News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



<<<<…..Cheese-Festival...2005...Huttwil...>>>>

Previous topic - Next topic

pall

#30


เนยแข็งBergkaese เป็นเนยที่มีรสชาติอร่อยมาก
 

pall

#31


Hobelkaese โฮเบิลแคเซ่ะ
เป็นเนยแข็งที่ทำมาจากข้างบนภูเขาสูงเนยแข็งBergkaese  

pall

#32


Hobelkaese
คำว่าHobel...หมายถึงกบใสไม้
เนยที่จะนำมาใสต้องเป็นเนยแข็งที่เราเรียกว่าBergkaeseเท่านั้น
การขูดใสเนยแข็งแบบนี้จะทำเหมือนน้ำแข็งใส คือวางบนไม้และขูดออกมา
หลังจากนั้นก็จะม้วนเป็นแท่งกลมตามภาพที่เห็น
เป็นเนยที่กินอร่อยมากและมีราคาแพงพอสมควร
ถ้ากินเนยแบบนี้จะดื่มเหล้าไวด์ขาวและผลไม้หรือขนมปังตามมา

pall

#33


เนยTilsiter Switzerland
เป็นเนยที่ทำกันมาร้อยกว่าปีแล้วมีหลายชนิดเป็นเนยที่มีรสชาติเข้มมีรูข้างในตามรูปที่เห็น
เป็นเนยที่นิยมและชอบกินกันมาก เพราะมีคุณลักษณะพิเศษ
โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเนยชนิดนี้เท่าไรเพราะไม่ชอบกลิ่นที่ค่อนข้างจะมีกลิ่นมากกว่าเนยชนิดอื่น
และรสค่อนข้างจัด เนย Tilsiterจะทำออกมาไม่ใหญ่เหมือนเนยชนิดอื่น
เนยTilsiter Switzerland
จะมีสี3สีและเป็นเนยที่แตกต่างกันออกไปสีที่นำมาติดเพื่อบอกความแตกต่างของชนิดเนยให้รู้
จะมี3สีคือสีแดง,สีเขียวและสีเหลือง
Tilsiterเป็นเนยที่ทำจากKanton Thurgau
ถ้าใครอยากจะซื้อเนยชนิดนี้ ต้องดูตรงชื่อที่ติดให้ดีถ้ามีชื่อเขียนแบบนี้Tilsiter Switzerland
จะได้รู้ว่าซื้อเนยที่ผลิตมาจากประเทศสวิตฯโดยตรงเพราะเนยTilsiterจะผลิตจากในประเทศ
และนอกประเทศคือผลิตจากประเทศRussland (ตั้งแต่ปี 1946)
 
***Tilsiter Switzerland**
เมื่อปีคศ.1893 ที่ Thurgau
Otto Wartmann และ Hans Wegmüllerได้ริเริ่มทำการผลิตเนยTilsiter
นำออกมาขายสู่ท้องตลาด Otto Wartmann มีฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดช่วงนั้น
และผลิตเนยออกมาได้รับความนิยมมากมาย และเป็นผลสำเร็จมาก
และชื่อของเนยชนิดนี้ได้นำชื่อของเมืองStadt Tilsitมาแต่งตั้งชื่อเนยเป็น Tilsiter
ปัจจุบันเนย Tilsiter มีโรงงานทำเนยร่วม30แห่งผลิตเนยชนิดนี้ออกมาขาย สู่ท้องตลาด
และจะผลิตจากหลานรัฐเช่น Kantone Thurgau, St.Gallen และ Zürcher Oberland
เนย Tilsiter3ชนิดที่เราเห็นตามท้องตลาดจะเป็น
Tilsiter Switzerland, Tilsiter Switzerland  
surchoixและ Bio-Tilsiter Switzerland

pall

#34


เนยทางซ้ายมือเป็นเนยที่ทำมาจากนมแกะที่เราเรียกว่าSchafkaese
เนยทางขวามือเป็นเนยที่ทำมาจากน้ำนมของควายที่เรียกว่าBueffelkaese
เป็นเนยที่มีราคาแพงและคนนิยมกินกันมาก เนยชนิดนี้มีราคาแพงมากเพราะความให้น้ำนมน้อยกว่าวัว

pall

#35


นอกจากนั้นยังนำนมควายมาทำเป็นเนยที่รู้จักกันดีคือMozzarella
เขตที่นำนมควายมาทำเนยคือเขต Schangnau
ถ้าใครสนใจแวะไปอ่านจากที่เขียนไว้ จะมีเรื่องเล่ามากมายข้างใน
**EMMENTAL**

pall

#36


เนยแข็ง Le Maréchal
เป็นเนยแข็งเก่าแก่มากมีลักษณะคล้ายเนยGruyere เป็นเนยที่ผลิตมากจากเมืองPayerne  
เป็นเมืองเล็กๆทีอยู่ไม่*งจากทะเลสาบของNeuchatel
เนยชนิดนี้มีราคาค่อนข้างแพงพอสมควรและรสอร่อย

pall

#37


เนยที่ทำมาจากนมแพะ

pall

#38


เนยแข็งที่ทำมาจากEngelberg - Trübsee
Kanton Luzern

pall

#39


***เนย Bon Mignon**
เป็นเนยอ่อนเหลวใส่เห็ดChampignonsที่โรงงานทำเนยEmmentaler Schaukäserei Affoltern i.E.
เขตEmmental เมือง Affoltern i.E ได้มีความคิดผลิตเนยชนิดนี้ขึ้นมาเป็นโรงงานแรกของสวิส
และน้ำนมที่ทำก็ผ่านการ pasteurisierterมาแล้ว
 
น้ำหนักของเนยจะหนักประมาณ170กรัม จะเก็บได้นานแค่1เดือน

pall

#40


ป้าเดินหาลุงผ่านซุ้มร้านต่างๆที่กำลังขายเนยให้ลูกค้า ไม่มีแรงถ่ายรูปแล้วเพราะเริ่มหิวมาก
เดินตามตัวนายแบบที่หายไปตั้งแต่เริ่มงานจนป่านนี้ยังตามตัวไม่เจอ

pall

#41


มาเจอนายแบบสุดหล่อของเราตรงระฆังผูกคอวัว รีบเก็บภาพนายแบบอย่างรีบเร่งก่อนจะหาตัวไม่เจออีก
หลังจากนั้นก็เข้ามามุงดูเขาเย็บสายหนัง มีกลุ่มคนดูแค่สองคน
แต่คนเย็บหนังคาดกระดิ่งต้องทำงานหนักมาก  เพราะทั้งลุงและป้าถามจนเขาอยากจะย้ายร้านหนี

pall

#42


หนังที่ใช้คาดคอวัวผูกระฆัง มีความหนาพอสมควรและบนหนังจะวาดลวดลาย
เป็นรูปดอกไม้หรือข้าวสาลีตามจินตนาการ หรือตามที่ลูกค้าสั่งไม่ว่าจะเขียนชื่อนามสกุล
หรือของขวัญในวาระพิเศษ การใช้เชือกหนังเล็กๆหลากสีจะมีแตกต่างกันทางด้านวัสดุ
หรือหนังที่ใช้เช่น

pall

#43


ที่เห็นกองอยู่คือเชือกหนังที่ทำมาจากหนังจิงโจ้ ราคาของหเชือกหนังจิงโจ้จะมีราคาสูง
และจะทำตามที่ลูกค้าสั่ง
การรักษาจะยุ่งยากถูกน้ำไม่ได้เมื่อต้องการทำความสะอาด
ส่วนหลอดหนังหลายสีที่เห็นคือเชือกหนังลักษณะเหมือนพลาสติก จะหุ้มเส้นด้ายเหนียวข้างใน
การรักษาทำความสะอาดแบบนี้ง่ายมากสามารถใช้น้ำล้างได้และหนังที่ถูกน้ำก็นำมาทาทาหนังได้ไม่มีปัญหา

pall

#44


หลังจากฟังเสร็จสะกิดลุงบอกว่าหิวแล้วแต่ลุงบอกไม่หิวเลยเพราะไปกินเนยแข็งทุกซุ้มร้านร่วม50ร้าน
เรียกว่างานนี้แกจ่ายค่าPinแค่5ฟรังก์กินจนเกินคุ้มเลย ป้าลากแกไปซื้อ Kaeseschnitte
ซื้อมา2อันแล้วเอาให้ลุง1อัน ขนาดแกบอกอิ่มแล้วแกยังฟัดชิ้นใหญ่จนหมด