ไชโย ในที่สุดแม่จิ๋วจิ้วฯก็มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยกับเขาแล้ว handmade ซะด้วย ก็ต้องขอขอบคุณท่านที่แนะนำเวบ http://dryes.webvena.com/ มา ณ ที่นี้ด้วย พอดีคีย์บอร์ดที่มีูอยู่เป็นภาษาเยอรมัน แม่จิ๋วจิ้วฯเลยต้องเสียเวลาตามหาตัวอักษรบางตัวนานหน่อย โดยเฉพาะตัว บ กับ ล ที่ต้องกดแป้น Alt Gr ด้วย ใช้เวลาเขียนและตัดแปะไปทั้งสิ้นครึ่งชั่วโมงกว่าได้
ตอนนี้แม่จิ๋วจิ้วฯกำลังเครียดเรื่องที่แฟนเชิญให้ไปพููดเกี่ยวกับประเทศไทยและการท่องเที่ยว ให้นักเรียนชั้น ม.6 ที่เขาสอนอยู่ฟังประมาณ 30 นาที ( แฟนแม่จิ๋วจิ้วฯเป็นครููสอนวิชาภูมิศาสตร์ค่ะ การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งของวิชานี้ ) เขาเล่าให้ฟังว่า เขาถามนักเรียนไปว่า เมื่อพูดถึงประเทศไทย นักเรียนจะนึกถึงอะไร นักเรียนตอบว่าไงรู้ไหมคะ Sex Tour ค่ะ ได้ยินแล้วอยากมุดดินหนีจริงจริ๊ง แงๆ คำว่า Sex และ Prostitute นี่มันติดตามเราไปทุกที่จริงๆ ไม่ไ้ด้คิดที่จะแก้ตัวแทนประเทศไทย แต่จะพูดยังไงให้มันดูดีขึ้นและน่าประทับใจ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆป้าๆน้าๆใครมีไอเดียดีๆช่วยบอกหน่อยค่า
แม่จิ๋วจิ้วฯกะจะเริ่มสไลด์หน้าแรกด้วยคำว่า Thailand : Land of Smile or Land of Sex ? แฟนชอบใจใหญ่
ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ กลัวนักเรียนถามแล้วจะอึดอัดที่จะตอบ เลยกะจะชิงพูดซะก่อน เพื่อที่จะเป็นฝ่ายถามนักเรียนแทนว่า พวกเขามีข้อเสนอแนะอะไรที่พอจะเป็นแนวทางในการแก้ปัญหานี้ได้บ้าง
ไม่ทราบใครมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0148 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
ลืมบอกไปค่ะว่า ต้องไปพูดวันจันทร์นี้แล้ว มีเวลาเตรียมตัวแค่วันนี้กับเสาร์อาทิตย์นี้เอง ช่วยด้วยค่า
สวัสดีจ๊ะจิ๋วจิ้ว
ดีใจมากที่จิ๋วจิ้ว มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยกับเขาแล้ว
ฟังที่จิ๋วจิ้ว บอกที่เด็กนักเรียนพูดถึงประเทศไทย
จะนึกถึงคำว่า Sex Tour ฟังแล้วพูดไม่ออก
ตอนที่ลูกของป้ายังเรียนหนังสือเคยคุยกับเด็กๆ
เขาจะนึกถึงแต่ช้างกับตาตี่...ผู้ใหญ่บางคนรุ่น30ปีที่ผ่านมา
จะนึกถึงแต่พัทยากับพัฒพงษ์
บางคนสงสัยไม่เคยออกนอกประเทศบอกไม่รู้จักไทยแลนด์
ใช่เวียตนามหรือเปล่าฟังแล้วจะบ้าตาย
**คุยมาหลายบรรทัดไม่ได้เกี่ยวกับที่ จิ๋วจิ้วถามมาเลย
ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเกี่ยวกับที่ถามมา
ป้าแวะเข้ามาคุยด้วยเท่านั้นถ้านึกออกจะเข้ามาบอกใหม่นะ
สวัสดีค่ะ คุณป้า Pall คุณป้าสบายดีนะคะ คุณลุงค่อยยังชั่วหรือยังคะ หิมะยังตกอยู่หรือเูปล่า อาทิตย์ก่อน เมืองที่แม่จิ๋วจิ้วฯอยู่หิมะตกหนามากค่ะ ชอบจัง แต่ตอนมันกำลังละลายนี่สิลื่นน่าดูู หงายหลังหัวฟาดพื้นไปครั้งนึงค่ะ ดีนะไม่แรงมาก โชคดีที่สวมหมวกไหมพรมด้วย แต่ก็เล่นเอามึนไปพักนึง
แม่จิ๋วจิ้วฯยังทำใจไม่ค่อยได้สักทีเวลาแฟนคุยด้วยเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องโสเภณีเด็ก หน้าร้อนผ่่าวทุกที เป็นอารมณ์อายผสมโกรธน่ะค่ะ ( อายเพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆกับโกรธที่ทำไม๊ทำไมประเทศไทยมีเรื่องดีๆตั้งเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นึกถึงกัน เช่น อาหารไทย นวดไทย มวยไทย น้ำใจไทย หาดทรายสวยๆเกาะสวยๆ )
มาเป็นหญิงไทยในต่างแดนนี่เหมือนทำงานเป็นทูตวัฌนธรรม ( หาตัว ท ผู้เท่า ไม่เจออ่ะ ) ให้ประเทศเลย คุณป้าเห็นด้วยไหมคะ เดี๋ยวแม่จิ๋วจิ้วฯว่าจะโทรไปขอเงินเดือนกระทรวงวัฌนธรรมซะหน่อยแล้ว :-)
sa wad dee kha ! I would like to know how to change the language from english to thai in website dry_weena what you have used for typing thai keyboard kha! I really can't find how to ..thank you advance kha!
