News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



<<<..พาเที่ยว....Allalin.VS ..ตอน.2..>>>

Previous topic - Next topic

pall




**เวลา  10.06 น**
 รถPost ก็เริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานีรถไฟBrig
 รถPost  ที่นั่งอยู่ในสภาพใหม่แต่ที่นั่งค่อนข้างจะแคบพอสมควร
 เป้ที่ลุงหอบมาจะนำลงวางบนพื้นไม่ได้เลย
 ต้องนำมากอดกับอกไว้ ถึงมีที่วางข้างบน
 ลุงไม่ยอมนำไปเก็บหรอก
 เพราะแกต้องการนำของกินจากเป้ออกมากินอาหารเช้ากัน
 ตั้งแต่นั่งรถไฟมายังไม่ได้กินอะไรกันเลย
 บนท้องถนนวันนี้เงียบไม่มีรถแล่นเท่าไร
 ท้องฟ้าเริ่มมีแดดส่องนิดหน่อย
 ป้ากับลุงนั่งด้านหลังการถ่ายรูปออกมาค่อนข้างจะลำบาก
 และได้วิวไม่ดีเท่าไร ส่วนมากจะติดรูปคนขับและคนนั่งด้านหน้า
 

pall




วิวข้างๆที่ผ่านจะเห็นหมู่บ้านที่ปลูกเรียงรายข้างๆภูเขา
 การก่อสร้างรูปทรงจะแข็งแรงค่อนข้างจะเทอะทะ
 ไม่นุ่มนวลเหมือนบ้านแถบBerner Oberland
 ถ้าพูดถึงดินฟ้าอากาศแถบนี้จะอบอุ่นกว่าเขตอื่นๆ
 แถบนี้ขึ้นชื่อในการปลูกผลไม้ต่างๆ
 ช่วงฤดูร้อนถ้าใครใช้เส้นทางขับรถเส้นทางนี้
 จะเห็นเขานำผลไม้มาวางขายหรือตั้งร้านขาย
 Kanton Wallis , Kanton Graubünden, Kanton Tessin
 เมื่อสมัยหลายร้อยปีที่ผ่านมาจัดเป็นเขตที่ยากจนมาก
 ช่วงนั้นเป็นช่วงปี1700หรือ1800
 ยิ่งทางแถบ Kanton Tessin ความยากจนอดอยาก
 บางครอบครัวถึงขนาดขายลูกชายให้คนที่เข้ามากวาดต้อน
 หาเด็กที่มีรูปร่างเล็กเพื่อนำไปทำงานทำความสะอาดปล่องไฟเขตแดนอิตาลี
 เวลาเด็กๆเดินไปตามถนนจะร้องเรียก
 หางานทำความสะอาดว่า
 ชะ....ปัส....โช่......กา.....มิ.....โน.....
 ประโยคนี้เลยพูดกันมาจนติดปากและรู้จักกันดี
 ป้าเคยดูหนังสวิสเก่ามากเป็นหนังขาวดำ
 เขาสร้างเกี่ยวกับเรื่องนี้
 น่าสงสารมากที่เด็กบางคนล้มตายไปเพราะเขม่าไฟ
 เป็นโรคปอด  เด็กบางคนก็โชคดีได้กลับบ้าน
 เด็กที่โตแล้วเข้าทำงานกวาดปล่องไฟไม่ได้
 ก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้
 

pall



**ต้นLärche**
แถบนี้สองข้างทางสวยมาก ฤดูใบไม้ล่วงเป็นช่วงที่สวยที่สุด
จะมีต้นLärche ขึ้นเต็มไปหมด ต้นLärche จัดเป็นต้นสนพันธ์หนึ่ง
ใบมีลักษณะก้านยาวเรียวแหลมเหมือนเข็มยาวประมาณ1ซม.ถึง3ซม.
เป็นต้นไม่ที่จัดว่าสวยงามสูงประมาณ50เมตร
หน้าร้อนก้านจะเป็นสีเขียวพอถึงฤดูใบไม้ล่วง จะเปลี่ยนเป็นสีทองอมส้ม
ไม้ชนิดนี้เขาจะนำมาทำเป็นอุปกรณ์การตบแต่งบ้าน ผิวของไม้จะออกสีเหลืองนวลสวยมาก

pall



ถนนที่ใช้แล่นผ่านขึ้นไปยังSaas Feeเป็นถนนที่ยังจัดว่าไม่ค่อยดีเท่าไร
บางช่วงจะเริ่มแตกร้าว ถ้าพูดถึงธรรมชาติแถบนี้สวยมาก
มีที่เที่ยวรู้จักกันดีทั่วโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นZermatt - Matterhorn
คนไทยเรารู้จักกันดีโดยเฉพาะชอกโกแลตแท่ง3เหลี่ยมToberlone ที่วางขายในห้างสรรพสินค้า
เขตWallisเป็นเขตที่มีสวยงามทางธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวมากมายที่เข้ามาพักผ่อน
และการกีฬาที่ผาดโผน แต่เท่าที่เห็นน่าเสียดายมากที่ทางแถบนี้ไม่ค่อยสนใจ
เกี่ยวกับการบำรุงรักษาธรรมชาติเท่าที่ควร
ทุกๆปีที่ป้าไปเที่ยวกับลุงจะเห็นการทำลายสร้างบ้านเรือนใหม่ๆ
และอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามามีสิทธิซื้อที่ดินคอบครอง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ

pall



นิสัยคนแถบWallisจะแตกต่างกว่าคนแถบอื่นๆ
คนแถบนี้จะมีนิสัยค่อนข้างเปิดเผยโผงผาง เป็นมิตร......สนุกและชอบดื่ม  
เขตWallis จัดว่ามีชื่อเสียงทางด้านทำไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ระหว่างที่นั่งชมวิวอยู่เพลินๆ   มารู้สึกตัวอีกทีมีอะไรมาหยุกหยิกตรงหน้าอก
นึกว่าลุงเล่นพิเรนอะไรที่ไหนได้แกกำลังใช้มีดพก กำลังปาดขนมปังทั้งๆที่รถกำลังแล่นอยู่
พูดถึงมีดพกสวิส  คนหนุ่มๆทั่วไปจะไม่ค่อยมีคนพกเท่าไร
คนที่พกมีดพกแบบนี้มักจะเป็นคนรุ่นเดอะ เท่าที่เห็นมา อย่างลุงแกจะมีมีดพกสวิสติดตัวตลอดเวลา
เคยถามว่าทำไมชอบพก  แกก็บอกไม่รู้เหมือนกัน
พูดต่อถึงการปาดขนมปัง คนสวิสมักจะใช้มีดปาดหรือตัดเข้าหาตัว
ซึ่งคนไทยเราจะรู้สึกว่าหวาดเสียวมาก อย่างลุงแกเคยปาดขนมปังจนเสื้อขาดมาแล้ว
แกเสียใจมากเพราะเสื้อที่ขาดเป็นเสื้อสุดหล่อของแก
ขณะที่ลุงกำลังปาดขนมปังกินอยู่ รถที่แล่นรู้สึกจะเบรคเล็กน้อย
มือที่ถือมีดค้างเกือบจะแทงเข้าลูกตาป้าเลย ผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าคงจะแอบดูอยู่ร้องอะจึ๋ยๆๆเลย
ป้าเลยด่าและยึดมีดลุงไม่ให้ตัดขนมปังอีกต่อไป ขืนให้แกตัดขนมปังกินต่อสงสัยไม่ได้ไปเที่ยวแน่ๆ
 
รถแล่นใช้ความเร็วคงที่ไม่มีการซิ่งเลย ผู้โดยสารแต่ละคนไม่เห็นคุยกัน ทุกคนนั่งกันสงบมาก
จะมีแต่เสียงลุงกับป้าส่งภาษาโนะเนะกันมาตลอดทาง
รถมาหยุดส่งผู้โดยสารที่Saas( Saastal) เป็นการหยุดแค่ครั้งเดียวที่นั่งรถมา
เป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ในSaas( Saastal) ช่วงนี้รถได้แล่นเข้าเขตSaas Feeแล้ว

pall




ทางที่จะเลี้ยวเข้าSaas Fee จะเห็นเครื่องหมาย....X...สีแดง
 เป็นที่จอดรถที่เปิดบริการให้รถยนต์เข้ามาจอด
 

pall



เวลาประมาณ10.50น.นับว่าเป็นเวลาที่เที่ยงตรงจริงๆกับที่เขาจัดตารางรถไว้
นับว่าเป็นการจัดระบบการตั้งเวลาที่เป็นมาตรฐานจริงๆ
ช่วงนี้รถกำลังแล่นเข้าไปสู่ที่จอดรถPostที่อยู่ในอู่ข้างล่าง

pall




สถานที่จอดรถมีสภาพกว้างขวางมาก
 มีรถบัสจอดอยู่แค่1คัน
 

pall




พอรถจอดผู้โดยสารต่างพากันเดินขึ้นประตูเพื่อขึ้นไปข้างบน

pall




พอขึ้นมาข้างบนแล้วจะเห็นวิวสวยมาก
 ตรงที่เราขึ้นมาข้างบนจะมีห้องน้ำเปิดบริการ
 ป้าเข้าไปข้างในไม่ได้ดูป้าย
 ปรากฏว่าไปเข้าห้องน้ำผู้ชายเกือบซวยไป
 พูดถึงการเข้าห้องน้ำผิด
 ป้าจะทำผิดประจำจนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว
 มีอยู่ครั้งหนึ่งเข้าไปแล้วออกไม่ได้
 เพราะข้างนอกยังมีผู้ชายเข้ามาบำบัดทุกข์บำรุงสุขตลอดเวลา
 ป้าต้องรอจนคนออกไปหมดถึงได้ออกมาได้
 ลุงด่าจนหูชาเพราะรอนานร่วมครึ่งชม.
 

pall




ก่อนจะออกเดินทาง
 ตรงที่เราเดินทางขึ้นมาจากอู่รถPost
 เขาจะมีป้ายตามภาพที่เห็นให้คนดูแผนที่
 หัวหน้ากับลูกทัวร์พากันดูแผนที่
 ที่จะไปขึ้นกระเช้าที่สถานี AlpinExpress
 เห็นกำลังพยักพเยิดดูเส้นทางที่จะใช้เดิน
 เวลาที่ใช้จากจุดที่ที่เราเดินออกมาจากอู่รถPost
 เดินไปยังสถานี AlpinExpress
 จะใช้เวลาประมาณร่วม10นาที
 

pall



**นี่คือแผนที่ที่เราจะต้องใช้เดิน***
จุดอักษรA
คือจุดที่เราลงมาจากรถPost และเราจะต้องเดิน ไปยังจุดBซึ่งเป็นสถานี AlpinExpress
ที่เราต้องนั่งกระเช้าและรถไฟขึ้นไปยัง Allalin

pall



หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินลงไปข้างล่าง
ทางที่เดินง่ายมากไม่ต้องกลัวหลง เดินไปเรื่อยๆและเลี้ยวซ้าย ก็จะเห็นสะพานยาวมีอยู่แห่งเดียว
ช่วงนี้เราจะเห็นบ้านหลังเล็กๆ ที่คนแถบWallisสมัยก่อนเก็บพวกอาหาร  ตุนไว้กินตอนหน้าหนาว
ตั้งเรียงรายเต็มไปหมด

pall




ช่วงนี้เราเริ่มเดินเข้าไปบนสะพานแล้ว

pall



สะพานที่เดินยาวพอสมควรสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของหมู่บ้าน วิวภูเขาและข้างล่างที่มีน้ำไหล