กำลังจะแต่งงานค่ะกับแฟนอยู่สวิส
แฟนจะมาเมืองไทยวันที่ 9 พค.49 ค่ะ แล้วเดินเรื่อง จดทะเบียนสมรส
แฟนมา3เดือนไม่รู้ว่าจะเดินเรื่องให้ดิฉันได้ไปเที่ยวที่โน้นได้ไหมค่ะ
แฟนอยากให้ไปเทียวก่อน แต่เขาอยากให้ดิฉันทำงานที่เมืองไทยเพราะดิฉันเป็นนักข่าวค่ะ สำนักไหนเหรอค่ะ สำนักที่โดนม็อบ คาราวานคนจน ปิดล้อมค่ะ พี่ๆๆ ที่อยู่ที่สวิส ช่วยบอกน้องทีค่ะ ว่าน้องต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ถึงจะได้ไปเที่ยวค่ะ แล้ว จดทะเบียนที่โน้นหรือที่ไทยง่ายกว่าค่ะ
เพราะน้องไม่รู้เรื่องเลย อืมลืมบอกค่ะ แฟนน้องเป็นคนพิการค่ะ ขาไม่ดี ประสบอุบัติเหตุ รบกวน พี่ๆๆ แนะนำน้องด้วยค่ะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0229 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
สวัสดีค่ะคุณองุ่น
ป้าขอนำทู้ของคุณไปเข้าห้องที่1
ห้องปัญหากฎหมาย,วีซ่า,ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย Webboard..
เข้าไปอ่านคำตอบห้องนั้นนะคะ
อยากถามป้าพอลอีกอย่างนึงค่ะ คือแฟนหนูเขาอยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยค่ะป้า แล้วหนูจะจดทะเบียนแบบไหนดีค่ะ ตั้งใจว่า ปี 2007 เขาจะอยู่ที่เมืองไทยเลยค่ะ อย่างนี้หนูควรจะจดทะเบียนที่ไหนค่ะ ขอบคุณป้ามากค่ะ อ้อ แล้วก็เพื่อนๆๆทุกคนน่ะค่ะ
สวัสดีปีใหม่ไทย(สงกรานต์)ด้วยน่ะค่ะป้าพอล และ ทุกๆคนที่อยู่สวิส ช่วงนี้กรุงเทพน่าอยู่มากมากค่ะ เพราะรถไม่ติดเลย ชอบๆๆเวลาไปทำข่าวสะดวกค่ะและรวดเร็วค่ะ ได้หยุดวันที่ 14-15 ค่ะแล้วเพื่อนๆเล่นสาดน้ำกันหรือป่าวค่ะที่โน้น เห็นแฟนหนูบอกว่าจะไปหาเพื่อนคนไทยเล่นสงกรานต์และปาร์ตี้กันน่ะค่ะ เล่าให้ฟังกันบ้างน่ะค่ะที่โน้นเล่นสนุกไหม
ที่นี้เพื่อนๆคงรู้อยู่แล้วน่ะค่ะ
แล้ววันนี้ หนูจะไปทำพาสปร์อต ค่ะ อาทิตย์หน้าคงได้เพราะแฟนอยากได้เอกสารพาสปร์อตค่ะ เพื่อจะไปติดต่อก่อนเดินทางมาเมืองไทย1อาทิตย์ โชคดีทุกคนๆคนน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณองุ่น
ดีใจค่ะที่คุณแวะเข้ามาอีกครั้ง
น่าสนใจมากจริงๆนะคะกับการเป็นนักข่าว..
ป้าชอบมากกับชีวิตที่ท้าทายและสมบุกสมบันแบบนี้.
เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนอย่างมากจริงๆและต้องมีความพร้อม
ต่อการตัดสินใจ..ต่อทุกกรณีย์ที่เกิดขึ้น
คนอื่นๆเขาคงจัดงานกันสนุกๆแต่ป้าไม่ชอบชีวิตที่วุ่นวาย
ป้าไม่ได้จัดงานอะไรที่เป็นวันพิเศษไม่ว่าจะเป็นวันเกิด
ไม่จัดงานหรือเข้าสมาคมอะไร..หรือจัดวันอะไรหรอก.
