ประสบปัญหาเกี่ยวกับชีวิตหลังแต่งงานค่ะ

Previous topic - Next topic

pigi

ก่อนอื่นขอสวัสดีเจ้าของเว็ปนี้นะคะ และเพื่อนๆๆสมาชิกทุกคน ดิฉันชื่อ Ning อายุ26 ปีค่ะ มาอยู่ที่ซูริคได้ประมาณ2เดือนกว่าค่ะ Ningมาแต่งงานที่นี่ได้2เดือนแล้ว มีพาสBแล้วค่ะ แต่Ningมีปัญหากับสามีเกือบทุกวัน เค้าอายุ48ปี มีบริษัทส่วนตัวเกี่ยวกับtransprote ค่ะตอนแรกที่เราคบกันก้อโอเคนะคะ คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอningมาอยู่กับเค้าทำไมมันไม่เหมือนเดิม เค้าจู้จี้ขี้บ่น เอาแต่ใจตัวเอง เราพยายามให้อภัยเค้าทุกอย่างเพราะเราเป็นภรรยาแต่เค้าไม่คิดถึงความรู้สึกNingเลยค่ะ เค้าไม่อยากให้Ningทำงานเราก้อโอเคค่ะ แต่มันไม่จบนะคะเค้ายังหาเรื่องเราทุกวันๆๆ ningให้เค้าส่งเงินไปให้แม่ที่เมืองไทยเดือนละ500ฟรังเค้าก้อจะบ่นทุกครั้งจนNingอยากจะทำงานเองแล้วไม่ต้องรบกวนเงินของเค้าค่ะ เค้าก้อบอกว่าถ้าไปทำงานNingเสียภาษี33%ของเงินเดือน พอหนิงจะไปหาโรงเรียนเรียนภาษาเค้าก้อบอกว่าให้เค้าหาให้เองถ้าหาเองเด๋วจ่ายแพงเรื่องนี้เราคุยกันตลอดเรื่องเรียน เค้าให้เงินNingน้อยมากแต่ละเดือน200ฟรัง หนิงอยากไปหาซื้อเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวแบบว่าเรายังวัยรุ่นอ่ะค่ะยังไม่พอเลยค่ะ จนเราทนไม่ไหวเลยพูดกับเค้าไปว่าถ้าหาโรงเรียนได้แล้วเด๋วNingจะไปหางานพิเศษทำแบบว่าได้ฝึกภาษาและได้ค่าขนมนิดนึงอ่ะค่ะ  เค้าก้อไม่เข้าที่เราบอกเหมือนเค้าต้องการให้เราอยู่แต่บ้านโดยที่ไม่มีอะไรทำเลย ทำแต่งานบ้านมันก้อไม่หนักหนามากเราก้อทำได้ อาทิตละครั้งค่ะ ส่วนวันอื่นๆๆก้อนั่งอยู่หน้าคอมหาอะไรทำไปพลางๆๆๆ มันอึดอัดค่ะNingไม่เคยเจออะไรที่เลวร้ายแบบนี้มาก่อน เค้าทำให้ningเสียใจมากและร้องไห้ตลอดค่ะ สามีNingเค้าจะเป็นคนไม่ยุ่งกับใคร พูดจากวนประสาท เวลาขับรถก้อน่ากลัวเป็นคนไม่ยอมคนชอบขับเหมือนคนเมายาบ้า ถ้าเป็นเมืองไทยสงสัยโดนตืบแน่ๆๆเลยค่ะ นิสัยเค้าทำไมเหมือนเด็ก โตๆๆกันแล้วเค้าน่าจะยอมฟังกันบ้าง ไม่เข้าใจจิงๆๆๆ แถมชอบบ่นพรึมพรำคนเดียวเหมือนคนบ้าเลยค่ะ Ning อยากแยกอยู่กับเค้าค่ะเผื่อเวลาจะช่วยให้เค้าคิดได้บ้างว่าโลกนี้คุณอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก ทุกคนต้องมีเพือนมีสังคมบ้าง  เราสื่อสารกันไม่เข้าใจกันค่ะเพราะส่วนใหญ่หนิงจะพูดแต่อังกฤษกับเค้า แต่เค้าพูดอังกฤษได้นิดๆๆนะคะ Ningหนักใจมากที่พูดเยอรมันไมได้ Ningเลยตั้งใจจะหาโรงเรียนก่อนเพราะมันสำคัญกับหนิงมากตอนนี้  เค้าต้องการจะหย่ากับningนะคะแต่หนิงคิดว่าเค้าบ้ามากที่คิดแบบนี้ Ning เลยไม่รู้จะทำไงดีค่ะ แยกอยู่ได้ไหมคะแล้วเค้าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำกับningไหม ningต้องทำยังไงต่อไปดีคะ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ถือว่าช่วยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆๆคนนึงค่ะ ที่นี่ยังใหม่สำหรับหนูค่ะ อยากเดินหน้าสู้ต่อไปค่ะ แต่ยังต้องการความช่วยเหลือจากทุกคนเสมอค่ะ รักและเคารพ NuhgNihg 

the sun

สวัสดีค่ะคุณ ning เห็นใจคุณมากๆ เลยค่ะ อ่านดูแล้วเศร้าใจแทนมากๆ เลย แต่ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรดี แต่เรื่องที่ว่าจะแยกกันอยู่นั้น ลองให้คนอื่นเข้ามาให้คำปรึกษานะค่ะ อีกด้านลองติดต่อที่ สมาคมหญิงไทยช่วยหญิงไทยดูนะค่ะ อยู่ซูริค เขาจะแนะนำ เรืองการใช้ชิวิตต่างๆ ที่อยู่ในสวิส และอีกที่ สมาคมฟิซ ช่วยหญิงไทย อันนี้จะช่วยในเรื่องว่าหญิงไทยมีปัญหาด้านครอบครัว ด้านโดนหลอกลวงมาค่ะ เขาจะติดต่อจ้างทนายความให้ ฟรี ลองติดต่อดูนะค่ะ คุณ ning มีอีเมลล์ไหม ช่วยทิ้งไว้ให้หน่อยค่ะ ดิฉันจะให้เบอร์และชื่อคนติดต่อค่ะ ไม่กล้าระบุชื่อเขาทาง webboard ค่ะกลัวเขาว่าให้ เลยต้องของอีเมลล์คุณ เดี๋ยวจะบอกทางอีเมลล์ค่ะ เอาใจช่วยนะค่ะ ไงก้อคุยกันได้ ยินดีค่ะ
ตอนนี้ติฉันอยู่สวิสเหมือนกันค่ะ มาได้ซักพักใหญ่แล้วหล่ะ

nanny

กำลังเป็ฯอีกคนที่จะแต่งงานไปอยู่สวิส เหมือนกันคะ คุณ ning และ ก้อยังดูใจกันได้แค่แป๊บเดียวเองค่ะ เห็นคุณ มีปัญหาแบบ นี้ แนน เริ่มคิดหนักแล้ว อยากคุยกับคุณจังเลยค่ะ เผื่อจะได้คำแนะนำ และ ช่วยรับฟังปัญหา ได้บ้าง ถึงแม้จะช่วยไรมากไม่ได้คะ ยังไงก้อขอให้คุณ ผ่านอุปสรรคไปให้ได้นะคะ  เออ ลืม แอบ เเอ๊ด เมลล์ คุณไปแล้วอ่ะ ไม่รู้จะว่าหรือป่าว  :o

BUAKAO

ตามมาให้กำลังใจอีกคนค่ะ อย่างที่ข้างบนเขาว่าให้สมาคมหญิงไทยช่วยค่ะ
หงุดหงิดเวลาส่งเงินให้แม่นี่ เพราะฝรั่งเขาแต่งงานกับเราคนไทยต้องทำความเข้าใจให้เขาด้วยว่าที่เมืองไทยไม่มีเงินคนแก่ให้เหมือนที่นี่หรือมีก็มีน้อยมากไม่พอใช้ ให้เขาเข้าใจด้วย
เรื่องไปทำงานน่าจะบอกเขาว่าถ้าฉันไปทำงาน ฉันจะจ่ายภาษีส่วนของฉันเอง คุณไม่ต้องช่วยจ่ายส่วนนี้ ฉันรับเอง
เรื่องไปเรียนต้องบอกฉันต้องเรียน ถ้าฉันไม่ได้เรียนภาษาฉันก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ จะให้ฉันเป็นคนพูดไม่รุ้เรื่อง อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ฉันคงไม่เอา
คนที่รู้จักคนหนึ่งเขาเป็นคนรัฐเชีย เขาแต่งงานกับคนที่นี่ สามีเขามีบริษัทไวน์เป็นของตัวเอง เขาหย่ากันแล้วนะค่ะ แต่งกันมามากกว่าหกปี พอหย่ากันมาเขาไม่ได้อะไรสักอย่าง สามีเขายื่นศาลว่าธุรกิจไปไม่ดีค่ะ เขาไม่ต้องจ่ายรายเดือนให้เมียเขา ทนายเขาก็เลยให้โชเชียวช่วยไปค่ะ

pigi

ขอบคุณ์Nanny N' Buakowมากค่ะที่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ตอนนี้หนิงรู้สึกดีมากขึ้น หนิงต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ หนิงคิดแค่ว่าทำทุกวันให้ดีที่สุดค่ะ คิดมากไปก็คงแย่ทั้งจิตใจและร่างกาย แต่ดีใจที่ได้กำลังใจจากคนไทยที่นี่ค่ะ สู้ๆๆๆ

kun_k

     สวัสดีค่ะ คุณหนิง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ สู้ ค่ะ ยังไงก็ใจเย็น ๆ นะคะ มีอะไรก็ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากันนะคะ  ตอนนี้ดิฉันก็กำลังยื่นขอวีซ่าแต่งงานได้ 2 เดือนกว่าแล้วค่ะ ยังรออยู่เลยค่ะ ตอนนี้ ดิฉันอยากทราบว่าตอนคุณยื่นวีซ่า คุณรอนานไหมคะ ดิฉ้นเป็นกังวลมาก ๆ ค่ะ เพราะอยากจะได้วีซ่าเร็ว ๆ คิดถึงแฟนมาก ๆ เลยค่ะ คุณช่วยเล่าประสบการณ์ตอนนั้นได้ไหมคะ ดิฉันคิดว่า 2 เดือนที่แล้วที่คุณยื่น เหตุการณ์คงไม่ต่างกัน ตอนนี้คุณเพิ่งเข้าไปอยู่ที่สวิส ได้ประมาณ 2 เดือนใช่ไหมคะ จะรอคำตอบนะคะ

pigi

ใช่ค่ะคุณkun_k หนิงมาอยู่ได้2เดือนกว่าค่ะ ตอนที่หนิงยื่นเรื่องวีซ่าแต่งงานก้อรอ ประมาณ1เดือนกว่าๆๆค่ะ แต่ก่อนยื่นวีซ่าแต่ง หนิงก็ได้ยื่นแบบท่องเที่ยวนะคะไม่ผ่านทั้ง2ครั้ง ค่ะ เลยต้องใช้แผนสุดท้าย ก้อเลยโดนแจ็กพอต เจอสามีโรคจิตที่แบบว่า หลอกเรามาแค่บำบัดอารมณ์ตัวเอง แล้วก็ทิ้งเรา

aum

         สวสดีค่ะคุณหนิง อุ้มก้อเป็นอีกหนึ่งที่กำลังจะไปอยู่สวิตแต่ด้วยวีซ่า ท่องเที่ยวค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจเหมือนกันค่ะ ทุกปัญหามันต้องมีทางออก เข้าใจหัวอกเลยผู้หญิงเลยค่ะ ดีมากที่คุณเข้มแข็งได้ สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้

pigi

ขอบคุณค่ะคุณaumมากค่ะ กำลังเป็นสิ่งมีค่าค่ะ หนิงขอบคุณอีกครั้งค่ะ

kun_k

Quote from: pigi on December 28, 2008, 06:40:13 PM
ใช่ค่ะคุณkun_k หนิงมาอยู่ได้2เดือนกว่าค่ะ ตอนที่หนิงยื่นเรื่องวีซ่าแต่งงานก้อรอ ประมาณ1เดือนกว่าๆๆค่ะ แต่ก่อนยื่นวีซ่าแต่ง หนิงก็ได้ยื่นแบบท่องเที่ยวนะคะไม่ผ่านทั้ง2ครั้ง ค่ะ เลยต้องใช้แผนสุดท้าย ก้อเลยโดนแจ็กพอต เจอสามีโรคจิตที่แบบว่า หลอกเรามาแค่บำบัดอารมณ์ตัวเอง แล้วก็ทิ้งเรา
สวัสดีค่ะคุณหนิง ดิฉันก็เข้าใจความรู้สึกของคุณนะคะ ว่าการที่เป็นคนถูกกระทำมันเป็นยังไง ยังไงก็ใจเย็น ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  คุณหนิงใช้เวลารอวีซ่าแต่งงานแค่ เดือนกว่า ๆ เองเหรอคะ ดีจังเลยนะคะ ดิฉันสื ตอนนี้ยังกังวลอยู่เลยค่ะ ว่าจะได้เมื่อไร แถมยังติดวันหยุดช่วงปีใหม่อีก แต่ยังไงดิฉันก็มั่นใจนะคะว่า อีกไม่นานเกินรอคงจะได้วีซ่าแล้ว ดีใจมากค่ะ ที่จะไปอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ซะที แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง ดิฉันไม่ได้ไปคนเดียวซะด้วยสิ พาลูกไปด้วย แถมยังอายุแค่ 4 ขวบเอง คิดไปคิดมาก็หนักใจเหมือนกันค่ะ  ขอคำแนะนำเรื่องพาส B ด้วยนะคะ ทำยังไงบ้างคะ จะรอคำตอบนะคะ ขอบคุณค่ะ   

pigi

สวัสดีค่ะคุณkun_k หนิงทำพาสบีไม่ยุ่งยากค่ะ หนิงไปทำวันเดียวกับวันจดทะเบียนสมรสค่ะ เอาpassportของเราไปยื่นกับเจ้าหน้าที่เขตที่เราไปจดทะเบียนนะคะและกรอกประวัติเจ้าหน้าที่จะกรอกให้เราเองค่ะ และก็รอเวลาค่ะ ก็ประมาณ3อาทิตย์นะคะหรืออาจจะ1เดือนขึ้นอยู่กับทางimmigrationค่ะบางคนแค่2อาทิตย์ก็ได้แล้วค่ะ รอจดหมายทางเขตส่งมาก่อนนะคะว่าให้ไปรับpassB อ้อ อย่าลืมเอาจดหมายกับรูปถ่ายหน้าตรง2นิ้วไปด้วยนะและก็เงิน95ฟรังนะคะ รูปใช้แค่1ใบนะคะ ที่สำคัญนำpassportของเราไปด้วย แค่นี้เองค่ะง่ายนิดเดียวค่ะไม่ยุ่งยากค่ะ โชคดีนะคะ

kanidcha

สวัสดีค่ะคุณหนิง
เห็นใจค่ะที่เกิดเรื่อง ขอเรียกตัวเองว่าพี่นะค่ะ เพราะอายุห่างกับคุณหนิงมากเลย พี่ก็เพิ่งขึ้นศาลกับสามี แต่พี่แต่งงานมาได้ 5 ปีแล้ว มีลูกกับเขา 2 คน การที่มีปัญหาแบบนี้ถ้าเขาขอหย่า มันเป็นเรื่องลำบากสำหรับเราเพราคุณหนิงเพิ่งแต่งานได้ 2 เดือน ยิ่งถ้าไม่มีลูกกับเขาถ้าหย่าแล้วเกือบ 100 % ต้องกลับเมืองไทย ต้องแต่งงานเกินกว่า และอยู่สวิสนานกว่า 3 ปี ถ้าหย่าแล้วถึงจะมีโอกาสอยู่ต่อ โดยเราขอรับการช่วยเหลือจากโซเซียวอารามได้ โดยทางโซเซียวฯ เขาจะจ่ายค่าบ้าน ค่าประกัน ค่ากินอยู่ต่อเดือน และจะส่งเราไปเรียน ให้เราเลือเอาว่าจะเรียนที่ไหน หรือถ้าคุณสามารถหางานได้ก่อนหย่ากับเขาได้ในตอนนี้ แต่เงินเดือนน้อยก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่มีลูก ก็หางานให้ได้ก่อน ถ้าตัดสินในจะหย่าแน่แล้วก็ไป Bezirksgericht Zürich ดูในอินเตอร์เน็ทได้ว่าที่อยู่เขาอยู่ที่ไหน ถ้าไปยื่นเรื่องแล้วไม่เกิน 1 เดือน ศาลก็จะมีหนังสือนัดมาถึงเราว่าต้องไปขึ้นศาลวันไหน พอได้หนังสือนัดแล้ว ก็นำหนังสือนัดนี้ไปติดต่อทนายได้เลย ก่อนที่จะว่าจ้างทนายก็บอกเขาก่อนว่าเราไม่มีเงินขอให้ทนายไปเรียกเก็บเงินจากศาลได้ไหม และขอให้ทนายหาล่ามไทยให้ด้วย ถ้าทนายไม่มีล่ามไทยก็หาเองได้เลย (พี่มี 1 คน ในซูริคเพราะเขามาเป็นล่ามให้พี่ พี่อยู่ที่วินเตอร์ทรู) พอทนายรับว่าความให้เรา ทนายก็จะนัดเรามาคุยถึงปัญหาถ้าทนายเขาไม่ว่างวันที่ศาลนัด ไม่เป็นไร ทนายเขาจะขอเลื่อนทางศาลเอง แต่กว่าจะได้ขึ้นศาลก็เกือบครึ่งปี เพราะถ้าทนายเราไม่ว่าง พอหาวันว่างได้เขาก็จะส่งเรื่องไปที่ศาลว่าขอเลื่อน แล้วทางศาลก็จะมีหนังสือนัดมาให้เราใหม่ หลังจากที่เราได้หนังสือนัดฉบับแรกแล้ว ให้ถือหนังสือนัดฉบับนั้นไปที่
Departement Soziales
Abklärung und Support
Zentrale Anlaufstelle
Internet : www.stadt-ชื่อเมืองที่น้องอยู่ .ch
คือตั้งแต่ทนายจนถึงที่นี่น้องสามารถบอกเขาได้ว่าเราพูดเยอรมันไม่ได้ ขอให้เขาพูดอังกฤษกับเรา เพราะทุกที่เขาสามารถพูดภาษาอังกฤษกับน้องได้  น้องไปถึงก็เอาบัตร พาส B ให้เขา พร้อมกับจดหมายนัดจากศาล บอกเขาว่าเราจะแยกกันอยู่ และเรามีรายได้น้อย ขอให้เขาช่วยเรื่องค่าเช่าบ้าน เขาก็จะออกหนังสือให้ 1 ฉบับ ว่ารับรองจะเป็นผู้จ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้น้อง ก็ที่บอกเขาจ่ายค่าบ้าน และค่าประกันไปยังบริษัทเลย และเงินค่ากินอยู่เขาบัญชีน้องก็ตามเลทของเขา อาจจะไม่ถึงพัน หรือหนึ่งพันตามเมืองที่อยู่ถ้าได้ หนังสือเขาจะออกให้เลยในวันที่น้องไปติดต่อ เขาจะจ่ายค่าบ้านให้ตามเลทของเขา ถ้าได้หนังสือแล้ว น้องก็สามารถหาบ้านได้เลย โดยดูที่เว็บไซด์ www.homegate.ch www.comparis.ch มีอีกเยอะให้น้องค้นหาในคำว่า wohnung mieten in .....เมืองที่น้องอยู่ น้องก็หาบ้านได้ตามที่เขากำหนดมา สมมุติว่าจ่ายในราคาค่าเช่าระหว่าง 1000 - 1300 แต่ไม่เกิน 1400 น้องก็หาได้ตามราคานี้ ถ้าน้องได้บ้านแล้วอยากจะย้ายออกก่อนที่จะขึ้นศาลก็ได้ก็แจ้งให้ทนายว่าตอนนี้เราหาบ้านได้แล้ว ไม่ต้องรอจนกว่าจะขึ้นศาล จนถึงวินาทีสุดท้ายทนายเขาก็จะถามว่าคุณตัดสินในแน่แล้วหรือไม่ว่าจะแยกทาง แต่ถึงขึ้นศาลแล้วน้องจะหย่าเลยก็ได้ไม่ต้องรอให้ถึง 2 ปี (แยกกันอยู่ตามกฏหมาย ตามกฏหมายถ้าแยกกันอยู่ ก็แยกกัน 2 ปี หลังจากนั้นก็กลับมาคุยกันอีกที่ว่าจะกลับมาอยู่กันอีกหรือจะหย่า ระหว่างที่แยกกันอยู่น้องจะมีแฟนใหม่ก็ได้ เขาจะมีแฟนใหม่ก็ได้ แต่จดทะเบียนใหม่ยังไม่ได้เพราะยังไม่ได้หย่า) น้องก็คุยกับทนายถึงกับปัญหาว่าเขาทำร้ายเราอย่างไรบ้าง ที่นี่เขาจะมี 2 อย่างคือ ทำร้ายร่างกาย และจิดใจ ยิ่งถ้าเขามีบริษัทอย่างนี้ ดีไม่มีเขาก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้น้องด้วย ทางศาลเขาจะเป็นคนกำหนดให้ ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์สด ๆ ใหม่ ร้อน ๆ ของพี่เพิ่งขึ้นศาลมาเมื่อวันที่ 4 ธันวานี้เอง แต่ของพี่สรุปคือไม่แยกกันอยู่ สาเหตุสามีไปมีผู้หญิงอื่น และเขาไม่ให้เงินเราใช้ ทางศาลก็ต้องบังคับให้เขาจ่ายตามสมควร เข้าบัญชีเรา ถ้าเขาเบี้ยวไม่จ่าย ทางศาลก็จะแจงไปทางเจ้านายให้ เจ้านายเขาโอนเงินเดือนบางส่วนเข้าบัญชีพี่โดยตรง ตอนนี้น้องมีปัญหาอยู่ตรงที่ว่า ไม่มีงานทำและไม่มีลูกกับเขา แต่ถ้าน้องมีลูกกับเขา ยังไงยังไงก็ 100 % ถ้าถือพาส B  ถ้าหย่าแล้วก็ไม่ได้กลับ มีพี่เรื่องของอีกคนจะเล่าให้ฟัง คนนี้เขาจดทะบียนกับผู้หญิงไทย (ทอม) และตอนนี้เขาก็หย่ากับทอมแล้ว และทอมก็ไปอยู่เมืองไทยแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ยังอยู่ที่สวิส และยังถือพาส B อยู่ แต่เขามีงานทำ แต่ในจุดนี้ไม่แน่นอน เพราะถ้าอำเภอไม่ต่อพาสให้เราก็ต้องกลับอย่างเดียว อีกคนเป็นผู้ชายต่างชาติแต่งกับหญิงสวิส คือเขาเคยแต่งานมากับหญิงสวิสแล้ว 1 ครั้งแล้วหย่า และมาคบกับหญิงสวิสอีกคนโดยไม่ได้จดทะบียน เขายังถือพาส B อยู่ แต่เขามีลูกกับหญิงสวิสคนที่ 2 จนปานนี้เขาก็ยังต่อพาสได้อีก จะเห็นได้ว่าถ้าเกิดปัญหาครอบครัวขึ้นมา การมีลูกกับคนสวิสจะเป็นเครื่องกำบังให้เราได้เป็นอย่างดี ก็ลองคิดดูนะค่ะว่าจะจัดการอย่างไรกับชีวิตของเรา ทุกอย่างอยู่ในกำมือของตัวน้องเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร ไม่ต้องกังวลนะค่ะ ทุกอย่างมีทางออก มีทางแก้ไข เรื่องงานน้องสามารถดูได้จาก www.rav.ch หาได้ตามเมืองที่น้องอยู่ หรือจะไปอยู่ที่อื่นก็หาตามเมืองที่อยู่ได้เลย ตอนที่พี่มีปัญหาใหม่ ก็มีดไปหมดเหมือนกัน ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน ไม่รู้จะวิ่งไปหาใคร ใจเย็น ๆ นะค่ะ และคิด และตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร พี่เริ่มต้นที่หมอ ตอนนั้นคือสามีก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรอกแต่เป็นการดึงกันไปดึงกันมาแล้วเกิดเขียวตามตัวก็ไปแจ้งหมอ เล่าให้หมอฟัง ก็แล้วแต่หมอว่าหมอจะช่วยเราได้อย่างไร หมอของพี่เขาใส่ใจมาก ถึงขั้นหยิบเงินจากกระเป๋าตัวเองให้พี่ 200 ฟรังเพื่อให้ซื้อกับข้าว พี่มีแบบฟอร์มการยื่นฟ้องแยกทางกันอยู่ พี่จะหาให้นะ และจะเขียนภาษาไทยกำกับให้ว่าน้องต้องเขียนอะไรตรงไหน การยื่นฟ้องก่อนได้เปรียบ แต่ก็ไม่เสมอไปนะ ศาลเขาก็ฟังเหตุผลของเรา ในศาลเขาจะหาล่ามให้ด้วย ถ้าเราต้องการ แต่ขอล่ามดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของเรา อ้อทางSoziales (โซเซียว) ที่เขาช่วยเรานั้น เวลาเขาหยุดให้การช่วยเหลือเราแล้ว เราต้องคืนเงินให้แก่เขา (หลังจากที่เราช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว เดือนละ ร้อยสองร้อยก็ว่าไปจนกว่าจะหมด) ถ้าน้องอยากคุยกับพี่ต่อก็เมลล์มาหาพี่ได้นะ kanidcha@gmail.com ไม่มีอะไรเลวร้ายมากนักถ้าใจเราหนักแน่น พี่เข้าใจนะเพราะพี่ก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว พี่ให้กำลังใจนะ

pigi

หนิงขอขอบคุณพี่ kanidcha มากๆๆๆๆๆเลยนะคะ สำหรับประสบการณ์ที่พี่ผ่านมาและสามารถจบลงด้วยดีค่ะ หนิงเชื่อว่าการที่หนิงทำความดีมาตลอดความดีนี้แหละต้องช่วยให้หนิงอยู่รอดปลอดภัยค่ะ และสิ่งที่หนิงเคยช่วยเหลือคนมา เวลาหนิงลำบากก็ยังมีคนดีๆๆ ใจดีแบบพี่Kanidcha เข้ามาแนะนำและช่วยเหลือหนิงค่ะ หนิงขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจค่ะ

jaaeh

ชีวิตยังมีทิศตะวันออกค่ะ....อดได้....ทนได้...จึงได้ดี.....สู้สู้น่ะน้อง

Jojo

สวัสดีค่ะคุณหนิง

เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ยังไงก็ขอให้อดทนไว้ก่อนนะคะ ชีวิตครอบครัวไม่ง่ายเหมือนบะหมี่สำเร็จรูปโดยเฉพาะการใช้ชีวิตกับคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม และมาจากการเลี้ยงดูที่ต่างกันค่ะ ลองถามตัวเราเองก่อนว่าเรารักเค้ามั๊ย ทำไมเราถึงแต่งงานกับเค้า เค้ามีดีอะไรสำหรับเราที่คนอื่นไม่มี เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ 100% หรอกนะคะ
โจ้ขอแชร์ประสบการณ์ตัวเองล่ะกัน เอาเป็นว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพราะโจ้ไม่รู้ว่าคุณหนิงกะแฟนคุณหนิงเป็นอย่างไร
โจ้ก็มีปัญหากับสามีมาตลอด 2 ปีหลังจากความเป็นแฟนสิ้นสุดลง ประมาณว่าช่วงหมดโปรโมชั่นนะคะ  ;D เพราะหลังจากที่เราแต่งงานกัน มันมักจะมีปัญหาหยุมหยิมมาตลอด เช่น เรื่องของทัศนคติที่ต่างกัน เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ  เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องส่งเงินให้แม่ด้วยเค้าบอกว่าแต่งงานกับเราไม่ได้แต่งงานกับแม่เรา  ทำไมเราต้องออกไปทำงานเพราะเค้าอยากให้เราเป็นแม่บ้านอย่างเดียวดูแลบ้าน แต่พอเป็นแม่บ้านก็ให้เงินใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นไม่สามารถฟุ้งเฟ้อได้ตามใจที่คิดอยากได้อะไรก็ซื้อ พอจับเข่าคุยกันเพื่อเคลียร์ปัญหาก็ทำให้เรายิ่งเสียใจน้อยใจ เพราะความที่เราแปลความหมายเค้าไปอีกอย่างแต่สิ่งที่เค้าพูดมันอีกอย่างรวมทั้งเราก็ใส่อารมณ์โดยไม่ฟังเค้าด้วย คือต่างคนต่างไม่ยอมกัน  ตลอด 2 ปีแรกโจ้ขอหย่าตลอด ขนาดมีลูกอยู่ในท้องโจ้ก็ไม่สนใจเพราะคิดว่าถ้าเริ่มต้นด้วยความไม่เข้าใจกันจะทนอยู่กันไปทำไม ลูกคนเดียวเราเลี้ยงได้ แต่หลังจากที่โจ้อดทนและได้อยู่กันมาจนปีนี้ปีที่ 8 แล้ว เราพยายามที่จะปรับตัวเข้าหากันและเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เท่าที่รู้สึกสามีดีขึ้นแต่เราแย่ลง..555
ความคิดส่วนตัวนะคะ ถ้าคุณหนิงยังพอทนได้ ยังไม่ได้มีอะไรแล้วร้ายมากมายขอให้อดทนไปก่อนค่ะ มีหลายคนอยากจะมาอยู่สวิสแต่ไม่มีโอกาส เมื่อเรามีโอกาสแล้ว กอบโกยประสบการณ์ต่าง ๆจากที่นี่ไปให้ได้มากที่สุดก่อนโดยเฉพาะภาษาเยอรมัน แฟนไม่อยากให้ทำงาน ก็ขอเรียน เรียนอะไรก็ได้เรียนเข้าไปเลยค่ะเท่าที่แฟนเค้าจะซัพพอร์ตได้ ให้มีความรู้ติดตัวไว้ ยิ่งถ้าอยู่จนได้พาสสวิสยิ่งดีใหญ่ มีความรู้ ก็มีงานทำ  หลังจากนั้นจะอยู่กับแฟนหรืออยู่คนเดียวก็ว่ากันอีกที  ยังไงก็ สู้ สู้ นะคะ ;)
อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส