน้าคล้ายๆพระเอกหนังหรั่งที่ชื่อคล๊าก เกเบิ้ล  
 เป็นโสด…เสียความบริสุทธิ์ไปนิดหน่อย..
 ไม่ค่อยช่ำชองกับชีวิต  
 อกหักมีหนองกลัดอยู่ 2 หัว  
 อายุ 36 ปี สูง 178 เซ็นติเมตร  
 น้ำหนัก 65 กิโลกรัมกับอีก1ขีด  
 
 จุดเด่นที่ถูกใจมากที่สุดบนใบหน้า
 ก็อีตรงลูกกระตาที่มองดูซื่อใสบริสุทธิ์โน๊ะเน๊ะมาก
  ดูซื่อสัตย์ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแบบซื่อจนเซ่อ  
 แววตานี่แหละหนาเขาว่าเป็นหน้าต่างของหัวใจ  
 ที่ตู..ดข้างซ้ายมีปานดำเล็กเท่านิ้วก้อยป็นสัญญลักณ์  
 รักสายลมแสงแดด  
 ชอบปีนป่ายอะไรก็ได้ถ้ามีโอกาส…….
 ชอบขึ้นเขาลงห้วย รักการร้องเพลง…
 และเสียงเพลงเเบบโห่หอนพื้นเมืองประจำชาติสวิส  
 พิศมัยการขยับแข้งขยับขาเต้นรำเป็นชีวิตจิตใจ
 จนได้รับใบประกาศเหรียญทองมานอนกอด 1 แผ่น
  ส่วนเหรียญทองไม่มีแจก  
 สงสัยแกคงคงไปเข้าร่วมแข่งกับกลุ่มกระจอก
 เลยไม่มีทุนซื้อเหรียญทอง  
 
 รักการท่องเที่ยวพเนจรเร่รอนแบบเจ้าไม่มีศาล  
 ทำให้ป้านึกถึงเพลงทีสมบัติ เมทะนี
 ร้องชื่อเพลงเจ้าไม่มีศาลในหนังเรื่องหนังจุฬาตรีคูณได้
  หมอนี่รักการเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
 ขนาดขายบ้านที่ประเทศนิวซีแลนด์
 เพื่อออกท่องเที่ยวทั่วโลก  
 ป้ามารู้หลังจากแต่งงานแล้ว
 ถ้ารู้ก่อนคงจะไม่เอามาเป็นผัวหรอก
 อีตานี่ทำอะไรเว่อร์จริงๆ  
 
 เรื่องอาชีพแกบอกมาคร่าวๆว่า
 ทำเกี่ยวกับการตรวจวิจัยค้นหาอะไรเพื่อไม่ให้อยู่ว่าง…..
 ทั้งล้าง..ทั้งเช็ดและทั้งถูจนผอมเหลือแต่ซี่โครง….
 ที่สภากาชาดสวิสที่มีรูปเครื่องหมายกากะบาดสีแดง  
 ตอนนั้นป้าไม่ค่อยเข้าใจหรอก
 แกบอกว่าแดงก็แดงตามแก
 จนมาอยู่ด้วยกันแล้วถึงได่รู้ว่าหมายถึงอะไร……และแกทำเกี่ยวกับอะไรแต่อย่าไปรู้เลยปวดหัวเปล่าๆ….  
 ก็บอกแล้วไงว่าป้าปัญญาค่อนข้างจะอ่อนหน่อย
 หรือที่เขาชอบเรียกกันว่าซื่อบื้อ….
 ฟังแล้วเชื่อทุกอย่าง  
 
 แกเขียนมาขอรูปถ่าย
 ทำให้ป้าก็ต้องมานั่งกลุ้มใจมาก
 สงสัยจังการติดต่อกับชาวต่างชาตินี่
 เป็นผลดีหรือผลร้ายต่อสุขภาพจิตกันแน่  
 ถ้าใครที่มาตกอยู่ในสภาพแบบป้ายามนี้
 จะทำอย่างไรดี  
 
 สาววัยจ๊าบถึงแม้จะจ๊าบน้อยไปหน่อย
 อายุ 24 ปี น้ำหนักประมาณ 38 — 39 กิโลกรัม  
 สูง 150 เซนติเมตร  
 สภาพขาดสารอาหารเต็มที่
  มีนมขนาดแค่ผลมะนาว  
 หุ่นทรมารใจชายกลัดมันมาก
 แบบเจอแล้วทำอะไรไม่ลง
 เพราะกลัวว่ากระดูกจะทิ่มตำเนื้อ  
 
