สวัดีค่ะป้าพอล ต้องขอโทษอย่างแรงที่ทำไห้ งง...ไช่แล้วค่ะสาแต่งงานกับสามีอย่างถูกต้องตามกฏหมายที่เมืองไทยมา 5 ปีแล้วค่ะ เราแยกกันอยู่ค่ะโดยสาอยู่เมืองไทยตลอดสามีสาจะกลับมาเยี่ยมปีละ 2 ถึง 3 ครั้งต่อปี สาเหตุที่สาไม่อยากไปอยู่สวิสเพราะสามีสาจะมาอยู่เมืองไทยภายในปีนี้โดยเราวางแผนไว้ก่อนแต่งงานสามีเก็บเงินก้อนเล็กๆได้แล้วกลับมาใช้ชีวิตเงียบๆที่เมืองไทย ตอนนี้สามีอายุ 52 และสาเองก็ปาเข้าไป 37 ปีสาไม่อยากไปนับหนึ่งในต่างแดน สามีบอกสาตั้งแต่เราเริ่มคบกันใหม่ๆจะอยู่อย่างไรในสวิสเขาชวนสาไปอยู่ด้วยกันแต่สาต้องทำงานด้วยนะนี้คือสาเหตุหลักค่ะเพราะสาเบื่อการทำงานมากจากประสบการณ์ 23 ปีที่สาทำงานที่กรุงเทพสาอยากใช้ชีวิตเรียบๆๆง่ายๆๆ ค่ะ ยึดหลักแนวพระราชดำริในหลวงท่าน อยู่อย่างพอเพียง
เรื่องเล่าของป้าพอลไม่ได้ทำให้สารู้สึกแย่หรอกค่ะเป็นเรื่องดีๆๆทั้งนั้น สาต้องบอกว่า "ป้าพอลช่วย"
ส่วนคุณพระช่วยอย่างอื่นดีกว่าอยากมี ลูก สักคน สาธุ....
ป้าพอลค่ะกรณีของสาจะทำวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมสามีดีค่ะ ขอบคุณป้าพอลมากๆๆ ค่ะที่ตอบสาทั้งที่ งง....สุขภาพแข็งน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณสา ขออนุญาตตอบแทนป้าพอลไปก่อนนะคะ ;D
ในกรณีของคุณสา โจ้ว่าขอวีซ่าท่องเที่ยวดีกว่าค่ะ โจ้ก็แต่งงานที่เมืองไทยและก็อยู่กันที่เมืองไทย (แต่ปัจจุบันย้ายมาอยู่สวิสแล้วค่ะ) เวลาจะมาสวิสก็ยื่นวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ยุ่งยากค่ะ กรอกเอกสารตามปกติ เวลายื่นเค้าก็จะถามว่าแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่ เคยแจ้งกับทางสถานฑูตไว้หรือยังอะไรประมาณเนี้ยค่ะ ขอวันนี้วันพรุ่งนี้ไปรับได้เลย ไม่ต้องเสียเงิน วีซ่าที่ได้มาจะมีอายุ 3 ปี แต่อยู่ที่สวิสได้ครั้งละไม่เกิน 90 วันเท่านั้น แต่ยังไงคุณสาต้องลองสอบถามกับทางสถานฑุตอีกครั้งนะคะ เพราะของโจ้ขอไว้ตั้งแต่ปี 2003 หลังจากนั้นก็ขอวีซ่ามาอยู่ที่สวิสเลย บางทีเค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงกฎใหม่และระยะเวลาการเดินเรื่องใหม่นะคะ
ปล.หวังว่าจะได้ยินข่าวดีจากคุณสาเรื่องลูกนะคะ ถ้าไม่ต้องทำงานมีไปเลยค่ะหัวปีท้ายปี ลูกครึ่งน่ารักดีค่ะ ;D
ขอบคุณค่ะ คุณ JoJoswiss กับคำแนะนำดีๆสาเชื่อประสบการณ์คุณโจ้ค่ะและสาก็หวังว่าจะได้วีซ่าท่องเที่ยวไม่ยากนัก สาคิดว่าเมื่อก่อนกับตอนนี้ก็คงไม่แตกต่างกันมากมายนักหรอกน่า สาไม่กล้าถามสามีเดี๋ยวเขาจะว่าเราโง่ กึ๋ย.....เขาก็แนะนำเราไห้ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวเหมือนกันค้า ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณพระคุ้มครองนะค่ะคุณโจ้
ปล.ความหวังเรื่องตัวเล็กๆๆเริ่มหดหายพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ไม่แน่เสมอไปหรอกค่ะเมื่อหลานสาวที่อยู่แคนาดากลายเป็นลูกค่อนThailand ชื่อลูกเงาะค่ะ
สวัสดีค่ะ ป้าพอลและเพื่อนๆทุกท่าน มีข้อข้องใจอีกแย้ว...สาเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะเป็นแผลต้องไปพบหมอเกือบทุกเดือนที่เมืองไทยและต้องทานยาด้วย ถ้าวีซ่าผ่านสาจะนำยาจากคุณหมอที่เมืองไทยไปด้วยได้หรือไม่ สวิสมีกฏหมายนำเข้ายาหรือเปล่า รึว่าสาให้คุณหมอที่เมืองไทยเขียนใบสั่งยาแล้วไปซื้อเองตามร้านขายยาที่สวิสกรณีนี้จะทำได้หรือไม่ค่ะ ไม่อยากไปหาหมอที่สวิสคิดว่าคงแพงหูฉี่แน่ๆๆ ขอความกรุณาป้าพอลและเพื่อนทุกท่านช่วยคนป่วยที.....ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณโจ้
ดังเค่ะยกกำลังสิบ ค่ะ ที่เข้ามาช่วยตอบคำถามคุณyanisa
สวัสดีค่ะ คุณyanisa
ยังไม่ได้เข้ามาเขียนขอบคุณ ที่คุณเข้ามาบอกป้าจากทู้ข้างบนเลย ขอบอกทู้นี้รวมกับทู้อีกห้องก็แล้วกันนะคะ
แบบคูณสองไปเลย ขอเอาใจช่วยให้มีลูกน้อยกลอยใจไวๆนะคะ
ตอบคำถามเกี่ยวกับการนำยาเข้าประเทศสวิสของคุณเลยค่ะ
ไม่มีปัญหาค่ะไม่ต้องห่วงวิตกกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ป้ากับลุงก็เป็นผู้หนึ่งที่หิ้วถุงยาจำนวนมากมายหลายชนิด
ขึ้นเครื่องเข้าออกนอกประเทศ ลุงป้วยเป็นโรคหัวใจต้องกินยาเช้า-เย็น ,เป็นโรคเบาหวาน ,ยาแก้ปวดท้องฯลฯ
ป้าจะกินยาแพ้เครื่องและคน(โรคกลัวคน) :-\ และโรคหัวใจอ่อนๆตอนที่ต้องจ่ายเงิน(ล้อเล่นค่ะ) ;D
ดังนั้นเลยวิตกจริตกลัวเขาไล่ไม่ให้ขึ้นเครื่องเลยไปหาหมอและขอใบหมอที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษตอนเดินทางไปเที่ยวออสเตรเลีย
เนื่องจากกลัวเขาไม่ให้เข้าประเทศ และโดยตรวจที่สวิส.... ???หมอก็บอกว่าไม่ต้องห่วงไม่มีปัญหา
แต่ในที่สุดหมอก็คงจะทนความรำคาญไม่ไหวและคงเซ็งเลยเขียนใบหมอให้ แต่ท้ายสุดไม่เห็นมีใครตรวจเลย
ผ่านโลด..ค่ะ...
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,356.0.html
สวัสดีค่ะป้าพอลและสมาชิกบ้านป้าพอลทุกท่านค่ะ จริงๆแล้วทู้ของสาน่าจะอยู่รวมกันกับทู้หน้ากฏหมายนะป้านะแต่ความที่โง่ดันเปิดทู้ใหม่
:-[กิกิกิกิ...ขอบคุณป้าพอลที่ช่วยแจงเรื่องนำเข้ายาสวิสได้หายกังวลเป็นปลิดทิ้ง ก็กลัวเกิดเจ็บป่วยต่างบ้านต่างเมืองจะทำอย่างไรภาษาอังกฤษก็ได้นิดๆหน่อยๆจัดอยู่ในประเภทอยากกินไก่ก็ต้องใช้แขนทำท่ากระพรือปีกร้องกะต้ากๆๆๆซะงั้นส่วนเยอรมันอย่าพูดเลยจะดีกว่า คงลำบากที่จะหาหมอที่สวิสแถมแพงอีก...กึ๋ย...ได้ทีล่ะจะหอบยาจากเมืองไทยซัก 3 กระสอบรู้แล้วรู้รอด คิคิคิคิ..อ้อ มีโรคอีกอย่างแตกต่างจากป้าพอลไม่รู้จะไปหาหมอที่ไหนรักษาดี โรคทรัพย์จางค่ะเป็นมานานแล้วด้วย...โรคนี้ที่เมืองไทยคนเป็นกันเยอะค่ะช่วงนี้
เพื่อนๆคนไหนอยู่แถว schaffhausen บ้างค่ะ เผื่ออยากรู้จักคนทำอาหารไทยพอได้หรือมาเล่นโยคะด้วยกัน ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ค่ะ ป้าพอลค่ะที่สวิสจะมีเครื่องแกงกะทิ เช่น กระชายสด มะกรูด พอจะหาซื้อได้ไหมค่ะพ่อบ้านสาชอบทานแกงกะทิรสชาดไทยๆค่ะ จริงแล้วสาคิดว่าอายุรุ่นพ่อบ้านสาน่าจะหันมาทานอาหารชีวจิตมากกว่าป้าพอลว่ามั๊ย
เรื่องตัวเล็กสาว่าคงหมดหวังแล้วล่ะก็พยายามกันมาตั้ง 7 ปีแหละไม่มาซะทีสงสัยกลัวต้องเกิดมามีแม่ขี้บ่น(คำนี้พ่อบ้านบอกค่ะ)
ค่ะขอบคุณป้าพอลอีกครั้งเนาะ วันหน้าจะแวะมารบกวนใหม่ค่ะ สุขภาพเข็งแรงนะค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณyanisa
ไม่เป็นไรค่ะ ;D สองเราเป็นโรคเดียวกันเลยโรควิตามิน M จาง เรื่องอาหารไทยที่นี่ไม่ต้องกลัวค่ะว่าจะไม่มีขาย
จะกลัวอย่างเดียวคือเราหมดแรงซื้อ ::)แฮ่ๆๆเพราะราคาแพงมาก เหตุผลที่ป้าไม่ค่อยกินอาหารไทยคืออาการตัวเป็นขน และเห็นราคาอาหารแพงมากเลยยึดหลักกินแบบพอเพียง ตอนนี้ที่Migros, Coop และร้านทั่วๆไปมีอาหารไทยขาย พวกกะทิแห้ง กะทิสดก็มี ผักแกงเขียวหวานสำร็จรูป แกงแดงเผ็ด แกงมั่สมั่นฯลฯ มีขายค่ะ แต่กะชายไม่เห็น มีโหระพาขายด้วยหล่ะ
อย่าว่าแต่คนที่เมืองไทยเป็นโรคทรัพย์จางเลยคนที่นี่ก็เป็นมากด้วยค่ะ ยิ่งตอนนี้ทรัพย์จางสุดๆ จะอยู่แบบพอเพียงก็ไม่ไหวแล้ว :Dเครียดๆๆๆๆๆจริงๆ
สวัสดีค่ะป้าพอล
เอ้า..จริงป่าวป้าพอลเป็นโรคขาดวิตามิน M ด้วยหรือเชื่อไม่เชื่อดีหน้อ...นั้นไงนึกอยู่แล้วเทียวว่าต้องมีตอบแบบเนี้ยะมี..แต่..แพง
เอาไงดี เรารึก็ประเภทคนเจียมเนื้อเจียมตั้งค์เสียด้วยซี พอได้คะป้าเรื่องเครื่องแกงสำเร็จรูปแต่กระชายขอเป็นกระชายสดดีกว่าเนอะได้รสชาด"หร่อยจังฮู้" ไม่เป็นไรจะพากระชายเมืองไทยไปส่งกลิ่นหอมที่สวิสก็ได้ถ้าจะซื้อก็มัดละ 5 บาทหรือไม่ก็ขุดจากสวนครัวหลังบ้านนี้แหละดีปลูกไว้ตั้งหลายอย่างมะม่วงตอนนี้กำลังออกลูกเล็กๆๆดกด้วย ส่วนเจ้ามะละกอก็ออกลูกตั้งหลายต้นเพื่อนบ้านคนไหนอยากได้ไปทำอาหารก็เก็บไม่ว่ากัน ชมพู่ น้อยหน่า ขนุน กล้วยหอม ฯลฯ ต้องรออีกหน่อย ไม่ต้องกลัวสารพิษค่ะใช้ปุ๋ยชีวภาพ ข้าวกล้องก็มีคะป้าทำกันเองใช้เครื่องไม้โม่สีเหมือนสมัยโบราณป้านึกออกมั๊ยค่ะ ???
คนสวิสเป็นโรค M จางด้วยหรือป้าเห็นพ่อบ้านก็บ่นเหมือนกันเรื่องเงินๆทองๆแต่ก็ปลอบใจเขาเงินทองของนอกกายน่าอย่าคิดมาก
โย้ย..ม่ายมีเพื่อนๆหญิงไทยแถว schaffhausen หรือไกล้เคียงเลยเน้อ คนเดียวหัวหายสิเรา อิอิอิอิ..
ขอบคุณป้าพอลมากค่ะที่ช่วยแจงข้อมูลเรื่องปากท้อง สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ คิดดีทำดีอารมณ์ก็ตามมาค่ะ
แวะไปเยี่ยมคุณโจ้
สวัสดีคะคุณโจ้สบายดีนะคะตอนนี้ทำไรอยู่ไปเรีนยภาษาเยอรมันหรือยังคะ ขอให้เก่งภาษาเร็วๆนะค่ะ
สวัสดีค่ะทุก ๆ คน
โรคขาดวิตามิน M ช่วงนี้ถ้าจะระบาดหนัก เพราะโจ้ก็ขาดวิตามินนี้อยู่ด้วย ไม่รู้จะหาซื้ออาหารเสริมเพิ่มวิตามินนี้ได้ที่ไหน ???
เรื่องของอาหารไทย ถ้าเมืองที่คุณyanisa อยู่มีซุปเปอร์มาเก็ตไทยก็มาหาซื้อที่นี่ได้อยู่ค่ะ เส้นขนมจีน ปลาร้า มีหมด อย่างที่โจ้เคยซื้อกระชายแพ็คละ 2.30 ฟรังค์ ใบมกรูดก็ 1.50 ฟรังค์ กะทิกล่อง น้ำปลา เส้นหมี่ กะวุ้นเส้นมีขายทั้งซุปเปอร์มาเก็ตไทยกะซุปเปอร์มาเก็ตสวิส สำคัญที่สุดถ้าเป็นคนทานเผ็ด พริกป่น พริกแห้งค่ะ กะมาม่าต้มยำกุ้ง หรือพวกเครื่องแกงซองโลโบ แม่เกตุ พกมาด้วยดีกว่าเพราะซื้อเมืองไทยซองละ 10 บาทเท่านั้น แล้วมาหาดัดแปลงทำกะผักท้องถิ่นของเค้าที่นี้ พอกินได้อยู่ค่ะ
อย่าลืมเอากระเป๋าใบใหญ่ ๆ มาใส่ช็อคโกแลตกลับนะคะ ;D
สวัสดีป้าพอลและเพื่อนๆบ้านป้าพอลทุกท่านคะ
สวัสดีคุณโจ้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะคนโจ้ที่แวะมาเยี่ยมเยียน ใจเย็นๆค่ะคุณโจ้ ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าเผื่อว่าป็นคำถามที่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลเกินไป คุณโจ้จะเรียนภาษาเยอรมันเพื่อจะทำงานด้วยหรือเปล่าคะอีกหน่อยเก่งภาษาก็มีงานทำไม่ต้องไปหาซื้อยาเพิ่มวิตามิน M ที่ไหนหรอกค่ะ เขายืนอยู่ตรงหน้าคุณนั้นเอง มีงานมีเงินค่ะ
ชอบทำอาหารไทยไห้พ่อบ้านทานคะโดยเฉพาะแกงกะทิเขาชอบมากแต่ตัวเองไม่ชอบทาน อุ้ย..คุณโจ้รู้ด้วยสาเองเป็นคนอิสานจมูกบานๆๆชอบทานปลาแด..ก โทษค้าปลาร้าค่ะ ของแท้เลยค่ะถ้าโลกนี้ขาดปลาล้าเราจะอยู่เยี่ยงไร น้ำยายไหลแย้วนะ แต่บางมื้อขอเป็นอาหารมังสวิรัติมาคั้นหน่อยก็ดีเหมือนกันนา ไม่พากระชายไปด้วยดีกว่าเพราะมีกระชายกะใบมะกรูดรออยู่ที่โน้นแล้ว
ขอบคุณค่ะจะเอากระเป๋าใบใหญ่พลัดพรากช็อคโกแลตจากสวิสมาเยี่ยมเมืองไทย เห็นพ่อบ้านคุ่ยนักหนาว่าอร่อย เคยชิมเหมือนกันพ่อบ้านนำมาฝากแต่สาไม่ค่อยชอบเท่าไรกลัวอ้วน :D กิกิกิกิ...
โชคดีคะคุณโจ้แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะค่ะ
หวัดดีค่ะ yanisa
อุ๊ย..ขอโทษค่ะ ไม่ทราบมาก่อนว่าคุณสาเป็นคนอิสาน เพราะว่าปลาร้ากะคนไทยมันมีความผูกพันกันมานานอ่ะ ไม่ว่าจะคนภาคไหน คิดว่าชาตินี้คงขาดจากกันไม่ได้ เลยแนะนำไป..555 เลยถูกใจใช่มั๊ยค่ะ ปลาร้าที่นี่ไฮโซค่ะ บรรจุอยู่ในขวดสะดวกใช้ เขย่า ๆ แล้วก็เทใช้ได้เลย พอดีโจ้ชอบทำขนมจีนน้ำยาป่า ถ้าใส่ปลาร้าเข้าไปด้วยมันจะได้อารมณ์มากเลย ;D แต่ไม่รู้ว่าฝรั่งแอบด่าบ้างรึป่าว เพราะโจ้จะเปิดหน้าต่างเวลาทำทุกที..555
สวัสดีค่ะป้าพอล
ขอแวะมาเยี่ยมคุณโจ้อีกครั้งค่ะ สาวัสดีค้า มิเป็นไรมิได้ค่ะจะคนอิสานหรือภาคไหนๆเราก็คนไทยด้วยกันทั้งน้านรักกันเข้าไว้ อยากรู้จังเลยปลาร้าไฮโซอยู่ในสวิสกลิ่นจะรัญจวนใจขนาดไหนหนอไม่ได้จะต้องไปลองชิม น้ำยาป่าคุณโจ้ใส่กระชายด้วยไช่ไหมค่ะชอบทานอาหารเส้นๆเหมือนกันแต่ตอนนี้ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินซะหน่อยโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน เฮ้อ...ทำใจสังขารไม่เที่ยง
มีเรื่องเล่าค่ะคุณโจ้เกี่ยวกับปลาร้าพี่สาวสาอยู่ที่ Canada เมือง Winipeg รู้สึกว่าเมืองนี้ของแคนาดาจะรวมเอากลุ่มคนจากประเทศที่สามมาอยู่ที่เมืองนี้ทั้งเพื่อง่ายแก่การปกครองหรือออกกฏหมายสอดคล้องกับเหล่า Alien ทั้งหลายรวมทั้งชาว Laos ด้วยกลุ่มนี้ชาตินิยมค่ะชอบใช้ชีวิตเหมือนอยู่ที่ลาว พี่ลาวเราเลยทำปลาร้ากินเองโดยหมักไว้ที่บ้านประมาณ 2 อาทิตย์ตำรวจแคนาดามาเยี่ยมที่หน้าบ้านพร้อมหมายค้นว่ามีเพื่อนบ้านแจ้งได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนอะไรตายซักอย่างส่วนตำรวจสันนิษฐานว่าอาจมีการฆาตกรรมก็เลยแจ้นมา พบเจ๋งๆๆเลยมีตั้งหลายไหแนะ 8) :D ขอบคุณตำรวจแคนาดาม้ากๆๆๆ.....ปฏิบัติหน้าที่ได้อุ่นใจประชาชีดีแท้ แต่เพื่อนบ้านคุณโจ้อาจน้ำลายไหลก็เป็นได้อยากชิมว่ากลิ่นอะไรหน้อหอมแปลกไปนิดๆๆเถอะน่ะ กิกิกิกิกิ...ก็ของชอบเราง่ะ "พี่ไทยได้อารมณ์ฝาหรั่งอย่ามีอารมณ์ละกัน"
ล้อเล่นหน่า วันนี้แค่ก่อนนะคะคุณวันหน้าจะแวะมาเยี่ยมใหม่ ครอบครัวสุขสันต์นะค่ะ
รูปตัวเล็กลูกสาวคุณโจ้หรือค่ะน่ารักดีคะ
หวัดดีค่ะคุณสา และทุก ๆ คน
ก๊ากๆๆ เรื่องปลาร้าแคนาดา;D
เห็นมั๊ยว่าลูกครึ่งน่ารัก คุณสาพยายามหน่อยละกันนะ มีลูกตอนนี้ยังได้ทันใช้ ;)
สวัสดีป้าพอลพร้อมเพื่อนบ้านป้าพอลทุกๆท่านค่ะ
หวัดดีเช่นกันค่ะคุณโจ้ พี่สาวสาอยู่แคนาดาย่าง 10 เธอมีเรื่องเล่าฮาๆๆ...เยอะค่ะแต่ก็มีเรื่องเศร้าปนบ้างบางครั้ง เช่นเธอถูกเจ้าของโรงงานโกงค่าทำงานล่วงเวลาแต่เธอและเพื่อนๆไม่กล้าร้องเรียนทำใจค่ะ
อิจฉาจังเลยทำอย่างไงถึงมีลูกน่ารักน่าชัง ชอบเด็กผู้หญิงค่ะ คุยกับพ่อบ้านเรื่องลูกทีไรรมณ์เสียค่ะสาไปตรวจร่างกายเตรียมตั้งครรภ์ 4 ครั้งแล้วคุณหมอบอกไม่มีปัญหาแต่พ่อบ้านไม่ยอมไปตรวจค่ะกลัวหมอบอกเป็นหมั่นหรือเปล่าไม่รู้ โอ้ย...พ่อนะพ่อ ตั้งใจจะพยายามอีก 3 ปีแต่หลังจากนั้นไม่เอาแน่ค่ะ ตัวเล็กไม่มาแม่ก็ไม่ง้อหรอกอยู่คนเดียวเหงาๆก็ด้าย :( :( :( :( :( :( :( :(
ค่ะขอให้มีความสุขพร้อมครอบคัรวนะค่ะ
สวัสดีค่ะป้าพอลและเพื่อนๆทุกท่าน
ขออนุญาติแวะมารบกวนอีกครั้งนะคะ คือต่อมโง่ยังไม่หาย(โง่แบบถาวรไปแล้ว) ถามเลยดีกว่าถ้าสาขอวีซ่าท่องเที่ยว 1 เดือน แต่ต้องการจะอยู่ต่อซัก 3 เดือนจะได้ไหมค่ะถ้าอยู่ต่อได้ภายในกี่วันที่เราจะต้องไปแจ้งขออยู่ต่อนับจากวันแรกที่เราถึงสวิส เหตุผลที่จะทำวีซ่าท่องเที่ยว 1 เดือนเพราะคิดว่าเสียตังค์ค่าตั๋วเครื่องบินน้อยกว่า และก็ต้องรอพ่อบ้านทำธุระนิดหน่อยแล้วเราจะซื้อตั๋วกลับเมืองไทยพร้อมกัน
ขอรบกวนป้าอีกเรื่องค่ะป้าพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคนสวิสจะขอย้ายมาอยู่เมืองไทยบ้างมั๊ยคะ ที่นอกเหนือจาก www.Immigration.go.th ขอความกรุณาแนะนำคนบ้านนอกด้วยค่ะ
อย่าไปคิดว่าตัวเองโง่ซิ ต้องบอกว่าไม่รู้ต่างหาก เพราะไม่มีใครรู้ไปหมดซะทุกเรื่องหรอกค่ะ ;D
เรื่องขอวีซ่าท่องเที่ยว เค้าจะให้ 3 เดือนอัตโนมัติเลยค่ะ เพราะเราแต่งงานก่อนจะเดินทางมาเที่ยวที่สวิส
เพราะตอนโจ้มาเที่ยวสวิสแต่ละครั้งก็มาแค่ครั้งละ 3 อาทิตย์เท่านั้น เขียนขอวีซ่าก็เขียนไปแค่นั้น
เนื่องจากหยุดงานนานไม่ได้อ่ะ :'( แต่เค้าก็ให้วีซ่าแบบ 3 เดือน แต่มีกำหนดหมดอายุเป็นปี ๆ อย่างที่บอกไว้ข้างต้นนะคะ
จะไปเที่ยวคราวหน้าก็ออกไปได้เลย ไม่ต้องขอใหม่
ส่วนเรื่องที่คนสวิสจะย้ายมาอยู่เมืองไทย ลองดูที่เว๊บไซด์ของสถานฑูตสวิสในประเทศไทย เพื่อจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง
แต่เท่าที่เห็น ๆ ส่วนมากจะเข้ามาแบบวีซ่าท่องเที่ยวก่อน แล้วมาเดินเรื่องขออยู่ต่อที่เมืองไทย ว่าจะเข้ามาในกรณีเกษียณอายุ หรือจะเข้ามาทำงาน อย่างสามีโจ้เค้าทำงานที่เมืองไทย มีเวิร์คเพอร์มิต ได้วีซ่าแบบ 6 เดือน หลังจากแต่งงานก็ได้วีซ่าแบบ 1 ปี เนื่องจากมีภรรยาไทย และทุก ๆ ปี ก็ต้องพกภรรยา กะเอกสารการเสียภาษีไปต่อวีซ่าที่ ตม.ซอยสวนพลู แต่ต้องแจ้งการอยู่ในเมืองไทยทุก ๆ 90 วันที่ ตม. ได้วีซ่าปีต่อเนื่องไปประมาณ 3 ปี เราก็ขอวีซ่า 5 ปีได้ แต่ก็ต้องอยู่กับเงื่อนไขของทาง ตม.ด้วย หลัก ๆคือ เค้าจะดูการเสียภาษีของชาวต่างชาติ คือเสียภาษีให้กับประเทศไทยน่ะ
ถ้าคุณyanisa มีเวลาอยากแนะนำว่าให้ไปสอบถามที่ ตม.ซอยสวนพลูค่ะ ลองไปถามเค้าดูว่าต้องทำยังไงบ้าง เพราะแต่ละคนเข้าข่ายไม่เหมือนกัน ถ้ามีเวลาเราเดินเรื่องเองก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องให้เอเย่นทำให้เพราะ..เค้าฟันค่าใช้จ่ายเยอะมาก เพียงแค่หลักฐานครบ ทุกอย่างถูกต้อง ไม่ต้องซิกแซก ตรงไปตรงมา เสียเวลาบ้าง แต่ไม่ต้องเสียเงินเยอะค่ะ
สวัสดีป้าพอลเจ้าของบ้านค่ะ
สวัสดีคุณโจ้คนใจดีด้วยนะคะ รอเหมือนกันว่าจะมีใครๆตอบเราน้อ ดีใจและขอบคุณ "คุณโจ้ที่ช่วยแจง ไม่คิดว่าตัวเองโง่หรอกค่ะแต่เพราะโง่จริงๆตะหากเหล่า ;D ;D ;D ;D "โง่มากรู้มาก ฉลาดมากรู้น้อยค่ะ"คิคิคิคิ....
อ้าว..หรือค่ะวีซ่าท่องเที่ยวอัตโนมัติ 3 เดือนคุณโจ้ช่วยละลายต่อมโง่ไปหนึ่งต่อมแล้วสาเข้าอ่านบางทู้เรื่องวีซ่าท่องเที่ยวบางท่านไม่ผ่านซักอยากลองยื่นดูมั้งแบบไม่เครียดค่ะผ่านก็ได้ไม่ผ่านไม่เป็นไรแต่ต่อมโง่ผุดมาอีกแย้ว...สงสัยค่ะถ้าเราต้องยื่นตั๋วเครื่องบินพร้อมเอกสารอื่นๆเผื่อวีซ่าเราไม่ผ่านขอรายละเอียดคุณโจ้ช่วยแจงนิดหนึ่งกะไว้สิ้นเดือนนี้จะลองยื่นขอค่ะ
ส่วนเรื่องพ่อบ้านจะย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยสาก็พอจะรู้รายละเอียดนิดหน่อยตอนที่ไปทำเรื่องให้สามีเพื่อนชาวอิงแลนด์แต่ว่าเขาทำเรื่องพำนักถาวรหลังเกษียณอายุคนละกรณีกับของพ่อบ้านสาเขาอายุ 52 ปี แต่สิ้นเดือนนี้เห็นว่าจะหยุดทำงานแล้วค่ะสาคิดว่าจะทำวีซ่า 1 ปีให้ก่อนเพราะเท่าที่ดูรายละเอียดของ ตม.มี 2 วิธีคือพำนักถาวรหลังเกษียณ ตม.กำหนดไว้อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปทำได้และอีกหนึ่งติดตามแม่บ้านแต่ยังไมเข้าใจเรื่องการเสียภาษีในเมื่อพ่อบ้านมิได้เป้นผู้มีรายได้บางทีอาจจะปรึกษาผู้รู้กฏหมายก่อนว่ากรณีพ่อบ้านจะทำอย่างไร สาจะขอเป็นเอเย่นให้พ่อบ้านจ่าย อิอิอิอิอิ...... ;D ;D
ขอบคุณมากกับน้ำใจของคุณโจ้ ขอให้คุณโจ้และครอบครัวมีความสุขนะค่ะ
ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ ทุกวันนี้ครอบครัวสุขสันต์กันมากเลยค่ะ ;D ;D
ตอนโจ้ขอวีซ่าแบบท่องเที่ยว โจ้ไม่ได้ยื่นตั๋วเครื่องบินไปด้วยค่ะ คุณyanisa ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเราแต่งงานก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยว คิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะจะแตกต่างกับกรณีของคนอื่น ๆ แต่ถ้าออกตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ก็ถ่ายเอกสารยื่นแนบไปด้วย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า เราไปแล้วเรากลับแน่นอน ทางการสวิสเค้าจะกลัวประเภทไปแล้วไม่ยอมกลับนะคะ เพราะในกรณีของคุณจะต่างกับโจ้ เพราะโจ้เดินทางไปเที่ยวกันหมด คือ โจ้ สามี และลูก
และถ้าปัจจุบัน เค้าได้เปลี่ยนแปลงระยะเวลาการออกวีซ่าให้คุณyanisa ไม่เหมือนกับของโจ้สมัยนั้น คือขอวันนี้ พรุ่งนี้ไปรับเล่ม
ลองทำตามวิธีโจ้ก็ได้นะคะ คือเมื่อยื่นเรื่องขอวีซ่าที่สถานฑูตแล้ว แล้วเค้าไม่ได้ระบุวันที่แน่นอนให้ไปรับเล่ม ให้สามีคุณyanisa อีเมล์แจ้งกึ่งสอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางฝั่งสวิส ว่าคุณyanisa ผู้เป็นภรรยาได้ยื่นเรื่องขอวีซ่าเข้ามาท่องเที่ยวที่สวิสกับสถานฑูตสวิส ที่กรุงเทพฯแล้ว อยากให้ช่วยออกวีซ่าให้ด้วย อะไรประมาณนั้น เรื่องมันจะได้เดินเร็ว ๆ เพราะเอามาตราฐานอะไรไม่ได้กับสถานฑูต ขึ้นอยู่กับอารมณ์เจ้าหน้าที่ :P เพราะเจอกับตัวเองมาแล้วหลายเรื่อง ฉะนั้น ต้องจี้ทางสวิส แล้วให้สวิสจี้ทางสถานฑูตประมาณนั้นนะคะ (จากประสบการณ์และความรู้สึกของตัวเองนะคะ ระบบงานจริง ๆเค้าอาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ บางทีโจ้อาจจะคิดติดลบมากไป)
สวัสดีค่ะคุณโจ้ขอบคุณสำหรับประการณ์ดีๆ สารอคำตอบชนิดติดขอบคอมพิวเตอร์เลยค่ะ
ค่ะยินดีกับครอบครัวสุขสันต์ด้วยนะค่ะ (บ้านเราสุขๆ-ดิบๆ ครื้นเครงยากจะบันระยายก่อนแต่งงานสาก็บอกพ่อบ้านแล้วนะส่วนไม่ดีของตัวเองพ่อบ้านเองก็ไม่น้อยหน้าเอาความเป็นตัวเองออกมาอวดกันเต็มที่เราสองคนจึงมีวันนี้) ;D ;D ;D
ที่ถามคุณโจ้เกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินเพราะเห็นระเบียบการยื่นขอวีซ่าต้องยื่นพร้อมตั๋วไป-กลับแต่ตอนหลังอ่านเจอบางทู้วีซ่าไม่ผ่านเล่นเรา "งง" เออะอย่างไงนี้ แต่อย่างไงก็จะพยายามเจาะรายละเอียดจากสถานทูตอีกทีเพราะเท่าที่อ่านๆดูจากหลายท่านแล้วไม่ค่อยมีกฏตายตัวสงสัยกฏการขอวีซ่าทของสวิสจะดิ้นได้เหมือนลูกน้ำเป็นแน่ คิคิคิคิ....เห็นดีด้วยกับเหตุผลคุณโจ้ขึ้นอยู่กับอารมณ์เจ้าหน้าที่ เจอเหมือนกันตอนยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมรสแต่ก็ไม่มีปัญหาค่ะผ่านรอ 3 อาทิตย์กว่าๆ สาจะบอกพ่อบ้านช่วยอีกแรง
ส่วนเรื่องพ่อบ้านจะย้ายมาอยู่เมืองไทยคิดว่าไม่ปัญหาเพราะจะยื่น ตม.ขอเป็น Retirement visa เขามีสิทธิ์เพราะอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ตม.จะออกวีซ่านี้ไห้หรืออีกหนึ่งคือ Family-Thai wife อันนี้ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าข้อแรกค่ะ
ช่วงนี้เมืองไทยอากาศร้อนมากค่ะแอบอิจฉาคุณโจ้นิดๆอากาศที่โน้นคงเย็น
ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณโจ้ โชคดีนะคะแล้วจะแวะมารบกวนใหม่ ;D ;D ;D
คะ อากาศที่นี้เย็นจนแข็งเลยล่ะคะ
แต่ก็ดีกว่าร้อน เพราะใส่เสื้อหลาย ๆชั้น เอา
ส่วนร้อนนี้ไม่ไหวคะ ไม่ค่อยชอบ ใส่น้อยชิ้นมาก ๆ ก็อันตราย แถมหุ่นไม่สวยเหมือนนางแบบ
เดี๋ยวผู้ชายไทยเขาจะว่าเอาได้ ;D ;D ;D
หวัดดีจ้ะแพนขอเรียกแทนตัวเองว่าพี่ได้มั๊ยเอย....
พี่เห็นรูปแพนแล้วน้องสวยนะเดาว่าหุ่นก็ดี พี่ว่าจะอยู่ในชุดร้อนหรือหนาวแพนก็"แจ่ม"อยู่แล้วละ
เลือกไม่ได้ค่ะว่าร้อนหรือหนาวดี ต้องทำใจยอมรับสภาพดินฟ้าอากาศค่ะพี่มีชุดเก่งหน้าร้อนเสื้อคอกระเช้ากะผ้านุ่งลายดอก
ได้แรงอกอย่าบอกใคร :D
ขอบใจนะที่แวะมาเยี่ยม โชคดีจ้ะ
Quote from: yanisa on March 10, 2009, 03:37:58 PM
หวัดดีจ้ะแพนขอเรียกแทนตัวเองว่าพี่ได้มั๊ยเอย....
พี่เห็นรูปแพนแล้วน้องสวยนะเดาว่าหุ่นก็ดี พี่ว่าจะอยู่ในชุดร้อนหรือหนาวแพนก็"แจ่ม"อยู่แล้วละ
เลือกไม่ได้ค่ะว่าร้อนหรือหนาวดี ต้องทำใจยอมรับสภาพดินฟ้าอากาศค่ะพี่มีชุดเก่งหน้าร้อนเสื้อคอกระเช้ากะผ้านุ่งลายดอก
ได้แรงอกอย่าบอกใคร :D
ขอบใจนะที่แวะมาเยี่ยม โชคดีจ้ะ
หุ่นหนูดีคะ ไม่แตะใคร แตะแต่ตาสามี ;D ;D สวยคะ สง่า แบบคนอีสาน ผอม เตี้ย ดำ โอ้ยครบทุกสไตล์คะ อยากได้แบบไหนได้ตามนั้น แบบตามสั่งเลยคะ ;D ลมพัดมาที สามีต้องรีบคว้าภรรยาไว้ เดี๋ยวจะลอยไปตามลม
ชุดเก่งหน้าร้อน เสื้อคอกระเช้ากะผ้านุ่งลายดอก ;D ;D อินเทรนด์มากพี่ ขอได้ม๊ะชุดนี้นะ
หวัดดีค่ะทุก ๆ คน
คุณyanisa รีบ ๆยื่นวีซ่านะคะ เดี๋ยวจะมาไม่ทันเห็นหิมะอันปุกปุย เพราะเมืองไทยบ้านเราไม่มี.. ;D มันเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดที่จะมาเที่ยวสวิสเลยอ่ะ สมัยโจ้มาเที่ยวจะมาแต่หน้าร้อนช่วงเดือนสิงหา ไม่เจอหิมะเลย :-[
หนาวมาก ๆ ก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เพราะใส่เสื้อผ้าหลายตัวอึดอัดอ่ะ
เพิ่งจะรู้ว่าชุดเก่งอินเทรนต์ของคุณyanisa เป็นแบบนี้นะเอง
ส่วนของโจ้เหรอ..เสื้อยืด กางเกงขาก๊วย รองเท้าแตะ ;D แบบเด็กชาวเลอ่ะ เชื่อมะ ตอนอยู่เมืองไทย ไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียนชุดนี้ ไม่มีครูคนไหนยกมือไหว้เลยอ่ะ...จนกระทั่งแต่งชุดทำงานไป ครูเค้าถึงถามว่าเป็นคุณแม่น้องธัญญ่าหรือค่ะ..ตั้งแต่บัดนั้นมาเค้าถึงจะยกมือไหว้..555 ราศรีนังแจ๋วมันจับอ่ะ ;D
หวัดดีจ้ะคุณโจ้กะน้องแพนพร้อมกันทั้สองคนเลย
คุณโจ้..ว่าจะลงไปบางกอกวันที่ 25 เดือนนี้ค่ะแต่จะยื่นขอวีซ่าไว้ก่อนไม่อยากไปเจอหิมะกลัวเย็นยะเยือกสุดขีดๆๆๆ " สงสัยชาตินี้ E สาคงจะไม่มีโอกาสเจอะเจอฮีมะกะเขาดอก" พี่สาวเป็นคนพูดคำนี้แกรู้ว่าเราเกลียดหน้าหนาว พ่อบ้านเองก็เห็นด้วยกะพี่สาว ดูในรูปก็ได้แม้นว่าจะไม่ได้อารมณ์เท่าใดนัก :( :(...พ่อบ้านส่งรูปมาให้ดูบ่อยค่ะ บอกตรงได้มั๊ยคุณโจ้ชอบตอนที่ไม่มีหิมะมากกว่าค่ะเห็นจากรูปภาพบ้านของเจ้าลา(ใช้เรียกกันเองแทนพ่อบ้านว่าเขาเป็นเจ้าลาโง่เพราะบางทีแกจะปล่อยไก่ทำเรื่องโก้ะๆๆประจำ ;D ;D)ช่วงที่ไม่มีหิมะจะเห็นบริเวณรอบบ้านเป็นเนินเขาเล็กๆหญ้าเขียวชะอุ่มหน้าบ้านเป็นแม่น้ำค่ะ คิดเองเออเองว่าถ้าหิมะตกอากาศจะครึ้มๆคงเหมือนบ้านเราฝนจะตกอารมณ์เราคงออกแนวครึ้มๆหง่อยๆแหง๋ๆ :( คิดว่าถ้าวีซ่าผ่านจะไปช่วงต้นเดือนพฤกษภาค่ะและคงเป็นครั้แรกกับครั้งสุดท้ายในเพลาเดียวกัน
ขาก๊วยก็ชอบเหมือนกันนามีตั้งหลายตัวแต่สาชอบผ้าฝ้ายค่ะยิ่งเก่าๆยิ่งเก๋าค่ะ ชอบเดินสวนจตุจักรมีของโดนใจไห้เลือกหลากหลาย
มีประการณ์ไกล้เคียงค่ะแต่ของอะฮันนะฮะใส่ขาก๊วยกับเสื้อเก่าๆไปหาเพื่อนที่คอนโดฯเค้า อะฮันเลยโดนคุณยามหน้าคอนโดไล่ตะเพิดออกมาโดนข้อหาจะเข้ามาขอทานหรือจะมาลักขโมยไม่โกรธหรอกค่ะพี่ยามต้องยกนิ้วทำงานได้ดีแท้ๆๆๆ ราศีหัวขโมยจับเจ้าค่ะ คิคิคิคิคิ...