สวัสดีค่ะทุกๆ คน อยากจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ การทำเรื่องการนำบุตรที่เกิดกับแฟนคนไทย( ที่ไม่ได้จดทะเบียน) มาอยู่ที่สวิส ( Familliennachzug )
คือว่าแต่งงานกับแฟนคนสวิสจะได้เกือบๆ 3 ปีแล้ว และตอนนี้พร้อมที่จะพาลูกสาวมาอยู่ด้วย ลูกสาวอายุ 7 ปี และตอนนี้สับสนกับการเตรียมเอกสารมากๆ ไม่ทราบว่าใครจะพอทราบข้อมูลบ้างค่ะ
และถ้าจะให้พี่สาวไปยื่นเรื่องกับทางสถานทูตสวิสที่ไทย ต้องมีการเขียนใบมอบอำนาจหรือป่าวค่ะ
-ใบเกิด
-ทะเบียนบ้าน
-ใบเปลียนนามสกุล ( คือว่าตอนลูกสาวเกิดใช้นามสกุลพ่อแต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลแม่แล้วค่ะ)
-ใบปกครองบุตร
เอกสารทั้งหมดไม่ทราบว่าต้องไปประทับตรารับรองที่กงสุล (หลักสี่) ก่อนรึปล่าวค่ะ ถึงจะแปลภาษาได้ พอแปลภาษาแล้ว ก็ต้องกลับไปประทับตราที่กงสุล (หลักสี่) อีก... เฮ่อ!! ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้ ไม่เข้าใจค่ะ ??? :
ใครรู้ข้อมูลช่วยตอบทีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ weeny เมย์ก็ไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกันนะค่ะ แต่เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะค่ะ เพราะว่าตัวเมย์เองก็กำลังจะพาลูกชาย อายุ 8 ปี มาอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ เมย์ยังไม่รู้เลยค่ะว่าต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ สู้ สู้ เพื่อลูกค่ะ
Quote from: weeny on November 11, 2010, 09:17:28 PM
สวัสดีค่ะทุกๆ คน อยากจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ การทำเรื่องการนำบุตรที่เกิดกับแฟนคนไทย( ที่ไม่ได้จดทะเบียน) มาอยู่ที่สวิส ( Familliennachzug )
คือว่าแต่งงานกับแฟนคนสวิสจะได้เกือบๆ 3 ปีแล้ว และตอนนี้พร้อมที่จะพาลูกสาวมาอยู่ด้วย ลูกสาวอายุ 7 ปี และตอนนี้สับสนกับการเตรียมเอกสารมากๆ ไม่ทราบว่าใครจะพอทราบข้อมูลบ้างค่ะ
และถ้าจะให้พี่สาวไปยื่นเรื่องกับทางสถานทูตสวิสที่ไทย ต้องมีการเขียนใบมอบอำนาจหรือป่าวค่ะ
-ใบเกิด
-ทะเบียนบ้าน
-ใบเปลียนนามสกุล ( คือว่าตอนลูกสาวเกิดใช้นามสกุลพ่อแต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลแม่แล้วค่ะ)
-ใบปกครองบุตร
เอกสารทั้งหมดไม่ทราบว่าต้องไปประทับตรารับรองที่กงสุล (หลักสี่) ก่อนรึปล่าวค่ะ ถึงจะแปลภาษาได้ พอแปลภาษาแล้ว ก็ต้องกลับไปประทับตราที่กงสุล (หลักสี่) อีก... เฮ่อ!! ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้ ไม่เข้าใจค่ะ ??? :
ใครรู้ข้อมูลช่วยตอบทีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
กรณีพาลุกไป กิ๊กไม่ทราบนะค่ะ เดี๋ยวรอพี่ที่ไปแล้วมาตอบนะค่ะ กิ๊กขอตอบตามส่วนเอกสารที่แปลละกัน คือ ก่อน แปล เนี่ย น่าจะ ให้ พี่สาว นำเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้องไปให้สถานทูตตรวจก่อนนะค่ะ เค้าจะบอกเอก ว่าแปลอะไร อันไหนไม่ต้อง แล้วต้องใช่อะไรเพิ่มบ้าง ส่วนพอตอนที่นำไปร้านแปลเนี่ย ก็ ไม่ต้องไปกงสุลเองให้ยุ่งยากหรอกค่ะ เพราะ ส่วนใหญ่้ร้านแปลเค้าจะ รับรองได้เลย ที่สถานทูตยอมรับ ยกเว้น เอกสารบางตัว ที่ระบุว่าต้องใบไปประทับตราที่กงสุลอันนั้น จะ ดำเนินการเอง หรือ ให้ ร้านทำ ก็ ขึ้นอยุู่กับพี่เลยจ้า
สวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่านและจขกท ด้วยค่ะ
หัวอกเดียวกันค่ะเพราะกิ๊บก็เตรียมเอกสารให้กับลูกสาวครบเรัยบร้อยหมดแล้วค่ะ เอกสารที่เป็นฉบับภาษาไทยที่เป็นตัว copy ต้องนำไปประทับตรารับรองก่อนหลังจากนั้นนำไปแปลเป็นภาษาราชการ ตามเขตที่อยู่ค่ะเช่นภาษา German...etc.และต้องไปแปลตามร้านที่สถานทูตรับรองนะค่ะ :)
เอกสารที่เตรียมไปสถานทูตมีดังนี้ค่ะ
1.แบบฟอร์มขอวีซ่า 3ชุด : VISUMANTRASFORMULAR FÜR NATIONALES VISUM-D สามารถ download ที่ http://www.bfm.admin.ch/content/dam/data/migration/einreise/visumantragsformulare/visumantrag-visumd-en.pdf
2.รูปถ่าย 3 ใบ
3. Passport +2 copy.
4.สูติบัตรตัวจริง + 2 copy.
5.ทะเบียนบ้านตัวจริง + 2 copy.
6.เอกสารรับรองบุตร (กรณีเกิดกับสามีเก่า) + 2 copy.
7.เอกสารการเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)+ 2 copy.
