Pall's Webboard

General Category => ห้องปัญหากฎหมาย, วีซ่า, ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย => Topic started by: JitJit on July 16, 2009, 01:25:13 AM

Title: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 16, 2009, 01:25:13 AM
  ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเว็บป้าพอลมากๆเลยค่ะที่ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนได้มาเล่าประสบการณ์การขอวีซ่าให้ฟังนะคะ มีประโยชน์และได้ข้อมูลมากมายเลยจริงๆ จึงอยากขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้าง เพื่อทดแทนที่หาข้อมูลที่นี่มาตลอด อาจจะมีประโยชน์บ้างเล็กน้อยก็ยังดีนะคะ                    
           ;D เริ่มต้นด้วยแฟนอยากให้ไปเที่ยวดูประเทศเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากรู้จักกันมาได้ 4 ปี เราก็ไม่คิดว่าจะไปเที่ยวดูประเทศของเขาหลอกเพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ รอเขาขึ้นมาเที่ยวหาเราดีกว่า  แต่ก็ปีละ 1 ครั้งเอง และตอนนี้แฟนก็บอกว่ามันน้อยเกินไปนะปีละ 1 ครั้งน่ะ เอางี้ไหมให้เราบินไปหา 1 ครั้ง และ เขาบินมาเมืองไทย 1 ครั้ง ดังนั้นปีนึงเราก็จะได้เจอกัน ปีละ 2 ครั้ง ก็เป็นอันโอเคตามนั้น
* เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ การขอวีซ่า ก็โชคดีได้เจอเว็บป้าพอล และก็มีน้องๆพี่ๆ มาแชร์ประสบการณ์ ขอขอบคุณทุกๆคนด้วยนะคะโดยเฉพาะน้องแนนจ้า
* อันนี้แฟนแนะนำให้อ่าน
       รายละเอียดเกี่ยวกับการขอ วีซ่า visitor จากสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์  เป็นภาษาไทย
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0307.File.tmp/visitor_th.pdf
      เพราะแฟนอ่านอันนี้ ตอนแรกแฟนจะให้แค่จดหมายเชิญ กับจะซื้อประกันการเดินทางให้จากที่สวิสเลยแต่เราบอกว่าไม่ต้องหลอกซื้อจากเมืองไทยง่ายกว่า และถ้าไม่ผ่านอย่างไงก็คืนเงินได้
........และเราก็เลยบอกไปอีกว่า เห็นน้องๆ เขาบอกว่าต้องมี
- พาสปอร์ตผู้เชิญหน้าที่มีรูปผู้เชิญ และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออก เมืองไทยด้วย 
- หลักฐานการเช่าหรือ การเป็นเจ้าของบ้าน
- ต้องโชว์บัญชีเงินฝากด้วย
- หลักฐานของการทำงานหรือถ้ามีบริษัทก็ต้องเอาด้วย
.....แต่แฟนให้มาแค่.....
1...จดหมายเชิญ
2...พลาสปอร์ตหน้าที่มีรูปแฟน และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออกเมืองไทย
3...หลักฐานที่อยู่อาศัยของแฟน
       
       ??? แค่ 3 อย่างเท่านั้นเองเราก็แอบกังวลนะว่า ทำไมไม่โชว์เรื่องงาน เรื่องเงิน ด้วยเพื่อสถานทูตจะได้เห็นไปเลยว่า สามารถดูแลเราได้และก็มีงานแน่นอน แต่ก็พูดไปแค่ครั้งเดียวไม่ได้ตอกย้ำอะไรอีก :'(
   
******เมื่อเอกสารฝ่ายชายเรียบร้อยก็คิดว่าน่าจะโทรไปนัดสถานทูตได้แล้ว เพราะเอกสารของเราไม่ยุ่งยากและไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากไหน  ผู้ยื่นขอวีซ่าทุกคนต้องโทรนัดทางโทรศัพท์เพื่อขอยื่นวีซ่า ที่หมายเลข 1900-222-340 (นาทีละ 9 บาท และโทรได้เฉพาะภายในประเทศ)*********   
       

