เยอรมันวันละนิด Verb เรื่องหน้าที่และการใช้ กริยาพื้นฐาน sein, haben, werden

Previous topic - Next topic

ศักดา

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน  
 วันนี้ขอนำ กริยา พื้นฐานของภาษาเยอรมันมาฝาก สาม ตัวนะครับ เพราะ กริยานี้ทำหน้าที่หลายอย่าง
  เป็นได้ทั้งกริยาช่วย และ กริยาแท้
 ที่แปลตามความหมายตรงตัว  
 แล้วในโอกาสหน้าจะตามมาด้วย กริยา ตัวอื่นต่อไป  
 คอยติดตามอ่านนะครับ ถ้าสนใจ...  
 
 กริยาและหลักแกรมม่านี้ผมจะไม่แปลวิธีอ่าน
 (คำอ่านเทียบเสียงเยอรมัน-ไทย ที่ผมสุดวิสัยจริงๆ
 ที่จะเขียนคำอ่านในภาษาไทยให้ตรงกับสำเนียงในภาษาเยอรมัน) เพราะว่าตอนผมเรียนนั้นเรียน
  กับอาจารย์ที่นี่ชาวสีดา(ฝรั่ง) มาตลอด  
 อาจารย์จะไม่พูดภาษาไทยเลย  
 เพราะว่า(พูดไม่ได้) การสอนนั้นเป็นภาษาเยอรมันล้วน
  น้อยมากที่จะแทรกภาษาอังกฤษบ้าง
  ถึงแม้ว่าจะแทรกแต่ผมก็ไม่เข้าใจ อย่างท่องแท้อยู่ดี...  
 เพราะว่าภาษาอังกฤษอันน้อยนิดของผมนั้นไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร... เลยได้ภาษาเยอรมันอย่างเดียว... ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ  
 
 วันนี้ ขอกล่าวเกริ่นๆ เกี่ยวกับแกรมม่าที่จะนำเสนอนี้ ไว้ก่อนนะครับ
  ต่อไปก็จะอธิบายถึงกริยาตัวอื่นๆ คือ
  กริยา Modalverben  
 ที่แสดงถึง ความปราถนา ความต้องการ การอนุญาต  
 ความสามารถ และความเป็นไปได้ กริยาเหล่านี้ได้แก่  
 können, dürfen, müssen,  
 sollen, wollen, mögen, lassen  
 และ เวลาที่จะใช้ กริยา เมื่อไร เวลาไหน อย่างไร  
 เกี่ยวกับอดีต ช่องต่างๆ และอนาคต
  และ กริยาที่ทำหน้าที่อื่นๆ อีกในประโยคต่างๆ  
 รวม ก็ประมาณ 11 บทนะครับ
  อย่าลืมติดตามอ่านนะครับ คือผมจะแปลรวมทั้งอธิบาย
  จากหนังสือแกรม่า และ จากประสบการณ์ตรง
 ที่ได้เรียนและสัมผัสมา เผื่อให้ผู้ที่สนใจเริ่มเรียนภาษาเยอรมัน
  ได้นำไปใช้ประยุกต์และเป็นพื้นฐานในการเรียนภาษานี้ต่อไป
  ตอนนี้เริ่มบทแรกก่อน นะครับ แล้วบทอื่นๆจะตามมาอีก....
  ต้องขอขอบคุณและขออนุญาต คุณป้า Pall เป็นอย่างยิ่ง
 ที่เปิดโอกาส เนื้อที่ตรงนี้ให้ผม  
 ได้มีโอกาสแลกเปลื่ยน ความรู้บ้าง ผิดหรือตกหล่นอย่างไร  
 ขอรบกวนและขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ  
 สำหรับ คำแนะนำและติชม...