พวกโดดเดี่ยวน่ะค่ะแบบมีอารมณ์ก็ทำไม่มีก็นั่งดูหนัง..ปีนเขา
อ่านหนังสือ..แค่นี้เอง..
วันสงกรานต์ก็แค่สรงน้ำพระที่บ้านเท่านั้นเอง
รอคนอื่นๆมาเล่าดีกว่า
**คำถามที่คุณถามมา**
เรื่องเอกสารต่างๆอย่าลืมให้แฟนคุณเตรียมมาให้พร้อมนะคะ
สำหรับยื่นแสดงกับเขตที่คุณจะทำเรื่องยื่นแต่งงาน
ป้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสในเมืองไทย
แต่คิดว่าจดได้ทุกเขตขอให้คุณเตรียมเอกสารที่เขาต้องการติดตัว
มายื่นแสดงของคู่จดทะเบียนให้ครบก็จดได้แล้ว
รอข้อมูลของคนที่เคยจดทะเบียนในเมืองไทยมาช่วยตอบ
จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำมากกว่า
ขอขอบคุณกับคำตอบทุกๆคำตอบ
เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์วิทยาทานกันค่ะ
ป้าไปอ่านเจอข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ามาอยู่อาศัยของคนต่างชาติ
ในเมืองไทย..นำมาลงเพื่ออาจจะเป็นข้อมูลให้แฟนคุณได้บ้าง
ไม่มากก็น้อยนะคะ
**ชาวต่างด้าวที่ต้องการเข้าไปอยู่อาศัยในเมืองไทย **
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข กรณีคนต่างด้าวอายุตั้งแต่ 50 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ประสงค์ขอรับการตรวจลงตราเพื่อมาพำนักในราชอาณาจักร คราวละไม่เกิน 1 ปี (Non-Immigrant "O-A" (Long Stay))
1. คุณสมบัติของผู้ร้อง
เป็นบุคคลต่างด้าว (ทุกสัญชาติ) อายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ ขึ้นไป
ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศตาม ม.12 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
มีหลักทรัพย์ประการใดประการหนึ่ง ดังนี้
: มีเงินฝากจำนวน 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
: มีเงินได้ เดือนละ 65,000 บาท (หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
: มีเงินฝากและ [ (เงินได้/เดือน) x 12 ] รวมกันได้ไม่น้อยกว่า 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
2. เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง
แบบฟอร์มขอรับการตรวจลงตรา ซึ่งกรอกรายละเอียดครบถ้วน
รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซม. หน้าตรง ไม่สวมหมวก ถ่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
สำเนาหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง สมบูรณ์ และยังมีอายุไม่น้อยกว่า 18 เดือน
หลักฐานการสมรส สูติบัตร หรือหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต /สถานกงสุลในประเทศไทย (กรณีเป็นบิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง)
สำเนาหลักฐานทางการเงินตามที่ได้ระบุในข้อ 1
3. การยื่นคำร้อง
กระทำได้ 2 กรณี คือ
ยื่นเรื่องต่อสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยแสดงหลักฐานตามที่ได้ระบุไว้ใน ข้อ 2
ยื่นโดยตรงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( กองกำกับการ 1 , กองตรวจคนเข้าเมือง 1 ซอยสวนพลู เขตสาธร กรุงเทพ 10120 โทรศัพท์ 287-4948 , 287-3101-10 ต่อ 2236) โดยหน่วยงานหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ดำเนินการแทนผู้ร้อง
: โรงพยาบาลหรือสถานพักฟื้น
: คนต่างด้าว บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในความอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง
: องค์กรหรือหน่วยงานที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเห็นชอบโดยแสดงหลักฐาน ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2 และหลักฐานทางการเงินตามเกณฑ์ โดยมีธนาคาร หรือสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลใหญ่ (ของประเทศเดียวกับสัญชาติของคนต่างด้าว)
รับรอง
4. ขั้นตอนการพิจารณา
กรณีที่ยื่นเรื่องผ่านสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลใหญ่ เมื่อสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลได้ตรวจสอบเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่าถูกต้องจะพิจารณาตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส O-A (Long Stay) ให้แก่ผู้ร้องต่อไป อายุวีซ่า 3 เดือน ใช้ครั้งเดียว (single entry) ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท หรือ อายุวีซ่า 1 ปี ชนิดใช้ได้หลายครั้ง (multiple entries) ค่าธรรมเนียม 5,000 บาท
กรณียื่นเรื่องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบ และพิจารณาตรวจลงตราให้ต่อไป
5. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร
เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางอนุญาตด่านตรวจคนเข้าเมืองจะประทับอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวดังกล่าว พำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าครั้งแรก
6. การขอขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร
กรณีคนต่างด้าวประสงค์จะขอขยายเวลาการพำนักในราชอาณาจักร จะต้องยื่นเรื่องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยแสดงหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2
**ข้อมูลทั้งหมดอ่านได้จากที่นี่**
http://www.mfa.go.th/web/937.php
http://www.mfa.go.th/web/934.php
http://www.mfa.go.th/web/2012.php?id=1497&depid=244
อยากให้แฟนของคุณไปติดต่อสอบถามข้อมูลจากกงสุลไทยหรือสถานทูตไทย
เพื่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ามาพำนักอาศัยในประเทศไทย..จะได้คำแนะนำที่ดีค่ะ
ขอบคุณป้าพอล อีกครั้ง ค่ะ แต่แฟนหนูอายุ 48 ปีค่ะป้า หนูรอคำตอบจากเพื่อนๆที่จดทะเบียนสมรสในเมืองไทยค่ะ ยังไม่ได้คำตอบเลย ค่ะป้า
ระหว่าง จดทะเบียนที่ไทยกับสวิส ที่ไหนสะดวกกว่าและง่ายกว่ากัน และ จดที่เมืองไทย เหมือนกับเราจดกับคนไทยหรือป่าวอยากรู้น่ะค่ะ แต่ไม่มีเพื่อนให้คำตอบหนูก็คิดว่าหนูจะโทรไปถามที่เขตค่ะ แต่ช่วงนี้ปิดทำการ -และวันนี้ไปทำพาสปร์อต ก็ทำไม่ได้ค่ะ โอ้โห คนเขาจะไปไหนกันไม่รู้ 10.00 ที่เซ็นทรัลบางนา คิวที่200 หนูไม่มีเวลาค่ะ มีงานแถลงข่าว 12.00 เลยจะไปใหม่วันจันทร์ค่ะ 8.00 เปิด 8.30 น ยังไงวันจันทร์ต้องได้ทำ เพราะหนูไม่ได้ทำงานค่ะ ป้า
ป้าพอลค่ะ ถ้าสมมุติ เราสามารถจดทะเบียนสมรสที่เขตในประเทศไทย เพียงแฟนต้องมีเอกสารครบ
โห ถ้าจดที่เขตในไทยได้ หนูก็สบายขึ้นนิดค่ะ เพราะ จะต้องเอ่ยปากกับเพื่อนนักข่าวการเมือง สังคม ว่าพอรู้จักเพื่อนทำงานในอำเภอบ้างไหม (เพราะจดอำเภอในก็ได้ค่ะ)ฮิฮิ อย่างว่าน่ะค่ะเมืองไทยต้องใช้เส้นสายหรือคนรู้จัก การเข้าไปติดต่อเดินเรื่องมันก็ไม่ยุ่งยากค่ะป้าพอล เพียงแต่ตอนนี้หนูยังไม่อยากให้เพื่อนๆในออฟฟิตรู้ว่าหนูจะไปเมืองนอกค่ะ ป้าพอลค่ะ ถ้าหนูสามารถจดทะเบียนที่เขตแล้ว หนูต้องทำอะไรต่อไปค่ะ คือแฟนมาแค่ 3 เดือนแล้วต้องการให้หนูไปเที่ยวค่ะ แล้วเขาอยากแต่งงานที่โน้นค่ะ พ่อแฟนแก่มากค่ะ 80 กว่าแล้ว อยากไปเที่ยวค่ะ แต่อยู่นี่ต้องเก่งภาษาเยรมันก่อนค่ะ หนูควรทำวีซ่าแบบไหนค่ะ แต่เท่าที่รู้ตอนนี้แฟนเดินเรื่องน่าจะเยี่ยมเยือนมั้งค่ะ หรือไม่ก็วีซ่าแต่งงาน ไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะเขาพูดอังกฤษไม่เก่งค่ะ แตพูดไทยได้มาก แต่พวกเรื่องเอกสารเขาพูดไม่ได้ค่ะ เลยยังไม่ค่อยเข้าใจเขาคาะ ป้า พอล ถ้าหนูได้ข้อมมูลมาใหม่หนูถามป้าใหม่น่ะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ องุ่น ไม่ค่อยแน่ใจมากนะคะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรจะเข้าไปที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ที่ถนนวิทยุเพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่เพื่อข้อมูลที่แน่นอนนะคะ บอก รปภ ที่หน้าประตูว่าจะมาปรึกษาเจ้าหน้าที่เรื่องการขอดำเนินการจดทะเบียนสมรส
แต่ที่แน่ๆ นะคะ พาสปอตร์ควรมีอายุก่อนเดินทาง 6 เดือนค่ะ เพราะว่ามีเพื่อนทำงานอยู่ที่ TG เป็น ground manager เคยเล่าให้ฟังว่าถ้าอายุ พาสไม่ถึง 6 เดือน บาง Airline ไม่อนุญาตให้บินค่ะ
อีกอย่างนะคะเท่าที่ทราบมาการที่คุณและแฟนจะจดทะเบียนสมรส กระทำได้ที่สถานทูตสวิตในประเทศไทยเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่ทำที่เขตที่คุณอาศัยอยู่ เพราะทางสถานทูตต้องตรวจสอบข้อมูลของแฟนคุณด้วยค่ะ การไปจดทะเบียนสมรสที่เขตของคุณอาจจะเป็น step ต่อไปนะคะ ทางที่ดีปรึกษาที่สถานทูตแน่นอนกว่าค่ะ โชคดีค่ะ
ขอบคุณ คุณpangya มากค่ะ อย่างนี้ ดิฉันจะมีโอกาศได้กลับไปพร้อมแฟนไหมค่ะ
เพราะฉันก็คิดเช่นเดียวกันว่า พาสไม่ถึง6เดือนไปไม่ได้ แต่บางคนก็บอกว่าไปได้ โธ่อยากจะไปถามน่ะค่ะ แต่ก็รู้ๆว่าเจ้าหน้าที่เป็นยังไงบ้าง ไกลน่ะค่ะ ดิฉันอยู่พระประแดง แล้วถ้าไปเจ้าหน้าที่ให้คำตอบไม่กระจ่างก็ปล่าวใช่ไหมค่ะ คิดว่าแฟนคงเตรียมเอกสารมาครบ และเตรียมพร้อมทุกอย่างค่ะ แต่ถ้าทำได้ทุกอย่างแล้วดิฉันกลับกับเขาไม่ได้เขาคงเสียใจน่าดูน่ะค่ะ เขาอยากให้ดิฉันไปเที่ยวที่นั้น แล้วก็พ่อเขาก็กำลังทำเรื่องส่งมาค่ะ รอพาสของฉันค่ะ เขาจะการันตีค่ะ คุณpangya
** แล้วดิฉันจะได้ไปไหมค่ะ ถ้าพาสไม่ถึง6 เดือน ช่วยแนะนำวิธีหน่อยค่ะ ขอบคุณมากน่ะค่ะ
แล้วคุณpangya เดินเรื่องแบบไหนค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ แล้วถ้าไปจดที่สวิสจะง่ายกว่าไหมค่ะ
รบกวนแนะนำด้วยค่ะ เพราะเห็นคุณpangya ได้เดินเรื่องเรียบร้อยแล้ว ดีใจด้วยน่ะค่ะ แล้วก็สุขสันต์วันปีใหม่ไทยค่ะ
พยายามหน่อยนะคะถ้าอยากได้ข้อมูลที่ไม่ผิดพลาด บางคนอยู่ หนองคาย อุดร ยังต้องไปๆมาๆ ถ้าเอกสารไม่ครบหรือไม่สมบูรณ์ตามที่สถานทูตต้องการค่ะ
เรื่อง passport เพื่อน confirm มาแล้วค่ะ เพิ่งโทรไปถามมาค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
ถ้าอยากคุยกับ pang mailมาก็ได้ค่ะ @ อยู่ที่ 0057 ห้องกฎหมายค่ะ
แนะนำว่า "จดที่เมืองไทย" จะดีกว่าและง่ายกว่าคะ เด่วมาเล่าให้ฟังนะคะว่าทำไม พอดีมีเพื่อนกำลังดำเนินเรื่องแต่งงานกับชาวสวิสซึ่งเป็น "คนพิการ" คือต้องมีเอกสารเพิ่มอีกหนึ่งอย่างนะคะ
พอดีงานล้นมือเลย....ขอโทษทีเห็นกระทู้นานแล้ว เด่วยังไงมาเล่าให้ฟังนะคะว่าทำไมแนะนำให้ "จดที่เมืองไทย"
สวัสดีค่ะคุณองุ่น
สวัสดีจ๊ะแม่นอ้งติ๊ดตี่
สวัสดีค่ะคุณpangya
ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือให้ข้อมูล
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณทุกๆคน ค่ะ แม่น้องติ๊ดตี่ หนูรอคำตอบแม่อยู่น่ะค่ะ เพราะแฟนหนูพิการเช่นกันค่ะ
มาบอกแล้วคะ.........ก่อนอื่นต้องขออกตัวนะคะ เรื่องกฎหมายสำคัญ ๆ แบบนี้ไม่ค่อยกล้าจะให้คำตอบเท่าที่ควร เกรงว่าผู้รับข้อมูลไปอาจจะได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จะทำให้สูญเสียโอกาสที่สำคัญ ๆ ไปนะคะ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้แฟนของคุณติดต่อกับทางเขตที่เค้าอาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทราบรายละเอียดโดยตรง ที่ละเอียดและแน่นอน ซึ่งถ้าแฟนคุณไปที่เขตเค้าจะให้กระดาษมาหนึ่งแผ่นเลยล่ะคะ แล้วติ๊กในช่องเอกสารที่เค้าต้องการทั้งหมด ถ้าเค้าไม่กาติ๊กไว้ไม่ต้องเอามาให้เค้านะคะ................อันนี้แอบไปเห็นที่ห้องกฏหมาย กระทู้ที่ 0059 หัวข้อเผื่อจะสำคัญ ของคุณปังย่า.............อันนี้ขอตอบว่าสำคัญจริง ๆ สำหรับคนที่จะแต่งงานกับชาวสวิสด้วยคะ ให้เค้าเตรียมเอกสารตามนั้น หรือส่งลิงค์ที่คุณปังย่าให้เค้าไปอ่านเองเลยนะคะ
ส่วนตัวคุณองุ่นเองนะคะเอกสารดูได้ ตามกระทู้ที่ 0059 หัวข้อเผื่อจะสำคัญ กระทู้เดียวกันนั่นล่ะคะ เตรียมทุกอย่างให้พร้อม และก็ถ้าไม่แน่ใจนะคะโทรไปถาม "สถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ " ในประเทศไทย ว่าเค้าต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า และที่สำคัญส่วนมากคนจะต้องถามสำนักแปลที่ทาง "สถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ " รับรองโดยไปแปลเอกสารตามร้านที่เค้าแนะนำ และมาแสตมป์ที่ "สถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ " นะคะ อันนี้เห็นคนส่วนแสตมป์ที่นี่นะคะ เพิ่งจะทราบจากคุณปังย่านี่ละคะที่ว่าสามารถประทับตรารับรองจากกระทรวงต่างประเทศได้...........เรื่องพาสปอร์ต 6 เดือน นี่ก็เพิ่งทราบคะ ขอบคุณที่เอาข้อมูลมาฝากกัน
คราวนี้มาถึงตรงจุดที่ว่า แต่งที่ไหนดี ที่ตอบว่าแต่งที่ไทยก็เพราะว่า ไม่ว่าจะแต่งที่ไหนก็ตาม ใช้เอกสารเหมือนกันหมดเลยค๊า ดำเนินเรื่องเหมือนกันหมด ต่างกันตรงที่เวลาเสร็จถ้าแต่งที่ไทยก็ไปจดทะเบียนที่เขตในทางเมืองไทย ไม่ต้องนัด เอาเวลาสะดวกเราตอนไหนไปจดเลย แล้วถ้าจะไปสวิสก็ไปขอวีซ่า ซึ่งตอนนี้จะง่ายมาก ๆ เพราะว่าเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว เรื่องจะปฎิเสธวีซ่าไม่มีแน่นอน "ตรงนี้ละคะที่ว่าแต่งที่เมืองไทยดีกว่า" เพราะการสัมภาษณ์วีซ่าง่ายแน่นอน
แต่ว่าถ้าแต่งานที่สวิสคุณต้องดำเนินเรื่องขอวีซ่าแต่งงาน แล้วเข้ามาแต่งงานที่สวิส สำหรับ "คนพิการ" เพื่อนบอกมานะคะว่าจะยุ่งยากอยู่อย่างคือ ทางการจะสอบถามเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย โดยให้ฝ่ายชายเขียนยืนยัน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายสั้น ๆ เช่นรู้จักกันอย่างไร นานแค่ไหน และก็มีคนลงชื่อรับรองด้วยคะสองคน แต่เพื่อนรู้จักกับแฟนเค้ามาห้าปีคะ ไป ๆ มา ๆ สวิส 4 ครั้ง และแฟนเค้าไปเมืองไทยนานสองเดือนทุกปีที่รู้จักกันมา เรื่องตรงนี้คิดว่าถ้าเพิ่งเจอกันครั้งแรกสงสัยจะยากหน่อยนะคะ ................แต่คิดว่าไม่ทุกคนนะคะตรงนี้ เพราะว่าที่ต้องทำเอกสารนี้เนื่องจากว่า แฟนของเพื่อนจะรับเงิน "IV" เป็นเงินช่วยเหลือสำหรับคน "ทุพลภาพ หรือพิการ" อันนี้สงสัยเองนะคะว่าที่เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารนี้ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการเอกสารแต่งงานเลยเพราะว่า จะต้องมารับผิดชอบชีวิตเราด้วยตรงนี้ แถมเพื่อนเรามีลูกติดอีกสองคน แต่ว่าโตแล้วนะไม่คิดจะเอาไปสวิสด้วยอยู่แล้ว แต่รู้สึกทางการตาโตเลยคะเกรงว่าจะหนีบเอาลูก ๆ ไปด้วย................. แต่ถ้าแฟนคุณองุ่น ไม่ได้มาใช้เงินตรงส่วนนี้อาจจะไม่ต้องทำเอกสารนี้ก็ได้ ไม่ทราบแน่ชัดคะว่าทางการเอาอะไรมาวัดว่าใครควรทำหรือไม่ควรทำ.....
แต่ถ้าคุณขอวีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าเยี่ยมญาติ เพื่อที่จะแต่งงานในสวิสต่อไป(ซึ่งก่อนมาห้ามบอกเจ้าหน้าที่ทางสถานฑูตสวิสที่เมืองไทยเด็จขาด) เค้าก็ต้องถามคำถามอีกเยอะเลยนะ ทำนองนี้รู้จักกันนานยัง เจอกันเมื่อไร ใครแนะนำ(ถ้าบอกเจอกันทางเน็ต............ไม่ดีแน่เลย ถึงจริงก็ห้ามบอก....) เคยไปมาหาสู่กันกี่ครั้ง คุณเคยไปสวิสกี่ครั้ง เค้ามาไทยกี่ครั้ง ครอบครัวเค้า ครอบครัวคุณยอมรับมั๊ย เพื่อนฝูงล่ะ คุณพูดภาษาเยอรมันได้ป่ะ(ถ้าเบิร์น) คุณใช้ภาษาอะไรคุยกัน แล้วก็ถาม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........... จริง ๆ เรื่องส่วนตัวเราแต่เจ้าหน้าที่ก็ดันถาม เพราะเค้าบอกใช้ในการพิจารณา....เหมือนบ้าแต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เค้าสามารถถามเรา และเราก็จำเป็นต้องตอบด้วยคะ จกเว้นโชคดีเจอเจ้าหน้าที่ไม่จู้จี้ ก็สบายไปคะ .................แถมถ้าเค้าปฏิเสธวีซ่าคุณ เค้ามีการบอกไม่จำเป็นต้องบอกว่าทำไมปฏิเสธ.....แน๊ะมีงี๊อีกด้วย เผื่อหมั่นใส้เราทำไงดีวุ๊ย