 ตาบ้องแบ๊ว คิกขุ
 รวมกันเข้ากับสิวหัวช้างที่กำลังเบ่งบานได้ที่  
 ขนาดตัวป้าเองยังไม่อยากจะส่องกระจก
 ดูหน้าตัวเองเลยคิดว่าทำไมตัวเราถึงได้ขี้เหร่ปานนี้……..ทำไมไม่ให้ป้าสวยเหมือนมิสไทยแลนด์เวิลด์บ้าง…
 อุตส่าห์กัดฟันทำบุญด้วยข้าวสวยคลุกเกลือทุกวัน….
 รับรองว่าหลวงพี่…หลวงลุง…
 แถวบ้านป้าไม่ขาดไอโอดีนแน่ๆ  
 
 เห็นไหมว่าขนาดป้าทำบุญยังคิดการไกล
 ไม่ยอมให้หลวงพี่…หลวงลุง…
 เป็นโรคคอหอยพอก…
 แบบนี้น่าจะให้สวยหน่อยก็ไม่ได้…
   
 นี่เป็นเพราะฝูงสิวหัวช้างที่มาทำลายความงาม  
 ไม่ว่าใครก็ต้องคิดตรงกันกับป้าแน่  
 ถ้าขืนส่งรูปไปรับรองว่าลุงโรเบิดคงจะช๊อค
 เปิดtoodหนีแน่บ…..
 เรียกอย่างไรก็คงไม่หันหลังกลับมาแน่ๆ
  เลยตัดสินใจไม่ส่งรูปไปดีกว่า
 เรียกว่าเราต้องเรียนรู้การอ่อยเหยื่อ  
 
 จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตภายภาคหน้า
 ก็ว่ากันอีกทีหนึ่ง  
 จึงได้เขียนตอบไปเฉยๆแบบเลี้ยงต้อยไปก่อน  
 ไม่ได้ส่งรูปไปให้บอกเพียงสั้นๆว่า….
 รูปร่างหน้าตาคล้ายโซเฟีย ลอร์เรน
 ดาราหนังนมโต ชาวอิตาเลี่ยน
 ตอนถ่ายรูปมัวๆอากาศไม่ค่อยดีแดดน้อยไปหน่อย….
 
 หรือรูปถ่ายในระยะไกลประมาณ 300 เมตร  
 แกคงนอนฝันหวานสร้างวิมานในอากาศ
 และจินตนาการว่าสวยอึ๋มพร้อมทั้งเปรียบเทียบป้า….
 กับสาวๆในหนังสือ เพล์บอย
 ที่แกเป็นสมาชิกอยู่  
 
 ป้ามารู้ตอนแต่งงานอยู่กินกับแกแล้ว
 แกชอบอ่านหนังสือพวกนี้มากเก็บอย่างดี…
 และเอาภาพของสาวอึ๋มพวกนี้แปะติดข้างฝาห้องนอนเชียวนะ…..
 ตอนเป็นหนุ่มจัดว่าแกซ่าไม่เบาจริงๆ  
 
 เท่าที่รู้แกผ่านมามากมายหลายประเทศ
 เกือบจะทั่วโลกแล้วกระมัง
 ไม่งั้นคงไม่อยู่จนถึงอายุปานนี้หรอก
 และ ถ้าจะพูดเล่าถึงประวัติย้อนหลังของลุงโรเบิด
 ตอนเป็นหนุ่มมีเรื่องให้นินทาเยอะ
 ถ้าเว้ากันแบบซื่อๆแกซ่ามาก….
 มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยที่แกเป็นหนุ่ม
 ก่อนที่ป้าจะได้รู้จักกับแก  
 
 ที่ป้ารู้เพราะความสอดรู้สอดเห็น
 ไปแอบอ่านเจอความลับในสมุดบันทึกความทรงจำ
 ตอนที่อยู่ด้วยกันแล้วเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  
 รอให้แกมาเล่าถึงความหลังตอนเป็นหนุ่ม
 รับรองไม่มีทางที่จะมาบอกความลับอันนี้หรอก  
 