เอกสารที่นำไปมีเท่านี้ค่ะ ระยะในการรอ 2 เดือนค่ะ :) โชคดีค่ะ ;D
Gib kha.. :)
สวัสดีคุณ weeny (จขกท)
ขั้นตอนแรกต้องไปอำเภอขอใบ ปค.(มีอำนาจปกครองลูกแต่เพียงผู้เดียว กรณีเลิกกับสามี)หลังจากนั้นก็เอาใบเกิดและใบปค.ของลูกไปประทับตราที่กงสุล (หลักสี่) กรณีตัวเองไปกงสุลเองค่ะ เพราะสถานที่แปลเอกสารรับไปกงสุลให้แต่จ่ายแพงมากค่ะ (ที่กงสุลมีด่วนแบบรอรับได้เลย แต่ยอดจ่ายแพงเท่าตัวเลยค่ะ)+พาสปอร์ต เด็กอายุไม่เกิน15ปี ต้องมีผู้ปกครองเซ็นต์ยินยอมให้ออกนอกประเทศ(นำใบ ปค.ไปยื่นด้วยนะคะ)
เอกสารของลูกมีแค่นี้ค่ะ
ส่วนเราอยู่ที่สวิต ก็ไปเกมายเด่คะ ไปบอกเขาว่าต้องการนำลูกมาอยู่ด้วย เขาก็จะให้แบบฟอร์มมากรอก
-ใบเช่าอพาร์ตเม้นต์
-ใบรับรองจากทางอำเภอ ไม่มีประวัติเสียเรื่องรายจ่าย(17chf)คล้ายๆใบที่สามีใช้การันตีเราอ่ะคะ ใช้คำไม่ถูกขออภัยด้วยนะคะ
-ใบสลิปเงินเดือนล่าสุด 3เดือน (กรณีทำงาน)
-สูติบัตรลูก(ที่แปล)
-ใบ ปค. (ที่แปล)
ยื่นเอกสารครบทุกอย่างจ่ายไป 40ฟรังค่ะ ตอนนี้รวมเวลายังไม่ถึง1อาทิตย์ค่ะที่ยื่นเรื่องไป ในเอกสารบอกว่า4-6 อาทิตย์มาลุ้นกันค่ะ ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง
เอาใจช่วยทุกคนนะคะ ข้องใจอะไรถามได้-ด้วยความเต็มใจค่ะ
กุ้ง
หวัดดีจ๊ะ น้องกุ้ง
ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับข้อมูลเรื่องเอกสาร พี่อยากทราบว่าน้องกุ้งไปแปลสูติบัตร และ ใบ ปค.14 ที่ไหนค่ะ เพราะพี่กะว่าจะยื่นเรื่องประมาณเดือน มิ.ย. 54 ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่จิ๋ว
กุ้งแปลที่ตึกมหาธน พลาซ่า ตรงข้ามโฮมโปร ค่ะ อยู่ชั้น1เลยคะ 02-2520337,022500412-3,022542821 fax 02-2520337 Mobile 081-1707875
สวัสดีค่ะทุดๆท่าน,จขกท,& K'panjanee :)ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆ :)ตอนกิ๊บทำเรื่องจดทะเบียนสมรสที่ไทยก็ไปแปลเอกสารที่ติกมหาทุนพลาว่าที่เดี่ยวกับที่คุณกุ้งแปลเอกสารค่ะราคาถูกและสถานทูตรับรองด้วย ;D ;D ;D
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณกุ้ง :D :D
กิ๊บค่ะ :)
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณกิ๊บ ตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ..มาสวิตหรือยังคะ
สวัสดีค่ะคุณกุ้ง,คุณweeny,คุณ thanapaและสมาชิกทุกๆท่านค่ะ
ตอนนี้กิ๊บมาอยุ่ที่สวิสได้ 1เดือนแล้วค่ะ ส่วนเรื่งลูก ก่อนบินมาได้ทำเอกสารปค.14,passportและเอกสารอื่นๆเตรียมพร้อมไว้แล้วค่ะ ส่วนกิ๊บอยู่ที่สวิสก็จะไปขอแบบฟอร์มที่Gemeinde Worb.และหลังจากนี้ค่อยจัดการขั้นต่อไปค่ะ
หวัดดีค่ะ คุณกิ๊บ ,น้องกุ้ง
คุณกิ๊บอยู่เมืองไหนค่ะ เผื่ออยู่ใกล้ๆ กัน
ถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ในการขอวีซ่าให้ลูก รบกวนคุณกิ๊บ กับ น้องกุ้ง ช่วย update ข้อมูลให้ทราบด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Thanapa,คุณกุ้ง,คุณweenyและสมาชิกมุกๆๆท่านค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคนนะค่ะ กิ๊บอยู่เมืองเล็กๆชื่อ Worb อยู่ห่างจากเมืองหลวง 20 นาที และ คุณThanapa,คุณกุ้งอยู่เมืองใหนเหรอค่ะอาจจะอยู่ใก้ลๆๆกันค่ะ :D :D
สำหรับเรื่องวีซ่าของคุณลูกประมาณเดือนหน้าถึงจะไปยื่นขอวีซ่าค่ะเพราะตอนนี้กิ๊บติดเรื่องจัดงานแต่งของตัวเองอยู่ค่ะ ยังไงจะมาอัพเดตข้อมูลแน่นอนค่ะ :)แบบว่าเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ :) ก็ขอขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาแชร์ข้อมูลกันค่ะ :) :)
Gib kha.. :)
ขอโทษค่ะลิงค์แบบฟอร์มขอวีซ่าเขียนตกไปค่ะ :'( ... อันนี้ถูกต้องแน่นอน ;D
http://www.bfm.admin.ch/content/dam/data/migration/einreise/visumantragsformulare/visumantrag-visumd-en-de.pdf ;D คอนเฟิร์มจร้า ;D
ถึงคุณกุ้ง
พอดีพี่ได้อ่านข้อความของคุณก็เลยอยากจะถามคุณดังนี้นะคะในกรณีของพี่เด็กเป็นหลานเป็นลูกของลูกชายพี่ ตอนที่อยู่เมืองไทยตี้งแต่แรกเกิดพี่ก็เลี้ยงและส่งเสียมาคนเดียวพ่อแม่เขาเลิกกันแต่พ่อเขาอยู่รวมกับพี่ด้วย ตอนนี้หลานพี่อายุแปดปีแล้วและพี่ตอนนี้มาอยู่สวิสได้เกึอบปีแล้วพี่แต่งงานมา20ปีแล้ว ในกรณีของพี่จะต้องทำเป็นลูกบุญธรรมหรึอว่าบอกเป็นหลานเลยคะช่วยให้ความกะจ่างกับพั่ด้วยพี่สงสารหลานมากเพราะพ่อเขาไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่สามีพี่ก็อนุญาตให้เอามาได้เพราะลูกชายพี่กับสามีที่นี่ก็โตแล้ว อ่านกะทู้ของพี่ในห้องกฎหมายหน้าสองนะคะขอขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะ พี่chiraphon stuhlman
อันนี้กุ้งไม่แน่ใจ แต่เหมือนเคยอ่านโพสต์เจอ-อาจต้องทำเรื่องเป็นบุตรบุญธรรมก่อน เพราะไปยื่นวีซ่าฯหรือขอพาสฯก็ต้องใช้ใบ ปค.14แนบด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องที่กุ้งยื่นขอวีซ่าให้ลูกทางสวิตฯไป ผลปรากฏว่าทางสวิตฯอยากจะให้เราไปยื่นเรื่องทางสถานฑูตที่ไทยก่อน ตอนนี้ก็ซื้อตั๋วเตรียมพร้อมไปพักร้อนและเข้าสถานฑูตค่ะ เดินทาง18เมย.ค่ะ ได้ผลยังไงเดี๋ยวอัพเดทให้เพื่อนสมากชิกทราบอีกทีค่ะ
ขอขอบคุณคุณกุ้งมากค่ะที่ให้ข้อมูลกับพี่ คุณธนาภาก็ให้ข้อมูลแบบเดียงกันค้องขอขอบคุณน้องทั้งสองคนอย่างมากค่ะ ส่วนใบรับรองบุตรเราต้องไปทำเองหรึอทอบอำนาจ หรึอให้พ่อแม่เขาทำคะ โดยเฉพาะคุณกุ้งขอให้เดินทางไป-กลับด้วยความปลอดภัยนะคะและถามข้อมูลเพิ่มเติมเผึ่อพี่ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างมากเขียนมาคุยกับพี่อีกนะคะทั้งสองท่าน
ขอขอบคุณอีกครั้ง
สวัสดีค่ะป้าพอลและสมาชิกทุกๆท่านค่ะ :)
วันนี้แวะมาอับเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับวีซ่าของคุณลูกค่ะ(ได้คิวยื่นเมี่อวันที่8.มิย.2011)หลังจากที่รอมาประมาณ3อาทิตย์ก็ได้โทรไปสอบถามที่เกมายเดค่ะและได้ความว่าเอกสารทั้งหมดได้มาถึงแล้วและทุกอย่างถูกต้องไม่มีปัญหาแต่ให้รอจดหมายจาก ตม.ที่เบริน์ค่ะ..จะส่งมาให้ที่บ้าน...ถ้าได้รับจม.จากตม.แล้วจะมาอับเดตอีกครั้งนะค่ะ :) :)
สวัสดีค่ะ ทุกคน
เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ยื่นเรื่องจะพาลูกไปอยู่สวิส หลังแต่งงานได้7 เดือนแล้ว ( จดทะเบียนสมรสในไทย ) เท่าที่อ่านดูทุกคนมีเอกสาร ปค 14 กันทั้งนั้น Case ของเรามีเอกสาร คร6 ซึ่งเป็นบันทึกหลังหย่าว่าบุตรอยู่ในความปกครองของฝ่ายหญิง แต่ดูเหมือนทางสวิสเขาไม่เคยเจอ case นี้ เขาจะเอาเอกสาร ปค14 เราเคยไปถามอำเภอแล้วว่าจะขอ ปค14 แต่ทางอำเภอบอกว่าคุณมีเอกสาร คร6 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนแล้วเสมอเป็นคำสั่งศาล ปค14 ใช้กรณีบิดา มารดา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ( เคยเอาเอกสาร ครไปสอบถามกับทางสถานทูตแล้วเขาก็บอกว่าใช้ได้ ทางสามีก็ส่ง email อธิบายให้ทาง commune
สวัสดีค่ะทุกๆคน :)
หลังจากที่มาอับเดตแล้วครั้งหนึ่ง...วันนี้ก็ได้รับจม.จาก Migrationsdienst des Kantos Bern. ได้ความว่า : ทางตม.เบริน ต้องการเอกสารเพิ่มคือ สำเนาเช่า/ซี้อที่อยู่และรายละเอียดของผู้อยู่อาศัยมีจำนวนเท่าไร..พร้อมทั้งแนบเอกสารมาอีก1อย่าง คือเอกสารเกี่ยวกับการการันตรีเด็กและผู้การันตรีเด็ก...และต้องตอบคำถามที่แนบมากับเอกสารด้วย....ประมาณว่าเป็นการสัมภาษไปในตัว
*** คำถามก็มีอยู่ประมาณ3ข้อค่ะ(ก็แล้วแต่ Kanton ด้วยค่ะ)***
1.ณ เวลานี้ตัวเด็กอาศัยอยู่ที่ใหนกับใคร?
2.ก่อนที่แม่ของเด็กจะเดินทางมาอยู่ที่สวิส..ตอนนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านเดียวกันไช่ไหม?
3. ทราบหรือไม่ว่าพ่อของเด็กอยู่ที่ใหน? และเขาเคยติดต่อกับเด็กหรือไม่?ถ้าเคยในรูปแบบใหน?
ตอนนี้ก็ประมาณนี้ค่ะเพราะยังไม่ได้เตรียมเอกสารและตอบคำถามใดๆเลยค่ะ...แต่ถ้าทำทุกอย่างตามที่ตมใต้องการใใเสร็จแล้วจะมาอับเดตอีกครั้งค่ะ...ยังต้องลุ้นกันต่อไป ;D
สวัสดีป้าพอลและทุกๆคนค่ะ :)
มาแจ้งข่าวค่ะ ว่าวีซ่าของคุณลูกผ่านแล้วค่ะและจะไปรับลูกวันพฤหัสหน้าค่ะ :D :D :D :D
สวัสดีค่ะป้าพอลและครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆสมาชิกทุกคนนะคะ ปุ้ม ขอรายงานตัวเป็นสมาชิกใหม่ด้วยคนค่ะ ปุ้มมีโอกาสได้รับความรู้มากมายจากเว็ปของป้าพอล และประสบการณ์หลากหลายจากเพื่อนๆสมาชิก ตอนนีมาปุ้มมาอยู่ที่สวิสได้ 2ปีแล้วค่ะ ได้พยายามติดตามหาข้อมูลที่ถูกต้องในเรื่องที่ต้องการให้ลูกมาอยู่ด้วย ปุ้ม อยากให้ลูกมาอยู่ที่นี่ด้วย ตอนนี้ลูกชายอายุ 15ปีแล้วค่ะ ในช่วงแรกที่มาที่นี่ ลูกยังไม่อยากที่จะมาอีกอย่างก็ยังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เราเป็นแม่ก็คิดถึงเป็นห่วงลูกใจจะขาดแต่ก็ไม่อยากบังคับใจเขาค่ะ แต่ตอนนี้ ลูกได้เอ่ยปากเองแล้วว่าอยากมาอยู่กับแม่ (แค่ได้ยินน้ำตาก้ไหลเลยค่ะ)ปุ้มอยากขอรบกวนคุณป้าพอล หรือเพื่อนสมาชิกคนใดที่สามารถช่วยบอกขั้นตอนในการดำเนินเรื่อง คือปุ้มได้อ่านจากที่เพื่อนๆโพสต์ไว้ก็เข้าใจบ้างค่ะ แต่ที่ไม่แน่ใจคือเราต้องไปยื่นเรื่องที่เมืองไทยก่อนใช่มั๊ยคะถึงค่อยมายื่นเรื่องต่อที่สวิสอ่ะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ป้าพอล และเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคน .. ปุ้มอยู่ที่ Niederbipp นะคะ :D
สวัสดีค่ะคุณป้ม
คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าสวิสเขามีข้อกำหนดในการทำเรื่องลูกติดตามแม่
กฏมีดังนี้ค่ะ
การทำเรื่องย้ายบุตรที่ไม่มากกว่า 12ปี สวิสให้เวลา 5ปี ในการยื่นเรื่อง
เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี ต้องทำเรื่องภายใน 1ปี หลังจากแต่งงาน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้น่ะค่ะ แต่คุณต้องมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมถึงให้ลูกไปตอนนี้
ลองไปให้แฟนศึกษาดูค่ะ
http://www.binational.ch/d/fragen/aufenthalt.html
สวัสดีค่ะ คุณ Ta-Ta ยินดีที่ได้รู้จักค่ะและขอบคุณมากค่ะที่ช่วยให้ข้อมูล ปุ้มจะลองให้แฟนเข้าไปดูตามเว็ปที่คุณ ทาทา ให้มานะคะ และไม่ทราบว่าขั้นตอนแรกนี่เราต้องไปยื่นเอกสารที่เมืองไทยก่อนใช่หรือเปล่าคะ หรือติดต่อที่ เกมายเด่ะ ที่นี่ก่อนคะ กระทู้เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้วในเว็ปนี้ แต่มันจะมีประโยนช์มากสำหรับสมาชิกใหม่อย่างปุ้มที่เพิ่งจะมีโอกาส ยังไงก้จะลองพยายามดูค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ :)
สวัสดีค่ะ คุณกิีป,คุณปุ้ม,และสมาชิกทุกคน
ยินดีกับคุณกิ๊ปด้วยนะค่ะ ที่วีซ่าของลูกผ่านเรียบร้อยแล้ว และขออนุญาติตอบคำถามของคุณปุ้มค่ะ คือ เราสามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าให้ลูกได้ทั้ง2แบบ โดยติดต่อเกมายเด่ะก่อน หรือ ยื่นเรื่องที่กรุงเทพก่อนก็ได้ค่ะ คุณปุ้มลองเปรียบเทียบดูเคสของคุณกิ๊ปและเคสของดิฉันดูนะค่ะ เพราะเคสของคุณกิ๊ปคือยื่นเรื่องขอวีซ่าให้ลูก ที่สถานฑูตสวิส กรุงเทพฯ แล้วเค้าจะส่งเรื่องมาที่คันโทนและแจ้งให้เราส่งเอกสารต่างๆ เพิ่มเติมไปที่คันโทนเพื่อพิจารณาวีซ่าให้ลูกเรา
ส่วนเคสของดิฉันยื่นเรื่องที่เกมายเด่ะก่อน หลังจากนั้นก็จะมีจดหมายจากคันโทนมาขอเอกสารเพิ่มเติมต่างๆ และเมื่อเอกสารเรียบร้อยก็จะมีจดหมายแจ้งมาอีกครั้งว่าให้ไปยื่นคำร้องขอวีซ่าของเด็กที่สถานฑูตสวิส กรุงเทพ (ขั้นตอนนี้เราก็ต้องโทรนัดหมายและยื่นเอกสารขอวีซ่าประเภทD) ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องและส่งไปให้ญาติเรายื่นแทนได้ จากหลังยื่นเรื่องที่สถานฑูตเรียบร้อยจากนั้นประมาณ 3-4 สัปดาห์ เราก็จะทราบผลวีซ่าของลูกค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ Thanapa คุณกิ๊ป และเพื่อนๆสมาชิกทุกคน
ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับข้อมูลตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าจะเริ่มต้นตรงไหนยังไง และต้องขอแสดงความยินดีกับคุณกิ๊ปและคุณ Thanapaด้วยนะคะที่วีซ่าของลูกผ่านเรียบร้อยอะไรจะสุขใจได้เท่ากับลูกได้อยู่กับเราจริงมั๊ยคะ...ปุ้มเองก้คงจะเริ่มเดินเรื่องที่เกมายเด่ะที่นี่ก่อน ตอนนี้ลูกชายก็อายุ 15 ปีแล้ว สองปีแรกที่ปุ้มมาอยู่ที่นี่ เรายังไม่พร้อมที่จะเอาเขามาค่ะ แต่ตอนนี้เราพร้อมแล้ว ทีแรกปุ้มก้ค่อนข้างเครียดเรื่องที่ต้องหาเหตุผล เพราะทราบมาว่าเราต้องรีบทำเรื่องหลังจากที่เราอยู่ที่นี่ได้ 1 ปี แต่ของปุ้มอยู่มา 2 ปี แล้ว ยังไงก็ต้องลองค่ะจะลองทุกวิธีเลยค่ะ :) ว่าแต่เอกสารที่ต้องเตรียมก็เหมือนที่คุณ Thanapa เคยบอกไว้ข้างต้นใช่มั๊ยคะ และไว้ถ้าคืบหน้าไปแค่ไหนยังไง ปุ้มจะมาอัพเดทขอคำแนะนำจากคุณ Thanapaเพื่อนๆสมาชิกด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆค่ะ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ปุ้มค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ๆทุกคน
เมย์เป็นอีกคนหนึ่งที่ยื่นเรื่องวีซ่าให้ลูกมาอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ พึ่งจะได้รับจดหมายมาเมื่อวันนี้เองค่ะ วีซ่าไม่ผ่านค่ะ กลุ้มใจมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี ทางนี่เค้าเหตุผลว่า รายรับไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หากนำเด็กมาอยู่ที่นี่ด้วย เพราะติดลบ เค้าคำนวเอาเองค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อดีค่ะ ผู้ใดพอรู้รายละเอียดเรื่องนี้บ้างไหมค่ะ ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ :'(
สวัสดีค่ะ คุณ nu may และทุกๆ คนค่ะ
แล้ว คุณ ได้ถามเค้ามั้ยคะ ว่า ต้อง ทำไงต่อไปอ่ะค่ะ
เพราะ ปุ้ย ก็ กำลังจะทำวีติดตามสามี แล้ว คงคิดว่า เหมือนๆ กันอ่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณปุ้ย
เมย์ไม่ได้ถามหรอกค่ะ เพราะถึงถามยังไงเค้าก็ไม่ให้คำตอบง่ายๆค่ะ เพราะคันตอนที่เมย์อยู่เนี่ย เหี๊ยบมากค่ะ
ตอนนี้ก็หาทางอยู่ค่ะ โชคดีหน่อยเมื่อเมื่อที่แล้วมีคนเอางานเสริมมาให้นะค่ะ ก็จะเอาหลักฐานพวกนี้ให้เค้าเพิ่มน่ะค่ะ
พยายามหาทางไม่ให้ รายรับ กับ คชจ.ที่เค้าคำนวณ ติดลบน่ะค่ะ แต่ถ้าในหลักความเป็นจริง ทุกวันนี้แค่ลำพังเงินเดือนสามี
ที่เดียวก็พอกิน พอใช้ แถมเหลือเก็บนิดๆหน่อยๆแล้วค่ะ สามีเมย์บอกว่าเค้าพยายามหาช่องว่างเพื่อไม่ให้คนเข้าประเทศมากที่สุดน่ะค่ะ
เค้าใช้สมองคิดแทนหัวใจค่ะ เค้าไม่รู้หรอกค่ะว่าหัวอกคนเป็นแม่เป็นยังไง .....
ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว นะค่ะ ขอระบายหน่อยเถอะค่่ะ
ทุกวันนี้โทรหาลูกแล้วทุกคั้งที่คุยกันเค้าก็จะบอกตลอดเลยว่า "แม่ครับ เมื่อไหร่เราจะได้อยู่ด้วยกันครับ แม่ว่าน้องๆจะรู้จักผมไหมครับ
แม่ครับผมอิจฉาน้องครับที่ได้อยู่กับแม่ แม่รู้ไหมครับว่าผมเหงา ผมคิดถึงแม่" คุณค่ะ น้ำตาตกเลยค่ะ ทุกครั้งที่ได้ยินแบบนี้
ทุกวันนี้ ใจเมย์ไม่เคยมีความสุขเลยค่ะ ยิ่งเห็นเด็กที่นี่ รุ่นราวคราวเดียวกับเค้าปั่นจักรยานไปโรงเรียน อดไม่ได้ที่จะหยุดแล้วมอง
หัวอกคนเป็นแม่ที่ไกลลูกเนี่ย ทรมาณ นะค่ะ
สวัสดีค่ะป้าพอล,คุณกิ๊ป,คุณจิ๊ป,คุณ ทาทา,คุณเมย์และเพื่อนสมาชิก ทุกๆคนค่ะ
ได้อ่านข้อความของคุณเมย์แล้วถึงกับอึ้งเลยนะคะ เพราะเข้าใจในหัวอกคนเป็นแม่ค่ะ ในส่วนของตัวเองก็ได้คำตอบมาว่าต้องไปยื่นเรื่องที่กรุงเทพก่อนค่ะ
ก็คงต้องกลับไปจัดการเรื่องด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องรอกลางเดือน ธ.ค และมาถึงตรงนี้ ก็คงต้องขออนุญาตเข้าไปดูในข้อความของคุณกิ๊ปที่โพสต์ไว้ก่อนหน้าถึงรายละเอียดและขั้นตอน ..ยังไงปุ้มก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณเมย์และเพื่อนๆคนอื่นที่กำลังดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ทุกๆคนนะคะ สู้ๆค่ะ :)
สวัสดีค่ะ คุณเมย์ คุณปุ้ม และสมาชิกทุกคนค่ะ
เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ เข้าใจความรู้สึกนี้เช่นกันค่ะ ตอนนี้ลูกชายของจิ๋วอายุ 6 ขวบค่ะ เวลาเห็นเด็กรุ่นเดียวกันมาเล่นสนามเล่นเด็กเล่นแถวบ้านทีไร เห็นแล้วคิดถึงลูกชายบางครั้งน้ำตาซึมเลยค่ะ
แต่ละคันโทนขั้นตอนการทำงานและพิจารณาไม่เหมือนกันเลยนะค่ะ อย่างเคสของจิ๋วเองที่เคยบอกคุณปุ้มไปว่าทำเรื่องที่นี่ก่อนได้ แต่ปรากฎว่าคันโทนของคุณปุ้มให้ไปทำเรื่องที่กรุงเทพฯก่อน
คุณปุ้มและคุณเมย์ อยู่คันโทนไหนกันค่ะ? จิ๋วอยู่คันโทน Aargau ค่ะ
ตอนจิ๋วทำเรื่องให้ลูกชายที่นี่เค้าไม่ขอดูเอกสารเกี่ยวกับการงานและการเงินเลยค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าดูในระบบของการยื่นภาษีหรือเปล่า ก็เลยไม่ขอเอกสารตัวนี้จากเรา แต่ก็เขี้ยวเหมือนกันสำหรับเรื่องบ้านพัก เพราะอพาร์ทเม้นท์ที่จิ๋วอยู่ตอนนี้เล็กเกินไป เค้าให้ส่งเอกสารการเช่าบ้านใหม่ไปให้ แต่ในสัญญาเราจะเริ่มเข้าอยู่คือ เม.ย.54 เค้าก็เลยให้วีซ่าลูกชาย Start พร้อมกันกับสัญญาเช่าบ้านใหม่ ...เฮ้อออ เศร้าค่ะ ต้องรออีก 6 เดือน ลูกชายถึงจะได้มาอยู่สวิสค่ะ
โชคดีนะค่ะ คืบหน้าอย่างไงมาอัพเดทให้ฟังด้วยนะค่ะ
จิ๋ว
โทษทีค่ะพิมพ์ผิด จะพิมพ์เป็น เม.ย.55 ค่ะ :D
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ เมย์อยู่ Thurgau ค่ะ เมย์เดินเรื่องตั้งกะต้นปีแล้วล่ะค่ะ
สามเดือนแรกที่ยื่นเรื่องไป ไม่มีการตอบกลับค่ะ เลยโทรไปถาม เค้าบอกว่า เออ ขอโทษทีพอดีว่าเอกสารของคุณอยู่บนโต๊ะ ของพนักงานที่พึ่งจะลาออกไป โอ้ว แม่เจ้า สามเดือนที่ผ่านมา ไม่บอก ไม่กล่าวกันเลย เซ็งอย่างแรงค่ะ แล้วก็ต้องเริ่มต้นใหม่ที่กทม. แต่ก็เสียเวลาอีกหนึ่งเดือน ที่กทม.ค่ะ เพราะจ้างบริษัทเค้าทำให้ ตอนนี้เอกสารก็ส่งมาที่่นี่ได้เดือนกว่าแล้วค่ะ สามีบอกว่า เค้าจะหาหนทางทุกทางเพื่อไม่ให้ชาวต่างชาติอย่างเราเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะว่าไม่งั้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเยอะ อะไรประมาณเนี่ยค่ะ เมย์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เค้าให้ยื่นเอกสารประมาณว่า ทำไมต้องพาเด็กมาที่นี่ ประมาณว่าเราต้องเขียนบอกเค้า เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งค่ะ ก็ลุ้นอยู่ค่ะว่าเค้าคงจะเห็นใจบ้าง แล้วที่สำคัญ ตอนนี้หลักฐานทางการเงินของเมย์ก็แน่น พอแล้วค่ะ พอดีตอนที่ส่งเอกสารไปนั้น มันเป็นเอกสารเก่า หวังว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้นค่ะ อยากกลับบ้านไปหาลูก ไปรับลูกมาอยู่ด้วยเต็มแก่แล้วล่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ ป้าพอล, คุณจิ๋ว,คุณเมย์ และเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคนค่ะ
ปุ้มอยู่คันโทน Bern ค่ะ ซึ่งทีแรกปุ้มกับสามีก็ไปติดต่อที่ เกมายเด่ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้โทรไปที่ ต.ม ที่เบิร์นค่ะ ทางนั้นเลยบอกว่าต้องไปติดต่อเดินเรื่อง
จากที่กรุงเทพก่อน จากนั้นเอกสารทั้งหมดจะถูกส่งมาที่สวิส เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนค่ะ และถ้าโชคดีทุกอย่างเรียบร้อย ทางนี้ก็จะส่งจดหมายมาแจ้งให้ไปรับวีซ่าของลูกค่ะ ..(ถ้าโชคดีนะคะ ::)ทีแรกปุ้มก็เตรียมเอกสารแปลเสร็จเรีบยร้อบแล้วค่ะ ก็นึกว่าจะยื่นเรื่องที่นี่ก่อนได้ แต่กลับได้คำตอบว่าต้องกลับไปทำเรื่องที่
เมืองไทย ก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่อีกรอบค่ะ ก็ต้องรออีกสองเดือนค่ะกว่าจะกลับเมืองไทย ก็ตั้งใจว่าจะพาสามีไปด้วยค่ะเพราะเป็นช่วงฮอลิเดย์พอดีค่ะ แล้วไม่ทราบว่าคุณจิ๋วจะกลับไปรับลูกอีกที ช่วง เม.ษ เลยหรือคะ น้องเพิ่ง 6 ขวบ กำลังน่ารักเลย โอยเราเป็นแม่ ไม่ว่าลูกจะยังเล็กหรือโตแค่ไหน ให้ห่างลูกนานๆ ก็ไม่ไหวจริงๆนะคะ ปุ้มเองก็จะเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ อีกไม่นานค่ะ คุณจิ๋วก็จะสมหวังแล้ว และสำหรับเพื่อนๆคนอื่นๆ ที่ยังไม่สมหวังก็ขอให้สู้ๆนะคะ สู้จนถึงที่สุดเลยค่ะ .. :)
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ปุ้มค่ะ
สวัสดีค่ะป้าพอล คุณเมย์ คุณจิ๋ว คุณปุ้มและทุกๆคนค่ะ
อย่างแรกขอเข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกๆคนได้รับข่าวดีเรื่องวีซ่าของเด็กๆด้วยนะค่ะ :) :)
ตอนที่กิ๊ปยื่นให้ลูกก็ลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะหลังจากยื่นไปประมาณ2-3อาทิตย์ก็ได้รับจดหมายจากตม.ที่เบิร์นค่ะเข้าให้เราตอบคำถามประมาณ3-4ข้อและให้แนบเอกสารเพิ่มเติมก็มีเอกสารการันตรีตัวเด็กและเอกสารเกี่ยวกับที่อยู่สัญญาเช่า/ชื่อบ้าน-อพาร์ทเม้นค่ะและเราก็ส่งไปค่ะก็มีเอกสารตอบจม.+เอกสารการันตรีเด็ก+สำเนาสัญญาชื้ออพาร์ทเม้นค่ะพอส่งไปแล้วก็ลุ้นและกังวลค่ะเรื่องที่กงวลก็คือเรื่องการัตรีเด็กเพราะเขาตั้งไว้ประมาณ30000ฟรั้งของรายจ่ายที่จะมาใช้ชีวิตที่สวิสค่ะและอีกอย่างคือว่าสามีมีลูกติดกับภรรยาเก่าเขา2คนต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูทุกเดือนจนลูกคนโตอายุครบ18ปีถึงจะหยุดจ่ายค่ะและยังต้องผ่อนบ้านอีกและกิ๊ปก็ยังไม่ได้ทำงานด้วยค่ะ....แต่ ณตอนนี้ลูกสาวก็มาอยู่ที่สวิสแล้วค่ะ :)การพิจรณาวีซ่าก็ขึ้นอยู่แต่ละคันโตนด้วยค่ะ ส่วนกิ๊บอยู่คันโตนเบิร์นค่ะ.
ยังก็ขอให้คุณแม่ทุกคนได้อยู่กับลูกๆกันเร็วๆนะค่ะ สู้ๆๆๆๆๆเพื่อลูกค่ะ :) :) :)
สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคนค่ะ
ปุ้มอยากจะขอรบกวนถามในรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเตรียมเอกสารในการยื่นวีซ่าลูกติดตามแม่น่ะค่ะ เพราะยังไม่แน่ใจในตัวเองว่าเข้าใจถูกต้องดีแล้วหรือยังค่ะ ขอถามดังต่อไปนี้นะคะ
1)เอกสารที่เป็นสำเนานั้นต้องนำไปประทับรับรองก่อนที่จะนำไปแปล ถูกต้องหรือเปล่าคะ
2)ในกรณีที่ลูกมีบัตรประชาชน (ของปุ้มลูกอายุ 15ค่ะ)จะต้องใช้สูติบัตรพร้อมกับบัตรประชาชน คู่กันในการยื่น หรือใช้อย่างใดอย่างหนึ่งคะ
3)ในส่วนเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
3.1, แบบฟอร์มการขอวีซ่าD 3 ชุด
3.2, รูปถ่าย ขนาด 3.5x4 cm 3 ใบ
3.3, Passport+ Copy 2 แผ่น
3.4, สูติบัตรตัวจริง + Copy 2 แผ่น (บัตรประชาชนด้วยหรือไม่คะ)
3.5, ทะเบียนบ้านตัวจริง + Copy 2 แผ่น
3.6, เอกสารรับรองบุตร ( ป.ค 14)+ Copy 2 แผ่น (ของปุ้มมีใบนี้ค่ะ)
3.7, เอกสารการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)+ Copy 2 แผ่น
เอกสารตามนี้ใช่หรือไม่คะ ละก็ส่วนที่จะต้องนำไปแปลเป็นภาษาท้องถิ่น (ภาษาเยอรมัน) ก็จะเป็นในส่วนของ ข้อ 3.3-3.7 ถุกต้องหรือไม่คะ
ต้องขอบอกว่ารายละเอียดเรื่องเอกสารนี้ปุ้มได้มาจากท่ีคุณกิ๊ปเขียนโพสต์ไว้ แต่อยากจะทราบว่าที่จะต้องนำไปแปลนั้นมีอะไรบ้างค่ะ
ต้องขอขอบคุณเว็ปป้าพอลอีกครั้ง และขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกคนด้วย ที่ทำให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ดีๆค่ะ :) :) :)
ปุ้มค่ะ
สวัสดีค่ะทุกๆคน :)
@คุณปุ้ม:กิ๊บขอแนะนำว่าให้นำเอกสารที่เป็นภาษาไทยตามข้อ3.4-3.7ไปแปลเป็นภาษาเยอรมันก่อนพอแปลเสร็จแล้วก็นำเอกสารที่แปลและที่เป็นสำเนาไปรับรองที่กรมการกงศุสแจ้งวัฒนะพร้อมกันเลยค่ะจะได้ไมเสียเวลาค่ะและร้านแปลเอกสารก็ต้องเป็นรเานที่สถานทูตสวิสรับรองด้วยค่ะ
นี้เป็นลิ้งร้านแปลที่สถานทูตรับรองค่ะ >>> http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0283.File.tmp/Translation%20offices_en.pdf
****และสูติบัตรกับบัตรประชาชนของบุตรต้องใช้ทั้ง2อย่างค่ะ****
*****และอย่าลืมสำเนาเอกสารของตัวคุณปุ้มและของแฟนคุณปุ้มแนบไปด้วยนะค่ะ******
1.สำเนาหนังสือเดินทาง+3ชุด(ของคุณปุ้ม)
2.สำเนาหนังสือเดินทาง+3ชุด(ของแฟนคุณปุ้ม)
3.สำเนาบัตรประชาชน+3ชุด(ของคุณปุ้ม)
4.สำเนาทะเบียนสมรส+3ชุด(ถ้าจดที่ไทยก็ใบคร.2)ค่ะ
ทั้งหมดก็ตามนี้ค่ะ :) :)
สวัสดีค่ะป้าพอล,คุณกิ๊ป และเพื่อนๆสมาชิกทุกคนค่ะ
ปุ้มต้องขอขอบคุณ คุณกิ๊ปมากๆนะคะ ที่ช่วยให้รายละเอียดแบบครบถ้วนจริงๆค่ะ ช่วงนี้ก็กำลังเตรียมเอกสารว่ายังขาดเหลืออะไรบ้าง
ส่วนอาทิตย์หน้าคิดว่าจะโทรถามที่ร้านแปลถึงรายละเอียดอีกทีค่ะ เพราะปุ้มอาจจะให้น้องที่เมืองไทยเป็นคนถือเอกสารไปให้ที่ร้านแปลและไม่ทราบว่าทางร้านสามารถนำเอกสารที่แปลเสร็จแล้วนำไปประทับรับรองให้ได้เลยหรือไม่คะ (ยังไงเด๊๋ยวปุ้มจะลองถามทางร้านดูอีกทีค่ะ)อยากให้เขาเตรียมไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่ปุ้มจะกลับ และพอปุ้มไปถึงก็จะได้โทรนัดสถานทูติ เพื่อยื่นเอกสารเลยค่ะ ว่าแต่เราจะบอกทางเจ้าหน้าที่ๆรับนัดหมายว่าเราต้องการจะยื่นขอวีซ่า ลูกติดตามแม่ ใช่หรือไม่คะ ก็ตั้งใจกันว่าจะเข้าไปยื่นด้วยกันกับสามีนี่ล่ะค่ะ (ค่อยอุ่นใจหน่อย ;D เจ้าบ้านมาด้วยตัวเอง )ถ้ามีอะไรคืบหน้าหรือถ้าเผื่อตัวเองยังไม่เข้าใจอะไรอีก
ปุ้มจะเข้ามารบกวนถามอีกนะคะ ขอบคุณเว็ปดีๆแบบนี้ ขอบคุณป้าพอล ขอบคุณคุณกิ๊ปและเพื่อนทุกๆคนอีกครั้งค่ะ
อากาศเริ่มเย็นแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ปุ้มค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม
อยากแนะนำให้คุณปุ้มโทรนัดคิวก่อนล่วงหน้าสักประมาณ 1 เดือนค่ะ ให้ญาติที่เมืองไทยโทรนัดให้ก่อนที่คุณปุ้มจะกลับเมืองไทยก็ได้ เพราะบางครั้งคิวอาจจะยาวไม่ว่างเป็นเดือนเลยก็มี จิ๋วมีน้องคนหนึ่งที่รู้จัก เค้าลงไปเมืองไทยเพื่อยื่นวีซ่าให้ลูก ปรากฎว่าโทรนัดแล้วคิวในเดือนนั้นไม่ว่างเลย น้องเค้าก็เลยต้องเอาเอกสารฝากไว้ให้ญาติยื่นแทน เพราะตัวเองต้องกลับมาสวิส
ตอนโทรนัดก็เตรียมแค่ passport ค่ะ เค้าจะถามข้อมูลในนั้น และให้รหัสนัดมาค่ะ
อย่าลืมอัพเดทความคืบหน้าให้ฟังนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ โชคคดีนะคะ
โทรนัดหมายในชื่อของลูก นะคะ ใช้ข้อมูลของลูกค่ะ
สวัสดีค่ะป้าพอล,คุณจิ๋ว,คุณกิ๊บ และเพื่อนๆสมาชิกทุกคนค่ะ
กลับมาทักทายกันนะคะ ต้องขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจิ๋ว จากทีแรกปุ้มก็กังวลเรื่องการเตรียมเอกสาร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี คือไม่เครียด ไม่กังวลแล้วค่ะ
เพราะได้เพื่อนๆช่วยให้ข้อมูล แต่พอมาตอนนี้ สถานการ์ณน้ำท่วมใน กทม กลับจะมาพาให้กังวลอีกครั้ง เพราะเอกสารก็ยังไม่ได้แปล แต่เรื่องนัดวันกับทางสถานทูติ
คงไม่มีปัญหาค่ะเพราะตั้งใจจะโทรนัดล่วงหน้าสัก เดือนครึ่งตอนนี้ปุ้ม ก็ได้แต่ภาวนาให้ กทม อย่าวิกฤต หนักไปกว่านี้ เพราะทีแรกตั้งใจจะให้น้องถือเอกสารเข้ามาแปลทิ้งไว้ให้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถเดินทางเข้า กทม ได้แล้วนี่ล่ะค่ะคือปัญหา เพราะบ้านปุ้มอยู่ที่โคราชค่ะ ตอนนี้ก็ต้องวางแผนสำรองสุดท้ายกันล่ะค่ะว่าจะทำยังไง
คือปุ้มจะมีเวลาแค่หนึ่งห้าวันเท่านั้นเมื่อเดินทางถึงเมืองไทยและต้องนำเอกสารทั้งหมดไปแปลและประทับตรารับรอง เพราะนัดยื่นวีซ่าในวันจันทร์ถัดไปค่ะ
ก็ต้องมาลุ้นกันต่อล่ะค่ะว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว กทม ของไทยเราจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่า ทางบ้านของคุณจิ๋วและเพื่อนๆเป็นยังไงกันบ้างคะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะขอให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ ส่วนเรื่องจะคืบหน้าไปแค่ไหนอย่างไรแล้วปุ้มจะกลับมาเล่าให้ป้าพอลและเพื่อนๆฟังอีกครั้งค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ปุ้มค่ะ :)
สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม
จิ๋วขอแชร์เพิ่มเติมสำหรับประสบการณ์ในการเตรียมเอกสารนะค่ะ เอกสารที่จิ๋วใช้ไปยื่นที่กรุงเทพฯ จิ๋วแปลและรับรองที่สถานกงสุลไทยที่บาเซิลค่ะ ก็จะมี 1.สูติบัตรลูก 2.ปค.14 3.ทะเบียนบ้านลูก 4.ใบเปลี่ยนชื่อของตัวเอง จิ๋วแปลแค่ 4 รายการนี้ค่ะ ค่าแปลเอกสารฉบับละ 85 ฟรังค์ ส่งไปแปลทางไปรษณีย์ค่ะ เราไม่ต้องไปเอง
คุณปุ้มลองดูแล้วกันค่ะ ว่าจะสะดวกแปลที่นี่ หรือไปแปลที่กรุงเทพฯค่ะ
@ พูดถึงเรื่องน้ำท่วมแล้วก็น่าเห็นใจคนที่เดือนร้อนนะค่ะ บ้านจิ๋วอยู่ขอนแก่นค่ะ แถวบ้านจิ๋วไม่ท่วมแต่จะท่วมบ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
สวัสดดีอีกครั้งค่ะป้าพอล,คุณจิ๋วและเพื่อนๆทุกคน
คุณจิ๋วสามารถใช้เอกสารที่แปลจากที่นี่ไปยื่นที่เมืองไทยได้ด้วยหรือคะ ถ้าได้คือของปุ้มก็มีแปลไว้แล้ว ปุ้มแปลและประทับตรารับรองจากทางสถานทูตไทยในเบิร์น
แปลเตรียมไว้เพราะทีแรกคิดว่าจะสามารถยื่นเรื่องที่สวิสได้เลยไงคะ แต่ก็ต้องกลับไปยื่นที่เมืองไทย แต่ก็เห็นมีบางเสียงว่าเอกสารที่แปลที่นี่ใช้ได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
อันนี้ก็ สับสน นิดหน่อยแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าใช้ไปยื่นที่ไทยได้จริงๆปุ้มก็จะหมดกังวลไปได้เดี๋ยวนี้เลยล่ะค่ะ :D :D แต่คุณจิ๋วไปยื่นมาเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยคะ และก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ยคะ ... ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่ช่วยแชร์ประสบการ์ณดีๆให้กันและกัน
ปุ้มค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม
ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะจิ๋วก็ยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้วค่ะ จิ๋วส่งเอกสารไปให้ป้าที่เมืองไทยยื่นให้ค่ะ จัดเป็นชุดให้เค้าเรียบร้อยเลย จิ๋วจัดเอกสารแบบคำร้องที่กรอกแล้ว 3 ชุด แนบด้วยเอกสารต่างๆ ที่เป็นสำเนา (เอกสารที่เราแปลและประทับตราจากกงสุลที่นี่ก็ให้แนบทั้งภาษาไทยและภาษาเยอรมัน) ส่วนเอกสารต้นฉบับทั้งหมดก็ใส่ซองไว้ต่างหาก เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดูค่ะ
รอบแรกที่จิ๋วยื่นไม่ได้แปลทะเบียนบ้านลูก (เนื่องจากตอนยื่นเรื่องที่สวิสเกมายเด่ะ ไม่เอาเอกสารนี่) ทางกรุงเทพฯก็เลยไม่รับเอกสาร ป้าจิ๋วมาจากต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยสะดวกวิ่งเรื่องแปลเอกสารและไปรับรองที่กงสุลในกรุงเทพฯ จิ๋วก็เลยต้องแปลทะเบียนบ้านลูกที่สวิส แล้วส่งไปให้ป้า แล้วก็ไปยื่นเรื่องอีกครั้งค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
** เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ จิ๋วแนบเอกสารใบพำนัก B ของจิ๋วไปด้วยค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ทราบว่าเรามาอยู่ที่สวิสแล้ว อีกอย่างเค้าจะได้เข้าใจว่าทำไมเราถึงแปลเอกสารที่สวิสค่ะ **
สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนที่น่ารักทุกๆคนนะคะ
กลับมาทักทายกันอีกครั้งหลังจากที่หายเงียบไปนาน ;D เพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้างคะสบายดีกันทุกคนหรือป่าวต้องเจอกับสภาพอากาศที่ติดลบอย่างที่ไม่เคยเป้นมานานมาก ยังไงแล้วก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ส่วนตัวปุ้มเองตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการรอคอยผลวีซ่าของลูกอยู่ค่ะ ตอนนี้ตัวเองก้ยังอยู่ที่เมืองไทย
หลังจากปุ้มได้ทำการยื่นเอกสารขอวีซ่าให้ลูกไปตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค 2011 จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็บอกให้รอประมาณ 2 เดือนค่ะ แต่หลังจากยื่นเอกสารไปได้ประมาณ 3 วีค ก็มีจดหมายจากทางคันโทน(คงจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะคะ)ส่งไปที่บ้าน ขอเอกสารเพิ่มเติม พร้อมทั้งคำถาม 4-5 ข้อ ให้เขียนตอบกลับไป แบบเดียวกับที่คุณกิ๊ปเคยให้ข้อมูลไว้เลยค่ะ (คันโทนเดียวกัน)เพียงแต่ลูกชายอายุ 15 ปี รายละเอียดในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ค่อนข้างเครียดเหมือนกันค่ะ พอส่งเอกสารทุกอย่างกลับไปในช่วงวีคที่ 5 จากนั้นประมาณ 3 วัน ทางคันโทนก็โทรมาขอเอกสารเพิ่มอีกหนึ่งใบค่ะ ทางแฟนก็ก็จัดการไปเรียบร้อย ตอนนี้ก็ได้แต่รอ รอ รอ แล้วก็รอค่ะ ไม่ทราบว่าเราจะทราบผลได้โดยทางเจ้าหน้าที่จะโทรแจ้งหรือจะส่งเป็นจดหมายมาหาเราคะ นี่ก็ตั้งใจว่าจะให้แฟนโทรไปถามวันศุกร์ที่ 17 ก.พ นี้ค่ะ เพราะจะครบกำหนดในการรอพอดี แล้วไม่ทราบว่าถ้าผลออกมาว่าวีซ่าผ่าน เราจะต้องนำพาสลูกไปรับวีซ่าที่สถานทูตใช้เวลาอีกกี่วันคะ และต้องนำตั๋วเครื่องบิน(เที่ยวเดียว)พร้อมประกันเดินทางซึ่งเราจะทำจากที่เมืองไทยไปก่อนแล้วค่อยไปทำใหม่ที่สวิสจะได้หรือป่าวคะ (หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย อยากพาลูกไปด้วยแล้วค่ะ) ยังไงต้องขอรบกวนเพื่อนๆที่มีประสบการ์ณช่วยให้ข้อมูลปุ้มด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ อากาศที่โคราช ร้อนนนนนมากกกกก บวกกับใจร้อนด้วยเลยจะอยู่ไม่ไหวแล้วค่ะเพื่อนๆ ... จะรอการอัฟเดทจากเพื่อนๆนะคะ
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน
ปุ้ม..
สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนๆสมาชิกทุกคน
ทราบผลวีซ่าแล้วนะคะ วีซ่าของลูก ไม่ผ่านค่ะ เขาให้เหตุผลตามกฏหมายของสวิตฯเลยว่า ถ้าเด็กอายุเกิน 12 ปีต้องทำเรื่องภายใน 1 ปี หลังจากที่จดทะเบียน เหตุผลของเราที่พร้อมหรือไม่พร้อมในก่อนหน้านั้นเขาไม่สนใจ กฏหมายคือกฏหมาย .. ตอนนี้เสียใจมากค่ะเครียดมาก ยัง งง กับตัวเองอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไปดี ส่วนทางแฟนได้ติดต่อนัดหมายทนายเพื่อจะหาหนทางว่าจะทำอะไรทางไหนได้อีกบ้าง คงจะทราบความคืบหน้าวันพุธที่จะถึงนี้ค่ะ .. ไม่ทราบว่าเราสามารถยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวต่อได้เลยหรือไม่คะ ถ้าหลังจากที่วีซ่าติดตามที่ขอนั้นไม่ผ่าน หรือต้องใช้เวลาในการรอเพื่อยื่นใหม่นานเท่าไหร่คะ ปุ้มอยากขอรบกวนเพื่อนๆคนไหนที่มีประสบการ์ณคล้ายในกรณีเดียวกับปุ้ม ช่วยบอกปุ้มด้วยเถอะนะคะ ขอบคุณมากๆค่ :'( :'( :'(
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ... ปุ้ม
สวัสดีค่ะ คุณปุ้ม
เสียใจด้วยนะค่ะ และเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะว่าเป็นอย่างไร แต่ก็อย่าเพิ่งท้อนะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ คิดว่าถ้าลองให้ทนายเดินเรื่องให้ก็อาจจะได้นะค่ะ เอาใจช่วยนะค่ะ ปัญหาทุกอย่างต้องมีทางออกเสมอค่ะ
ส่วนวีซ่าของลูกชายจิ๋วผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ เดือนหน้าก็ลงไปรับลูกค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันนะค่ะ