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0004 ห้อง learning_german (เผื่อใช้ในการค้นหา)**


ศักดา

**sein ...แปลว่า เป็น อยู่ คือ  
 **haben ...แปลว่า มี เป็นเจ้าของ ได้รับ
 ** werden ...แปลว่า กลายเป็น บังเกิด จะ  
 
 **ตามหนังสือหลักแกรม่า กริยา sein แยกได้ดั้งนี้ **
 
 Als Vollverb กริยารูปเดิม
  คือจะต้องผันไปตามประโยคที่จะแปลตามความหมายในรูปเดิม เช่น  
 
 Ich bin müde  
 ฉันง่วงนอน กริยาใช้กับคุณศัพท์ müde Adj.  
 คือ คุณศัพท์ และอีกตัวอย่างเช่น
  Ich bin satt. ผมอิ่มแล้ว
  แต่ Ich habe satt! ฉันอิ่มอกอิ่มใจ เต็มที่แล้วนะ
  คือทนไม่ไหวแล้ว  
 (อารมณ์พร้อมที่จะระเบิด ออกมาเมื่อไรก็ได้) และ
  Ich habe klat. ฉันรู้สึกหนาว  
 แต่ Ich bin klat.  
 ก็จะมีความหมายด้านลบทั้นที คือ  
 ฉันเป็นคน เยือกเย็น (ไร้หัวใจ) ต้องระวังในการใช้นะครับ  
 
 Ich bin Ärztin
  ฉันเป็นเพทย์หญิง กริยาใช้กับนาม Ärztin  
 คือนาม และอีกตัวอย่างเช่น
  Ich bin Hausfrau. ฉันเป็นแม่บ้าน
  Ich bin Student. ผมเป็นนักศึกษาครับ  
 
 Die Tür ist geschlossen ประตูนั้นปิดอยู่  
 กริยา ist + Partizip II เป็นรูป Passiv  
 
 Als Hilfverb ใช้เป็นกริยาช่วย  
 Ich bin gestern angekommen  
 ผมมาถึงเมื่อวานนี้แล้ว
  bin angekommen เป็นอดีตกาล  
 
 Ich war gestern angekommen  
 ผมมาถึงเมื่อวานนี้แล้ว  
 war angekokommen เป็นอดีตกาลสมบูรณ์  
 
 อาจจะทำให้งงนะครับ ว่าทำไมต้องเป็นอดีตกาลสมบูรด้วย  
 คือ ประโยคนี้จะแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว  
 จากจุด Aไปยังจุด B  
 ที่อธิบายอดีตที่เกิดเมื่อไม่นานนี้  
 คือจะต้องมีการเปรียบเทียบลำดับเหตุการณ์นะครับ  
 แต่จะเขียนโดดๆดังข้างบนนั้นไม่เป็นที่นิยม  
 ...A. Der Regen hatte schon aufgehört, als ich gestern in Rom ankam.  
 ..B. ฝนได้หยุดตกแล้ว ตอนผมมาถึงกรุงโรม เมื่อวานนี้  
 A. Plusquamperfekt  
 ส่วน B. Präteritum  
 
 จะเห็นได้ว่าลำดับเหตุการทั้งสองนี้เป็นอดีตทั้งคู่
 แต่จะเรียงลำดับเหตุการณ์ก่อนและหลังของอดีตการณ์  
 
 **การผัน กริยา sein ตามประธานและ เวลา**  
 
 **...Präsens  
 ich bin  
 du bist  
 er, sie, es ist  
 wir sind  
 ihr seid  
 sie, Sie sind  
 
 **....Präteritum  
 ich war  
 du warst  
 er, sie, es war  
 wir waren  
 ihr waren  
 sie, Sie waren  
 
 **..Perfekt  
 ich bin gewesen  
 du bist gewesen  
 er, sie, es ist gewesen  
 wir sind gewesen  
 ihr seid gewesen  
 sie, Sie sind gewesen  
 
 Plusquamperfekt  
 การผันนั้นก็คือการนำกริยาช่วย ในช่อง Präteritum
  และตามด้วย Perfekt ดังเช่น  
 ich war gewesen  
 du warst gewesen  
 ….  
 
 **Verb sein**  
 ใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น  
 
 *1.ใช้ใน รูปของ Perfekt ส่วนมาก
 กับ กริยที่ใช้คู่กับ Dativ คือ
  intransitives Verb เช่น  
 Das Glas ist mir aus der Hand gelitten und zerbrochen.
  ผมทำแก้วหลุดมือแตก  
 
 2. ใช้เป็นกริยาช่วย ในประโยค Plusquamperfekt  
 Ich war kaum 10 Kilometer gefahren,  
 als der linke Hinterreifen platzte.  
 ผมขับไปได้ ไม่ถึง 10 กิโลเมตร ยางรถช้ายก็เกิดระเบิด  
 
 3. ใช้กับ Zustandpassiv.  
 Die Strasse ist gesperrt. ถนนนั้นปิดกั้น  
 
 **sein, war, ist gewesen **
 1. แปลว่าเป็น เช่น Er ist Lehrer เขาเป็นครู  
 
 2. คือ เช่น Leben ist Kampf. ชีวิตคือการต่อสู้  
 
 3. แสดงความเป็นเจ้าของ (กริยาช่วย)  
 Das ist mein Schirm. นั่นคือร่มของผม  
 
 4. กำลังอยู่ เช่น
  Er ist in einer Besprechung. เขากำลังประชุมอยู่  
 ถ้าใช้เป็นประโยคคำถามถึงสถานะภาพ(เป็น อยู่ คือ)
  ก็ได้ คือกริยา ขึ้นต้นก่อน  
 Ist er in einer Besprechung?  
 

ศักดา

**กริยา haben **
 
 haben; hat, hatte, hat gehabt;  
 แปลว่า มี เป็นเจ้าของ ได้รับ  
 ในส่วนนี้จะใช้เป็นกริยาปกติคือผันธรรมดา ว่าเรามี เช่น
  Ich habe ein kleines Auto ...ผมมีรถคนเล็ก  
 
 **การผัน กริยา haben ตาม ประธานและ เวลา  
 
 **Präsens **
 ich habe  
 du hast  
 er, sie, es hat  
 wir haben  
 ihr habt  
 sie, Sie haben  
 
 **Präteritum **
 ich hatte  
 du hattest  
 er, sie, es hatte  
 wir hatten  
 ihr hattet  
 sie, Sie hatten  
 
 **Perfekt อดีต **
 ich habe gehabt  
 du hattest gehabt  
 er, sie, es hat gehabt  
 wir hatten gehabt  
 ihr habt gehabt  
 sie, Sie hatten gehabt  
 
 Plusquamperfekt  
 การผันนั้นก็คือการนำกริยาช่วย ในช่อง Präteritum  
 และตามด้วย Perfekt ดังเช่น  
 ich hatte gehabt  
 du hattest gehabt  
 ….  
 
 ส่วนการใชัแต่งประโยคนั้น  
 กริยา haben ไม่สามารถใช้กับประโยค Passiv ได้
  แต่จะใช้ได้หลายรูปแบบเช่น  
 
 *1. เป็นกริยาช่วย haben + กริยาช่อง อดีตกาล Perfekt เช่น Ich habe ihn seit letzter Woche nicht gesehen. ผมไม่ได้พบเขา ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว  
 
 2. กริยาช่วย haben + Plusquamperfekt อดีตกาล สมบูรณ์:  
 Nachdem er die Medizin eingenommen hatte, ging es ihm viel besser.  
 เขารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากกินยาแล้ว  
 
 3. ใช้กับประโยคอนาคตช่องสอง Futur II Wir Menschen werden die Natur bald völlig zerstört haben.  
 ในไม่ช้านี้มนุษย์เราจะทำลายธรรมชาติทั้งหมดแล้ว (เป็นการคาดการณ์)  
 
 4. ใช้กับประโยคบอกเล่า Konjunktiv I
  Ich habe gehört, er habe gekündigt.  
 ผมได้ยินมาว่าเขาลาออกจากงานแล้ว  
 
 5. ใช้กับประโยค สมมุติ ปราถนา  
 หรือในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง Konjunktiv II:  
 Ich hätte nicht gedacht, dass ich Sie hier treffen würde.  
 ผมไม่นึกว่าจะเจอคุณที่นี่
  Wenn ich das Geld hätte, würde ich es kaufen.
  ถ้าหากฉันมีเงินละก็ ฉันคงจะซื้อมันแล้วละ

ศักดา

**กริยาสุดท้ายของวันนี้คือ...werden **
 
 **werden ..**
 แปลว่า กลายเป็น บังเกิด  
 จะ มีหน้าที่การใช้และแยกได้ดังนี้คือ  
 
 Als Vollverb กริยารูปเดิม  
 คือจะต้องผันไปตามประโยค
 ที่จะแปลตามความหมายในรูปเดิม เช่น  
 Ich werde Pilot.  
 ผมจะเป็นนักบิน  
 กริยาใช้กับนาม Pilot คือนาม  
 
 Ich werde ungeduldig.
  ฉันจะไม่มีความอดทนแล้วนะ  
 กริยาใช้กับ คุณศัพท์ ungeduldig คือคุณศัพท์  
 
 Als Hilfsverb ใช้เป็นกริยาช่วย  
 Ich würde jetzt gern schlafen.
  ฉันอยากจะไปนอนแล้วละ  
 würden ผันมาจากกริยา werden
  ช่องอดีต Präteritum เติมด้วย จุด ข้างบนสองจุด (Umlaut) เรียกประโยคนี้ว่า Konjunktiv II  
 ใช้กับประโยค สมมุติ ปราถนา
  หรือในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง  
 (วิธีการใช้อย่างไรเมื่อไร แล้วจะมาอธิบายกันในบทต่อไป)  
 
 Hier wird ein Museum gebaut.  
 ที่นี่จะมีการสร้างพิพิธภันฑ์
  wird นี้เป็นกริยาช่วยในการสร้างประโยค Passiv  
 
 Ich werde dich bald besuchen.  
 ผมจะไปเยี่ยม คุณในเร็วๆนี้
  werde แปลว่า จะ ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยคอนาคต Futur I  
 
 Modaler Gebrauch ใช้ในการคาดการณ์  
 Er wird krank sein.  
 เขาอาจจะป่วย werden นี้ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย ในการสันนิษฐาน  
 
 **การผัน กริยา werden ตาม ประธานและ เวลา  
 
 **Präsens  
 ich werde  
 du wirst  
 er, sie, es wird  
 wir werden  
 ihr werdet  
 sie, Sie werden  
 
 **Präteritum  
 ich wurde  
 du wurdest  
 er, sie, es wurde  
 wir wurden  
 ihr wurdet  
 sie, Sie wurden  
 
 **Perfekt  
 ich bin geworden  
 du bist geworden  
 er, sie, es ist geworden  
 sie, Sie sind geworden  
 
 **Plusquamperfekt  
 ich war geworden  
 du warst geworden  
 er, sie es war geworden  
 wir.....  
 
 * คัดย่อ มาจากดิกไทย Wörterbuch Deutsch-Thai เขียนโดย Josef Rohrer  
 **คัดย่อ อ้างอิงจากหนังสือ Grundstufen-Grammtik, Heuber Verlag  
 

pall

ขอบคุณมากค่ะคุณศักดา  
 วันนี้ได้เรียนเพิ่มขึ้นและได้รู้วิธีการใช้  
 Grammtikอย่างถูกต้องมากขึ้นเลย  
 บางประโยคยอมรับว่าไม่เคยใช้เลยอย่างที่คุณบอกมา  
 Ich habe satt!...  
 
 แต่ประโยคนี้ยังไม่เข้าใจค่ะ  
 Ich habe klat. ฉันรู้สึกหนาว  
 แต่ Ich bin klat. ก็จะมีความหมายด้านลบทั้นที คือ ฉันเป็นคน เยือกเย็น (ไร้หัวใจ) ต้องระวังในการใช้นะครับ  
 
 คำว่าklat....ใช่คำว่า kalt..หรือเปล่าคะ  
 หรือว่าเป็นคำแสลง  
 ขอบคุณมากค่ะที่ป้าได้มีโอกาสเรียนเพิ่มขึ้น  
 แล้วจะพยายามจัดห้องเรียนภาษาโดยเฉพาะ  
 ถ้าฝ่านมีเวลาซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก  
 เป็นพื้นฐานต่อคนใฝ่รู้อยากเรียนภาษาเยอรมัน  
 หรือกำลังเรียนอยู่แต่ไม่เข้าใจละอียด  
 

ศักดา

สวัสดีตอนเช้าครับคุณป้า  
 ขอบคุณครับ คำว่า Kalt ที่ผมพิมพิ์ผิด  
 เป็น klat... อย่างจังๆเลยครับ  
 แก้นะครับเป็น kalt, kälter, kältest-; Adj  
 ไม่ได้เป็นคำแสลงครับ ความหมาย เหมือนดังที่ผมเขียนครับ คื่อ Ich habe kalt. ฉันรู้สึกหนาว
  ส่วน Ich bin kalt. ฉันเป็นคน เยือกเย็น (ไร้หัวใจ)  
 เป็นความหมายด้านลบ.  
 
 ขอบคุณมากครับ

pangya

สวัสดีจ้ะป้าพอล สวัสดีค่ะ คุณศักดา
  แอบมาอ่านค่ะ
 แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะเพิ่งเริ่มเรียน
  แถมยัง งงงงงงงงงง มากกกกกกกกกกก กับภาษาเยอรมัน แต่คิดว่ามีประโยชน์ แน่นอนสำหรับปังในอนาคตค่ะ  
 
 ขอบคุณค่ะ

สุชาติ


ศักดา

สวัสดีครับคุณป้าPall  
 
 สวัสดีครับคุณ pangya ขอบคุณครับที่แวะผ่านมาอ่าน ตอนนี้อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าได้อ่านได้ยินบ่อยๆ เดี๋ยวเข้าใจเองครับโดยที่เราไม่รู้ตัว...  
 
 สวัสดีครับคุณสุชาติ ผมอยู่ Bern ครับ

pall

คุณศักดามีลูกศิษย์เพิ่มขึ้นแล้วดีใจค่ะที่มีคนสนใจ  
 ห้ามหนีไปไหนนะคะถ้าเปิดห้องเรียนแล้วครูหนีต้องหักเงินเดือน  
 ป้าเป็นหัวหน้าลูกศิษย์เพราะจ๊าบกว่าใครๆ  
 คุณปังคะอย่างที่คุณศักดาพูดมา..ฟังมากๆๆ...  
 ดูทีวีมากๆๆ...อ่านหนังสือพิมพ์มากๆๆอ่านตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ  
 ผสมกับฟัดกับคนข้างๆมากขึ้นภาษาจะเป็นไวค่ะ..  
 (ภาษาดอกไม้)  
 เราพูดกับคนที่นี่อย่าอายถ้าพูดมั่วผิดๆถูกๆ..  
 ไม่ช้าคุณปังจะเก่ง...ป้าเองอย่างที่เคยบอกไม่เคยไปโรงเรียน  
 หรือไปเรียนภาษาจากไหนเลย  
 ภาษาที่พอพูดได้จากคนที่นี่...ยอมรับค่ะว่าพูดไม่เก่ง  
 แต่ฟังภาษาท้องถิ่นได้และเข้าใจดีและอ่านเยอรมันได้  
 อันนี้ขึ้นอยู่ว่าเราสนใจแค่ไหน  
 อย่าท้อนะคะ...และอย่าพูดภาษาอังกฤษกับแฟน..พยายามพูดด๊อยซ์  
 แปลกมากนะคะถ้าเราได้ภาษาหนึ่งดีขึ้นภาษาเก่าจะแย่ลง  
 หรือเพราะเราสนใจน้อยลงและไม่ได้ฝึกฝนก็ได้  
 เอาใจช่วยค่ะ  
 

ศักดา

สวัสดีครับคุณป้าPall  
 ดีใจครับที่มีคนสนใจ ผ่านมาอ่านเพิ่มขึ้น... และขอขอบคุณครับที่ให้เกียรตั้งชื่อให้เป็นครู... งั้นขอให้คุณป้าเป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของโรงเรียนในเน็ตแหน่งนี้ ที่คุณป้าก่อตั้งขึ้น รวมทั้งสละเวลาอันมีค่่ามาดูแลและให้โอกาส เป็นที่พักรวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน  
 
 บทต่อไปกำลังจะตามมาเร็วๆนี้ กำลังเตรียมการสอนอยู่ครับ... อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ...  
 
 ไม่หนีไปไหนแน่นอนครับ(กลัวโดนตัดเงินเดือน...) ขอเป็นครูบนเนินแล้วกันครับ ถิ่นฐานมาจากที่ราบสูง... ไม่มีดอย... ความรู้น้อย... เพราะว่าหนทางเรียนไปมหาลัยนั้นลำบากและไกลเหลือเกิน... ขอเรียนในมหาลัยชีวิตไปพลางๆก่อน... อยู่แถบข้างรั้วมหาลัยดีกว่า... คอยแสดงความยินดีกับนิสิตนักศึกษาที่จบออกมาเป็นปัญญาชนจะดีกว่า (คอยขายดอกไม้ เวลาเขารับปริญญา...) บางทีอาจจะได้รับความรู้ใหม่ๆมาแลกเปลื่ยนและนำมาปรับปรุงให้เข้ากับชีวิตของผมเองได้อีกทางหนึ่ง...  
 
 ด้วยความยินดีครับที่จะสอนและแบ่งปันให้สุดความสามารถตามที่มีอยู่ครับ ผิดถูกอย่างไร ขอนน้อมรับคำติชมจากทุกท่าน เพื่อที่จะได้พัฒนาต่อมสมอง ต่อไป...

pangya

สวัสดีค่ะ ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ 55555  
 
 สวัสดีค่ะ อาจารย์ ศักดา  
 
 ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เจ้าข้า  
 
 แต่ไม่รับรองว่าจะฉลาด และ สอบผ่านหรือเปล่า เพราะลูกศิษย์ โง่ซ้า  
 
 เกินเยียวยาแล้วค่ะ 555555
 

ศักดา

สวัสดีครับ คุณ pangya  
 ไม่เป็นไรครับ ได้วันละตัวก็ยังดี โรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในหนึ่ีงวันนะครับ... ครก(หินที่หนักๆ) ยังมีคนเข็นขึ้นเขาได้เลย ผมคิดว่าคุณ pangya ไม่ต้องเข็นกันแล้ว วิ่งเอาเลย... เป็นกำลังใจช่วยครับ...

เกตุ

จะบอกคุณครูศักดาว่า เกตุปริ้นออกมานั่งอ่านกลับไป กลับมา กลับไป กลับมา อ่านหลายๆรอบ พยายามทำความเข้าใจสุดฤทธิ์ ขอบคุณครูศักดามั่กๆเลยค่ะ ที่ช่วยแปลเป็นไทยให้เข้าใจขึ้นมากๆ จะคอยติดตามต่อไปค่ะ อย่าหายไปน๊า