สวัสดีค่ะป้าพอล หนูอยู่เบริ์นค่ะ เจอคนไทยเยอะมาก แต่ทุกคนที่เจอดูท่าทางเค้าหยิ่งมาก ๆ เลยค่ะ บางครั้งอยากเข้าไปทัก แต่พอเจอหน้าแล้ว ไม่กล้าเลยค่ะ กลัวเค้าตอบกลับมาไม่ดี เคยครั้งหนึ่งเมื่อ เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เข้าไปทักทายคนไทยในร้านอาหารไทย เค้าทำแบบว่าเราไม่มีตัวตนในนั้นค่ะ หลังจากนั้นเลยไม่กล้าทักใครอีกเลย ทำไมไม่เหมือนคนในเวปนี้เลยคะ ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง หนูจากบ้านมาไกล ก็อยากจะมีเพื่อนคนไทยบ้าง แต่หาไม่เจอในเบริ์นทั้งที่มีคนไทยเยอะมากๆ
คิดถึงเมืองไทยจังค่ะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0674 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
สวัสดีค่ะคุณจรินธรณ์
ชื่อเพราะมากเลยค่ะไม่ทราบว่าคุณมาอยู่นานหรือยังคะ
คิดว่าคุณคงจะพอปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ได้แล้วนะคะ
เห็นด้วยค่ะมีคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศสวิตฯมีจำนวนมากพอสมควร
ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็เจอแต่คนไทยเรา
และมีบางแห่งสถานที่เที่ยวมีภาษาไทยและธงชาติไทยเราประดับแขวนไว้
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มยินดีภาคภูมิใจกับความเป็นคนไทยเราอย่างมาก
มนุษย์ทุกคนในโลกนี้เหมือนกันหมดค่ะมีทั้งคนดีและไม่ดี
มีคนที่เป็นมิตรและไม่เป็นมิตร บางคนมีความอิจฉาริษยาไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตน
ชอบดูถูกดูแคลนคนที่ต่ำกว่า อวดรวย ชอบจับผิดมนุษย์ด้วยกัน ฯลฯ
แต่พร้อมๆกันก็มีคนที่มีไมตรีจิตมีความรักความเห็นใจเข้าใจเราพร้อมๆกัน
ป้าเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณดีค่ะเพราะเคยประสบเหตุการณ์เหล่านี้มาก่อน
ขอเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ตอนมาอยู่ใหม่ๆนะคะ
ป้าเจอคนไทย3คนหน้าร้านค้ามิโกรในเมืองBern
ยอมรับค่ะว่าดีใจมากเพราะรู้สึกเหงาว้าเหว่และคิดถึงบ้านมาก
เข้าไปทักเขาพร้อมรอยยิ้ม ...เพล้ง....หน้าแตกค่ะ...เขาใช้สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า
และเดินหนีปราศจากรอยยิ้มและคำพูดทักทายกลับมา
เหมือนกับที่คุณเจอค่ะคือเหมือนป้าไม่มีตัวตนอยู่ณ.ที่ตรงนั้น
ตอนนั้นยอมรับค่ะว่าเจ็บปวด โกรธ เคือง และคิดว่า
ทำไมต้องง้อเราไม่ได้ขอใครกินเราก็เป็นคนเหมือนเขา...ฯลฯ
ซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่เกิดอารมณ์แบบนี้
เมื่อตกอยู่ในสถานะภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่แล้วก็หายไปค่ะและเข้าใจถึงอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้น
เป็นธรรมดาค่ะที่ถ้าใครเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ต้องมีความรู้สึกแบบนี้
คุณโชคไม่ดีค่ะที่ไปเจอกับคนที่ไม่อยากเป็นมิตรหรือไม่มีอารมณ์ทักทายด้วย
คำว่าหยิ่งคือความหมายของคนที่ไม่อยากมีไมตรีกับใคร
ซึ่งนอกจากคนไทยด้วยกันแล้วคนที่อยู่ที่นี่ก็มีมากค่ะที่ปราศจากไมตรี
อย่าท้อค่ะยิ้มๆ การยิ้มทักทายเป็นการให้ที่ไม่เสียเปล่า
เรายิ้มทักทายเขาด้วยใจบริสุทธิ์เขายิ้มตอบเรามาเรามีความสุข
แต่ถ้าเรายิ้มทักทายให้เขาๆไม่ยิ้มทักทายตอบก็อย่าเสียใจ
การยิ้มเป็นการให้ที่มีค่า การยิ้มเป็นการสร้างมิตรไมตรี
การยิ้มเป็นการมอบความรัก...ความบริสุทธิใจที่มีต่อกัน
ยิ้มวันละนิดจิตแจ่มใสโลกจะสดใส สันติสุข ด้วยความรักไมตรีที่มอบให้ต่อกันค่ะ
ลองใหม่นะคะยิ้มทายไว้เถอะค่ะ เขาเดินหนี ก็ปล่อยเขาไป
คนที่คุณทักทายยิ้มให้เขาคงมีปัญหา มองโลกในแง่ร้ายหรือไม่มีอารมณ์อยากคุยหรือยิ้มกับเรา
เขาอยากจะหยิ่งก็ปล่อยเขาไป.....หยิ่งให้เข็ดไปเลย...
