คือเราและญาติอยากรู้ เลยฝากมาโพสที่นี่ว่า...
ราคาของกินที่นี่...ตามรายการล่างเราบอกเป็นราคาของไทยมา อยากทราบราคาที่สวิส
เขตที่ท่านอยู่ตอนนี้ นะค่ะ บอกเป็นสวิสฟรังกืเลยนะคะ
1.ไข่ไก่ 1ฟอง เมืองไทย 4- -5.50 บาท ที่นี่......?
2. ทูน่าสเต้กในนำแร่ กระป๋อง 32-35 บาท...ที่นี่......?
3. เนื้อหมูบด แพค 35-40 บาท......./
เนื้อหมูชิ้นแพค....50-60บาท...../
เนื้อไก่แพค...25-40 บาท
4. แอปเปิ้ล 1 ผล ราคา 13-25 บาท
5. สัปปะรด ญ .1ลูก 40-60 บาท
6. ผัดสดแพค อยู่ที่ 15-29 บาท
7. มันฝรั่ง 30บ/แพค
8. มะเขือเทศ 15-20 บาท/แพค
9. มะนาว 5 บาท/ลูก
** พชผักสวนครัว พริก ที่นี่ปลุกขึ้น หากินง่าย หรือเปล่าคะ
นิยมกินผัก---ผลไม้อะไรกันค้า ที่สวิสนี่---ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ
ไข่ไก่แพงจังค่ะ สมัยเจ็ดปีที่แล้ว เมื่อเราอยู่เมืองไทย ไข่ไก่ ฟองละสองบาท มะนาวลูกละ บาทสองบาท ทองบาทละห้าพันบาท ของขี้นราคาจัง
โอ้....แอบงง มายบุดดา เมืองไทยแพงขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ เศรษฐกิจยำแย่ ราคาของวิ่งขึ้น ประเทศไหนๆ ก้อเจอๆ กัน แต่ฐานเงินเดือนเท่าเดิม หรือ ตกงานไปเลย
หมายเหตุ...ค่าเงิน 1 สวิสฟรังค์ เท่ากัน 28.95
1.ไข่ไก่ 1ฟอง เมืองไทย 4- -5.50 บาท ที่สวิส ราคาจะเริ่มต้นที่ 3.90สวิสฟรังค์ ได้ 6 ฟอง เบอร์ไข่ก้อเท่าๆ กับเกรด A ของไข่เมืองไทย แต่แล้วแต่ห้าง หรือร้านค้าเหมือนกัน จะถูกจะแพง ราคาแข่งกันเหมือนโลตัส กับ คาร์ฟลู บ้านเรา
2. ทูน่าสเต้กในนำแร่ กระป๋อง 32-35 บาท...ที่สวิส1.50-1.80 สวิสฟรังค์(แบบกระป่องนะ เพราะไม่รู้เคยกินทูน่าสเต็ก อิอิอิ)ถ้าเป็นตัวเขาขายเป็นกิโล
3. เนื้อหมูบด แพค 35-40 บาท ที่สวิส เนื้อหมูบด ยอมรับว่าไม่ทราบ แต่ที่บ้านมีเก็บไว้ทุกวัน (แม่สามีซื้อ)เพราะเขาชอบกินพาสต้า ตัวเองเลยไม่สนใจ เพราะไม่ชอบกิน ฮ่าๆๆๆ
เนื้อหมูชิ้นแพค....50-60บาท ที่สวิส แพ็คหล่ะ 1/2กิโลกรัม ประมาณ 15-20 สวิสฟรังค์ หรือแพ็คเล็กกว่านันก้อราวๆ 8-10 ฟรังค์
เนื้อไก่แพค...25-40 บาท ที่สวิส ถ้าหั่นแล้ว 1กิโล 13-15สวิสฟรังค์ ถ้าเป็นแพ็ค 7-15สวิสฟรังค์ แล้วแต่น้ำหนัก ถ้าเป้นตัว 11-20สวิสฟรังค์ ตัวใหญ่เล็ก
4. แอปเปิ้ล 1 ผล ราคา 13-25 บาท ที่สวิส กิโลหล่ะ 2 สวิสฟรังค์ เขาชั่งเป็นกิโลขาย
5. สัปปะรด ญ .1ลูก 40-60 บาท ที่สวิสก้อชั่งเป็นกิโลขาย บางห้างจะติดเป้นลูกประมาณลุกหล่ะ 4-6 สวิสฟรังค์
