Pall's Webboard

General Category => ความรู้ต่างๆและการใช้ชีวิตในสวิตฯ => Topic started by: pall on April 26, 2007, 07:07:23 AM

Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:07:23 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/107426-000723-Zwischenablage08.jpg)

**23.เมษายน.07**
 เชื่อแน่ว่าใครก็ตามที่เห็นข้อความนี้จะรีบเข้ามาอ่านด้วยความสนใจ
 และร้องถามว่า..เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า...
 จะได้หาสะกิกเกอร์มาติดตอนเข้าป่าหาเห็ด....เดินเล่น..วิ่งขยับแข้งขยับขาในป่า..ฯลฯ
 .......จริงจ้า.......ไม่ได้โม้........ได้สะติกเกอร์มาจริงๆไม่ได้อิงนิยาย.....
 ถ้าอยากได้จริงๆจะบอกให้....ใครอยากได้สะติกเกอร์แบบนี้
 แค่ไปหาหมอประจำตัวยื่นแขนให้เขาปักเข็มฉีดวัคซีนตรงต้นแขน
 เขาก็จะจดบันทึกวันเดือนปีที่ฉีดวัคซีนให้เราลงบนบัตรImpfausweis
 (บัตรประจำตัวสำหรับการฉัดวัคซีนต่างๆ)
 บัตรสมัยก่อนจะเป็นบัตรสีน้ำตาลแก่ปัจจุบันจะเป็นน้ำเงิน
 หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะติดสะติกเกอร์ลงบนบัตรของเรา
 เห็นไหมง่ายมาก..ได้สะติกเกอร์มานอนกอดแล้ว
 ***แต่บอกก่อนนะว่าเราต้องไปเอาฉีดวัคซีนจำนวน3ครั้ง***
 และติดสะติกเกอร์3อันจึงจะได้ผลป้องกันเห็บได้อย่างแน่นอน
 
 พูดถึงเห็บ..เชื่อว่าทุกคนต้องร้องยี้ด้วยความเกลียดกลัวขยะแขยง
 และไม่อยากให้ตัวเห็บมาแอบฝากรักปักหลักในร่างกายของเรา
 เห็บตัวเล็กแบบเล็กพริกขี้หนู..หรือเล็กซ่าร์....
 ตัวเล็กก็จริงแต่มีพิษสงร้ายกาจน่าดูใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่
 คนที่โดนเห็บกัดจะรู้ดี..ถ้าบางคนแพ้เห็บ.ถึงขนาดล้มหมอนนอนเตียง
 และถ้าโดนเห็บมีพิษจะยิ่งแย่ใหญ่..เรียกว่าดวงดีสุดขีด
 เห็บจะออกมายืดแข้งยืดขาช่วงย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ
 และจะชอบหลบมุมตามใบไม้..
 เห็บมีขนาดเล็กมากจนเรามองไม่เห็น
 ถึงแม้ว่าเราจะกลัวและเกลียดขยะแขยงเห็บขนาดไหนก็ตาม
 แต่เมื่ออากาศดีเมื่อไร  แทบทุกคนจะออกไปเดินเล่นในป่า
 เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ ดูความงามของใบไม้ที่ผลิใบสีเขียวอ่อนสวย
 ดูดอกไม้ที่เริ่มผลิออกมา และถ้าช่วงที่เห็ดออกดอกก็เข้าป่าล่าเห็ดกัน
 และมีบางคนก็เกิดอาการกลัวมากๆถึงขนาดไม่ยอมเดินเล่นในป่า
 เดินเล่นนอกป่า..ก็ยังโดนเห็บกัด..แบบอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน
 ดังนั้นไม่ว่าเราจะเดินในป่า...นอกป่า..หรือเดินแถวไหนที่มีต้นไม้ใบหญ้า..ฯลฯ
 ปัญหาที่แทบทุกคนจะได้รับตามมาคือการโดนเห็บกัด
 บางคนอาจจะรู้ตัวไว  บางคนหลายวันต่อมาจึงจะรู้สึก
 
 **พันธ์Zecken...เห็บ..**
 เห็บทั่วโลกมีมากมายมากกว่า800พันธ์ขึ้นไป
 บางคนที่เกลียดและกลัวเห็บ..อ่านมาถึงตอนนี้จะร้องว่าแค่พันธ์เดียวก็แย่แล้ว
 นี่ตั้ง800กว่าพันธ์.....ตายแน่ๆโดยเฉพาะคนที่แพ้เห็บกัดจนต้องจับไข้(ไม้โทนะอ่านดีๆ)
 จะร้องว่าฮ่วยแบบนี้ตรูตายแน่ๆ......
 เห็บเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในตระ*ลแมงมุมและแยกออกเป็น2แบบคือSchild และ Lederzecken
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0133 ห้อง stories_life (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:09:14 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/107426-000914-Zwischenablage09.jpg)

