ตอน2           

                <<<< Trip to Brig-Buerchen-Toerbel >>>>

 

พาเที่ยว

 

BERN – BRIG –BUERCHEN – RONALP - TOERBEL – STALDEN-BRIG –BERN

 

 

แล้วแต่เขตที่อยู่แต่ของป้าจะเริ่มที่  Bern

1.ขึ้นรถไฟจาก   BERN - BRIG

2.  ลงจากรถไฟจาก  BRIG ไปขึ้นรถ POSTAUTO  (ดูป้ายที่เขียนว่า SAAS FEE ที่จอดรออยู่หน้าสถานีก่อนจะขึ้นควรสอบถามขบวนรถที่จะออกว่าจะหยุดที่VISP ไหม เพราะบางคันเขียนว่า SAAS FEE แต่ไม่หยุดจะวิ่งจนไปถึง SAAS FEE

3.  ลงจากรถที่ VISPเพื่อไปขึ้นรถ POSTAUTO จาก VISP ไปที่  BUERCHEN จุดหมายปลายทางคือRONALP

4.เดินทางบนเขาด้วยเท้าจาก RONALP เพื่อไปยัง TOERBEL  หลังจากนั้นขึ้นรถ POSTAUTO มายัง   STALDEN  5.ลงจากรถ POSTAUTO  มานั่งรถไฟสายตรงไป  BRIG   ลงจากสถานี BRIG  มาขึ้นรถไฟสายใหญ่ที่วิ่งจาก BRIG  - BERN

 

ข่าวร้าย

นอนแผ่สองสลึงจากการเดินทางจากSamedan ตดยังไม่ทันจะหายเหม็น ได้ยินเสียงลุงกางแผนที่ตำราออกเดินทางขึ้นเขาอีก

“Pall   ชั้นเจอทัวร์ตระกายเขาน่าสนใจมากรับรองเธอจะชอบ เดินเขาคราวนี้ไม่ไกลเท่าไรร่วม 5 ชั่วโมงเท่านั้น  ทัวร์ที่ชั้นจัดแต่ละแห่งรับรองเธอจะเด๊ะตลอดไม่ต้องไปเข้าค่ายฟิตเนตที่ไหนเลย  

ไม่ไปด้วยได้ไหมขอลาออกจากลูกทัวร์เธอแล้ว ป้าโอดครวญเพราะเข็ดมากจากการตระกายเขาจากคราวที่แล้ว กระดูกยังไม่เข้าที่เลยแกจะซ่าทำทัวร์อีก  เริ่มแก่ตัวลงแกยิ่งซ่ามากกว่าเดิม  และเขาแต่ละลูกไม่ต่ำกว่า 2000 เมตร พอเห็นตัวเลขก็เริ่มท้อแล้ว

ไม่ได้เธอต้องมาด้วยชั้นมีเธอที่เป็นลูกทัวร์คนเดียว

เซ็งมากเลยไปด้วยก็หูชาขืนไม่ตามไปด้วยหูคงชามากกว่าเดิมแน่ๆ  เลยต้องจำใจตามใจแกเพื่อป้องกันสุขภาพหูไว้  แกกระดี้กระด้ามากถ้าได้ออกเที่ยว เห็นดูพยากรณ์ดินฟ้าอากาศทางโทรทัศน์ทุกวัน

ชั้นดูพยากรณ์แล้วฤกษ์ดีมาก วันที่ 16 กันยายน 2003 จะออกเดินทางแต่เช้าตรู่นะ

อย่าเว่อได้ไหมบ๊อบบี้แค่วันที่ก็พอแล้ว นึกถึงทัวร์ที่แกจะคิดจัดแล้วกลัวมาก สงสัยคงคล้ายๆกับทัวร์พาเที่ยว  Samedan  แน่ๆ

 

วันที่ 15 กันยายน 2003 ก่อนออกเดินทาง 1 วัน

แกลากป้าไปซื้อตั๋วกับแกด้วย  คนขายตั๋วไม่ใช่คนหน้าตูมและไม่ใช่คนหน้าบานคนเดิมที่เคยซื้อตั๋วตอนไปSamedan   แต่เป็นคนหน้าครึ่งตูมครึ่งบาน  ลุงถามคนขายตั๋วใหญ่ถึงทัวร์ที่แกคิดจะจัดไปวันที่ 16 กันยายน(วันอังคาร) คนขายตั๋วกดแป้นกร๊อกแกรกๆนานมากถึงได้บอกลุงว่า มีปัญหาเรื่องตั๋วรถบัส(Postauto)ที่จะขึ้นจาก Brig เพื่อไป Buerchen นั้นไม่รู้ราคาแน่นอน เห็นแกกดหาราคาใหญ่สักพักถึงได้บอกลุงว่าราคาไปกลับทั้งหมด  CHF 51.60  / คน  เป็นตั๋วลดครึ่งราคา  ต่อมการเงินในหัวป้าเริ่มทำงานคิดตัวเลขทันที สองคนก็CHF 130.20  กว่าจะงัดเงินออกจากกระเป๋าได้นานมากจนลุงด่า

 

เตรียมตัวออกเดินทาง 16  กันยายน 2003

รถไฟที่จะแล่นออกจากKoeniz ออกเวลา 6.55 น  แต่ลุงปลุกป้าให้ลุกขึ้นตั้งแต่ตี5 กว่าๆตามสะไตล์การพาเที่ยวของแก  ก็เข้ารูปเดิม...ฟอร์มเดิม....เหมือนการพาเที่ยวทุกครั้ง พากันตื่นตัวตอนไฟลนตูดเกือบไปขึ้นรถไฟไม่ทัน

 

Koeniz – Bern

6.55 น ตรงรถไฟแล่นออกจากสถานีตรงเวลามาก  หาที่นั่งแทบไม่ได้คนขึ้นรถไฟเต็มไปหมด ช่วงเช้าแบบนี้คนออกมาทำงานกัน จะมีเร่ร่อนไม่ยอมทำงานก็ลุงแกนั่นแหละ  รถไฟขบวนนี้เพิ่งสร้างใหม่สวยมากเบาะเป็นหนังสีฟ้าแก่มีลายคาด  บันใดขึ้นเทียบกับชานชาลาขึ้นลงพอดี ไม่ต้องตะกายขึ้นบันได้เหมือนขบวนรถไฟอื่นๆ  ข้างในกว้างขวางหรูหราพอควร เป็นครั้งแรกที่มีวาสนาได้นั่ง

Bern –Brig

เราขึ้นรถไฟที่ Bern เพื่อออกเดินทางไป Brig   โชคดีที่ไม่ต้องเดินไกลรถที่จะขึ้นอยู่ตรงใกล้ๆกันเป็นรถไฟเร็ว IC  พอเวลา 7.22 น ตรงรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานี  ข้างในมีคนมากเช่นเดิม  หาที่นั่งได้ดีใจมากและที่นั่งไม่อยู่ใกล้ประตูที่ต้องเปิดเข้าเปิดออก  ไม่งันคงจะซวยมากเพราะคนเดินเข้าๆออกๆตลอดเวลา   ท้องฟ้าเริ่มกระจ่างมากมองเห็นวิวข้างทางสวยมาก รถไฟขบวนที่นั่งแล่นผ่านสถานีต่างๆโดยไม่หยุดจอดแวะเพราะเป็นรถไฟขบวนเร็ว

ระหว่างทางที่ผ่านเห็นโรงงาน Haco

  HACO

เป็นโรงงานที่ตั้งมานานแล้วแม่ผัวป้าก็เคยทำงานที่นี่ตั้งแต่เป็นสาวจนปลดเกษียณ แกทำงานร่วม 30 ปี ลุงแกก็เคยมาทำงานตอนเป็นหนุ่มรู้สึกว่าจะเป็นปี 1958 แต่ทำช่วงสั้นๆแค่ 2อาทิตย์เพื่อเก็บเงินมาซื้อ Benz 2 ล้อ(จักรยาน)เงินเดือนแกไม่พอ ตอนนั้นคนสวิสรายได้แค่เดือนละ CHF 500  เท่านั้น  Haco  เป็นที่รู้จักกันดีถ้าคนอยู่สวิสไปซื้อของที่ Migro ลองไปดูกาแฟ  โอวัลติน พวกเครื่องเทศผสมต่างๆจะมาจาก Haco โรงงานอยู่ที่ Gümligen  แถบเดียวกับที่ป้าอาศัยอยู่ และ Schwarzenburg  โรงงานแห่งนี้มีคนงานประมาณ 550 คน  ระหว่างที่รถไฟแล่นผ่าน Haco จะเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วแสดงให้เห็นว่าจวนจะเข้าหน้าใบไม้ร่วงแล้ว