6. ผัดสดแพค อยู่ที่ 15-29 บาท ที่สวิส จะเป็นแพ็ค 5-8 สวิสฟรังค์ (ล้างแล้ว) แต่ผักไทยที่นำเข้าตามร้านไทย จะประมาณราคาที่ 1.80-5 สวิสฟรังค์ แล้วแต่ว่าเป็นผักอะไรต้นทุนอยู่ที่เท่าไร มะละกอ กิโลหล่ะ 10-13 สวิสฟรังค์ ขึ้น ผลไม้ไทยกิโลหล่ะ 15 สวิสฟรังค์ ขึ้น ทุเรียนกิโลหล่ะ 30-32 สวิสฟรังค์ ขึ้น
7. มันฝรั่ง 30บ/แพค ที่สวิสประมาณ 5-6 สวิสฟรังค์ต่อถุง หล่ะ 1-2กิโล
8. มะเขือเทศ 15-20 บาท/แพค ถ้าเป็นมะเขื่อเทศเล็กๆ หวานๆ เขาเรียกว่าไรไม่รู้จำขื่อไม่ได้ อันนั้นแพ็คราวๆ 4-6 ฟรังค์ แต่ลุกใหญ่มะเขือเทศสีดา ขายเป็นโล 2-3 สวิสฟรังค์ ต่อกิโล
9. มะนาว 5 บาท/ลูก ที่สวิส .60-.80ราฟเพิ้ลสวิส (สลึงบ้านเรา)ต่อลูกราคานี้ แต่ร้านที่เราทำงานอยู่แค่ .60 ราฟเพิ้ลต่อลูก
** พชผักสวนครัว พริก ที่นี่ปลุกขึ้น หากินง่าย หรือเปล่าคะ พืชผักสวนครัวปลูกเองได้ แต่จะขึ้นไหม ฮ่าๆๆๆ แล้วแต่คนดู แต่จะให้สวยเหมือนผักมาจากไทย ไม่หรอกจ้ะ ไม่งั้นเขาไม่นำเข้ามาขายหรอก อิอิอิ ผักสวนครัว ตามร้านไทย หรือร้านเอเชีย มีขาย ราคา ก้อพอสมเหตุสมผลอยู่ พอกินได้ ไม่แพงเกิน ไม่ถูกเกิน แบบว่าซื้อมาไว้กินคนเดียวก้อเน่า กินไม่ทัน ก้อมีจ้ะ แต่จะทำพวกร้านอาหาร ประกอบธุระกิจก้อสั่งตรงจากเอเย่นต์ อีกทีเขาก้อจะมีส่วนลดให้ ตามความเหมาะสม
นิยมกินผัก---ผลไม้อะไรกันค้า ที่สวิสนี่---ที่นี่เหรอ อ่าๆๆ มาถามคนไทยกันเอง เราก้อคงจะตอบว่า เราชอบกินผักไทย ทุกอย่างแหล่ะ แต่ไปถามฝรั่งเขาก้อคงจะตอบว่า เขานิยมผักที่ทำสลัดได้ ส่วนผลไม้ เขาก้อจะพวกแอีบเปิ้ล สาลี่ สว๊าชเกอร์ หรือผลไม้ตามฤดูกาลที่นี่แหล่ะ รวมไปถึงองุ่น แตงโมมีขายเฉพาะซัมเมอร์ ผลไม้อื่นๆ อีกเยอะแยะ พูดชื่อไม่หมด จำชื่อเขาเรียกแบบฝรั่งๆ ไม่ได้ อิอิอิ
ถ้าตอบไม่หมด ไม่โดนจริงๆ ต้องขอโทษไว้ด้วยนะค่ะ รอให้ท่านอื่นๆ เข้ามาตอบกระทู้อีกที่ เพราะราคาของสินค้าที่สวิสพวกของอยู่ของกิน มันขึ้นกับพื้นที่ๆ คุณอยู่ว่าอยู่ที่จังหวัดไหน แม้แต่ราคาค่าขวดน้ำดื่ม ราคาที่เราตอบให้นี้ เป็นราคา เริ่มต้น ถึงแบบพูดเผื่อไว้ให้แล้ว ที่ซูริค นะคะ เพราะเราอยู่ซูริค ตามเท่าที่รู้ ในร้านค้าที่ตัวเองทำงานอยู่ นอกนั้นไม่รู้อะไรเย้ยยยยย
ขอบคุณๆ the sunมากเลยค้า ได้รายละเอียดดีมาก
เดี๋ยวนี้อะไรก็แพงนะคะเมืองไทย เขาบอกอากาศร้อนไก่ไม่มีอารมณ์ ไข่ ผักก็แพงเพราะฝนแล้งด้วย นำมันดีเซลก็เกือบ30 บาทแล้วจ้า ส่วนเงินบาทก็แข็งๆ ชอบกลแลกเงินได้น้อยลงอีก ค่ายาแพงมาก ยิ่งเห็นเป็นฝรั่ง ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับหลอด เลือด หัวใจ หรือระบบประสาท เรีกว่าค่ายาแพง หมดตัวกันเลยละค่ะ และยาที่ได้ก็ไม่ได้ดีและเชี่ยวชาญเหมือนทางนี้ อันนี้แฟนบอก
ดูๆไปแพงพอๆเมืองนอกเลยนะคะ
ใช่ค่ะคุณ Buakao เดี๋ยวนี้ทองสลึงนึง เกือบ5พันบาทแล้วจ้า
ยินดีค่ะ แล้วแฟนคุณลักกี้พักอาศัยอยู่ไทยด้วยกันเหรอค่ะ หรือว่าแค่ไปเยี่ยม แน่นอนเลยใช่ไหมค่ะ ที่มาสอบถามราคาของเมืองสวิสแบบนี้คงจะมีแฟนหนุ่มชาวสวิสแน่ๆ แผลนจะมาอยู่สวิสปีไหนค่ะ หรือว่ามาอยู่แล้ว ไปๆ มาๆ เอ่ย
ของอยู่ของกินที่สวิสแพงค่ะ รวมไปถึงค่าพักห้องพัก ยิ่งอยู่จ.ซูริคแล้วหล่ะก้อ ไม่ตอ้งพูดถึงเรื่องของแพง ที่สุดแพงในสวิสเลย ถ้าสมมุติอย่างเงินเดือนหนุ่มๆ สาวๆ 4-6 พันฟรังค์ สามีทำงานฝ่ายเดียวนี้ต้องได้กระเบียดกระสนทีเดียว ถ้าภรรยาทำงานร่วมช่วยหน่อย จะพออยู่พอกินมีเก็บบ้าง(เก็บไว้จ่ายภาษีสิ้นปี ฮ่าๆๆ)
Hallo Khun The Sun
อยู่เมืองไทยค่ะแต่งงานกันแล้ว จดทบ. ที่ไทยจ๊ะ
อยู่ในวัยแย้มฝา...โล-ง แล้วค้าอิอิ
ผมหงอกเต็มหัวเลยพี่น่ะ ส่วนคุณลุงสุขภาพไม่ค่อยลักกี้เท่าไร ติดอากาศแบบหิมะ อยู่ไทยจ่ายค่าแอร์ไม่ไหวอิอิ
อยู่เมืองไทยอยู่ตัวแล้วค่ะ ลูกเต้าทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายไปหากิน
คือพี่ก็เพียงสงสัยชีวิตความเป็นอยู่อย่างละเอียด ตามประสาคนจิตว่างครั้นจะถามจุกจิกกับญาติๆแฟน มันก็เกินไปเกรงใจเขา เลยมาอาศัยน้องๆนี่แหละจ้า ยังไม่ไปเที่ยวยึกยักอยู่เสียดายเงินแสน มีแต่ลูกเขามาเยี่ยม
เป็นไงจ๊ะอยู่ที่นี่นานแล้วยัง มีน้องกี่คนค้า
โอ้โห รายได้ 3-4 พันฟรังส์เนี่ย พี่ว่าระดับชนชั้นสูงไทยเลยนะค้า
หมอ วิศวะ เมืองไทยก็แค่ 1-2พันฟรังก์เองค้า
พี่ก็ยังไม่รีบร้อนจะมานี่หรอก อยู่เมืองไทยก็พอเก็บได้อยู่
แต่เฮียแกไม่ค่อยแฮปปี้กับพอลิติคที่บ้านเราน่ะ-ส่วนพี่ยังไงก็ได้ผ่านชีวิตมาเยอะมันอยู่ตัวแล้ว ขอแค่คอมฯ+หนังสือกองโตๆ มีเพลงฟังก็อยู่ได้ทั้งวัน วัยนี้กินอะไรก็อ้วนง่าย ไม่ค่อยอยากกินอะไรนักแล้วจ๊ะ
ขอบใจที่มาคุยด้วยนะ
สวัสดีทุกๆคนค่ะ
คุณ lucky-1 คะ เราคงจะวัยแย้มฝาเหมือนกัน ส่วนคุณตาข้างๆนี่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพเกื่ยวกับหัวใจและกระดูกสันหลัง เรา 2 คนตายายจะย้ายไปอยู่เมืองไทยต้นปีหน้าหลังจากอยู่ที่นี่มาเกือบ 30 ปีแล้ว คุณตาไม่กล้าจะย้ายไปอยู่เมืองไทยถาวรเพราะกลัวความร้อนและเรื่องประกันสุขภาพเนื่องจากประกันสุขภาพที่สวิสฯไม่ครอบคลุมถ้าอยู่นอกประเทศนานแบบถาวร แต่ในปีแรกขอทำเรื่องได้ครอบคลุมได้ ปีต่อๆก็ได้แค่เหมือนกับเราไปท่องเที่ยวไปๆมาๆชั่วคราวเท่านั้น ทำให้เราตายายมีปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการที่จะต้องมีที่อยู่อาศัยอยู่ในทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งสังขารในอนาคตก็คงจะไม่อำนวยกับการที่จะไปๆมาๆได้ ประกันสุขภาพในเมืองไทยก็ไม่รับคนที่อายุเกิน 55 มีบางบริษัทรับประกันแต่ไม่จ่ายถ้าเกี่ยวกับโรคประจำตัวที่มีมาก่อนเริ่มทำประกัน ทำให้เราสองคนตายายเริ่มลังเลและกังวลว่าจะทำอย่างไรดี อยากจะขอคำแนะนำจากคุณ lucky-1 หรือเพื่อนๆที่อยู่เมืองไทยให้ช่วยกรุณาชี้ช่องทางว่าจะทำไงดีกับการประกันสุขภาพของคุณตาที่เมืองไทย ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Guten Tag
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ตอบช้าเพิ่งแวะมาเว้บป้าวันนี้ค่ะ
ตามความคิดลัคนะคะ
ลองมาอยู่เมืองไทยดูนะคะ อาจจะได้ประสบการณ์ต่างไปอีกแบบ
แต่ลัคคิดว่าทำประกันที่ไทยไม่คุ้มที่จะcoverค่ายาค่ารักษาคะ คือค่าเบี้ยประกันจะแพงกว่า ผลประโยชน์ที่เราได้น่ะค่ะ
และยาบางอย่างที่ไทยจะไม่มี คือเขาก็รักษาตามยาที่มี ยกตัวอย่างยาที่สวิสมิลลิกรัมมากกว่า ยาสวิสมีแบบ การออกฤทธิ์จะค่อยๆออกและเป็นเวลานาน สมู้ท แต่เมืองไทยไม่มีค่ะ และฤทธิ์ยาจะแรงแบบกระชาก ไม่งั้นก็อ่อนไปเลยค่ะ อันนี้แฟนบอก
ลัคคิดว่าให้ถ้าไปอยู่เมืองไทยเก็บเป็นเงินสด ไว้จ่ายค่ายาคลีนิคพิเศษเองเลยดีกว่า เพราะเขาจะดูแลดี ไม่ต้องรอคิวมาก
แล้วลองจดคำนวณดูว่าคุ้มมั้ย คิดว่าอาจพอๆกับทำประกันที่สวิสเลยนะคะ
แต่ที่สวิสนะคะ แฟนบอกยาที่ได้ประกันครอบคลุมหมด ตัวยาดีกว่า เขาคงชอบอากาศเย็นด้วยค่ะ
สวัสดีคุณลัคและเพื่อนๆทุกๆคนค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ที่เราตายายต้องหาบริษัทประกันใหม่ในประเทศไทย เพราะบริษัทในสวิสฯจะไม่รับประกันเรา ถ้าเราไม่ได้พำนักอยู่ในสวิสฯค่ะ ในระยะปีสองปีแรกที่เราจะลองไปอยู่เมืองไทย เราก็ยังคงจะต้องเก็บเอาบริษัทของสวิสไว้ก่อนเพราะระยะนั้นเราจะไปๆมาๆ และยังมีที่อยู่ในสวิสฯอยู่ แต่หลังจากสองปีเราคงต้องย้ายถาวรแล้วเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่มีบ้านสองประเทศนั้นสูงรวมทั้งค่าเดินทางและสังขารของตนเองดัวย
เราเคยคิดที่จะทำแบบที่คุณลัคแนะนำมาเหมือนกันค่ะ แต่เกรงว่าระหว่างปีแรกที่ทำก็เกิดมีความจำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาลเราคงมีปัญหาใหญ่แน่ๆ เพราะแต่ละครั้งที่คุณตาแกเข้าโรงพยาบาลเห็นบิลทั้งหมดแล้วใจแป๊วทุกที แต่เวลานี้เราแค่ออกเองเพียง 300 ฟรังค์แรกต่อปีและหลังจากนั้นก็เพียง 10% ค่าประกันที่นี่สูงก็จริงแต่ครอบคลุมไปหมดทุกอย่าง เราเสียไปปีละประมาณ 8000 ฟรังค์ต่อคนก็พอคุ้มค่ะ
คุณลัคอยู่ในกรุงเทพฯหรือเปล่าคะ สองเราตายายไปเมืองไทยปีละครั้งสองครั้ง ถ้าไม่รังเกียจอยากจะให้คุณตาคุยกับสามีคุณลัคเวลาเราไปเมืองไทย ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับคำแนะนำและมิตรภาพ
หวัดดีค่ะ ป้าตุ้ม
และเพื่อนๆสมาชิก หนุชื่อปิ๋วค่ะป้าจะกลับไทยแล้วเหรอค่ะที่ไทยป้าอยู่แถวไหนค่ะ ป้าตุ้มค่ะหนูมีอะไรหลายๆเรื่องค่ะที่สงสัย
หนูขออนุญาติถามป้าได้มั้ยค่ะ :Dหนูยังไม่ถามตอนนี้รอป้าอนุญาติก่อน ;D
ขอบคุณป้าตุ้มล่วงหน้าค่ะ
หนูปิ๋ว
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ
หนูปิ๋วคะ เชิญถามป้าได้ทุกเรื่องแต่ไม่กล้ารับรองว่าจะตอบได้ทุกคำถามค่ะ ยังไงๆพวกเพื่อนๆในบ้านนี้ก็คงจะเข้ามาช่วยกันตอบเพราะทุกๆคนมีน้ำใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณ Pall เจ้าบ้านที่น่ารักและมีน้ำใจงาม
ป้าเป็นคนกรุงเทพฯค่ะ แต่คิดว่าเมื่อกลับไปอยู่เมืองไทยคงจะอยู่ในกรุงเทพฯบ้าง ไปเป็นแจ๋วทำสวนที่ต่างจังหวัดบ้างตามแต่อารมณ์และสังขาล หนูปิ๋วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ ถ้าไม่สดวกคุยก็คุยหลังจอได้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม ป้าพอลและทุกๆคน
ขอบคุณในมิตรภาพจากคุณตุ้มนะคะ เราพำนักอยู่ต่างจังหวัดค่ะ บางครั้งก็ไปทำธุระ กทม. บ้าง ถ้ามีโอกาสอาจได้พบคุณตุ้มและลุงบ้าง
แต่ว่าลุงของลัคแกขี้อายนะคะ และชอบแต่ห้องแอร์/แอบนินทา
เรื่องประกันสุขภาพ ก็ทำตามคุณตุ้มแนะนำมาก็ดีนะคะ ที่ลุงจ่ายค่ายาและหมอที่ไทยเนี่ย ก็พอๆๆ กับค่าจ่ายประกันที่สวิสนิดหน่อย อาจจะเกินประกันบ้าง แต่ผ่านมาไม่เคยนอนหนักในโรงพยาบาลค่ะ
แค่ค่ายา และเช็คสุขภาพเท่านั้น แต่ที่เมืองไทยเราก็สามารถเซฟ ตรงอื่นได้เช่นค่ากินอยู่ ลองดูแบบประกัน หรือแบบจ่ายสด ถ้ายังไง ก็มาแชร์กันให้ทราบด้วยนะคะ แต่ละเคสคงแตกต่างกัน คิดว่าฝ่ายเราภรรยาน่าจะแข็งแรงกว่าสามีเพราะประเทศเรา อาหาร อากาศ แบบบ้านเราอยู่แล้วใช่มั้ยคะ เซฟไปได้เยอะ
ว่าแต่คุณตุ้มอยู่สวิส เบื่อแล้วหรือคะ ลัคแอบมาอ่านหาความรู้จากเวบป้าพอลมานาน ไม่เคยเห็นรูปป้าพอลเลย เห็นแต่ดอกไม้ คุณตุ้มอยู่ทางนั้นเคยเจอป้าพอลตัวเป็นๆ หรือเปล่าคะ ลัค ปลื้มป้าพอลค่ะ มีเวบที่ดีให้ความรู้ เป็นกุศลอย่างยิ่ง ขอบคุณป้าพอล ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ
ถ้าคุณตุ้มจะส่งข้อความส่วนตัวหลังไมค์ ลัคก็ยินดีนะคะ พักนี้เหนื่อยกับสุขภาพ เลยไม่ค่อยได้เข้าเวบ และตอบช้า ขออภัยนะคะ
สวัสดีทุกๆคนค่ะ
คุณลัคคะ ไม่ใช่เบื่อสวิสฯหรอกค่ะ ซ้ำยังคิดถีงภูเขาความสงบความเป็นระเบียบและมีหลักการต่างๆของที่นี่มากๆ แต่หลังจากที่หยุดทำงานแล้ว เงินเดือนก็ไม่มีรายรับก็น้อยลงไปมาก รายจ่ายคงเดิมและคงจะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆเพราะค่าครองชีพจะสูงขึ้นทุกๆปี เราก็เลยหาหนทางที่ทำให้งบของเราลงตัว ที่จริงคุณตาไม่อยากไปอยู่เมืองไทยอย่างถาวรสักเท่าใดนัก ชอบแค่ไปเที่ยวเท่านั้น แต่ขัดว่าตัวเราติดกันเป็นแฝดจะไปไหนก็ต้องไปดัวยกันค่ะ เรื่องความร้อนไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ คุณตาหลบอยู่แต่ในห้องแอร์กับมุดลงสระน้ำอย่างน้อยๆวันละรอบทุกวัน ทั้งๆที่ที่บ้านลมตึงๆทั้งวัน
คุณ Pall สวยและน้ำใจงามยื่งกว่าดอกไม้ที่เห็นในรูปอีกค่ะ ขอให้คุณลัคมีสุขภาพดีและพักเหนื่อยให้พอเพียงนะคะ เรื่องตอบช้าก็คงเหมือนกันค่ะ เพราะเวลาอากาศดีโดยเฉพาะหน้าร้อน เราสองคนตายายชีพจรมักจะลงเท้าค่ะ
สวัสดีค่ะป้า พอลสวัสดีค่ะป้าตุ้มและเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน
ป้าตุ้มสบายดีมั้ยค่ะ ป้าตุ้มค่ะหนูปิ๋วหลังไมล์หาป้า ไม่ทราบป้าได้รับหรือเปล่าค้า :D
หนูปิ๋วค้า
สวัสดีทุกๆคนค่ะ
หนูปิ๋วคะ ป้าตอบกลับไปแล้วนะ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาใหม่ได้ค่ะ
สวัสดีค่ะป้าพอล สวัสดีค่ะป้าตุ้มและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน
วันนี้ฝนตกอากาศเย็นดีนะค่ะ ป้าตุ้มค่ะหนุส่งเมลให้ป้าแล้วค่ะ ขอบคุณป้ามากนะค่ะ
รักษาสุขภาพทุกๆคนด้วยนะค่ะ
ปิ๋วค้า