1.**Schildzecken
 มีถิ่นกำเนิดทั่วโลกและมีรูปร่างที่สังเกตได้ง่ายจะมีเครื่องหมายลวดลายสีสันบนหลังแข็ง
 ในประเทศสวิตฯจะมีเห็บหลายชนิดนี้ที่เราไม่ค่อยรู้จักชื่อกันเท่าไรนัก
 และยังมีเห็บบางชนิดที่อยู่ในกลุ่มนี้ที่เราควรระมัดระวังไม่ให้โดนกัด
 คือเห็บGemeine Holzbock(Ixodes ricinus).
 เพราะเป็นเห็บที่มีพิษร้ายนำเชื้อไวรัสFSME
 ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือที่เราเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
 Frühsommer-Meningoenzephalitis (FSME)
 ภาษาอังกฤษเรียกว่า tick-borne encephalitis(TBE)
 
 **ถิ่นอาศัยของเห็บ Schildzecken**
 จะอยู่ตามสถานที่ต่างๆที่มีแสงสว่างไม่ว่าจะเป็นป่า ตามกิ่งไม้ พุ่มไม้
 ต้นหญ้า และพื้นดินที่ชื้น
 ฤดูหนาวจะหลบตัวซ่อนอยู่ในพื้นดินใต้หิมะ
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:10:11 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/107426-001011-Zwischenablage012.jpg)

2.**Lederzecken
 มีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างจากเห็บ Schildzeckenที่สังเกตได้อย่างชัดเจน
 คือจะมีผิวอ่อนนุ่มเหมือนหนังสัตว์
 จะอาศัยอยู่ในรัง....ในสัตว์เลี้ยง และบางครั้งเจอในตัวคน
 ในประเทศสวิตฯจะเจอเห็บชนิดนี้ในนกพิราบและตัวเม่น
 และสัตว์ที่เลี้ยงไว้
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:10:54 AM
ประเทศสวิตฯมีภูมิประเทศและอากาศที่เหมาะสำหรับเห็บมาก
 และคนสวิสชอบการวิ่งออกกำลังกายในป่า ขี่จักรยาน และโดยเฉพาะการเข้าป่าหาเห็ด
 ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ชื่นชอบกันอย่างที่สุดเพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว
 ยังได้เก็บเห็ดฟรีอีกด้วยแต่ก็ต้องทำตามกฎระเบียบกฎห้ามหลายอย่างจากรัฐที่ตนเองพำนักอยู่
 ซึ่งห้ามเก็บเห็ด7วันต้นเดือนคือตั้งแต่วันที่1ถึงวันที่7  
 และเก็บเห็ดได้คนละ2กก.เท่านั้นถ้าเกินจะโดนปรับ
 แต่ว่าไปก็ยังมีคนชอบเฉไฉ..เก็บเกินซะส่วนมาก
 
 **อันตรายจากเห็บในประเทศสวิตฯ**
 กรมสาธารณะสุขของBernได้รายงานชี้แจงเมื่อวันที่15.01.2007ว่า
 เมื่อปี05และปี06ได้มีผู้ป่วยโรคสมองอักเสบ
 Zeckenenzephalitis (Frühsommer-Meningoenzephalitis, FSME)
 จากการโดนเห็บกัดมีจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
 เมื่อปี2006..มีจำนวนจากยอดที่แจ้งมาประมาณ259คน
 ซึ่งเป็นจำนวนประมาณ2,6เพิ่มขึ้นมากจากอัตราถัวเฉลี่ยจากปี1999-2004
 ปี2005มีจำนวนผู้ป่วย204คน
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:12:00 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/107426-001200-Zwischenablage013.jpg)

**ทำไมเห็บกัดจึงเป็นอันตราย**
 ส่วนหัวตรงเขี้ยวของเห็บจะเป็นส่วนที่มีอันตรายที่สุด
 ช่วงที่เห็บกัดฝังเขี้ยวตรงผิวหนังเรามันจะปล่อยน้ำลายออกมา
 และในน้ำลายนั้นจะมีสารบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายยาชา
 ทำให้ช่วงที่เห็บกัดฝังเขี้ยวลงบนผิวหนังเราทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย
 ถ้าเป็นเห็บที่ไม่มีอันตรายก็ไม่ว่ากันหรอก....ดึงออกมาด้วยแหนบก็จบกันไป
 แต่ดวงไม่ดีถ้าไปเจอเห็บที่มีพิษร้ายเรียกว่า
 ซึ่งเป็นเห็บประเภทเGemeine Holzbock(Ixodes ricinus).
 เพราะในน้ำลายที่ปล่อยออกมาจากเขี้ยวจะมีเชื้อแบคทีเรีย  Borreliose-Bakterium
 ที่เรียกกันว่า Borrelia burgdorferi ทำให้เกิดความเจ็บป่วย
 ซึ่งคนสวิสเจ็บป่วยจากโดนเห็บกัดนี้ประมาณ3000ถึง5000คนต่อปี
 ความเจ็บป่วยจากโรคBorrelia burgdorferiรู้จักกันมาเมื่อประมาณ100กว่าปีทีผ่านมา
 จากการค้นพบของWilly Burgdorferและได้บันทึกเมื่อปี1982
 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าLyme-Borreliose
 Lymeเป็นสถานที่เล็กๆในอเมริกาอยู่ที่Connecticut (USA)
 นอกจากนี้ในน้ำลายยังมีเชื้อไวรัส FSME
 ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือที่เราเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
 Frühsommer-Meningoenzephalitis (FSME)
 