    ต่อมาก็มาดูเอกสารของตัวเราหละทีนี้ก็แอบคิดว่า ต้องเยอะกว่าฝ่ายชายแน่ๆเลย และอีกอย่างแอบกังวลด้วยเพราะว่าตัวเองไม่ได้ทำงาน มา 2 ปีแล้ว เพราะแฟนอยากให้มีเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เวลาเขามาเที่ยว และเราก็คิดว่าจะหาอะไรทำซักอย่างที่เป็นธุรกิจส่วนตัวของเราเอง แต่เศรษฐกิจอย่างนี้นะ อย่าดีกว่า เก็บเงินไว้ จะได้ไม่เจ็บตัว แต่แฟนก็ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนนะ เราก็เลยเตรียมเอกสารอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยจากคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เท่าไหร่

1...บัญชีธนาคารที่โชว์ว่าแฟนส่งเงินมาให้ประมาณ 6 เดือน และหน้าบัญชีธนาคาร
2...ใบผ่านงานจากบริษัทเก่าที่ทำงานมา 14 ปี แนบใบเสียภาษีปีสุดท้าย และใบเงินสะสมจากที่บริษัทตัดเงินเดือนเก็บไว้
3...อีเมล์ที่เราติดต่อกันปริ้นท์ปีละ 2 ใบ และพอดีมีอีเมล์รูปที่แฟนส่งรูปครอบครัวมาให้ดูก็เลยปริ้นไปด้วย
4...มีใบปริ้นท์ตั๋วเครื่องบินที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันที่เชียงใหม่ปี 2008 ด้วย ก็เลยเอาแนบไปด้วยกับรูปถ่ายคู่ 2 ใบ
5...พลาสปอร์ตตัวจริง พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
6...บัตรประชาชน พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
7...สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
8...สำเนาใบประกันอุบัติเหตุ *****ข้อควรระวัง : ประกันที่ซื้อมาจะต้องเรียกเงินคืนได้ ในกรณีที่ไม่ได้รับวีซ่า
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0291.File.tmp/Travel-Health%20Insurance%20Co's%20in%20THA.pdf

9...ใบจองตั๋วเครื่องบิน  *****ข้อควรระวัง ห้ามซื้อตั๋วเดินทางก่อนจะได้รับวีซ่าสถานเอกอัครราชฑูตฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ได้ หากเกิดการล่าช้าหรือวีซ่าได้รับการปฎิเสธ
***ที่นี้น้องแนนแนะนำ และเราก็ได้ไปจองตั๋วบินที่นี่ด้วย ขอการันตีด้วยอีกคนจ๊ะว่าน้องเขาคุยง่ายและเข้าใจดีจ๊ะhttp://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,3033.0.html 

10...รูปถ่าย 2 นิ้วพื้นหลังขาว 2 ใบ ใบนึงติดที่ใบคำร้องขอวีซ่า อีกใบแนบไปด้วยแล้วเดี๋ยวพี่ที่เขาตรวจเอกสารจะแยกไปติดกับพลาสปอร์ตให้เรา

11...ใบคำร้องขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่าย
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0284.File.tmp/Visumantrag%20Schengen%20e_d_f%20online_fill_in.pdf
      และบอกตรงๆ ว่าปวดหัวมากเพราะเป็นภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการมาก จนแปลไม่ออก เลยนอนดูอยู่เฉยๆ สัก 1 อาทิตย์ จะทำไงดีเนี่ยจะถามแฟนก็แหม แค่นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรอ และก็ให้บังเอิญถามน้องแนนน้องเขาก็เลยแนะนำเว็บที่แปลภาษาไทยมาให้โชคดีอีกแล้ว เลยหายปวดหัวเลย  ถ้าช่องที่ไม่มีอะไรตอบให้ใส่ NONE ค่ะ
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp01.jpg  หน้า 1
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp02.jpg  หน้า 2
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp03.jpg  หน้า 3
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp04.jpg  หน้า 4
หน้าที่ 5 ก็ กรอกที่ ชื่อที่อยู่ของแฟน 
หน้าที่ 6 ไม่ต้องส่งจ๊ะ

12...เตรียมเงิน 2800 บาท ให้พอดีนะ เพราะไม่มีทอนให้จ๊ะ
     
     ตรงนี้ขอเล่าความไม่รู้ (โง่นั่นเอง :o) ให้ฟังนะ คิดว่า เอกสารทุกอย่างที่เราเตรียมไปยื่นที่สถานทูตนั้นจะต้องแปล เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ทั้งๆที่ก็อ่านที่น้องๆเขาแนะนำการเตรียมเอกสารนะ.. เขาก็ไม่ได้พูดว่าต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย แล้วเราไปเอามาจากไหนเนี่ยก็ งง ตัวเองเหมือนกัน)ก็ไปถามราคาเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่าแปลหน้าละ 300 บาท เราก็ว่ามันถูกดีนะ แต่ทำไมดูในเว็บป้าพอลเขาบอกว่าประมาณ 900-1200 บาท ก็เลย เอ๊ะ!! มันแปลกๆนะหรือเราต้องไปเสียค่าอะไรอีกหรือเปล่า เลยโพสต์กระทู้ถามบนเว็บป้าพอลว่าแปลเอกสารแผ่นละเท่าไหร่กันหรอ ปรากฎว่า ขอวีซ่าเยี่ยมเยียนเนี่ยไม่ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอื่นเลย ใช้ภาษาไทยนั่นแหละ โชคดีเป็นที่สุด ไม่ต้องเสียเงิน เฮ้อ!! เกือบไปแล้วเรา




          *****เมื่อถึงวันนัดก็จัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และอย่าลืมรหัสที่ สถานทูตให้ไว้นะคะ เพื่อเวลาถึงที่เขาตรวจเอกสารเขาจะได้เช็คได้ง่ายๆ  ว่าเราโทรมานัดแล้ว ไปยื่นมาเมื่อวันที่ 9 กค. 09 ค่ะ*****     

- พอถึงสถานทูตยามหน้าประตูจะขอบัตรประชาชนจากเราเพื่อแลกกับบัตรผ่านเข้าไปในสถานทูต

- เดินเข้าไปก็จะเจอพี่ที่เขารอตรวจเอกสารเราอยู่ เราก็ให้รหัสเขาไป แล้วเขาก็จะเช็คว่ามีรหัสนั้น แล้วหลังจากนั้นก็จะเช็คเอกสารเรา ถ้าไม่มีปัญหาก็เรียกเงิน 2800 บาท เพื่อเอาไปเสียบไว้กับกองเอกสารของเรา แล้วให้เราเข้าไปยื่นให้ช่อง 3

- เราก็เอาเอกสารไปวางไว้ที่ช่อง 3 แล้วก็ออกมานั่งรอ แล้วเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มารับเอกสารไปเช็คอะไร ต่อมิอะไรอีกก็ไม่รู้  ทีนี้ก็นั่งรอๆๆๆ รออยู่ประมาณ 2 ชม. เพราะไปเร็วกว่าเวลานัด 1 ชม. เพื่อความแน่นอนเกี่ยวกับเอกสารว่าไม่มีปัญหาอะไร ระหว่างรอก็แอบตื่นเต้นอยู่มากๆเลย ว่าเขาจะสัมภาษณ์อะไรเราบ้างนะ

- เวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปสัมภาษณ์
**** อายุเท่าไร 
**** ไปทำอะไร
**** เคยไปมาก่อนไหม
**** เจอกันครั้งแรกที่ไหน 
**** เขามาเมืองไทยบ่อยไหม
**** รูจักแฟนมานานหรือยัง
**** เคยไปยุโรปไหม
**** อาชีพอะไร.....ไม่มีงานค่ะ 
**** ใครดูแลล่ะ ...แฟนส่งเงินให้ค่ะ
**** แฟนทำงานอะไร
**** เคยแต่งงานไหม
**** มีลูกหรือเปล่า
**** แล้วเราล่ะมีลูกหรือเปล่า
**** เคยแต่งงานหรือเปล่า
**** ชือแฟนสะกดอย่างไร...ขอบอกตอนแรกสะกดผิดไป 1 ตัว  ;D ตื่นเต้นมากมาย
******//////เอาหละซิเจอคำตอบที่ไม่รู้เยอะเลย**//////  
-พ่อแฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ไม่รู้
-แม่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ยิ้ม
-พี่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว โอ้ยตายแล้วเรา
-น้องแฟนชื่ออะไร.........ไม่รู้เลยยยยยยยยยย
-รู้จักเพื่อนแฟนบ้างหรือเปล่า....ไม่รู้ค่ะ เพราะเขามาคนเดียวตลอด 
-ถนนที่แฟนอยู่ชื่ออะไร.....ไม่รู้ค่ะ แหะ ๆ
-เมืองที่ไปชื่ออะไร....CONTHEY ค่ะ
-เจอแฟนครั้งที่ 2 เเดือนอะไร....จำไม่ได้
-ครั้งที่ 3ล่ะ...จำไม่ได้
-ครั้งที่ 4 .... ใช่เลยจำได้เพราะปีนี้เอง 
-พูดภาษาอังกฤษได้ไหม..ค่ะ  งั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าเมื่อวานไปทำอะไรมา.....พูดไปได้ประมาณ 2 ประโยค  
จบข่าว....ก็บอกว่า ให้มาฟังผลวันที่ ระบุไว้ในใบกระดาษเล็ก ที่เจ้าหน้าที่ยื่นให้มาก็ได้ฟังผลวันที่ 15 กค.52
     ******ถามได้เร็วมาก บอกตรงๆ ประหม่ามากมาย  ไอ้ที่น่าจะตอบได้ก็ลืมไปเลย ******
แต่เจ้าหน้าที่ก็โอเคนะ เป็นผู้ชาย ถึงจะถามเร็ว แต่ก็ยังสุภาพอยู่ และดูแล้วเจ้าหน้าที่ก็งานเยอะทุกคนเลย เห็นแล้วก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ค่ะ




     
     และถึงวันฟังผล ก็เอาไปกระดาษเล็กๆ ที่เจ้าหน้าที่ให้ไว้ ไปยื่นให้ยามหน้าประตู  ยามก็เลือกซองมาให้แล้วเขาบอกว่าเปิดดูก่อนแล้วเช็คด้านในดูว่าใช่ของเราหรือเปล่า เมื่อเช็คเรียบร้อยก็มาดูที่ หน้าซองเขียนว่า ให้ส่งเอกสารที่อยู่ในซองนี้ไปให้เจ้าบ้านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ดำเนินการ เจ้าบ้านจะเป็นผู้ติดต่อกับตำรวจที่ประเทศสวิส เอง หลังจากส่งเอกสารไป 1 เดือน ให้นำหนังสือเดินทางพร้อมใบจองเที่ยวบิน  มาตรวจสอบผลกับสถานทูตฯ
*******ตอนนี้ก็ส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วรอประมาณ 3 อาทิตย์ค่อยเช็คอีกที*******

         
****เมื่อถึงวันนั้นจะ มาเขียนให้อ่านอีกนะคะ ว่าผลจะเป็นอย่างไรบ้าง  หวังว่าคงจะทนอ่านกันได้นะคะและหวังว่าคงจะช่วยให้น้องๆ  เพื่อนๆ พี่ๆ ที่จะทำเรื่องขอวีซ่า VISITOR คงจะได้ประโยชน์บ้างนะคะ เพราะอาจจะแตกต่างจากที่น้องๆพี่ๆ ที่แชร์ประสบการณ์ การขอวีซ่าแบบเดียวกันนี้ไม่มากนัก แต่ก็หวังว่าคงจะมีสักนิดที่สามารถช่วยอะไรใครได้บ้าง ไม่มากก็น้อย****
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on July 16, 2009, 02:19:34 AM
คุณjitjit

ยินดีด้วยนะคะ นี่แหละคะ วีซ่าผ่านแล้ว แต่ต้องส่งหนังสือรับรองไปให้แฟน เค้าไปที่สถานีตำรวจให้รับรองความประพฤติคะ 3 อาทิตย์ค่ยอเมลไปเช็คที่สถานฑูตได้เลยคะ

ยินดีด้วยคะ 
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Api on July 16, 2009, 02:26:01 AM
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ สมัยเราขอ visitor visa ก็มีคำถามคล้ายๆกันค่ะ เจ้าหน้าที่สถานฑูตเค้าออกตัวแบบสุภาพ ว่าพี่ไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวเรานะ แต่ว่ามันเป็นหน้าที่ เราก็เลยตอบแบบชนิดว่าคุณพี่เข้ามาอยู่ให้เหตุการณ์เลย สนุกดี ขนาดเอารูปงานหมั้นไปแสดง เค้ายังบอกว่ามัน make กันได้ สุดท้ายก็ขอเอกสารทาง e mail จริงๆ มันก็น่าจะ make ได้เหมือนกันอิๆ แต่ก็ให้เค้าไป สุดท้ายก็ได้เอกสารค่ะ เหมือนคุณ jitjit ส่งให้แฟนแล้วก็กลับมาร้องเพลงรอ 2-3 สัปดาห์ก็เอา passport ไปฟังผล  ปรากฎว่าได้ค่ะ อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้นะคะ good luck kha.  :D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 16, 2009, 08:24:52 AM
    :o คุณแพทค่ะ งั้นก็เตรียมช็อปปิ้งได้เลยใช่ไหมเนี่ย  ขอบคุณสำหรับข้อมูลของคุณแพทด้วยนะคะ ก็แอบอ่านประสบการณ์ของคุณแพทด้วยค่ะ และเพื่อนของคุณแพทก็ใจดีจริงๆด้วย เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินวันเดียวได้เลย ทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นเยอะเลย....ถ้าเมื่อไหร่ได้วีซ่าก็คงต้องโทรไปคุยกับน้องเขาเรื่องตั๋วต่อไป  ;)
    :D ขอบคุณค่ะคุณ Api ที่อ่านนะคะ และหวังว่าคงจะ Good luck เหมือนกันค่ะ

               *****ตื่นเต้นจังเลยจะได้ไปเที่ยวประเทศที่สวยที่สุดแล้ว  ;D****
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 16, 2009, 11:00:44 AM
ยินดีด้วยนะค่ะ K.JitJit ขออนุญาติเรียกพี่นะค่ะ ช็อปปิ้งรอได้เลยค่ะ 3 อาทิตย์แปบๆเดี๋ยวก็ถึงค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนะค่ะ  :D  :D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 17, 2009, 06:24:07 PM
ขอบคุณค่ะน้อง Penguin เรียกพี่ได้เลยจ้า เพราะอายุหลักสี่แล้วค่ะ ขอให้น้อง โชคดีไวๆนะคะ  :D ถ้าทุกอย่างโอเค ตามนั้น พี่ก็จะเดินทางวันที่ 16 สิค จ้า แต่ก็อยากมีเพื่อนสักคนนั่งเครื่องไปด้วยวันนั้นจัง จะมีใครเดินทางวันนั้นบ้างนะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on July 17, 2009, 07:35:40 PM
พี่จิต

  อีก เดือนเดียวเองคะ ชอปปิ้งไว้ได้เลยคะ พี่ เพราะของที่นี่แพงเวอร์...ยังไงอีกเดือนเดียวแปบเดียวคะ เวลาไว้ไปไวเหมือนโกหก ..แล้วมาเจอกันที่นี่นะคะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 19, 2009, 05:04:13 PM
 :'( อยากจะร้องไห้มากที่สุดเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะโง่ขนาดนี้เลย ทำไมเราไม่รอบคอบเลยนะ  :-[ ขอบอกว่า วีซ่าโดนปฏิเสธ  เพราะเรามั่นใจว่ากับข้อความหน้าซองว่าให้ส่งจดหมายไปที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เราไม่ได้เน้นที่จดหมายด้านในว่าเขาปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว จนกระทั่งแฟนอ่านจดหมายแล้วบอกว่าเขาปฏิเสธเรา แต่เราก็ไม่รอบคอบไม่อ่านจดหมายให้ดีก่อน เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเราก็เลยไม่อ่าน แต่ดันไปเน้นหน้าซองเสียส่วนใหญ่

:'( คิดแล้วเศร้ามากเลย ทำไมเขาต้องเอาซองที่มีกระดาษอย่างนั้นแปะมาให้เราด้วย มันทำให้คนที่ภาษา อ.ไม่ดีต้องเข้าใจผิดได้นะคะ สถานทูตน่าจะทำอะไรที่มันเป็นทางการกว่านี้หน่อยนะคะ เพราะเราไปยื่นวีซ่า เราก็เสียเงินตั้ง 2800 บาท กับไอ้แค่ซองจดหมายที่มันเป็นทางการหน่อยนึงทำไมไม่ทำให้มันดูแล้วไม่เข้าใจผิดได้

