ได้เงิน 120000 บาทไทยเทียบกับที่ swiss ถือว่าใช้ได้หรือเปล่าค่ะ

Started by moo5202, March 11, 2009, 12:30:29 PM

Previous topic - Next topic

Jane

ก่อนอื่นก็ขอสวัสดี พีๆน้องๆ ที่อยู่ที่สวิตก่อนนะค่ะ  และก็สวัสดีคุณบี  ขอแนะนำตัวก่อน  ชื่อเจนค่ะเพิ่งแต่งงานและมาอยู่ที่สวิตอย่างเป็นทางการเกือบ 3อาทิตย์แล้ว แต่มาเที่ยวกับแฟนบ่อยที่สวิตค่ะ อยู่กินด้วยกันมาเกือบสามปีเพิ่งแต่งงานเมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมานี้เองค่ะ
และเจนก็ได้อ่านเรื่องราวของคุณบี และก็อยากเป็นอีกคนหนึงที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ  สู้ๆ ต่อไปนะค่ะ
ไม่ต้องกลัวอะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ลองมาเที่ยวดูก่อนสิค่ะถ้ายังไม่แน่ใจและก็ยังไม่รู้อะไร ศึกษากันดูให้ดีก่อน
เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสุดท้ายค่ะ


moo5202

Quote from: naddyswiss on March 28, 2009, 12:13:38 PM
คุณน้องบีคะ ช่วง Holiday หน้าหนาวสามเดือนเป็นไปได้นะคะ เพราะว่าพี่ชายสามีเค้าทำงานก่อสร้าง เค้าจะมีช่วงหยุดยาวหน้าหนาวเหมือนกันค่ะ แต่ช่วงหน้าหนาวงานก่อสร้างไม่มีเพราะหิมะมันตก เค้าก้อจะเป็นครูสอนสกีแทนค่ะ ช่วงเดือน เมษา ถึงเดือน พ.ย. เค้าจะอยู่ที่ Obersimmental ทำก่อสร้างอยู่ที่แถบนี้ค่ะ งานประจำเค้า หลังจาก พ.ย. ไปแล้วพี่แกก้อเบรคไปเทียวเมืองไทย ลูกเมียไม่มีค่ะ พี่แกก้อนั่นแหล่ะ พัทยา หุๆๆ หนุ่มโฉด เอ้ยหนุ่มโสดน่ะฮ่ะ แต่พอหิมะเริ่มลงเค้าก้อกลับจากไทย ไปทำงานเป็นครูสอนสกีต่อค่ะ จะบอกว่าตัวคนเดียว เค้าก้อมีเงินเก็บแบบเที่ยวเมืองไทยได้สบายค่ะ

ส่วนเรืองสินสอดทองหมั้น ที่ทางป้าคุณจะเรียกนั้น ขอบอกว่าโหดมากค่ะ โหดจริงๆนะคะ คือทำไมเราต้องจะคิดว่าอยู่กันไม่ได้ด้วยล่ะค่ะ เหมือนคุณโจ้บอกช่วยกันหาก้อได้นี่หน่า ตอนโหน่งแต่งญาติทางแม่ก้อทำเป็นกระแนะกระแน๋ว่า โหได้ลูกเขยฝรั่งทำไมเรียกถูกมากเลย ถ้าเป็นเค้าๆจะเรียกเป็นล้านเลย ตอนโหน่งแต่งงานอ่ะโหน่งท้องนะ สามีเราเค้าก้อดีใจ รับผิดชอบโหน่งทุกอย่างรวมถึงพ่อแม่โหน่งด้วย พ่อแม่โหน่งทำเค้าไม่ลงหรอกค่ะ ทุกวันนี้ความเป็นอยู่ โคตะระดีกว่าเมื่อก่อนร้อยเท่า พ่อแม่โหน่งบอกไม่ได้ขายลูกกินมีคนเอาลูกเราไปเลี้ยงไม่ทิ้งไม่ขว้างก้อดีถมไปแล้ว

อ้อส่วนเรื่องที่ป้าคุณคิดว่า ถ้าเผื่อเค้าทิ้งคุณๆจะได้มีบ้านอยู่ แต่ธรรมเนียมฝรั่งเนี่ยไม่มีสินสอด เพราะว่าคุณหย่ากันเนี่ย คุณได้เงินจากสามีนะคะ นี่แหล่ะคือสิ่งที่ว่าฝรั่งไม่ได้ให้สินสอดฝ่ายหญิง แถมผู้หญิงต้องจัดงานแต่งงานเองด้วย หุๆๆ

ก้อตอนสามีโหน่งหย่าเมียคนแรก เค้าก้อต้องให้เงินหล่อนมากมาย แถมต้องซื้ออพาร์ทเม้นท์ให้อีกหลังนึง รถอีกคันนึง หล่อนก้อไปเสพสมกับแฟนของหล่นแว๊ว ทั้งๆที่หล่อนมีชู้อ่ะ ผู้ชายยังทำอะไรไม่ได้เลย มีแต่เสียกับเสีย แต่โชคดีไม่มีลูกด้วยกัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใดน่ะค่ะ อยากบอกว่าคุณควรจะมาดูสภาพชีวิตเค้าที่สวิสก่อนจะดีกว่าค่ะ อย่าด่วนตัดสินใจ อย่าคิดว่าเค้าเป็นฝรั่งต้องเอาไว้ก่อน คือเห็นมาหลายคนแล้วน่ะค่ะ ตามฝรั่งมาที่สวิส จะแต่งงานกะฝรั่งให้ได้ พอแต่งแล้วต้องหาให้ฝรั่งใช้ด้วยนี่สิ คือถ้าเราช่วยกันหามันดีกว่า ต้องมานั่งหาคนเดียวน่ะค่ะ แถมเลี้ยงปั๋วอีก โอ้วไม่ไหวนะฮ๊ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากที่ได้บอกบีมานะค่ะ บีเองก็คิดไว้อย่างงั้นเหมือนกันค่่ะ ว่าเค้าจะต้องทำงานก่อสร้างแน่ ๆ เลยค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะช่วยอธิบายรายละเอียดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยค่ะ มีความมั่นคงหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

moo5202

อ้อ.....อีกนิดค่ะ

ขอขอบคุณป้าพอลเจ้าของกระทู้ และพี่ ๆ น้อง ๆ ที่เป็นแม่บ้านสวิททุกท่านที่มาให้กำลังใจนะค่ะ ตอนนี้บีเองก็ขอให้ผลบุญที่บีได้ทำมาทั้งหมด ให้ชี้นำให้บีได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ค่ะ(ตอนนี้ก็เจอแล้วไง พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ที่กระทู้ของป้าพอลไง  ;D) ดลจิตดลใจให้เลือกในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมค่ะ และขอให้ผลบุญนั่นกลับไปสู่ทุก ๆ ท่านด้วยนะค่ะ ร้อยเท่าพันเท่าทวีค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ :D

อิอิ อย่าหาว่าบีเป็นแม่ชีเลยนะค่ะ แต่บีไม่มีอะไรจะให้ มีแต่คำอวยพรค่ะ  ;D

ปล. แล้วจะมาอัพเดทใหม่นะค่ะ ต้องกราบขอโทษป้าพอลจริง ๆ นะค่ะ ที่ต้องมาทำให้ป้าพอลเปลืองเนื้อที่กับเรื่องไรสาระของบี บีเองก็ไม่ทราบว่าจะไปพึ่งใครแล้ว แต่ถ้าหากว่าบีได้แต่งงานกับเค้าจริง ๆ ต้องเป็น story เรื่องยาว ที่มีทุกคนเป็นผู้มีส่วนร่วมเป็นกุนซือเลยล่ะค่ะ ซึ่งบีเองก็ไม่ได้ขาดหวัง ว่าจะมีอีกหลาย ๆ คนที่อยู่ในที่ไกลมาก ๆ หวังดีกับเรายิ่งกว่าพี่น้องเราเสียอีก แต่ถ้าหากว่าไม่ได้แต่งก็จะเป็นบทเรียนบทหนึ่งของชีวิตที่อยากแชร์ให้คนอื่นได้ทราบเป็นวิทยาทานค่ะ ติได้ ชมได้ เตือนได้ค่ะ ด่าก็ได้นะค่ะ บีไม่โกรธหรอกค่ะ เหมือนพี่เตือนน้อง เหมือนน้องเตือนพี่ค่ะ (หากท่านไดเบื่อบีบ่น หรือว่าบีบ่นมากไป กรุณาติดชมได้ค่ะ)

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ  :D

Nantaree

สวัสดีค่ะ คุณ moo5202

Nan ติดตามอ่านเรื่องของคุณมาตลอดและเข้าใจในสิ่งที่คุณกังวล แต่ความคิดของ Nan step
แรก เขาควรมาหาคุณที่เมืองไทย มาใช้เวลากับคุณ ไปเที่ยวด้วยกัน และเรียนรู้กันไปก่อน
จากนั้นถ้าไปด้วยกันได้ แนะนำให้คุณขอ visitor visa ไปเที่ยวบ้านเขาที่สวิส ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของเขาที่โน่น ครอบครัวเขา และอื่นๆ จากนั้นถ้าทุกอย่าง OK คุณค่อยตัดสินใจแต่งงาน ดูๆ แล้วชีวิตที่สวิสไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะเรื่องภาษา ต้องพูดภาษาบ้านเขาได้ถึงจะหางานทำได้ คงใช้เวลาเป็นปี  อีกอย่างการเรียนรู้กันบน msn ยังไงมันก็ไม่ดีเท่าการเจอตัวจริง
ใช้เวลาด้วยกันจริงๆ  อย่าง nan เจอมาแล้ว ตอนคุยกันบน msn หวานทุกวัน อะไรก็ดีหมด พอมาเจอตัวจริง แฟนค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเอง  ไม่ฟังความเห็นเรา พอตัวเองผิด ค่อยมาสำนึก แต่สุดท้ายก็เข้าใจกัน แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ตอนนี้ก็ดีแล้ว เพียงแต่เราต้องเปิดใจกว้างๆ ปรับตัวเข้าหากัน เรียนรู้กันไปและมันก็จะไปด้วยกันได้ nan เจอกันสองครั้งในช่วงเวลาเกือบปี  nanกำลังจะขอวีซ่า 20 เมย.นี้ไปเที่ยวบ้านเขาค่ะ หวังว่าคงทำให้คุณบีคลายความกังวล และค่อยๆ คิดไปนะคะ

Nan

angkanaruk

สู้ๆค่ะ กิ๊ฟก้อเคยค่ะ ช่วงแรกๆก้อคุยกันทางเอ็มค่ะ และก้อไม่ได้ติดต่อแฟนอีกเลยสามเดือนแต่ก้อไม่มีปัญฆาค่ะเพราะเราเปงแค่เพื่อนกัน หลังจากที่กลับมาทำงานต่อ ก้อคุยกันค่ะ ทุกวันเลยแต่ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้วค่ะ เลยคุยมากไม่ได้ ของๆใครใครก้อหวงจริงไหมค่ะ แต่พอแฟนเค้าหายเงียบไป สองอาทิตยค่ะ เพราะไปมีกิ๊กอ่ะค่ะ ช่วงเวลาที่แฟนเค้าหาย กิ๊ฟก้อพึ่งเลิกกับแฟนใหม่ๆเลย มันคงมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปทั้งสองคนมั้งค่ะ เราก้อสึกดีด้วยกันทั้งคู่ค่ะ และก้อตกลงเปงแฟนกัน แต่ สองอาทิตยผ่านมาจากคนที่เคยโทรมาทุกวันแต่วันนี้เค้าไม่โทรมาเราก้อแปฃกใจค่ะว่าทำไม ไปร้านเน็ต ไปออนถามเค้าว่ทำไมไม่โทรมามีไรรึป่าวเปงไรรึป่าว เหงเค้าร้องไห้ค่ะ คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้องกลับมาหา เหอๆ ก้อถามแฟนค่ะ ว่าจะเลือกใคร จะกลับไปอยู๋กับคนนั้นก้อได้น่ะ เค้าก้อบอกเค้ารักผู้หญิงคนนั้นมากกว่ากิ๊ฟ กิ๊ฟก้อบอกโอเค รักเค้าก้อไปหาเค้าเถอะ และเราก้อนั่งคุยกัน ร้องไห้ไปด้วยตั้งแต่เที่ยงคืนยัน หกโมงเช้าค่ะ กิ๊ฟก้อขอตัวไปนอนเพราะต้องไปทำงาน แปดโมง ตกลงวันนั้นไม่ได้นอนค่ะ นอนไม่หลับ โดนทิ้ง เหอๆ ;D แต่หลังจากนั้นเค้าโทรมาหากิ๊ฟก้อไม่ค่อยรับโทรศัพย์หรอกค่ะ ยังทำใจไม่ได้ค่ะ คราวนี้ก้อชวนเพื่อไปเที่ยวตลอดเลย กินเหล้า แต่ก้อไม่เมาหรอกกลัวทำงานไม่ได้เนอะ  :D แต่ผ่านไปสามวันเค้าส่งข้อความมาหาค่ะ บอกว่ามีข่าวดีจะบอก เราก้องง ไรหว่า ??? ที่ไหนได้ค่ะ เค้าขอเลิกกับผู้หญิงคนนั้น เพราะรู้แล้วค่ะ ว่ารักกิ๊ฟ  ;D ;D แต่ผูหญิงคนนั้นเค้าก้อไม่ได้รักแฟนกิ๊ฟน่ะค่ะ เค้าแค่ชอบเท่านั้นเองเพราะเหงเค้าเด็กไง หนูรักเด็กค่ะ  :D :D :D

naddyswiss

คุณบีคะ โหน่งก้อไม่ได้ทราบอะไรมากนัก เค้าอาจจะทำก่อสร้าง

หรือบางทีเค้าอาจทำธุรกิจร้านอาหารก้อได้ เพราะร้านอาหารเค้าก้อจะมีช่วงที่ปิดเหมือนกันกัน

แต่สำหรับอาชีพก่อสร้างที่สวิส ขอบอกก่อนเลยนะคะ อย่าเอาไปเปรียบกับเมื่องไทยค่ะ เพราะว่าเทียบกันไม่ได้

คนที่ทำก่อสร้างที่นี่เค้ารายได้ดีและต้องเรียนมาเพื่อทำอาชีพนี้โดยเฉพาะค่ะ

ส่วนพี่เขยโหน่ง อย่างที่บอกเค้าตัวคนเดียว เค้ามีเงินสบายๆสำหรับอยู่ด้วยตัวเค้าเอง และยังสามารถเก็บไปเที่ยวเมืองไทยได้สบายๆเลยทีเดียวค่ะ

Quote from: moo5202 on March 30, 2009, 04:30:37 PM
Quote from: naddyswiss on March 28, 2009, 12:13:38 PM
คุณน้องบีคะ ช่วง Holiday หน้าหนาวสามเดือนเป็นไปได้นะคะ เพราะว่าพี่ชายสามีเค้าทำงานก่อสร้าง เค้าจะมีช่วงหยุดยาวหน้าหนาวเหมือนกันค่ะ แต่ช่วงหน้าหนาวงานก่อสร้างไม่มีเพราะหิมะมันตก เค้าก้อจะเป็นครูสอนสกีแทนค่ะ ช่วงเดือน เมษา ถึงเดือน พ.ย. เค้าจะอยู่ที่ Obersimmental ทำก่อสร้างอยู่ที่แถบนี้ค่ะ งานประจำเค้า หลังจาก พ.ย. ไปแล้วพี่แกก้อเบรคไปเทียวเมืองไทย ลูกเมียไม่มีค่ะ พี่แกก้อนั่นแหล่ะ พัทยา หุๆๆ หนุ่มโฉด เอ้ยหนุ่มโสดน่ะฮ่ะ แต่พอหิมะเริ่มลงเค้าก้อกลับจากไทย ไปทำงานเป็นครูสอนสกีต่อค่ะ จะบอกว่าตัวคนเดียว เค้าก้อมีเงินเก็บแบบเที่ยวเมืองไทยได้สบายค่ะ

ส่วนเรืองสินสอดทองหมั้น ที่ทางป้าคุณจะเรียกนั้น ขอบอกว่าโหดมากค่ะ โหดจริงๆนะคะ คือทำไมเราต้องจะคิดว่าอยู่กันไม่ได้ด้วยล่ะค่ะ เหมือนคุณโจ้บอกช่วยกันหาก้อได้นี่หน่า ตอนโหน่งแต่งญาติทางแม่ก้อทำเป็นกระแนะกระแน๋ว่า โหได้ลูกเขยฝรั่งทำไมเรียกถูกมากเลย ถ้าเป็นเค้าๆจะเรียกเป็นล้านเลย ตอนโหน่งแต่งงานอ่ะโหน่งท้องนะ สามีเราเค้าก้อดีใจ รับผิดชอบโหน่งทุกอย่างรวมถึงพ่อแม่โหน่งด้วย พ่อแม่โหน่งทำเค้าไม่ลงหรอกค่ะ ทุกวันนี้ความเป็นอยู่ โคตะระดีกว่าเมื่อก่อนร้อยเท่า พ่อแม่โหน่งบอกไม่ได้ขายลูกกินมีคนเอาลูกเราไปเลี้ยงไม่ทิ้งไม่ขว้างก้อดีถมไปแล้ว

อ้อส่วนเรื่องที่ป้าคุณคิดว่า ถ้าเผื่อเค้าทิ้งคุณๆจะได้มีบ้านอยู่ แต่ธรรมเนียมฝรั่งเนี่ยไม่มีสินสอด เพราะว่าคุณหย่ากันเนี่ย คุณได้เงินจากสามีนะคะ นี่แหล่ะคือสิ่งที่ว่าฝรั่งไม่ได้ให้สินสอดฝ่ายหญิง แถมผู้หญิงต้องจัดงานแต่งงานเองด้วย หุๆๆ

ก้อตอนสามีโหน่งหย่าเมียคนแรก เค้าก้อต้องให้เงินหล่อนมากมาย แถมต้องซื้ออพาร์ทเม้นท์ให้อีกหลังนึง รถอีกคันนึง หล่อนก้อไปเสพสมกับแฟนของหล่นแว๊ว ทั้งๆที่หล่อนมีชู้อ่ะ ผู้ชายยังทำอะไรไม่ได้เลย มีแต่เสียกับเสีย แต่โชคดีไม่มีลูกด้วยกัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใดน่ะค่ะ อยากบอกว่าคุณควรจะมาดูสภาพชีวิตเค้าที่สวิสก่อนจะดีกว่าค่ะ อย่าด่วนตัดสินใจ อย่าคิดว่าเค้าเป็นฝรั่งต้องเอาไว้ก่อน คือเห็นมาหลายคนแล้วน่ะค่ะ ตามฝรั่งมาที่สวิส จะแต่งงานกะฝรั่งให้ได้ พอแต่งแล้วต้องหาให้ฝรั่งใช้ด้วยนี่สิ คือถ้าเราช่วยกันหามันดีกว่า ต้องมานั่งหาคนเดียวน่ะค่ะ แถมเลี้ยงปั๋วอีก โอ้วไม่ไหวนะฮ๊ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากที่ได้บอกบีมานะค่ะ บีเองก็คิดไว้อย่างงั้นเหมือนกันค่่ะ ว่าเค้าจะต้องทำงานก่อสร้างแน่ ๆ เลยค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะช่วยอธิบายรายละเอียดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยค่ะ มีความมั่นคงหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

Nantaree

เห็นด้วยกับคุณโหน่งค่ะ แฟนเพื่อนของแนนเป็นช่างทาสีที่สวีเดน ได้เงินเดือนตั้ง 130,000 บาทเลยค่ะ เขาเป็นช่างอยู่บ.รับทาสีค่ะ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วยกันหาช่วยกันทำดีกว่า ได้ประสบการณ์ชีวิตด้วย วันหนึ่งไม่มีสามี เราจะได้อยู่ได้ด้วยตนเอง นี่เป็นความคิดของแนนนะคะ

wattana

สวัดดีครับคุณ บี

ไม่ว่าแฟนคุณจะมีเงินเดือนเท่าไหร่ ถ้าไปด้วยกันได้ก็ขอให้มีความสุขจะครับ
เพาะผมเห็นมาหลายคู่แล้วนะ เงินไม่ได้ทำให้เรามีความสุขเท่ากับแฟนคุณรักคุณ แล้วคุณก็ยอมรับ
ซึ่งกันและกันะครับ
อาจจะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ ขอให้มีความอดทนพอ แล้วคุยกันให้เข้าใจกันนะ ครับอย่าปิดบังกัน
จะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้นะครับ
ขอเอาใจช่วยให้ได้มาเป็นสะไภ้ คนสวิสนะครับ

วัต ::)

dudsi

Sawassdee ka
Sorry that I can't type thai na ka. I have read your topic and wanna tell you that my boyfriend is studying Ph.D(doctor) at University and he earns(part time rate) about 4000fr.=120000bht. a month. We are in Zurich which the living cost is very very high. Excluded food and apartment rental, I spend only 10fr.=300bht a day which is a little money here. you can barely go shopping like in Thailand. I am not frugal, so it's quite hard for me to live. Although, I am happy to be with my boyfriend, it's even a little money. ;D

ปรมัทร์ มณีกร

สวัสดีคะคุณบีและกราบสวัสดีคุณป้า pall ด้วยนะคะ ตั๊กกี้ก็เพิ่งคบกับหนุ่มสวิสไมนานเองแต่ก็วางแผนที่จะแต่งงานกันเร็ว ๆ ๆนี้ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจคะถ้าเราเปิดใจกว้างที่จะเรียนรู้กันและกัน ค้นหาว่าสิ่งที่ต้องการมันคืออะไร ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หรือไม่ก็เอาใจวัดกันไปเลย ตัวตั๊กกี้เองก็ไม่กล้าที่จะแนะนำซักเท่าไรเพราะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ก็ประคับประคองกันไป ตอนนี้ก็รู้สึกว่ารักกันมาก แต่ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม ยังไงก็เอาใจสู้นะคะ เข้มแข็งและมั่นคงอะไรก้ไม่ใช่อุปสรรคคะ

Giadanan

สวัสดีค่ะ  อ่านเรื่องของคุณแล้ว  มีความคิดเห็นว่า อย่าเพิ่งเครียด  อย่าเพิงใจร้อนตัดสินใจนะคะ  คบกันไปนานๆ  ยิ่งคุยกันทาง msn อย่างเดียวย่อมไม่รู้นิสัย  คนที่นี่ถ้าไม่พร้อมไม่อยากมีลูกหรอกเพราะภาระและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกสูงมาก ขอใช้เด็กแพง  ก็อย่างที่หลายคนแนะนำมา คบกันไปก่อน  ให้เขารู้จักครอบครัวเรา  และเรามารู้จักครอบครัวเขาจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงและครอบครัวเขากับเราเข้ากันได้ดีไหม  เพราะถ้ามีอาชีพที่มั่นคงยิ่งไม่ควรรีบตัดสินใจนะ เพราะว่างานที่นี่หายาก
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ว่าที่คุณแม่ค่ะ

nat

สวัสดีค่ะน้องบี พี่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ และขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจพี่(ให้กำลังใจซื่งกันและกันเนอะ) พี่คงให้คำแนะนำอะไรไม่ได้เพราะพี่เองก็เอาตัวไม่รอด ให้พี่ๆ เพื่อนๆที่มีประสบการณ์ตรงมาแนะนำจะดีกว่า แต่วันนี้พี่มีหนังสือดีๆมาแนะนำ ถ้ามีเวลาว่างก็ลองอ่านดูนะมีข้อคิดดีๆเยอะเลย....1 ธรรมะทอรัก ของพระ ว.วชิรเมธี....2 ธรรมะ delivery (ธรรมะคู่รัก)ของพระมหาสมปอง....3 ดังตฤณวิสัชนา ของคุณดังตฤณ.

พี่ขอให้น้องบี โชคดีและมีควาสุขนะคะ สูั สู้....

ซกมก

 สวัสดีค่ะทุกๆคน
    อยากบอกว่าเคยเจอแฟน สามวันแล้วลองอยู่ด้วยกันสามเดือนหลังจากนั้นก้อแต่ง สําหรับตัวเองแล้วอาจเป็นโชคร้ายก้อได้ค่ะ ที่ชีวิตแต่งงานล่ม มีความรู้สึกว่าตามใจตัวเองไปหน่อย เหตุผลก้อคือ เจอกันปุ้บก้อเหมือนจะว่ารักเลย อยู่แบบใช้ความรักล้วนๆ ทุกอย่างมันก้อเลยล่มสลายได้ง่ายดายสุดๆ จนกระทั่งคนปัจจุบันใช้เวลาดูใจกันถึงสามปีเต็ม ถึงได้รู้ว่าเวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งใจเขาใจเราได้ดีสุดๆ ขอเอาใจช่วยด้วยคนนะคะ ใจเย็นๆ โชคดีค่ะ

ซกมก

 :D :D :D หวัดดีอีกรอบค่ะ
         งานแต่งของซกมก ก้อคือปั่นจักรยานไปอําเภอที่นี่กันสองคน แถมเอาดอกไม้ซ่อนในแจ๊คเก๊ตอีกต่างหาก นายอําเภอถามเรื่องสวมแหวนแต่งงาน ซกมกบอกเลยค่ะตอนนี้ไม่สบายเป็นหวัดไม่มีแรงตีแหวนเอง ประมาณว่าไม่ยอมให้แหวนสําเร็จที่ไม่ผ่านการทําจากมือตัวเองมาอยู่บนมือตัวเองเด็ดขาด ไม่มีสินสอดใดๆเหมือนคนอื่นแระค่ะ จะได้ก้อคือได้ลูกแฟนฟรีๆมาเลี้ยงสองคน สนุกไปเลยค่ะ

moo5202

สวัสดีค่ะทุกคนที่เป็นแฟน Pallswiss ทุกท่านนะค่ะ

     ก่อนอื่นต้องขอ update ข้อมูลลก่อนนะว่าตอนนี้บีเองก็เฉย ๆ กับเค้าแล้วอ่่ะ ตอนแรกที่เค้าบอกว่าจะมาวันที่ 1 ธันวาคม ตอนแรกบีก็หวังและรอเค้ามาตลอดตอนนี้ก็คบกันมาหนึ่งปีแล้ว ปรากฏก่อนจะถึง 1 ธันวาคม ปีได้ถามว่ามาถึงเวลากี่โมง อย่างไรบ้างจะได้ไปรับถูก เค้าบอกว่า เดี๋ยวบอก ดูก่อน อารายทำนองเนี้ย ถามกี่ครั้งก็ไม่ตอบ ไม่พูด พูดแค่คำเดียวว่าเดี๋ยวบอก ดูก่อน บีก็แบบว่า อ่อ..ช่างเธอสิ ก็ไม่ได้สนใจ จนประมาณว่าใกล้ ๆ วันที่จะมามาก ๆ เค้าก็บอกบีว่าจะมาทำฟันที่มาเลเซียก่อน วันที่ 6-7 จะมาหาที่ไทย บีก็ถามว่าทำมัยต้องมาเลเซีย เค้าบอกว่าถูกมากทำดีด้วย  ??? ก็งง ๆ นะ แต่ก็รู้สึกแย่อ่ะว่าทำมัยไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังเลยว่าจะทำอะไร มีแผนว่าไงบ้าง ตอนที่รู้ว่าเค้าทำงี้กะเราก็รู้สึกแย่มาก ๆ จนหลังจากวันที่ 6 เนี้ย เค้าก็หายไปเลยค่ะเป็นอาทิตย์จนในที่สุดเค้าก็ติดต่อมา บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนรถมอเตอร์ไซค์ี่ที่เค้าขับอยู่ เค้าจะต้องได้รับการผ่าตัดที่ขาตอนนี้ไม่สามารถเดินได้ เลยไม่สามารถติดต่อหรือบินกลับไทยได้ บีก็คิดว่าทำมัยเค้าซวยอย่างงี้นะ แต่เค้าก้ไม่ค่อยติดต่อมา จนมาถึงวันที่ 21 ธันวาคม เป้นวันสุดท้ายที่คุยกัน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย เค้าบอกว่าเค้าอ่ะยังเดินได้ไม่คล่องเท่าไหร่ แบดแผลจากการรผ่าตัดยังไม่หายดี แต่เค้าสัญญากับพ่อและพี่สาวไว้ว่าจะไปงานวันคริสมาสที่นิวซีแลนด์ ในวันที่ 24 วันนั้นบีเลยบอกเลิกเค้าไปค่ะ เค้าก็ไม่ยอมบอกว่าหลังจากรักษาตัวอาการดีขึ้นแล้วจะกลับจากนิวซีแลนด์แล้วมาหาที่ไทย จะมาแต่งงาน จนป่านนี้ยังไม่ติดต่อกลับมาเลย คิดแล้วเซ็งค่ะ  :( :( :( คนอย่างงี้จะเชื่อได้อีกหรอเนี้ยยยยยยยย