ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว

Previous topic - Next topic

JitJit

หลังจากรอคอยกันมายาวนาน ก็ได้ข้อสรุปว่า วีซ่าไม่ผ่าน ค่ะ

หลังจากรออยู่ 2 เดือนก็ไม่มีจดหมายหรืออะไรถึงแฟนเราที่สวิส เลย แต่เราก็คุยกันว่า ให้เวลาเขาอีกหน่อยนะ ไม่ต้องโทรไปถามเขาหลอก ก็เลยรอมาจนถึง 4 เดือน มันชักนานเกินไปก็เลยไปที่สถานทูตสวิสอีกทีถามว่าทำไมนานจังเลย
"คุณคะยื่นวีซ่าอุธรณ์ไปตั้งนานแล้วทำไมยังไม่มีคำตอบ หรือจดหมายถึงแฟนที่สวิสเลยคะ"
"เอาพลาสปอร์ตมาหรือเปล่า"
"ค่ะ"
ยื่นพลาสปอร์ตให้ไปแล้วเขาก็เช็คบนจอคอมพิวเตอร์
"เรื่องส่งไปที่สวิส แล้วนะคะ ให้แฟนไปติดต่อได้เลย"
"แต่ปกติต้องส่งจดหมายมาไม่ใช่หรอ"
"บางทีเอกสารมันเยอะก็อาจจะมีตกหล่นบ้างน่ะ"
"แต่นี่มัน 4 เดือนแล้วนะคะ ทำไมมันช้าจังเลย"
"ไม่ช้าหรอก บางคนเป็นปียังมีเลย"
คิดในใจว่า "จริงหรอเนี่ย"

เสร็จธุระก็กลับแล้วก็เลยคุยกับแฟนให้ไปติดต่อที่สถานีตำรวจที่ bern แล้วแฟนก็โทรไปถามผลสรุปว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาบอกว่าให้รอประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ได้รับจดหมายว่า ปฏิเสธ การขอวีซ่า ด้วยเหตุผลเดิม "กลัวเราจะไม่กลับมาเมืองไทย เพราะไม่มีภาระผูกพันที่เมืองไทย" และถ้าทางแฟนไม่พอใจการปฏิเสธนี้ให้เขียนจดหมายโต้กลับไป

ทีนี้ก็มานั่งคิดว่า เอะ! เขาได้รับเอกสารที่เรายื่นเพิ่มเติมไปหรือเปล่า เพราะเราก็มีภาระผูกพันตั้งเยอะ แฟนก็เลยเขียนจดหมายยาวเหยียดส่งกลับไปอีกที และก็รอคำตอบอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ คำตอบที่ได้ก็คือ วีซ่าไม่ผ่านเหมือนเดิมเหตุผลคือ เราไม่มีงานทำ นั่นเอง

จบข่าว! สำหรับการรอคอยอันยาวนาน เฮ้อ!เลยอดไปเที่ยวเลยเรา ทำไมมันยากเย็นขนาดนี้นะ

...สงสัยต้องลงมือทำธุรกิจ 100 ล้านของเราซะแล้วถึงจะผ่านซะที ฮิฮิ(ล้อเล่นนะคะ) ก็ไม่อยากซีเรียสน่ะ ;D

aum

สวัสดีค่ะ คุณ jitjit
      อุ้มอ่านแล้ว รู้สึกว่าว๊าววๆๆๆ ทำไมนานจัง แล้วแถมวีซ๋ายังไม่ผ่านอีก รอมาตั้งสี่เดือน :oเนี่ยอุ้มยังเข้าใจคุณ jitjit มาเที่ยวสวิสจนกลับไปแล้วซะอีกนะคะเนี่ย ทำไมการขอวีซ่าตอนนี้มันถึงได้ยากจังคะ แต่เท่าที่อุ้มรู้มายังไม่มีคนผ่านซักคนเลยค่ะ แต่ดีแล้วค่ะที่คุณ jotjit ไม่เครียด ยังไงลองใหม่อีกครั้ง เผื่อเอกสารมันจะตกหล่นจริงๆ โชคดีนะคะ :)

Nantaree

เสียใจด้วยนะคะพี่จิต  เอ..ช่วงหลังๆนี้ สวิตให้วีซ่ายากจังนะคะ เมื่อก่อนคนที่ขอพร้อมแนน
ไม่มีงานทำบ้าง เป็นนักศึกษาบ้าง ยังได้วีซ่าเลย เห็นน้องเขาบอกว่าแฟนต้องเอาเงินใน Bank
ไป garantee ไว้เพราะเขากลัว น้องไปแล้วไม่กลับค่ะ จริงๆ แฟนพี่ต้องเข้าไปคุยกับเขา
และปรึกษาเขาว่า ต้องทำอย่างไร ถ้าอยากให้แฟนมาจริง เขาน่าจะมีข้อเสนอให้นะคะ
แต่ก็แล้วแต่เมือง แต่เขตอีกมั้งคะ ไม่เป็นไรคะ ลองใหม่ สู้ๆ นะคะ

toosonglho

Quote from: JitJit on July 16, 2009, 01:25:13 AM
  ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเว็บป้าพอลมากๆเลยค่ะที่ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนได้มาเล่าประสบการณ์การขอวีซ่าให้ฟังนะคะ มีประโยชน์และได้ข้อมูลมากมายเลยจริงๆ จึงอยากขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้าง เพื่อทดแทนที่หาข้อมูลที่นี่มาตลอด อาจจะมีประโยชน์บ้างเล็กน้อยก็ยังดีนะคะ                    
           ;D เริ่มต้นด้วยแฟนอยากให้ไปเที่ยวดูประเทศเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากรู้จักกันมาได้ 4 ปี เราก็ไม่คิดว่าจะไปเที่ยวดูประเทศของเขาหลอกเพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ รอเขาขึ้นมาเที่ยวหาเราดีกว่า  แต่ก็ปีละ 1 ครั้งเอง และตอนนี้แฟนก็บอกว่ามันน้อยเกินไปนะปีละ 1 ครั้งน่ะ เอางี้ไหมให้เราบินไปหา 1 ครั้ง และ เขาบินมาเมืองไทย 1 ครั้ง ดังนั้นปีนึงเราก็จะได้เจอกัน ปีละ 2 ครั้ง ก็เป็นอันโอเคตามนั้น
* เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ การขอวีซ่า ก็โชคดีได้เจอเว็บป้าพอล และก็มีน้องๆพี่ๆ มาแชร์ประสบการณ์ ขอขอบคุณทุกๆคนด้วยนะคะโดยเฉพาะน้องแนนจ้า
* อันนี้แฟนแนะนำให้อ่าน
       รายละเอียดเกี่ยวกับการขอ วีซ่า visitor จากสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์  เป็นภาษาไทย
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0307.File.tmp/visitor_th.pdf
      เพราะแฟนอ่านอันนี้ ตอนแรกแฟนจะให้แค่จดหมายเชิญ กับจะซื้อประกันการเดินทางให้จากที่สวิสเลยแต่เราบอกว่าไม่ต้องหลอกซื้อจากเมืองไทยง่ายกว่า และถ้าไม่ผ่านอย่างไงก็คืนเงินได้
........และเราก็เลยบอกไปอีกว่า เห็นน้องๆ เขาบอกว่าต้องมี
- พาสปอร์ตผู้เชิญหน้าที่มีรูปผู้เชิญ และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออก เมืองไทยด้วย 
- หลักฐานการเช่าหรือ การเป็นเจ้าของบ้าน
- ต้องโชว์บัญชีเงินฝากด้วย
- หลักฐานของการทำงานหรือถ้ามีบริษัทก็ต้องเอาด้วย
.....แต่แฟนให้มาแค่.....
1...จดหมายเชิญ
2...พลาสปอร์ตหน้าที่มีรูปแฟน และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออกเมืองไทย
3...หลักฐานที่อยู่อาศัยของแฟน
       
       ??? แค่ 3 อย่างเท่านั้นเองเราก็แอบกังวลนะว่า ทำไมไม่โชว์เรื่องงาน เรื่องเงิน ด้วยเพื่อสถานทูตจะได้เห็นไปเลยว่า สามารถดูแลเราได้และก็มีงานแน่นอน แต่ก็พูดไปแค่ครั้งเดียวไม่ได้ตอกย้ำอะไรอีก :'(
   
******เมื่อเอกสารฝ่ายชายเรียบร้อยก็คิดว่าน่าจะโทรไปนัดสถานทูตได้แล้ว เพราะเอกสารของเราไม่ยุ่งยากและไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากไหน  ผู้ยื่นขอวีซ่าทุกคนต้องโทรนัดทางโทรศัพท์เพื่อขอยื่นวีซ่า ที่หมายเลข 1900-222-340 (นาทีละ 9 บาท และโทรได้เฉพาะภายในประเทศ)*********   
       

    ต่อมาก็มาดูเอกสารของตัวเราหละทีนี้ก็แอบคิดว่า ต้องเยอะกว่าฝ่ายชายแน่ๆเลย และอีกอย่างแอบกังวลด้วยเพราะว่าตัวเองไม่ได้ทำงาน มา 2 ปีแล้ว เพราะแฟนอยากให้มีเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เวลาเขามาเที่ยว และเราก็คิดว่าจะหาอะไรทำซักอย่างที่เป็นธุรกิจส่วนตัวของเราเอง แต่เศรษฐกิจอย่างนี้นะ อย่าดีกว่า เก็บเงินไว้ จะได้ไม่เจ็บตัว แต่แฟนก็ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนนะ เราก็เลยเตรียมเอกสารอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยจากคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เท่าไหร่

1...บัญชีธนาคารที่โชว์ว่าแฟนส่งเงินมาให้ประมาณ 6 เดือน และหน้าบัญชีธนาคาร
2...ใบผ่านงานจากบริษัทเก่าที่ทำงานมา 14 ปี แนบใบเสียภาษีปีสุดท้าย และใบเงินสะสมจากที่บริษัทตัดเงินเดือนเก็บไว้
3...อีเมล์ที่เราติดต่อกันปริ้นท์ปีละ 2 ใบ และพอดีมีอีเมล์รูปที่แฟนส่งรูปครอบครัวมาให้ดูก็เลยปริ้นไปด้วย
4...มีใบปริ้นท์ตั๋วเครื่องบินที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันที่เชียงใหม่ปี 2008 ด้วย ก็เลยเอาแนบไปด้วยกับรูปถ่ายคู่ 2 ใบ
5...พลาสปอร์ตตัวจริง พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
6...บัตรประชาชน พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
7...สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
8...สำเนาใบประกันอุบัติเหตุ
*****ข้อควรระวัง : ประกันที่ซื้อมาจะต้องเรียกเงินคืนได้ ในกรณีที่ไม่ได้รับวีซ่า
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0291.File.tmp/Travel-Health%20Insurance%20Co's%20in%20THA.pdf

9...ใบจองตั๋วเครื่องบิน *****ข้อควรระวัง ห้ามซื้อตั๋วเดินทางก่อนจะได้รับวีซ่าสถานเอกอัครราชฑูตฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ได้ หากเกิดการล่าช้าหรือวีซ่าได้รับการปฎิเสธ
***ที่นี้น้องแนนแนะนำ และเราก็ได้ไปจองตั๋วบินที่นี่ด้วย ขอการันตีด้วยอีกคนจ๊ะว่าน้องเขาคุยง่ายและเข้าใจดีจ๊ะhttp://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,3033.0.html 

10...รูปถ่าย 2 นิ้วพื้นหลังขาว 2 ใบ ใบนึงติดที่ใบคำร้องขอวีซ่า อีกใบแนบไปด้วยแล้วเดี๋ยวพี่ที่เขาตรวจเอกสารจะแยกไปติดกับพลาสปอร์ตให้เรา

11...ใบคำร้องขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่าย

http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0284.File.tmp/Visumantrag%20Schengen%20e_d_f%20online_fill_in.pdf
      และบอกตรงๆ ว่าปวดหัวมากเพราะเป็นภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการมาก จนแปลไม่ออก เลยนอนดูอยู่เฉยๆ สัก 1 อาทิตย์ จะทำไงดีเนี่ยจะถามแฟนก็แหม แค่นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรอ และก็ให้บังเอิญถามน้องแนนน้องเขาก็เลยแนะนำเว็บที่แปลภาษาไทยมาให้โชคดีอีกแล้ว เลยหายปวดหัวเลย  ถ้าช่องที่ไม่มีอะไรตอบให้ใส่ NONE ค่ะ
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp01.jpg  หน้า 1
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp02.jpg  หน้า 2
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp03.jpg  หน้า 3
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp04.jpg  หน้า 4
หน้าที่ 5 ก็ กรอกที่ ชื่อที่อยู่ของแฟน 
หน้าที่ 6 ไม่ต้องส่งจ๊ะ

12...เตรียมเงิน 2800 บาท ให้พอดีนะ เพราะไม่มีทอนให้จ๊ะ
     
     ตรงนี้ขอเล่าความไม่รู้ (โง่นั่นเอง :o) ให้ฟังนะ คิดว่า เอกสารทุกอย่างที่เราเตรียมไปยื่นที่สถานทูตนั้นจะต้องแปล เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ทั้งๆที่ก็อ่านที่น้องๆเขาแนะนำการเตรียมเอกสารนะ.. เขาก็ไม่ได้พูดว่าต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย แล้วเราไปเอามาจากไหนเนี่ยก็ งง ตัวเองเหมือนกัน)ก็ไปถามราคาเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่าแปลหน้าละ 300 บาท เราก็ว่ามันถูกดีนะ แต่ทำไมดูในเว็บป้าพอลเขาบอกว่าประมาณ 900-1200 บาท ก็เลย เอ๊ะ!! มันแปลกๆนะหรือเราต้องไปเสียค่าอะไรอีกหรือเปล่า เลยโพสต์กระทู้ถามบนเว็บป้าพอลว่าแปลเอกสารแผ่นละเท่าไหร่กันหรอ ปรากฎว่า ขอวีซ่าเยี่ยมเยียนเนี่ยไม่ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอื่นเลย ใช้ภาษาไทยนั่นแหละ โชคดีเป็นที่สุด ไม่ต้องเสียเงิน เฮ้อ!! เกือบไปแล้วเรา




          *****เมื่อถึงวันนัดก็จัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และอย่าลืมรหัสที่ สถานทูตให้ไว้นะคะ เพื่อเวลาถึงที่เขาตรวจเอกสารเขาจะได้เช็คได้ง่ายๆ  ว่าเราโทรมานัดแล้ว ไปยื่นมาเมื่อวันที่ 9 กค. 09 ค่ะ*****     

- พอถึงสถานทูตยามหน้าประตูจะขอบัตรประชาชนจากเราเพื่อแลกกับบัตรผ่านเข้าไปในสถานทูต

- เดินเข้าไปก็จะเจอพี่ที่เขารอตรวจเอกสารเราอยู่ เราก็ให้รหัสเขาไป แล้วเขาก็จะเช็คว่ามีรหัสนั้น แล้วหลังจากนั้นก็จะเช็คเอกสารเรา ถ้าไม่มีปัญหาก็เรียกเงิน 2800 บาท เพื่อเอาไปเสียบไว้กับกองเอกสารของเรา แล้วให้เราเข้าไปยื่นให้ช่อง 3

- เราก็เอาเอกสารไปวางไว้ที่ช่อง 3 แล้วก็ออกมานั่งรอ แล้วเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มารับเอกสารไปเช็คอะไร ต่อมิอะไรอีกก็ไม่รู้  ทีนี้ก็นั่งรอๆๆๆ รออยู่ประมาณ 2 ชม. เพราะไปเร็วกว่าเวลานัด 1 ชม. เพื่อความแน่นอนเกี่ยวกับเอกสารว่าไม่มีปัญหาอะไร ระหว่างรอก็แอบตื่นเต้นอยู่มากๆเลย ว่าเขาจะสัมภาษณ์อะไรเราบ้างนะ

- เวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปสัมภาษณ์
**** อายุเท่าไร 
**** ไปทำอะไร
**** เคยไปมาก่อนไหม
**** เจอกันครั้งแรกที่ไหน 
**** เขามาเมืองไทยบ่อยไหม
**** รูจักแฟนมานานหรือยัง
**** เคยไปยุโรปไหม
**** อาชีพอะไร.....ไม่มีงานค่ะ 
**** ใครดูแลล่ะ ...แฟนส่งเงินให้ค่ะ
**** แฟนทำงานอะไร
**** เคยแต่งงานไหม
**** มีลูกหรือเปล่า
**** แล้วเราล่ะมีลูกหรือเปล่า
**** เคยแต่งงานหรือเปล่า
**** ชือแฟนสะกดอย่างไร...ขอบอกตอนแรกสะกดผิดไป 1 ตัว  ;D ตื่นเต้นมากมาย
******//////เอาหละซิเจอคำตอบที่ไม่รู้เยอะเลย**//////
-พ่อแฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ไม่รู้
-แม่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ยิ้ม
-พี่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว โอ้ยตายแล้วเรา
-น้องแฟนชื่ออะไร.........ไม่รู้เลยยยยยยยยยย
-รู้จักเพื่อนแฟนบ้างหรือเปล่า....ไม่รู้ค่ะ เพราะเขามาคนเดียวตลอด 
-ถนนที่แฟนอยู่ชื่ออะไร.....ไม่รู้ค่ะ แหะ ๆ
-เมืองที่ไปชื่ออะไร....CONTHEY ค่ะ
-เจอแฟนครั้งที่ 2 เเดือนอะไร....จำไม่ได้
-ครั้งที่ 3ล่ะ...จำไม่ได้
-ครั้งที่ 4 .... ใช่เลยจำได้เพราะปีนี้เอง 
-พูดภาษาอังกฤษได้ไหม..ค่ะ  งั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าเมื่อวานไปทำอะไรมา.....พูดไปได้ประมาณ 2 ประโยค

จบข่าว....ก็บอกว่า ให้มาฟังผลวันที่ ระบุไว้ในใบกระดาษเล็ก ที่เจ้าหน้าที่ยื่นให้มาก็ได้ฟังผลวันที่ 15 กค.52
     ******ถามได้เร็วมาก บอกตรงๆ ประหม่ามากมาย  ไอ้ที่น่าจะตอบได้ก็ลืมไปเลย ******
แต่เจ้าหน้าที่ก็โอเคนะ เป็นผู้ชาย ถึงจะถามเร็ว แต่ก็ยังสุภาพอยู่ และดูแล้วเจ้าหน้าที่ก็งานเยอะทุกคนเลย เห็นแล้วก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ค่ะ




     
     และถึงวันฟังผล ก็เอาไปกระดาษเล็กๆ ที่เจ้าหน้าที่ให้ไว้ ไปยื่นให้ยามหน้าประตู  ยามก็เลือกซองมาให้แล้วเขาบอกว่าเปิดดูก่อนแล้วเช็คด้านในดูว่าใช่ของเราหรือเปล่า เมื่อเช็คเรียบร้อยก็มาดูที่ หน้าซองเขียนว่า ให้ส่งเอกสารที่อยู่ในซองนี้ไปให้เจ้าบ้านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ดำเนินการ เจ้าบ้านจะเป็นผู้ติดต่อกับตำรวจที่ประเทศสวิส เอง หลังจากส่งเอกสารไป 1 เดือน ให้นำหนังสือเดินทางพร้อมใบจองเที่ยวบิน  มาตรวจสอบผลกับสถานทูตฯ
*******ตอนนี้ก็ส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วรอประมาณ 3 อาทิตย์ค่อยเช็คอีกที*******

         
****เมื่อถึงวันนั้นจะ มาเขียนให้อ่านอีกนะคะ ว่าผลจะเป็นอย่างไรบ้าง  หวังว่าคงจะทนอ่านกันได้นะคะและหวังว่าคงจะช่วยให้น้องๆ  เพื่อนๆ พี่ๆ ที่จะทำเรื่องขอวีซ่า VISITOR คงจะได้ประโยชน์บ้างนะคะ เพราะอาจจะแตกต่างจากที่น้องๆพี่ๆ ที่แชร์ประสบการณ์ การขอวีซ่าแบบเดียวกันนี้ไม่มากนัก แต่ก็หวังว่าคงจะมีสักนิดที่สามารถช่วยอะไรใครได้บ้าง ไม่มากก็น้อย****

toosonglho



   
อ้างถึง Re: การขอวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ประเภทเยี่ยมเยือน visitor
« ตอบ #5 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:17:15 PM »

--------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ
ตู่เป็นสมาชิกใหม่และกำลังเตรียมเอกสารจะขอ visa แบบเยี่ยมเยือนค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์เหมือนคุณ jit jit เลยในส่วนส่วนเอกสารของแฟน ส่งมาให้แค่นี้เหมือนกัน คือ แฟนส่งมาแค่ จม.เชิญ เอกสารการเช่า apartment และ passport ก็กังวลมากแต่พออ่านกระทู้นี้แล้วก็สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้วจะส่งข่าวบอกนะค่ะว่าผลเป็นอย่างไร

วันอังคารที่ 2 มี.ค.53 จะโทรไปนัดกับทงสถานฑูตแต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ นานไหมค่ะ เพราะทำการจอง ticket และซื้อประกันไว้ออกเดินทาง 25 เม.ย.53 กลับ 16 พ.ค. 53ค่ะ จะทันกับขั้นตอนของการขอ visa ไหมค่ะนี้ 

ตู่

toosonglho

สวัสดีค่ะงค.
ตู่เป็นสมาชิกใหม่และกำลังเตรียมเอกสารจะขอ visa แบบเยี่ยมเยือนค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์เหมือนคุณ jit jit เลยในส่วนส่วนเอกสารของแฟน ส่งมาให้แค่นี้เหมือนกัน คือ แฟนส่งมาแค่ จม.เชิญ เอกสารการเช่า apartment และ passport ก็กังวลมากแต่พออ่านกระทู้นี้แล้วก็สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้วจะส่งข่าวบอกนะค่ะว่าผลเป็นอย่างไร

วันอังคารที่ 2 มี.ค.53 จะโทรไปนัดกับทงสถานฑูตแต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ นานไหมค่ะ เพราะทำการจอง ticket และซื้อประกันไว้ออกเดินทาง 25 เม.ย.53 กลับ 16 พ.ค. 53ค่ะ จะทันกับขั้นตอนของการขอ visa ไหมค่ะนี้ 

ตู่

Rin07

สวัสดีค่ะ คุณตู่ รินเพิ่งไปขอวีซ่ามาค่ะ รับผลเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เองค่ะ เลยเข้ามาเป็นกำลังใจให้ คุณตู่เตรียมเอกสารไปให้พร้อมเลยนะคะ จะได้ไม่เหนี่อยวิ่งไปวิ่งมา รินยื่นวันที่ 23 ก.พ. ค่ะ วันที่ไปยื่นคนก็เยอะนะคะ บางคนเอกสารไม่ครบต้องวิ่งไปวิ่งมา แต่รินเตรียมเอกสารพร้อมค่ะ เลยไม่ได้วิ่ง(อิอิอิอิ)อ่อ ลืมบอกไปว่า รินได้รับซองเอกสารให้ส่งไปให้เจ้าบ้านที่สวิสแล้วค่ะ หวังว่าคุณตู่คงจะโชคดีเช่นกันนะคะ

toosonglho

ขอบคุณค่ะคุณริน
ไม่ทราบว่าหลังจากโทรนัดทาง tel กับ embassy แล้ว กี่วันถึงได้คิวค่ะ
ตู่

Rin07

สวัสดีค่ะ คุณตู่โทรไปได้เลยช่วงนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ รินเลือกวันยื่นเองค่ะ โทรเมื่อวันศุกร์ 20 ก.พ.แล้วรินเลือกวันอังคาร 23 ก.พ.แล้วทราบผลวันศุกร์ 26 ก.พ.ค่ะ

toosonglho

สวัสดีค่ะทุกๆ คน

วันนี้ (3 มี.ค. 53) ตู่ไปเยื่อนเอกสารมาแล้วค่ะ...รอรับผลวันจันทร์...เครียดจังเลย...ไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า

ตู่


toosonglho

สวัสดีค่ะ

วันนี้ตู่มารายงานผลการขอ visa ค่ะ...ตู่ได้รับ จม. ให้ส่งไปให้เจ้าบ้านค่ะ ;D

ตู่

ปุ๋ม

ดีใจด้วยนะคะคุณตู่ ปุ๋มเองก็จะต้องไปยื่นวีซ่าเยี่ยมเยื่อนในวันพรุ่งนี้เหมือนกันคะ(9 มี.ค.53)แต่เรายื่นแบบรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองนะคะขอถามคุณตู่หรือผู้รู้หน่อยนะคะว่า คนที่เชิญเราเขาเช่าบ้านอยู่เหมือนกัน ที่นี้ถ้าวีซ่าผ่านจะต้องให้เจ้าบ้านเซ็นเหมื่อนเคสคุณตู่หรื่อไม่คะ ถ้าให้เซ็นละก็ ขั้นตอนต้องทำอย่างไรถ้าเอกสารไปถึงเจ้าบ้านแล้ว
ขอบคุณมากนะคะ

JitJit

ดีใจด้วยนะคะน้องตู่  :D ... สำหรับน้องปุ๋ม รอคนที่รู้มาตอบคำถามนะคะ และขอให้น้องโชคดีค่ะ


Tangmo

สวัสดีค่ะ พี่จิต และพี่ๆ ทุกคน
  โมอ่าน เรื่องของพี่จิตแล้วนับถือจริงๆ น่ารักมากๆ ที่ต่อสู้ ไม่เป็นไรนะคะโมเป็นกำลังใจให้ แล้วถ้าไม่ผ่านอย่างนี้ถ้าเราไปขอวีซ่าที่อยู่ในกลุ่งเซงเก้นแล้วค่อยเข้าสวิสเซอร์แลนด์ ทีหลังไม่ได้หรอค่ะ
คือตอนนี้โมไปยื่นเรื่อง ขอวี่ซ่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย53 และจะไปรับวีซ่า วันที่ 4 นี้และค่ะ ค่อนข้างที่จะกังวล มากมายกลัวไม่ผ่าน แต่แฟนบอกโมว่า"ผ่านแน่นอนที่รัก"ให้กำลังใจกันสุดฤทธิ์ เอกสารครบหมดค่ะ นะ เพราะก็ไม่รู้จะเอาอาไรมายื่นอีกและ โมดูดวง เช็คดวงทุกที่เลย เค้าบอกว่าผ่านแน่นอน เล่นไสยศาสย์ 555 เอาพาสปอร์ตไปเจิม เยอะแยะมากมาย 
   แฟนโมบอกว่า ทางสถานฑูตเค้าสามารถเช็ค ประวัติของคนที่อยู่หรือทำงานอยู่ในสวิตได้ เกี่ยวกับการเสียภาษี การทำงาน ที่พัก ทางอินเตอร์เน็ตได้เนี่ยจิงป่ะคะ คือแฟนโมทำงานอยู่ สวิต อินเตอร์เนชั่นแนล แอราย มีสัญญาการทำงาน 5 ปีค่ะ โมไปอยู่สวิต 3 วันจากนั้นต้อง บินไปอิตาลี่ต่อหน่ะคะ และไปต่อเดนมาร์ก ซึ่งจดหมายเชิญโมระบุหมด ไฟร์เที่ยวบิน และก็ตั๋วเครื่องบิน ยื่นพร้อมไปเลยหน่ะคะ 
    โมเจอคำถาม
- ทำงานอะไร   =เป็น Marketing ให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ (โมมีเอกสารของเจ้านายด้วยนะคะ ทะเบียนการค้า,ใบสรรพกร,บัตรประชาชน,ใบรับรองการทำงานและการลางาน)
-แฟนชื่ออะไร,ทำงาน,พี่น้องแฟนมีกี่คน ชื่อ,เจอครั้งแรก,ครั้งสุดท้าย
- นิดนึงค่ะ โมตอบไปว่าเจอกันครั้งแรกที่ร้านโมที่ทำงาน แฟนเอาคอมไปซ่อม เจ้าหน้าที่สวนเลย แฟนคุณเป็นวิศวกร ทำไมเค้าต้องเอาคอมไปซ่อมกับคุณ ซ่อมเครื่องบิน กับ โปรแกรมอ๊อฟฟิตไม่เหมือนกันนะคะ (อยากตอบ)แล้วคนไปเที่ยวใครจะบ้าเอาแผ่นโปรแกรมติดกระเป๋าไปเที่ยวด้วย
555 เหมือนเค้าจะสงสัยนิดนึง เค้าก็บอกว่าแปลกจิงๆ แต่จิงๆ มันก็แปลกหน่ะคะ คงเป็นเพราะพรหมลิขิตมั้ง รึเค้ามาจีบโมก็ไม่รู้ ฟอร์มหน่ะคะ
และเค้าก็ไม่ถามอะไรเลยค่ะ บอกให้ฟังผลตามใบนัด แค่นี้เอง(อยากให้ถามเยอะๆจะได้แน่ใจหน่ะ)
เอาหล่ะคะ แล้วถ้ายังไงวันที่ไปรับวีซ่า จะมาเล่าให้ฟัง นะคะ 
พี่จิตค่ะ สู้ๆ นะคะ
แตงโม ;D
-