 **สรุปโรคที่เกิดจากเห็บกัด**
 
 1.โรคLyme-Borreliose
 เกิดจากแบคทีเรียจากน้ำลายเห็บ
 **อาการ**
 ผิวจะบวมแดง  ปวดศรีษะ  อาการปวดตามข้อกระดูก
 ทำลายระบบประสาท หัวใจ
 **การรักษา**
 ไม่สามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้นอกจากรักษาโดยใช้ยาปฎิชีวนะ
 
 2.โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือที่เราเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
 Frühsommer-Meningoenzephalitis (FSME)
 เป็นการตั้งสมญานามการเริมต้นของโรคเจ็บป่วยของโรคนี้
 ซึ่งเกิดขึ้นช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อนและโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
 คำนี้เป็นศัพท์โดยเฉพาะโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสจากน้ำลายเห็บ
 **อาการ**
 เยื่อหุ้มสมองอักเสบ  มีไข้สูง  ปวดศรีษะ     ทำลายระบบประสาท
 **การป้องกัน**
 โดยการฉีดวัคซีน
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:12:34 AM
**การแต่งกายเพื่อป้องกันเห็บ**
 การป้องกันถึงแม้จะทำไม่ได้มากแต่ที่ทำได้คือการแต่งกาย
 ควรแต่งกายให้มิดชิดเสื้อแขนยาวรัดแขนหรือกางเกงขายาว
 ใส่ถุงเท้ารัดปลายขากางเกงและเสื้อผ้าที่สรวมใส่ควรเป็นสีสว่างอย่าใช้สีมืดทึบ
 เพราะจะได้เห็นได้ง่ายเมื่อตัวเห็บเกาะ
 หลังจากกลับมาถึงบ้านควรตรวจดูเห็บ
 
 **ทำอย่างไรเมื่อเห็บกัด**
 ใช้แหนบเล็กๆ
 พยายามระมัดระวังช่วงที่ใช้แหนบพยายามกดให้แน่นดึงและหมุนจนหัวเห็บหลุด
 ถ้าเขี้ยวเห็บยังฝังแน่นอยู่ควรดึงออกมาให้หมด
 ถ้าไม่แน่ใจควรไปหาหมอให้ช่วยดึงหัวและเขี้ยวเห็บออกมาให้หมด
 
 **ลิงก์เขตที่แสดงให้เห็นถึงจุดอันตรายที่เห็บมีพิษร้ายอยู่ควรระมัดระวัง**
 http://www.zecken.ch/Karten/karten.html
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:12:55 AM
**ประกันเจ็บป่วยกับการฉีดวัคซีน**
 ประกันเจ็บป่วยจ่ายการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (FSME)
 
 *จำนวนและอายุของการฉีดวัคซีนป้องกันป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (FSME)**
 
 การฉีดวัคซีนต้องฉีดให้ครบ3ครั้ง
 การฉีดวัคซีนแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลา*งกันประมาณ2อาทิตย์
 หลังการฉีดแต่ละครั้งจะติดสะติกเกอร์เครื่องหมาย FSME
 อย่างภาพข้างบนสุดสีเขียว
 **อายุของการฉีดวัคซีน**
 มีอายุประมาณ10ปี
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on April 26, 2007, 07:32:58 AM
ใครที่ชอบเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือเดินทางไกล ในป่า
 ควรไปหาหมอเพื่อฉีดวันซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (FSME)  
 เพื่อความปลอดภัยจากโรคร้ายนี้ควรไปหาหมอฉีดวัคซีน  
 และควรรีบไปใช้สิทธิเพราะประกันจะจ่ายการฉีดวัคซีนนี้ให้เราทั้งหมด  
 และอย่างที่บอกมาคือเราได้สะติกเกอร์เครื่องหมาย FSME  
 ป้องกันเห็บได้ถึง3อัน  
 
 ใครที่สนใจเรื่องของเห็บสามารถเข้าไปอ่านได้จากที่นี่  
 http://www.zecke.ch/fsme/fsme_p010.asp?nav=10  
 
 
 และจากข้อมูลของคุณส้มตำที่ได้เขียนไว้นานแล้ว  
 เป็นวิทยาทานมีประโยชน์อย่างมาก  
 http://www.pallswiss.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=0651&board=pallswiss
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 01, 2007, 09:09:00 PM
สวัสดีครับ
 ผมเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์มากๆ เลยขอเข้ามาร่วมเสนอความคิดเห็นกับป้า Pallด้วยคนนะครับ
 
 ตามที่ผมได้ศึกษามาจากมหาลัยนะครับ เมื่อคุณถูกเห็บกัด และถ้ารู้สึกว่ามันกัดไปลึกแล้ว คุณไม่ควรดึงมันออกนะครับ ส่วนหัวที่เล็กมากของมันยังคงจะติดอยู่ในผิวของเรา เชื้อแบคทีเรียที่ติดมากับตัวเห็บยังคงเข้าสู่ร่างกายได้ทุกโอกาส วิธีเอาเห็บออกที่ง่ายที่สุดคือ ให้คุณใช้น้ำมัน(น้ำมันพืช, ยาหม่อง หรือ วาสลีน) ทาบริเวณโดนกัด เสร็จแล้วนิ้วขยี้(หรือถู)ตัวเห็บเบาๆ แบบว่าเมื่อเห็บเลิกกัดผิวหนังแล้ว เห็บหลุดออกมาได้ ... น้ำมันที่คุณทาจะไปกั้นไม่ให้เห็บได้รับอากาศหายใจหรือออกซิเจน เห็บก็จะคายหรือเลิกกัด
 