ยิ้มทักทายไปเรื่อยๆไม่แน่นะคะคุณอาจจะโชคดีเจอคนที่เป็นมิตรตอบ
และเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันในที่สุด
ถ้าคุณเหงาอยากมีเพื่อนจริงๆถ้ามีงานที่คนไทยจัดหรือไปทำบุญที่วัด
ไม่แน่นะคะคุณอาจโชคดีเจอเพื่อนก็ได้ค่ะ
ถ้าคุณเหงาชอบดูหนังลองแวะไปดูที่นี่แก้กลุ้มอาจช่วยคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย
มีหนังให้ดูมากมายค่ะ
http://melaniemonster.wordpress.com/
อย่าลืมนะคะถ้าป้าเจอคุณและยิ้มให้ยิ้มทักทายตอบด้วยนะคะห้ามเดินหนี
สวัสดีค่ะคุณ Pall และคุณจรินธรณ์
คิดว่าเป็นอุปลักษณ์ส่วนบุคคลนะคะไม่ใช่เฉพาะแต่ที่เบิร์นหรือคนที่มาอยู่ต่างประเทศเท่านั้นแม้กลุ่มคนไทยที่มาเที่ยวที่สวิสก็ยังทำกิริยาแบบเดียวกันค่ะ จากประสบการณ์ของตัวเองครั้งหนึ่งเคยไปประชุมและพักที่โรงแรมที่ซูริค ตอนเช้าที่ไปเช็คเอ้าท์ได้ยินเสียงคนไทยกลุ่มหนื่งพูดคุยกันในบริเวณหน้าเคาท์เตอร์ จึงเข้าไปทักแต่คุณนายทั้งหลายทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินและเห็น มีผู้ชายสองคนในกลุ่มนั้นเข้ามาพูดดัวยอย่างเขินๆและมาถามว่ามาจากไหนและมาทำอะไรที่ซูริค บรรดาคุณนายเหล่านั้นคงจะคิดว่าเป็นผู้หญิงทำไมจึงเดินทางและเข้าพักที่โรงแรมคนเดียว แต่เค้าคงไม่ได้คิดว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นโรงแรมเดียวกันกับพวกคุณเธอพัก และก็เป็นโรงแรมเก่าแก่ระดับสูงซื่งทางโรงแรมจะไม่รับแขกที่พักเพื่อมาทำกิจการค้าอย่างอื่นแน่ คนไทยเราบางส่วนมักจะไม่ให้เกียรติ์คนไทยดัวยกัน เหตุเกิดที่โรงแรมระดับสูงที่เมืองไทยอีกค่ะ เวลาที่ไปเช็คเอ้าท์ต้องรอนานมาก จึงถามพนักงานว่ารออะไร เค้าตอบว่าให้พนักงานขื้นไปเช็คห้องว่าดื่มเครื่องดื่มในตู้เย็นหรือเปล่าและเช็คเสื้อคลุมอาบน้ำกับผ้าเช็ดต้วดัวย เลือดขึ้นหน้าทันทีเลยค่ะ พักโรงแรมมาทั่วไปหลายต่อหลายประเทศไม่เคยถูกเหยียดแบบนี้ เค้ามีฟอร์มกรอกอยู่แล้วว่าดื่มเครื่องดื่มอะไรไปบ้าง พนักงานยังไม่เชื่อถืออีก ทีฝรั่ง(มองดูก็รู้ว่าระดับแรงงานในประเทศเค้า)มาเช็คเอ้าท์ไม่เห็นต้องส่งพนักงานขึ้นไปตรวจสอบอีกครั้งเลยค่ะ เสียความรู้สึกมากๆ
คุณจรินธรณ์คะโชคดีแล้วค่ะที่ได้เห็นธาตุแท้ของคนก่อนที่จะติดต่อคบหากัน ถ้านิสัยเหล่านี้มาโผล่หลังจากรู้จักกันแล้วคุณจะเสียใจและผิดหวังมากกว่านี้ค่ะ ยิ้มเข้าไว้ค่ะ ไม่ช้าก็จะได้พบกับคนที่ยิ้มตอบและได้เพื่อนเอง
สวัสดีค่ะ คุณจรินธรณ์ และขอสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังคุณป้าพอลและทุกๆคนในบ้านนี้นะคะเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย เพิ่งมีเวลาเข้ามาทักทาย กลับมาหวัดก็เล่นงานจนอ่วมอรทัยเลย เพิ่งจะมีเสียงก็ไม่กี่วันนี่แหละจ้ะ เราคิดว่าคนไทยไม่เหมือนกันหมดทุกคนหรอก เพราะว่าร้อยพ่อพันแม่ มาจากคนละสภาพแวดล้อม ก็ปล่อยเขาไปน้อ เราก็ขอให้คุณจริณธรณ์เจอเพื่อนที่ดี และมิตรที่รู้ใจนะคะ อย่างน้อยก็ป้าพอลและทุกๆคนในบ้านนี้แหละค่ะ อ้อเราอีกคน ยินดีค่ะ โอมี่
ขอบคุณป้าพอล คุณตุ้ม และ คุณโอมี่ค่ะ อ่านแล้วใจชี้นขึ้นมาเลยค่ะ มีกำลังใจที่จะอยู่ในสวิสต่อไป ขอบอกว่าทุกคนที่อยู่ในเวปนี้ใจดีมากค่ะ ต่อไปนี้จะยิ้ม เหมือนอย่างที่ป้าพอลและทุกคนบอก
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
จะบอกยังไงดี คือเราก็อยู่แถวเบริน์นี่แหละ คนไทยแถวบ้านมีห้าคน พวกเรารู้จักกัน แต่พวกเราไม่ค่อยจะมีเวลาคุยกัน เพราะต่างคนก็ต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ มีครอบครัวที่ต้องดูแล และด้วยบรรยากาศหนาว แต่ละคนก็อยู่ในตัวตึกเป็นส่วนใหญ่ (ขนาดฝรั่งข้างบ้าน ไม่เห็นกันหลายเดือนแล้ว) แต่เวลาเราเจอกันเราก็คุยกันสารทุกข์ดิบไปตามภาษา สุขภาพ การงาน อะไรก็ว่ากันไปตามเรื่อง คุยเรื่องเมืองไทยบ้าง อะไรบ้าง ประมาณนี้ แต่ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ทักไม่ได้คุยกับคนไทยที่ไม่เคยรู้นานมากเลย แล้วก็ไม่มีใครมาทักมาคุยอะไรนานมากแล้วเหมือนกัน ก็งานก็เยอะ ลูกก็ดู บ้านก็เคลียร์ เรียนก็เรียน สอบก็สอบ ในหัวนี่หมุนอยู่ตลอดเวลา ติ้ว ติ้ว ติ้ว ..... แต่ถ้ามีคนมาทักทายพูดดีด้วย ไม่ว่าคนชาติไหน เราก็คุยดีด้วยแน่นอนค่ะ ถ้าคุณ จรินธรณ์มาคุยด้วย เราก็จะดีใจ และคุยดีด้วยแน่นอนค่ะ :)
ก่อนอื่นต้องสวัสดีป้าพอล และทุกๆ คน และขอโทษด้วย
ที่หายไป นาน ถึงค่อนข้างนานมาก แต่จริงๆ แล้วแอบ
เข้ามาอ่านเป็นระยะ ไม่เคยลืมเว็บป้าพอล ซ้ำยังเที่ยวบอก
ต่อกระจายเสียงให้กับคนไทยที่รุ้จัก (รู้จักมากด้วย)
เสียใจด้วยกับคุณจรินธรณ์นะคะ วิธีแก้มันมีสองวิธีค่ะ
วิธีที่ 1 ก้อคือทำอย่างป้าพอลบอก ยิ้มไว้ยิ้มให้ทุกคน
วิธีที่ 2 ก็คือเฉยๆไปเลย วางตัวเงียบๆ ต่อไปก้อไม่ต้อง
ทักใครก่อนอีก
แต่บอกไว้ก่อนนะคะ ถ้าคุณทำวิธีที่สอง ต่อไปคุณก้อจะ
กลายเป็นคนที่ดูหยิ่งเหมือนกับคนที่คุณเจอ
จะว่าไปไม่ต่างอะไรจาก คนที่เราเรียกว่าคนกรุงหรอกค่ะ
เมย์ก้อเคยเค้ามองตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกันค่ะ
ที่ซูริคคุยกันสองคำทำเหมือนไม่อยากคุย ก่อนอื่นถามเลย
มาอยู่นานหรือยัง ตอนนี้ทำอะไร พอตอบไปว่ามาอยู่ได้
สี่ปีแล้วค่ะ สองปีแรกมาเรียน เรียนเสร็จก้อแต่งงาน
แต่งงานปุ๊บก้อทำงานปั๊บ ตอนนี้อยู่ร้านขายนาฬิกาและของที่ระลึกค่ะ น้ำเสียงเค้าเริ่มเปลี่ยนไป ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยดี
ทำอย่างที่ป้าพอลบอกน่ะแหล่ะนะคะ ดีที่สุดแล้ว
แล้วก้อคิดไว้ว่าประเทศสวิสเซอร์แลนด์สวย
ถึงหนาวแต่ก้อดีกว่าร้อน ข้ามถนนก้อปลอดภัย
ขี่จักรยานก้อไม่ร้อน วิวสวยงามข้างทาง
คนสวิส ดูว่าหยิ่ง แต่จริงแล้วเค้าเป็นคนประเภท
ที่เคารพสิทธิส่วนบุคคลสูงค่ะ ก้อดีเหมือนกันไม่วุ่นวายกัน
แต่อยากจะบอกว่า คนไทยที่ ลูเซิร์นไม่หยิ่งนะคะ
รู้จักกันแทบทั้งเมือง เดินสวนกันยิ้มทักทายกันค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณจรินธรณ์
โหน่วก้ออาศัยอยู่ที่ Canton Bern ค่ะ แต่ว่าอยู่ออกมาจากตัวเมืองนะคะ อยู่ที่ Zweisimmen ค่ะไม่ทราบว่ารู้จักใหม่เอ่ย
การโดนเชิดใส่ของคนในเมืองเป็นเรื่องปกติค่ะ ตอนแรกๆมาก้อไม่เข้าใจเหมื่อนกันว่าเค้าเป็นอะไรแต่หลังๆก้อคิดว่าเค้าอาจเขินก้อได้นะ กลัวทักมาแล้วไม่ใช่คนไทยจะหน้าแตกเพราะว่าที่สวิสนี่ฟิลิปินนา เยอะค่ะ แต่ว่าโหน่งก้อหน้าแตกไปหลายทีเหมือนกันค่ะ เพราะทักไปแป่ว อินโด เอย เวียดนามเอย แต่ก้อทักค่ะ แต่ถ้าให้ดีก้อยิ้มดีที่สุด อิอิ
ส่วนใหญ่โหน่งไม่ค่อยไปเบิร์นหรอกค่ะ ถ้าไม่ได้ไปทำธุระ แจ้งเกิดที่สถานฑูตไทย เพราะเรามันเด็กดอยอยู่บ้านนอกค่ะ อิอิ ที่แถบที่โหน่งอยู่ใกล้ๆก้อมีคนไทยอยู่ค่ะ หมู่บ้านละคน แต่ไม่ค่อยได้เจอใครมากเพราะว่าเค้าก้อทำงาน เราก้อต้องเลี้ยงลูกค่ะ โหน่งมีลูกเล็กๆ 2 คน ลูกหัวปีท้ายปีค่ะ เลยยุ่งมากเป็นพิเศษ ก้อเลยไม่ค่อยคบใคร เพื่อนสวิสก้อไม่มี เหงาก้อมีบ้างนะคะ แต่ใช้คอมนี่แหล่ะ เป็นเพื่อนแก้เหงาค่ะ แต่เดี๋ยวเดือน ก.ค.แม่ก้อมาเยี่ยมแล้วก้ออยู่ 3 เดือนคงไม่เหงามากเท่าไหร่ค่ะ