 ป้าเป็นตำรวจบ้านที่ชำนาญการค้นหาหลักฐาน
 แต่สันดานแย่มากข้อเสียอันนี้รู้ดี  
 นี่ดีนะที่ลุงไม่รู้เรื่องและอ่านภาษาไทยไม่ได้…
 จึงไม่รู้ว่าป้าเขียนหรือเล่าอะไรให้ฟังกัน  
 ถ้าแกอ่านภาษาไทยได้…
 สงสัยป้าคงจะเดี้ยงแน่ๆเลย  
 นิสัยแบบนี้อย่าทำตาม
 เพราะผู้ชายบางคนเกลียดมาก
 ดีไม่ดีอาจจะเลิกกันได้  
 ขอเล่าคร่าวๆเอาตอนสำคัญพอ  
 
 เมื่อแกอายุประมาณ 26 ปี….
 ป้าอายุ 13 ปีตอนนั้นประจำเดือนยังไม่มา….
 มันมาช้ามากอายุเกือบจะ16ปีถึงมา
 มิน่า…นมต้มเลยไม่ค่อยมี  
 แกมีคู่หมั้นแล้วเป็นสาวชาวสวิสไม่รู้ว่าไปทำ  
 อีท่าไหนเขาเลยหักอกเh่ยวๆของแก  
 ป้าไม่เคยเห็นรูปแต่ไปค้นเจอจดหมายรักเขียนถึงกัน
  แกเก็บไว้เป็นที่ระลึกแม้กระทั่งบัตรแสดงความยินดี
 ต่อการหมั้นไม่ยอมทิ้ง  
 สงสัยคงเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ถึงรักแรก  
 
 เห็นน้องชายลุงที่อายุอ่อนกว่า4ปี
 เล่าให้ป้าฟังเมื่อ2ปีที่แล้ว
 เพราะป้าอยากรู้มากเลยถาม…
 เจ็บหัวใจมาจนทุกวันนี้สมน้ำหน้า….  
 เขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากเหมาะสมกับลุงทุกอย่าง…..
 
 แกถึงได้รักมากความเสียใจจนหัวอกกลัดหนอง
 ทำให้ลุงโรเบิดหนีเตลิดไปอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ 10 ปี  
 หัวใจแกไม่ค่อยจะรักดี
 เลยไปเจอรักใหม่อีกครั้งกับสาวนิวซีแลนด์
 มีชื่อว่าแมรี่จนเกือบจะกลายเป็นหนุ่มกีวีไป…
 ถ้าสาวเมืองนี้ไม่สะบัดtoodหนีแกไปเสียก่อน  
 
 ป้าเห็นรูปผู้หญิงคนนี้ไปแอบค้นเจอโดยบังเอิญ..
 หน้าตาหวานรูปร่างอึ๋มมาก
 ภาพนี้ลุงโรเบิดแกโอบกอดประคองแน่น
 ไม่ยอมปล่อยเลย  
 
 ลุงชอบผู้หญิงเนื้อ นม ไข่  
 ความเสียใจอกกลัดหนองซ้ำสองแหม...แผลเดิม  
 ซะด้วย….
 แกเลียนแบบเดิม…คงจะตีตั๋วไปกลับเข้าไว้…
 เลยหนีกลับมาประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมืองพ่อ
 นี่เป็นคำพูดกล่าวถึงประเทศของลุงแก  
 ช่างน่าสงสารจริงๆไม่รู้ว่าทำเวรทำกรรมอะไรไว้
 จึงมีแต่คนหักอกแกและหักเกือบจะทุกชาติทุกภาษาเลย  
 นี่คือประวัติรักคร่าวๆของลุงโรเบิดตอนเป็นหนุ่มหล่อ
 จนต้องเอาตะใบถู….ก่อนเจอป้า…..  
 
 วกเข้าเรื่องต่ออีกครั้งหลังจากเล่าค้างอยู่….
 ที่ป้าไม่ส่งรูปให้ลุงโรเบิดเพราะสาเหตุอะไรคงรู้กันแล้ว…
 ไม่ต้องห่วง…หรือกังวล กลัวว่าป้าจะสวยแพ้คนอื่น…
 ป้าจะพยายามทุกอย่าง…จะคอยบำรุงตัวเองเต็มที่  
 รับรองจะขนทั้งกวนอิม…..ยาผีบอก…
 ผีร่อนเร่พเนจรแบบไหนเอาหมด….
 สารพัดยาบำรุงต่างๆ
 ไม่ว่าจะยาฆ่าพวกพยาธิปากขอปากงอทั้งหลาย  
 เรียกว่าจะงัดตำราวิทยายุธทั้งหลายออกมา
 ให้หมดเพื่อค้นคว้าสร้างความงามอย่างเดียว
   
 สงสัยว่าวาสนาของป้า
 จัดอยู่ในพวกต้องออกกำลังกาย
 ต่อสู้กับพวกมารร้ายทั้งหลายหน่อย
 ก่อนจะประสบกับชัยชนะสำเร็จในชีวิต  
 
 ยาผีบอกยังไม่ทันจะออกฤทธิ์โฉมหน้า
 ยังไม่ทันเปลี่ยนแปลงก็เกิดเรื่องขึ้น
 หลังจากป้าติดต่อกับลุงนานพอควรก็เริ่มมีปัญหา…..
 ศัตรูหัวใจเกิดขึ้น……..
   
 ปัญหานี้เกิดจากลุงโรเบิดทำขึ้นมา
 ไม่ใช่คนอื่นคนไกล
 หมอนี่ชอบสร้างปัญหามาก  
 แกติดต่อสาวไทยมากมายหลายต่อหลายคน
 เป็นคนที่ชอบเผื่อเลือก….
 รักเพื่อต่อรองแล้วจะมาเล่าให้ฟังทีหลัง
 เกี่ยวกับสาวๆเหล่านี้  
 ได้รับข่าวจากน้องสาวว่า
 แกหันเหไปหาแฟนเก่าที่เคยหมั้นหมายกันไว้ก่อน
 ที่จะมาติดต่อกับป้า
 
  ต่อมาเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับชายไทยแล้วเลิกกัน  
 จึงหันกลับมาติดต่อกันอีก
 และมีการสัญญากันว่าคราวนี้
 จะไม่มีการพรากจากกันจนชั่วชีวิต….
 รักแบบชั่วฟ้าดินสลาย  
 
 ลุงโรเบิดก็เริ่มเกิดอาการรวนเร….
 จิตใจเริ่มอ่อนไหวเหมือนกอไผ่ลู่ลม
 มันช่างเหมือนลมพัดหวนมาใหม่  
 มิน่าแกถึงได้หายเงียบไปไม่ค่อยยอมตอบจดหมาย  
 แม่สื่อเก่าของเขาก็ลุ้นกันเต็มที่
 
 เรื่องนี้น้องสาวรู้ดีเพราะบ้านแม่สื่อเก่า
 เขาอยู่ใกล้กับบ้านแม่เป็นเพื่อนบ้านกัน…
 เรียกว่าสงครามประชิดติดชายแดนนี่เอง  
 ป้าอยากยกธงขาวยอมแพ้ไปสงบสติอารมณ์…
 .เลียแผลใจคิดว่าทำอย่างไร¨
 ไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้  
 ป้าเคยเจอและเคยคุยกับคู่หมั้นเก่า
 ของลุงโรเบิดมาแล้วตอนไปเยี่ยมแม่
 และน้องที่เชียงใหม่  
 
 แป้งมันอยากคุยกับป้าเรื่องแฟนเก่าของลุงโรเบิด….
 เขาอายุอ่อนกว่าป้า 3 ปี ชื่อน้องแก้ว  
 น่ารักมากเรียบร้อยอ่อนหวาน
 
 ขนาดป้าเป็นผู้หญิงยังแอบชอบเลย
  รูปร่างเซ็กซี่ จุดเด่นคือนมโตมาก
  สูงโปร่งประมาณ 168 เซนติเมตร  
 เรียกว่า ขาว…สวย….หมวยอึ๋ม  
 ถูกสะเป็คลุงโรเบิดที่สุด  
 
 ขานี่สวยมากเลยเป็นสาวทันสมัยสุดขีด  
 ถ้าเป็นนักมวยจัดอันดับคนละชั้น  
 สภาพของป้าเหมือนนักมวยบักโกรกเต็มที่……..  
 น้องแก้วรู้ว่าป้าเข้าสนามแข่งสงครามรัก…
 หรือศึกชิงหนุ่มหล่อ..ลากดินแบบลุง…  
 สายตาที่มองป้าแสนจะสังเวชใจมาก……  
 “พี่โรเบิร์ต รักน้องแก้วมากที่สุดเลย  
 ตอนที่หมั้นกับน้องแก้วโอ๊ยหึงน้องแก้วมาก  
 นี่ไงคะแหวนหมั้นน้องแก้วยังเก็บไว้เลย”  
 
 เขาเอาแหวนหมั้นเก่าของลุงมาอวด  
 “ น้องแก้วยังไม่อยากแต่งงานไวๆ
 เลยขอพี่เขา1ปี ตอนแรกพี่เขาไม่ยอม
 อยากแต่งไวๆ  
 น้องแก้วรำคาญมากเลย
 อยากจะถอนหมั้นแต่สงสารที่มานั่งร้องไห้  
 เขาคิดถึงน้องมากค่ะเขียนมาหาแทบทุกวันนี่ไงคะ”
 เอาจดหมายรักที่เขียนติดต่อกันมาให้ดู  
 “ตอนนี้น้องกับพี่โรเบิร์ตหันมาคืนดีกันแล้วค่ะ  
 น้องผิดเองที่ทิ้งพี่เขาไป  
 ดีใจมากค่ะที่พี่เขาไม่ถือโทษ
  นี่เขียนบอกมาว่าให้น้องเตรียมตัว
 เพื่อไปแต่งงานกับเขาใหม่ค่ะ  
 โอ๊ยน้องดีใจมากเลย น้องเตรียมกระเป๋าไว้แล้วค่ะ  
 เขาบอกว่าสุดที่รักอีก 5 เดือนจะเจอกัน
  พี่เขาแทบจะทนรอไม่ไหวเลย”  
 น้องแก้วพูดพร้อมทั้งลากเอากระเป๋าเดินทาง
 ที่เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางออกมาอวด  
 เรียกว่าข่มขวัญเต็มที่ เข้าใจข่มขวัญข้าศึกจริงๆ……..
 เพราะใจป้าเริ่มฝ่อสมใจกับความต้องการของเขา
 เลยบอกกับแป้งว่าไม่เอาแล้วผัวถ้าหากว่าจะต้องขึ้นคานช่างหัวมัน  
 
 ยอมรับว่าหมดอารมณ์และนึกเคืองลุงโรเบิดมาก…
 ..ทุกวันนี้ถ้านึกถึงเมื่อไร
 ก็ยังโมโหจนลมออกหูทั้งสองข้าง  
 แต่น้องสาวป้ามันไม่ยอมมันคงจะแค้นใจแทนพี่สาว  
 งานนี้มันเป็นผู้จัดการใหญ่หาคู่ให้ป้า
  เพราะใบการันตรีแท้ๆ
 มันจึงต้องแสดงให้เห็นว่าใบนี้ไม่หมดอายุแน่นอน  
 คงอยากจะวัดดูดวงว่าดวงใครจะแน่กว่ากัน  
 และอยากเอาชนะคงหมั่นไส้มากกว่า
 ที่เขาขย่มขวัญเราเสียจนกระเจิงไปหมด  
 ป้าต่อสู้ด้วยใจอันแน่วแน่
 ไม่ยอมแพ้กับอธรรมทั้งหลาย
 
  พร้อมทั้งวิ่งไปหาหมอดู….
 ซักถามจนหมอแทบจะย้ายสำนักงานหนีทันที
 ที่เห็นหน้าป้า ที่ทำไปทุกอย่าง
 เพราะหูกำลังอื้อที่เขาเที่ยวคุยอวดกับใครต่อใคร
 ว่าลุงโรเบิดเลือกเขาแล้ว…
 ให้ไปทำพาสปอร์ตจะมารับอีก 5 เดือนข้างหน้า
  เขากำลังจะเดินทางมาเมืองนอก
 เรียกว่าคุยถล่มเราเต็มที่  
 
