News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



***Elsigenalp.../ Frutigen….***

Previous topic - Next topic

pall



**Tellenburg**
ปราสาทของHerren von Kien ที่ยังเห็นได้ในปัจจุบัน..
 
**Frutigen**
เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่มาก..สมัยยุคBronzeและยุคโรมัน
จากการสำรวจค้นพบพบเหรียญและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ
คิดว่าแถบนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพวกชาวkelt..มาก่อน
ต่อมาก็เป็นชาวโรมันและชาวGermanen สังเกตุจากภาษาที่พูดจะผสมปนกัน
หลังที่พระเยซูได้ประสูติได้563ปี..Frutigenได้ตกป็นอานานิคมของ altburgund(ฝรั่งเศส)
และบางส่วนเป็นของ Alemannien(เยอรมัน)
อานาเขตของ Frutigenจะเป็นเทือกเขายาวล้อมรอบ
เทือกเขาเหล่านี้เราจะเรียกว่า Engstligentalและ Kandertal
ต่อมา Frutigenได้ตกอยู่ภายในอำนาจปกครองของ Herren von Kien จนเกือบจะถึงปี1300ก็เปลี่ยนเจ้าของ..
มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงมากมาย..และเกิดไฟไหม้ จนปราสาทเสียหายไปหมด 
ผู้ปกครอง Frutigenเป็นหนี้เป็นสินเขาจนต้องเอา Frutigenไปจำนอง
และทางBern...ก็ซื้อFrutigenด้วยเงินGoldgulden...จำนวน6200เหรียญ
ดังนั้นFrutigen..ก็ตกอยู่ในการปกครองของBern  ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ใครอยากเห็นหน้าตาของเรียญGoldguldenไปดูได้จากที่นี่
Goldgulden - Google Image Search
 
**ความเจริญรุ่งเรืองของ Frutigen....**
สมัยก่อน Frutigen..มีความเจริญมากมาย
**จากยุคเลี้ยงแกะ....ขายขนแกะ...เป็นยุคHydraulic......**
สมัยก่อนศัตวรรษที่18..เขต Frutigen  คนที่นี่จะพากันเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหลัก  และขายขนแกะ..หารายได้เลี้ยงชีพ
จนระทั่งสิ้นศัตวรรษที่18. ก็เริ่มเข้ายุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ  เป็นยุคแห่งการเริ่มต้นเกี่ยวกับโรงงานและเป็นยุคที่บลูมสุดๆ
ความทันสมัยและยุคแห่งเครื่องจักรใหม่ๆเริ่มเข้ามาครอบครองแทนที่  จนถึงปัจจุบัน...
 
** Frutigtuch**
**หมายถึงผ้าทอด้วยขนสัตว์**
สมัยก่อนเทือกเขาแห่งนี้พากันเลี้ยงแกะเอาขนแกะมาทอทำเป็นผ้า 
และพากันย้อมสีจนสวยงามและเรียกผ้าของตนที่ทำนี้ว่าBäretuch
เป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นที่นิยมมากมาย...
ต่อมาเข้าสู่ยุคสมัยใหม่การผลิตเครื่องทอแบบนี้ก็เริ่มลดความนิยมไป
จนกระทั่งการผลิตต้องเลิกกิจการไป
ปัจจุบันการทอผ้าผลิตแบบนี้เหลือทำเป็นการส่วนตัวเท่านั้นและเหลือทำแค่แห่งเดียว

**กระดานชนวน**  
สมัยก่อนเมื่อปี1846...คนพากันขุดหาทอง....ทองแดง  เงิน และแทบทุกอย่างจากที่นี่
ทุกคนต่างคิดกันว่าเทือกเขาแห่งนี้น่าจะมีพวกของมีค่าเหล่านี้หลบซ่อนอยู่...
แต่การขุดหาสิ่งของเหล่านี้เป็นการทำงานที่สูญเปล่า  ของที่ขุดหาได้ไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป
ต่อมาปี1854 ก็มีคนต้นคิดทำกระดานชนวนขึ้นมาใช้
โรงงานผลิตทำกระดานชนวนขึ้นมาใช้ ประสบกับความสำเร็จมากมาย
มีคนเข้ามาทำงานที่โรงงานนี้จำนวน 80คน
และปี1937...มีคนเพิ่มเข้ามาทำงานถึง196คน
กระดานชนวนพวกนี้คิดว่าบางคนต้องรู้จักกันดี ในสมัยก่อนสำหรับให้เด็กๆใช้เขียนหนังสือ
และสำหรับคนเล่นไพ่จดแต้มคะแนน  ปัจจุบันยังใช้กันอยู่
โดยเฉพาะนักเล่นไพ่จะรู้จักกันดี..เขียนแล้วเอาน้ำลายลบ แบบขี้เกียจไปเอาน้ำมาลบ....(เห็นจากลุง..)
 