:'( ขอโทษน้องๆ ด้วยนะที่ทำให้เข้าใจผิด พี่ไม่รอบคอบเอง คงจะมี แค่พี่ที่เป็น 1 ใน 100 คนที่เป็นอย่างนี้
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: aum on July 19, 2009, 05:16:00 PM
         โอ้ สวัสดีค่ะ คุณ jitjit
            เสียใจด้วยนะคะ กับเรื่องวีซ่าที่โดนปฏิเสธ อุ้มก้อมาแอบดีใจด้วยเลย แต่ก้ออย่าเสียใจและอย่าร้องไห้เลยนะคะ ไม่ผ่านเรายังยื่นอุทรณ์ได้  ลองใหม่อีกทีนะคะ ถือว่าเป็นประสบการณ์จะช่วยให้เราอยากเรียนรู้เรื่องภาษาและช่วยให้เรารอบคอบมากขึ้น ยังไงก้อจะรอฟังข่าวดีอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on July 19, 2009, 06:53:11 PM
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะเรื่องผลวีซ่า แต่อย่าท้อนะคะยื่นอุทธรณ์ใหม่ไปเลยค่ะยังไงก็ยังมีหวังอยู่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on July 19, 2009, 09:28:30 PM
พี่จิต

  ข้างในเค้าว่า ยังไงคะ เหมือนกับ เพื่อน ๆ ที่ ไม่ผ่านหรือเปล่า ไม่เป็นไรนะคะ พี่ ยื่นอุธรณ์ได้คะ ยังไง อ่านไปบอร์ดนี้ ก็ได้ นะคะ เอาใจช่วยคะ สู้ ๆ คะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 19, 2009, 09:35:58 PM
ขอขอบคุณกำลังใจจาก คุณ Aum,คุณ Fon2008 ค่ะ ก็จะลองอุธรณ์ ดูนะคะ คงจะโทรไปถามวันจันทร์นี้แหละค่ะ แต่ก็ไม่รู้ต้องรอนานแค่ไหน
แต่ก็ว่าจะลองดู และก็ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นอุธรณ์ต่อไป

:'( เรานี่ชอบโชว์ความซื่อบื้อเรื่อยเลยนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งอายตัวเอง อายน้องๆ และก็อายแฟนมากๆด้วย เฮ้อ :(
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 19, 2009, 10:05:02 PM
น้องแพทจ๊ะ ข้างในเขากากบาทมา 2 ข้อค่ะ
1. the purpose and conditions of your stay could not be ascertained
2. your intention of return to your country of origin could not be ascertained

ตอนแรกไม่สนใจจะอ่าน ตอนนี้ลองหาในเว็บป้าพอลดูจึงเข้าใจแล้วว่าแปลว่าอะไร

:'( น้องแพท พี่เนี้ยเศร้าเลยอะ เหมือนขึ้นสวรรค์ได้ประมาณ 4 วันแล้วตกลงมาเลย ตอนแรกที่ไปรับซองที่สถานทูตนะก็เปิดอ่านอยู่นะ งูๆปลาๆ ว่ามันเหมือนมันไม่โอเค แต่หน้าซองนี่ซิอะไรล่ะ เลยคิดไปเองว่าเชื่อหน้าซองดีกว่า เพราะไม่งั้นแล้วเขาจะแปะมาทำซากอะไรใช่ไหม แต่ก็นะ อย่าไปโทษเขาเลย เรามันซื่อบื้อเองแหละ   

??? ตอนแรกที่ไปยื่นขอวีซ่าน่ะ ในใจพี่ก็ว่าพี่ไม่น่าจะผ่าน เพราะว่าแฟนพี่ให้เอกสารมาแค่ 3 อย่างเอง และอีกอย่างพี่ก็คิดว่าที่พี่ไม่มีงานทำก็อาจจะเป็นปัญหาหนึ่งก็ได้
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: sasi on July 19, 2009, 10:06:06 PM
  สงสัยว่าทำไม วีซ่า ถึงไม่ผ่านคะ     เพราะ ครั้งแรก ที่ขอวีซ่า เข้าสวิส  ดิชั้นก็ได้ ซอง

สีน้ำตาลแบบนี้   ข้างในมีเอกสาร  ซึงมีชื่อ ดิชั้น กับเพือ่น ที่จะไปเที่ยวสวิสด้วยกัน อยู่

ส่งไปที่ ที่สวิส  ประมาณ 10 วันหลังจากนั้น ก็มารับวีซ่า ได้   ครั้งต่อๆมาก็ได้

วีซ่า ทุกครั้ง  โดยที่เอกสาร ไม่อะไรเลย นอกจาก  หนังสือรับรองการทำงาน

กับจดหมายเชิญ   แล้วก็ไปจองตั๋วเครื่องบิน   จนท สถานทูต ไม่ถามอะไร

หลังจากนั้น สามวัน  ก็รับวีซ่าได้      แต่ที่อ่านของหลายๆคน  รู้สึกว่า เตรียมเอกสารเยอะ

และมีคำถามมาก     วันนี้ก็ได้ข่าวว่า คนรู้จัก วีซ่าไม่ผ่านเหมือนกัน   ต้องรอ อุทรณ์  2 เดือน
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: natcha on July 19, 2009, 10:09:17 PM
พี่จิตค่ะ
อ่านเรื่องราวของพี่นั้นเศร้าจังแต่ก็ยังไม่เข้าถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ไม่อยากจะเชื่อว่าทางสถานทูตจะทำแบบนั้นและอีกอย่างผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดนะคะไม่ใช่โง่ค่ะไม่ต้องอายค่ะ ไม่มีใครอยากทำผิดพลาดหรอกค่ะ แต่ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจรืงก็ต้องรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้น ทำใจให้สบายค่ะไม่ต้องคิดมากเริ่มใหม่ได้ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 19, 2009, 10:29:37 PM
 ??? อยากถามน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน ว่า ได้รับซองเหมือนกันนี้หรือเปล่าค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on July 20, 2009, 01:12:38 AM
สวัสดีคะ พี่จิต

  ไม่เป็นไรนะคะ พี่ยังไงแพทเอาใจช่วยเสมอ ...ไมได้มาวันนี้วันหน้าก้ได้มาคะ จิงของน้อง natcha คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด.... แต่ห็นซองของพี่ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมเป้นแบบนั้น ... ของแพทได้แบบนี้เหมือนกันคะ แต่ข้างในเป็น พาสปอตอย่างเดียว,ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าและเอกสาร2 ใบที่ส่งไปให้แฟน.... แต่ไม่ทราบว่าถ้าคนไม่ผ่านที่ต้องยื่นอุธรณ์ได้ซองแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบคะ...ยังไงใครรู้ช่วยบอกหน่อย ...ถ้า คนที่ไม่ผ่านต้องยื่นอุธรณ์ ไม่ได้แบบนี้ แสดงว่าเป็นความผิดของสถานฑูตและหละ ที่ เค้าทำให้เราเข้าใจผิด....ต้องต่อว่าซะหน่อย.... ยังไงพี่จิต รีบโทรไปจองคิวขออุธรณ์ดีกว่านะคะ..ถามเค้าด้วยว่า มีใครยกเลิกคิวเร็วๆนี้ไหม๊พี่จิตจะได้เสียบแทนเลยคะ.... เรื่องเอกสารยื่นอุธรณ์ยังไง พี่จิตลองดูในกระทู้ของแนนก้ได้นะคะ ถัดจากกระทู้นี้ไปเท่านั้นเอง

     ยังไงพี่ๆน้อง ๆ และป้าพอลช่วยกันอยู่แล้วละคะพี่จิต ใจเย็น ๆ นะคะ ..สู้ ๆ เอาใจช่วย

ปล.ตอนนี้ สวิสเข้าเป็น เชงเก้นวีซ่าแล้วเอกสารอาจจะเยอะและตรวจเข้มเป็นพิเศษอาจจะไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนคะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on July 20, 2009, 01:59:49 AM
สวัสดีอีกรอบค่ะคุณ JitJit

พอดีฝนเข้าเว็บมาอีกรอบเห็นหน้าซองที่คุณ JitJit ได้รับแล้วมันก็น่าเข้าใจผิดจริงๆค่ะ ตอนที่ฝนไปรับวีซ่าจำได้ว่ามีผู้ชายคนนึงเค้าก็ไปรับผลเหมือนกันแต่เห็นเค้าได้แค่ซองที่ไม่มีกระดาษแปะหน้านะคะ ฝนเลยเข้าใจไปเองว่าเค้าคงโดนปฏิเสธวีซ่าแต่ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า รอให้
เพื่อนท่านไหนที่โดนปฎิเสธมาตอบให้อีกทีนะคะว่าได้ซองแบบไหนกัน

