การใช้และความหมาย ของ กริยา Modalverben: können, dürfen, müssen, sollen, wollen, mögen, lassen, brauchen

Previous topic - Next topic

ศักดา

เยอรมันวันละนิด Verb  
 เรื่อง การใช้และความหมาย ของ กริยา Modalverben: können, dürfen, müssen, sollen, wollen, mögen, lassen, brauchen
 
 สวัสดีครับ คุณป้าPall และ ผู้สนใจทุกท่าน
  วันนี้ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมการสอนทั้งวันเลยครับ
  จึงนำมาโพส์ให้ กลัวโดนหักเงินเดือน...
  และกลัวท่านเบื่อก่อนที่จะติดตามตอนต่อไป
  อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะครับ ยังมีสำรองอีกเยอะ... ถ้าสนใจ...  
 
 วันนี้ เริ่มเข้าบทที่สอง แล้วนะครับ  
 ตอนแรก จะอธิบาย กริยา เหล่านี้ ในระดับ พื้นฐานก่อน
  และ  
 ท่อนที่สอง จะแสดงวิธีการใช้ในระดับสูง
  เพราะว่าจะเจอบ่อยในหนังสือวิชาการ หรือเวลาที่นักวิชาการ
 และนักการเมืองพูดจะเจอประโยคเหล่านี้บ่อยมาก
  หรือว่าใครที่จะเตรียมสอบระดับ C2  
 ก็จะต้องได้เรียนครับ
  และชอบออกข้อสอบด้วย(บอกใบ้ให้นะครับ)
  เกี่ยวกับเรื่องของกริยาเหล่านี้  
 สำหรับใครที่เรียนใหม่ๆอยู่ ก็อย่างไปเครียดกับ ตอนที่สองนะครับ เพราะจะทำให้ สับสนเปล่าๆ แต่ถ้าคุณรู้ใว้พอสังเขป
  เวลาเจอหรือว่าได้ใช้อาจจะได้ถึงบางอ้อกันว่า เคยอ่านเจอมาแล้ว....
 นี่น่าง่ายนิดเดียว...  
 
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0005 ห้อง learning_german (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

ศักดา

**Verb บทที่ 2 ตอนที่ 1 **
 
 **กริยา Modalverben ที่แสดงถึง ความปราถนา  
 ความต้องการ การอนุญาต ความสามารถ และความเป็นไปได้  
 กริยาเหล่านี้ได้แก่  
 können, dürfen, müssen, sollen, wollen, mögen, lassen, brauchen  
 
 ตำแหน่งของกริยา ในประโยคหลัก  
 
 Präsens: Ich muss zum Arzt gehen.  
 Präteritum: Ich musste zum Arzt gehen.  
 
 จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งกริยา(Modalverben) เหล่านี้
 จะอยู่ตำแหน่งที่ 2 ในประโยคหลัก(Hauptsatz)  
 และ กริยารูปเดิม(Infinitiv) จะอยู่ท้ายประโยคเสมอนะครับ  
 ที่สำคัญเวลาแต่งประโยค  
 กริยาหลัก Modalverbenจะผัน ตามรูปของประธาน
  ส่วนกริยารูปเดิมที่ตามท้ายประโยคไม่ว่าจะกี่ตัวก็ตาม
  จะต้องไม่ผันไปตามประธานเด็ดขาด ให้คงรูปเดิมไว้นะครับ  
 ดังตัวอย่างข้างต้น  
 
 ส่วน กริยา Modalverb นั้น
 ไม่ค่อยนิยมใช้ในช่องอดีต Perfekt และ Plusquamperpekt  
 จะนิยมใช้ อดีตช่อง Präteritum แทนมากกว่า เช่น
  Ich habe nach Hause gehen müssen.
  เป็น
  Ich musste nach Hause gehen.
  เริ่มกันเลยนะครับ  
 
 **können ..**
 
 - แสดงถึงความสามารถ เช่น
  Ich kann segeln. ฉันสามารถพายเรือได้.  
 Ich kann Deutsch und Thai lesen.  
 ฉันสามารถ อ่านภาษาเยอรมัน และภาษาไทยได้  
 - แสดงถึงความเป็นไปได้  
 Kann man hier Theaterkarten Kaufen?  
 ที่นี่เราสามารถซื้อตั๋วชมละครได้หรือเปล่า?  
 (ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม กริยาจึงขึ้นก่อน)
  แต่ถ้าเป็นประโยคแสดงให้รู้ ธรรมดา ก็จะเขียน เป็น
  Man kann hier Theaterkarten kaufen.  
 ที่นี่คุณสามารถซื้อตั๋วชมละครได้  
 Hier kann man Thai lernen.  
 ที่นี่คุณสามารถเรียนภาษาไทยได้  
 
 เพิ่มอีกหนึ่งประโยค เป็นประโยคกึ่งคำสั่งนะครับ  
 Kannst du mir noch ein Brot kaufen!  
 คุณสามารถซื้อขนมปังมาให้ฉันด้วยหนี่งก้อนได้ไหม!  
 แต่จะให้สุภาพหรือหวานหน่อยก็เติมคำว่า bitte
  รับรองว่าได้แน่นอน...  
 - แสดงถึงการให้อนุญาต เช่น
  Du kannst gern mein Auto nehmen.  
 คุณสามารเอารถของผมได้ใช้ได้นะครับ ด้วยความยินดี  
 และอีกหนึ่งตัวอย่าง  
 Wenn du willst, kannst du dieses Buch auch mitnehmen, weil ich es nicht mehr brauche.
  ถ้าเธอต้องการหนังสือเล่มนี้ละก็ เอาไปได้เลยนะ  
 เพราะว่าฉันไม่ได้ใช้มันแล้ว  
 
 การผัน กริยา können ตามประธานและ เวลา  
 
 .....Präsens Präteritum  
 ich kann konnte  
 du kannst konntest  
 er, sie, es kann konntest  
 wir können konnten  
 ihr könnt konntet  
 sie, Sie können konnten  
 

ศักดา

**dürfen ..**
 - แสดงถึง การให้อนุญาต เช่น
  Man darf hier parken. ที่นี่อนุญาตให้จอดรถได้  
 - แสดงถึง การห้าม เช่น  
 Sie dürfen hier nicht rauchen. คุณที่นี่ห้ามสูบบุหรี่(ครับ)  
 แต่ถ้าอนุญาตก็ เพียงแต่ เอา nicht ออกเป็น  
 Sie dürfen hier rauchen.  
 - ใช้เป็นคำถามที่สุภาพ  
 Darf ich Ihnen helfen? ให้ผมช่วยอะไรคุณไหมครับ?  
 หรือ Darf ich Ihnen etwas fragen?
  ผมขออนุญาต ถามอะไรคุณหน่อยได้ไหมครับ?  
 
 การผัน กริยา dürfen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum  
 ich darf durfte  
 du darfst durftest  
 er, sie, es darf durfte  
 wir dürfen durften  
 ihr dürft durftet  
 sie, Sie dürfen durften  
 
 **müssen **
 แสดงถึง หน้าที่ ความจำเป็น จะต้อง คำสั่ง(จากผู้อื่น) ตัวอย่างเช่น  
 Sie müssen hier noch unterschreiben.
  คุณจำเป็นเซ็นชื่อตรงนี้ด้วยครับ  
 (แต่ถ้าเราไม่เข้าใจอย่าได้เซ็นทีเดียวนะครับ
  เพราะว่าการแก้ลายเซ็นนั้นทำได้ยากมาก...  
 เพราะว่าเหมือนกับเรายินยอม...
 ในทางกฏหมายที่นี่ไม่มีใครสามารถบังคับให้เราเซ็นได้  
 โดยที่เราไม่เข้าใจหรือยินยอม)  
 
 Morgen muss ich arbeiten gehen.  
 พรุ่งนี้ผมจำเป็นจะต้องไปทำงาน  
 Er muss jetzt nach Hause gehen.  
 เขาจะต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้แล้วละ (คุณแม่บ้านอาจจะสั่ง ให้กลับนะ... )  
 Weil ich Deutsch nicht sprechen kann, muss ich es lernen.
  เพราะว่าผมไม่สามารถพูดภาษาเยอรมันได้ ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนภาษาเยอรมัน. (สำหรับคนที่มีความจำเป็น)  
 
 **sollen **
 แนะนำ หรือให้ความคิดเห็น  
 Der Arzt hat gesagt, ich soll nicht so viel rauchen. หมอได้บอกผมว่า ผมไม่ครวที่จะสูบบุหรี่มาก  
 Sie sollen mehr sport treiben.  
 คุณควรจะเล่นกีฬา(ออกกำลังกาย) มากกว่านี้  
 *แสดงถึงมารยาท ที่ควรจะมีและปฏิบัติ
  Man soll Rücksicht auf andere Menschen nehmen. คนเราครวที่จะมีความแกรงใจคนอื่น  
 (Rücksicht nehmen auf etwas.  
 นี้เป็นคำใช้ควบคู่กัน เป็นศัพท์ระดับสูงหรือที่ใช้แบบสำนวน ครับ)  
 การผัน กริยา sollen ตามประธานและ เวลา  
 
 Präsens Präteritum  
 ich soll sollte  
 du sollst solltest  
 er, sie, es soll sollte  
 wir sollen sollten  
 ihr sollt solltet  
 sie, Sie sollen sollten  
 

ศักดา

**wollen**
  ความตั้งใจ อยาก ต้องการ เช่น  
 Wir wollen uns ein Haus kaufen.  
 เราอยากซื้อบ้านสักหลัง  
 Ich will an der Universität studieren.
  ฉันตั้งใจว่าจะศึกษาต่อที่มาหาลัย  
 Was will er? เขาต้องการอะไรหรือ?  
 Sie will nicht gehen. หล่นไม่อยากไป  
 
 การผัน กริยา wollen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum  
 ich will wollte  
 du willst wolltest  
 er, sie, es will wollte  
 wir wollen wollten  
 ihr wollt wolltet  
 sie, Sie wollen wollten  
 
 
 mögen als Vollverb  
 การิยาแปลตรงตัวตามความหมายว่า ชอบ  
 Ich mag sie sehr gern. ฉันชอบเธอมาก  
 Kaffee mag ich nicht. ผมไม่ชอบกาแฟ  
 Ich mag Tee. ผมชอบชา  
 หรือ  
 Ich mag dich. ผมชอบคุณ  
 (ภาษาถิ่นCH: Ich hätte dich gern.)  
 กริยาตัวนี้ถ้าใช้ในอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันบ่อย คือ möchten
  ในรูปของ Konjunktiv II  
 แสดงถึงความหมายดังนี้  
 - แสดงถึงความต้องการ Ich möchte ein Kilo Tomaten.
  ฉันต้องการมะเขือเทศ 1 กิโล  
 แต่ที่สวิส จะใช้กันบ่อย คือนำมาจากภาษาถิ่นอีกที เป็น  
 Ich hätte gern ein Kilo Tomaten.  
 อันนี้ถือว่าไม่ผิดนะครับ เพราะใช้และได้ยินบ่อยจนชินแล้ว  
 แต่ถ้าเวลาทำข้อสอบ จะต้องตอบเป็น
  Ich möchte… นะครับเดียวจะโดนหักคะแนน เสียเปล่าๆ  
 Ich möchte jetzt wirklich nach Hause gehen.  
 ฉันต้องการจะไปบ้านตอนนี้เต็มแก่แล้วนะ  
 (การใช้อาจจะคล้ายกับ wollen แต่ สำนวนนี้จะมีน้ำหนักเบาลงมาหน่อย และอยู่ที่ผู้พูดด้วยว่าใช้นำเนียงในระดับไหน)  
 - แสดงถึงความปราถนา  
 Ich möchte im nächsten Urlaub(CH: die Ferien) nach Griechenland fahren.  
 ฉันตั้งใจว่า วันหยุด(พักร้อน)หน้า จะไปเที่ยวประเทศกรีก
 โดยทางรถยนต์ แต่ถ้าไม่กำหนดว่าจะไปทางใหน  
 ก็ใช้ประโยคดังนี้ครับ
  Ich möchte in den Urlaub(in die Ferien) gehen.  
 - แสดงถึงความตั้งใจ  
 Ich möchte ihn auf jeden fall besuchen.  
 จะอย่างไรก็ตาม ฉันตั้งใจจะไปเยี่ยมเขาให้ได้แน่นอน  
 
 การผัน กริยา mögen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum  
 ich mag mochte wollte*  
 du magst mochtest wolltest  
 er, sie, es mag mochte wollte  
 wir mögen mochten wollten  
 ihr mögt mochtet wolltet  
 sie, Sie mögen mochten wollten  
 * ในช่องอดีต Präteritum โดยส่วนมากจะใช้กริยา wollen แทน
  ถ้าแสดงถึงความตั้งใจ หรือต้องการ เช่น  
 Nachher möchte ich noch einen Spaziergang machen.  
 หลังจากนี้ ฉันต้องการที่จะไปเดินแล่น(เวลาปัจจุบัน)  
 Gerstern wollte ich noch einen Spaziergang machen, aber dann hat es plötzlich angefangen zu regen.
  เมื่อวานนี้ฉันอยากที่จะออกไปเดินเล่นสักหน่อย แต่ฝนก็ดันมาตกไปเสียนี่  
 และในการแสดงถึง ความต้องการ ในรูปเวลาปัจจุบัน
  ก็จะต้องใช้ในรูป Konjunktiv II คือ  
 Präsens  
 ich möchte  
 du möchtest  
 er, sie, es möchte  
 
 wir möchten  
 ihr möchtet  
 sie, Sie möchten  
 

ศักดา

ก่อนจบตอนแรก ก็ขอ นำสรุปความหมาย ของกริยาเหล่าที่ใ
 ช้เป็น แบบแปลตามความหมายตรงตัวคือ  
 Modalverben als Vollverb  
 können แปลว่า สามารถ เช่น  
 Ich kann Thai (sprechen*). ฉันพูดภาษาไทยได้  
 
 dürfen แปลว่าอนุญาต  
 Ich darf mit dir ins Kino.
  ฉันสามารถไปดูหนังกับเธอได้(เพราะได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่แล้ว)
   
 müssen แปลว่า จำเป็น จะต้อง
  Ich muss jetzt nach Hause. ฉันจะต้องไปบ้านเดี๋ยวนี้แล้ว  
 
 sollen แปลว่า ควร
  Was soll das? มันครวจะเป็นอย่างไรหรือ?
  หรือ มันหมายถึงอะไรกันแน่ (ใช้เวลาโมโห น้ำเสียงจะสูงไปด้วย หรือต้องการแน้นน้ำหนักในการสื่อ)  
 
 wollen แปลว่า ต้องการ  
 Ich will jetzt nicht! ฉันไม่ต้องการตอนนี้  
 Ich möchte แปลว่า ต้องการ
  Ich möchte das aber nicht! สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่อันนี้  
 *คือจะละไว้ในฐานที่เข้าใจ ไม่ต้องใช้ก็ได้  
 
 กริยา lassen, brauchen นี้ใช้ แบบเดียวกัน กริยา Modalverben ข้างบนนี้ ความหมาย
 และวิธีใช้จะคล้ายกัน  
 
 lassen  
 als Vollverb การิยาแปลตรงตัวตามความหมาย ว่า ปล่อย ปล่อยวาง  
 Er kann es einfach nicht lassen.  
 เขาไม่สามารถปล่อย(ปล่อยวาง)มันไปได้  
 Lassen Sie das! ปล่อยมันไปเสียเถอะคุณ (เป็นประโยคคำสั่ง)  
 
 การใช้แสดงถึง ความสามามรถ การอนุญาต และความเป็นไปได้ เช่น  
 Ich lasse ihn mit meinem Auto fahren.
  ฉันอนุญาตให้เขาขับรถของฉันได้  
 Er lässt sich von ihr die Haare schneiden.  
 เขาให้หล่อนตัดผมให้ (อนุญาต)  
 Die Maschine lässt sich noch reparieren.  
 เครื่องยนต์ นี้ยังสามารถที่จะซ่อมได้อยู่  
 
 การสร้างประโยคที่ใช้กริยา lassen สร้างเช่นเดียวกันกริยา Modalverben คือจะผัน ตามรูปของประธาน
  ส่วนกริยารูปเดิมที่ตามท้ายประโยคไม่ว่าจะกี่ตัวก็ตาม  
 จะต้องไม่ผันไปตามประธานเด็ดขาด ให้คงรูปเดิมไว้นะครับ  
 
 Perfekt als modaler Gebrauch  
 การแต่งประโยค ที่ใช้กริยา lassen ที่แปลว่าอนุญาต  
 หรือสามารถ ในรูปของ Perfekt นั้นจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไร
  แต่ใช้ก็จะต้องแต่ง ดังนี้ คือ กริยา haben + Infinitiv + lassen ดังตัวอย่าง
  Er hat sich von ihr die Haare schneiden lassen.  
 
 การผัน กริยา lassen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum Perfekt als Vollverb  
 ich lasse liess habe gelassen  
 du lässt liessest hast gelassen  
 er, sie, es lässt liess hat gelassen  
 wir lassen liessen haben gelassen  
 ihr lasst liesst habt gelassen  
 sie, Sie lassen liessen haben gelassen  
 
 brauchen ที่มีความหมายว่า ต้องการ หรืออนุญาต เช่น  
 Ich brauche Hilfe.  
 ผมต้องการความช่วยเหลือ กริยานี้ใช้คู่กับ Akkusativ เสมอ  
 Du brauchst nicht zu kommen. คุณไม่ต้องมาแล้วละ  
 จะมีความหมายเช่นเดียวกับ nicht müssen
  โดยจะต้องสร้างประโยค Infinitivsatz (IS) เท่านั้น  
 Perfekt als modaler Gebrauch  
 การแต่งประโยค ที่ใช้กริยา lassen ที่แปลว่า
  ต้องการหรือ อนุญาต ในรูปของ Perfekt นั้นจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไร แต่ถ้าจะใช้ต้องแต่งประโยค ดังนี้ คือ กริยา haben + Infinitiv + lassen ดังตัวอย่าง Du hast nicht zu kommen brauchen.  
 
 การผัน กริยา brauchen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum Perfekt als Vollverb  
 ich brauche brauchte habe gebraucht  
 du brauchst brauchtest hast gebraucht  
 er, sie, es braucht brauchte hat gebraucht  
 wir brauchen brauchten haben gebraucht  
 ihr braucht brauchtet habt gebraucht  
 sie, Sie brauchen brauchten haben gebraucht  
 

ศักดา

**ตอนที่ 2**
  ความหมายของและการใช้ Modalverben ในระดับสูง  
 กริยาเหล่านี้ที่ผมคัดและแปลมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
 ของความหมาย ของ Modalverben ที่คุณอาจจะเคยได้ยิน
 หรือได้อ่านผ่านมาบ้างแล้ว
  ผมขอเสนอให้พอเป็นการเกริ่นๆ ก่อนนะครับ  
 ถ้ามีโอกาสเมื่อไร แล้วผมจะ นำแกรมม่าระดับสูง
 มาอธิบายต่อไปถ้าจบระดับพื้นฐานแล้ว...  
 ขอทบทวนอีกครั้งนะครับว่า  
 การใช้ประโยคและคำเหล่านี้จะพบบ่อยในหนังสือพิมพ์ เชิงวิชาการ หรือเวลาที่นักการเมืองหรือนักวิชาการสนทนาหรือให้สัมภาษณ์
 จะใช้ประโยคเหล่านี้...  
 และในข้อสอบภาษาเยอรมันระดับ C2 นั้น
 ชอบออกให้นักเรียน ผันและพลิกแพลง จากประโยคธรรมดา
 ให้เป็น ประโยคเหล่านี้บ่อยมาก...  
 การแต่งประโยคเหล่านี้จะมี คำนาม
  และ คุณศัพท์ ขึ้นก่อนในประโยคหลัก  
 และตามด้วย Infinitivsatz + zu (IS + zu)
 หรือ ประโยค Nebensatz(NS)อื่นๆ เช่น  
 
 ***1. ประโยคที่แสดงถึงการถึง ความจำเป็น และมีความหมาย
 เช่นเดียวกันกับกริยา müssen (sollen)  
 โดยการแต่งประโยค ด้วย คำนาม และ คุณศัพท์
  มาสร้างในประโยค Infinitivsatz (IS)
 หรือ ประโยค Nebensatz(NS)เช่น  
 - Es geht nicht anders, als dass wir die Suche abbrechen(NS).  
 เราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว น้องเสียจากว่าว่าเราจะยกเลิกการค้นหานี้เสีย  
 Es ist nötig/notwendig/erforderlich, die Suche abzubrechen(IS).  
 มันมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการค้นหา  
 ถ้าเขียนแบบธรรมดา ก็จะ เป็น Wir müssen die Suche abbrechen.  
 -Alle Blätter sind am Ausgang abzugeben(IS + zu). กระดาษทุกแผ่นจะต้องส่งคืนให้หมดหน้าทางออก กริยาช่วย sind นี้ทำหน้าที่เช่นเดียวกับกริยา Modalverben
  แต่จะเติม zu เพิ่ม วิธีการใช้ นั้นได้อธิบายแล้วในตอนที่1
  ประโยคนี้เขียนแบบธรรมดาก็  
 Alle Blätter müssen am Ausgang abgeben.  
 - Es besteht die Notwendigkeit, die Steuern zu erhöhen. (IS + zu) ด้วยเหตุจำเป็นที่จะต้องขึ้นภาษี  
 ถ้าเขียนประโยคธรรมดาก็  
 Die Steuern müssen erhöht werden.  
 
 2. หน้าที่ /จะต้อง müssen (sollen)  
 A ist verpflichtet, seine Eltern zu unterstützen. (IS + zu) A มีหน้าที่ ที่จะต้องดูแลพ่อแม่ (ในทุกด้านเช่น การเงิน รักษา)  
 A hat die Pflicht, seine Eltern zu unterstützen. (IS + zu) A จะต้อง ดูแลพ่อแม่(คือโดนบังคับ อาจจากศาล) ในประโยคธรรมดา ก็จะ เขียนว่า
  A muss seine Eltern unterstüzen.  
 แต่ถ้าผู้รับ ไม่รู้ความหมายก็จะวิเคราะห์หรือแยกไม่ได้ว่า
  เป็นหน้าที่หรือโดนบังคับ ด้วยเหตุนี้กระมังเวลาใช้ในระดับสูง
 ถึงใช้ แบบ ยากขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่สับสัน...  
 
 3. การถูกสั่ง หรือบังคับจาก คนอื่น หรือจากองค์กร  
 müssen (sollen)  
 A ist gezwungen, das Land zu verlassen. (IS + zu)  
 A ถูกบังคับให้ออกนอกประเทศ  
 A kann nicht anders, als das Land zu verlassen. (IS + zu)  
 A ไม่มีทางเลืออื่นอีกแล้ว นอกเสียจากจะต้องออกนอกประเทศ  
 Es geht gar nicht anders, als dass er das Land verlässt. (NS) ไม่มีหนทางเลือกใดอีกแล้ว สำหรับเขา นอกจากว่าจะต้องออกนอกประเทศ  
 Es besteht der Zwang, das Land zu verlassen. (IS + zu) มันเป็นคำสั่ง(บังคับ)ที่จะต้องปฏิบัติตาม คือการออกนอกประเทศ  
 ประโยคทั้งหมดนี้เขียนแบบธรรมดา ก็จะเป็น A muss das Land verlassen. แต่ที่เขียนโดยแบบข้างบนนี้คุณคงจะอ่านเจอบ้างนะครับในหนังสือพิมพ์ หนังสือราชการ หรือ เวลานักการเมืองให้สัมภาษณ์กับสื่อ...  
 
 4. การห้าม ไม่อนุญาต nicht dürfen ไม่ควร nicht sollen  
 การเขียนประโยคในรูปนี้จะใช้กริยาช่วย sein และ กริยาที่แปลว่า ห้าม ตามท้ายของประโยคแรก หลังจากนั้นก็ตามด้วยประโยค IS + zu  
 Etwas ist verboten/untersagt/nicht gestattet/nicht erlaubt.  
 Es ist verboten/untersagt etc., Lehrer im Schlaf zu stören (IS + zu). ห้ามรบกวนคุณครูระหว่างนอนอยู่ อีกหนึ่งตัวอย่างนะครับ  
 Es ist erlaubt durch den Garten zu laufen(IS + zu). ห้ามเดินลัดสวน เขียนแบบธรรมดาก็ Man darf nicht durch den Garten laufen.  
 
 5. การอนุญาต dürfen (können)  
 Etwas ist erlaubt/möglich.  
 Es ist erlaubt/möglich, ein Wörterbuch zu benutzen(IS + zu). อนุญาตให้ใช้ดิกได้  
 เขียนแบบธรรมดา Man darf ein Wörterbuch benutzen. ถ้าไม่อนุญาตก็จะเติม nicht  
 เช่น Es ist nicht erlaubt, ein Wörterbuch zu benutzen. oder Man darf ein (den) Wörterbuch nicht benutzen.  
 
 6. ความเป็นไปได้ โอกาส können dürfen  
 Etwas ist möglich. แสดงถึงความเป็นไปได้  
 Es ist möglich, das Auto mit Wasserstoff anzutreiben(IS + zu). มันมีความเป็นไปได้ ที่รถยนต์จะขับเคลื่อนได้ด้วยพลังน้ำ  
 Das Auto lässt sich mit Wasserstoff antreiben. รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังน้ำ เขียนแบบธรรมดา Das Auto könnte mit Wasserstoff antreiben.  
 *Was

ศักดา

เพิ่มครับ  
 การผัน กริยา müssen ตามประธานและ เวลา  
 Präsens Präteritum  
 ich muss musste  
 du musst musstest  
 er, sie, es muss musste  
 wir müssen mussten  
 ihr müsstet musstet  
 sie, Sie müssen mussten  
 

เทวี

เทวีตามมาเรียนคนแรกเลยค่ะพี่ศักดาได้ความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ แล้วจะตามมาเรียนอีกบ่อยๆนะคะ  
 ว่าแต่ว่าขอถามหน่อยที่พี่ศักดาว่า  
 "แต่ที่สวิส จะใช้กันบ่อย คือนำมาจากภาษาถิ่นอีกที เป็น Ich hätte gern ein Kilo Tomaten. อันนี้ถือว่าไม่ผิดนะครับ เพราะใช้และได้ยินบ่อยจนชินแล้ว แต่ถ้าเวลาทำข้อสอบ จะต้องตอบเป็น Ich möchte… นะครับเดียวจะโดนหักคะแนน เสียเปล่าๆ "  
 
 
 แต่เทวีเรียนมาจากหนังสือ ของ Heuber เขาเขียนว่า  
 Ich hätte gern ein Grosses Haus.แปลเปนภาษาอังกฤษคือ I would like a big hause ถ้าแปลเป็นไทยก็ ฉันปรารถนาที่จะมีบ้านหลังใหญ่..... ซึ่งก็เป็นรูปสุภาพแล้วใช่ไหมค่ะ และที่คนสวิสพูดกันในประโยคนี้ก็เป็นภาษาโฮคดอยช์ที่ถูกต้งตามไวยกรณ์ไม่ใช่แต่ภาษาสวิสดอยช์อย่างเดียว เพราะยังมีอีกประโยคที่พูดว่า  
 Ich würde gern in Frankreich arbeiten(infinitiv verb )ตอนจบ  
 ซึ่งทั้งหมดก็แปลเหมือนกันว่า ฉันปรารถนา/ต้องการจะทำงานที่ฝรั่งเศส.....  
 แต่การเขียนตามไวยกรณ์ไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง  
 Ich hätte gern -----ไม่จำเป็นต้องมีคำกริยาต่อท้าย แต่ถ้าเป็น  
 Ich würde gern....ต้องมี infinitiv verb ต่อท้าย ไม่ทราบเทวีเข้าใจถูกไหมคะเพราะเรียนมาแบบนี้และในหนังสือก็แปลแบบนี้ เทวีสอบถามเพื่อความแน่ใจอย่าคิดว่าความรู้เท่าหางอึ่งยังมาเถียงอาจารย์อีก นะคะ เพราะยังไงเทวีก็ยังใหม่กับภาษาเยอรมันอยู่ ขอบคุณค่ะ

ศักดา

สวัสดีครับคุณเทวี  
 ดีใจครับที่ตามอ่าน และถามด้วย (ดีครับ) เพื่อความกระจ่าง  
 กับประโยคที่ว่า Ich hätte gerne ein Kilo Tomaten. นั้นแปลตามที่อธิาบายละครับ และในภาษาถิ่นนั้้นจะได้ยินบ่อย เวลาคนซื้อของ คื่อ  
 Grüezi, ich hätte grene...  
 
 แต่ถ้าจะให้ดีรบกวนคุณเทวีฝากถาม อาจารย์ที่สอนภาษาเยอรมันด้วยนะครับ ว่าเวลาซื้อของ ควรจะใช้ ประโยค Ich hätte.... หรือ Ich möchte... ดี หรือว่าใช้ได้ทั้งสองอย่าง ได้ความอย่างไรนำมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ขอขอบคุณล่วงหน้า ครับ  
 
 ส่วนประโยค Ich hätte gern ein Grosses Haus. นั้นตามหลักแกรมม่าแล้ว คื่อเป็นประโยค Konjunktiv II ตามที่เทวี แปลนั้นถูกแล้วละครับ ว่าปราถนา เพราะว่าผู้พูดไม่มีบ้านหลังใหญ่ แต่ปราถนาที่จะมี...  
 
 และถ้าตามหลักของแกรมม่า ตามประโยคข้างบน แปลตามหลัก Konjunktiv II แล้ว ประโยค Ich hätte gern ein Kilo Tomaten. นั้น จะแปลตรงตัวก็ คือ ว่า ผู้พูดนั้นอาจจะลืมซื้อ มะเขือเทศ แล้วมาคิดย้อนหลังไม่น่าเลย....เพราะอาจจะต้องใช้...  
 
 ประโยค Konjunktiv II ที่คุณเทวีเขียนมานั้นถูกต้องแล้วครับ  
 Ich würde gern...  
 Ich hätte gern...  
 
 การใช้ ประโยคKonjunktiv II นี้เมื่อไรอย่างไร แล้วผม จะอธิบายเสริมอีก ในตอนต่อๆไป ช่วงนี้ขอนำเสนอเรื่องของกริยาไปก่อน อย่าลืมติดตามอ่านอีกนะครับ หรือว่าไม่เข้าใจอันไหนอีกก็ถามได้ตลอดนะครับ ยินดีตอบเสมอครับ ถ้าไม่เกินความสามารถ
 

pall

สวัสดีจ๊ะเทวี  
 สวัสดีค่ะคุณศักดา  
 ขอบคุณมากค่ะสำหรับการสอนบทที่2  
 นับว่าเป็นประโยคที่สุดสำหรับการเรียน  
 ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาเรียนช้าไปมากเลย  
 ห้ามหักคะแนนนะคะ...  
 อย่างที่คุณศักดาบอกมาประโยคนี้  
 .......Grüezi, ...
 เป็นประโยคที่คนอยู่Bern...ได้ยินทุกวันตอนคนซื้อของ...  
 บอกคนขายของ....  
 เอาไว้ป้ามีเวลามากกว่านี้จะนั่งอ่านอย่างละเอียดอีกที  
 ยอมรับค่ะว่าอ่านยังไม่ละเอียดทุกตัวเพราะช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย  
 
 **....คุณศักดาคะช่วยเขียนบทเรียนตรงหัวข้อแต่ละครั้ง  
 เป็นบทๆๆได้ไหมคะ...ยกตัวอย่างบทหน้า...ตอนที่คุณจะสอนใหม่  
 เขียนแบบนี้  
 
 ...เยอรมันวันละนิด....บทที่3...(ชื่อที่คุณสอน)  
 
 ที่อยากให้คุณเขียนบอกเพราะถ้าPhan...  
 ไปเปิดห้องเรียนภาษาเยอรมันให้..ป้าจะได้หาได้ไวขึ้น  
 ขอบคุณคุณศักดาอีกครั้งนะคะ...
 

ศักดา

สวัสดีครับคุณป้า  
 คุณป้าไปเดินเขามาหรือยังครับ วันนี้อากาศไม่ค่อยดีเลยนะครับ...  
 
 ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ แล้วบทหน้าผมเริ่มใหม่ตามที่คุณป้าแนะนำครับ ถ้ามีอะไรแนะนำ ขอให้คุณป้าทักได้ตลอดนะครับ เพื่อที่ผมจะได้พัฒนาและปรับปรุงตัวเองต่อไป  
 ขอขอบคุณคุณป้ามากครับสำหรับเนื้อที่  
 
 ถ้ายังพอมีเวลาว่างอีก ก่อนที่ผมจะไปเที่ยวอาทิตย์หน้า แล้วจะลงบทที่ 3 ต่อครับ ุุตอนนี้ผมกำลังขอวีซ่าอยู่ครับ รอคำตอบอาทิตย์หน้า ว่าจะได้หรือเปล่า ผมจะไปเที่ยว ประเทศกระทิงดุ เมือง บาเซโลน่า ครับ ไปแค่ 4 วัน ตามโปรแกรม จะไปวัน พฤหัสบดีหน้าครับ ถ้าวีซ่าออกแล้วผมจะโพส์ มาเล่าให้อ่านนะครับ เพื่อคนอื่นที่อยากจะไปเที่ยวบ้าง จะได้เตรียมตัวถูกว่าทางกงสุล ต้องการอะไรบ้าง สำหรับคนที่ต้องขอวีซ่า  
 

pall

สวัสดีค่ะคุณศักดา  
 ป้าต้องขอขอบคุณคุณดีกว่านะคะสำหรับน้ำใจ  
 ที่เข้ามาช่วยเขียนแบ่งปันข้อมูลบทเรียนสอนภาษาเยอรมันมากกว่า  
 ป้าจะไปเดินเขาวันอาทิตย์ที่จะถึงค่ะ  
 หลายๆวันที่ผ่านมายุ่งมากและยุ่งเกี่ยวกับทำความสะอาดสวนด้วย  
 และการจัดหาซื้อของฝาก  
 
 ดีจังเลยคุณจะไปเที่ยวเสปน..ป้ายังไม่เคยไปเลยค่ะ  
 คิดว่าสักวันคงจะไปให้ได้..โครงการณ์ปีหน้าถ้าทุกอย่างลงตัว  
 คิดว่าอยากไปเที่ยวอาฟริกามาก...อยากสัมผัสกับชีวิตผู้คนแถบนั้น  
 
 โปรแกรมที่คุณไปเที่ยวกับทัวร์หรือคะน่าสนใจมาก  
 บาเซโลน่าอยากไปที่สุดไปดูเกี่ยวกับสัตว์น้ำทะเล  
 ที่เขาบอกว่าใหญ่ที่สุด  
 
 ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่จะเข้ามาช่วยถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับ  
 การขอวีซ่าเข้าประเทศ..นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก  
 สำหรับคนที่ต้องทำเรื่องยื่นขอวีซ่าคราวต่อไป  
 ถ้าไปมาแล้วมาเล่าให้ฟังถึงทัวร์ด้วยนะคะ  
 ถ้าสนุกไม่แน่ปีหน้าป้าอาจจะรีบไปเที่ยว  
 เพราะพูดมาหลายปีแล้วจะไปบาเซโลน่าแต่ไม่ได้ไปสักที  
 เห็นตั๋วที่ขายทางNet....ถูกมากกกกกกกกกก  
 ขอบคุณอีกครั้งค่ะและเที่ยวให้สนุกนะคะ

แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว

สวัสดีค่ะ คุณศักดา สวัสดีคุณป้า Pall ด้วยค่า  
 
 คุณศักดาเก่งจังเลยอ่ะ ทั้งภาษาและแกะสลัก ( เคยไปเที่ยวโบสถ์ที่เบิร์นปลายปีที่แล้ว วันที่เขามีตลาดนัดข้างๆโบสถ์ริมแม่น้ำ เจอน้องผู้ชายคนนึงมาออกบูธโชว์ผลงานแกะสลักผักผลไม้ สวยมากๆ แม่จิ๋วจิ้วฯยังหยิบโบรชัวร์ติดมือมาด้วยเลย เผื่อมีตังค์และเวลา จะได้ไปขอเรียนด้วย ไม่รู้ใช่คนเดียวกันหรือเปล่าคะ )  
 
 อยากให้น้องฝ่านเปิดห้องสอนภาษาเยอรมันเร็วๆจัง จะได้ติดตามบทเรียนของคุณศักดาได้ง่ายขึ้น แม่จิ๋วจิ้วฯไปเรียนที่มิโกรทุกวันมา 2 เดือน แล้วก็พักการเรียนไปหลายเดือน เพราะยุ่งๆกับชีวิตส่วนตัวและเรื่องแต่งงาน กำลังจะกลับไปเข้าเรียนใหม่เร็วๆนี้แล้วค่ะ เมื่อวานก่อนทำข้อสอบเทียบระดับแบบออนไลน์ของเวบมิโกร ยังอยู่ระดับ A1 อยู่เลยค่ะ ได้คะแนนแค่ 18 จาก 36 เองค่ะ...อิอิ..อายจัง ( ครูที่มิโกรสอนดีมากค่ะ แต่นักเรียนโข่งอย่างแม่จิ๋วจิ้วฯดันขี้เกียจเอง..ฮ่าฮ่า..ชาตินี้ไม่รู้จะพูดได้ไหม เริ่มท้อหน่อยๆแล้วอ่ะ )  
 
 ขอบคุณคุณศักดามากค่ะที่สละเวลามาพิมพ์บทเรียนยาวๆให้พวกเราได้อ่านกัน แต่บางทีมันยาวมากอ่ะค่ะ อ่านแล้วเบลอ ( อย่าโกรธกันน๊า... ) ถ้าเป็นไปได้แม่จิ๋วจิ้วฯอยากให้มีเวอร์ชั่นสั้นๆแต่มีตัวอย่างประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันเยอะๆหน่อย จะได้ไหมคะ เช่น ถ้าวันนี้เรียนกริยาคำว่า กิน และ ดื่ม อยากให้มีตัวอย่างประโยค เช่น หิวไหม, กินข้าวมาหรือยัง, วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม, ฉันไม่ชอบดื่มเบียร์ มันขม แต่ถ้าไวน์ละก็โอเคเลย, พรุ่งนี้ไปกินพิซซ่าเจ้าประจำกันไหม ( แหะๆ อะไรประมาณเนี้ย )  
 
 ขอให้คุณศักดาสุขภาพแข็งแรง จะได้เป็นครูที่นี่นานๆ

pall

สวัสดีค่ะคุณแม่แม่จิ๋วจิ้ว  
 ตอนนี้ฝ่านยุ่งมากเลยค่ะทำงานประจำ30%  
 เรียนหนังสือและเรียนขับรถด้วย  
 ยังบอกเลยว่าถ้าเขาเรียนจบจะให้เขียนถึงการขอใบขับขี่  
 ป้าจะได้นำมาเขียนบอกแก่คนที่สนใจอยากเรียนขับรถ  
 ป้ายังไม่ได้เจอเขานานแล้วค่ะได้แค่คุยกันทางโทรศัพย์  
 คิดว่าเดือนหน้าเขาคงจะมาบ้านจะได้ให้เขาเปิดให้ให้ก่อน  
 ที่ป้าจะไปออสฯ..เหลืออีกไม่กี่อาทิตย์แล้วไวมากจริงๆ  
 
 ดีค่ะเกี่ยวกับการเรียน  
 ถ้าคนมีความคิดเห็นอย่างไรบอกกันได้เลย  
 เพราะบางครั้งเราไม่รู้จริงๆค่ะว่าคนอ่านชอบแบบไหน  
 เหมือนกับการเรียนหนังสือ  
 ถ้าครูสอนบทเรียนยาวๆคนเรียนจะงง  
 และไม่ค่อยเข้าใจ..  
 ถ้าแบบที่คุณแม่จิ๋วจิ้ว บอกมาก็น่าสนใจมากและทำให้  
 การเรียนเพิ่มความสนใจมากขึ้น  
 ป้าอ่านที่คุณศักดาเขียนเข้าใจง่ายและไว...  
 เพราะป้าอยู่ที่นี่นานและคงมั่วนานด้วยเลยหมดปัญหาข้อนี้  
 ดีค่ะมีอะไรเขียนบอกมาเลย  
 
 **ถ้าคนที่คุณเจอคือคุณศักดานับว่าโลกกลมจริงๆนะคะ  
 

ศักดา

สวัสดีครับคุณป้าPall  
 พอดีเพื่อนที่รู้จักไปประชุมที่ สเปน1วัน ที่เหลือเที่ยวนะครับ ชวนว่าสนใจไหม พอดีช่วงนี้่ว่าง และไม่ได้ไปไหนนานแ่ล้่ว เลยตอบ OK. ลองขอวีซ่าดู ถ้าไม่มีอะไรติดขัด กะว่าวันอังคารหน้าเขาให้ไปรับPassport ที่กงสุลครับ กำลังลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะได้หรือเปล่า เพราะว่าต้องจองตั๋วเครื่องบินไปโชว์ด้วย คืนไม่ได้อีกต่างหาก... ถ้าได้แล้วจะนำมาเล่าให้อ่านนะครับ กงสุลสเปน นี่แปลกมาก...ความแปลกอย่างไรจะนำมานินทาให้อ่านนะครับ ตอนนี้ยังไม่กล้า กลัววีซ่า ไม่ผ่าน....  
 
 สวัสดีครับคุณแม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว  
 ใช่แล้วครับ ตัวจริงเสียงจริงครับคุณแม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว ตอนนี้ไม่ได้ขายมานานแล้วครับ เพราะว่าติดเรียนเมื่อตอนต้นปี และเตรียมสอบด้วยเลยงดไป... ก่อนช่วงนี้... เรียนจบแล้วเมื่อเดือนกรกฏาที่ผ่านมาเลยพอมีเวลาที่ว่าง มารับจ็อบใหม่ เขียนเยอรมันทบทวนความรู้ไปก่อน... แกะสลักนั้นพร้อมเมื่อไรแล้วค่อยไปขายอีกที... เพราะว่าแต่ละก้อนใช้เวลาเยอะมาก... ขายผลงานและคุณภาพครับ ไม่ได้ขายปริมาณ ทำด้วยใจรักและ ฝึกสมาธิไปในตัว... ขอไม่โมษณาแกะสลักนะครับเพราะปฏิบัติตามกฏ แต่ถ้ามีโอกาสแกะผลงานสวยๆ อีกเมื่อไรจะนำออกมาโชว์อีกครับ  
 
 ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน ตอนนี้ผมกะว่าจะเตรียมพื้นฐานแกรมม่าให้ก่อนนะครับ เพราะว่าสำคัีญ บทเรียนสำหรับชีวิตประจำวัน คิดไว้่อยู่เหมือนกันครับ ถ้าจบเรื่องแกรมม่าเมื่อไร แล้วจะนำมาเสนอแน่นอน อย่าลืมคอยติดตามอ่านนะครับ ตอนนี้ขอขายเนื้อ(หา) ก่อนแล้วค่อยตามด้วยของหวาน แบบน้ำหวาน มันใส่กะทิเยอะๆ ครับ ขอให้คุณแม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว ชิมไวน์ไปก่อนนะครับช่วงนี้