** Zündholzfabrik  โรงงานทำไม้ขีดแห่งแรกของสวิตฯ **
เมื่อปีคศ.1850 Friedrich Schneider ได้ทำกิจการเกี่ยวกับไม้ขีดไฟแห่งแรกขึ้นที่ Frutigen
และประสบกับความสำเร็จอย่างมากมาย   จนกระทั่งมีคนทำกิจการตามขึ้นเป็นจำนวนมากมาย
15ปีต่อมาจำนวนโรงงานผลิตที่ทำกิจการผลิตไม้ขีดไฟ 
มีจำนวนถึง11แห่งมีคนเข้าทำงานถึง332คน ซึ่งเป็นยอดตัวเลขที่สูงมากสมัยก่อน
 
หลังสงครามโลกครั้งที่1... โรงงานผลิตไม้ขีดไฟของ Frutigen
เริ่มมีคู่แข่งสำคัญคือประเทศสวีเดน ได้ผลิตไม้ขีดไฟเข้ามาขาย...
จนทำให้โรงงานผลิตไม้ขีดไฟของ Frutigen.ต้องล้มเลิกกิจการลงเป็นจำนวนมากมาย..
จนกระทั่งปี1972....เหลือเพียง2โรงงานที่ยังผลิตทำต่อ

**Firma Willen Peter**
โรงงานนี้ได้ผลิตเกี่ยวกับ Feuerwerkszeug ไฟพลุต่างๆ...
** Firma Bühler Holzspan**
เป็นโรงงานนี้ผลิตเกี่ยวกับกล่องไม้ขีดไฟเปล่าไม่ระบายสี...


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0749 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

#1



ภาพที่เห็นชื่อตำบล Frutigen
 
** Frutigen..**

**ฟรุ๊ตทิเก้น**
 
Frutigen..ขึ้นอยู่กับKanton Bern
ตั้งอยู่ในเขต Berner Oberland
มีจำนวนประชากรทั้งหมด 6638 คน เป็นคนต่างชาติ 351 คน

Frutigen..เป็นเมืองเล็กๆ
ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไร แต่ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยว
ชาวสวิส..และยุโรป...ที่พากันมาเดินเขา..เล่นกีฬา และเล่นสกี..
Frutigenเป็นสถานที่เล็กไม่ใหญ่โต
ที่นี่มีความสงบเงียบล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสวยงาม สงบเงียบ..สำหรับคนที่ชอบความสงบ
และรักธรรมชาติที่สวยงาม. ซึ่งสามารถหาได้ไม่ว่าฤดูอะไร...
FrutigenและAdelboden คนมักจะเรียกชื่อของสถานที่ทั้ง2แห่งรวมกันจนนึกว่าเป็นสถานที่แห่งเดียวกัน
 
**Adelboden-Frutigen**
เป็นสถานที่ของคนแถบภูเขาโดยเฉพาะ 
คนที่อยู่อาศัยแถบนี้จะเป็นคนที่ชอบสงบ ความสันโดษและรักธรรมชาติ..ภูเขาอันสวยงามมาก
สถานที่แห่งนี้..ฤดูหนาวจะขึ้นชื่อเกี่ยวกับการเล่นสกี และมีการแข่งขันสกี..ที่จัดเป็นประเพณีทุกปี
ที่เราเรียกกันว่าdie traditionellen FIS Ski World Cup-Rennen
เป็นการแข่งสะสมแต้มคะแนนเพื่อการเป็นแชมป์โลก
ปีหน้าจะจัดขึ้นที่นี่วันที่.....7./8.1.2006
 
** Adelboden-Frutigen**

เป็นแหล่งที่มีชื่อมีที่เดินเขา หรือขึ้นกระเช้าไปชมวิวธรรมชาติอันสวยงามขึ้นชื่อหลายแห่ง
เหมาะสำหรับนักผจญภัย..บินด้วยเครื่องร่อน... Riverrafting, และ..Mountainbiking
และแถบนี้มีที่ขึ้นชื่อหลานแห่ง...
แห่งแรกที่จะพาไปเที่ยวครั้งนี้ชื่อว่า
Elsigenalp 


pall

#2



**ภาพที่เห็นถ่ายจากจุดสูงสุดที่ชื่อว่าElsighorn**
หมู่บ้านที่เห็นที่อยู่ซ้ายมือข้างล่างสุดคือ Frutigen

pall

#3



**จุดสูงสุดของ Elsigenalp..
จุดที่เห็นในภาพนี้....มีชื่อว่าElsighorn**
 
Elsigenalp อยู่ระหว่าง Frutigen และ Adelboden
จุดสูงสุดชื่อ Elsighorn  ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 2341m
 
เป็นสถานที่เดินเขาที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับความงามของธรรมชาติ
โดยเฉพาะดอกไม้ภูเขา..ที่แบ่งบานมากมายหลายพันธ์ เหมือนเดินในสรวงสวรรค์..
ดอกไม้ภูเขาเหล่านี้ เราไม่สามารถหาดูได้ข้างล่าง
ดอกไม้มีมากมายหลายพันธ์และเป็นพันธ์สงวนทั้งสิ้น
นอกจากนี้ Elsigenalp.ยังมีชื่อเกี่ยวกับการกีฬาปีนเขา ช่วงเดือนกค.และสิงหาคม
เป็นช่วงที่ชาวนาแถบ Frutigen จะพากลุ่มวัวขึ้นไปเลี้ยงบนภูเขา
เพื่อทำเนยแข็งอันขึ้นชื่อ   ช่วงหน้าร้อนจะมีฝูงวัวที่ขึ้นมาอยู่บนภูเขาร่วม300ตัว
การมาเที่ยวที่ Elsigenalp./ Frutigen   การเดินทางสะดวกมาก..
สามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูเขาสูง2000เมตร
เพื่อเดินออกกำลังกายชะมดอกไม้ภูเขาที่สวยงามมีชื่อ
การเดินทางจะไม่ต้องวิตกกังวลหรือกลัวการหลงทาง
เพราะที่นี่จะมีการเขียนเครื่องหมายบอกไว้อย่างละเอียด
การมาเที่ยวเดินเขาออกกำลังกายชมดอกไม้ภูเขา แถบ Elsigenalp./ Frutigen
เป็นที่รู้จักและชอบกันมาก
 
http://www.adelboden.ch/de/navpage.cfm?category=SummerAB&subcat=HikeSAB&id=22655

pall

#4


เส้นทางที่ใช้เดินทางจาก Frutigen
มายัง Elsigbach....และจากนั้นก็ขึ้นกระเช้ามายัง Elsigenalp...เพื่อเดินทางบนเขาต่อไป

**การเดินทาง**
สามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และทางรถไฟ
 
**ทางรถยนต์**
ใช้เส้นทางAutobahnและแยกเข้าสู่ Spiez (26km)
เส้นทางที่ขับผ่านมุ่งสู่เส้นทางที่เขียนบอกทางไว้ว่า Frutigen-Adelboden
หลังจากนั้นก็ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงทางแยกเข้า Achseten
และขับมาจนถึง Elsigbach...จอดรถที่สถานีแห่งนี้
และนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้น Elsigenalp..ข้างบน

pall

#5


***รถบัสเล็กที่เห็นในรูปเป็นรถที่บริการรับส่ง**
ในการเดินทางมา Elsigenalp สำหรับผู้ที่เดินทางโดยการบริการรถไฟ
สถานีที่เห็นในรูปชื่อสถานีกระเช้าไฟฟ้า Elsigbach...
 
**ทางรถไฟ**
ทางรถไฟมีการบริการ..สำหรับคนที่สนใจการใช้เส้นทางเส้นนี้
แค่ไปที่ช่องขายตั๋วบอกถึงความต้องการจะมาเที่ยว
ทางช่องขายตั๋วจะบอกการใช้เส้นทางเส้นนี้อย่างละเอียด บริการพร้อมมูล
 
การเดินทางง่ายสะดวกสบายมาก แค่ลงที่สถานีรถไฟ Frutigen
และนั่งรถบัสสีแดงคันเล็กที่เห็นในรูป  พอมาถึงสถานี Elsigbach ก็นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นข้างบน

pall

#6


**15.มิย.05**
 
วันนี้เราไปรับวีซ่าที่สถานทูตรัสเซียมา เหตุการณ์ผ่านเรียบร้อย....
ดีใจร้องเพลงหงิงๆกันในรถมีความสุขมาก... ระหว่างทางที่ผ่านเห็นฝูงวัวยืนเล็มหญ้ากินละเมียดละไม
ยิ้มอย่างมีความสุข.....บางตัวไม่ยิ้มหรอกทำหน้าบึ้ง...ไม่สวยแล้วทำเป็นหยิ่ง....
วัวบางตัวสวยมาก...บางตัวก็ขีเหร่สุดๆ...ไม่เชื่อลองไปยืนพิจาณาดูวัวแต่ละตัว
จะเห็นว่าบางตัวผอมแห้งแรงน้อยเหมือนกุ้งแห้ง
กระดูกขึ้นโกงโก้เลย...และนมยานห้อยโทงเทงไปมา
แต่ระวังอย่าไปยืนดูวัวตัวผู้นะ..เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน.. วัวตัวผู้สวิสนี่คุ้มดีคุ้มร้ายพิกล...
เสียงกระดิ่งผูกคอดังกรุ๋งกริ๋งดังก้องหุบเขาไปหมด...
ไม่มีเสียงคุยในรถอีกแล้ว...ไม่ใช่อะไรหรอก..
คนที่นั่งข้างๆคนขับ(ลุง)..เริ่มคอพับคออ่อน..เมารถ...และจามตลอดเวลา...จามจนลุงด่า.
แกบอกเสียงจามทำให้สมาธิแกหด...
ใครจะไปแกล้งล่ะ...ก็ตอนนี้ชาวนาตัดหญ้าตากแห้งไว้ ป้าเป็นคนแพ้พวกหญ้าเหล่านี้จึงซวยไป...
 
เส้นทางรถที่ใช้ก็เป็นเส้นทางที่รถแล่นได้คันเดียวและแคบ
ป้านั่งเกร็ง...ยอมรับว่า..กลัวตกเขา...
ไม่ใช่อะไรหรอก..ลุงแกชอบสอดส่ายสายตามองข้างถนน..
วันนี้รถมากพอสมควร...ถ้ามีรถแล่นสวนมา..
ก็ต้องถอยหลังถอยหน้าขยับไปยังที่เขาทำไว้โดยเฉพาะ
ให้รอรอจอดข้างทาง..เพราะขับสวนกันไม่ได้ ระหว่างที่ขับผ่าน...จะมีน้ำตกไหลแรง...
และข้างบนจะขึงด้วยตาข่ายเหล็กป้องกัน ม่ให้หินตกใส่รถที่แล่นผ่านไปมา...
เมื่อปีที่แล้วป้ายังนึกอยู่เลยว่า... เส้นทางนี้เหมือนเสี่ยงดวงชีวิต..
ถ้าดวงจู๋...ก้อนหินตกใส่..ถือว่าซวยไป..
ข้างๆทางพวกหญ้าและดอกหญ้าที่ชาวนายังไม่ได้ตัด
ดอกไม้ป่านาๆพันธ์ออกดอกหลากสีลานตาไปหมด...
 
ดีใจมากที่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที...รอดตาย....
พอรถแล่นมาถึงสถานีจอดรถแล้ว...ก็พากันลงจากรถ
ป้าไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวหรอก... เพราะใส่เต็มยศตั้งแต่ไปรับวีซ่ามาแล้ว..
ลุงแกเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวช้ามาก..... พอแต่งตัวใส่รองเท้าเดินเขาเสร็จ
ลุงก็หอบเป้คู่ทุกข์คู่ยากแสนรักของแกออกมาสะพายหลัง..
พร้อมทั้งด่าที่ป้ามัวยืนกดอะไรมั่วไปหมด... และเรียกให้ไปยืนเข้าแถวรอซื้อตั๋ว...
ป้าล่ะเซ็งมาก...มีคนยืนรอแค่2คน... แกเรียกอย่างกับมีคนยืนรอเป็น100
คนขายตั๋ววันนี้เป็นคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
พอคุยไปคุยมาถึงรู้ว่าคนขายตั๋วเก่าปลดเกษียร
ราคาตั๋วลดครึ่งราคา...เสียคนละ10 สวิสฟรังก์...เที่ยวเดียว
ขากลับเดินลงจากเขาประหยัดค่าตั๋ว......(ตั้ง20สวิสฟรังก์)
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว...ก็มายืนรอที่กระเช้าไฟฟ้า
 
คิดว่าวันนี้คงไม่ค่อยมีคนขึ้นเขาเท่าไร  ป้าเลยกดรูปเล่นแก้เซ็ง...กำลังเห่อกล้องเลยกดใหญ่
กดเล่นจนเพลิน...นึกว่าคงไม่มีใครมาหรอก
ที่ไหนได้พอหันหน้ามาอีกที..คนยืนสลอนเต็มกระเช้าไปหมด
คนที่ขึ้นกระเช้า..ล้วนแต่อยู่ในวัยจ๊าบทั้งสิ้น.. จ๊าบมากจ๊าบน้อยคอยดูรูปก็แล้วกัน
 
เส้นทางที่กระเช้าไฟฟ้าแล่นผ่าน..บางช่วงมีน้ำตกไหลแรง
และดอกไม้ภูเขาชูช่อเต็มไปหมด...
เสียงลุงตะโกนดังลั่นกระเช้าบอกว่าเห็นแพะภูเขา4หรือ5ตัว
ป้ารีบเอากล้องออกมาจะถ่ายรูปสักหน่อย
และถามลุงว่าอยู่ตรงไหน...จะได้รีบถ่าย... เท่านั้นแหละหูชาไปหมด...
แกบอกว่ากระเช้าแล่นเลยผ่านมาแล้ว

pall

#7



เมื่อลงจากกระเช้าไฟฟ้า... ต่างก็พากันเดินตัวใครตัวมัน...
บางคนเดินอย่างกับไปตามน้องวัว....ที่หายไป... บางคนก็หยุดดูดอกไม้
และร้องอุทานอย่างมีความสุข...ที่เห็นดอกไม้สวยๆ..
ลุงเดินส่ายหน้าน้อยๆของแก..และชี้หัวที่ป้ามัวแต่กดรูปตามที่คนแก่อุทานว่าดอกไม้สวย..
วันนี้อารมณ์ลุงดีผิดปรกติ...เดินไปผิวปากไป...
ทางที่เดินขึ้นเขาจะมีหลายเส้นทาง... ใครจะเลือกใช้เส้นทางไหนเลือกได้ตามใจชอบ
ไม่ต้องกลัวการหลงทางแต่ละแห่งจะมีชื่อบอก สำหรับการเดินเขา..ระยะทางบอกไว้ชัดเจนทุกอย่าง...

pall

#8


ป้ากดรูปเล่นเพลินมาก..กดเล่นๆแค่5นาที  ระยะทางที่จะเดินไปร้านกาแฟบนภูเขา
กดได้ตั้ง60รูป...เรียกว่ากดดมั่วไปหมด.. วันนี้ลุงไม่ได้จับกล้องเลย....แกก็ด่าเหมือนกัน..
แต่ป้าก็ทำเป็นหูทวนลมซะ....กำลังกดๆๆและดูๆๆๆๆ..หมู่คนที่ผ่าน..
เห็นลุงเดินคู่มากับลุงแก่คนนี้. เป็นภาพที่ถูกใจที่สุด....
ขนาดขึ้นเขาแกยังแต่งสูทเท่ทันสมัยมาก เดินขึ้นเขาโดยไม่ใช้ไม้เท้าช่วยเลย
แกเดินเขากระฉับกระเฉงมาก..อายุแค่..80กว่าเท่านั้นเอง.......
ป้ายังนึกเลยว่าถ้าอยู่ถึงอายุขนาดนี้สงสัยคลานแน่ๆๆ....
ลุงแกไม่รู้ว่าป้ากดรูปเลยเผยอยิ้มน้อยๆกับสายลมและแสงแดด

pall

#9


เดินมาจนถึงร้านอาหารคู่ใจ...เราพากันมาดื่มกาแฟกันที่นี่ทุกปี   เป็นเวลาร่วม20กว่าปีแล้ว
ภาพที่เห็นเป็นโรงแรมและห้องอาหารเปิดบริการ  ที่เห็นนั่นคือโรงแรมเราเคยมาพักแต่นานมาแล้ว
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนความสูง1800เมตร  ใช้เวลาเดินจากสถานีกระเช้าไฟฟ้ามาถึงที่นี่แค่5นาที
 
พอเจ้าของร้านเห็นหน้าของ2กระเหรี่ยง  รีบทักทายและร้องถามลุงว่าเจอหมีน้ำแข็งหรือยัง...
และมาวันนี้ดีมากๆดอกไม้สวยมาก   ลุงจ้อใหญ่เลย......จ้อจนเป็นอุปนิสัย..
พูดถึงดอกไม้ก็เหมือนๆกันทุกปี... แต่ลุงแกเถียงจนน้ำลายกระเด็นใส่หน้า...
แกบอกดอกไม้จะขึ้นแต่ละปีไม่เหมือนกัน.. และดอกไม้ก็เหมือนคนมากถ้ามันรำคาญก็ย้ายที่หนีนะ..
ป้าชักข้องใจว่าจริงหรือเปล่า... พอถามก็หาว่าไม่รู้แล้วอย่าอวดดี
เราเดินพล่านไปมาหาที่นั่งจนถูกใจ.. เลือกเอามุมสุดห้อง...แบบไม่อยากให้คนเห็นหน้า..
พอนั่งเสร็จ..ลุงก็รีบสั่งเครื่องดื่มเลย... ทำอย่างกับกลัวเขาจะย้ายร้านหนี
ของที่สั่งมาดื่มก็สะไตเดิมลุงกาแฟใส่นมป้าโอวัลตินร้อน..
เรียกว่าจะเป็นฤดูอะไรจะดื่มแต่โอวัลตินร้อน.... อากาศร้อนจนเหงื่อแตกซิกๆๆก็สั่งน้องติน
เรียกว่าดื่มจนเข้าวัยทองเลย

pall

#10



เจ้าของโรงแรม..รู้จักกันตั้งแต่อยู่ในวัยจ๊าบมาก... จนถึงวัยจ๊าบน้อยเหมือนกัน
โรงแรมแห่งนี้เป็นมรดกที่ได้รับช่วงมาจากพ่อ สร้างสมัยปี60...
ตั้งแต่มาเดินเขาแวะพักดื่มกาแฟและมานอนที่นี่
ไม่เคยกดรูปแกเลย...บอกให้ลุงกดถ่ายรูปให้หน่อย.....แกไม่ยอมมกด..ไม่รู้กลัวอะไร...

http://www.berghaus-elsigenalp.ch/

pall

#11


พอดื่มกาแฟเรียบร้อยแล้วก็จัดการวาดแผนผังการเดิน

***จากหมายเลขที่เห็น**
หมายเลข3...เป็นเส้นทางที่เดินมาจากสถานีกระเช้าไฟฟ้า
หมายเลข 4...เป็นโรงแรมที่ดื่มกาแฟกัน
หมายเลข5...6....และ...7.... เป็นจุดที่เราเดินกัน
หมายเลข6 ป็นจุดสูงสุดที่เรียกว่า.Elsighorn

pall

#12


การมาเที่ยวครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก มีการสร้างที่เก็บน้ำ..
และทำทะเลสาบข้างล่างอยู่ไม่ไกลจากที่เราดื่มกาแฟ.....(เป็นทะเลสาบเทียม)
ระหว่างทางที่เดินจะมีดอกไม้ภูเขานาๆพันธ์ชูช่อสวยรับแสงแดด
โชคดีที่เรามาเดินเขาครั้งนี้..ชาวนายังไม่ได้พาฝูงวัวมาเลี้ยงบนภูเขาสูง
ประเพณีที่พาวัวมาเลี้ยงข้างบนเราเรียกกันว่าAlpauffahrt เป็นประเพณีเก่าแก่ที่ทำกันมานานแล้ว
 
(เข้าไปอ่านได้ที่นี่จ๊ะเคยเขียนไว้นานแล้ว)
**ALPAUFZUG**
 
ดอกไม้ที่คนที่นี่เรียกกันว่าAlpenflora
มีมากมายหลายพันธ์ที่เราจะหาชมได้ถ้าขึ้นมาบนภูเขาสูงๆ
ดอกไม้และพวกพืชสมุนไพรเหล่านี้มีประมาณร่วม700พันธ์
แต่ละพันธ์จะแตกต่างกันออกไป   บางพันธ์จะสงวนพันธ์เพราะหายากมาก..
การมาเที่ยวครั้งนี้จุดประสงค์สำคัญคือการมาดูดอกไม้
ที่เห็นตามภาพคือดอก Enzian..มีหลายพันธ์  ทั้งพันธ์ดอกเล็กและดอกใหญ่..และมีหลายสี

pall

#13


ดอก Primula farinose ที่เรียกว่า ดอกพิมารี..หอมมาก
ใครที่ชอบดอกไม้และอยากจะเห็นดอกไม้ภูเขา
ควรจะมาเที่ยวช่วงนี้...ก่อนที่ชาวนาจะพาวัวขึ้นมาเลี้ยงบนภูเขา

pall

#14


** Elsighorn (2341m)**
 
วันนี้ลมพัดแรงมาก...อากาศแค่5หรือ6องศา ขณะที่เดินแข้งขาสั่นไปหมด...
ขนาดใส่เสื้อกันหนาวตั้ง3ตัวมือแทบจะกางไม่ออกเลย เหมือนเป็นน้ำแข็งพอบอกลุงว่าหนาวเท่านั้นโดนด่าเลย..
พอถูกด่าเลยทำเป็นงอน....นึกว่าแกจะเอาใจสักหน่อยหันมาอีกทีแกเดินนำหน้าไปไกลเสียแล้ว...
(ที..ฮู....ที...อิท...)...แล้วกัน...
การมาเดินเขาวันนี้ยอมรับว่าไม่ค่อยสบอารมณ์โก๋เท่าไรเลย
ลมแรง..และหนาวแบบนี้...นอนผึ่งพุงอยู่บ้านดีกว่า ลมตีแรงเข้าลูกกะตาจนแดงเป็นนกกะปูด..
โชคดีที่มีไม้เท่าช่วยพยุงสังขาร... ถ้าไม่มีไม้เท้าอันนี้สงสัย...
กว่าจะเดินถึงข้างบนขาแทบเป๋...
พอมาถึงทางแยกป้ายกธงขาวให้ลุงแกตะกายขึ้นไปสู่จุด ที่สูงที่สุด..
จุดที่เห็นในรูปที่ชื่อว่า  Elsighorn (2341m).....
จุดนี้จะต้องเดินประมาณ1ชมครึ่ง... ขืนให้ป้าตะกายขึ้นเขาตามแกสงสัยนอนกินข้าวลิงบนเขาแน่ๆ
เลยให้แกขึ้นไปถ่ายรูปคนเดียว... ป้าขอรออยู่ที่ทะเลสาบที่ขึ้นชื่อของที่นี่...
ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ข้างล่าง.. เป็นอันว่าหัวหน้าทัวร์กับลูกทัวร์เริ่มออกคะแนนเสียงไม่ตรงกัน
เราเริ่มจัดการแบ่งสมบัติ(อาหารกิน) หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน.....ก่อนจะโบกมืออำลากัน...
และนัดเจอกันที่ทะเลสาบ...ที่เป็นหัวใจของนักเดินเขาที่นี่.....