เอาเป็นว่าถ้าเหงา หรือผ่านมาแถว Zweisimmen ก้อทักทายกันได้นะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ
สวัสดีค่ะคุณโหน่ง
ดีใจค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยมทักทายกันและอยู่แถบเดียวกัน
Zweisimmen ป้าเดินทางผ่านประจำค่ะถ้าไปเดินเขาแถบนี้
และคิดว่าคุณโหน่งคงขึ้นไปข้างบนมาแล้วเขาStockhorn ป้าจะไปเดินเขาเกือบทุกปี
นอกจากปีที่แล้วไม่ได้ไปไหนเพราะผ่าตัดขา และลุงผ่าตัดไหล่
ปีนี้ก็เริ่มเดินทางแล้วโดยเริ่มจาก Niederhorn - Beatenberg และจะเลยไป
Interlaken แต่วันนั้นโชคร้ายมากหินถล่มลงมากรมการก่อสร้างเขาปิดถนน
ทำให้รถทุกคนหรือคนเดินด้วยเท้าไม่สามารถใช้เส้นทางแถบนั้นได้
ลุง ป้า ลูกชายและน้องเขยเลยเดินกันจากNiederhorn - Beatenberg
ไปกินข้าวข้างบนและเดินลงกันมา
ป้าเองก็ไม่ค่อยได้เจอคนไทยเท่าไรนัก ถ้าอยู่บ้านก็จะนั่งหนาคอมดูหนัง อ่านหนังสือไปตามเรื่อง
ดีใจด้วยค่ะที่แม่จะมาอยู่ด้วย และแถบที่คุณอยู่มีวิวสวยและสงบมาก
ขอบคุณป้าพอลมากค่ะที่แวะมาทักทายเด็กดอยอย่างหนูค่ะ อิอิ
หนูก้อเคยไปมาหนึ่งครั้งค่ะที่ สต๊อคฮอร์น สามีบังคับให้ไปเดิน อิอิอิ
สามีชอบล้อว่า สาวไทยไม่ชอบเดิน ก้อพ่อคุณบ้านฉันมันกรุงเทพนะ นี่พ่อคุณล่อให้เดินขึ้นเขา อิอิ
แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วค่ะ หนูอยู่มาได้ก้อเกือบ 3 ปีแล้วมั๊งคะ ถ้าป้าผ่านมาแวะมาทักทายกันสิคะยินดีต้อนรับค่ะ
ตรงสต๊อกฮอร์นเลยมานิดนึงจะเป็นร้านอาหารเล็กๆอ่ะค่ะ ชื่อร้าน Stöckli มีพี่ผู้หญิงไทยอยู่ที่นั่นค่ะ สามีเค้าเป็นเจ้าของอ่ะค่ะ แต่โหน่งก้อไม่ค่อยได้ไปหาพี่เค้าหรอก เพราะเด็กๆน่ะค่ะ ตอนนี้ลูกเล็กเลยไม่ค่อยอยากไปไหนค่ะ
ขอให้ป้าพอลมีความสุขมากๆนะคะ
Quote from: pall on April 16, 2008, 12:59:51 PM
สวัสดีค่ะคุณโหน่ง
ดีใจค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยมทักทายกันและอยู่แถบเดียวกัน
Zweisimmen ป้าเดินทางผ่านประจำค่ะถ้าไปเดินเขาแถบนี้
และคิดว่าคุณโหน่งคงขึ้นไปข้างบนมาแล้วเขาStockhorn ป้าจะไปเดินเขาเกือบทุกปี
นอกจากปีที่แล้วไม่ได้ไปไหนเพราะผ่าตัดขา และลุงผ่าตัดไหล่
ปีนี้ก็เริ่มเดินทางแล้วโดยเริ่มจาก Niederhorn - Beatenberg และจะเลยไป
Interlaken แต่วันนั้นโชคร้ายมากหินถล่มลงมากรมการก่อสร้างเขาปิดถนน
ทำให้รถทุกคนหรือคนเดินด้วยเท้าไม่สามารถใช้เส้นทางแถบนั้นได้
ลุง ป้า ลูกชายและน้องเขยเลยเดินกันจากNiederhorn - Beatenberg
ไปกินข้าวข้างบนและเดินลงกันมา
ป้าเองก็ไม่ค่อยได้เจอคนไทยเท่าไรนัก ถ้าอยู่บ้านก็จะนั่งหนาคอมดูหนัง อ่านหนังสือไปตามเรื่อง
ดีใจด้วยค่ะที่แม่จะมาอยู่ด้วย และแถบที่คุณอยู่มีวิวสวยและสงบมาก
สวัสดีค่ะคุณโหน่ง
วันนี้อากาศดีมากเลยแต่ป้ารู้สึกแย่มากสงสัยคงป่วยอีกแล้ว
สาเหตุคงเกิดจากเมื่อวานที่เข้าไปดูPapiliorama ที่ Kerzers แล้วปรับตัวไม่ทัน
จากอากาศข้างนอกที่หนาวมากพอเข้าไปข้างในอากาศร้อนมากจนหายใจไม่ออกตัวป้าเองเป็นโรคไมแกรนด้วย ดังนั้งจึงปวดหัวมากต้องเอาน้ำเย็นราดหัว พอกลับมาบ้านเดี้ยงเลย
คิดว่าคุณโหน่งคงพาเด็กไปเที่ยวมาแล้วนะคะดูPapiliorama ที่ Kerzers
มีพวกนก ผีเสื้อมากมาย ป้าถ่ายรูปมาคิดว่าจะนำลงเวบพาเที่ยว ยังไม่รู้เลยค่ะว่าจะเขียนได้หรือเปล่า เพราะมีบทความมากมายรอเขียนอยู่แต่ไม่สำเร็จสักเรื่องเลยเพราะโรคคนจ๊าบน้อย(ปวดหลังและตาฟาง) เมื่อวานมีกลุ่มเด็กมามากถ้ารู้คงไม่ไป
ถ้าป้ามีโอกาสไปแถวนั้นจะแวะไปเยี่ยมค่ะ คนไทยเราอยู่ทั่วไปหมดเลย
ป้าก็ได้ยินเหมือนกันค่ะว่ามีคนไทยอยู่หลายคน
ลืมถามคุณไปว่าคุณรู้จักเวบนี้ที่ไหนคะ?
ตอบป้าพอล
เสียใจด้วยนะคะที่ป้ารู้สึกแย่ๆวันนี้ หวังว่าป้าจะไม่เป็นอะไรมากนะคะ
โหน่งรู้จักเว็บนี้ได้ไม่กี่วันเอง โหน่งไปเซิร์ชดูอะไรเกี่ยวกับวีซ่า ที่กูเกิลค่ะ ก้อเลยได้เจอเว๊บนี้เลยสนใจค่ะ
หนูยังไม่เคยไปดู Papiliorama เลยค่ะ หนูไม่รู้อะไรๆอีกเยอะที่สวิสเนี่ย อิอิ
ยังไงก้อขอบคุณป้านะคะ หนูจะได้พาเจ้าแอนดี้กะน้องนาตาลีไปเดินดู แต่นาตาลีคงยังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
ลูกชายโหน่ง 2 ขวบค่ะ ลูกสาวกำลังจะ 9 เดือนมีลูกเร็วดีไหมคะ ถึงได้เหนื่อยอย่างนี้ไงคะ อิอิ
วันนี้ที่นี่ก้ออุ่นดีค่ะ หนูน่ะชอบเวลาอากาศไม่หนาว เมื่อกุมภาหนูกลับไปเมืองไทยมาเพราะหนีหนาว สรุปว่าสวิสเดือนกุมภาอากาศดีมาก ไม่หนาวเลย พอโหน่งกลับมาเดือนมีนาทั้งหนาวทั้งหิมะตก เหมือนแกล้งกันเลยค่ะ แต่ตอนนี้กรุงเทพก้อร้อนน่าดู ก่อนกลับก้อเริ่มร้อนแล้วค่ะ ที่กรุงเทพ
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความห่วงใย ดีใจค่ะที่คุณเจอเวบนี้โดยบังเอิญ
การพูดคุยในเวบนี้จะเงียบค่ะไม่มีคนเข้ามาพูดคุยเหมือนเวบทั่วๆไป
เงียบร้างจนรู้สึกว้าเหว่มาก ถึงแม้จะทำเพื่อเป็นศุนย์กลางให้คนไทยในสวิตฯเข้ามาพูดคุยกัน
แต่ก็ไม่มีคนมาใช้พูดคุยกันคิดว่าคงไม่สนใจเท่าไรนักเพราะมีเวบให้เล่นมากมาย
ป้าคิดว่าเวบpallswissคงเป็นเวบที่น่าเบื่อ ไม่มีอะไรสนุกน่าสนใจ และคนคงไม่ค่อยชอบ
เท่าไรนักฯลฯ ตอนนี้มีเวบคนไทยในสวิตฯทำเวบขึ้นมาเป็นจำนวนมากพอสมควร
ทุกคนที่มีปัญหาสามารถเข้าไปสอบถามหรือขอความช่วยเหลือจากเวบอื่นๆได้
ป้าคิดว่าในอนาคตคงจะยุติเลิกทำเวบนี้เหมือนกัน อาจะเป็นปีนี้ ปีหน้า หรือเมื่อไรฯลฯ
ขึ้นอยู่กับสุขภาพตนเอง ถ้าปิดก็เสียดายเหมือนกันเพราะทำมาร่วม5ปีแล้ว
เพราะตอ้งใช้เวลามากในการตอบและต้องใช้เวลาส่วนตัวมาก
อย่าซีเรียสนะคะที่ป้าเขียนเหมือนน้อยใจระบายกับคุณต้องขอโทษด้วย
อิอิ ไม่มีเพื่อนคุยเลยมีคุณคนเดียวที่หลงทางมา สงสัยตอนนี้ตัวเองรู้สึกดีเพรสด้วยมัง
สวิตฯมีที่เที่ยวมากป้ายังเที่ยวไม่ทั่วเลย ถ้าเขียนหนังสือพาเที่ยว
ป้าคิดว่าคงเขียนได้หลายเล่มแบบตะเหริดพาเที่ยวน่ะ เที่ยวที่คนไทยไม่รู้จักสวยมากด้วย
ยอมรับค่ะว่าไม่มีเงินเก็บเลยเพราะใช้ตะลอนเที่ยวหมด การเที่ยวทำให้เรา
มีดวงตามองโลกได้กว้างขึ้น เห็นสัจจะธรรามของชีวิตเพื่มขึ้น ชีวิตนี้สั้นนัก
ดีใจที่ในไม่ช้าคุณแม่คุณจะมาเที่ยวที่นี่คิดว่าคุรแม่คุณต้องชอบสวิตฯแน่ๆค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณโหน่งอยู่แถว Zweisimmen เหรอคะ พอดีพักอยู่ Matten ใกล้ๆ Lenk น่ะค่ะ ดีใจจังมีคนไทยอยู่ใกล้ๆ ว่างๆคุยกันนะคะ
เป้
สวัสดีค่ะ คุณppgirl
ยินดีต้อนรับค่ะ และขอเอาใจช่วยให้คุณnaddyswiss แวะเข้ามาอ่าน ถ้าเหงาก็เข้ามาพูดคุยกันนะคะ
เขตที่คุณอยู่สวยมาก และเหมาะสำหรับคนรักการเดินเขา ป้าไม่ได้ไปแถบนี้นานแล้ว ส่วนมากจะไปเดินเขาแถบ
Diemtigtal,Adelboden และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพิ่งไปเดินเขาNiesenมา
อยากไปเรียนภาษาเยอรมันที่ Migross ครับ ใครพอจะทราบมั้ยครับว่าที่นั่นจะติดต่อเรียนได้อย่างไรครับ และรายละเอียดสมัครเรียน เคยเข้าเวปแล้วแต่เป็นภาษาเยอรมัน ยังแปลไม่ได้ครับ
ตอนนี้กำลังเรียนพื้นฐานอยู่ครับ จึงขอความกรุณามา ณ ที่นี้
คุณณัฏฐชัย สมัครเป็นสมาชิกและเข้ามาตั้งคำถามใหม่ คนที่รู้ข้อมูลอ่านเจอจะได้ช่วยตอบคำถามได้ไวขึ้น