<<< Schloss Hünegg >>>

[pall]

**5.Okt.06**
พูดกันมาตั้งนานแล้วว่าจะไปเที่ยวปราสาท Schloss Hünegg
ได้แต่พูดๆๆ..แต่ไม่ได้ไปสักทีจนกระทั่งเมื่อวานจึงได้โอกาสไปเพราะอากาศไม่ดีออกไปเดินเขาสูงไม่ได้
และอีกอย่างปีนี้มีการแสดงของเล่นสมัยก่อน100กว่าปีที่ผ่านมาซึ่งของเล่นบางอย่างหาดูไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นการตัดกระดาษ..แกะสลักไม้เป็นรูปต่างๆ และอีกมากมายหลายอย่าง....
เขตที่นำมาแสดงจะเป็นของBernและ Berner Oberland
เรียกว่าการไปเที่ยวครั้งนี้เหมือนได้กำไรจริงๆได้ดูทั้งสองอย่าง
ก่อนอออกเดินทางลุงนั่งกางตำราอ่านประวัติความเป็นมา
อ่านเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของป้า...ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง....เพราะกำลังนอนอยู่


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0015 ห้อง guide (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

[pall]

**การเดินทาง**
การเดินทางไปเที่ยวที่ปราสาท Schloss Hüneggสะดวกสบายมากไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟหรือรถยนต์
 
**เส้นทางรถไฟ**
นั่งรถไฟมาลงที่Thun
หลังจากนั้นนั่งรถ Bus...หมายเลข2...3...21..(เป็นรถที่เดินทางไปInterlaken)
ที่จอดอยู่หน้าสถานีรถไฟThun นั่งรถไปลงที่สถานี Hilterfingen
หลังจากนั้นก็เดินทางมาสู่ปราสาท Schloss Hünegg
 
**เส้นทางเรือ**
หลังจากที่ลงมาจากรถไฟ.. ก็เดินมาขึ้นเรือที่จอดรับผู้โดยสารตรงหน้าสถานีรถไฟ
นั่งเรือมาลงที่ Hilterfingen หลังจากนั้นก็เดินทางมาสู่ปราสาท Schloss Hünegg
 
**เส้นทางรถยนต์**
เส้นทางสายThun - Interlaken...(ประมาณ4 km จาก Thun)
จะเห็นเครื่องหมายปราสาทตั้งอยู่อย่างชัดเจน

[pall]

**ออกเดินทาง**

วันนี้ลุงขับรถโดยไม่ใช้เส้นทางซุบเปอร์ไฮเวย์ป้ายเขียว  ที่คนเรียกกันว่าAutobahn
แต่ใช้เส้นทางตามใจตรู...สงสัยเพราะไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนหลายวัน
เนื่องจากการพยากรณ์ดินฟ้าอากาศผิดพลาดวุ่นวายและแกก็หลงคารม
คนพยากรณ์ด้วย(คนที่เป็นแฟนคลับลุงจะรู้ว่าก่อนออกเดินทางเที่ยว แกจะต้องฟังพยากรณ์ทุกครั้ง)
ดังนั้นแกเลยออกอาการคนวัยทองมาก...เช่นขับรถเส้นทางห้ามขับ.ขับรถฝ่าไฟแดง...ฯลฯ....
และมีอยู่ช่วงหนึ่งสงสัยคนเขียนป้ายบอกทางคงจะงัวเงีย
หรือตรวจสอบคนขับว่ารู้จักเส้นทางไหม.ได้วางป้ายเส้นทางเข้าThunและลุงก็ขับตามเส้นทางที่บอก
ปรากฏว่าขับย้อนเข้าเส้นเดิม จนลุงโวยวายโหวกเหวก...และบอกให้ป้าช่วยดู
จริงอย่างที่แกบอกถ้าขับตามป้ายคือไปไม่ถึงThunแน่ๆ ตกลงลุงเลยขับรถตามใจแก..
และป้าก็เห็นด้วยเพิ่งเป็นครั้งแรกที่ความเห็นตรงกัน
นั่งรถที่แกซิ่งดูทิวทัศน์แก้กลุ้ม...วิวสวยมากช่วงนี้ สวยปนเศร้าห่อเ*่ยวใจพิกล...
เห็นแล้วสัญลักษณ์ปราสาทThun หลังจากนั้นก็ขับรถเลาะริมทะเลสาบไปเรื่อยๆ
จนถึงทางเข้าปราสาท Schloss Hünegg หลังจากนั้นหาที่จอดรถ

[pall]

ลุงนับเงินจะไปหยอดเหรียญ
 
 **ค่าจอดรถ**
 ทุกวันตั้งแต่7.00น-19.00น.
 1.Std.ชั่วโมง...เสีย. Fr.-.50
 2-4 Std.  คิดชัวโมงละFr.1.
 5 +6 Std.  คิดชัวโมงละFr.-.90
 7-12 Std.  คิดชัวโมงละFr.-.80
 

[pall]

ทางที่เดินขึ้นไปข้างบนปราสาทจะมีป้ายบอกเขียนเวลาเปิดบริการ
 **เวลาเปิด**
 กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม
 ทุกวันเริ่มเวลา14.00น-17.00น
 วันอาทิตย์เวลา11.00น-17.00น
 

[pall]

ทางที่เดินขึ้นไปข้างบน

[pall]

ข้างทางจะมีป้ายบอกชื่อนกที่ร้องเพลงในสวนของปราสาท Schloss Hünegg

[pall]

ถึงแล้วปราสาท Schloss Hünegg...ทางเข้าอยู่ด้านขวามือ

[pall]

คนดูแลและขายตั๋วที่นี่เราเรียกว่าSchlosswartin ชื่อFrau E.Wachrer...นอนบนยอดปราสาท
จะตรวจดูความเรียบร้อยและดูแลสถานที่ทุกอย่าง
ตอนซื้อตั๋วแทบจะขำกลิ้ง..ลุงบอกว่าซื้อตั๋วคนแก่1ใบ และตั๋วครึ่งคนแก่1ใบ.คนขายตั๋วบอก3ใบใช่ไหม
ลุงบอกว่าอะโหยชั้นมากันแค่2คน คิดค่าเงาด้วยเหรอ..คนขายหัวเราะ
เราเลยได้โอกาสซักถามจนน้ำลายแตกฟอง...เขาบอกว่าถ้าเป็นหน้าร้อน..นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่มาก
มาเป็นคันรถเลย..เพราะความสวยงามเหมือนปราสาทในเทพนิยาย และมีประวัติที่น่าสนใจมาก
 
**ราคาค่าชม**
ผู้ใหญ่ CHF 8.

[pall]

จุดแรกของการเดินชมปราสาทเริ่มเดินขึ้นชมข้างบนก่อน
 เพราะทางจะพาเดินลงมาข้างล่างเอง
 ปราสาทหลังนี้ถ้าคนเดินชมข้างในจะรู้สึกว่า
 เราเป็นแขกรับเชิญให้เข้ามาชมบ้านพัก
 เพราะทุกอย่างข้างในมีสภาพเหมือนยังมีคนอาศัยพำนักอยู่
 และออกไปข้างนอกยังไม่ได้กลับมา
 ข้างในมีสภาพที่เราไปเดินเล่นบ้านพักของคนอื่นอย่างสอดรู้สอดเห็นจริงๆ
 ว่าคนข้างในมีความเป็นอยู่อย่างไร
 

[pall]

เครื่องหมายของเจ้าของปราสาท
Baron Albert Emil Otto von Parpart (1813 -1869)

[pall]

**เจ้าของปราสาทคนแรก**
**Baron Albert Emil Otto von Parpart (1813 - 1869)**
เป็นBaronที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด แต่งงานกับ Adelheid Sophie Margaritha (1814 - 1883)
ซึ่งเป็นแม่ม่ายสาวสวยมีฐานะร่ำรวยมาก และมีชื่อที่เรียกว่าAdele
เธอได้แต่งงานครั้งแรกกับAdolphe de Rougemont ชาวNeuenburgerซึ่งมีฐานะร่ำรวยมาก
ต่อมาเธอได้มาแต่งงานกับ Baron Albert Emil Otto von Parpart เมื่อปี1846
ซึ่ง Baron Albert Emil Otto von Parpart มีอายุประมาณ33ปี
ต่อมา Baron Albert Emil Otto von Parpart
ได้ขยับขยายหาซื้อที่เพื่อสร้างปราสาทใหม่ให้ใหญ่โตขึ้นกว่าเก่า
เลยมาได้สถานที่นี้และที่นี่ได้ขุดเจอสุสานและโครงร่างของชาวKelt
Alemannenซึ่งมีโครงร่างใหญ่โตแข็งแรงมาก
ที่เรียกว่า Hüne....ด้วยเหตุนี้ปราสาทหลังนี้เลยเรียกชื่อว่า Schloss Hünegg

การก่อสร้างทุ่มทุนมหาศาลมาก
Baron Albert Emil Otto von Parpart
มีความฝันอยากให้ปราสาทของตนแบบปราสาทที่สร้างในฝรั่งเศส
ที่มีความสวยกึ่งฝันและผสมผสานกันหลายๆแบบของปราสาทต่างๆ
ดังนั้นจึงได้ว่าจ้างวิศวกรที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคนั้นคือ
Architekt Heino Schmieden (1835 - 1913)ชาวเบอร์ลินอายุ25ปี
ซึ่ง Heino Schmiedenต้องเดินทางไปศึกษาดูแบบถึงฝรั่งเศส
เพื่อนำแบบมาสร้างให้แก่ Baron Albert Emil Otto von Parpart
และได้เริ่มสร้างปราสาทปลายปี1860จนถึงปี1864ปราสาทก็ได้เสร็จเรียบร้อย
ผลงานที่ออกมาถูกใจ Baron Albert Emil Otto von Parpart

หลังจากที่ Baron Albert Emil Otto von Parpart
ได้เข้ามาอยู่ในปราสาทหลังนี้ได้ไม่นาน
ปี1969ต่อมา ก็ได้ถึงแก่กรรมเรียกอยู่แค่5ปีเอง
14ปีต่อมา Adelheid Sophie Margarithaก็ได้ถึงแก่กรรม
หลังจากนั้นปราสาทหลังนี้ก็ได้ตกเป็นของหลานชายFranz von Parpart ในปี1884
หลังจากที่Franz von Parpartครอบครองสมบัติได้ไม่นานก็
เริ่มนำของเก่าแก่ที่มีค่ามาหาศาลที่ Baron Albert Emil Otto von Parpart
สะสมเอาไว้นำมาประมูลออกขายที่Koeln
และปี1893ได้ขายปราสาท Schloss Hünegg ให้แก่นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดังKarl Ludwig Konrad Lehmann
ต่อมาปราสาทหลังนี้ได้เปลี่ยนเจ้าของกันไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งปัจจุบันBernได้ออกเงินซื้อดูแลและออกเงินค่าใช้จ่ายมากมาย
ในการซ่อมบูรณะให้อยู่ในสภาพที่เห็นในปัจจุบัน
ซึ่งเป็นปราสาทที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมความสวยงาม
และชีวิตความเป็นอยู่ที่ทันสมัยร่วม100กว่าปีที่ผ่านมา
ซึ่งเราจะคาดไม่ถึงเลยว่าทันสมัยคล้ายปัจจุบันจริงๆ

[pall]

รูปเจ้าของปราสาทนับมาตั้งแต่ Baron Albert Emil Otto von Parpart
 เป็นต้นมา
 

[pall]

Gustav Lemke เเละ Schuckert กับภรรยา
และหมาที่ชื่อBaryที่หน้าประตูหน้าปราสาท
ภาพถ่ายเมื่อวันที่27สิงหาคม1900
เป็นเจ้าของคนที่4จากภาพข้างบน

[pall]

ปราสาท Schloss Hünegg
 สมัยของท่าน Baron Albert Emil Otto von Parpart
 มีคนทำงานทั้งหมด16คนมีคนทำงานสวน3คน
 คนที่ทำงานทุกคนจะได้รับถ้วยประจำปราสาท
 เก็บไว้เป็นที่ระลึก