<<<< Heart >>>>

 

ตอนหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์วูบ

ลุงจัดว่าเป็นนักเที่ยว แกชอบเที่ยวมากไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง แบบหมาไม่อยากจะยื่นหน้าออกจากชายคาบ้าน แต่แกต้องออกไปเหยียบรอยตีนหมาให้ได้ ถ้าออกไปได้ถึงจะนอนตาหลับ แกไม่เที่ยวคนเดียวต้องดึงป้าให้ไปร่วมชะตากรรมด้วย และการเที่ยวของแกเป็นการเที่ยวแบบหมาถูกน้ำร้อนลวกใครที่เคยอ่านการไปเที่ยวแต่ละครั้งของป้าจะรู้ดี  แกเป็นหัวหน้าทัวร์ที่แย่มากไม่สนใจลูกทัวร์เท่าไร สังเกตจากสมาชิกที่หดหายหน้าไป แต่ละทัวร์ที่แกจัดขึ้นมา สงสารแม่แกมากที่หลงคารมไปเก็บลูกเกาลัดทางภาคใต้กับแกจนลมจะจับตาย ดีนะที่แกพกยาลมไปด้วยจะเหลือแต่ป้าที่ต้องจำใจไปกับแกนี่แหละที่ป้าหลงผิดไปลงชื่อสมัครเป็นสมาชิกตลอดชีวิตกับแกจะลาออกก็ไม่ได้  ไปไหนกับลุงแกแต่ละครั้ง จะต้องไปแบบเอาสำลีอุดหูไปด้วย ถ้าไม่อุดหูซ้ายจะชาไปแถบหนึ่งเลย ป้าเพิ่งจะสังเกตหูตัวเองตอนที่แกทิ้งป้าเข้าโรงพยาบาลนี่เองเพราะอาการหูข้างซ้ายดีขึ้น ไม่มีเสียงอะไรรบกวนอีกต่อไป

ทุกอาทิตย์ แกจะพาป้าไปเดินบนภูเขาและเขาแต่ละลูกจะสูงประมาณ 2000กว่าเมตรบางแห่งจะชันประมาณ 10% เดินแต่ละทีน่องโป่งเลย เพราะเดินทั้งวัน  ลูกชายป้าสองคนตอนมันเป็นเด็กต้องจำใจเดินไปด้วย พอโตขึ้นมามันไม่ตามแล้ว มันคงเข็ดขี้อ่อนขี้แก่ไอ้คนเล็กของป้ามันบอกเดินแบบพ่อมันนี่สุขภาพทรุดโทรมว่าไปมันก็ถูกของลูกมันนะที่พูดแบบนี้ บางครั้งจะบ้าตาย พาป้าเดิน 3 ชมเต็มๆไปดูดอกไม้แค่ดอกเดียวและเหี่ยวด้วย แกบอกนี่นะประทับใจมาก แทบจะดีดแกจริงๆ เล่าให้แม่แกฟังแกสมน้ำหน้ามากบอกอยากบ้าตามลุงทำไม

เหตุการณ์เที่ยวแบบนี้เกิดขึ้นทุกอาทิตย์จนอยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อเดือนที่แล้วเดือน พฤษภาคม 03  ลุงแกนั่งกลางแผนที่...ที่ทางสมาคมการเดินเขาที่แกเป็นสมาชิกจัดนำเที่ยวและพูดจนน้ำลายกระเด็นเต็มแผนที่ไปหมด

“pall อาทิตย์นี้น่าสนใจนะรายการเที่ยวทางสมาคมที่เขาจัดมา”
ป้ากำลังนั่งแชททำหูทวนลมไม่ได้ฟังแกพูดกำลังมันมากเพราะสมาชิกมาแชทเต็มไปหมดมีเคน
รุ้ง โต้ โต้ง ตี่ แอนนี่นักขูดนิ้วทองฝ้าย ปุ๋ย และนักแชทหน้าใหม่หลายคน

“pall ชั้นละเซ็งเธอมาก นั่งจนตูดบานแล้วเห็นไหม ไม่ขยับตูดออกกำลังกายเลยไปเดินทางไกลกับกลุ่มของชั้นงานนี้เธอต้องมาเดินด้วยเเล้วนะ”
“เดินนานไหมล่ะ? และอายุเท่าไร? ป้าเอ่ยถามลุงเซ็งแกมากที่มาขัดจังหวะ”

“ไม่นานแค่30 กม. คนที่เดินล้วนแต่สูงอายุ 70อัพทั้งนั้น เขาเดินกันได้เธอต้องเดินได้  ชั้นจะโทรลงชื่อเธอไปด้วย”  ลุงแกบังคับ

ป้านั่งหน้าตูมทั้งวันแต่ก็ดีใจที่นักเดินล้วนแต่แก่ๆแบบนี้รับรองเดินกันไม่ไวหรอก  ตกลงกลุ่มที่ไปกันทั้งหมดรวม 11 คน  ตอนแรกที่เดินออกจากThun เพื่อไป Interlakenทางก็ราบเรียบดีต่อมาเริ่มชั้นขึ้นบนเขาป้าเริ่มหอบแต่คนแก่เดินคุยกันกระหนุงกระหนิง นี่ขนาดแก่มากนะป้าแทบจะคลานเลย  คนแก่อายุ80 กว่าปีเดินนำหน้าลิ่วไปแล้ว  ลุงก็เริ่มหอบผิดสังเกตมาก

“Bobby เธอเป็นอะไรทำไมหน้าซีดมากเมื่อคืนก็นอนไม่มีคนมากวนใจนี่ป้าต้องรีบพูดเดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดๆว่าแกทำงานหนักตอนกลางคืน”  ลุงแกบอกไม่มีอะไรนอกจากหน้ามืดและเจ็บหน้าอก แต่ไม่นานก็หายไปป้าเข้าประคองแก

“pall ชั้นไม่ใช่เบบี้ไม่ต้องมาประคองหรอก “ป้าแทบจะดีดแก ไม่ประคองก็ได้ไม่ง้อ

เราเดินกันจนถึงจุดหมายปลายทางคือ Interlaken เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน  ป้าเองเดี้ยงคารถไฟเลยหลับนั่งคอพับน้ำลายไหลยืดมาตลอดทาง ลุงนั่งคุยกับคนข้างๆน้ำลายกระจายฟุ้งจนเขาลงจากรถ  ป้าแสนจะสงสารผู้โดยสารคนนั้นมากแกคงจะหูอักเสบไปหลายวัน  เหตุการณ์ผ่านมาอีกเรื่อยๆยังไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้น

“pall นี่เธอควรจะเลิกแชทได้แล้วนะชั้นรู้สึกว่าเธอทำหน้าที่บกพร่องไปมาก  กลางคืนมัวแต่มาแชทไม่กะดู๋กะดี๋กับชั้นเหมือนก่อนเลย ชั้นขอภาวนา  ให้คอมเธอพังวันละหลานร้อยหนและเธอไม่ฟิดเหมือนสมัยก่อน”
“ไม่ฟิตตรงไหน” ป้าเริ่มหูร้อน

“แหมฟิตที่ชั้นพูดนี่ชั้นหมายถึงการเดินออกกำลังกายเธอ ไม่ใช่อย่างอื่นเพราะเห็นเธอเดินกับคนแก่แค่นี้เธอถึงกับหอบเป็นหมาตอนอากาศร้อนมาก”      แกพูดเลี่ยงๆๆ  ป้าคิดในใจปล่อยให้แกด่า การด่าถือว่าแกบอกรัก แต่ยังเป็นห่วงลุงแกมากที่แกหน้าซีดมากรู้สึกว่าผิดปรกติมาก 

“Bobby เธอควรไปหาหมอสักหน่อยนะหน้าเธอเหลืองมาก”   ลุงไม่สนใจและแกเที่ยวเต้นแร้งเต้นกาไปตามประสาหนุ่มหลงวัยแบบแก
วันจันทร์ ไปจั่ว
วันอังคารไปเข้าสมาคมร้องเพลงของกลุ่มรถไฟ
วันพุธ ไปเล่นพละ
วันพฤหัส ไปเต้นรำ
วันศุกร์ อยู่บ้าน
วันอาทิตย์ไปเดินเขา

แกซ่าแบบนี้ตลอดมา

จนมาถึงวันเกิดเหตุที่ร้ายแรงที่สุด..............ในชีวิต

 

โรคหัวใจ

เมื่อวันที่ 1 มิย.03 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์อากาศสดชื่นมาก แต่ลุงแกไม่ได้ไปไหนหรอก เพราะติดภารกิจร้องเพลงกับสมาคมรถไฟซึ่งมานัดเจอกันทุกภาคที่Bern   ลุงแกซ่าซ้อมร้องเพลงไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตั้งแต่วันพฤหัส  ศุกร์ และวันเสาร์เขามาร้องเพลงกันจัดที่ Kursal ใหญ่โตมาก หน้าตาลุงแกระริกระรื่น แต่งตัวสุดหล่อ   แต่พอจะผูกไทต์ แทบจะฆ่ากันตาย 

“อย่าขยับซี กำลังมัดคอให้”   ป้าบ่นเซ็งจัด

“pall ผูกแบบเธอชั้นจะหายใจไม่ออกทำไมเบี้ยวแบบนี้   ชั้นหมดหล่อเลย “

“อ้อๆๆๆๆๆๆๆจะแต่งตัวอวดสาวๆเหรอแก่จะตายอยู่แล้ว” 

“แหมนานๆจะเจอกับคนทั่วๆไป  ต้องแต่งให้หล่อๆเธอจะได้ดีใจมีผัวหล่อไง  ไอ้ผ้าบ้านี่ผูกอย่างไรวุ้ยเคยผูกได้ทำไมลืมนะ.”

ฝ่านมันรำคาญพ่อมันมาก  เพราะเห็นอยู่หน้ากระจกหวีผมจนไม่กระดิกมาเป็นชั่วโมงทั้งๆที่ไม่ค่อยจะมีผมหรอกป้าเพิ่งจะย้อมสีให้แกเสร็จโชคดีที่ออกมาเป็นสีน้ำตาล  มีอยู่ครั้งหนึ่งสงสัยทำผิดพลาดผมแกออกมาเป็นสีส้มไปไหนมาไหนแกต้องใส่หมวกตลอดเวลา  เรียกว่าป้าโดนแกด่าจนสีผมแกหลุดหมดจนเหลือผมหงอกตามเดิม

ฝ่านมันเปิดคอมหาแวบผูกไทต์ให้พ่อเป็นอันว่าผ่านพ้นไปได้ พอตกดึกลุงกลับมาหน้าตาเหมือนปลากระดี่ได้น้ำพร้อมทั้งบอกว่ามีแต่คนชมว่าร้องเพลงเพราะมาก  

“ชั้นอยากให้เธอมาเห็นจัง  มีเมียคนอื่นเขาไปกันหมด มีเธอไม่ไปคนเดียวมีสาวๆมาขอเต้นรำกับชั้นด้วยนะ”

“ใครล่ะที่มาขอเธอเต้นรำ”

“ก้อแคธี่ไง ” 

ป้าแทบจะดีดแกเพราะเเคธี่อ่อนกว่าแกแค่5ปีเองป้าไม่หึงหรอก  ป้าต้องไล่ลุงเข้านอนเพราะหน้าตาแกอิดโรยมากวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ลุงต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้า   พากลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดเที่ยวชม Bern และต่างพากันร้องเพลงอำลาเป็นครั้งสุดท้าย  แกกลับมาบ้านเย็นมาก  มาถึงก็มานอนแผ่2สลึงบนโซฟาหน้าตาซีดมาก เหงื่อออกท่วมตัวบ่นออกมาเบาๆ  ปวดไหล่มาก และแสบหน้าอกปวดจนถึงฟันกราม

ป้าเห็นหน้าแกซีดมาก อยากจะพาแกไปหาหมอแต่แกบอกไม่เป็นไร  เห็นแกค่อยดีขึ้นเป็นปรกติดดีเลยหมดห่วง  วันจันทร์แกไปทำงาน และแกโทรหาหมอขอนัดแบบฉุกเฉินจากที่ทำงาน  เห็นแกบอกเขาจะนัดแกไปอาทิตย์อื่นแต่แกบอกต้องมาด่วน  ป้าคุยกับเพื่อนมันบอกทันทีว่า  ลุงอาการแบบเป็นโรคหัวใจนะ  พอตกเย็นลุงเดินหน้าซีดเข้าบ้านบอกนัดหมอไว้แล้ว  ป้าบอกสงสัยโรคหัวใจเกิดกับแกแน่ๆ   แหมแกหันมาด่าหาว่าป้าปากหมามาแช่งแก  เดินบ่นมุบมิบพร้อมทั้งบอกจะกลับมากินมันผัด หลังจากกลับจากหาหมอแล้ว  ป้ากำลังแชทอยู่ตามปรกติและแล้ว วงแชทแทบกระจาย ลุงส่งข่าวมาด่วนว่าหมอตกใจมาก ลุงเป็นโรคหัวใจตายได้กระทันหัน ไม่รู้รอดมาได้อย่างไร

ป้าอำลาวงแชทแทบไม่ทันพร้อมทั้งพาลุงนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลโดยด่วนโรงพยาบาล Insel ที่ใหญ่ที่สุดของBern คนเต็มหมด ที่ไหนก็เต็มหมดเหลือที่ Tiefenau อยู่นอกเมือง  ฝ่านมันมาด้วยมันแต่งตัวสุดหล่อ   เห็นนัดกับเพื่อนจะไปดูหนังกันมันยกเลิกนัดตามมาด้วย   มันฉีดน้ำหอมจนลมจะใส่  พาลุงนั่งรถแท็กซี่ทำเอาหัวใจแทบจะวายเพราะแพงมาก  พอมาถึงโรงพยาบาลพาลุงไปรายงานตัวแทบจะบ้าตาย มีปุ่มให้เลือกกดหลายปุ่มมากและต้องเสนอหน้าให้กล้องเห็น   ลุงกดและรอนานมากร่วม 10 นาทีจึงมีเสียงตอบมา บอกเดี๋ยวจะมารอนานมากจึงมีคนออกมา บอกวันนี้คนไข้เต็มไปหมด ให้ลุงรอต่อรอให้หมอมาดูอาการ

ฝ่านนั่งหน้าตูม ลุงนั่งหน้าบูด    ป้าเดินจนเบื่อ  หมอถึงมา ลุงต่อว่าหมอใหญ่คงเซ็งมากแต่หมอยิ้มแบบอารมณ์ดีและพาแกเดินเข้าห้อง OPป้ากับฝ่านต้องออกมารอข้างนอกจนหมอให้กลับบ้านเพราะเห็นดึกมากและลุงพูดอะไรไม่ได้หมอทำงานฉุกเฉินมาก   ป้าไม่ได้นอนทั้งคืนรอฟังผล จนหมอโทรมาหาบอกลุงโชคดีรอดพ้นความตายมาได้อย่างหวุดหวิดมาก ให้ป้ามาเยี่ยมได้ตอนบ่ายๆ

มาเยี่ยมลุง

ป้าออกเดินทางจาก Koeniz ตอนเที่ยงกว่าๆมาถึง Bern และมานั่งรอรถไฟจนถึงเวลารถไฟเคลื่อนที่ออกจากสถานี   นั่งสงสัยตลอดทางทำไมมันไม่ยอมจอดป้ายหน้า   ถามฝรั่งที่นั่งข้างๆ เขาบอกว่านั่งรถไฟผิดสาย ซวยมากเลยป้าต้องลงป้ายหน้าและถามเขาเพื่อไปโรงพยาบาล Tiefenau  จะย้อนกลับไปตั้งต้นขึ้นรถใหม่คงเสียเวลาเป็นชั่วโมงอยากเจอลุงมาก  ฝรั่งแก่ใจดีบอกถ้าเดินเองจะเสียเวลาแค่ครึ่งชมเอง   ป้าหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องใช้จำเป็นของลุงหนักมากจะโยนทิ้งหลายหน กัดฟันเดินจนเหงื่อไหลท่วมตัว จนมาถึงโรงพยาบาล เขาย้ายลุงเข้ามานอนอยู่ ห้อง OP 1  ในห้องมีคนนอน 3  คน แต่ละคนมีสายห้อยระโย้ระย้าเต็มไปหมด ลุงนอนหน้าเหลืองซีดรออยู่   ตัวแกมีสายไฟเล็กๆแปะตรงหน้าอกเต็มไปหมด และมีจอให้ดูภาพการทำงานเต้นของหัวใจที่แขนกำลังให้น้ำเกลืออยู่   แกบอกรอป้านานแล้วอยากเยี่ยวมากแกอายไม่อยากให้นางพยาบาลมาจับน้องหนู   ป้าต้องควานหาแหมมันคงอายจริงๆหลบหน้าหลบตาไม่ยอมเจอผู้คน

ตรงข้อพับหน้าขาหมอเขาแปะพลาสเตอร์หนาปึกใหญ่มากแปะอยู่ ลุงถามว่าทำไมป้ามาช้า  ป้าบอกแกว่านั่งรถไฟผิด แกบอกดีแล้วจะได้ออกกำลังกาย  ผิดคาดวันนั้นทั้งวันลุงไม่บ่นอะไร ป้ารู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิต ลุงนอนหลับๆตื่นๆ จนดีขึ้นหน่อยจึงคุยกันแกเอารูปหัวใจมาให้ดูดังภาพที่เห็นพร้อมทั้งอธิบายให้ฟังว่า

ภาพหัวใจคนปรกติ    ลักษณะหัวใจลุง

ที่หมอเอาปากกาขีดๆนี่คือเส้นใหญ่สำคัญมากที่เป็นเส้นลูกศรที่มีสีหนักๆดำๆคือเส้นที่อุดตันมากเลือดไม่ไหลเดินเลย เพราะอุดตันแข็งจนเลือดไหลไม่ได้ หมอพยายามใช้ลวดแทงให้ทะลุแต่ไม่ได้ผลอะไรทุกวันนี้ที่ลุงยังมีชีวิตเพราะเส้นเลือดฝอยสร้างใหม่ให้เลือดไหลผ่าน  เป็นอันว่าการเจาะช่วงหน้าขาครั้งแรกเพื่อใช้ลูกโป่งของลุงไม่ได้ผลอะไร ต้องรออีก 2อาทิตย์หมอจะพยายามทำการใช้ลวดดันแทงใหม่   ลุงบอกหมอใช้ความพยายามชั่วโมงกว่าๆถึงได้ยอมแพ้ และให้ความหวังลุงครั้งที่สองถ้าทำสำเร็จเลือดนิ่มตัวลง และใช้ลวดดันจนสิ่งที่อุดตันในหลอดเลือดโคโรนารี่หลุดออกมาได้จะได้ฝังท่อเล็กๆทำด้วยพลาสติก หุ้มด้วยสารใยพิเศษทำเป็นตาข่ายเอาใส่ไปตรงตำแหน่งที่อุดตัน

ภาพหลอดเลือด
หมายเลข1 ยังทำงานเป็นปรกติ
ภาพที่2 เริ่มอุดตัน
ภาพที่3 อุดตันแต่เลือดยังไหลไปเลี้ยงร่างกายอยู่  แต่ของลุงสภาพแย่กว่าหมายเลข3มากเพราะอุดตันแข็ง ใช่เครื่องมือแทงไม่ทะลุเลย

หมอให้ลุงอยู่ในความควบคุมอย่างเข้มแข็งต้องทำตามทุกอย่าง   และให้กินยาและฉีดยาเพื่อให้เลือดและสิ่งอุดตันในหลอดเลือดโคโรนารี่นิ่มตัวลง ซึ้งต้องใช้เวลาประมาณ 2อาทิตย์   ลุงทนอยู่ที่โรงพยาบาลได้แค่อาทิตย์เดียวแกจะคลั่งตาย ขอออกมาก่อน มาฉีดและกินยาเองที่บ้าน หมอเห็นแกเคยฉีดยาเองมาก่อนตอนช่วงที่แกเคยผ่าตัดสะโพก เลยอนุญาตแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก เขียนใบอนุญาตบอกคนไข้สมัครใจกลับเอง ลุงดีใจมากเดินเที่ยวพล่านไปสำรวจทั่วโรงพยาบาลคุยกับใครต่อใครมั่วไปหมด แกเป็นคนช่างคุยมาก

มาวันหนึ่งก่อนออกจากโรงพยาบาลไปเจอคนไข้เคยมาผ่าตัดที่นี่   เขาแหวะอกที่ผ่าตัดให้ลุงดูและให้ดูช่วงข้อเท้าที่หมอใช้เจาะวางท่อลุงฟังคนไข้ที่มีอายุไล่เลี่ยกับแกฟังไปหัวหดไป เขาบอกว่าแหวะอกเอาลวดดึงยึดไว้ เอาหัวใจมาใส่ถาดหัวใจยังเต้นดุ๊บดิ๊บไปมาลุงแกเลยกลัวมาก แกตาขาวเรื่องนี้บอกกับป้าว่าจะอ้อนวอนพระเยซูป้าเลยบอกกับแกว่าพระเยซูต้องช่วยแกแน่ๆ   เพราะแกร้องเพลงกล่อมพระเยซูทุกปีลุงแกได้ขึ้นสวรรค์เพราะกลุ่มร้องเพลงของแกที่พาเข้าโบสถ์ปีละครั้ง พอหมอบอกให้กลับบ้านได้ลุงแกดีใจมากเหมือนได้ขึ้นสวรรค์

ทุกๆเช้าแกจะใช้เข็มปักแทงตรงพุงแกวันละข้างไม่ให้ซ้ำกัน ยาอันนี้มีผลข้างเคียงมากเพราะทำให้ปวดหัวและเวียนหัวแกห้ามขับรถระหว่างใช้ยาเพราะอันตรายมากพุงของแกช้ำเป็นสีม่วงไปหมด  ทุกๆวันแกต้องกินแต่ยาจนครบ 2อาทิตย์เต็ม 

รายการยาที่ต้องกิน
Aspirin cardio Tabl.100mg
Plavix Tabl 75 mg (
ยากินให้เลือดอ่อนตัว)
Fraxiforte 0,6 ml s c.
ยาฉีดทุกเช้าวันละหลอด
Selipran Tabl 20 mg
Isoket retard Tabl 60 mg
Coversum Tbl a 4 mg
Magnesiesiocard Sachet 5
Agopton Kps 15 mg

 

สมาชิกใหม่

ระหว่างที่ลุงมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน  คนไข้กับคนดูแลแทบจะตีกันตาย  เพราะช่วงที่แกทั้งกินทั้งฉีดยาที่พุง
สิ่งที่หมอให้ระวังให้มากๆๆๆคือพยายามอย่าให้มีการบุบสลายเลือดออกตรงไหนและห้ามสิ่งยั่วยุที่สำคัญก็คือ SEX  (หมอย้ำหลายหนผิดสังเกตมากพร้อมทั้งมองหน้าลุงกับป้าไปมา)  ป้าคันปากยุบยิบไปหมด ไม่ต้องกลัวหรอกลุงแกเตะปิ๊บไม่ไกล  และปี๊บเหมือนใส่น้ำเต็มเสียงเลยไม่ค่อยดังเท่าไร ไม่ต้องกลัวหัวใจแกล้มเหลวแบบบูชลีหรอก  แกเหมือนเด็กๆ ป้าต้องคอยด่าเพราะกลัวทำเลือดไหล   เช่น  บ๊อบบี้ เดินห่างๆรั้วหน่อยซี!!!!!!!บ๊อบบี้อย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเอามีดมาจะปอกให้บ๊อบบี้เอายาฉีดโคนลื้นที่หมอให้มาหรือเปล่า

บ๊อบบี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ................

โอ๊ยลุงแกบอกเซ็งมากรู้อย่างนี้อยู่โรงพยาบาลจะดีกว่าอยากจะจะโทรศัพท์ขอหมอเข้าไปพักโรงพยาบาลตามเดิม
”ชั้นว่าชั้นต้องตายเพราะเครียดเสียงเธอหัวใจชั้นมันเริ่มเต้นจังหวะช่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วนะ”
ป้างอนมาก เเกต้องมาง้อ ตกลงเป็นอันว่าแกเริ่มเคยชินและเริ่มทำตาม ไปไหนมาไหนจะต้องเอายามาอวด  ฝ่านมันเซ็งหนีกลับไปอังกฤษบอกจะไปซ้อมวิ่งต่อ มันคงจะเริ่มเครียดเสียงพ่อเสียงแม่ด้วย

อยู่มาวันหนึ่ง   ระหว่างที่ลุงกับป้ากำลังจั่วกันอยู่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในเช้าวันอาทิตย์
"ป้าๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่นิดหมูตัวน้อยเองนะป้าอยากจะมาเยี่ยมลุงมาก มาได้ไหม"
ป้าถามลุงแกบอกโอเช่มาได้นิดหมูน้อยแม่ลูกสามนี่แกเป็นแฟนคลับพาเที่ยวของลุงมานานแล้ว ป้าสงสัยว่าแกคงจะชอบความตื่นเต้นมากดีแล้วมาให้ดูลุงจะได้เข็ดกันไปข้างหนึ่ง  นิดเก่งมากแบกเป้ใส่แว่นตาดำแบบหนังเมทริกซ์ลงรถไฟมาเลยป้าเพ่งมองแต่สาวนมโต  นี่ขนาดแกบอกว่าเป็นหมูตัวน้อยๆสุดแสนจะน่ารักมาก

ป้าต้องระวังไม่ให้กลิ้งทับลุง  นิดน่ารักมาก ปากนิดจมูกหน่อยตรงกับสะเป็คลุงแกเลย  บอกยินดีให้นิดแม่ลูกสามสมัครเป็นสมาชิก กระเหรี่ยงทัวร์ได้   ป้าสงสารนิดมากเห็นลูกกระเดือกขยับไปมา  นี่คงไปนอนก่ายหน้าผากเรื่องสมัครเข้าเป็นแฟนคลับพาเที่ยวของลุงดีไหม??????

เราสามคนพากันเดินเที่ยวระยะทางสั้นๆ   ลุงไม่ค่อยมองอะไรหรอกนอกจากมองสาวนมโตของแก ชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมดชี้ให้นิดดูสาวๆของแกนิดเริ่มจะเชื่อแล้วที่ป้าเขียน  ตอนเป็นหนุ่มๆเห็นพกแต่หนังสือเพลบอยซึ่งมีแต่สาวๆนมตั้งเต้าชูช่อใหญ่ทั้งนั้น  ป้าละเซ็งจริงๆที่แกมองนมป้ากับนมวัว  นิดมาอยู่ได้ไม่นานต้องกลับไปดูน้องแฝดป้าซึ้งใจมากจริงๆที่มาเยี่ยมลุง

วันที่รอคอย

ใกล้วันที่ลุงจะเข้าโรงพยาบาลเข้ามาทุกทีป้าคุยโทรกับแม่ แกเป็นห่วงมากเข้าๆออกจากวัด  เหมือนออกทัวร์ทำบุญ นั่งสมาธิ ทำบุญ ทำทุกอย่างแกบอกทำที่ไหนก็บอกส่งให้โรเบิด ชุท   ณ ประเทศสวิตฯ
" แม่ๆๆๆๆๆๆๆๆฝรั่งชื่อมันตั้งซ้ำๆๆกันนะแล้วบ๊อบมันจะได้เหรอเดี๋ยวส่งผิดคน"  ป้าถามแม่ด้วยความสงสัยมาก
"แหมปู่ต้องส่งถูกน่ะปู่ไม่ส่งมั่วหรอก"  แม่แกตอบแบบมั่นใจมาก ไม่มั่วก็ไม่มั่ว
น้องสาวป้ามันถามแม่ว่าเขาจะใช้เข็มแทงหัวใจพี่บ๊อบเหรอ  ป้าบอกลุงแกชี้ที่หัว บอกถ้าแทงแกคงซี้แน่ๆๆๆๆๆๆ พูดพร้อมทั้งส่ายหัวไปมา   ป้าบอกแม่แกถึงวิธีทำแต่แกคงจะไม่ค่อยเข้าใจแม่แกบอกอย่าเพิ่งยุ่งเรื่องSEX นะ    โอ๊ยป้าบอกน้องชายแกช่วงนี้หัวห้อยหลบหน้าหลบตาคน
ตั้งแต่เจอนางพยาบาลมาตลอดนี่   ป้าชักสงสัยว่าแกจะเป็นโรคกลัวผู้หญิงมาก  ขนาดไม่ค่อยเจอคนแปลกหน้ายังเตะปี๊บไม่ค่อยดังเลย หัวเหอหดไม่ยอมโผล่หน้าออกมาเสนอหน้าเท่าไร    ป้านอนไม่หลับมาตลอด ลุงแกกลัวมากขนาดบอกกินไม่ค่อยลงนะ   ป้าเห็นฟัดไอ้นู่นไอ้นี่กินตลอดแม่แกด่าบอกให้ลดน้ำหนักลงมั่งจะกลิ้งตายอยู่แล้ว ป้าก็บ่นและบังคับลดพวกอาหารไขมัน และทุกอย่าง   ป้าระวังลุงมากเรื่องบาดแผล ถ้าแกเลือดไหลจะต้องพาส่งโรงพยาบาลโดยทันทีเพราะเลือดแกจะไหลไม่หยุดจากยาที่ทั้งกินและฉีด

วันเวลาผ่านไปไวมาก........    จนกระทั่งถึงวันที่หมอนัด

เข้าโรงพยาบาล

เพื่อนเอารถมารับลุงตั้งแต่เช้าลุงกระสับกระส่ายมาก จิตใจแกไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไร ป้าเอารูปปู่โตให้แกกราบ แกทำตามทุกอย่างคงกลัวมาก  ป้าเดินพล่านไปมามองดูแต่นาฬิกา  แต่ละวินาที..ความรู้สึกเหมือน..เดินอยู่บนก้อนกรวดพื้นทรายที่ร้อนระอุ..เป็นห่วงลุงมาก

รอ...........รอ............รอ........

เงี่ยฟูฟังแต่เสียงโทรศัพท์.......
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ป้าแล่นถลาเข้าไปยกหูพูด..
"นี่มาจากโรงพยาบาล...ขอแจ้งข่าวของนาย.......ผลการใช้ลูกโป่ง ใช้ได้...ฉันจะให้เธอพูดกับผัวเธอนะ"
ป้าฟังไม่แน่ใจคิดว่าฟังผิดพลาด..  จนได้ยินเสียงลุง สะอื้นมาตามสาย  แกร้องไห้เหมือนเด็กๆ บอกไม่ต้องผ่าตัด  ป้ากระโดดตัวลอย ดีใจมาก บอกจะรีบไปหาแก  หลังจากวางหูป้ารีบโทรไปบอกเเม่   แม่แกคุยใหญ่ว่านี่เพราะปู่โตส่งบุญมาถูกคน  ป้ารีบกราบปู่ใหญ่และบอกแม่ว่าจะส่งเงินไปให้บวชพระให้คนที่ยากจน และช่วยสร้างโบสถ์ในนามของลุงอนิสงฆ์บุญคุนของแม่คุ้มครองมาถึงลูกเขย ขอให้แม่มีชีวิตยืนยาวเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรคุ้มครองลูกหลาน สาธุ...........รักแม่มาก.....จากลูก

เจอหน้าคนป่วย

ลุงแกตระโกนเรียกป้าทันทีที่เห็นหน้า  ป้าแล่นถลาไปจูบแกทันที...หน้าตาลุงสดใสมีเลือดฝาดมากแดงระเรื่อ.....แกบอกหมอใช้ลูกโป่งและทำให้แกคนเดียว2 ชั่วโมงครึ่ง  แกทำเป็นคนที่3  วันนั้นหมอทำงานหนักมากกับลุงคนเดียวเหงื่อหยดเต็มไปหมด  และลุงรีบกระซิบบอกป้าอยากเยี่ยวมาก  แหมแกเจอหน้าป้าทีไร ป้าต้องทำหน้าที่คีบลูกชายแกออกจากอู่ลูกเดียว   แกเยี่ยวออกมามากจนเต็มถังพลาสติก  ป้าต้องใช้เวลานานปลอบขู่ลูกชายแกจนยื่นหน้าออกมาเยี่ยวได้  นางพยาบาลบ่นกับป้าว่าลุง  ไม่ยอมให้แกทำ ต้องรอให้เมียมาก่อน

หลังจากทำธุระเสร็จ....ลุงบอกหิวมาก  ป้านั่งป้อนข้าวให้กินหมอห้ามไม่ให้ลุงขยับตัวและเคลื่อนไหว....แกกินไปจับมือป้าไป  บอกรักป้ามาก..ชั่วชีวิตแกทำทุกอย่างเพื่อป้าคนเดียว...จนกว่าลมหายใจ..เฮือกสุดท้ายจะหมดไป...หลังจากนั้นสักพักเขาเข็นคนไข้อีกคนเข้ามา..ลุงเห็นแค่หัวคนไข้คนใหม่ แกตระโกนร้องเรียกชื่อเลยเขาหันมาพร้อมทั้งตบอกผางๆๆๆๆบอกเจอแล้วที่ทำให้เขาต้องรอนานมาก...แกนี่เอง..  ลุงหัวเราะลั่นอารมณ์ดีมาก  เป็นอันว่าโลกกลมมาก  เพราะเป็นผัวเพื่อนที่ร้องเพลงกัน  และเมียเป็นคนที่บอกให้ลุงหันมากินข้าวโอตดิบๆ  วันละ2ช้อนแล้วจะไม่ต้องเป็นโรคหัวใจ  ป้ากระซิบบอกลุง  ที่บังคับให้ลุงกินข้าวโอตทุกวันต่อไปนี้ไม่ต้องกินแล้ว  แหมลุงแกปากมอมมากหันไปบอกเขาเลยอยากจะดีดมาก เพื่อนแกชอบใจมากบอกสงสัยคงกินมากไปเลยไม่ออกฤทธิ์

วันรุ่งขึ้น

เขาย้ายลุงเข้ามาห้อง OP2  มีคนไข้3คน นอนในห้อง  ลุงได้เล่าให้ป้าฟังถึงการใช้ลูกโป่งแกเล่าถึงวิธีทำน่าสงสารแกมาก  หมอเจาะตรงโคนขาง่ามตรงตรงจุดเดิมที่เจาะมาตั้งแต่คราวที่แล้ว และหมอใช้ท่อพาสติกยัดเข้าไปและอุดใช้เวลาประมาณครึ่งชมกดเพื่อให้เลือดหยุดและนางพยาบาลจะต้องกดตรงตีนแกเพื่อช่วยหาตำแหน่งเส้นเลือดแกบอกปวดมาก มีหมอ 2 คนและศาตราจารย์ที่ทำหน้าที่ชำนาญโดยเฉพาะมาคุมเองเสียงสั่งงานตลอดเวลาเขาพากันยกร่างแกขึ้นวางบนเตียงที่มีกล้องการทำงานส่งรับภาพ  เตียงใหญ่ขนาดพอตัวพอดีแกเจ็บมากตอนช่วงที่เขายกตัวแกขึ้นเตียง  ระหว่างที่ยกต้องระวังอย่างเต็มที่เพราะมีหลอดพลาสติกคาอยู่  และเริ่มทำงานทันที

ขณะที่หมอทำงานลุงจะเห็นการทำงานจากจอภาพตลอดเวลา    บางขณะแกจะรู้สึกร้อนวูบๆๆๆๆแสบบอกไม่ถูก   หมอบอกเพราะต้องบีบน้ำยาเข้าเส้นเลือดเข้าลูกโป่งเพื่อให้ลูกโป่งขยายตัว   หมอค่อยๆขยับเส้นลวดตลอดเวลา...............ขยับเบามือมาก........ถ้าทำพลาดหลอดเลือดฉีกขาด......ต้องผ่าตัดทันที........

ลุงต้องเอามือไว้ที่ท้ายทอยตลอดเวลา มีกล้องจับตลอดระหว่างคอแก...กล้องอันนี้ช่วยในการรับภาพออกมา.....หมอพูดและพยายามตลอด........

1ชั่วโมงผ่านไป............
2ชั่วโมงผ่านไป........
ติ๊กตั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

จนจะ2ชั่วโมงครึ่ง.............
หมอเริ่มซุบซิบกัน..............
ลุงอธิษฐาน................
ไม่ผ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....

หมอบอกทะลุแล้ว...สำเร็จ...หมอบอกเจออุดตันข้างๆๆๆๆหลายเส้น...ทำความสะอาด.. เอาลูกโป่งดันหลอดเลือดสำเร็จ  เอาท่อพลาสติกใส่ตรงที่ดันไม่มีรอยอุดตันเเล้ว    ค่อยๆเอาลวดขยับออก  ดึงอย่างระมัดระวังมาก.......
หลังจากนั้นการเอาเส้นลวดเล็กๆออกได้สำเร็จ แต่ท่อพลาสติกที่ฝังอยู่ตรงง่ามขายังคาอยู่
เพราะเผื่อการฉุกเฉิน...ถ้าเส้นเลือดแตกรักษาไม่ทันตายได้.........ต้องกดจนเลือดหยุด.....ลุงต้องนอนนิ่งๆๆๆห้ามขยับตัว.....แกทรมานเจ็บตอนเขายกตัวแกลงจากเตียง......

30  ชั่วโมงเต็มๆ..........ห้ามขยับตัวขยับขาที่ฝังท่อไว้..เหมือนตกนรกทั้งเป็น....

ชีวิตมีอยู่แค่นี้เอง...........เราสัญญากันจะใช้ชีวิตบั้นปลายให้คุ้มค่า.......ไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาอีก
นานแค่ไหน..........

.............ชีวิตมีอยู่แค่นี้เอง........

การทำงานของการใช้ลวด

ที่ค่อยๆดันเข้าเส้นเลือด

   

หลอดเลือดที่จะทำ

เส้นลวดเล็กๆที่ใช้แทง

ลูกโป่งที่จะใช้ขยายดันหลอดเลือดสวมบนแท่งพลาสติก

หมอกำลังใช้น้ำยาดันขยายลูกโป่งขายหลอดเลือดเพื่อให้หลอดเลือดขยายตัว

พอเสร็จเอาออก

รอฝังท่อเล็กๆเพื่อไม่ให้ตันอีกต่อไป

ท่อเล็กๆอันนี้ราคาแพงมากหมอบอกประมาณ CHF 2000คิดเป็นเมืองไทยตก6หมื่นกว่าๆ

คุยกับหมอ

ป้าไปนั่งเฝ้าดูแลลุงทุกวัน กว่าจะกลับบ้านได้ค่ำมืดดึกดื่นทุกคืน แกคางอ๋อยๆบอกปวดหลังมาก  วันแรกลุงแกปวดท้อง ปวดหลังมากปวดจนหน้าซีด หมอมาขยับดูตรงหน้าท้องที่แปะพลาสเตอร์หนาเตอะและตรงง่ามขาที่ยังมีท่อพลาสติกคาอยู่  หมอให้อดทนและเห็นใจมากเฝ้าตรวจดูว่ามีเลือดไหลไหม ลุงนอนตาลอย    นับนาฬิกาที่หมอบอกอีก 4 ชม.นางพยาบาลจะมาเปิดแกะเอาพลาสเตอร์ออก
1.......2........3........4............
ลุงบอกนางพยาบาลเว้ยมาเปิดผ้า.......ไม่ใช่ผ้านางพยาบาลนะ  ขืนไปเปิดลุงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆๆๆๆ นางพยาบาลมา.....บอกรู้แล้วพี่ เขาบอกนี่เห็นลุงเจียมเนื้อเจียมตัวดีเลยรีบมา   นี่ขนาดรีบนะลุงบ่นต้องให้ป้าไปเรียกเขาถึง3หน   เขาค่อยๆๆแกะดึงเอาท่อออกและกดจนแน่ใจว่าเลือดไม่ไหล ป้าชะโงกไปมองดูแล้วกลั้นขำมาก เพราะตรงลูกชายลุงหมอโกนจนล้านครึ่งหนึ่งอีกครึ่งปล่อยให้ขนพะเยิบพะยาบไหวไปมา  สงสัยจริงๆน่าจะโกนให้หมด สงสัยลุงแกคงจ่ายแค่ครึ่งราคาเขาเลยโกนให้ครึ่งเดียว   ส่วนน้องชายลุงหลับอย่างมีความสุขมาก

นางพยาบาลบอกเบาๆๆๆๆขยับขาขยับอะไรได้แล้วนะ  ขยับอะไรได้ตามใจชอบ  แต่ห้ามลุกเดินไปมา สงสัยคงเห็นแกเดินพล่านไปมาตอนครั้งแรก  ก็นี่เป็นชุดเดิมทั้งหมดในห้องนั้น  เขาให้แกนอนนิ่งๆๆ20นาทีก่อน แกลอยหน้าลอยตาถามเขาใหญ่ว่าทำไม?....ป้าหมั่นไส้มาก พออาการเริ่มดีขึ้น แกชักจะซ่าขึ้นมาอีกแล้ว  เขาก็อดทนดีบอกเพราะลุงนอนมากอาจจะหน้ามืดตาลายถ้าลุกกะทันหัน   ลุงบอกดีใจมากหายปวดท้องปวดหลังแล้วสงสัยเพราะท่อที่ฝังไว้แน่ๆๆที่ทำให้แกปวดแกเดินได้รอบเดียวบอกพอแล้วหน้ามืดตกลงหายซ่าไปได้ แกรำคาญมากอยากจะจั่วแก้เซ็งนี่ขนาดอยู่โรงพยาบาลนะ  ป้าเลยเอาใจนั่งจั่วได้แค่รอบเดียว  แกบอกขอนอน หน้าตาซีดไปหมด  นอนไปบ่นไป ป้าเซ็งมาก แกบอกเห็นอากาศดีๆแล้วเบื่อที่ต้องมานั่งนอนแบบนี้อยากอาบน้ำมาก  แต่นางพยาบาลสั่งบอกห้ามเด็ดขาด  ป้ารำคาญเลยฉีดกุชชี่ เนวี่ใส่แก  น้ำหอมกลิ่นนี้เขาบอกฉีดแล้วผัวจะหลงป้าฉีดใส่แกแหมโดนด่าเลย  แกบอกฉีดที่ตัวแกไม่ใช่ฉีดที่หน้าแบบนี้ป้าเซ็งมากทำดีแล้วไม่ได้ดี  หมอมาดูลุงอีกคุยกันถูกคอเขาบอกชอบลุงมาก  ตั้งแต่มีคนไข้มาไม่เคยเจอใครแบบลุงเลยลุงยิ้มแก้มปริแกบ้ายอมาก......

ป้าฟังทะแม่งๆๆๆๆแต่ลุงด่าบอกป้าชอบคิดร้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อาจจะจริงของแกก็ได้ หมอจ้องตาลุง  แต่ดูแล้วท่าทางหมอจะชอบลุงจริงๆๆ  หน้าตาหมอหล่อมากแบบแบรนพิด  ป้าถามหมอทำไมลุงเป็นโรคหัวใจ 

หมอบอกสาเหตุการเกิดโรคหัวใจเกิดได้หลายสาเหตุ

เช่นเครียด.......สงสัยถ้าจะจริงของหมอ  ลุงด่าป้าจนเป็นโรคเครียดลงหัวใจ แกชอบพูดว่าคนใกล้ตัวมากๆเป็นสาเหตุ
สูบบุหรี่ แต่ลุงไม่สูบ.....แต่เอ....ป้ากับลุงชอบแปะเล่น Lottoตัวเลข  ไปนั่งดมควันบุหรี่หลายปี อาจจะเป็นสาเหตุ

บอกเป็นกรรมพันธุ์ ป้าหันไปถามลุงว่า  ปู่ย่าเป็นไหม แกหันมาด่าว่าถามทำไม  แกจะไปรู้ได้อย่างไร แกยังไม่ได้เกิด  พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว
เบาหวาน ลุงไม่เป็น  

เรื่องอ้วน นี่แกชอบกินมาก ขนาดยังนอนกินเลย  ตกลงของลุงเลยหาสาเหตุไม่ได้อย่างชัดเจนป้าเลยบอกลุงว่าไม่ตายง่ายๆหรอก หมอดูบอกลุงจะอยู่จนอายุครบ90ปี...ป้าไม่อยู่จนถึงอายุเท่าแกหรอกขอไปก่อน...........

ความดันสูง  ลุงไม่เป็น

ไม่ค่อยออกกำลังกาย  ป้าชักเริ่มคิดว่าออกกำลังแบบไหน  ถ้าซ่าออกกำลังกายนอกเตียงแกซ่ามากถ้าซ่าออกกำลังกายอย่างอื่นอาจจะจริง

หมอฟังแล้วคงรำคาญ 2 คนผัวเมียมาก  บอกแล้วจะมาใหม่วันพรุ่งนี้ และอนุญาตให้ลุงกลับบ้านได้วันพฤหัส ลุงบอกไม่อยากกลับอยากอยู่ต่อ  หมอบอกต้องกลับ   ป้าเซ็งลุงมากถามว่าอยากจะอยู่ต่อจริงเหรอ  ส่วนที่เขาให้อยู่ต่อรั้นจะกลับ  พอจะให้กลับอยากอยู่ต่ออีก  แกบอกพูดเล่น ตกลงลุงนอนพักอยู่โรงพยาบาลคราวนี้แค่3คืนดีใจมาก........เพราะเหนื่อยมาก   ป้าบอกลุงว่าไม่มารับแกนะ ให้แกกลับกับเพื่อน

บทส่งท้าย

ป้าจัดบ้านต้อนรับแกแบบไม่ยอมลงทุนอะไรมาก  คว้ามีดไปตัดดอกไม้ข้างถนน ที่มันเพยอหน้ามาลืมตามองโลก อยู่ 3ช่อ ขนาดแทรกออกมาจากเสาคอนกรีตนะ  ลำต้นผอมโซสภาพแบบเด็กขาดอาหารแถวเอธิโอเปีย และป้าไปตัดดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งเพราะสดๆมันตายหมดแล้วตรงสนามหญ้าเอามาปักเเจกัน   นี่ทุ่มทุนสุดขีดต้อนรับลุงกลับบ้านอย่างมโหฬาร

ปิ๊นๆๆๆๆๆๆๆๆลุงมาแล้ว...เดินระริกระรี้...กลับมาบ้าน.........พอเปิดประตูเข้ามา โอ๊ยแกยิ้มแก้มปริบอกเพื่อนว่าเมียจัดดอกไม้ต้อนรับแก..........ธรรมดาป้าไม่เคยจัดหรอกแกทำคนเดียวเพื่อนไปแล้ว  ลุงบอกอยากไปดูดอกไม้ข้างล่าง ป้าพาไป..
" gpphlj,k;'k[p]kkkljljl " เสียงด่าจนหูป้าชา  บอกเดี๋ยวหัวใจจะกำเริบอีก  ที่แกด่าไม่ใช่อะไร เพราะคนมาขโมยตัดกุหลาบที่แกปลูกไปหมด  แกบ่นดินฟ้าอากาศ.......บ่น     สงสัยที่แกบ่นยกกำลังสองนี่คงอัดอั้นตันใจไม่ได้บ่นมาหลายวันกลับมาข้างบน.....ไอ้ลูกชายคนโตมันโทรมาบอก
" หมามี้ๆๆจะกลับมาถึงบ้าน ตอนบ่ายนะ เครื่องบินจะออกเวลานี้"

ลุงกับป้ารอมันจนเย็น มันถึงโทรมาบอกว่าตกเครื่องบิน ลุงเลยได้โอกาสด่า  นี่แกระรานคนเขาไปทั่วเลย  เราคอยมันจน4ทุ่ม ฝ่านมันโทรมาบอกว่าลงจากเครื่องบินแล้ว  ไม่มีรถไฟมา พ่อมันบอกไม่มีรถไฟกลับบ้านจริงๆให้ไปนอนที่สถานีรถไฟ  ป้าถามมันว่าดูตารางรถดีแล้วเหรอมันบอกดีแล้ว   ลุงแล่นถลาไปดูคู่มือแก บอกว่ามีอีกขบวนจะออกภายใน3นาที เซ็งไอ้ลูกชายจริงๆ   ตกลงมันมาถึงBERN ร่วมตี1   ด้วยความรักลูก ลุงแกขับรถไปรับหมอยังห้ามอยู่ไม่ให้ขับรถยนต์ เดือนเต็ม

พอมาถึงบ้านไอ้ลูกฝ่านมันเอาใจพ่อแม่  เอาของฝากมากองให้ บอกของกินสำหรับพ่อแม่   ลุงบอกที่มันซื้อมาเราไม่ค่อยชอบกินหรอก  ของชอบของไอ้ลูกฝ่านทั้งนั้นเห็นไหมมันเลี้ยงต้อย.....พ่อแม่......

สรุป

สิ่งไรที่ป้าเขียนเล่ามาทั้งหมดด้วยความรักความผูกพันด้วยหัวใจทั้งหมดที่มอบให้ลุงคนเดียว    ตลอดร่วม 30 ปีที่อยู่กันมา  ผ่านทั้งทุกข์...ทั้งสุข..ความอนาทร..ห่วงใย...ปารถนาดี..ที่ลุงกอดประคอง..ซับน้ำตายามป้าทุกข์ใจ   ขอให้ลุงมีอายุยืนยาว......มีความสุข.......มีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ..และใช้ชีวิตบั้นปลายให้สมกับ ความเหน็ดเหนื่อยที่ได้รับมาตลอดชีวิต  และจะขาดไม่ได้คือแม่ผู้มีพระคุณล้นฟ้า  น้องผู้แสนดี  ที่ทุ่มส่งความห่วงใยมาให้ตลอดเวลา และเพื่อนพร้องหลานๆที่ติดต่อกันทางเน็ทที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน   ขอขอบคุณทุกๆคนที่นี่อีกครั้งหนึ่ง

ด้วยความรัก ปารถนาดี

26  มิถุนายน   03
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน  ลองเข้าไปอ่านลิงค์นี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย

http://www.bangkokhealth.com/heart_htdoc/heart_health_detail.asp?Number=9021

 

Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved