ได้วีซ่าแล้ว แต่เหมือนโดนแกล้งครับ ขอฟ้องหน่อยเหอะ-*-

Previous topic - Next topic

00AuM00

ตามที่เคยได้เล่าไปแล้วครับ ว่าได้ขอวีซ่าไปทำงานในต่างประเทศ แต่มีข้อความบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ
คือ VALID FROM 04 11 08
  UNTIL       07 11 08
ผมได้ไปถามที่สถานฑูตแล้วครับ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงประจำช่อง2 ผมดัดหยิก หน้าตาไม่รับแขกเค้าให้คำตอบว่า มันคือระยะเวลาที่ระบุให้คุณต้องเดินทาง ภายในช่วงวันที่กำหนดนี้เท่านั้น(คำพูดที่เค้าพูดกลับมา แบบว่า ไม่มีมนุษยสัมพันธ์สุดๆ อยากรู้เหมือนกันว่าคนพวกนี้มีเพื่อนกันบ้างหรือเปล่า ไม่มีแม้กระทั้งคำว่า ครับ หรือ ค่ะ)
ผมก็ได้ตอบไปว่า มันกำหนดให้ผมบินภายในสี่วัน แล้ววันที่ผมได้วีซ่าเป็นวันที่6 ไม่ใช่วันที่ 4 ซึ่งหมายความว่า ผมได้วีซ่าวันนี้ ต้องบินพรุ่งนี้เลยเหรอครับ ผมไม่สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ทันครับ เพราะ ไฟลต์ในวันที่กำหนด เต็มหมดเลย
เค้าก็ตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน ตำรวจที่โน่นเค้าออกให้มาอย่างงี้ เราก็พิมพ์อย่างงี้ เราไม่มีสิทธิ์แตะต้องวันที่เขียนไว้ (ทำหน้าแบบ ถ้าไปไม่ทันก็ช่วยไม่ได้นะยะ อะไรอย่างงี้)
ผมก็ถามไปว่า แล้วผมควรจะทำยังไงคับ
เค้าตอบว่า ไปบอกนายจ้างของคุณให้ไปคุยกะตำรวจที่โน่นให้เค้าเลื่อนวันเดินทางให้ แล้วคุณต้องทำวีซ่าใหม่ ใช้เวลาสองวัน(แปลว่าต้องจ่ายเงินอีก 1820 บาท โดยไม่ใช่ความผิดอะไรเราเลย)
ผมก็ตอบเค้าไปว่า งั้นผมขอคุยกะนายจ้างผมก่อนแล้วกันครับ ขอบคุณครับ
ซักพักนึง เพื่อนผมที่จะไปด้วยกันก็ตามมาสมทบที่สถานฑูต วีซ่าของเพื่อนผม มีข้อความ VALID FROM 05 11 08
                                                         UNTIL       07 11 08
เพราะเพื่อนผมมายื่นตรวจสอบผมวีซ่าช้ากว่าผมหนึ่งวัน เพราะวันนั้นมีธุระ มาไม่ได้ จึงทำให้ ช่องVALID FROM มันต่างกันหนึ่งวัน แล้วเค้ามายื่นตรวจสอบวันพุธที่ 5 เจ้าหน้าที่บอกให้มารับวีซ่าวันที่ 7 ซึ่งหมดกำหนดเดินทางพอดี
ผมจึงสงสัย เลยไปถามว่า แล้วนี่ได้วีซ่าวันนี้ เดินทางวันนี้ยังไม่ทันเลยครับ เค้าก็ตอบกลับมาว่า ไม่รู้ ตำรวจเค้าให้มาอย่างนี้(อยากรุ้ครับว่าตำรวจไหน ตำรวจโรงพัก หรือตำรวจจราจรที่ไหน แล้วเค้าเกี่ยวอะไรกะการกำหนดวันที่เหรอคับ)
ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ ช่อง VALID FROM คือวันที่เราเอาพาสปอร์ตไปตรวจผลวีซ่า เพราะของผมและเพื่อน ต่างกันหนึ่งวัน แต่วันสิ้นสุด วันเดียวกัน
ผมเลยไปถามว่า ทำไมวันที่มันต่างกันล่ะครับ ทั้งๆที่ยื่นเอกสารทุกอย่างเหมือนกันและพร้อมกันหมด ยกเว้นแค่วันมาเช็ค ตำรวจที่โน่นเค้ารู้เหรอครับว่า เรามาเช็ควันไหน
เค้าก็ทำท่าหงุดหงิด ขึ้นเสียงแบบว่า ทำผมอายเลยอ่ะคับ แล้วเจ้าหน้าที่ผุ้ชายที่เป้นเกย์คนนั้น เค้าก็มายืนแพ็คคู่แท็กทีมกัน (แบบว่า อย่ามีปัญหาให้มากได้ป่ะ) แล้วเจ้าหน้าที่ผมทรงสุนัขพูเดิ้ล คนนั้นก็ตวาดว่า ก็ดิฉันนี่แหละที่เป็นคนพิมพ์ข้อมูลส่งไป (ซึ่งผมไม่เชื่อว่าตำรวจอะไรที่โน่นเค้าจะไร้สมองขนาดที่ออกวีซ่าให้ 3-4 วัน)
ผมก็ถามดีๆว่า แล้วถ้าผมแก้ไขเรื่องทางโน้น กี่วันจะรู้ผลทางนี้ครับ เค้าก็ตอบแบบผุ้ที่มีวุฒิภาวะสูง ว่า ถ้าทำตอนนี้ก็เห็นตอนนี้แหละ!
ผมได้แต่ตอบว่า ขอบคุณครับ แล้วเดินออกไป

เพื่อนของผมที่ไปด้วยกัน บอกว่า ได้รู้จักกะพี่คนนึง เค้าเคยทำงานที่นี่แต่ตอนนี้ได้ไปทำงานที่สถานฑูตประเทศอื่นแล้ว เค้าขอให้เราแฟ็กซ์วีซ่าและเอกสารไปให้เค้าดู เพื่อนก็แฟ็กซ์ไป พี่เค้าถึงขั้นตกใจว่า ทำไมออกวีซ่าให้อย่างงี้ เค้าบอกว่า ความจิงแล้ว ถ้าวีซ่ามาถึง เจ้าหน้าที่จะรู้ว่าวีซ่าจะหมดกำหนดวันไหน แล้วเค้าก็จะต้องโทรศัพท์มาบอกเราให้ไปรับ แต่นี่เป็นความบกพร่องของเค้าที่เค้าไม่โทรเรียกเรา แล้วถ้าเค้ายอมรับผิด เค้าจะต้องเสียเงิน 1820 ให้เราเพื่อทำวีซ่าใหม่ สามคนก็ X3 เค้าไป เหยียบหมื่น เค้าเลยปัดความรับผิดชอบไปเพราะกลัวเสียเงิน วันที่เจ็ดที่หมดกำหนดอ่ะ เค้าบอกว่า ทางโน้นเป็นคนออกให้จริง แต่วันที่ VALID FROM น่ะ ทางไทยเป็นคนออกครับ ดูซิครับ

ตอนนี้นายจ้างผมเสียเงินไปเยอะมากกะค่าเครื่องบิน เพราะเค้ารู้เรื่องนี้เลยรีบซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อให้เราเอาตั๋วเครื่องบินไปขอเลื่อนการเดินทาง แต่ไปถึงสถานฑูต เค้าไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลย ตั๋วเครื่องบินก็คอนเฟิร์มแล้ว แต่เดินทางไม่ได้ ไปกลับสามคน หลายแสนนะคับ เพราะแค่ความไม่ใส่ใจของพนักงานที่ไม่กล้าออกมารับผิดชอบ ผม เพื่อนๆอีกสองคน ลาออกงาน รอเดินทางอย่างเดียว อยู่อย่างตกงานหลายเดือนแล้วคับ

ผมขอประณามการทำงานของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ไม่มีความโปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ ร้องเรียนไม่ได้ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แย๊~แย่

ใครมีประสบการณ์อะไรอย่างนี้ ช่วยกันเล่านะครับ เผื่อคนพวกนั้นจะได้รับรู้ว่าสิ่งที่พวกเค้าทำ ทำให้คนหลายๆคนเดือนร้อนมากแค่ไหน จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น(ถ้าพวกเค้าคิดจะปรับปรุงนะครับ)

pall

สวัสดีค่ะ คุณ 00AuM00
ขอแสดงความเสียใจกับคุณและเพื่อน  เสียใจด้วยใจจริงค่ะ
ก่อนอื่นคุณรีบไปเลื่อนตั๋วเครื่องบินก่อนนะคะไม่ทราบว่าต้องโดนปรับเท่าไร อธิบายให้เขาทราบเหตุผล


น้อย

อีกหนึ่งเสียงค่ะ ที่เห็นด้วยกับการกระทำของสถานทูตนี้
1. พูดจาแย่มาก (เฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านใน)
    ควรให้ รปภ.  และเจ้าหน้าที่ด้านนอก อบรมมารยาทให้เพราะเขาเหล่านั้นดีกว่าเจ้าหน้าที่
    ด้านในสถานทูตมาก
2. เห็นด้วยเรื่องค่าทำวีซ่า ลองคิดดูวันหนึ่งๆ มีคนไปขอแล้วถูกปฏิเสธ แล้วต้องกลับไปทำใหม่
    กี่รายคิดเป็นเงินเท่าไหร่ รายได้ดีนะ
3. พนักงานของรัฐภาษีเราทั้งน้าน. . . . แต่เรากลับได้รับบริการอย่างนี้
4. เลยทำให้คิดว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนได้เสียอะไรกับบริษัทนายหน้าที่ปักป้ายอยู่หน้าสถานทูตหรือไม่
    แล้วทำไมบริษัทที่อยู่ใน โฮมโปรเพลินจิต ซึ่งรับทำวีซ่าเค้ายังหากินเป็นหลักแหล่งอยู่ได้ ถ้า
    ไม่อาศัยความร่วมมือกัน
5. ทำไมเวลาโทรไปจองคิวต้องเป็น 1900 นาทีละ 9 บาท โทรศัพท์ธรรมดา 02 โทรไป
    ทางสถานทูตไม่ได้ยินหรืออย่างไรไม่ทราบ
สรุป พูดได้คำเดียว ห่วยแตก ไม่เคยพัฒนา ครอบครัวเค้าคงมีปัญหา ถูกอบรมสั่งสอนมาให้พูดจา
แบบนี้ หรือคงต้องโทษหัวหน้าเค้าที่ให้นโยบายแบบนี้
     ไม่ทราบว่าร้องเรียนได้ที่ไหน ถ้าคุณทราบบอกทีอีกหนึ่งเสียงที่จะไปร่วมด้วย หรือลองสแกน
วีซ่าแล้วส่งไปให้ท่านทูตสวิสฯ ดู ซิว่าพนักงานของท่านนั้นให้วีซ่ามาแบบนี้ ท่านมีความคิดเห็น
อย่างไร

    ขอแสดงความเสียใจเรื่องวีซ่าด้วยค่ะ แต่การไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
รายได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายก็สูง วิถีชีวิตต่างกัน อากาศก็โหดร้าย ดูในรูปก็สวยดี ไปอยู่จริงๆ ไม่ไหว
(ความเห็นส่วนตัว) อยากกลับบ้านตั้งแต่ 7 วันแรกแล้ว อยู่เมืองไทยสบายที่ซู๋ด. . .
คนสวิสอยากมาอยู่เมืองไทยมากมาย  ถ้าเลือกได้ก็ไม่ไปแล้วค่ะ
    ทำใจให้สบายนะคะ

น้อย

เข้ามาอีกที (อารมณ์ต่อเนื่อง) พี่เล่าเรื่องน้องให้คนสวิสฟัง เค้าถามว่าเมืองอะไรคะที่จะไป
พอจะบอกได้ไหมว่าไปทำงานที่ร้านอะไร เผื่อว่ามีทางช่วยได้บ้าง พอดีเพื่อนของเพื่อนที่
ทำงานในสถานทูตสวิสที่เบิร์นจะมาประมาณวันที่ 13 พย. นี้ จะได้ปรึกษาเค้าว่าควรทำอย่างไร
อีกทางหนึ่งลอง email ไปที่ ban. visa@eda. admin. ch สแกนหน้าวีซ่าไปด้วย
แล้วถามเค้าดูว่าอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไร

เอาใจช่วยค่ะ

Fon2008

สวัสดีค่ะ

เสียใจด้วยนะคะกับเรื่องของคุณ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ จะยังไงเราก็คงยังต้องเคารพเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอยู่ดี เพราะเค้ามีสิทธิที่จะปฏิเสธวีซ่าเราได้
จริงๆก็โดนมากับตัวเองแล้วค่ะในตอนแรกที่ขอวีซ่า แต่ก็ไม่อยากคิดมากให้เสียความรู้สึกค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี และขอให้ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่โน่นค่ะ

ฝน ค่ะ

pall

สวัสดีจ้า น้องฝน

สวัสดีค่ะ คุณน้อย
ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาช่วยตอบให้ข้อมูลและความรู้สึกจากใจริงที่มีต่อคนไทยด้วยกัน อ่านแล้วรู้สึกดีใจที่คนไทยไม่ทิ้งคนไทยด้วยกันและต้องการช่วยเหลือคนไทยอย่างแท้จริง
ขอขอบคุณอย่างจริงใจค่ะ

pall

สวัสดีค่ะ คุณ 00AuM00
อ่านที่คุณเขียนเล่ามาแล้วรู้สึกไม่ดีหงุดหงิดกับการทำงานของเจ้าหน้าที่สถานทูตสวิส คุณไม่ใช่เป็นคนแรกที่ได้รับการปฏิบัติไม่ดีของเจ้าหน้าที่ไทยที่ทำกับคนไทยด้วยกันแบบนี้ มีคนไทยเป็นจำนวนมากที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนไม่ใช่คนไทยด้วยกันอย่างที่คุณได้รับมา หรืออย่างที่คุณน้อยได้เขียนบอกมา
และเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆเข้าใจถึงความรู้สึกดีค่ะ
VALID FROM 04 11 08
UNTIL       07 11 08
ใบกำหนดวันที่คุณได้มานั้นไม่มีใครเตรียมตัวการเดินทางทันหรอกค่ะ  เจ้าหน้าที่สถานทูตสวิสคงรู้อยู่แก่ใจดี
แม่ของป้าที่ได้วีซ่ามาเขามีกำหนดให้ประมาณเดือนหรือเดือนกว่าที่ให้เตรียมตัวในการเดินทางที่ระบุไว้ไม่ใช่แค่3หรือ4วันที่ให้คุณมาและตำรวจที่เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยได้พูดบอกมาคงหมายถึงตม.เขตที่อยู่หรือBundesamt für Migration
คิดว่าคุณคงติดต่อกับนายจ้างเรียบร้อยแล้วและนายจ้างคงไปเดินเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก
ถ้าได้ผลคืบหน้าอะไรเข้ามาส่งข่าวดัวยนะคะ รู้สึกเสียใจแทนคุณด้วยจริงๆ

ขอเอาใจช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะคะ

jaaeh_pingping

   สวัสดีค่ะ  หนูเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังดำเนินการขอวีซ่าไปสวิตค่ะ ดีใจมากๆที่ได้รู้จักเวปของป้าpall หนูมีแฟนเป็นคนสวิตค่ะกำลังทำเรื่องไปแต่งงานที่สวิต  พอเข้ามาอ่านเรื่องราวในเวปป้า ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ เมื่อกี้คุยกับแฟน ( chat msn ) ให้เขาดูเวปของป้า  เขาบอกว่าเป็นไดเดียที่ดีมากๆ เลยสำหรับคนที่ทำเวปนี้ เราสามารถรับทราบข้อมูลทุกอย่างเสมือนไปอยู่มาแล้ว ความจริงยังไม่เคยไปเลย

   ค่ะ สำหรับเรื่องราวเจ้าหน้าที่คนไทยในสถานทูตสวิต หนูเพิ่งเจอมาเมื่อวานค่ะ โทร. ไปสอบถามรายละเอียดเรื่องวีซ่าแต่งงานที่ 1900 222 340 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า สำหรับวีซ่าแต่งงานต้องโทรไปที่ เบอร์ 02 เขาไม่สามารถให้รายละเอียดได้  แต่พอหนูโทรไปเบอร์ 02 เขาพูดเป็นอยู่คำเดียวว่า "เอา passport คุณมานี่" แล้วก็วางสายไป ยังไม่ทันจะถามอะไรต่อ  ทำหนูงง มากๆ ค่ะ

   ความจริงหนูทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารแต่งงานมากพอสมควร ในเวปป้าค่ะ แต่อยากจะถามเกี่ยวกับลูกสาวว่าจะปฏิบัติอย่างไรต่อ  คือหนูมึลูกสาวกับแฟนเก่าหนึ่งคน อายุ 2 ขวบ ต้องการให้เขาไปอยู่ที่สวิตด้วย (แฟนคนสวิตก็ต้องการ) หนูเลี้ยงเขามาตลอดไม่เคยแยกจากกันนั่นคือเหตุผลที่ต้องไปไหนไปด้วยกัน เราแม่ลูก แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานทูตเลย ใครพอจะช่วยหนูได้บ้างค่ะ   

pall

สวัสดีค่ะ คุณjaaeh_pingping
ขอบคุณมากค่ะกับคำชมที่มอบให้แก่เวบpallswissและดีใจมากค่ะที่เวบนี้สามารถช่วยเหลือคนไทยที่มีปัญหาต้องการคำแนะนำหรือต้องการความช่วยเหลือได้ไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาช่วยตอบจากประสบการณ์ให้ความรู้เป็นวิทยาทานแก่กัน
ถ้าคุณjaaeh_pingping สมัครเป็นสมาชิกคุณสามารถตั้งคำถามได้ค่ะ

คำถามเกี่ยวกับการนำลูกมาอยู่ด้วยมีกฎหมายฉบับใหม่ดังนี้ค่ะ

**ระเบียบกฎหมายฉบับใหม่...ที่ทุกคนควรรู้ไว้ในการนำลูกมาอยู่ด้วย**
**ระเบียบกฎหมายใหม่สำหรับหญิงไทยที่มีลูกอยู่เมืองไทยควรรู้ไว้**

**เพิ่มเติมกฎหมายสำหรับชาวต่างชาติฉบับใหม่**
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม  08  เกี่ยวกับการนำลูกมาอยู่ด้วย

.....หญิงที่สมรสกับชายชาวสวิส
มีความต้องการนำลูกมาอยู่ด้วยถ้าลูกยังเล็กต้องรีบนำเดินการพามาภายใน 5ปี

.....ถ้าลูกอายุเกิน 12 ปีต้องพามาภายใน 1 ปี

Ausländergesetz (กฎหมายคนต่างด้าว)
http://www.bfm.admin.ch/bfm/de/home/dokumentation/gesetzgebung/auslaendergesetz.html

อยากเอาลูกมาอยู่ด้วย
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,166.0.html