(https://www.pallswiss.com/images/old_board/106311-190450-blom07.jpg)
เรื่องนี้พูดไปก็เหมือนพายเรือในอ่าง....พูดวกไปก็วนมาไม่รู้จักจบยิ่ง
เค้าพูดให้เราจนมุมได้ เค้าก็ยิ่งฮึกเหิม
บูรพาคิดว่าส่วนหนึ่งลึกๆแล้วชาวต่างชาติเค้าก็รู้นะว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ไม่อยากยอมรับสักเท่าไหร่ ยื่งพูดอะไรให้เราต่ำได้มากที่สุดเค้าจะ
รู้สึกเหมือนกับว่าเค้าก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเวลาเวลาที่ใครมา
ถามเรื่องนี้กับบูรพา บูรพาจะตอบไปเลยว่าจริงที่สุดที่เมืองไทยของ
เรามีเรื่องแบบนี้จริง แล้วก็จะย้อนกลับไปทันทีเหมือนกันเลย
ว่า*อาชีพนี้ อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ไหนมันไม่มีล่ะ ยกตัวอย่าง
มาให้ดูหน่อยสิ.........แค่นี้เค้าก็เริ่มจะจนมุมแล้วละ แทนที่เราจะเป็น
ฝ่ายจนมุมเค้า แล้วเราก็รุกต่อเลย ยกตัวอย่าง*ที่แย่ๆที่เป็นจุดอ่อน
ของเค้าไม่ต้องเรื่องอะไรหรอกก็เรื่องแบบเดียวกันนี่แหละ...แหย่เข้า
เดี๋ยวก็หยุดพูดไปเอง...ถ้าเรายิ่งไปสั่นๆแล้วก้บอกว่าไม่มี๊ไม่มี...ไม่จริ๊ง
ไม่จริง ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย อย่าไปเสียเวลาอธิบายให้เค้าฟังหรอก
ค่ะ บูรพาว่าเสียเวลาไปปล่าว....
คุณ aom ลองเข้าไปดูตรงนี้สิเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง ดูตรงหัวข้อ
ไทยฟอนท์นะคะ http://www.thailand-uk.com/
ต้องขอโทษที่เข้ามาพล่ามซะเยอะเลย....เลยลืมไปว่าแม่จิ๋วจิ้ว ต้องไป
พูดให้เด็กนักเรียนฟัง.....บูรพายังคิดไม่ออกเลยว่าจะพูดอย่างไรให้มัน
สละสลวย ยากมากๆเลยนะนี่ ไม่เหมือนพูดกับคนธรรมดาทั่วไป เอ..
แล้วจะพูดไงให้เค้าประทับใจเรา แล้วก็เข้าใจเราล่ะ
จะลองไปคิดดูนะว่าจะพูดไงดี...
หุหุหุ....หุหุหุ....หุหุหุ
มันกลายเป็นของขึ้นหน้าขึ้นตาของคนไทยไปแล้วล่ะค่ะ
เป็นเรื่องจริงที่ปฎิเสธยาก เพราะคนไทยทำกันจริงๆ
เมื่อวันก่อนอ่านหนังสือพิมพ์ หน้ากีฬา เขียนไว้ว่าตอนนี้
หญิงไทยเตรียมตัวไปฟุตบอลโลกที่เยอรมันกันยกใหญ่
ไม่ได้ไปดูนะจ๊ะ แต่ไป... อ่านแล้วก็ได้แต่ทามใจกันไป
หากต้องอธิบายกันจริงๆ ขอแนะนำว่าพูดตามความจริงค่ะ
แล้วก็อธิบายเป็นส่วนๆไป ว่า Sex Tour ก็มีจริงตามที่นักเรียนเคยได้ทราบ
สำหรับประเทศไทยแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม
เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น
และปัญญหาแบบนี้ มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกันที่ก่อให้เกิดปัญหาขึ้น
ส่วนแรกมาจากบทลงโทษที่อ่อนแอ ผู้คนจึงกล้าที่จะกระทำผิด
ส่วนที่สองมาจากสภาพทางเศรษฐกิจที่ขาดสภาพคล่อง
เกิดภาวะตกงาน งานหายาก จึงมีคนบางกลุ่มหันมาทำอาชีพนี้
ส่วนที่สามเรื่องการศึกษา ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยยังมีการศึกษาต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐาน
เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากทางรัฐบาล ทั้งสถานที่เรียน บุคลากร ทุนการศึกษา
ส่วนที่สี่คือสังคมวัตถุนิยม ทำให้ผู้คนทั้งที่มีการศึกษาและไม่มีการศึกษา
หันมาทำอาชีพนี้เนื่องจากต้องการเงินไปใช้จ่ายในสิ่งของฟุ่มเฟื่อย
ส่วนที่ห้า รายได้ประชากรต่อหัวต่ำ แต่ค่าครองชีพสูงขึ้น
แต่ก็มิใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่มีปัญหาเรื่องการขายบริการทางเพศและ Sex Tour
ยังมีประเทศในยุโรปตะวันออกอีกมาก ที่ประสบปัญหาเรื่องการขายบริการทางเพศ
เนื่องจากการเพิ่มอัตราประชากรโสเภณีมากขึ้นทุกปี ทั้งๆที่ประเทศเหล่านี้ประชากร
มีความพร้อมมากกว่าประเทศไทยในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะด้านการศึกษา เศรษฐกิจและสังคม
*** และนี่ก็คือเรื่องของเมืองไทย ***
- สถานที่ท่องเที่ยวในไทย
แหล่งท่องเที่ยวในในไทยที่ทางการประกาศแล้วมี 2637 แห่ง
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ศาสนา ศิลปวัฒนธรรมประเพณี
นักท่องเที่ยวที่มาไทยมากที่สุด 10 อันดับ ใน ค.ศ.1999 คือ
1.ญี่ปุ่น 2.มาเลเซีย 3.จีน 4.สิงคโปร์ 5.ไต้หวัน 6.ฮ่องกง
7.อังกฤษ 8.อเมริกา 9.เยอรมัน 10.เกาหลี
- น้ำตกทีลอซู
อยู่ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นน้ำตกใหญ่อันดับ 6 ของโลก
สูงถึง 300 เมตร กว้าง 500 เมตร (ทีลอ แปลว่า น้ำตก เป็นภาษากระเหรี่ยง)
- ไทยเป็นประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก
ประเทศไทยได้รับรางวัลแดนิช เทรเวล อวอร์ด 2001 ในฐานะที่เป็นประเทศ
ที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกเป็นปีที่ 3 จากชาวเดนมาร์ก 1100 คน ที่ได้ไปเที่ยวประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ อันดับรองลงมาได้แก่ ออสเตรเลีย อันดับ 3 ได้แก่ สก็อตแลนด์
- อุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติที่ประกาศมาแล้วมี 73 แห่ง พังงามีมากที่สุดถึง 6 แห่ง
เขตรักษาสัตว์ป่าประกาศแล้วมี 32 แห่ง
- มรดกโลก
มรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในไทย มี 4 แห่ง คือ
1. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยศรีสัชนาลัย
2. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
3. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
4. ทุ่งใหญ่นเรศวรอุทัยธานี -ตาก
- อาหารไทย
อาหารไทยติดอันดับหนึ่งในห้า ของอาหารชาติต่างๆที่นิยมทั่วโลก คือ
ฝรั่งเศส อิตาลี จีน ญี่ปุ่น ไทย
จำนวนร้านอาหารไทยทั่งโลกเท่าที่สำรวจมีจำนวน 6537 แห่ง
- ไทย
จากเวิร์ด แทรเวล อวอร์ด ให้รางวัลแก่ไทย 2 รางวัล เป็นที่ 1 ทั้ง 2 รางวัล
คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเด่น และรางวัลแหล่งทองเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย - แปซิฟิก
- ยกเมืองไทยน่าเที่ยวที่สุดในโลก
สำนักข่าวสารเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แจ้งว่า นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง
โลนดี้ แมลเนต แทรเวล ไกดส์ ของออสเตรเลีย ซึ่งตีพิมพ์เผยแผ่ทั่วโลก ในโอกาสครบรอบ 30 ปี
ของการก่อตั้งนิตยสารฉบับนี้ ได้สำรวจความคิดของผู้อ่าน 7500 คน จาก 134 ประเทศ
จากทวีปอาร์กติกจนถึงอาฟริกาในประเด็นว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
ตามความเห็นของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางผลปรากฎว่า ประเทศไทยติดอันดันหนึ่ง
อิตาลีอันดับสอง ออสเตรเลียอันดับสาม อินเดียอันดับสี่ นิวซีแลนด์อันดับห้า
- เมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก จากนิตยสาร Travel and Leisure
อันดับที่ 1 นครฟลอเรนส ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 2 นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
อันดับที่ 3 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกคือ โรงแรมเพนนิซูล่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกันโรงแรมโอเรียนเต็ล
ถ้าอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว คงจะทราบว่าประเทศไทยยังมีอะไรที่น่าทึ่งอีกมาก
ไม่ว่าจะเป็นการติดอันดับเมืองน่าท่องเที่ยวที่สุด มีสถานที่ที่เป็นมรดกโลกซึ่งบางประเทศไม่มี
และมีอะไรอีกมากมายที่คนไทยยังไม่รู้
สวัสดีค่ะ คุณแม่จิ๋วจิ้ว และทุกท่าน
เห็นด้วยกับหลายๆท่านเลยว่า ควรตอบตามความเป็นจริง ยอมรับว่าเมืองไทยเป็นเช่นนั้นจริงๆ
แต่ใช้โอกาสนี้ที่จะอธิบายเหตุผลว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องการใช้เงินและการหาเงินของวัยรุ่นไทย
รวมถึงความต้องการซื้อบริการของชาวต่างชาติเองด้วย อธิบายทั้งดีมานด์และซัพพลาย
แล้วก็เสริมว่า คนไทยส่วนใหญ่เป็นเช่นไร ใช้ชีวิตยังไง ให้เค้าเห็นภาพว่า เรื่องโสเภณีเป็นปัญหาหนึ่งกับคนกลุ่มหนึ่งของไทย
ซึ่งเราตระหนักดีถึงปัญหา และพยายามแก้ไข แล้วเรายังมีอย่างอื่นๆอีกที่น่าชื่นชม เช่น วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว
สวัสดีจ๊ะจิ๋วจิ้ว
ป้าสบายดีจ๊ะขอบคุณมากลุงก็ทำกายบำบัดทุกอาทิตย์
เรื่องก็วุ่นวายเกี่ยวกับเอกสารเหมือนเดิม
เกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายต่างๆที่กับประกันเจ็บป่วย
จ่ายไม่หมดและเราเปลี่ยนบริษัทด้วยเลยวุ่นวายมากกว่าเดิม
**เมืองที่แม่จิ๋วจิ้วฯอยู่หิมะตกหนามากค่ะ **
จิ๋วจิ้วฯ..อยู่แถบไหนเอ่ย
มาบอกว่าขอเอาใจช่วยวันจันทร์ที่จิ๋วจิ้วฯ..
จะไปพูดเกี่ยวกับประเทศไทยขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
แต่จิ๋วจิ้วฯ..ไม่ต้องกังวลใจนะเด็กนักเรียนส่วนมากแล้ว
จะเป็นเด็กน่ารักมากและอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดาของเด็ก
ทั่วๆไป
อ่านคำตอบคุณบููรพาประทับใจค่ะ เราเคยโดนถามเหมือนกัน
ล่าสุดประมาณปลายปีที่แล้วมั้ง ที่ทางช่องทีวีสวิสฯ ถ่ายถอดเกี่ยวกับชายสููงอายุสวิสฯกับการดำรงชีวิตในไทยกับสาวไทยรุ่นลููก คนถามไม่สนิทกันน๊ะพึ่งเจอกันในงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนชาวสวิส ผุ้หญิงสวิสเขาถามเราตรงๆ ว่าทำไมคนไทยชอบแบบนี้เป็นเขาเขาไม่ชอบเลย.............หุหุหุ....หููอื้อเลย หมองคิดแทบไม่ทัน ภ.ไทย ภ.เยอฯ ตีกันรวนเลย
สักพักทำใจเย็นๆ ก็คุยกันประมาณหัวข้อนี้แหระ เราก็ว่า sex เป็นเรื่องธรรมด้าธรรมดาของคน พวกเรามีตัวตนก็เป็นผลผลิตจากsex ทีนี้คนมาใช้sex เป็นการค้า ก็เกิดเป็นอาชีพที่มาตั้งนมนานคือProstitute ไม่ใช่เฉพาะไทยแต่ทั่วทุกมุมโลก ทุกวันดููจะทวีคููณเนื่องจากปัญหาด้านเศรษ*กิจ และการด้อยโอกาศทางการศึกษา
Prostitute เป็นอาชีพต้องเสี่ยงทั้งโรคและคนวิตถาร แต่ต้องทำเพราะอะไร.....หุหุหุ.....เราหันไปถามนส.สวิส แบบประมาณคุณหัดคิดบ้างดิ อีพยักหน้าหงึกๆ
เราก็บอกเราไม่สนับอาชีพนี้เลยแต่ไม่เคยดููถููก เราคิดว่าไม่มีใครอยากทำถ้าหากมีทางเลือกให้กับชีวิต ทุกคนต้องดิ้นรนโดยเฉพาะคุณลักษณะพิเศษของคนไทยรักครอบครัว ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว หลายคนเป็นอาชีพนี้ไม่เพียงเพื่อความอยุ่รอดของตนเองแต่เพื่อหลายๆคนในครอบครัว(อาจไม่ทุกคน)
......หุหุหุ....เราหันไปถามเขาอีกว่าคุณเข้าใจไหมกับคำนี้ ทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น เรายกตัวอย่างเพื่อพ่อแม่ที่ชรา หรือบุตรที่ต้องรับการศึกษาและอาหารเพื่อการยังชีพ เป็นคุณคุณกล้าเสี่ยงไหมกับอาชีพเช่นนี้???? เราเองไม่สนับสนุนหรอกคนเรามีอาชีพมากมายอาจลำบากหน่อยเงินน้อยหน่อย .....แต่ถ้าคุณไม่มีทางเลือกในณ.เวลาใดเวลาหนึ่ง ฉันเชื่อว่าเราทำได้หมดเพื่อคนที่เรารักและต้องรับผิดชอบ แล้วมันดีหรือเปล่ากับคนที่มีโอกาสที่ดีหยิบยื่นช่องทางอีกอาชีพ
กับคนที่เกิดมาในประเทศที่มีสภาพเศรษ*กิจที่ดีกว่า ก็ดีแล้วหรือที่เอาโอกาศของตนมาซื้อบริการแล้วมองเขาเหมือนสัตว์เหมือนอะไรไม่รุ้ กับความคิดของหลายๆคนที่บอกว่าอยุ่ด้วยเพราะเงิน มันแน่นอนในเมื่อคุณซื้อด้วยเูงิน ทุกอย่างมันถููกหยิบยื่นให้กันแลกเปลี่ยนกันแล้วทำไมพวกคุณต้องคิดว่า แบบนี้เลวแบบนี้โง่......ผุ้ซื้อต้องการแบบนี้ ผุ้ขายก็ได้ตอบแทนอย่างที่คุณต้องการแล้ว คุณคิดว่าทำถููกแล้วหรือที่คิดว่าตนมีเงินทำอะไรก็ได้อย่างที่ปรารถนา ไม่ได้คิดเลยว่าพวกคุณก็สร้างโอกาสผิดๆ ให้กับคนที่น่าสงสารกว่า
กับพวกเราๆ ที่คิดว่าตนเองดีพอแล้ว ก็ได้แต่อ่านได้แต่คิดว่าอันนั้นไม่ดีอันนั้นเลว.......แล้วพวกเราๆทำอะไรเพื่อช่วยสังคม หรือคนที่ด้อยโอกาส หรือเพียงแค่คิดดีๆ ทำดีๆ กับเพื่อนร่วมโลกบ้างหรือยัง
เราหันไปถามเขาอีก คุณรุ้จักปทท.ไทยแค่ไหน เคยไปไทยไหม เราก็บอกเมืองไทยไม่ได้มีเพียงแค่สถานที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมายที่ขื้นชื่อระดับโลก แต่เรายังมีสถานที่เที่ยวทางวั*นธรรมมรดกโลกอีกมากมาย เรามีขนบธรรมเนียมที่ยาวนานซึ่งน่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวมักไม่ค่อยได้สัมผัสเนื่องจากช่วงเวลาการท่องเที่ยวจำกัดให้เฉพาะสถานที่เฉพาะสำหรับนำท่องเที่ยว....ก็จะรับไปแต่เฉพาะสถานบันเทิง เมืองไทยเป็นเมืองใหญ่ทุกอย่างก็หลากหลาย เมืองไทยได้โลโซไปหมดเหมือนทีวีถ่ายทำ.... แหม...ทีวีเสนอตลอดไม่ใส่รองเท้ากินข้าวกับมือนั่งกับพื้นบ้านไม่มีข้างฝา..... เราก็บอกเมืองไทยเป็นเมืองใหญ่สภาพทางศก.หลากหลาย คนท้องถิ่นยังนิยมความสบายๆ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ เจริญกว่าสวิสอีกจ้าาาาาาาาาาาาาา
แหม....ชักเมื่อยมือ คนอ่านก็ตาลาย ตอนหลังอีพููดดียิ้มแย้มเสมอเวลาเจอกัน ก็รุ้สึกดีที่อย่างน้อยพููดถึงเมืองไทยให้คนเขาเข้าใจบ้างนิดหน่อยก็ยังดีน๊ะ
แม่จิ๋วจิ้วฯรู้สึกตื้นตันจริงๆที่หลายท่านกรุณาสละเวลาอันมีค่ามาเขียน ได้ไอเดียเป็นเกราะป้องกันตัวเยอะเลยค่ะ ค่อยอุ่นใจหน่อย จากที่เคยอารมณ์พุ่งปรี๊ดทุกครั้งที่มีคนถามเรื่องนี้ ก็จะพยายามตั้งสติก่อนตอบ ตอนนี้แม่จิ๋วจิ้วฯกำลังคัดลอกข้อความตอนที่ประทับใจจากแต่ละท่านมาเรียบเรียงใหม่เป็นของตัวเอง พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษตามแบบฉบับงูๆปลาๆของแม่จิ๋วจิ้วฯ เนื่องจากภาษาเยอรมันยังไม่กระดิก
ขอตัวไปเตรียม Power Point Presentation ต่อนะคะ ยังไม่เสร็จเลย กะเน้นรูปเยอะเข้าไว้ ตอนนี้เปลี่ยนแผนนิดหน่อยค่ะ กะพูดเรื่องพระเจ้าอยู่หัวอันเป็นที่เคารพสูงสุดของคนไทยก่อนเรื่องอื่น แล้วเอาเรื่อง Sex Tour ไว้ท้ายสุดดีกว่า พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าพูดเรื่องอะไรบ้าง
คุณป้า Pall ขา แม่จิ๋วจิ้วฯอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากลูเซิร์นค่า *งประมาณ 15 นาทีโดยรถไฟด่วน หรือ 30 นาทีรถไฟธรรมดา ทายซิคะว่าเมืองอะไร ป่านนี้เพื่อนแม่จิ๋วจิ้วฯที่อยู่เจนีวาคงรู้แล้วว่าแม่จิ๋วจิ้วฯเป็นใคร...อุอุ
ในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แฟนแม่จิ๋วจิ้วฯ ชมว่าทำได้ดีมาก ตอนเย็นมีการซื้อดอกไม้มาฝากเป็นการขอบคุณที่เราสละเวลาหาข้อมูลและภาพไปพูดให้นักเรียนฟัง แ่ต่ส่วนตัวแล้วแม่จิ๋วจิ้วฯไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เป็นธรรมชาติมากกว่านี้ และน่าจะมีกิจกรรมให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมมากกว่านี้ ยอมรับว่าแม่จิ๋วจิ้วฯเกร็งสุดๆ แต่แฟนและเพื่อนครููที่มานั่งฟังด้วยก็บอกว่าทำได้ดี ( ไม่รู้พูดตามมารยาทหรือเปล่า ) แฟนแม่จิ๋วจิ้วฯย้ำอีกว่า "คุณไม่สังเกตหรอกเหรอว่านักเรียนตั้งอกตั้งใจฟังคุณมากกว่าตอนผมพูดซะอีก" แถมตอนเย็นกลับมาบ้้านยังมีหยอดอีกว่า "คุณเป็นคนมีเสน่ห์ เวลาพูดมีการหยอดมุขเป็นระยะๆ ให้นักเรียนได้หัวเราะ" แม่จิ๋วจิ้วฯรู้สึกเท้าลอยจากพื้น แต่ลึกๆแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาชอบจริงๆหรือเปล่า หรือแค่พูดให้กำลังใจเพราะเห็นเราอดตาหลับขับตานอนเตรียม Presentation ซะดึกดื่นก็ไม่รู้
ห้องที่แม่จิ๋วจิ้วฯไปพูดเกี่ยวกับประเทศไทยและการท่องเที่ยวให้ฟัง มีนักเรียน 12 คน ครูู 2 คน คือแฟนแม่จิ๋วจิ้วฯ กับครููอีกคน นักเรียนอายุประมาณ 18-19 ปี โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วและกำลังจะจบมัธยมปลายในอีก 2-3 เดือนหน้านี้
แม่จิ๋วจิ้วฯไปถึงห้องเรียนเวลา 9:30 น.ตามกำหนด นักเรียนทยอยกันเข้าห้อง แม่จิ๋วจิ้วฯเอาข้าวตังกรอบหน้าหมููหยองใส่จานกระดาษ 6 จาน เหยาะน้ำพริกเผาแม่ประนอมไว้ข้างจานด้วย จานละช้อน กะแจกให้นักเรียนกินก่อนเลย แต่แฟนแม่จิ๋วจิ้วฯยังไม่ให้แจก เพราะเขาจะให้นักเรียนอ่านเอกสารที่เขาเตรียมมาก่อนสักครึ่งชั่วโมง ( มี 4 หัวข้อ แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม ให้แต่ละคนในกลุ่มอ่านคนละหัวข้อ แล้วสรุปใจความสำคัญเล่่าให้เพื่อนฟัง 4 หัวข้อที่ว่าคือ เรื่องปัญหาคอรัปชั่นในไทย เรื่องปัญหาการจัดการขยะของไทย เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในไทย และเรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ ) แม่จิ๋วจิ้วฯก็นั่งสังเกตการณ์อยู่หลังห้อง เดินถ่ายรูปนักเรียน 2-3 รูป แล้วเอากระดาษเช็ดปากออกมาพับเป็นรูปดอกบัว สังเกตเห็นนักเรียนหญิงบางคนแอบหันหลังมามองแล้วส่งยิ้มให้ น้ำพริกเผาส่งกลิ่นตลบอบอวลทั่วห้อง เพิ่งรู้ว่าน้ำพริกเผานี่ก็กลิ่นแรงใช่เล่นนะนี่ ตอนเปิดกินที่บ้าน ไม่ยักส่งกลิ่นแรงเท่าตอนนี้แฮะ กังวลใจนิดๆว่าเด็กฝรั่งจะเหม็นไหม
เมื่อได้เวลาของแม่จิ๋วจิ้วฯ แม่จิ๋วจิ้วฯก็แจกจานข้าวตังน้ำพริกเผาให้นักเรียนได้จิ้มกินระหว่างฟัง ก็เห็นนักเรียนกินกันเอร็ดอร่อยดี ไม่มีท่าทีรังเกียจแต่อย่างใด
แม่จิ๋วจิ้วฯออกไปนั่งเก้าอี้ครููหน้าห้องเรียน มือจับเม้าส์เพื่อเลื่อน Presentation ทีละแผ่น แผ่นแรกเขียนว่า Thailand : Land of Smile or Land of Sex พร้อมภาพประกอบเป็นผู้หญิงไทยเปลือยท่อนบนยืนหันหลังให้ ( copy ภาพมาจากสปาแห่งหนึ่ง ) เพื่อเรียกความสนใจจากนักเรียน แล้วแม่จิ๋วจิ้วฯก็บอกว่า เรื่องนี้จะเก็บไว้พูดตอนสุดท้าย เพราะอยากให้นักเรียนได้รู้จักประเทศไทยในด้านอื่นๆก่อน แล้วก็ถามนักเรียนว่าใครเคยไปเที่ยวประเทศไทยแล้วบ้าง ปรากฏว่ามี 2 คน ซึ่งต่อมา 2 คนนี้จะโดนแม่จิ๋วจิ้วฯถามบ่อยกว่าเพื่อน เพราะเคยไปมาแล้วย่อมนึกภาพออกว่าประเทศไทยเป็นยังไง
แล้วแม่จิ๋วจิ้วฯก็เลื่อนเมาส์ไปยังหน้าถัดไป เป็นรูปแผนที่ประเทศไทยพร้อมตำแหน่งเมืองสำคัญรวมทั้งพัทยา อธิบายความหมายของสีธงชาติไทย แผ่นถัดไปเป็นรูปพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี และรูปทรงงานของในหลวงเพื่อประชาชนในอิริยาบทต่างๆ อธิบายให้นักเรียนฟังถึงความจงรักภักดีของชาวไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เล่าให้ฟังเรื่องโครงการในพระราชดำริต่างๆ รวมถึงการครองราชย์ที่ยาวนานที่สุดในโลกของในหลวงที่จะครบ 60 ปีในปีนี้
ถัดไปแสดงปีที่ประเทศไทยเปลี่ยนระบบการปกครองจากระบบสมบููรณาญาสิทธิราช ( Monarchy ) มาเป็นระบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ( Constitutional Monarchy ) อธิบายว่าประเทศไทยเราเปลี่ยนระบบการปกครองครั้งสำคัญนี้โดยไม่มีการนองเลือดเหมือนบางประเทศ
หลังจากนั้นก็แสดงช่วงฤดูท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วงไหนเป็นช่วง High Season และ Low Season อธิบายว่ามัน High เพราะฝรั่งหนีหนาวมาเที่ยว มัน Low เพราะเป็นฤดูฝน เฉอะแฉะ
แผ่นถัดๆไปเป็นรูปภาพสวยๆของหมู่เกาะ หาดทราย และปะการังทางใต้ของประเทศไทย พร้อมอธิบายว่า หลังเหตุการณ์สึนามิ ใต้ท้องทะเลไทยก็ยังสวยอยู่ ช่วยไปเที่ยวกันหน่อย เสร็จแล้วแสดงวิวภูเขาทางเหนือ ภาพสวยๆเหล่านี้ไป copy มาจากโต๊ะูบลููพลาเน็ต ในพันทิพค่ะ
เสร็จแล้วแสดงภาพมรดกโลก ( World Heritage ) ทั้ง 5 แห่งในไทย แล้วภาพตัวอย่างที่พักราคาแพงระดับ 5 ดาวและระดับไม่มีดาวในไทยพร้อมราคาโดยประมาณ
ต่อไปก็เป็นภาพอักษรไทย รวมทั้งสระและวรรณยุกต์ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประโยคที่เขียนเป็นภาษาไทยพร้อมคำแปลภาษาอังกฤษ แล้วอ่านออกเสียงให้นักเรียนฟัง แม่จิ๋วจิ้วฯ ยกตัวอย่างประโยคไปว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่สวยงามที่สุดในโลก อีกประโยคคือ อาหารไทยเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกเช่นเดียวกับอาหารอิตาลี อาหารฝรั่งเศส อาหารจีน และอาหารญี่ปุ่น
จากนั้นแสดงภาพวงดนตรีไทย การแสดงโขน มวยไทย แล้วบอกว่าใครอยากเรียนมวยไทยก็มาเรียนกับแม่จิ๋วจิ้วฯได้ เด็กหัวเราะกันใหญ่ ต่อไปก็เป็นภาพแสดงการนวดแผนโบราณ เล่าให้ฟังว่าตอนอยู่เมืองไทย แม่จิ๋วจิ้วฯ ต้องไปนวดเกือบทุกอาทิตย์ เพราะมันสบายตัวดี บอกราคาให้ฟังว่าชั่วโมงละ 4 ฟรังค์ นักเรียนร้อง โอ้โฮ ไหงมันถูกงั้นอ่ะ ถูกกว่าสวิสเป็นสิบยี่สิบเท่าเลยนะนั่น ถามนักเรียนผู้ชายที่เคยไปเที่ยวไทยว่าชอบนวดไทยไหม เขาบอกไม่ค่อยชอบ เพราะมันเจ็บ แม่จิ๋วจิ้วฯบอก แหม...ผิดกับแม่จิ๋วจิ้วฯเลย แม่จิ๋วจิ้วฯไปนวดทีไรต้องขอให้นวดแรงๆทุกทีไม่งั้นมันไม่ถึงเส้น
หลังจากนั้นแสดงภาพศิลปะไทยด้านอื่นๆ คือ ผ้าไหมไทย เครื่องเงิน เครื่องเขิน แกะสลักไม้ เครื่องปั้นดินเผา ภาพวาดฝาผนังตามโบสถ์
แผ่นต่อมาเป็นภาพประเพณีแต่งงานแบบไทย เล่าให้ฟังเรื่องสินสอด ธรรมเนียมที่ฝรั่งยากที่จะเข้าใจ พร้อมอธิบายว่ามันไม่ใช่การขายลููกสาวนะ อย่าเข้าใจผิด แล้วก็อธิบายถึงที่มาที่ไปที่ถูกต้องของธรรมเนียมประเพณีนี้ให้ฟัง
หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่แม่จิ๋วจิ้วฯชอบที่สุด คือ อาหารไทย แม่จิ๋วจิ้วฯเอาภาพอาหารไทย ขนมไทย และผลไม้ไทย มาแสดงให้เด็กฝรั่งน้ำลายสอเล่นเยอะเลย ถามนักเรียนว่าใครเคยกินอาหารไทยบ้าง แล้วชอบกินอะไรกัน ก็มีตอบมาว่า ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวานไก่ แกงเผ็ดเป็ดย่าง แล้วแม่จิ๋วจิ้วฯก็เล่าให้ฟังว่า คนไทยเจอกันเขาไม่ทักว่า how are you ? หรอกนะ แต่เราชอบทักกันว่า กินข้าวแล้วยัง แสดงให้เห็นว่า คนไทยให้ความสำคัญกับอาหารขนาดไหน หลังจากแสดงภาพสมุนไพรไทยและเครื่องเทศพอสังเขปแล้ว แม่จิ๋วจิ้วฯก็ถามว่าหิวข้าวกันแล้วใช่ไหม นักเรียนตอบว่าใช่ แล้วแม่จิ๋วจิ้วฯก็พูดเรื่อง Sex Tour เป็นแผ่นสุดท้าย อธิบายว่าใช่มันมีอยู่จริง เช่นเดียวกับหลายประเทศ รวมทั้งในสวิสด้วย แต่อย่าเหมารวมว่าหญิงไทยทุกคนขายบริการทางเพศ แล้วก็บอกว่าแม่จิ๋วจิ้วฯมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้ามากกว่าน่ารังเกียจ เสร็จแล้วก็ copy คำพูดของคุณบููรพา คุณพรหล้า คุณเทียนหอม คุณน้ำท่วมปาก มาพูดค่ะ แต่ไม่นานหรอกค่ะเพราะได้เวลาพักเที่ยงพอดี นักเรียนก็ไม่มีใครถามอะไรให้แสลงหัวใจแต่อย่างใด จบแล้วค่า ขอขอบคุณทุกท่านอย่างสูงที่กรุณาเข้ามาให้คำแนะนำค่ะ
อ่านแล้วก็ชื่นใจ ยกนิ้วโป้งให้คุณแม่จิ๋วจิ้วด้วยความชื่นชมค่ะ
Congratulation, well done. ดีใจค่ะที่คุณแม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้วในฐานะของคนไทยที่ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศและแสดงภาพพจน์ของประเทศเราอย่างถูกต้องเหมาะสม
สวัสดีค่ะทุกๆคน
ขอเลียนคำพูดของคนข้างบนทั้งสองคน
ว่าCongratulation, well done.
ดีใจจริงๆที่จิ๋วจิ้ว ทำหน้าที่หญิงไทยได้ดีที่สุดค่ะขอปรบมือ
ขอชื่นชม กับ
คุณแม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว กับการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนไทย ที่แสดงชี้แจง อธิบาย ให้เห็นภาพพจน์ของเมืองไทยอย่างถูกต้อง
และชื่นชมกับทุกๆคนที่ช่วยออกความคิดเห็นในหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็น น้องอ้อม คุณบูรพา คุณพรหล้า คุณเทียนหอม และ คุณน้ำท่วมปาก
สวัสดีค่ะ แม่จิ๋วจิ้วฯต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้เข้ามาตอบเสียหลายวัน ขอบคุณ คุณป้า Pall คุณป้าตุ้ม คุณพี่นิด และคุณเทียนหอมมากค่ะที่อุตส่าห์เข้ามาให้กำลังใจ แม่จิ๋วจิ้วฯบอกแฟนไปว่า ถ้าจะให้ไปพูดอีกก็บอกนะ ( เริ่มติดใจ..หุหุ ) จะได้เตรียมแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลและรูปภาพบางอย่างที่ตกหล่นไป ( เช่น เรือนไทยทั้ง 4 ภาค, ประเพณีไทยที่โด่งดังระดับโลก เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ แห่เทียนพรรษา, ช้างไทย, วัดและศาสนาพุทธ เป็นต้น ) เห็นแฟนบอกว่า ได้ปรึกษาครููที่สอนด้วยกันแล้วว่า เดือนพฤษภาจะมีงานเลี้ยงปิด Class ที่บ้านครููคนนั้น และจะให้แม่จิ๋วจิ้วฯไปสอนนักเรียนทำอาหารไทยกินกันในงาน แม่จิ๋วจิ้วฯตอบว่าไม่มีปัญหาค่ะ เพราะชอบทำอาหารอยู่แล้ว แต่จะกินได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องนึง..หุหุ
เมื่อคืนแฟนแม่จิ๋วจิ้วฯก็บอกว่า ปกติเขาจะเชิญนักเรียนที่เขาเป็นครููประจำชั้นอยู่มากินข้าวที่บ้านเทอมละครั้ง และครั้งนี้เขาดันไปเปิดประเด็นเรื่องอาหารไทยไว้แล้ว และเด็กๆตื่นเต้นอยากเรียนกันมาก ( ปล.อยากเห็นแฟนครู ) ถามแม่จิ๋วจิ้วฯว่าพอจะสอนนักเรียน 17 คนไหวไหม แม่จิ๋วจิ้วฯคิดว่ารับมือไม่ไหวแน่ ก็เลยเสนอไปว่าน่าจะคัดเลือกเฉพาะคนที่สนใจจริงๆ ( หรือจับฉลากเอาก็ได้ ) มาสัก 6 คนก็พอ เพื่อช่วยแม่จิ๋วจิ้วฯในครัวที่แสนจะเล็กจิ๋วของเรา ส่วนอีก 11 คน ให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นในห้องรับแขกแทนระหว่างรอรับประทานอาหาร โดยให้นักเรียนทั้ง 6 คนที่อยากจะเรียนทำอาหารไทยนั้น นำเขียง มีด และกระทะหรือหม้อ มาจากบ้านด้วยคนละชุด โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะว่า ผลลัพท์จะเป็นอย่างไร ( จะเลอะเทอะขนาดไหน ? จะกินได้ไหม ? ) ตอนนี้ยังไม่ได้ระบุวันที่จะยกพลมากันค่ะ