การรักษาความสะอาด สำหรับท่านสุภาพสตีร

Previous topic - Next topic

ศักดา

สวัสสดีครับครับคุณป้าPall และทุกๆท่าน  
 พอดีมีเพื่อนส่ง เมล์มาให้ อ่านแล้วน่าสนใจดี เป็นการระวังตัวสำหรับ สุภาพสตีรทุกท่าน ถ้าไม่เหมาะสมอย่างไร รบกวนคุณป้า ลบอออกได้เลยนะครับ  
 
 อันตราย!!! สายฉีดล้างอวัยวะเพศในห้องน้ำ
 >>
 >>
 >>
 >>
 >>เป็นเรื่อง "ไม่คิดไม่ฝัน!!" เมื่อของที่ใช้อยู่เป็นประจำใน "  
 >>ห้องน้ำ"
 >>จะเป็นตัวร้าย "ย้อน"  
 >>มาทำลายให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ!!!
 >>
 >>เรื่อง "โชคร้าย" นี้เป็นของ ปิยะพัชร โพธิ์พิทักษ์กุล
 >>แอคเคานต์แมเนเจอร์ภูมิพีอาร์ วัย 39 ปี ที่เกิดอาการติดเชื้อที่  
 >>"กรวยไต"
 >>สาเหตุอันเนื่องมาจาก " สายฉีดล้างอวัยวะเพศในห้องน้ำ!!!"
 >>
 >>" ปกติจะดูแลตัวเองอย่างดี เป็นคนดื่มน้ำเยอะ ไม่เคยกลั้นปัสสาวะ
 >>ใช้แผ่นอนามัยตลอดเวลา
 >>และใช้น้ำยาล้างภายนอกเป็นประจำทุกวันในการทำความสะอาดเช้าเย็น  
 >>แต่กลับพลาด!!
 >>ลืมสังเกตว่าสายฉีดในห้องน้ำสาธารณะก็เป็นพาหะนำโรคได้เหมือนกัน
 >>เพราะคนมากหน้าหลายตามาใช้ของอันเดียวกัน  
 >>ซึ่งบางคนอาจเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
 >>แล้วพอไปใช้ต่อ ซึ่งวันนั้นใช้สายฉีดใกล้อวัยวะเพศมาก  
 >>เนื่องจากน้ำไม่ค่อยไหล
 >>จึงทำให้ติดเชื้อโรคมา เพราะหลังจากวันนั้นก็มีอาการไข้สูง
 >>ปวดตรงบั้นเอวด้านขวาเหมือนปวดประจำเดือน
 >>พอไปหาหมอจึงรู้ว่าเป็นโรคกรวยไตอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ  
 >>รักษาอยู่ 10
 >>วันกว่าจะหาย"
 >>
 >>ปิยะพัชรบอกว่า การป่วยครั้งนี้เป็นครั้งที่ทรมานที่สุดในชีวิต
 >>และถือว่าโชคร้ายมากที่สุดด้วย
 >>เพราะโรคติดเชื้อจากสายฉีดน้ำและมีอาการหนักขนาดลามไปติดเชื้อถึงกรวยไต
 >>มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ที่เธอได้รับเชื้อเพราะเมื่อ 10  
 >>ปีก่อนเคยมีประวัติ
 >>" กรวยไตอักเสบ" ทำให้มีโอกาสการติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ
 >>และกิจวัตรประจำวันที่เข้าใจ " ผิด" ว่าเป็นการดูแลตัวเองอย่างดี
 >>ทั้งเรื่องใช้แผ่นอนามัย
 >>และน้ำยาทำความสะอาดภายนอกก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ
 >>จนติดเชื้อจากสายฉีดในห้องน้ำอีกเช่นกัน
 >>
 >>" หลังจากหายป่วยดิฉันเลิกใช้แผ่นอนามัย เลิกใช้น้ำยาล้างภายนอก
 >>กลับมาใช้แค่น้ำเปล่าเหมือนเดิม แล้วหันมาพกกระดาษทิชชู
 >>เวลาไปเข้าห้องน้ำที่ไหนจะใช้ทิชชูส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช้สายฉีดน้ำ
 >>และทิชชูสาธารณะอีกเลย สำหรับผู้หญิงทุกคน  
 >>แนะนำว่าเวลาเข้าห้องน้ำควรสำรวจรอบๆ