รถไฟแล่นผ่าน Wictrach  สถานที่นี้เปลี่ยนไปมาก ตอนป้ามาอยู่ใหม่ๆไปเที่ยวหาเพื่อนลุงแถวนี้ ไม่มีบ้านปลูกอาศัยมากเท่าไรแต่ตอนนี้บ้านใหม่เต็มไปหมด  และตอนนี้น่าเสียดายมากเอาที่นามาทำสนามกอล์ฟที่สร้างใหม่เห็นเด่นชัดตอนรถไฟแล่นผ่าน ป้านั่งมองวิวข้างทางเพลินจนลุงบอกจะถึง Thun แล้ว รถไฟหยุดส่งรับคนส่งคนที่สถานีนี้

 Thun

Thun  สวยมากใครมาเที่ยวไม่ควรจะพลาด  ในตัวเมืองจะมีสถานที่เก่าแก่น่าสนใจมาก มีสถานที่เที่ยวหลายแห่ง  ไม่ว่าจะเป็นสวนกุหลาบติดทะเลสาบThun และมีประวัติเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หลายอย่าง จัดว่าเป็นเขตที่สวยมากในเขต Berner Oberland เช่นกัน ถ้าขึ้นไปชมวิวข้างบนปราสาทจะเห็นวิวเทือกเขาสวยมากเช่น Eiger,Mönch และ Jungfrau และอย่าลืมเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ข้างในให้ได้  จะเห็นและได้รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์หลายอย่างที่นั่น

สถานีThun สร้างใหม่ใหญ่โตพอควรนานร่วม 10 ปีแล้วไม่ได้เข้าไปเที่ยวเหมือนสมัยตอนมาอยู่ช่วงแรกๆ  คนลงที่สถานีนี้มากโบกี้ว่างเป็นแถบๆเลย  แต่แล้วก็เต็มเหมือนเดิมเพราะมีกลุ่มเด็กนักเรียนขึ้นมากันเป็นกลุ่มๆ  อากาศดีแบบนี้ทางโรงเรียนที่นี่จะจัดพาเด็กเที่ยวนิทัศน์การนอกโรงเรียนเป็นเรื่องธรรมดา  เด็กๆจะพากันดีใจกันมากที่ไม่ต้องมาเรียนหนังสือ  เห็นไหมเด็กไม่ว่าชาติไหนๆก็เหมือนกัน

รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานี Thun  ระหว่างทางที่รถไฟแล่นผ่านลุงบ่นงึมงำแถวนี้เปลี่ยนไปมากเลย  มีบ้านสร้างใหม่มากมายจนจำไม่ได้  ทะเลสาบ Thun สวยมากท่ามกลางภูเขาที่ล้อมโอบ  น้ำเป็นสีครามใสสวยมากยามที่แดดทอแสง  ระหว่างทางเห็นวิวสวยจนบรรยายไม่ถูก  รถแล่นผ่านมาตลอดและหยุดลงที่สถานี Spiez

  Spiez  Schloss

Spiez สวยมากใครมาเที่ยวแถวนี้อย่าลืมแวะมาชมปราสาท Schloss Spiezให้ได้นะ  ที่นี่จะเปิดให้คนเข้าชมจากหน้าร้อนจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 

Simmentalerhaus

พิพิธภัณฑ์บ้านหลังนี้น่าสนใจมากเป็นบ้านทรง Simmentalerhaus สร้างปี 1728  ยังมีอีกมากมายเกี่ยวกับSpiez

มีคนขึ้นมากพอสมควร  การมาเที่ยวคราวนี้เงียบผิดปรกติมาก  จนมีชายแก่สวิสโชคร้ายแกเดินกระย่องกระแย่งหลงมานั่งที่ว่างข้างๆ  ลุงที่นั่งเงียบมาตลอดทางเริ่มส่งเสียงคุยคงจะอัดอั้นมานาน  สงสารคนแก่คนนี้มากที่ก่อนจะนั่งน่าจะดูให้ดีสักหน่อย  แอบเห็นแกเขย่าหูไปมาสงสัยขี้หูแกคงจะเต้นมาก จำไว้นะถ้าคนมีริมฝีปากเล็กๆเรียวๆอย่าหน้าแหลมไปนั่งข้างๆ

สถานีSpiez และดูใหม่และสะอาดมากสร้างสวยงาม และดีมากตรงที่ระดับชานชาลาเทียบกับบันใดขึ้นลงพอดี   สถานที่นี่ขึ้นชื่อมาก  มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาก ระหว่างทางมีไร่องุ่นปลูกเต็มไปทั่วไหล่เขา ทะเสสาบ Faulensee สวยเรียบสงบ  รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีไปนิดเดียวเริ่มเข้าอุโมงค์เป็นอุโมงค์สั้นๆพอเลยออกมาเห็นภูเขาหิมะจับเต็มไปหมด  สองข้างทางมีแต่สิ่งที่เขาจะใช้ในการก่อสร้างวางเต็มไปหมด 

ได้ยินเสียงลุงแกคุยลั่นแข่งกับกลุ่มเด็ก  เห็นคนแก่ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักไปมา น่าสงสารมากที่ต้องฟังเสียงลุงและฟังเสียงเด็กซึ่งส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังไปหมด  เห็นพวกเด็กๆงัดเอาของกินและน้ำดื่มมากินกันเบาเสียงไปได้หน่อย   ระหว่างที่รถไฟแล่นผ่านจะเห็นเขา Niesen ไกลๆวิวแถบนี้สวยมากจะมีเขาขนาบสองข้างทางตลอดสาย  เลย Leichenbach ไปหน่อยจะเห็นเขากำลังก่อสร้าง NEAT ทางรถไฟสายใหม่ซึ่งจะทำเป็นอุโมงค์ใหญ่สาย Lötschberg ซึ่งทำการสร้างจาก  Frutigen หุบเขา Kandertal ไปยัง Raron/Visp ซึ่งอยู่ในรัฐ Wallis  ซึ่งจะเปิดบริการใช้เส้นทางนี้ปี 2007

 NEAT          Frutigen

รถไฟได้วิ่งเข้ามาหยุดที่สถานี Frutigen  พอรถไฟหยุดคนแก่ที่หลงทางมานั่งข้างลุงรีบลุกแบบดีใจมากที่รอดพ้นจากหูเต้นไปได้  แกรีบเดินเป๋ออกแข่งกับพวกเด็กๆ  สถานีนี้มีคนขึ้นลงมากมาย  ส่วนมากจะมาเดินเขากัน 

รถไฟเริ่มแล่นผ่านเข้าอุโมงค์ที่2,3,4,..........อุโมงค์ที่7 แล้ว

ที่นี่จะเห็นถึงความแตกต่างจากเขตอื่นๆ  เส้นทางรถไฟจะสร้างวางคล้ายเป็นวงกลมพาขึ้นเขา  รถไฟจะวิ่งจากแนวเขาจากด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่งจะเห็นหมู่บ้าน Frutigen ที่ผ่านมาแล้ว    ข้างล่างที่เห็นมีหุบเขาล้อมรอบสวยมาก

 Frutigen

ป้านั่งนับรถไฟแล่นเข้าแล่นออกผ่านอุโมงค์ ที่ 11 ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุด นั่งนับจนลุงแกรำคาญมาก แกเลยด่าเอา  สงสัยแกคงจะเริ่มเหงาปากไม่มีคนคุยด้วย 

Kandersteg

รถไฟแล่นมาหยุดลงที่สถานี  Kandersteg  จะมองเห็นเขา Bluemisalp ไม่ไกลจากสถานี สถานที่นี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักเดินเขาทั่วโลกและเล่นสกี  มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอด  สถานที่นี้สวยมาก  มีกระเช้าให้ขึ้นไปข้างบน  ป้าไปเดินเขาที่นั่นทุกปี  ข้างบนจะมีทะเลสาบเล็กๆสวยมาก คนมาปิกนิกกัน วิวสวยที่สุด และที่นี่มีวัดไทยวัดป่าสายหลวงปู่ชา เป็นวัดป่าที่เคร่งมาก  วัดแห่งนี้สมัยก่อนเป็นโรงแรมเก่าทรงChalet แล้วไปซื้อมา ต้องบูรณะซ่อมแซมหมดเงินไปมาก  วัดแห่งนี้เจ้าอาวาสที่เป็นพระฝรั่งพูดไทยคล่องมาก

 Loetschental

รถไฟมาหยุดจอดรับส่งผู้โดยสารพอถึงกำหนดเวลาก็ค่อยแล่นออกจากสถานี  เลยสถานีไปได้สักหน่อยรถไฟก็ค่อยๆแล่นเข้าอุโมงค์ เพื่อไป Wallis-Goppenstein  อุโมงค์สายนี้ยาวมากใช้เวลาประมาณ 12 นาที  รถไปพอเลยจากอุโมงค์จะไปถึง Goppenstein รถได้หยุดลงที่สถานีนี้ ที่นี้รู้จักกันดีสำหรับคนใช้เส้นทางรถยนต์  เขาจะเอารถยนต์ขึ้นบนรถไฟ   เส้นทางสายนี้จะใช้เส้นทางรถยนต์ไม่ได้เลยมีแต่หุบเขา Loetschental  ดังนั้นทางรถไฟจึงได้เปิดบริการแบบนี้ให้แก่รถยนต์โดยเฉพาะ 

 Rhonetal

รถไฟที่จะไปที่Brig แล่นผ่านอุโมงค์มากมาย  ป้านั่งนับจำนวนอุโมงค์จนลุงด่า  บอกว่าไม่นับดังๆได้ไหมให้จดใส่กระดาษเอา นี่แปลว่าแกคงจะเริ่มเซ็งมากเลยหาเรื่อง  ตั้งแต่นั่งกันมายังไม่ได้ฉะกันเลยเพราะป้าไม่ว่าง ต้องนั่งดูวิว  เส้นทางรถไฟสายนี้สวยมาก  ถ้าใครมาเที่ยวอย่าพลาดควรจะมานั่งรถไฟชมวิวเล่นแก้กลุ้มถ้าไม่กลุ้มก็ไม่เป็นไร   รถไฟค่อยๆแล่นลงจากข้างบนเขาสูงเพื่อลงไปข้างล่าง  จะแล่นโค้งไปมา  ช่วงที่รถไฟแล่นพาลงข้างล่างจะเห็นหุบเขา Rhonetal  ยาวสวยมากทอดยาวจนไปถึง Genfersee  ช่วงนี้จะเห็นแม่น้ำ Rhone

ทอดยาวสีคราม  แม่น้ำสายนี้จะไหลไปถึงประเทศ ฝรั่งเศส

ช่วงที่รถไฟแล่นพาไปสู่ข้างล่างอย่าพลาดมอง  เหมือนกับเราโดนโอบกอดด้วยภูเขา  ภูเขาสูงล้อมรอบไปหมด   เราเริ่มจะเห็นหมู่บ้านเล็กๆข้างหน้านั่นคือหมู่บ้าน Visp เป็นหมู่บ้านอุสาหกรรม  และเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ  ไม่ว่าจะไป

 Visp   Lalden, Rhone river

Visp ที่นี่ดังมากเป็นที่รู้จักกันดีด้านปุ๋ยเคมี Lonza  รถไฟพาแล่นผ่านลอดอุโมงค์ไปเรื่อยๆ  แล่นผ่าน Lalden จะเห็นแม่น้ำ Rhone สวยมาก และที่นี่จะเห็นสถานที่ตั้ง Camp ใหญ่มากมีทุกอย่างแม้กระทั่งสระว่ายน้ำ  รถไฟพาแล่นผ่านอุโมงค์รวมกันทั้งหมดเส้นทางสายนี้เท่าที่นับรวมแล้วประมาณ  21 อุโมงค์

รถไฟพาเราแล่นจากข้างบนเขาสูงมายังข้างล่างแบบเราไม่รู้สึกอะไรมาก  นี่เป็นความชาญฉลาดของคนสวิสที่สร้างทางรถไฟอ้อมเขาหลายต่อหลายลูก พาเรามาข้างล่างได้

เข้าสู่สถานี Brig  เวลาประมาณ  9.00  น ตรง  รถไฟแล่นมาข้างล่างจนถึงสถานี Brig

เรารีบพากันลงจากรถไฟเพื่อไปขึ้นรถ Postauto ที่จอดอยู่หน้าสถานี  ซึ่งจออกเดินทางเวลาประมาณ  9.15 น

Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved