เด็กหายขนาดไปทัศนศึกษากับโรงเรียน

Previous topic - Next topic

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

                   เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอากาศค่อนข้างดี คือไม่มีหมอก  ( แต่อย่างไงก็หนาวติดลบ ) โรงเรียน ( Schule )สองแห่งรวมทั้งอนุบาล( Kindergarten )ในเขตอำเภอที่อยู่ ได้มีการพานักเรียนไปทัศนศึกษาครึ่งวัน ( Schulreise ) ที่ทะเลสาบ ( Pfäffiker see ) เพราะน้ำในทะเลสาบเป็นน้ำแข็งทั้งหมด ทำให้คนสามารถลงไปเดินและเล่นสเก็ตน้ำแข็งได้  ( Schlittschuh ).
 
 โดยมีจดหมายแจ้งมาให้ผู้ปกครองเตรียม อาหารว่าง น้ำดื่ม ให้ลูกใส่ชุดที่อุ่นพอ รองเท้าที่ไม่ลื่นเมื่อเดินบนน้ำแข็ง และถ้าใครมีรองเท้าสเก็ตก็นำมาได้ โดยทั้งสองโรงเรียนได้แบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่ายเพื่อกระจายไปที่ละครึ่งโรงเรียน.
   
 อย่างของลูกหมูสามตัว  โรงเรียนหมูใหญ่ไปช่วงเช้า หมูแฝดไปช่วงบ่าย ตอนเช้าไปส่งหมูใหญ่ เห็นเด็กนักเรียนจำนวนมาก พากันเดินเป็นกลุ่มขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน ยังนึกในใจว่า นี่แค่โรงเรียนในเขตนี้นะ วันนี้รับรองต้องมีเด็กในเขตโรงเรียนอื่นๆไปด้วยแน่ๆ เพราะที่ไหนไม่เสียเงิน คนเยอะแน่ๆ ลูกๆไปแล้วกลับมาก็เล่าให้ฟังด้วยความสนุกสนาน มีความสุข เราก็ดีใจไปกับลูก.
   
 แต่หลังจากนั้นก็ได้ทราบข่าวว่ามีเด็กนักเรียนชายหายป.2  ( 8ขวบ)หายพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนและครู แต่โชคดีที่มีคนเห็นแล้วนำไปส่งเจ้าหน้าดับเพลิง*้ภัย และได้ติดต่อพ่อแม่มารับ      
 
 สัปดาห์ต่อมาจึงรู้ว่าเป็นลูกของเพื่อนรวมชั้นเรียนภาษาของเราเอง เธอได้เล่าให้ฟังพร้อมน้ำตาที่คลอว่า เธอได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงว่าขนาดลูกคุณอยู่กับเราเพราะพลัดหลงกับครูและเพื่อน เด็ก มีคนนำมาส่งเราที่ศูนย์หน่วยดับเพลิงที่ตั้งเต้นใหความช่วยเหลืออยู่ข้างทะเลสาบ ลูกคุณปลอดภัยดี แต่อาจช็อกยังร้องไห้ตกใจอยู่บ้าง แต่เราพยายามปลอบและสอบถาม ชื่อนามสกุล  เบอร์โทรศัพท์ของคุณให้เราติดต่อได้  ขอให้คุณมารีบมารับ เพื่อนเธอตกใจมากเธอบอกวินาทีนั้น เธอเองก็ช็อก เพราะเธอยังไม่ได้รับการติอต่อมาจากครูประจำชั้นของลูกเสียด้วยซ้ำ เธอพยายามตั้งสติ และขอพูดกับลูกปลอบลูกว่า "แม่จะขับรถไปรับเดียวนี้ อย่างร้องไห้นะ อยากกลัว" หลังวางโทรศัพท์ครุประจำชั้นก็โทรเข้ามาว่าลูกเธอหายแต่ไม่รู้ว่าหายที่ไหน เมื่อไร เพราะไม่แน่ใจว่าเด็กลงตามสถานีรถไฟที่ผ่านมาหรือป่าวเพราะต้องมีการลงต่อรถไฟ หรือเด็กลงสถานีอื่นไปก่อนเพราะจากทะเลสาบมาถึงสถานีที่จะลงราวห้าสถานี หรือพลัดหลงกันที่ทะเลสาบครูเองก้ไม่แน่ใจแต่ได้โทรหาติดต่อตำรวจแล้ว เธอบอกฉันรู้แล้วและกำลังจะไปรับลูกของฉัน แล้วเธอก็รีบขับรถไป เธอบอกว่า เธอแทบไม่ได้ดูสนใจสัญญาณไฟจราจร มองอย่างเดียวป้ายบอกทางไปที่ทะเลสาบ ความคิดเธอใจเธอไปถึงที่นั้นแล้ว เธอบอกเธอไม่รู้ว่าเธอฝ่าไฟแดงหรือป่าวหรือขับรถเร็วเกินกำหนดหรือป่าวเธอไม่สนใจสิ่งใดเลยเวลานั้น.
         