แต่ขอแนะนำว่าถ้าวีซ่ามาเที่ยวครั้งแรก โอกาสที่ทางเขตของแฟนคุณจะปฏิเสธไม่ให้แต่ง อาจจะเป็นไปได้สูงนะคะ เค้าจะหาว่ามาท่องเที่ยว ใช้วีซ่าไม่ตรงตามจุดประสงค์ (แต่ไม่แน่นอนเสมอไป เพราะยังมีคนแต่งได้อยู่ แต่เราใช้อ้างไม่ได้หรอกนะว่าคนอื่นยังแต่งได้ ทำไมเราแต่งไม่ได้ เค้าไม่ฟังหรอกคะ) แต่ถ้าได้วีซ่าท่องเที่ยวครั้งที่สองนี่คิดว่าเค้าคงไม่ปฏิเสธแล้วแน่นอน เพราะคงคิดว่าได้อยู่จักและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระยะหนึ่งแล้ว (คงทำนองนี้นะคะ)
ลองดูแล้วกันนะคะ อันนี้ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนอีกต่อนึงนะคะ จริงหรือไม่จริงให้พิจารณา และติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกทีนะคะ อย่าให้เสียสิทธิ์ หรือเสียโอกาสที่เราควรจะได้
งงป่าวคะ.....เพราะเขียนเองยังงง....555
สรุปคือเอกสารใช้ตามที่คุณปังย่าแจ้งที่ห้องกฎหมาย กระทู้ 0059 เลยคะ ไม่ว่าจะแต่งที่ไทย หรือสวิสใช้เอกสารเหมือนกันหมดคะ และต้องดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนกันหมดเลย แต่ว่าแต่งที่สวิสมีด่านยากคือวีซ่าแต่งงาน แต่ถ้าแต่งที่เมืองไทยเวลาไปสวิสจะทำเรื่องง่ายกว่า....ก็เลยแนะนำให้แต่งที่เมืองไทย
มาวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรก (หมายถึงเพิ่งมาสวิสเป็นครั้งแรก) โอกาสที่ทางเขตจะปฏิเสธไม่ให้แต่งงานกันเป็นไปได้สูงคะ เพราะเค้าอาจจะอ้างว่าไม่ถูกจุดประสงค์ ถ้าอยากแต่งให้กลับออกไปทำวีซ่าแต่งงานเข้ามา....."แต่ว่าอาจจะไม่แน่นอนเสมอไปนะคะ ยังมีคนแต่งได้อยู่ และขณะเดียวกันก็มีคนถูกปฏิเสธในขึ้นเยอะด้วยคะ"....แต่ถ้ามาครั้งที่สองคิดว่าเค้าคงจะไม่ปฏิเสธแล้วคะ
ขอบคุณมากค่ะ มน.ตต.แม่น้องติ๊ดตี่ ขอบคุณมากๆๆสำหรับคำแนะนำค่ะ หนูจะลองปรึกษากับแฟนดูน่ะค่ะ
อยากทราบว่าภายในหนึ่งปีจะขอวีซ่ามาสวิสเซอร์แลนด์ได้เกิดหนึ่งครั้งหรือเปล่าคะ คือได้วึซ่าแล้ว สามเดือน และต้องกลับเมืองไทย ในต้นเดือนมิถุนายน แต่วะแฟนจะให้ทำเรื่องมาอึกในเดือนตุลาคมเพราะว่าเค้าไม่มีเวลาไปไทยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณปู
คุณได้รับวีซ่ามา3เดือนหลังจากคุณกลับไปเมืองไทยแล้ว
คุณต้องรอเว้นระยะประมาณ3เดือนหลังจากที่คุณกลับไปเมืองไทย
คุณจึงจะสามารถทำเรื่องยื่นขอวีซ่าได้อีกครั้งหนึ่งค่ะ
อย่างที่คุณเขียนบอกมานั่นแหละค่ะ
เดือนตุลาคมคุณก็เดินเรื่องได้เลยค่ะ
สวัสดีค่ะ
มีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ อยากว่าเด็กถือพาสสวิส อาศัยอยู่เมืองไทยได้หรือเปล่าค่ะ หลานดิฉันอายุ 4 ขวบ ค่ะ
ขออนุญาตินำคำถามของคุณไปตั้งหใม่นะคะ
เพราะห้องน้ไม่มีคนเข้ามาตอบคำถามแล้วค่ะ