 เห็บในป่าไม่เป็นอันตรายทุกตัวครับ เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่มีแบคทีเรียโบเรเลีย วิธีสังเกตุถ้าคุณติดเชื้อแบคทีเรียนี้คือ ....อาการแรกๆเลย คือ ปวดหัว เหนื่อยเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและข้อ ผื่นแดงหรือที่เรียกว่า Erythema Migrans(อาจคันหรือแสบร้อนที่บริเวณผื่น) แนะนำว่าถ้าคุณพบอาการดังกล่าว คุณควรพบแพทย์โดยด่วนก่อนที่อาการจะเลวไปกว่านี้และการรักษาโรคจะยากไปกว่าเดิม
 
 รักษาตัวกันนะครับ ต้องขอบคุณป้าpallที่ให้ความรู้แก่พวกเรา เดี๋ยวผมคงต้องแอบไปฉีดวัคซีนก่อนละครับ  
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 01, 2007, 09:13:50 PM
ลืม... เมื่อคุณทาน้ำมันที่บริเวณโดนกัดและเห็บได้ซักครู่แล้ว นอกจากนวดถูมันแล้ว คุณอาจลองใช้แหนบดึงมันเบาๆดูว่าเห็บเลิกกัดหรือยัง ถ้าเลิก เห็บก็จะติดแหนบออกมา
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 02, 2007, 06:37:37 AM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/10751-233737-Zwischenablage04.jpg)

**1.พค.07**
 วันนี้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่2
 และได้สอบถามได้ข้อมูลมาเห็นว่ามีประโยชน์จึงขอนำความรู้มาเพิ่มเติม
 
 **ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (FSME)**
 การฉีดวัคซีนจะแบ่งออกเป็น2แบบ
 1.แบบฉีดวัคซีนธรรมดา(Nomales Impfschema)
 2.แบบฉีดเร่ง(ไว)(Schnell Impfschema)
 ...................................................................................................................
 
 ...1. .แบบฉีดวัคซีนธรรมดา(Nomales Impfschema)
 Winterzeit  Dez/Jan/Feb....ช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคม/มกราคม/กุมภาพันธ์
 
 A.........ฉีดครั้งแรก..(.1.Impf)
 B...... 4 สัปดาห์........ฉีดครั้งทีสอง.....(2.Impf  4  Wochen)
 C..... 12 เดือนฉีดครั้งที่สาม(3.Impf  12  Monat)
 
 .........2.แบบฉีดเร่ง(ไว)(Schnell Impfschema)
 Ab  April/Mai.....เริ่มฉีดเดือนเมษายน/พฤษภาคม
 
 A.........ฉีดครั้งแรก..(.1.Impf)
 B...... 14วัน........ฉีดครั้งทีสอง.....(2.Impf 14 Tage)
 C.....6  เดือนฉีดครั้งที่สาม(3.Impf 6 Monat)
 
 
 ****การฉีดวัคซีนป้องกันป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (FSME)
 ของที่ป้าฉีดครั้งนี้เป็นแบบที่สองคือแบบฉีดเร่ง(ไว)(Schnell Impfschema)
 และต้องรอการฉีดวัคซีนครั้งที่สามสิ้นเดือนตุลาคม
 วัคซีนที่ฉีดครบ3ครั้งนี้มีอายุ 10 ปี....
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 02, 2007, 06:42:13 AM
สวัสดีค่ะคุณหนุ่ม
 ขอบคุณค่ะที่นำข้อมูความรู้มาแบ่งปันเพิ่มเติมเป็นวิทยาทานกัน
 เห็นด้วยค่ะควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้ดีกว่า
 ป้าดีใจที่ไปฉีดวัคซีนมาสบายใจหน่อยเพราะ
 เดินในป่าบ่อยขอบคุณอีกครั้งค่ะ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: miko on May 02, 2007, 10:09:22 AM
ขอบคุณ ป้า กับคุณหนุ่ม มากนะคะ ได้ความรู้มากๆเลย
 เพราะดูข่าวในทีวีคนที่เยอรมัน โดนเห็บกัดถึงกับพิการ
 น่ากลัวมากๆ ...ต้องระวังตัว
 ยิ่งพักนี้ไปเดินเขาทุกอาทิตย์ อยู่ด้วย....
 
   
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 11, 2007, 10:00:43 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/107511-150043-AN1444.GIF)

ข่าวสาร ข้อมูล  ทันสมัยค่ะ  คุณ พอล คุณหนุ่ม
 
 
 ตอนนี้เริ่มจะร้อน ปีนี้ เขตุยุโีป เยอรมนีเขาคาดว่าจะเป็นปีที่แมลง และเห็บพวกนี้จะระบาดมาก
 ตามมาอ่านค่ะ เพราะเคยหาข้อมูล เตือนคนมานานแล้ว
 ช่วงนี้จะอัพเดทหาข้อมูลเพิ่ม แต่ยังหาเวลาไม่ได้เลย
 ่ตอนนี้ก็ได้มีการศึกษาวิจัยเด้านนี้พิ่มขึ้นมากมาย
 
 
 
 โดยส่วนตัวเคยเจอเคสนี้ค่ะโดนกัดและรับเชื้อ BORREILOSE ร้ายแรงมากขนดที่ว่า พิษของท๊อกซิน และยาปฎิชีวนะ ที่ทานมาห้าวัน ทำให้คนไข้เสียชีวิต หลังจากรับใหม่ ดูอาการในห้องไอซียู ได้ไม่กี่ชั่วโมง
 เลยอยากบอกให้หลายคนระวังๆไว้
 บางคนคิดว่าเป็นเหมือนเห็บธรรมดาบ้านเรา เจอก็แกะทิ้งเลย
 
 
 ตามที่คุณหนุ่มบอก
 
 
 วิธีเอาเห็บออกที่ง่ายที่สุดคือ ให้คุณใช้น้ำมัน(น้ำมันพืช, ยาหม่อง หรือ วาสลีน) ทาบริเวณโดนกัด เสร็จแล้วนิ้วขยี้(หรือถู)ตัวเห็บเบาๆ แบบว่าเมื่อเห็บเลิกกัดผิวหนังแล้ว เห็บหลุดออกมาได้ ... น้ำมันที่คุณทาจะไปกั้นไม่ให้เห็บได้รับอากาศหายใจหรือออกซิเจน เห็บก็จะคายหรือเลิกกัด
 
 
 นั้นอย่าทำเลยค่ะ
 ไม่ควรหยดนำมันลงที่ตัวเห็บ เพื่อให้เห็บหายใจไม่ออกและตาย เพราะเห็บอาจจะทุรนทุรายและคายพิษออกมาสู่ร่างกายผู้ถูกกัด
 ลองไปอ่านข้อมูลตรงนี้นะคะ
 
 http://www.zecken.de/index.php?id=511
 
 เสียดายที่วัคซีนนี้กันได้แค่ FSME  ยังไม่มีการคิดค้นวัคซีนกันBORREILOSE
 ต้องระวังไว้มากๆค่ะ
 
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 11, 2007, 10:04:41 PM
ขำหัวข้อคุณพอล อิๆ
 ตอนแรกจะมาดูเพราะอยากได้สติ๊กเก้อร์ไปแปะตัวลูกๆที่บ้านไล่เห็บ ทีเดียว
 อ่นไปอ่านมา แปะสมุด และต้องฉีดอีกด้วย เหอๆ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 14, 2007, 01:31:31 AM
สวัสดีครับ
 แบคทีเรียชนิดที่เราพูดถึงนี้ไม่มีการผลิตสารพิษออกมานะครับ แบคทีเรียนี้อาศัยอยู่ในตัว(หรือเลือด)เห็บ เมื่อเห็บกัด แบคทีเรียจะซอกซอนผ่านแผลเล็กๆเหล่านี้เข้าไปในร่างกายของเรา หรือเข้าไปอยู่ในส่วนต่างๆ เช่น ระบบประสาท(ทำให้เกิดปัญหาเช่น Meningoencephaliitis, Paralysis, ฯลฯ) ระบบไหลเวียนโลหิต(ทำให้เกิด เช่น  Myocarditis) ปัญหาพวกนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะร่างกายเราสร้าง Antibody ต่อต้าน Antigen ของแบคทีเรีย...  
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 14, 2007, 01:37:46 AM
ฉะนั้น การทรมานเห็บโดยใช้น้ำมันจะไม่ทำให้คุณได้รับพิษเห็บมากขึ้น เพราะเห็บไม่มีพิษให้หลั่ง
 
 วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ เอาเห็บออกจากผิวหนังให้เร็วที่สุดเมื่อพบเห็น ยิ่งเห็บกัดลึกเท่าไหร่ แบคทีเรียยิ่งมีโอกาสเข้าถึงระบบไหลเวียนโลหิตได้ง่ายขึ้น
 
 รักษาตัวกันด้วยนะครับ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 14, 2007, 11:15:42 AM
เพิ่งเจอข้อโต้แย้งมาครับ บางคนให้ใช้น้ำมัน บางคนก็ไม่... เมื่อตะกี้แอบไปศึกษาเพิ่ม เค้าบอกเห็บจะอาเจียนถ้าใช้น้ำมันทา แต่ก็ไม่มีการหลั่งสารพิษ อย่างที่ป้า Pallได้กล่าวไว้ว่า น้ำลายเห็บเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเห็บอาเจียนเราก็มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้นโดยเฉพาะถ้าเห็บกัดไปลึกๆแล้ว  
 
 เออ ปัญหาโลกแตก... 555  
 ยังไงก็อย่าให้ได้เห็บติดตัวมานะครับ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 15, 2007, 12:36:39 PM
สวัสดีค่ะคุณมพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี    
 ยอมรับว่าทั้งเกลียดและกลัวเห็บมากที่สุด
 โดนเห็บกัดจะป่วยทุกครั้ง...
 ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้และประสบการณ์
 ที่เข้ามาบอกเพิ่มเติมค่ะ
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 15, 2007, 12:41:20 PM
สวัสดีจ๊ะมิโกะ
 ป้าก็เคยดูเกี่ยวกับเห็บอย่างที่มิโกะดูมายอมรับว่าเกลียด
 และกลัวเห็บมาก และชอบเข้าป่าเก็บเห็บด้วย
 ช่วงหลังๆไม่ค่อยเข้าป่าเพราะกลัวเห็บมาก
 วันหลังจะไปเดินเขาแถวบ้านมิโกะบ้างดีกว่า
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 15, 2007, 12:46:40 PM
สวัสดีค่ะคุณหนุ่ม
 ขอบคุณมากค่ะได้ข้อมูลอะไรก็เข้ามาช่วยเขียนบอกเพิ่มเติมนะคะ
 เขียนเกี่ยวกับเห็บมากๆเริ่มคันแล้ว..
 ปีที่แล้วป้าโดนเห็บกัดอีก..ทุกวันยังคันรอยที่เห็บกัดอยู่เลย..
 วัคซีนเข็มที่ฉีดครั้งที่2...ไม่รู้ว่าทำไมถึงแพ้กว่าเข็มแรก
 ถึงกับล้มหมอนนอนเตียงเลย
 ไม่รู้ว่าเข็มที่3จะเป็นอย่างไรบ้าง
 เห็นด้วยค่ะว่าอย่าให้เห็บติดตัว..
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 16, 2007, 11:46:08 AM
ขอโทษนะคะ คุณหนุ่ม ไม่ได้ตั้งใจมาคัดค้าน หรือโต้แย้ง เพราะคิดว่า ช่วงที่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลอาจจะมีอะไรใหม่ๆในด้านการวิจัยเรื่องนี่เพิ่มขึ้น
 
 เท่าที่พบดูเรื่องการกำจัดเห็บโดยใช้น้ำมันทา นั้นควรหลีกเลี่ยงจริงๆค่ะ ไม่เชื่อลองไปอ่านดูที่นี่นะคะ กี่ที่ๆเขาบอกเหมือนกันหมด
 
 
 
 http://www.apotheker.or.at/internet/OEAK/NewsPresse_1_0_0a.nsf/agentEmergency!OpenAgent&p=1264B08E06D6ED03C1256F2C005EDDC3&fsn=fsStartHomeFachinfo&iif=0
 
 http://www.medizinfo.de/waldundwiese/zecken/zentfernen.htm#wie
 
 http://www.zecken.at/Zecken.aspx_param_target_is_49658.v.aspx
 
 http://de.wikipedia.org/wiki/Zeckenstich#Entfernung
 
 ไม่ได้ตั้งใจมาโต้แย้ง
 แต่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ประเภทที่ว่า ไม่ควรมองข้ามเพราะ ผลพิษจากโรคนี้  ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เพื่อนๆที่เป็นทรมาณมากค่ะ
 ถึงได้อยากบอกไว้
 
 โดยเฉพาะในเขตุที่เป็นพื้นที่สีแดง หรือมีการระบาดของโรคเหล่านี้อยู่ค่ะ
 FSME
 
 เมื่อถูกเห็บกัดเกาะ เชื้อไวรัส ซึ่งอยู่ในต่อมนำลายในส่วนหัวของตัวเห็บ จะเข้าสู่ร่างกายทันที ระยะพักเชื้อจะกินเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้น
 
 จะมีอาการขั้นแรกคล้ายอาการไข้หวัด Sommergrippe และหลังจากนั้นจะมีอาการคืบหน้าดังนี้ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ 50 %, เยื้อหุ้มสมองและสมองอักเสบ 40% และ
 
 กล้ามเนื้ออักเสบ 10% โรคนี้ยังไม่มีการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเนื่องจากเป็นเชื้อไวรัส  แต่มีการรับวัคซีนป้องกัน
 
 BORREILOSE
 
 เชื้อแบคทีเรีย Borrelia burgdorferi ในลำไส้ส่วนกลางของเห็บจะปล่อยเชื้อเข้าสู่ร่างกายของผู้ถูกกัด และจะเริ่มมีอาการประมาณ 12-24 ชั่วโมง หรือ 3 อาทิตย์  เมื่อพบอาการจะมีการใช้ยาปฎิชีวนะเข้ารักษาทันทีค่ะ
 
 คุณหนุ่มช่วยบอกชื่อเว็บไซท์ที่บอกว่าใช้น้ำมันทาเพื่อกำจัดเห็บ ให้ด้วยนะคะ จะได้ไปลองอ่านดู  เพราะจะได้ทราบอะไรใหม่ๆโดยมีข้ออ้างอิงค่ะ
 
 
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 16, 2007, 11:57:17 AM
คุณพอล เมื่อวานดึงออกให้พ่อบ้าน หนึ่งตัว ขนาดเขาเข้าเซาน่า แบบ 105 องศาเซลเวียสกับเห็บ บังเอิญเห็นตอนเข้าเซาน่า  ไปแล้วสิบนาที  แต่เราดึงออกมาเป็นแบบสำเร็จรูป อิๆ หัวหูอยู่ครบ วันนี้แจ้นไปหาหมอเลย ต้องห่อไปให้หมอดูด้วยนะ  พอแกะออกให้หมอดู มันเผ่นเลย หมอต้องงมหา เพราะกลัวมันจะไปกัดเกาะคนในคลีนิค
 
 คุณมิโกะคะ ถึงอยากให้บอกกล่าวกันไปเรื่อยๆ  หน้าร้อนที่แล้ว มีเด็กตายเพราะเชื้อแรก ไข้สูงจัดมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบส่ง รพ.ศูนย์ได้ไม่นานก็เสียชีวิต หมอสันนิษฐานว่าจาก FSME  เพราะเด็กโนกัด ขณะไปเที่ยวเขตุบาวาเรีย
  เลยคิดอยากจะเตือนเพื่อนๆ ผู้อ่านไว้ ค่ะ อิๆ
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 16, 2007, 09:01:13 PM
พรุ่งนี้วันหยุดของเยอรมัน
 สุขสันต์วันหยุดค่ะ คุณหนุ่ม คุณพอล คุณมิโกะ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: หนุ่ม on May 17, 2007, 01:15:53 AM
สวัสดีครับ คุณ มพถ
 ผมไม่ได้ตั้งใจจะคัดค้านนะครับ เรื่องใช้น้ำมันนี้ผมศึกษามาจากมหาวิทยาลัยครับ คณะแพทยศาสตร์ จากภาควิชา Microbiology จึงไม่สามารถจะให้คุณเข้าไปพิสูจน์ได้ในอินเตอร์เนต นี่ก็เลยมาแล้วหลายปี ไม่แน่ข้อมูลของผมอาจจะเก่าแก่ ผมได้ศึกษาเพิ่มเติมเหมือนกันหลายวันที่ผ่านมา อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าหลายๆสื่อไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันแล้ว ก็คงต้องเชื่อสื่อ ผมไม่ได้คิดว่าผมถูกเสมอ การแพทย์สมัยนี้พัฒนาไปรวดร็วมาก บางทีจนตามไม่ทัน  
 
 คุณ มพถ อย่าโกรธผมนะครับ ผมถือว่าคนเรามีผิดมีถูก --- ขอความกรุณาแยกเชื้อแบคทีเรียออกจากเชื้อไวรัสด้วยนะครับ เพราะมันเป็นคนละประเด็นเลย  
 
 ด้วยความนับถือ
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 17, 2007, 11:42:59 AM
แยกค่ะคุณหนุ่ม อิๆ เพราะแยกเชื้อ ไวรัส ออกจากเชื้อ แบค  ถึงยกมาให้อ่านใน คห. 21 ค่ะ
 
 ที่ยก BORREILOSE  ซึ่งเป็นแบคทีเรียมาคุยในกระทู้นี้ก็เป็นเพราะคิดว่ามันเป็นภัยมืดที่ป้องกันไม่ค่อยจะได้
 เพราะไม่มีวัคซีนป้องกัน ไม่แน่ อีกหลายสิบปีข้างหน้าอาจจะมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคนี้ขึ้นก็ได้ละมัง
 สนใจเรื่องนี้มานาน เลยดีใจที่มีคนเอาเรื่องนี้มาคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ
 เพราะมันเริ่มระบาดมากขึ้นทุกที  
 ตอนเรามานี่ใหม่ๆเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ก็อ่านพบว่าเขาห้ามเอาน้ำมันทาไล่เห็บ พอดี เพื่อนที่เขตุเท็กซัสหรือเวอร์จิเนียเคยแนะนำเว็บไซท์ให้อ่านนานมากแล้ว เขาก็บอกเหมือนๆกันว่าห้ามทา เลย งงกับข้อความที่คุณยกมาค่ะ
 แต่เน้นเรื่องนี้ เพราะข้อมูลด้านนี้สำคัญค่ะ ปฏิบัติอะไรผิดไป อาจจะต้องทรมานทั้งชีวิตก็ได้
 
 เพราะเห็นข้อความที่คุณเขียนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เเลยทราบตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ว่าคุณจะต้องเป็นแพทย์ เพราะศัพท์แสงที่ยกมานั้นบ่งบอก เลยขอข้อมูลให้กระจ่าง ในเรื่องที่สงสัย
 
 ไม่ได้โกรธเลยค่ะ อิๆ  เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ การที่เราคุยกันนี้ เป็นการถกตรงประเด็น ไม่ได้เป็นการงัดกันค่ะ
 อะไรที่เราไม่ทราบก็ถามคุณหนุ่ม มา อย่างที่ถามมาข้างบนค่ะ
 ไม่ได้โมโห เลยนะคะ อย่าเข้าใจผิด  และคิดว่าอาจจะมีการค้นพบอะไรใหม่ๆเลยถามเรื่องเว็บไซท์อ้างอิง จะได้ไปอ่านบ้าง เพราะมีการค้น วิจัยเจออะไรใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ
 
 ด้วยความนับถือเช่นกันค่ะ  
 
 
 
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 17, 2007, 11:51:38 AM
อีกประการ เรื่องการพยาบาลหลายอย่างก็เหมือนกัน ที่เยอรมันมีการวิจัยค้นพบอะไรใหม่ๆมาก บางอย่างทำกันเป็นปีๆ มาพบว่าผิดพลาด มีอะไรใหม่ๆเพิ่ม จนทำให้เราต้องอ่านมากไปในตัว และถามเก่ง โดยปริยาย เป็นนิสัยไปเลย
 อย่าเครียดเพราะเรานะคะ เราเองก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรถูกไปหมด หรือคิดอะไรถูกไปหมด เช่นเดียวกับคุณหนุ่มค่ะ
 
 สุขสันต์วันหยุดนะคะ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: มพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี on May 17, 2007, 11:58:18 AM
คุณพอลคะ ให้เรียกพี่พอล ได้ไหม คะ เพราะคิดว่า คุณคงรุ่นพี่เรามากเลย
 มีเรื่องอยากปรึกษานิดหน่อยค่ะ ต้องการหาข้อมูลบางอย่าง  
 จะโทรหาได้ไหมคะ
 
 หากได้ กรุณาส่งเบอรโทร์ไปทางอีเมล payabanpladthin@yahoo.de  ด้วยได้ไหมคะ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: pall on May 17, 2007, 02:14:37 PM
สวัสดีค่ะคุณหนุ่ม
 สวัสดีค่ะคุณมพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี    
 ขอให้สุขสันต์ในวันหยุดเช่นกันนะคะ
 อากาศเปลี่ยนแปลงช่วงนี้..
 เมื่อคืนอากาศหนาวมากต้องหิ้วดอกไม้ที่เพาะไว้ข้างนอก
 และต้นไม้ที่ปลูกประดับเอามาเก็บในบ้านกลัวต้นไม้จะตาย
 ร่างกายเริ่มปรับตัวไม่ทัน..ยิ่งจ๊าบน้อยแย่หน่อย
 
 ต้องขอขอบคุณทั้งคุณหนุ่มและคุณมพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี    
 ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดและให้ความรู้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ
 ดีใจและขอขอบคุณมากจริงๆค่ะ
 
 
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: miko on May 19, 2007, 08:51:20 AM
หวัดดีคะ ป้า คุณ หนุ่ม คุณ คุณมพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี  
 ขอบคุณมากๆนะคะ สําหรับข้อมูล เป็นประโยชน์มากเลยคะ  
 ชอบอ่านข้อมูลแบบนี้มาก จะได้ดูแลและป้องกันตัวเองถูก
 ....ป้าจ๋า  มาเดินเขาแถวนี้ ดีนะคะ เขาไม่สูงมาก เดินได้เรื่อยๆ
 แต่ 3 อาทิตย์มานี่ ต้องหยุดเดินเขาแล้วคะ เพราะว่าฝนตก
 และก่อนฝนจะตก มิโกะ เป็นภูมิแพ้อย่างแรงคะ จามไม่หยุดจนมดลูกจะหลุด
 เลยล่ะคะ พอจามเสร็จก็คันตาคันยุบยิบน่ารําคาญมากคะ
 ถ้าได้เกาหยุดไม่ลง ตาทั้งบวมทั้งแดง  แฟนเลยโทรนัดหมอ
 พอไปให้หมอตรวจหมอบอกว่า เป็นภูมิแพ้อย่างแรง ห้ามไปเดินเขา  
 ห้ามตากเสื้อผ้าไว้นอกบ้าน เวลานอนห้ามเปิดหน้าต่าง  
 ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะคะ แต่ไม่รู้จะไปเดินเขาเมื่อไหร่ได้อีก  
 นี่แฟน มิโกะ ก็บ่นๆ อยู่ว่าอยากจะไปเดินขึ้นเขา ริกิ อยากให้ มิโกะหายดีเร็วๆ สุขสันต์วันหยุดด้วยนะคะ คุณ คุณมพถ-พยาบาลพลัดถิ่น-เยอรมนี มีความสุขมากๆนะคะ
Title: <<<สะติกเกอร์...กันเห็บ....>>>
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on June 04, 2007, 03:53:25 AM
สวัสดีคุณป้า Pall และทุกคนค่ะ  แม่จิ๋วจิ้วฯเคยโดนเห็บกัดที่เมืองไทยเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว  เห็บหมาที่บ้านธรรมดาๆนี่แหละค่ะ  โดนกัดตรงใกล้หัวเข่า  ตอนแรกๆก็คัน ยิ่งเกายิ่งมัน  ผิวจะลอกเป็นวงๆชั้นๆ นานวันเข้าเริ่มบวม แต่ไม่เจ็บ กดดูจะนุ่มๆ ไปหามา 2 หมอ ก็ให้แต่ยาปฏิชีวนะมากิน จนหมอที่ 3 สั่งให้ไปผ่าหนองออกที่โรงพยาบาล  ผ่าแล้วต้องไปล้างแผลทุก 3 วัน นานเกือบ 2 เดือนจึงหาย  เหลือรอยแผลเป็นน่าเกลียดไว้ให้ดูต่างหน้า  เห็บไทยก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะคะ