Pall's Webboard

General Category => ห้องทู้เก่า Pall's Webboard => Topic started by: pall on December 26, 2003, 04:09:27 PM

Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:09:27 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1031226-080927-Clipboard06.jpg)

 
 
 **ลูกเกาลัด**
 เวลาออกไปข้างนอกเรารู้สึกหนาวมาก  
 ขนาดใส่ถุงมือและเสื้อผ้าหนามากจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
 แต่เรายังรู้สึกหนาวมากหนาวจนมือไม้แทบจะแข็ง
 วิธีที่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่เราถึงแม้จะชั่วคราว
 ก็คือการหาซื้อลูกเกาลัดคั่วซึ่งมีขายทั่วไปหมด  
 มีขายทุกหนทุกแห่งราคาก็แตกต่างกันไป
 ซื้อมากก็ได้ลดหน่อย
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0110 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:13:21 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1031226-081321-Clipboard07.jpg)

 
 
 เกาลัดรู้จักกันดีทุกคนและต่างชอบกินกันมาก
 เกาลัดสามารถนำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน
 ที่Switzerland เมื่อปี 1340ในKanton Schwyz  
 คนสวิสได้รู้จักลูกเกาลัด(Kastanien)เป็นครั้งแรก
 และต่อมาปี 1378 เริ่มแพร่ไปสู่ WeggisและในWalchwil  
 ปี 1434 ได้ทำการทดลองปลูกต้นเกาลัด ที่ Horw เป็นครั้งแรก  
 สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มีการถูกโยงกล่าวเล่าไปถึง
 ตำนานการปลูกต้นเกาลัดต้นแรกคงจะฝังที่นี่
 และขยายจากที่เขตนี้ในสวิตเซอร์แลนด์ให้เป็นศูนย์กลาง  
 
 ในสมัยก่อนถือว่าต้นเกาลัดมีความหมายมาก
 เป็นการแสดงให้เห็นทางด้านประวัติศาสตร์ซึ่งหลักฐาน
 ที่ได้มาเห็นได้จาก Weggis เมื่อ120ปีที่ผ่านมา  
 Weggisได้กำไรจากการค้าขายลูกเกาลัด
 มากกว่าการขายนมเสียอีก
 คนสวิสสมัยก่อนกินลูกเกาลัดเป็นอาหารหลัก
 
 หนังสือปกอ่อนเล่มเล็ก Wendelsglocken  
 ที่แต่งโดย Josef Muheim
 เป็นหนังสือที่เขียนคามคำบอกเล่าของผู้คนที่สูงอายุในนั้น
 โดยการเล่าถึงการออกดอกเกาลัดประสบการณ์ที่ผ่านมา
 ในเขตVierwaldstaetterseeที่บานในสมัยก่อน
 
 จากการเดินทางผ่าน Gemeinde Greppen ซึ่งเป็นเขตปลูกต้นเกาลัดมากกว่า 300 ต้น
 
 http://www.murg.ch/
 
 เคยมีคนสงสัยว่าชาติไหนเป็นชาติที่นำต้นเกาลัดมาใน Murg
 แถบ Walenseeชาวโรมัน หรือพวก Kelten กันแน่
 เพราะว่านอกจากนี้คือที่ตั้งดินฟ้าอากาศและเชิงภูมิศาสตร์ใต้ดิน
 วิชาธรณีวิทยา(Verrucanosteinก้อนหินของที่ตกตะกอนเปรี้ยว)
 ที่ทำให้ต้นเกาลัด ในMurg เจริญเติบโต
 
 
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:14:37 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1031226-081437-Clipboard08.jpg)

 
 
 เกาลัดเป็นพืชจำพวกมีผลเปลือกรูปสามเหลี่ยมที่กินได้  
 ต้นเกาลัดต้องการอากาศที่เบา และพื้นดินที่ลึก.
 ออกดอกจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ละปีจะออกผลไม่เท่ากัน
 
 เก็บลูกเกาลัดระหว่างเดือนกันยายนและพฤศจิกายน
 ต้นเกาลัดมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากต่อสวิตเซอร์แลนด์
 เป็นศูนย์กลางต่อธุรกิจการท่องเที่ยว  ธรรมชาติทิวทัศน์
 การค้าขายกิจการป่าไม้เรียกว่ามีผลต่อเช่นเดียวกับเศรษฐศาสตร์และวัฒนธรรม.
 
 เมื่อวันที่ วันที่15เมษายนปี2000 พวกนักการค้ามืออาชีพได้ให้ความสนใจต่อ
 การสหภาพแบบอุตสาหกรรมมากเพราะเกาลัดเป็นที่ต้องการของ
 -agriculture
 - forest  
 - nature protection
 - offspring and cultivation
 - wood
 - fruits
 - catering
 
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:16:46 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1031226-081646-Clipboard09.jpg)

 
 
 ปัจจุบันไม้ที่ทำมาจากต้นเกาลัดมีบทบาทมาก
 บ้านจัดสรรส่วนมากจะใช้พัสดุที่ทำจากไม้เกาลัดเพราะ
 ไม้เกาลัดแข็งแรง และเทคโนโลยีชั้นนำ  
 คุณภาพที่ยืดยาว,ที่คุณภาพสูงเช่นเดียวกับสีที่สวยงาม
 และสิ่งก่อสร้างอย่างพิเศษไม้เกาลัด
  และเครื่องเฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็ทำมาจากไม้เกาลัด
 
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:18:20 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/1031226-081820-Clipboard03.jpg)

 
 
 **Bern**
 
 
 ถ้าใครมาเที่ยว Bern ช่วงหน้าหนาวจะเห็นทุกหนทุกแห่ง
 มีเกาลัดร้อนคั่วขายเต็มไปหมด  ถ้าพูดถึงการค้าขายเกาลัดแล้ว
 อาจจะตาโตมาก เพราะเกาลัดที่ขายที่ Bern ใช้จำนวนประมาณ
 12  ตัน/ วัน(คิดเอาเองว่าเป็นจำนวนกี่ กก.ต่อวัน)
 บริษัทที่ทำการค้าเกาลัดจนร่ำรวยคือ
 บริษัท Firma Gysi +Strazzini AG
 
 เฉพาะที่ Bern ขายเกาลัดประมาณ 400  กก. ต่อวัน
 Firma Gysi +Strazzini AG  
 เป็นบริษัทที่เปิดทำการค้าขายเกี่ยวกับเกาลัดมาประมาณ 165 ปีแล้ว
 ราคาเกาลัดคั่วที่ขายกันจะตกประมาณ  CHF 2.80 / 100 กรัม
 คือตกขีดละ CHF 2.80 ( 80 กว่าบาท)  
 ปีนี้ราคาเกาลัดแพงกว่าปีที่แล้ว  CHF  - .30  
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 26, 2003, 04:55:22 PM
ต้นเกาลัดจะใช้เวลานานพอสมควรในการออกผลครั้งแรก
จะใช้เวลาประมาณ 25 ถึง 30 ปีต้นเกาลัด
สามารถมีอายุถึง 500ปี
 
**  เกาลัด **
 
**  ใน 100 กรัมเกาลัด **
 
น้ำ  51  กรัม
Eiweiss 3g  
Kohlenhydrate 42g  
Fett 2g  
K-cal 195  
K-joule 818  
 
**  Mineralstoffe **
 
Sodium 1,5 mg  
Kalium 707 mg  
Magnesium 0,75 mg  
Calcium 33 mg  
Eisen 1,32 mg  
Kupfer 0,2 mg  
Phosphor 87 mg  
Chloride 13 mg  
 
**  Vitamine **
 
Vitamin E   1,2 mg
Carotine 24 mg  
Vitamin B 1 0,2 mg  
Vitamin B 2 0,21 mg  
Vitamin B 6 0,35 mg  
Niacin 0,87 mg  
Phantothensäure 0,5 mg  
Biotin 1,5 mg  
Vitamin C 27 mg  
 
จะเห็นได้ว่าการกินเกาลัดคุ้มกับราคาที่เราจ่ายหรือไม่
เกาลัดมีคุณค่าทางอาหารมากมายนัก
 
 
 
 
 
 
Title: **MARRONI**
Post by: นิด on December 27, 2003, 01:39:32 PM
ป้าจ๋า ของโปรดนิดเลย แต่ซื้อกินทุกรอบที่เจอไม่ไหวหล่ะเจ้าค่ะ 100 กรัว ปาเข้าไป 3.80 ฟรังแย้ว เลยต้องหัดซื้อลูกเกาลัดมาคั่วเองที่บ้านเอาใช้หม้อ หรือกะทะ ที่เคลือบ กรีดเปลือกลูกเกาลัด และใส่หม้อ พรมน้ำเล็กน้อย ทำแบบนี้ถูกไหมค่ะ คุณครูขา อย่างไง มาแนะนำวีธีคั่วเกาลัดหม่ำเองด้วยนะค่ะ สงสาร ลูกหมูตาดำๆที่บ้านหนูด้วยเถอะค่ะ
Title: **MARRONI**
Post by: ป้าพร Stockholm on December 27, 2003, 04:31:26 PM
โฮ้ ป้าจ๋า  น้องพร ผ่านมา สี่สิบกว่าฝน เกือบจะห้าสิบฝนแล้ว เพิ่งเคยเห็นต้น และ ผลเจ้าลูก เกาลัด  ก็ตอนนี้เองแหละจ๊ะ   สมัยอยู่เมืองไทย ถ้าไปตลาดเก่า เยาวราช  ก็ต้องซื้อเจ้าลูก เกาลัด มากินทุกครั้ง เพราะลูกใหญ่ และ แพงดี    เขาว่าเจ้าลูกเกาลัด นั่นหนะมาจากเมืองจีน ทีเดียว   มาอยู่สวีเดน ก็ยังได้กินลูกเกาลัด สดๆ ที่ เขาแกะเปลือกออกไปแล้ว  ส่งมาจากเมืองจีน  หรื อ ฮอลแลนด์ อีก     แต่ป้าพรไม่ยักรู้ว่า  
 ประวัติ ความเป็นมา ของลูกเกาลัดเนีย ก็มีที่ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
 
 ขอบคุณป้าจ๋า มากที่ เอาความรู้ใหม่ๆ มาแบ่งปันให้เสมอๆ
Title: **MARRONI**
Post by: แจง on December 28, 2003, 10:24:10 AM
แจงก็ชอบทานเช่นกันค่ะ ตะก่อนไปเดินแถวสำเพ็ง คลองถม จะเห็นเจ๊กเค้าคั่วๆๆ ไม่มีปัญญาซื้อห้าห้า....แพงดี เหมือนป้าพรว่าเลย ห้าห้า  มาถึงที่นี่ก็ยังเห็นเกาลัดคั่ว วุ้ย...ไม่กินไม่ได้แล้ว อิอิ จากนั้นมาก็ชอบมาตลอดค่ะ แต่ไม่ถึงขั้นคั่วเองแบบคุณนิดหรอกนะคะ...(แจงขี้เกียจน่ะ แฮะๆ ทำไม่เป็นอีกตะหาก) หะหะ
 
 อ้อ แบบ เกาลัดบด  ก็อร่อยดีค่ะ  Vamisell เขียนผิดขออภัยด้วย กินกับไอติมวนิลากับ อะไรน้า..?? ทีทำมาจากไข่ข่าวกับน้ำตาลน่ะค่ะ แฮะๆ แจงลืม.. อีกแล้ว...
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 30, 2003, 07:20:28 AM
นอ้งพร ป้าเคยไปเก็บลูกเกาลัดตอนไปเที่ยวภาคใต้
 ข้างทางมีต้นเกาลัดขึ้นสูงเต็มไปหมดแต่เป็นต้นเกาลัดป่า
 ลูกเกาลัดเล็กหน่อยแต่อร่อยมาก  ลุงกับป้าและเด็กๆ
 ลงไปเก็บกัน  บางทีต้องกระทืบเพราะว่าเปลือกมันมีหนาม
 ชอบแทงมือเลยต้องกระทืบแต่สนุกมาก
 
 เราเก็บมาได้หลายกล่องกะว่าจะกินให้หนำใจเลย
 ที่ไหนได้ตอนเช้ามีหนอนออกมาจากลูกเกาลัดเดินเพ่นพล่าน
 ไปหมดรีบเก็บทิ้งไม่ทัน  พวกเด็กๆดีใจมากได้เล่กับหนอน
 ที่เดินขบวนเป็นกองทัพเลย
 
 ไปเที่ยวลูกาโน่ทางรถไฟเห็นต้นเกาลัดขึ้นเต็มไปหมด
 นึกถึงความหลังแล้วขำมาก
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 30, 2003, 07:25:22 AM
นิดป้าทำแบบมั่วๆและถามคนอิตาเลี่ยนที่ขายลูกเกาลัด
 ป้าชอบยืนดูเขาทำและคุยกับเขา  เขาบอกใช้มีดคมกรีดนิดหน่อย
 ตามขวาง  เวลาคั่วมันจะอ้าเอง
 
 ป้าทำกินเองบ่อยๆแต่แบบมั่วๆกรีดแบบที่เขาบอก
 และแช่น้ำนิดเดียวเอาน้ำออก
 แล้วเอาลงคั่วเพราะไม่มีไฟลนเผาแบบที่ทำขาย
 แต่อรอ่ยมากนิดเปลือกจะอ้าและสุกถึงข้างใน
 
 ที่Coop และมีโกรถูกมากกก.หนึ่งแค่ 8 ฟรังก์มัง
 ไม่ได้ซื้อนานแล้ว อืมที่ซูริคราคาที่เขาขายแพงกว่า
 สงสัยที่โน่นคนรวยกว่าเบิร์น
Title: **MARRONI**
Post by: pall on December 30, 2003, 07:57:28 AM
 
 แจงจ๊ะที่แจงบอกมาป้าชอบกินมากเลยราดครีมด้วย
 กินเสร็จนน.ขึ้นทันตาเลย
 ลูกเกาลัดบดVermicelles  
 กินกับที่แจงบอกใช่อรอ่ยมาก
 ที่แจงบอกนั่นชื่อว่าMeringue
 
 วันหลังว่างๆจะมาเขียนเล่าประวัติของMeringue
 ให้ฟังมีประวัติมากเลย
Title: **MARRONI**
Post by: นิด on December 31, 2003, 02:48:41 PM
ป้าจ๋า นิดว่า เกาลัดที่บ้านป้าอร่อย กว่าที่อื่นนะ ค่ะ เพราะนิดกินแล้วไม่เสียตังแน่ๆ อิอิอิอิ
Title: **MARRONI**
Post by: เกตุ on January 02, 2004, 12:21:00 PM
แหะๆๆ เข้ามาอ่านบ่อยแต่ไม่ได้ออกความเห็นเอิ้กๆๆ แต่ทนเกาลัดม่ายล่ายซะแล้วเพราะว่าข้อยโปรดมั่กๆๆ แต่ที่ซูริคแพงจริงๆด้วยล่ะจ้าถ้าไปซื้อที่เขาคั่วขายตามถนนละก็ 100 กรัม นี้ 5 ฟรังเลยเด้อ ส่วนถ้าซื้อมาทำเองถ้าก่อนหน้านี้ละก็แพงสุดๆ กิโลละ 12 ฟรังเลยล่ะ แต่ตอนนี้ราคาตกเอิ้กๆๆอยู่ที่ 8-9 ฟรัง แต่ถ้าคาร์ฟูร์จะลดบ่อยและลดเยอะด้วยละก๊าข้อยไปซื้อบ่อยโลละ 4.80 ฟรัง เอิ้กๆๆ  
 
 แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นขายเท่าไรสงสัยใกล้หมดหน้าแล้วป่าวไม่รู้ แหะๆๆจะมาบอกวิธีฉามีข้อยทำให้ข้อยกิน เครืออย่างนี้เด้อ ฉามีเอากะละมังใส่น้ำและผสมกับน้ำตาลด้วยเท่าไรก็ประมาณเอาอิๆๆ เสร็จแล้วก็เอาเกาลัดมาปาดทางขวางโยนๆลงไปในน้ำนั่นแหละ แช่ไว้สัก 30 นาที แล้วก็เข้าเตาอบถ้าไปซื้อหม้อคั่วเลยนี้คงไม่คุ้ม บ้านข้อยฉามีเอาเข้าไมโครเวฟเลยคอยดูทุกๆ 10 นาที เพราะกะไม่ถูกเหมือนกันว่าสุกตอนไหน พอเห็นเปลือกอ้าซ่าแล้วก็เอามาลองกินดูก่อน ว่าสุกอ่ะป่าว แค่นี้ล่ะ
 
 แต่ตอนนี้ข้อยน่ะกำลังบ้ากินเค้กมาโรนี่อ่ะเอิ้กๆๆเลยขาดหายมาโรนี่คั่วไปเลยเอิ้กๆๆ
 
 สวัสดีค่ะป้า pall พูดซะยาวลืมฉาหวัดลี
Title: **MARRONI**
Post by: เต่า บอสตัน on January 02, 2004, 05:24:26 PM
เห็นคุยเรื่อง เมอริง ใช้ไข่ขาว สองสามวันนี้อยากกิน* nougat
 มาก หาสูตรทางเนต ทำได้มา รสชาดอร่อย หนืดๆๆเหมือนตังเมถั่วลิสง แต่เราใส่อัลมอนท์แทน และ แคนเบอรรี่แห้งคะ
 
 สูตรนี้หาได้เนต โดยลงเสิชว่า almond nougat candy recipe
 จะได้สูตรเดียวกันเลย ถ้าอยากจะลองมั่งนะ
Title: **MARRONI**
Post by: นี่นะ on January 02, 2004, 05:36:33 PM
เพิ่งรู้ว่าไม้จากเกาลัดเอามาทำเฟอร์นิเจอร์ได้ ป้าจ๋านี่เจ๋งเจงเจงค่ะ  
 นี่นะเคยกินเค้กเกาลัดค่ะ อร่อยดี
Title: **MARRONI**
Post by: เต่า บอสตัน on January 02, 2004, 05:57:25 PM

(https://www.pallswiss.com/images/old_board/10412-095725-Clipboard09.jpg)

 
 
 **almond nougat candy**  
 ทำมาแล้ว รสเหมือนตังเมเด๊ะ  
 แต่มันเป็น candy ของฝรั่ง
Title: **MARRONI**
Post by: บัวขาว on September 28, 2004, 08:58:59 AM
มาสวิสครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกัน เขามีเกาลัด ด้วยเหรอ เหมือนบ้านเราเลยแหะ ทำให้คิดถึงเยาวราช ขึ้นมาทันที บัวขาวก็ชอบกินเจ้าค่ะ
Title: **MARRONI**
Post by: คนหางานส่งครู on February 07, 2006, 07:49:18 AM
หางานไม่เจออะ  ทำไงดี