ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ

Previous topic - Next topic

schwenner suwannee

สวัสดีป้า pall ด้วยนะคะ ตอนอยู่ที่สวีสกับแฟนอยู่ที่ Seebacher Zurich.  เหงา มากๆ เลย ตอนอยู่ที่นั่น แต่ก็คงจะต้องกลับไปอยู่กับแฟนเร็วๆนี้  อีกใจหนึ่งก็อยากไป ใจหนึ่งก็คิดถึงบ้าน ตอนที่ป้า pall ไปอยู่ที่นั่นใหม่ๆคิดถึงบ้านบ้างรึเปล่าคะ :D

pall

สวัสดีค่ะคุณSeebacher Zurich 
ยินดีต้อนรับน้องใหม่ค่ะ  :Dร้องเพลงลูกทุ่งขยับคอสวิสต้อนรับ เอไม่ทราบว่าเคยฟังไหมคะ? ::)
คุณจะมาสวิตฯเมื่อไรคะ?อย่ามาตอนฤดูหนาวเลยค่ะเพราะจะยิ่งดีเพรสมากขึ้นกว่าเดิม
ช่วงนี้สวิสสวยมาก ดอกไม้สวยมากค่ะ
เข้าใจถึงความรู้สึกค่ะกว่าจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างสูงค่ะ
เมื่อ30กว่าปีที่ผ่านมา..ช่วงนั้นไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนสมัยนี้  ไม่มีอาหารไทย ไม่มีหนังสือพิมพ์อ่าน
ไม่มีข้าวไทยกิน ไม่มีน้ำปลา ฯลฯ  ยอมรับค่ะว่าอยากกลับบ้านมาก  ว้าเหว่ และพูดภาษากับเขาไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ และตั้งท้องด้วย  คนไทยตอนนั้นมีไม่มากเหมือนสมัยนี้  แต่ละคนจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ   ถ้าเจอกันจะไม่ค่อยยิ้มให้กินนัก ป้าสงสัยนะที่เขาบอกว่ายิ้มสยาม สงสัยคงจะไม่ใช่ยิ้มจริงซะแล้ว

คนรุ่นหลังป้าว่ามีบุญนะ เพราะทันสมัยมาก อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ จะดูหนังฟังละคร ฟังเพลง คุยสกายเป้
หรือไม่เป้ ไม่ต้องโฮมซิคแล้ว คนไทยมีมากในสวิส ที่ซูริคมาก ไม่แน่คุณอาจจะหายเหงาหรืออยากอยู่คนเดียวก็ได้   คิดถึงบ้านตอนมาอยู่ใหม่ๆแต่ตอนนี้ป้าไม่คิดถึงแล้วค่ะรักที่นี่มาก 
ถ้าคุณมาอยู่จริงๆถ้าเหงาก็แวะเข้ามาคุยกันที่นี่ ถ้าไม่มีคนคุยด้วย  ป้าจะเป็นคนหนึ่งที่คุยกับคุณค่ะ

Beck

Hello Paa Pall
Hello schwenner suwannee

เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แต่งงานและต้องย้ายตามสามีมาอยู่ที่สวิส ปีนี้ก็ย่างเข้าปีที่สามแล้วค่ะ แต่อยากบอกว่าอยู่ยังไงก็ไม่ชิน อาจเป็นเพราะว่าไม่ชอบไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่อย่างมากๆ และที่นี่ก็เงียบเกินความจำเป็น กอรปกับไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าเมืองไทยบ้านเราค่ะ เคยคิดนะคะต่อให้รวย ไม่ขัดสนเงินทองอยู่สวิสก็ไม่มีความสุขในแบบที่ต้องการ

ตอนนี้ก็ไม่คิดมากเพราะคิดอย่างเดียวว่าเรามาอยู๋เพื่อสามีและอีกไม่กี่ปีคงปล่อยบ้านที่สวิสให้เขาเช่าและย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพบ้านเราทำธุรกิจของเราที่นั่น และ อีกอย่างคือเรากลับไทยบ่อยๆ ต่อปี และอยู่ที่เมืองไทยหลายเดือนทีเดียว เพราะมีบ้านอยู่สองที่ แต่ค่าใช่จ่ายบานเลยทีเดียว เฮ้อ คิดแล้วเกิดอาการงกขึ้นในบัดดล อิอิ

อ้อ. . ได้อ่านที่ป้าpallพูดไว้ เห็นภาพเลยค่ะ และก็แอบยิ้มตอนป้าพอลบอกว่า

คนไทยตอนนั้นมีไม่มากเหมือนสมัยนี้  แต่ละคนจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ   ถ้าเจอกันจะไม่ค่อยยิ้มให้กินนัก ป้าสงสัยนะที่เขาบอกว่ายิ้มสยาม สงสัยคงจะไม่ใช่ยิ้มจริงซะแล้ว

อิอิ สมัยนี้ก็ยังมีแบบนี้อยู่บ้างประปราย แต่ยังไงอยากบอกคุณ schwenner suwannee ว่าถ้ามีอะไรก็มาคุยกับป้าได้ที่นี่นะคะ เราเองไม่ได้เข้ามาโพสมาเขียนอะไรที่นี่บ่อยๆ แต่ก็ได้มาอ่านบ้างเป็นบางเวลา ก็จะได้อ่านสิ่งที่ป้าตอบและที่ป้ามาโพสความรู้ต่างๆ เราก็อยากบอกว่า ป้าPall เป็นคนไทยคนหนึ่งในสวิสที่เรารู้สึกได้ว่าป้าเป็นคนมีจิตใจดี และมีเมตตามากๆ และ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยทีเดียวค่ะ

ยังไงก็ต้องอดทน และ หนักแน่นนะคะ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต้องพึ่งตัวเอง ดูแลตัวเองและดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดี เข้มแข็งเข้าไว้ค่ะ

Beck

BUAKAO

สวัสดีค่ะทุกคน ตามมาให้กำลังใจน้องใหม่อีกคน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้กันทั้งนั้นเลยค่ะ ของเราอยู่ปุ๊บก็ตั้งครรภ์เลยค่ะ ก็เลยเรียนภาษาเยอรมันไปด้วย ตั้งครรภ์ไปด้วยค่ะ พอคลอดก็เลี้ยงลูกคนโตเองถึงสองขวบ แล้วก็ก็ส่งไปเนอรเซอรี่บ้างค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกวัน ประมาณสองวันต่อสัปดาห์ แล้วก็ช่วงที่ลูกคนโตได้ขวบก็ตั้งครรภ์คนเล็กอีก ช่วงนั้นตัวโตเหมือนหมีมาก มาก เลย เหนื่อยมาก เหงาด้วย ทั้งท้องด้วย เลี้ยงลูกวัยขวบกว่าด้วยเหนื่อยสุด สุด ชีวิต พอลูกสาวคนที่สองคลอดก็เลี้ยงเองอีกถึงอายุสองขวบ แล้วก็ส่งไปเนอรเซอรี่ก็ลูกชายสองวันต่ออาทิตย์ แล้วก็เริ่มเรียนและทำงานค่ะ

วิธีปราบความเหงานะค่ะ ต้องหางานทำค่ะ เพราะตื่นเช้าขึ้นมาเรายังจะได้มีโครงการว่าจะทำอะไรวันนี้ ถ้าไม่มีงานทำก็ต้องเรียนค่ะ เพราะถ้าเราได้ออกไปพบผู้พบคนมันจะทำให้รู้สึกดีค่ะ  ;D

schwenner suwannee

tak ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ   :D สำหรับคำแนะนำแล้วก็กำลังใจ ตอนนี้ก็วุ่นๆอยู่กับตัวเล็ก fiona เพิ่งจะคบ 5 เดือน กำลังดื้อเลย ไปอยู่ที่โน้นสงสัย คงจะต้องเลี้ยงลูกไปก่อน ถึงจะค่อยทำงาน เพราะภาษาไม่ได้เลยค่ะ

Nath

สวัสดีค่ะ ป้า Pall. . และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน. .

ป้าคะ แรกๆ ที่อยู่ที่นี่ นอกจากเหงาแล้ว ป้าเคยร้องไห้บ้างมั้ยคะ  นัทว่า นัทเองคงเป็นคนนึงที่วันๆ คงร้องไห้คิดถึงบ้านแน่ๆ เลย  แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไปมั้ยคะ. . อย่างน้อยก็มีอีกหลายท่านที่มีความรู้สึกคล้ายๆ กัน และเราคงเป็นกำลังใจให้กันและกันได้. . . . . ถ้าเป็นไปได้. . แค่อยากเข้มแข็ง ได้สักครึ่งนึง ของป้าค่ะ  . . อืมมม ที่สำคัญดีใจนะคะ ที่ยังสามารถเข้ามาคุยกะป้า และเพื่อนสมาชิกได้  เป็น web ที่อบอุ่นสำหรับคนไกลบ้านจริงๆ ค่ะ. . ตอนนี้ก็พยายามตักตวง และเก็บความทรงจำในเมืองไทย ให้มากที่สุด  . .  Office หยุด 3 วันค่ะ 17-19 จะกลับไปนอนกอดแม่แล้วล่ะ. . ไว้จะมากวนป้าใหม่นะคะ. .  :-*

สวัสดี คุณ Schwenner Suwannee. . ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ นัท เองก็กะลังจะไปเป็นน้องใหม่ที่นั่นเหมือนกัน เข้าใจว่าตอนนี้ความรู้สึกคงมิต่างกันเท่าไร  เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆ  ยังไงก็อยู่กับคนที่เรารัก และเค้าก็รักคุณมากเช่นกัน  . . .  ;)

pall

สวัสดีค่ะทุกๆคน...สวัสดีค่ะคุณNath
หายหน้าไปหลายวันจนมีบางคนสงสัยว่าไปไหนมีปัญหาอีกแล้วเกี่ยวกับคอมและคอเคล็ดเอี้ยวคอไม่ได้เลย
เพราะนอนตกหมอน.. บางคนอาจจะคิดว่าเอี้ยวคอไม่ได้แต่ขยับมือได้จริงจ้าแต่มันต้องมีอารมณ์ร่วมในการเขียนมือจึงจะขยับได้ 
ตอบคำถามคุณNath เลยนะคะ ตอบจากก้นบึ้งของหัวใจ..ขอเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะคะ
ป้ามาสวิตฯอายุประมาณ24ปีเกือบ25ปี... และเมื่อ 30กว่าปีที่ผ่านมา..ยังไม่มีความทันสมัยเหมือนสมัยนี้  แค่เปิดคอมเสริ์ชหาข้อมูล มีคนป้อนข้อมูล ถามไปยังเวบต่างๆก็ได้คำตอบแล้ว ไม่ว่าจะถามเรื่องอะไร
ยอมรับค่ะว่าไม่อยากมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว ยอมรับค่ะว่ากลัวมากและการมีผัวฝรั่งสมัยนั้นติดลบสุดๆ
ใครที่แต่งงานกับฝรั่ง..และจะใช้คำว่าจีไอ..อยู่อู่ตะเภาและคิดว่าต้องเป็นน้องตัว...ยิ่งเดินคู่กับฝรั่งยิ่งโดนหนักเลย
บางคนโดนด่า  โดนคำหยาบคายซึ่งๆหน้า...บางคนซื้อของ..และต่อราคาหน่อยเดียวโดนซะกระจุยเลย
ป้าเคยโดนครั้งหนึ่ง...เขาถามว่าหาผัวไทยไม่ได้เหรอจึงเอากับฝรั่ง...ยอมรับว่าโกรธสุดๆ
ที่เล่ามาไม่เกี่ยวกับที่ถามเลย..แต่มันเกี่ยวข้องกันจ้า..เพราะใจไม่อยากมาตั้งแต่แรก..พอมาอยู่ที่นี่..มันเลยติดลบหนักขึ้น..(เล่าต่อ)
ป้าไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทำหนังสือถามใครก็ไม่มีใครรู้...ไปกรุงเทพฯถามใครก็ไม่มีใครรู้  จนมีคนพาไปทำหนังสือเดินทางถึงได้มา 
เล่าถึงความเปิ่นบนเครื่องบิน...คนไม่เคยบินจะกลัวนะยิ่งคนขี้กลัวแบบป้ายิ่งหนักใหญ่ 
ไม่มีข้อมูลไม่รู้อะไรเลย  คนเดินทางมาเมืองนอกถ้าใครบินได้จะฮือฮามาก สมัยนี้ใครๆก็บินได้จริงไหม
และการหาข้อมูลรวดเร็วทันใจ  ไม่ต้องกลัวอะไร..
ตอนป้าบินไม่กล้ากินของที่เขามาเสริฟกลัวไม่มีเงินจ่าย  เพราะมีเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อยบาท  (ทองบาทละ300)
ตอนบินมาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร  ตอนนั้นมีข่าวดังมากผัวฝรั่งเยอรมันบังคับให้เมียไทยทำงานขายตัว
เมียไม่ทำตามโดนตบด้วยแก้วจนหน้าเสียโฉม..ป้าเลยกลัวว่าลุงจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
ป้าไม่ยอมกินอะไรจนแอร์มาอนวอนขอให้กินสักนิดหน่อย  สงสัยกลัวจะหาม ป้ากินไปนับเงินไป..ฮ่วยเฉิ่มสุดๆ
หลังจากลงจากเครื่องบินเสียดายมากที่กินน้อยไป..อาหารที่เขามาเสร์ฟดีมากเลย ลืมบอกไปว่าป้าบินสายสวิสแอร์
การบริการเยี่ยมมาก  จานที่ใช้ไม่ใช้พลาสติค และอาหารดีมาก

พอป้าลงมาที่สนามบินตอนนั้นไม่เหมือนปัจจุบัน...ป้ารอลุงนานมากหลายชั่วโมงจนใจเสีย
และมีผู้หวังดีจะพาไปที่บ้านเขา...ป้ามานั่งคิดว่าถ้าป้าหลวมตัวไปกับเขาอนาคตจะเป็นอย่างไร...
ป้ารอจนลุงมารับ..... (ช่วงนี้ขอตัดตอนเล่าไวๆ) ป้ามาอยู่ก็ตั้งท้องมาจากเมืองไทยแล้วแต่ไม่รู้
พอมาอยู่ยังไม่ทันจะปรับตัว....คนท้องจิตใจจะอ่อนไหวและดีเพรสมาก  ป้ายอมรับว่าไม่อยากอยู่
อยากกลับบ้าน  นอนร้องไห้ทุกคืน  นิสัยฝรั่งกับคนไทยแตกต่างกันมาก 
ใครที่แต่งงานกับฝรั่งควรเรียนรู้ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่จะอยู่กันไม่ยืด  อย่าไปคาดหวังว่าฝรั่งจะหวานแหวว
เหมือนหนังที่เราดู  คนที่แต่งงานเพื่ออยากมีชีวิตดีกว่าอยู่เมืองไทยหรือเพราะอยากอยู่ที่นี่ เพราะความสวยงามของประเทศ  บอกก่อนนะว่าถ้ามาอยู่จริงๆแล้วจะรู้  และผัวไม่ได้มานั่งเอาใจเรา เราต้องทำทุกอย่างเองช่วยตัวเอง
บางคนโชคดี บางคนโชคร้าย 
ป้าว่าคนไทยรุ่นใหม่โชคดีมากกว่ารุ่นป้ามาก  ถ้าแต่งงานแล้วมีปัญหาจะมีหน่วยงานช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
หรือมีคนอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือ ฯลฯ 
ตอนป้ามาอยู่ที่นี่เหงามากเจอคนไทยแล้วดีใจมาก เหมือนเจอเพชร แต่ผิดหวังมาก  ไม่มีใครพูดด้วยถ้าเราไม่ได้ร่วมกลุ่มกับเขา หรือพูดกับเราแล้วมองดูด้วยหางตาดูถูกมาก  ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ
ทำไมเราจะไม่รู้ล่ะว่าเขาคิดอย่างไรกับเราจริงไหม...(เขาคิดว่าเราเป็นอีตัว )..

กับลุงป้าก็ยังปรับตัวไม่ได้ ภาษาก็พูดไม่ได้  นี่คือปัญหาใหญ่นะ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษาจะรู้ดี ทำให้เราว้าเหว่ยิ่งไปกว่าเดิม   คนที่ดีเพรสมากๆจะมีบางช่วงที่คิดสั้น..ป้าเคยคิดสั้นเหมือนกัน
ใครที่มีความรู้สึกแบบนี้อย่าอยู่คนเดียวนะ   มีอีกมากมายแต่วันนี้ป้าขอเขียนเล่าสั้นๆให้รู้ว่า 
ป้าเข้าใจถึงความรู้สึกของคนมาอยู่ใหม่ดี  ถ้าสิ่งไหนที่ป้าพอจะช่วยได้ยินดีเสมอ
มีความทุกข์อะไรเข้ามาคุยกันได้ที่นี่  ถ้าเหงา ว้าเหว่  เข้าไปเสริชหาเวบต่างๆไปเขียนพูดคุยสนุก
ถึงแม้บางคนจะคิดว่าไร้สาระ   ป้าคิดว่าอย่าคิดว่าเป็นเรื่องของความไร้สาระเลย
การพูดการคุยถึงแม้ไม่มีอะไรแต่เป็นการผ่อนคลายทางด้านจิตใจอย่างหนึ่ง

คุณNath คะป้าตอบคำถามของคุณแล้วนะคะ..เขียนสั้นไปหน่อยเพราะคอยังเอี้ยวไม่ไหว
สุขภาพกายไม่ดีเลยทำให้สุขภาพจิตไม่ดีตามไปด้วย...อยากเขียนอยากเล่ามากกว่านี้
แต่ขอบอกว่า ป้ายังรักที่นี่และอยากอยู่ต่อไปจ้า....