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0044 ห้อง stories_life (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

หลังจากรับลูกแล้วและได้คุยกับครูแล้ว เด็กหายเพราะ วันนั้นมีเด็กต่างโรงเรียนเป็นจำนวนมากที่ไปทัศนศึกษาเช่นกัน ห้องลูกเธอมีครูหนึ่งคน แม่เด็กนักเรียนที่ไปช่วยดูแลเด็กด้วยอีกสอง ช่วงที่ใกล้เวลาจะกลับแล้วเรียกรวมกลุ่ม มีเด็กมาขอไปเข้าห้องน้ำสามคนและลูกเธอก็มาขอแบบรีบเพื่อวิ่งตามเพื่อนสามคนแรกไป พอเด็กสามคนแรกกลับมารวมกลุ่ม ทุกคนก็ออกเดินทางกลับทันทีโดยลืมนึกถึงลูกเธอที่วิ่งตามเพื่อนไปรอบหลัง ครูเองมารู้ว่าเด็กหายตอนที่เพื่อนของลูกเธอถามว่าลูกเธอหายไปไหน คือเกือบจะถึงสถานีที่จะลงแล้วตอนแรกครูคิดว่าเด็กวิ่งไปตู้อื่นหรืออยู่ในห้องน้ำของรถไฟ ก็หา แต่ไม่เจอ  สรุปคือ ระหว่างผู้ใหญ่ที่ดูแลสามคน คือ ครู แม่เด็กอีกสองคน ไม่ได้มีการแบ่งเด็กเป็นกลุ่มเพื่อแต่ละคนรับผิดชอบดู แต่ใช้วิธีสามคนดูรวมหมด และมีการไปจำผิดสลับกับเด็กของโรงเรียนอื่นคือ เห็นเด็กอื่นมาเดินใกล้ๆนึกว่าของกลุ่ม และไม่ได้นับจำนวนเด็กก่อนออกเดินทาง เด็กๆเองก้กำลังตื่นเต้นดีใจที่ได้เที่ยวได้เล่นจึงไม่มีใครนึกถึงใครที่จะบอกว่าเพื่อนคู่บัดดี้กันหายไปไหน เธอและสามีได้พบครูและหัวหน้าครูเพื่อต่อว่า ในการบกพร่อง แม้จะบอกว่า วันนั้นมีเด็กจำนวนมาก แต่การตะหนักถึงความปลอดภัยของนักเรียนในชั้นของตัวเองต้องมีมาก แม้ว่า แม่เด็กอีกสองคนจะไปช่วยอาจจำเด็กไม่ได้ทุกคน แต่ครูต้องจำเด้กในชั้นของตนเองได้
  เธอบอกว่าแม้ลูกเธอจะปลอดภัยหายแล้วเจอ แต่เธอนอนไม่ได้เลยใจไม่เป็นสุขตั้งแต่วันนั้น เพราะเอคิดว่า ถ้าวันนั้นคนที่เจอลูกเธอไม่นำมาส่งแต่เป็นพวกลักเด็กเอาไปขาย หรือเด็กหายไปอย่างเยอรมัน หรือพวกโรคจิต มันจะเกิดอะไรกับลูกเธอ เธอย้อนนึกไปถึงเรื่องข่าวที่อังกฤษที่เคยเกิดขึ้น เธอบอกเธอนอนไม่ได้ และเข้าไปกอดลูกที่ห้องนอนทุกคืน
 

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

เราได้นั่งคุยกันรวมทั้งเพื่อนในห้องเรียน นิดถามครูที่สอนเราว่า ทำไมที่นี่ไม่มีการให้เด็กมีเครื่องหมายของกลุ่ม อย่างเช่นผ้าพันคอ หมวก เมื่อเวลาที่จะมีการไปทัศนศึกษา ครูก็แจ้งให้เด็กๆ พอกลับก็เอาคืนให้เพื่อใช้ในครั้งต่อไปน่าจะช่วยในการจดจำกลุ่มเด็กของตนได้ง่ายขึ้นอีก เพราะนิดเองในบางโอกาสที่สะดวกมีเวลาจะไปช่วยครูเค้าดูแลเด็กด้วย ตั้งแต่ลูกๆอยู่อนุบาล จึงสังเกตเห็นว่า เวลาไปทัศนศึกษา จะไปเจอเด็กโรงเรียนอื่นเสมอ เพราะอาจเป็นช่วงที่อากาศดี สถานที่นั้นมีงานที่น่าสนใจกับเด็ก และไม่เสียเงิน  
 
 จากประสพการณ์ของตัวเอง เวลาลูกๆจะไปทัศนศึกษา
 1. จะเขียนชื่อ เขียนที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน ที่ทำงาน มือถือ ใส่กระเป๋าเล็กๆแบบคล้องไว้ที่คอได้ เพราะถึงเขียนใส่เป้ลูก หรือ เสื้อกันหนาว เด็กอาจวางลืมทิ้งไว้เพราะความตกใจ จะเดินร้องไห้แต่ตัวไม่สนใของ แต่ถ้าอยู่กับตัวไม่มีทางหาย.
 2.จะคอยสอนให้รู้จำเบอร์โทรศัพท์มือถือและบ้าน และชื่อที่อยู่ อย่างลูกเล็กๆ เวลานั่งรถไฟจะถามว่าบ้านเราลงสถานีชื่ออะไร ถนนบ้านเราชื่อะไรเลขที่เท่าไร บางครั้งการเล่นพูดคุยก็เป็นการสอนลูก จดจำ ไปในตัว  
           เราเองเป็นแม่คนถึงไม่ใช่ลูกเราหาย แต่พอได้รู้ได้ข่าว  เราก็น้ำตาคลอ ใจหวิว แล้วแม่ของเด็กที่หายหละ เค้าจะขนาดไหน .
     
   เพื่อนๆที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังเข้าเรียน ทำแบบไหนกันบ้างเวลาลูกไปทัศนศึกษาเพื่อเป็นการป้องกันเรื่องเด็กพลัดหลง.

เทียนหอม

สวัสดีค่ะ คุณนิด
 ยังไม่มีลูกค่ะ แต่มาจิ๊กเคล็ดลับ จำไว้สอนลูกเรื่องที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน และจะเขียนป้ายให้ลูกพกติดตัวด้วย  
 
 จำได้ว่า ตอนเด็กๆก็เห็นเพื่อนบางคนพกป้ายแบบนี้ติดตัว คิดว่าเป็นการเตรียมตัวที่ดีของพ่อแม่ค่ะ