 >>ห้องน้ำบ้าง และควรพกกระดาษทิชชูเป็นของตัวเอง
 >>เพราะเชื้อโรคเป็นสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
 >>และเราไม่รู้ว่าโชคร้ายจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่
 >>ดังนั้นควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาตามแก้ที่หลัง"
 >>
 >>อย่า...อย่าเพิ่งตกอกตกใจ จนไม่กล้าใช้ "สายฉีดน้ำ" ในห้องน้ำกันเลย
 >>เพราะได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศ.นพ.พงษ์ศักดิ์  
 >>ชัยศิลป์วัฒนา
 >>สาขาวิชาการใช้กล้องเพื่อส่องตรวจและรักษา  
 >>ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
 >>คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า
 >>โอกาสที่จะติดเชื้อโรคจากสายฉีดน้ำในห้องน้ำมี "น้อยมากๆ"  
 >>แต่ก็สามารถเป็นได้
 >>ถ้าคนคนนั้นมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาทิ เคยมีประวัติเป็นโรคเรื้อรัง  
 >>ใช้น้ำยาล้าง
 >>ใช้แผ่นอนามัย ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
 >>ดูแลตามธรรมชาติโดยใช้น้ำเปล่าดีที่สุด
 >>
 >>" ก่อนใช้สายฉีดน้ำในห้องน้ำสาธารณะ
 >>ควรฉีดน้ำออกก่อนแล้วใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งและฉีดน้ำอีกที  
 >>จึงค่อยใช้
 >>และขณะใช้อย่าให้หัวฉีดสัมผัสอวัยวะเพศ เพราะอาจมีเชื้อหนอง
 >>และตกขาวคนอื่นติดอยู่ แล้วถ้าห้องน้ำสกปรกมาก แนะนำให้ยืนปัสสาวะ
 >>โดยนำขวดน้ำมาตัดครึ่งตามยาวให้เป็นท่อรองปัสสาวะ"
 >>
 >>ศ.นพ.พงษ์ศักดิ์บอกอีกว่า ผู้หญิงประมาณ 5-7%
 >>เท่านั้นที่โชคร้ายเป็นโรคติดเชื้อที่อวัยวะเพศ
 >>สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความรักสวยรักงามใช้น้ำเปล่าล้างไม่พอ
 >>ต้องไปซื้อน้ำยามาล้างให้สะอาดมากขึ้น
 >>แล้วน้ำยาก็มาทำลายแบคทีเรียตัวที่ป้องกันเชื้อโรคในช่องคลอด
 >>หรือปล่อยให้ระบายอากาศดีๆ ไม่ชอบ ไปหาแผ่นอนามัยมาใช้
 >>ใส่กางเกงชั้นในสเตย์ฟิตๆ กางเกงยีนส์หนาๆ ให้อบ แฉะ อึดอัด  
 >>ไม่มีอากาศระบาย
 >>
 >>" โรคติดเชื้อที่อวัยวะเพศ เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก  
 >>ถ้าภูมิต้านทานดี
 >>อวัยวะเพศไม่ชื้น อับ แฉะ ก็ไม่เกิดขึ้นง่ายๆ"
 >>
 >>รู้อย่างนี้แล้ว ค่อยหายห่วง
 >>ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงทั้งหลายแล้วล่ะว่า...ดูแลตัวเองดีแค่ไหน  
 >>เอ๊ะ!
 >>หรือดีเกินไปหรือเปล่า...
 >>
 >>หน้า 36 matichon, 15.09.2006
 
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0403 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

ดีค่ะถ้าเจออะไรดีๆที่มีประโยชน์นำมาแบ่งปันกัน
 ขอบคุณมากค่ะแล้วนำมาแบ่งปันกันอีกนะคะ