Pall's Webboard

General Category => ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆ => Topic started by: หนึ่งนางนี้ on October 07, 2006, 12:04:11 PM

Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: หนึ่งนางนี้ on October 07, 2006, 12:04:11 PM
ออกพรรษานี้มีใครไปวัดสมเด็จย่าบ้างคะ หนึ่งน้องนางนี้ว่าจะพาลูกกับปั๋วไปวัดค่ะ
 เลยอยากรู้ว่ามีใครแถวนี้ไปกันหรือเปล่า ยังไงถ้าเจอหมูอ้วนสองตัว กับลูกหมูเล็ก ๆ ก็ทักทายกันบ้างนะคะ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0390 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 07, 2006, 05:05:56 PM
สวัสดีค่ะคุณหนึ่งนางนี้  
 ไม่ได้ไปทำบุญค่ะ. แล้วนำบุญมาเผื่อด้วยนะคะ
 รู้สึกว่าวัดหลวงปู่ชากับวัดสมเด็จย่าจะจัดงานทำบุญออกพรรษา
 ตรงกัน..มีคนไทยมาทำบุญกันมากจริงๆ
 เชื่อว่าคุณต้องรู้จักเพื่อนใหม่ในงานนี้แน่นอนค่ะ
 เดี๋ยวรอคนไปทำบุญท่านอื่นอาจจะเข้ามานัดเจอคุณในงานก็ได้
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: หนึ่งนางนี้ on October 08, 2006, 01:42:55 AM
สวัสดีค่ะป้า หนึ่งเพิ่งมาอยู่ใหม่ก็เลยอยากไปทำบุญ (นี่ถ้ามาอยู่นาน สงสัยขี้เกียจ) ขอให้ชีวิตที่นี่ราบรื่นนะคะ  
 อีกอย่างก็อยากไปรู้จักเพื่อน ๆ บ้าง แบบว่ากลัวเหงาปาก ที่ไม่ค่อยได้คุยภาษาไทยอ่ะค่ะ (หนูมันคนช่างพูดน่ะค่ะ อิอิ)  
 
 เหมือนคนบาปจัง จะไปวัดแต่ไม่รู้จะเอาอะไรไปทำบุญค่ะ ป้าช่วยสงเคราะห์หนูหน่อยนะคะ ว่าออกพรรษานั้นเขาเอาอะไรไปทำบุญกัน อ๊าย อาย ป้าที่ต้องถามแบบนี้ อย่าว่าหนูเลยนะคะ แล้วจะเอาบุญมาฝาก (แน่ะมีการติดสินบนด้วยนะนี่ )
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 08, 2006, 10:42:29 AM
คุณหนึ่งคะ(กระซิบ....)
 ป้าก็เหมือนคนบาปค่ะขอสารภาพเลยว่าไม่ได้ไปวัดนานแล้ว
 นานจนจำไม่ได้ว่าไปครั้งสุดท้ายเมื่อไร
 สงสัยไม่ได้ขึ้นสวรรค์กับเขาแน่ๆ
 คุณก็อย่ามาว่าป้าน๊าๆๆๆๆๆๆๆๆ
 ป้าไม่เคยยึดติดกับสิ่งรอบตัวมานานแล้วค่ะ
 คนเราจะดีหรือชั่วอยู่ที่ใจและการกระทำของตัวเอง
 ต่อให้เราเข้าวัดตลอดเวลาแต่จิตใจลืมชำระก็ไม่มีประโยชน์
 เราเกิดมาไม่มีตัวตน....ตายไปแล้วก็สูญหายไป
 จะเหลือเพียงเศษเถ้าธุลีกองหนึ่งเท่านั้นเอง
 สุขหรือทุกข์เป็นสิ่งสมมุติเท่านั้นเอง
 เกิดมาก็มาแต่ตัวล่อนจ๊อน...ตายไปยังดีหน่อย
 ที่ยังมีผ้าห่อหุ้มร่างกายกันอุจาด.....
 
 อาหารที่ทำบุญเห็นเขาทำกันแบบที่ตัวเองชอบกินน่ะค่ะ
 เพราะหลังจากที่ถวายอาหารพระแล้ว
 ก็จับกลุ่มกินกัน...มีแกงเผ็ด..ผัดผัก..ตำน้ำพริกกะปิ..
 ปลาร้า...ห่อหมก..และอีกมากมาย
 จำไม่ได้แล้วค่ะ..ไม่ทราบว่าเขามีอาหารขายหรือเปล่า
 ตอนที่ป้าเคยไปเขามีอาหารบริการขายด้วย
 
 และอย่างวัดของปู่ชา..ตอนที่ป้าไปทำบุญ
 หลังจากถวายอาหารพระแล้ว
 เขาจะมีโรงทานแจกให้กินอาหารฟรีค่ะแต่ใครมีจิตศรัทธาก็
 หยอดเงินช่วยวัดได้..ป้ายังเคยร่วมจ่ายเงินทำโรงทานแบบนี้เลยค่ะ
 คุณจะติดใจและจะรู้จักคนมากขึ้น..ไม่แน่อาจจะได้เพื่อน
 ที่รู้ใจกันก็ได้นะคะ
 
 อย่าลืมสินบนนะคะ
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: หนึ่งนางนี้ on October 08, 2006, 11:44:28 AM
ขอบคุณป้ามากค่ะ ที่แวะมาตอบอีกรอบ เดี๋ยวหนึ่งเอาบุญมาฝาก (ถ้าได้น่ะ นะคะ กลัวได้บาปมาแทนจัง)
 
 แถวบ้านหนึ่งไม่มีอาหารสดขาย มีแต่ในตัวเมือง ถ้าซื้อก็จะเป็นของค้างคืน เพราะต้องซื้อวันนี้ ทำบุญพรุ่งนี้
 หนึ่งเลยซื้อของแห้งเอาค่ะ ซื้อก่อนมิโกรปิดแป๊บเดียวเอง (เกือบไม่ทัน)  
 ที่มิโกรมีพี่คนไทยทำงานเป็น Caschier หนึ่งเลยถามว่าพรุ่งนี้ไปวัดไหม พี่เขาตอบว่าไม่อยากคบคนไทย เลยไม่ไปวัดค่ะ
 เขาบอกไม่อยากคบคนไทยด้วยกันเพราะกลัวปัญหา มีแต่เรื่อง
 
 อีกทั้งบอกหนึ่งว่าอย่าคบเพื่อนคนไทยมากนะ เดี๋ยวมีปัญหา หรือเขาจะมายืมเงิน (โถ หนึ่งจะเอาเงินที่ไหนมาให้เขายืมกั๊น จนกรอบออกป่านนี้) หนึ่งได้ฟังถึงกับอึ้งไปเลย  
 
 
 
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 08, 2006, 12:05:16 PM
ต๊าย.ๆๆ...อายค่ะๆๆๆๆ
 เพิ่งจะนึกได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันออกพรรษา
 นี่ดีนะคะที่แวะเข้ามาดูอีกรอบก่อนจะปิดคอม...
 เห็นที่คุณเขียนเลยนึกขึ้นได้ยังนึกเลยว่าเป็นอาทิตย์หน้า
 แบบนี้คุณต้องแบกบุญมาเผื่อป้ามากๆหน่อยนะคะ
 ไม่เช่นนั้นป้าคงแย่แน่ๆ
 ฟังที่คุณเล่ามาไม่ขอออกความเห็นนะคะ
 เพราะแต่ละคนล้วนมีแต่เหตุผลเป็นของตนเอง
 แต่ได้ยินบ่อยค่ะเกี่ยวกับคำพูดแบบนี้
 และป้าเองก็เคยประสบกัยตัวเองด้วยเช่นกัน
 อย่างไรก็ตามขอให้คุณทำบุญด้วยความอิ่มเอิบใจ
 และดีใจที่แฟนคุณไปงานวันนี้ด้วย
 ว่าไปน่าภาคภูมิใจนะคะที่ลูกและสามีไม่ขัดศรัทธาของเรา
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on October 25, 2006, 09:11:32 AM
วัดหลวงปู่ชาอยู่แถวไหนคะ  จะได้ลองไปดูู  เมื่อเดือนที่แล้วแม่จิ๋วจิ้วฯไปวัดสมเด็จย่ามาค่ะ  บังเอิญวันที่ไปเขามีพิธีไหว้ครูกัน  คนเลยเยอะทั้งไทยและฝรั่ง  ภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์สวยงามมาก  ตอนที่ไปทีมงานช่างศิลป์จากไทยกำลังทำงานกันอย่างขมักเขม้นเพื่อเก็บรายละเอียดของภาพเพราะใกล้ถึงกำหนดกลับบ้านแล้วหลังจากมาทำงานได้ครบปีตามสัญญาว่าจ้าง  ผนังแต่ละด้าน ศิลปินได้สอดแทรกอารมณ์ขันเล็กๆเข้าไปด้วย  เช่น ผนังทางด้านขวามีภาพหนุ่มสวิสในชุดแต่งกายประจำชาติกำลังจีบสาวไทย  เป็นต้น  
 
 ระเบียงข้างโบสถ์เป็นห้องเรียนภาษาไทยแบ่งเป็นหลายระดับ  เท่าที่แอบดูู ห้องแรกเห็นเด็กไทยแท้และลูกครึ่งกำลังเรียนเขียนอ่านภาษาไทยกัน  ห้องปลายสุดเป็นหนุ่มสาวสวิสที่แม่จิ๋วจิ้วฯคาดเดาเอาเองว่าคงจะมีสามีหรือไม่ก็ภรรยาเป็นคนไทย เลยอยากเรียนภาษาไทยไว้เจรจา  ส่วนห้องตรงกลางดูเหมือนจะเป็นภาษาไทยระดับแอดวานซ์ เพราะมองลอดผ้าม่านไปเห็นสมุดโน๊ตของฝรั่งนางหนึ่งกางอยู่  เธอเขียนเป็นประโยคได้ แถมลายมือสวยซะด้วย  
 
 เดินลงไปใต้ถุนโบสถ์เจอครัวพร้อมอาหารวางอยู่มากมายหลายอย่าง  เล่นเอาหิว แต่ไม่กล้ากินของเขาเพราะเราไม่ได้พกอะไรมาเลย  ห้องข้างครัวเห็นมีทั้งคนไทยและฝรั่งกำลังฝึกแกะสลักผักผลไม้กันอยู่  เสียดายที่วัดนี้ไม่มีศาลากว้างๆแบบวัดในเมืองไทย  ห้องโถงใต้ถุนโบสถ์แคบมาก  พิธีไหว้ครูวันนั้นดููเบียดเสียดกันน่าดูู  เห็นว่าทางวัดกำลังซื้อที่ดินหน้าวัดเพิ่ม  ไม่รู้ว่าจะใช้ทำที่จอดรถหรือศาลา
 
 กุฏิสงฆ์หลังโบสถ์เป็นอาคารค่อนข้างใหญ่  ห้องใต้หลังคาเป็นห้องเรียนดนตรีไทย  ถ้าบ้านอยู่ใกล้แถวนั้น  แม่จิ๋วจิ้วฯคงต้องขอไปเรียนด้วยคน
 
 ไม่รู้ว่าแม่จิ๋วจิ้วฯคิดมากไปเองหรือเปล่า   รู้สึกบรรยากาศในวัดไม่ค่อยผ่อนคลายเท่าไหร่  คงเป็นเพราะต่างคนต่างไม่รู้จักกัน  ( หรือไม่อยากรู้จัักกันก็ไม่ทราบ )  เป็นไปได้ว่าแม่จิ๋วจิ้วฯตั้งความหวังไว้มากไป  บอกตรงๆว่าเป็นคนทำบุญไม่ค่อยขึ้น  ไปวัดทีไรได้บาปกลับมาทุกที  เพราะชอบนึกตินั่นติโน่น  เคยตามเพื่อนไปวัดชื่อดังในเมืองไทยวัดหนึ่ง  ยอมรับว่าภายในโบสถ์ตกแต่งระยิบระยับวิบวับสวยงามราวอยู่ในสวรรค์   แทนที่จะมีความสุขกลับมา แม่จิ๋วจิ่วฯกลับนึกค้านว่านี่มันวัตถุนิยม  ไม่ใช่แนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านสอน  บางวัดก็สกปรกฝุ่นเกรอะเชียวเห็นแล้วได้ความไม่เจริญตาเจริญใจกลับมา  บางวัดดังเพราะมีพระสงฆ์ดููดวงแม่น  บางวัดมีตู้บริจาคตั้งเต็มไปหมด  แม่จิ๋วจิ้วฯล่ะฝันอยากจะไปวัดที่สะอาด  เรียบง่าย  และมีพระสงฆ์ที่มีบุคลิกสำรวมและเข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง  สามารถสื่อสารแนะแนวทางสว่างให้แ่ก่คนมาวัดได้อย่างถูกต้อง  ( ไม่ใช่แนวอภินิหาร ) และไม่เห็นแก่เงินเข้าวัด  ใครพอจะรู้จักวัดที่ว่า  ช่วยแนะนำทีค่ะ
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 25, 2006, 10:41:52 AM
สวัสดีค่ะคุณแม่จิ๋วจิ้ว  
 วัดที่ป้าพูดถึงคือวัดวัดธรรมพารา(Wat Dhammapala)
 หรือที่ฝรั่งเรียกว่าDHAMMAPALA BUDDHISTISCHES KLOSTER
 หรือคนไทยที่นี่เรียกว่าวัดปู่ชา...
 วัดธรรมพารา(Wat Dhammapala)
 นิกาย..มหานิกาย
 วัดมหานิกายของปู่ชามีหลายประเทศที่เมืองไทยต้นแบบคือวัดป่านานาชาติ
 วัดธรรมพารา..จะเงียบสงบและสันโดษมาก
 เป็นวัดสมถะจริงๆและพระที่วัดนี้และพ่อขาวจะสำรวมมากที่สุด
 วัดนี้ไม่มีความเจริญทางด้านวัตถุ
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 25, 2006, 10:42:27 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1061025-034227-Zwischenablage01.jpg)

**วัดธรรมพารา(Wat Dhammapala)**
 ภาพจาก www.thai-swiss.ch/watthai.htm
 
 วัดธรรมพารา..สมัยก่อนเป็นโรงแรมชื่อโรงแรมHotels Regina
 ลักษณะรูปร่างของวัดถ้าดูภายนอกจะเป็นทรงChalet
 ถ้าคุณแม่จิ๋วจิ้วไม่ยึดติดกับวัตถุภายนอก
 หรือมีจริตอย่างที่บอกมาว่าเกี่ยวพระสงฆ์ที่มีบุคลิกสำรวม
 และเข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง  
 สามารถสื่อสารแนะแนวทางสว่างให้แก่คนมาวัดได้อย่างถูกต้อง
 และรู้จักหลวงพ่อชาแล้ว..ขอแนะนำค่ะว่ามาวัดนี้
 พระฝรั่งพูดภาษาไทยได้ค่ะและสำรวมมากที่สุด..
 ใครที่ทำบุญถวายเงินท่านจะไม่แตะต้องเลย
 ถ้าคุณสนใจลองแวะเข้าไปอ่านที่นี่
 http://www.dhammapala.ch/
 
 มีที่อยู่บอกไว้ด่วยค่ะ
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on October 25, 2006, 11:39:44 AM
ขอบคุณมากค่ะคุณป้า  แม่จิ๋วจิ้วฯเข้าไปดููในเวบของวัดมาแล้วค่ะ  พระเป็นฝรั่งหมดเลย  มีแมววัดด้วย ( เดี๋ยวจะซื้อขนมแมวไปฝาก )  จากข้อมูลและรูปภาพในเวบดููแล้วน่าสนใจมากค่ะ  วันไหนอากาศดี จะชวนพ่อของจิ๋วจิ้วฯไปกันสักวัน  เช็ครถไฟแล้วไกลใช้ได้เลย  แบบนี้คงต้องจองตั๋ว GA ล่วงหน้าไว้ก่อน ( ตั๋วรถไฟที่ไปไหนก็ได้ทั้งวันด้วยราคา 25 ฟรังค์ รวมรถบัสและเรือเมล์ด้วย เมืองที่แม่จิ๋วจิ้วฯอยู่มีโควต้าตั๋วนี้วันละ 5 คน  สามารถจองได้ผ่านเวบไซต์ของเมือง )    
 
 วันจันทร์หน้านี้แม่จิ๋วจิ้วฯต้องไปพูดให้นักเรียนมัธยมปลายห้องหนึ่งฟังเกี่ยวกับประเทศไทย  เหมือนที่เคยถูกขอร้องให้ไปพูดครั้งนึงเมื่อ 7 เดือนก่อน  ก็กะจะใช้ไฟล์เก่าล่ะค่ะคุณป้า แต่เดี๋ยวจะเพิ่มเรื่องวัดไทยในสวิสเข้าไปด้วยดีกว่า  และก็จะเอาคาราโอเกะเพลงลูกทุ่งไทยไปเปิดให้ดููด้วย  เห็นตอนนี้ที่สวิสกำลังพูดกันเรื่องชุดนักเรียน  เดี๋ยวจะเอาของไทยให้ดูู  ประเทศเรามีชุดยููนิิฟอร์มเยอะมาก  ฮ่าๆ
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on October 25, 2006, 11:49:14 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1061025-044914-thaitemple1.JPG)

เอารููปจิตรกรรมฝาผนังวัดสมเด็จย่ามาให้ดููค่ะ  น่ารักดี
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: ตุ้ม on October 26, 2006, 01:59:24 AM
สวัสดีค่ะคุณ Pall และ คุณหนี่งนางนี้
 
 แม่จจสก  เราสวนกันไปสวนกันมาในบ้านนี้หลายรอบแล้ว  จึงได้แต่คอยถามข่าวจากตู่  ขอต่อว่าหน่อยค่ะ  รอข่าวดีแล้วทำไมถึงไม่ยอมส่ง  กลัวจะไปเป็น กขค เหรอคะ  5555  น้ำผื้งเดือน5 คงยังจะเข้มข้นขิ้นกว่าเดิมถึงได้ไม่ค่อยเห็นหน้าในบ้าน  ขอบคุณสำหรับรูปจิตรกรรมฝาผนังค่ะ ปิ๊งจริงๆ
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: pall on October 26, 2006, 12:14:51 PM
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 ขำค่ะที่คุณเรียกอักษรย่อ.ว่า....แม่จจสก
 
 สวัสดีค่ะคุณแม่จิ๋วจิ้ว  
 ขอบคุณมากค่ะสำหรับภาพฝาผนังยอมรับว่าสวยมากค่ะ
 ฟังที่คุณเกล่าเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะออกไปพูดน่าสนใจมาก
 น่าเสียดายนะถ้าคุณเป็นครูสอนจะดีมากเลยค่ะ
 พูดถึงวัดไทยยังมีอีก1แห่งนะคะ
 ชื่อวัด เอชาลอง เมืองโลซานน์
 www.buddhadham.ch  
 
 ป้ายังไม่เคยไปวัดนี้ค่ะ..
 
 ขอเอาใจช่วยและสนุกกับการไปพูดนะคะ
 
 
Title: มีใครจะไปวัดสมเด็จย่า วันอาทิตย์นี้บ้างคะ?
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on November 14, 2006, 08:51:43 AM
สวัสดีค่ะคุณป้าตุ้ม  แม่จิ๋วจิ้วฯต้องขอโทษคุณป้าด้วยนะค่ะที่ไม่ได้ส่งข่าว  แต่งมาได้เกือบ 2 เดือนแล้วค่ะ  จัดงานเลี้ยงที่ห้องจัดเลี้ยงเล็กๆบนเนินเขา  ข้างๆมีสนามเด็กเล่นบนสนามหญ้ากว้าง  รอบด้านมองเห็นวิวภูเขา เด็กเล็กมีที่วิ่งเล่นกัน  มืดแล้วก็เข้าไปนอนหลับรอพ่อแม่ในเต้นท์  เพราะกว่างานเลี้ยงจะเลิกราก็ดึกมากแล้ว  เป็นงานเลี้ยงแบบบาร์บีคิวกันเองๆสบายๆไม่มีพิธีรีตองอะไรมากค่ะ  สั่งสลัดหลายชนิดจากร้านขายเนื้อเพื่อนพ่อแม่เจ้าบ่าว  เจ้าของร้านเอาสลัดและเนื้อหลากชนิดสำหรับบาร์บีคิวมาส่งถึงที่ แถมบริการยืนปิ้งให้ด้วย  เจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่งตัวดีกว่าปกตินิดนึง  แต่ไม่ถึงกับใส่สูทหรือชุดแต่งงาน  โต๊ะตกแต่งสวยงามด้วยฝีมือแม่และน้องสะใภ้ของเจ้าบ่าว  โชคดีที่วันงานอากาศดีด้วย  เลยกินกันคุยกันที่สนามหญ้าจนอากาศเย็นแล้วถึูงเข้าไปนั่งกินกันต่อในห้องกระจก   อิ่มแล้วก็ออกมายืนผิงไฟคุยกันต่อสักพักใหญ่ แล้วถึงตามด้วยไอศครีมและเมอแรงเป็นของหวาน  มีเล่นเกมแจกของกันด้วย  เป็นผ้าฝ้ายผ้าไหมไทย 6-7 ผืน ให้แขกจับฉลาก  เช้าวันงานเลี้ยง ตู่มาช่วยเตรียมข้าวผัดและน้ำจิ้มสะเต๊ะที่บ้าน  ถ้าวันนั้นไม่ได้ตู่  เจ้าสาวคงไม่มีเวลาแต่งสวยแน่    
 
 จริงๆแม่จิ๋วจิ้วฯอยากจะเชิญทุกๆคนที่รู้จักกัน  แต่งบประมาณและขนาดห้องมันจำกัดอ่ะค่ะ จุได้แค่ 60 คน ที่รักแม่จิ๋วจิ้วฯเพื่อนเยอะมาก  เขาเองก็ลำบากใจที่ต้องเลือกเชิญเฉพาะคนที่สนิทจริงๆและคนที่เคยเชิญเขาไปงาน   เหลือที่ให้ญาติพี่น้องฝ่ายแม่จิ๋วจิ้วฯแค่ไม่กี่ที่เองค่ะ  
 
 ส่วนเรื่องความหวาน ก็หวานกันธรรมดาๆค่ะ  มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้กันเยอะกว่าที่คิด  นิสัยส่วนตัวเล็กๆบางอย่างที่อีกฝ่ายไม่ชอบก็พยายามบอกกันค่ะ  บางเรื่องที่โกรธกัน คิดย้อนกลับไปแล้วก็งี่เง่าดีค่ะ  เช่น วันนึงแม่จิ๋วจิ้วฯทดลองเพาะถั่วงอกในซึ้ง ( ที่ใช้นึ่งอาหาร หอบเอามาจากเมืองไทยค่ะ )  ชั้นล่างสุดใส่น้ำ  ชั้นบนที่มีรูู  เอาผ้าตา*งๆชุบน้ำวาง โรยด้วยเม็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำค้างคืน 5 วันผ่านไปได้ถั่วงอกอวบอ้วน เอามีดดายออกจากผ้าได้ง่ายดาย  แม่จิ๋วจิ้วฯภูมิใจในความสำเร็จนี้มาก กะเพาะถั่วงอกขายเลยนะนี่  ที่รักแม่จิ๋วจิ้วฯเลิกงานกลับมา  แม่จิ๋วจิ้วฯโชว์ผลงานถั่วงอกและทำผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ให้กิน  เขากลับพูดว่า หวังว่ากินแล้วคงไม่ตายนะ เขากลัวว่าตอนถั่วงอกดูดน้ำจากผ้าจะดูดเอาสารเคมีที่ใช้ผลิตเส้นใยผ้ามาไว้ในตัวด้วย  เล่นเอาแม่จิ๋วจิ้วฯของขึ้นเลยค่ะ  โถ..เราอุตส่าห์เพาะถั่วงอก Bio ให้กิน  แทนที่จะรู้สึกดีว่าสะอาดและถูกกว่าซื้อ  ดันกังวลเรื่องสารเคมีซะนี่  ทีเขาล้างจานด้วยน้ำยาล้างจานแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ด โดยไม่ล้างน้ำเปล่าก่อน  นั่นไม่สารเคมีตกค้างมากกว่าเหรอ  สรุปว่างอนค่ะ  กะจะไม่เพาะถั่วให้กินอีกแล้ว   แต่พออารมณ์ดีแล้วคิดย้อนกลับไป  เออแฮะ...อาจจะจริงของเขา  เดี๋ยวคิดค้นวิธีเพาะแบบอื่นดีกว่า ( แบบว่าว่างมาก )        
 
 เขียนซะยืดยาวเลย  ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