เทวี

สวัสดีค่ะคุณนัท สวัสดีค่ะป้าพอล
ขอบคุณป้าพอลมากๆนะคะที่เข้ามาแบ่งปันประสบการ์ของคนมาอยุ่ใหม่ที่นี่ได้อย่างชนิดเห็น ;)ภาพตามมามากๆ
เอ้อ. . มีแต่คนมีปัญหาตอนมาอยู่ใหม่น้องใหม่อ่านแล้วก็อาจจะกลัวๆกล้าๆไปเป็นธรรมดา แต่เทวีอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะมีปัญหา คนที่มาอยู่แล้วไม่มีปัญหาเทวีว่าก็มีเยอะแยะไป มันอยู่ที่ความคิดและการปรับตัว บวกกับการไม่คาดฝันอย่างรุนแรงก่อนมา และเมื่อมาแล้วไม่เจอไอ้สิงที่คาดฝันไว้มันก็ผิดหวังเป็นธรรมดา เหมือนป้าพอลว่าไว้ อยากมาอยู่เพียงแค่เพราะอยากมีชีวิตที่สะดวกสะบายกว่า อยากมาเพราะประเทศสวิสรวย และมีธรรมชาติที่สวยงามกว่า ก็เตรียมตัวผิดหวังได้เลย . . แต่หากเตรียมพร้อมและเรียนรู้ก่อนมาอยู่แล้วว่าเราจะเจออะไรบ้าง ปัญหานั้นก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะรับมันแน่นอน ฝรั่งกับคนไทยความแตกต่างสูงมาก หากจะแต่งงานกับฝรั่งแล้วต้องถามตัวเองก่อนว่ารักฝรั่งจริงหรือว่ารักแบบฉาบฉวย เพราะเมื่อแต่งงานแล้ว มาอยู่ที่นี่แล้ว แน่นอนว่าไม่ได้มีฝรั่งเฉพาะแค่สามีของเราคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีครอบครัวสามี เพื่อนสามีเจ้านายสามี และอีกแปดแสนรายการเข้ามาพัวพันกับชีวิตเราและสามีด้วยแน่นอน และทั้งหมดเป็นฝรั่ง ซึ่งหากเราเข้าใจฝรั่ง ชีวิตที่นี่จะไม่มีปัญหาเลย วัฒนธรรมที่แตกต่างของเราเพียงแต่เปิดใจลองมองดูว่าทำไมฝรั่งถึงเป็นแบบนี้ ทำไมบ้านเมืองเขาจึงเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่เทวีมองไปที่ต่างๆที่สวิส มันจะมีคำถามตลอดว่าทำไมไอ้นี่จึงเป็นอย่างนี้และทำไมไอ้นั้นจึงเป็นอย่างนั้น เทวีก็ลองหาคำตอบให้กับตัวเอง และคำตอบที่ได้ก็คือ ของส่วนใหญที่นี่ได้ถูกคิดขึ้นมาและคิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าแล้ว และเมื่อเราได้มองถึงปัญหาที่จะเกิดไว้ล่วงหน้าแล้ว เราก็จะหาทางกันไว้ก่อน เรียกว่ากันดีกว่าแก้นั่นเอง มันก็เหมือนชีวิตที่นี่ละ เทวีว่าทุกคนเลยดีกว่าคงเคยได้ยินคำขู่หรือคำพูดต่างๆนานก่อนมาอยู่สวิส โอ๊ยมันเหงามากเลย ประเทศเงียบมาก เลย คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่สามีก็คุยกันไม่รู้เรื่อง. . ขอโทษนะค่ะ หากคำบางคำที่เขียนนี่รุนแรงแต่ลองตรองดูก่อนนะว่ามันจริงหรือเปล่า
คุยกับสามีก็ไม่รู้เรื่อง แค่ภาษาผัวเมียซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าจะเป็นภาษาไหน กะอีแค่สามีตัวเองยังคุยไม่รู้เรื่องแล้วแต่งงานกันทำไมเอ่ย อันนี้บ่งบอกถึงสาเหตุอื่นมากกว่าที่แต่งงานกัน มิใช่แค่รักกันงั้นเหรอ และเมื่อมันเป็นอย่างนั้นจริงๆละก็เตรียมรับกับปัญหาที่เราเองคาดหวังไว้ก่อนมาสูงเกินไปว่าเราต้องเจอกับมันแน่นอนอีกสามล้านปัญหา มันมาแน่ๆ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง คราวนี้ความเหงามาเยีอนทันใด สวรรค์ที่สวิสกับทัศนยภาพที่สวยงามกลายเป็นนรกทันใด. . . มันเป็นเพียงเพราะขาดความรักแท้ๆ และเมื่อขาดความรักแท้ๆแล้วเราเองก็ไม่มีเกราะหรือกำลังใจใดๆที่จะให้เราได้ต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่นี่ได้เลย โรงเรียนจะไปเรียนภาษาก็ไม่มีโอกาสได้ไป เพราะอย่าว่าแต่สามีคิดจะให้ไปเลย เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ารักเรา เราเองก็ไม่แน่ใจว่ารักเขา โอ๊ยค่าเทอมแพงๆนะลืมไปได้เลย . . แล้วจะมีสักกีคนที่ทนขวนขวายเรียนภาษาเองตรัสรู้เองอยู่กับบ้านในขณะที่สามีก็ไม่ได้ใส่ใจ เป็นธรรมดาว่าเราเองก็ไม่อยากเรียน เพราะไม่รู้จะเรียนไปทำไม. . . ปัญหาอีกแล้ว เหงาอีกแล้วเพราะอะไรละ. . . ขาดความเข้าใจ. . ขาดความรัก
แต่. . . เมื่อใดก็ตามที่มีความเข้าใจ. . . มีความรัก ปัญหาเหล่านี้น้อยมากที่จะเกิดขึ้น
เพราะสามีรักเราและเราก็รักสามี . สามีจะเข้าใจทันทีว่าที่เธอต้องมาแต่งงานกับเราที่เธอต้องจากบ้านจากเมืองไทยมากเพราะเรา เขาจะรู้สึกผิดและรู้สึกรับผิดชอบเรามากขึ้นเป็นทวีคูณ ควาวนี้ทุกๆปัญหาเขาจะช่วยเราแก้. . เทวีเองโชคดีมาก เพราะจากความรู้สึกของเทวีเองเทวีว่าสามีของเทวีรู้สึกอย่างนั้น คราวนี้จะเอาอะไรหรือปัญหาอะไรเกิด. . เขาจะอยู่ข้างเราเสมอ
พูดภาษาไม่ได้เหรอ . . . ไปโรงเรียนซิ โรงเรียนคือการลงทุนที่ดีที่สุด แม้จะต้องใช้เงินหรือใช้เวลามากหน่อย หากแต่ถ้าเราพยายามให้เขาเห็นนะว่าเราอยากเรียนมากขนาดไหน. . . เหมือนเทวีน่ะ สามีก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรไม่มีเงินเสียค่าเทอมเมียยังไปกู้เงินมาให้เมียเรียนเลย แล้วอย่างนี้เราจะไม่ตั้งใจเรียนได้ไง
เมื่อคุยกันรู้เรื่องไม่ใช่เฉพาะแต่กับสามีแต่กับคนอื่นๆด้วย. . . คำว่าเหงาไม่เคยเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชาติไหนก็ไม่มีปัญหาเพราะคุยกันรู้เรื่อง. . สามีไม่ว่างเหรอ ไม่เป็นไรเราไปเที่ยวกับคนอื่นก็ได้ เพื่อนของเรา เพื่อนของสามี โอ๊ยไม่มีเวลาเหงาหรอก เมื่อรู้จักคนมากขึ้นโอกาสต่างๆก็มากขึ้น มีงานไหนที่เราพอจะทำได้ก็มีคนช่วยบอกเรา อย่างเทวีที่ได้งานทำดีๆนี่เพราะเพื่อนสามีตกงานแท้ๆแล้วหางานจากอินเตอร์เน็ต เห็นงานนี้น่าจะเหมาะกับเราก็โทรมาบอกเรา เทวีเองไม่ได้งานงานยังมาหาเราเลย เพราะเรามีเพื่อนนั่นเอง
พูดมายืดยาวแค่อยากจะบอกว่ามันอยู่ที่เราทั้งหมดว่าจะมองปัญหาและจะแก้ปัญหานั้นยังไง
เทวีไม่เคยรู้จักคำว่าเหงา และไม่เคยเห็นว่าสวิสไม่ดี ที่นี่คือสวรรค์ดีของเทวี เพราะเทวีไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนมาจากเมืองไทย
สวิสคือสวรรค์ของเทวีเพราะเทวีมีสามีที่น่ารักมีเพื่อนๆมากมายหลายประเทศมากๆ มีงานให้ทำ มีประสบการณ์ใหม่ๆที่หาจากเมืองไทยไม่ได้
แต่วันหนึ่งเทวีก็จะกลับบ้าน จะกลับไปอยู่เมืองไทย เพราะต่อให้สวิสคือสวรรค์แต่เมืองไทยคือบ้าน คือที่ที่ให้กำเนิด ที่นั่นเทวีมีพ่อมีแม่รออยู่ ยังไงก็รักกกกกเมืองไทยมากกว่าอยู่แล้ว แต่เราอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหาเพราะเราไม่ทำตัวมีปัญหานั่นเอง. . .