 ฮึ่ม….อีตาโรเบิดนี่ใจโลเลจริงๆ
 ป้ารู้สึกว่าหูอื้อลมออกหูอีกแล้ว……
 แต่ทำอะไรไม่ได้อาฆาตไว้ภายใน  
 ถ้ามีโอกาสวันใดรับรองจะแก้แค้นแกคืน  
 ป้ายังไว้ฟอร์มเดิม
  คือ ภายนอกวางเฉยไว้เหลี่ยมข้างใน……..
 ทั้งๆที่ป้าไม่มีความหวังอะไรแล้วนะ  
 
 จากนั้นป้าและแป้งร่วมกันวางแผนรบสยบรัก…….  
 น้องมันเขียนจดหมายไปต่อว่า  
 ลุงโรเบิด ใหญ่เลย  
 ป้าเองก็เขียนจดหมายถี่ขึ้น  
 ตาจะดำแค่ไหนไม่สนใจแล้ว  
 เขาจะอ่านหรือไม่อ่านช่างมัน  
 พยายามสร้างความผูกพันทางโวหารเต็มที่
 แบบใช้คารมเป็นต่อ  
 
 ต้องเข้าใจให้ดีป้ากับลุงโรเบิดไม่เคยเห็นหน้า……
 ไม่มีอะไรผูกพันกัน  
 ทางฝ่ายโน้นเขามีเหนือกว่าทุกประตู
 เรียกว่านอนรอรับชัยชนะเต็มที่  
 ป้าไช้คติว่าอะไรๆถ้าจะเป็นของเรา
 เมื่อถึงเวลาอันสมควรมันก็ย่อมเป็นของเราวันยังค่ำ……
 แต่เอ….ไม่รู้งานนี้ป้าจะชวดไหมหนอ….
 คิดแล้วกลุ้ม  
 
 แต่อย่างว่าลุงโรเบิดคงจะชอบจับปลาหลายมือ…
 .แกก็ยังคงติดต่อกับป้าไม่ตัดขาดเสียที
 คงเป็นเพราะจดหมายอันหวานหยดย้อย
 แต่จริงใจปนความซื่อบื้อของป้ากระมัง  
 และแล้วอยู่ๆมาวันหนึ่ง เอาอีกแล้ว…….
 เขาว่าพระย่อมไม่เข้าข้างคนผิดอานิสงค์จึงเกิดกับเรา
 ฝ่ายธรรมะ หรือดวงของเราคงจะเฮงกว่าเขา……..
 
 เรื่องลุ้นระทึกใจอันกระปรกกระเปลี้ยของป้ามาอีกแล้ว  
 เรียกว่าต่อมความตื่นเต้นตื่นตัวตลอดเวลา  
 ไ.อ้เจ้าสิวหัวช้างของป้ามันจะมีวันหายไหมหนอ
 ก็เพราะ*อารมณ์และร่างกายทำงานไม่ค่อยจะปรกติสุข
 ซึ่งคอยแต่จะเร่งกระตุ้นต่อมสิวทำงานตลอดเวลา  
 ลุงโรเบิดมากระตุ้นต่อมความตื่นเต้นของป้าอีกแล้ว
  เรื่องมันมีอยู่ว่า  
 
 เขาไล่ให้ป้าไปทำพาสปอร์ต อีก 5 เดือนเจอกัน……ไชโย….เขาเลือกเรา  
 
 pall52  
 18.10.02  
 
 
 

เกตุ

กี๊ดดดดดดดดดดด ป้าตื่นเต้ลล์ ตื่นเต้ลล์ มาอีกเร็วๆนะค๊า แง่มๆๆ  
 สงสัยป้าไปปีนหลังคาก่องแน่เลยง่ะ น่าติดตามมั่กๆค่ะ จะรอตอนต่อ
 ปาย

teeraday

อ่าน ๆ    ๆ  อ่านทุกตัวอักษร ของสาวเมืองพิจิตร อดีตชาละวัน คร๊าบบบบบบบ

miko

โหห .....สุดยอดเลยป้าเราตื่นเต้นๆๆ ขอตอนต่อไปด่วนคะ

ทิรามิสุ

ป้า เรื่องของป้า คล้ายๆๆ ของหนูเลย อิอิ เพียงแต่ของหนูเป็นจดหมายอิเลคโทนิค ส่งผ่านอินเตอร์เน็ต

แจงจ้า

กรี๊ดดดดดดดดด
 
 ลุ้นระทึกมากๆเลยจ๊ะป้า..
 
 เอาอีก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