เอกสารในการยื่นวีซ่า และคำถามในการสัมภาษณ์

[moddam]

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆและป้าพอล พรุ่งนี้มดจะไปยื่นเอกสารขอวีซ่าแล้วค่ะ ตื่นเต้นๆๆ แล้วจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะค่ะ

[moddam]

กลับมาแล้วค่ะ มาขอเล่าอุทาหรณ์การขอวีซ่าเยี่ยมเยือนค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเวบป้าพอลและข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์มากๆนะค่ะ

เอกสารที่มดเตรียมดังนี้ค่ะ
1. Application Form
2. รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ เห็นใบหน้าและคอ พื้นหลังสีขาว
3. เงิน 3,100 บาท
4. Passport ตัวจริง พร้อมสำเนา + รับรองสำเนา
5. สำเนา ID card + รับรองสำเนา
6. สำเนาทะเบียนบ้าน + รับรองสำเนา
7. จดหมายเชิญจากแฟน (พระเอกของงานค่ะ)
8. จดหมายเชิญฟอร์มจากสถานฑูต
9. Passport หน้าแรกและหน้าที่มาเมืองไทย
10 Work permit เนื่องจากแฟนเป็นคนอังกฤษแต่ทำงานในสวิต
11 สลิปเงินเดือนของแฟน
12 รูปถ่ายคู่กัน,อีเมล์,โพสการ์ด,พริ้นท์สกรีนใน skype และ msn
     

[moddam]

เหตุการณ์เริ่มต้นได้สวยค่ะ ตั้งแต่การตรวจเช็คเอกสาร รวดเร็วมาก
เนื่องจากได้รับข้อมูลอย่างดีจากเวบนี้ 
คนอื่นยังต้องออกไปกรอกใหม่แล้วมายื่นให้พี่ผชตรวจอีกครั้ง (รู้สึกมั่นใจ อิอิ)
ยื่นช่อง1 พี่ผชใส่แว่นบอกอย่างนั้น แต่ปรากฏว่าพี่ผชบอกผิดค่ะ
เจ้าหน้าที่ผญผมสั้นหน้าโหดอย่างแรง โยนกระดาษใส่ตู้กระจกค่ะ คิดในใจความผิดกูหรอเนี่ยยยย เอาหล่ะ เหตุการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว หลังจากนั้นมายื่นช่อง3 ค่ะ
หนุ่มหล่อประจำสถานฑูต รับเอกสารไปคีย์ลงคอม พร้อมทั้งเดินกลับมาเรียกชื่อดิฉัน ฮีคืนทุกอย่างให้หมดเลย พร้อมทั้งบอกว่าไปเอาเอกสารจองโรงแรมให้ด้วย คืออย่างงี้ค่ะ คุณแฟนเขียนในจดหมาย เนื้อหาระบุว่าจะพาไปเที่ยวโน้นนั่นนี้ ทั้งสวิต(แฟนระบุในจดหมายค่ะว่าพักกับแฟนที่ห้องเช่าแฟน) อิตาลี ฝรั่งเศส (แฟนระบุว่าจะไปเที่ยวด้วยรถไฟและรถยนต์ ไม่ได้ระบุโรงแรมอะไรทั้งนั้น)
ฮี - เวลาส่วนใหญ่พักไหน
มด - สวิตค่ะ
ฮี - แต่คุณระบุว่าจะไปอิตาลี ฝรั่งเศส ขอเอกสารจองที่พักด้วย
มด - ไม่มีค่ะ แฟนระบุว่าไปด้วยรถยนต์และรถไฟค่ะ ไม่พักที่ไหน
ฮี - เอ้าคิดหน่อยสิ ไปแล้วจะไปพักไหน สวนสาธารณะหรอ พร้อมทั้งทำหน้าดุใส่แล้วเดินจากไป
มดเลยกดโทรหาแฟน ให้เค้าเขียนจดหมายใหม่ ลบข้อความที่จะไปเที่ยวอิตาลีกะฝรั่งเศสออก
 
     

[moddam]

ลืมเอกสารอีกอย่างที่มดเตรียมค่ะ คือสัญญาเช่าอพาร์เมนท์ของแฟนค่ะ

มาต่อค่ะ หลังจากกดโทรหาแฟน ก็เลยเอาเอกสารของตัวเองกลับไปยื่นใหม่ (ไม่ยอมค่ะ)
ฮีก็เอาไป พร้อมเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวมาก หน้าตาแบบว่าไม่ไหวแล้ว มดเลยรีบสวนค่ะ
มด - โทรคุยกับเจ้าบ้านค่ะ เค้าบอกว่าไม่พักที่ไหน อาจจะไปกลับหรือนอนบนรถหรือรถไฟ
ฮี - รู้ไหม๊ เมืองที่คุณไปมันอยู่ตรงไหน ฮ๊ะ รู้จักป่าว
มด - รู้จักค่ะ บาเซล อยู่พรมแดน ไปเยอรมันได้ด้วยรถไฟ ไปฝรั่งเศสก็ได้
ฮี - ไปเอาเอกสารจองที่พักมา ใช้ common sense หน่อยสิ ไปแล้วจะไปนอนไหน เอาวันนี้น่ะ
       ไม่งั้น ถ้าไม่ทันไปเริ่มนัดใหม่ และเดินจากไป
       น้ำเสียงของมด นิ่ง ชัดเจน และพูดด้วยสุภาพความเคารพในเจ้าหน้าที่คนนั้นแต่ฮีพูดกระโชก
       โฮกฮาก ถลึงตาดุใส่ ในใจมดไม่โกรธค่ะ ในใจคิดว่าพวกเค้ากำลังเล่นละครในตู้กระจก
       

[rungsay]

สวัสดีค่ะคุณ nachos,1ป้า pall และสมาชิกทุกท่านค่ะ
     ดิฉันก็กำลังจะไปยื่นขอวีซ่าวันจันทร์นี้ ดูน่ากลัวจังนะ แต่ของดิฉันจดทะเบียนกับสามีแล้วคงไม่ปัญหา แต่กลัวจะมีสำหรับวีซ่าของลูกอีก 2 คนที่จะไปด้วย จะเดินทางวันที่ 13 มี.ค.53 กลับ 10 เม.ย. 53 ถ้าใครมีประสบการณ์ช่วยเล่าให้ฟังด้วยค่ะ สำหรับจดหมายเชิญสามีได้เขียนไว้แล้ว ต้องใช้สำเนาPassport หน้าแรกและหน้าที่มาเมืองไทยของสามีด้วยหรือคะ อันนี้ยังไม่ได้เตรียม
          รบกวนถามป้า pall และท่านผู้รู้ สำหรับลูกครึ่งสวิสเวลาเดินทางเข้าสวิสคงไม่มีปัญหาเพราะมี passport สวิส แต่เวลาเดินทางกลับไทยละคะต้องใช้อะไร เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังคะว่าจะเจออะไรบ้าง
                                                                                 ขอบคุณค่ะ
                                                                                      รุ้ง
   

[moddam]

หลังจากยื่นและถูกคืนเอกสารสองรอบ มดก็ยังไม่ยอมค่ะ กลับเข้าไปยื่นใหม่
คราวนี้ฮีเห็นแล้วไม่สนใจค่ะ มดเลยยืนทำหน้าตาน่าสงสารจนเจ้าหน้าผญหน้าตอบช่อง2
บอกว่าวางไว้เดี๋ยวเรียก มดเลยกดโทรหาแฟน บอกว่าเจ้าหน้าที่อยากได้เอกสารจองโรงแรม
แฟนบอกว่าเค้ายังไม่รู้เลยว่าเราจะได้ไปเมื่อไหร่ เค้าต้องรอจนแน่ในวันเวลาและลางาน
อีกอย่างแค่วางแผน เค้ามีเวลาพักร้อน15วันไหนเค้าจะมีสัมมนาอีก แฟนได้แต่ขอโทษและบอกให้กลับบ้านไปและมาเริ่มใหม่ แต่เราไม่ยอมค่ะ (ไม่รู้ว่าตัวเองทำถูกหรือทำผิด)
เวลาผ่านไปนานพอควร ฮีก็เรียกค่ะ
มด - เจ้าบ้านยืนยันค่ะ ว่าไม่มีการพักที่ไหน
ฮี - เตือนแล้วนะ
มด - งั้นขอเปลี่ยนจดหมาย ไม่ไปเที่ยวอิตาลีกะฝรั่งเศสแล้ว
ฮี - เอ๊า โกหกเจ้าหน้าหรือไง ลงข้อมูลหมดแล้ว
หลังจากนั้นฮีก็สัมภาษณ์แบบขอไปที่ ไหนเมื่อเราอยากสัมภาษณ์แกก็จัดให้
อายุเท่าไหร่ สะกดชื่อแฟนสิ อายุแฟน รู้จักกันยังไง เจอกันครั้งแรกที่ไหน ทำงานอะไร บริษัทอะไร พ่อแม่พี่น้องรู้จักไหม แฟนเคยแต่งงานไหม เราเคยแต่งงานไหม 
เราทำงานอะไร ทำมานานยัง ก่อนหน้านี้ทำอะไร คบกันมานานยัง จะไปกี่วัน ไปทำอะไรตั้งเก้าสิบวัน ใครออกค่าใช้จ่าย พูดกันภาษาอะไร และยื่นกระดาษนัดฟังผล

[moddam]

ตอนนี้ในใจกระวนกระวายมากอยากรู้ผล แต่ก็พอเดาออกค่ะว่าจะเป็นยังไง เตรียมเอกสารอุทธรณ์ ไว้แก้กระวนกระวาย กลัวสถานฑูตปฏิเสธวีซ่าเพราะเราคิดไม่ซื่อ อิอิ  คิดจะเปลี่ยนเนื้อหาจดหมาย และไม่ให้อุทธรณ์อีก ปัญหาอีกอย่างคือ คุยกับแฟนเค้าก็ยืนยันว่าไม่จองโรงแรมเด็ดขาด
เค้าให้เอกสารการเช่าอพาร์เมนท์แล้วและอีกอย่างการวางแผนท่องเที่ยวที่ว่าเค้ายังไม่แน่นอน
มันเป็นการเยี่ยมเยือน จะไปเมื่อไหร่ยังไม่รู้ เธอมาหาฉัน ฉันพาไปเที่ยว ไม่ใช่วีซ่าท่องเที่ยว

อยากถามเพื่อนๆ พี่ๆ ในนี้ค่ะว่า
ใครเป็นคนตัดสินผลวีซ่ารอบแรกค่ะ เจ้าหน้าที่สถานฑูตคนนี้รึป่าว
อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าจริงๆแล้วสิ่งที่เราทำไปผิดหรือถูก (ถึงแม้เราจะทำไปแล้วเมื่อวาน  )

แล้ววันศุกร์มดจะมาบอกผลนะค่ะ แล้วรบกวนหาทางแก้ไขให้ด้วยนะค่ะ

[moddam]

สวัสดีค่ะ คุณรุ่ง
สถานฑูตน่ากลัวค่ะ เพราะกำลังก่อสร้างค่ะ อันตราย
ส่วนเจ้าหน้าที่ในนั้น ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ 3 คน เค้าก็นั่งทำงาน แสดงละครหน้ายักษ์ไป
จริงๆแล้วก็ขำอ่ะค่ะ เหมือนต้องพยายามทำตัวเองให้น่ากลัว พูดจาไม่ดี ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร
มดเข้าใจว่าช่อง1 น่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว ช่อง2 พวกบริษัทท่องเที่ยว ช่อง3 วีซ่าเยี่ยมเยือน
ทุกคนในนั้นไม่มีใครยิ้มเลย เข้าใจว่าคงจะเขินเวลาต้องทำนั่งทำงานในตู้กระจก
แล้วมีแต่คนมานั่งจ้องพวกเค้าจากข้างนอก คงเขินอะค่ะเลยไม่ยิ้ม ไม่เมาท์ดีกว่าค่ะ
ของแบบนี้ต้องลอง ขำๆ อย่างเครียดค่ะ
ปล.ไม่ได้ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลยเรา 
    เจ้าหน้าที่ผช ช่อง3 ถ้าไม่โหดหน้าตาจะดูดีเลยนะเนี่ยย

[ing]

สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคนเวย์ก็เป็นอีกคนค่ะที่รอสำหรับคุณ rungsay ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะถ้าแต่งงานแล้วและเอกสารครบ เวย์ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงค่ะเพราะคนเยอะค่ะ อีกประมาณสองอาทิตย์ก็คงจะได้เจอกับแฟนแล้วล่ะค่ะ ไม่เจอกันสี่เดือนแล้วหนักหนาจริงๆค่ะคิดถึงแล้วก็คิดมากไปสารพัดตอนนี้ดีหน่อยค่ะเพราะเริ่มเก็บของใส่กระเป๋าแล้วแล้วก็หาของฝากอยู่ค่ะ

[moddam]

ไปฟังผลสอบเอนทรานซ์มาแล้ว อิอิ ไม่ผ่าน
the purpose and conditions of your stay could not be ascertained.
มดโทรไปนัดอุทธรณ์แล้วค่ะ วันจันทร์นี้ว่างตลอด เจ้าหน้าที่สาวเสียงสวยบอกเยี่ยงนั้น
ลุยใหม่ สู้สู้

[moddam]

สวัสดีตอนเช้าค๊า เพิ่งกลับมาจากไปยื่นอุทธรณ์ วันนี้รถติดสุดๆอารมณ์เสียค่ะ 
แต่..เจ้าหน้าที่ผช ช่อง3 อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง แล้วบอกว่า
"อีก 2เดือนจะเป็นตัวเองหรือจะให้บุคคลอื่นมาฟังผลอุทธรณ์ที่นี่นะครับ" มดเลยกล่าวขอบคุณและจากมา คราวนี้ก็ต้องลุ้นผลต่อไป เพราะคุณเจ้าบ้านเป็นคนอังกฤษเข้าไปทำงานในสวิตแถมไม่มีเงินเก็บอีกต่างหาก ลุ้นๆๆๆๆค่ะ ช่วยลุ้นด้วยนะค่ะ 

[I-Spy]

สวัสดีตอนเช้าค๊า เพิ่งกลับมาจากไปยื่นอุทธรณ์ วันนี้รถติดสุดๆอารมณ์เสียค่ะ 
แต่..เจ้าหน้าที่ผช ช่อง3 อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง แล้วบอกว่า
"อีก 2เดือนจะเป็นตัวเองหรือจะให้บุคคลอื่นมาฟังผลอุทธรณ์ที่นี่นะครับ" มดเลยกล่าวขอบคุณและจากมา คราวนี้ก็ต้องลุ้นผลต่อไป เพราะคุณเจ้าบ้านเป็นคนอังกฤษเข้าไปทำงานในสวิตแถมไม่มีเงินเก็บอีกต่างหาก ลุ้นๆๆๆๆค่ะ ช่วยลุ้นด้วยนะค่ะ 

สู้ๆค่ะเอาใจช่วย   เด่วไม่วันใดก็วันนึง เราอาจจะ ไปทำเรื่องเหมือนกัน อิอิ

ตอนนี้ก็มานั่งอ่านประสบการณ์ของ ทุกคนก่อน 


    เอาใจช่วย สู้ๆ

[moddam]

การรอคอย.. มันเป็นอะไรที่ทรมานจัง

นี่ขนาดว่าจะเดินทางต้นเมษายน ยังนั่งนับวันรอผลอุทธรณ์เลยเรา 

[moddam]

มาขอคำชี้แนะหน่อยค่ะ เถียงกับแฟนจนทะเลาะกันจนได้
คืองี้ค่ะ แฟนมดเค้าเป็นคนอังกฤษ เข้ามาทำงานในสวิตได้ 1 ปีครึ่งแล้ว หน้าที่การงานดี
แต่ในช่วงนี้ อย่างที่รู้ๆกันว่า ช่วงที่รอผลอุทธรณ์มันทั้งกดดันจะทำอะไรก็อึดอัดไปหมด
เวลาพูดคุยกับแฟนกลายเป็นว่าคำบางคำยิ่งไปกดดันแฟนเข้าไปอีก (คำบางคำในที่นี้ เช่น คิดถึง อยากเจอเร็วๆ เป็นต้น) แฟนบอกว่า โอกาสที่มดจะได้วีซ่ามีแค่ 50% เพราะว่าเค้าเป็นคนอังกฤษ ไม่ใช่คนสวิส
มดก็บอกว่า ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย  กดดันกันไปมา เซงเลย

เลยอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะว่า แฟนเป็นคนอังกฤษจะมีผลอุทธรณ์วีซ่ามดหรือไม่ค่ะ

[moddam]

2 วีคแล้วจ้า... สำหรับการรอผลอุทธรณ์ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

เมื่อวันศุกร์เจ้าบ้านเดินทางไปยัง  Immigration office at Basel เพื่อสอบถามความคืบหน้า
เมื่อบอกชื่อเสียงเรียงนาม วันเดือนปีเกิด หมายเลขพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า
I don't know who is she? Please call to Immigration office at Berne. แค่นี้ 
คาดว่าเอกสารคงยังเดินทางไปไม่ถึงเมืองที่แฟนอยู่ เลยไม่มีประวัติใดๆ เดี๋ยววันนี้แฟนจะลองโทร.
ไปสอบถามที่ Berne ค่ะ ได้ความคืบหน้ายังไงแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ อาจจะมีแนวทางเพิ่มเติม
ในการติดตามผลอุทธรณ์วีซ่า ดีกว่ามานั่งรออย่างเดียว แฟนบอกอย่างนั้นค่ะ เพราะเค้าอยากรู้ว่าการอุทธรณ์
มันเป็นยังไง อะไรหรอ ทำไมฉันต้องรอ (หรือเราสื่อสารอธิบายขั้นตอนการรอผลกะแฟนไม่เข้าใจหว่า  )
เลยให้พี่แกไปลองด้วยตนเอง (แต่ก็แอบดีใจในความกระตือรือร้น  )

Have a nice day na kha