คิดว่าคุณjaaeh_pingping คงได้ข้อมูลแล้วนะคะ

jaaeh

ขอบคุณมากค่ะป้าpall ความจริงหนูสมัครสมาชิกตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ  แต่ยังไม่มีการตอบรับมังค่ะเลย ลงชื่อเข้าใช้ไม่ได้

หวังว่าจะมีเพื่อนใหม่เวลาที่หนูไปอยู่ที่สวิตน่ะค่ะ  กลัวเหงามากๆ

the sun

สวัสดีค่ะป้าพอล คุณ jaaeh และเจ้าของห้องกระทู้
   ยินดีค่ะคุณ jaaeh ตะวันอยากมีเพือนเยอะๆ เหงาเหมือนกัน..ว่าแต่จะมาอยู่ konton ไหนคะ.
เรื่องที่คุณ Jaaeh โทรไปเบอร์ 02 ขอข้อมูลแต่งงานนั้น ตะวันขอบอกว่าตะวันก้อเจอค่ะ (เรืองขอข้อมูลแต่งงาน) แต่เขาไม่วางหนูโทรศัพท์ใส่นะคะ แต่เขาพูดเสีงแข็งๆ แล้วพูดต่อว่า ..ให้คุณนำพาสปอร์ตมา ฉันจะได้บอกคุณเอง เพือไม่ให้คุณเตรียมเอกสารผิดพลาด ทำเป็นสเต็ปไป..แค่นี่นะคะ..จบ...(พูดมะนาวไม่มีน้ำจริงๆ ค่ะ)
   ถือว่าคุณ Jaaeh โชคดีมากค่ะ ที่มารู้จักกับเวปป้าพอลก่อนเตรียมเอกสาร เมื่อก่อนตะวันไม่รู้อะไรเลย แต่สถานฑูตเขาบอกให้ถือพาสปอร์ต เราก้อถือไป เขาถึงแนะนำมา แต่ก่อนไปก็แอบไปปรึกษา ร้านรับทำวิซ่าค่ะ เขาก็แนะนำดีนะคะ เตรียมเอกสารให้ดีนะคะ
  ขอให้โชคดีนะคะ..

jaaeh

   ยินดีที่สุดที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ค่ะ  เอ๋คงจะเหงามากๆเลยถ้าไปอยู่ทีนั่น เพราะพูด german ไม่ได้เลย เพิ่งจะเรียนได้ 2วันเอง คิดว่ายากมากๆค่ะ ไม่รู้จะไหวป่าว
      ที่เอ๋จะไปพักห่างจาก สนามบินซุริค ประมาณ 5-10 นาทีค่ะ ไม่ทราบว่าอยู่ใกล้กันรึปล่าวค่ะ หวังว่าถ้าไปอยู่สวิสแล้วจะมีเพื่อนคุยค่ะ
      เมื่อวานเอ๋ไปสถานทูสวิสมาค่ะเรื่องวีซ่าแต่งงาน  แปลกมากที่วันนี้เขาช่วยเหลือดีมากๆ คงเป็นเพราะพาลูกสาวไปด้วยค่ะ ไม่ใช่เพราะความน่ารักน่ะค่ะ แต่น้องผิง ร้องไห้ในสถานทูตเป็นชั่วโมงระหว่างการรอคอย อิอิ พวกเขาบอกไม่ต้องพาลูกมาก็ได้  แต่เวลาโทร 1900 บอกว่าจำเป็นต้องพามาด้วย  ลูกสาวเอ๋ชื่อผิงผิงค่ะ เขาคงเหนื่อยค่ะต้องตื่นแต่เช้าเดินทางใน กทม.  ก็ลำบากมากๆ สำหรับแม่ตัวเล็กๆ กับลูกหนัก 15 กก. ก็มีความรู้สึกดีๆกับคนไทยด้วยกันที่ทำงานในสถานทูตสวิตวันนี้ค่ะ