ส่วนเรื่องเหตุผลการปฏิเสธวีซ่า ฝนคิดว่าเป็นไปได้มากเลยค่ะเรื่องที่ว่าไม่มีงานทำและน่าจะจากการตอบคำถามด้วยค่ะตามที่ดูจากการปฏิเสธของสถานฑูตค่ะ อย่าคิดมากไปเลยนะคะเพราะมันผ่านไปแล้ว ยังไงก็ต้องลองใหม่อีกครั้งให้รู้ไปสิว่าจะไม่มีวันของเราบ้าง สู้นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on July 20, 2009, 02:10:52 AM
หลังจากตอบไปก่อนหน้าแล้วก็มิวายให้สงสัยว่า แล้วพาสปอร์ตของคุณ JitJit โดนสแตมป์การปฏิเสธวีซ่าหรือเปล่าคะ ไปๆมาๆฝนก็
เลยมาคิดไปด้วยว่าตกลงหน้าซองผิดคนหรือว่ากระดาษข้างในผิดคน ฝนไม่รู้ว่าเวลาที่เค้ามีกระดาษปฏิเสธวีซ่าในซองเค้าจะมีชื่อเราในใบที่
เค้าให้เหตุผลการปฏิเสธหรือเปล่า ของฝนก็เคยโดนปฏิเสธค่ะแต่มันนานมาแล้วและไม่ใช่ระบบรับซองแบบนี้เลยจำไม่ได้ คงต้องดูที่พาสปอร์ตเป็นหลักแล้วล่ะค่ะ บอกตามตรงว่าซองที่คุณ JitJit ได้รับมันน่าเข้าใจผิดจริงๆค่ะเป็นฝนก็คงจะเข้าใจแบบคุณเหมือนกัน สู้สู้ค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 20, 2009, 02:21:31 AM
สวัสดีจ้า น้องฝน
พี่ได้รับแสตมป์เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่ามันปฏิเสธ หรือว่าอะไร ไงน้องช่วยดูหน่อยนะ และขอบใจมากสำหรับกำลังใจจ้า
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 20, 2009, 02:37:16 AM
น้องแพท.... ขอบใจมากจ๊ะสำหรับกำลังใจนะจ๊ะ พี่คิดว่าวันจันทร์นี้ต้องโทรไปจองคิวอุธรณ์ก่อน  ;)

น้องฝน....ใช่เลยพี่ก็คิดเหมือนกันว่ามันไม่น่าจะผ่าน แต่หน้าซองก็ทำให้พี่เข้าใจผิด  :'(

คุณ Sasi....ช่วยถามเพื่อนให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าเขาได้ซองเหมือนพี่หรือเปล่า

น้อง nacha....ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ พี่ยอมรับในความผิดพลาดของพี่แล้วหละ แต่ยังนอนไม่หลับเลย  :'( ไม่ใช่คิดมากนะ คงกินกาแฟตอนเย็นน่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: sasi on July 20, 2009, 04:53:05 AM
  ตอบ พี่จิต 

   ไม่รู้ว่า เค้าได้ซอง สีนำตาล รึปล่าว เพราะคนที่เล่าให้ฟังนั้นเป็น น้องที่รู้จักกัน อีกที คะ

ไม่ใช่เจ้าตัวโดยตรง   แต่เห็นว่า รออุทรณ์ 2 เดือน  เค้ารับราชการ  ซึ่งน่าจะง่าย ขอวีซ่า 3 อาทิตย์ เหตุผล

ของสถานทูต คือกลัวไม่กลับ เมืองไทย เลยไม่ออกวีซ่า

แต่ ดิชั้นก็รับราชการ  ตอนที่มาสวิสครั้งแรก  ที่ทำงานออกหนังสือรับรองให้

จนท ถามว่า ทำงานอะไร   ถามเรื่อง เพื่อน ที่สวิส นิดหน่อย   พอถึงวันนัด มารับวีซ่า

ก็ได้ซองสีน้ำตาล     หน้าซอง เขียนว่าให้ส่งเอกสาร ข้างใน ไป สวิส  แล้วอีก 10 วันให้มารับวีซ่า

ไม่ถึง 10 วันหรอกคะ   อาทิตย์เดียว   วีซ่าครั้งต่อมา เอกสารที่ยื่น มีแค่ จดหมายเชิญ กับหนังสือรับรองการทำงาน  ใบจองตั๋วเครื่องบิน เท่านั้นเอง  ไม่มีคำถามอะไรแม้แต่นิดเดียวจาก สถานทูต

นอกจากบอกว่า  ให้มารับวีซ่า วันพุธ ( ไปยื่นเอกสารวันจันทร์)  ขอวีซ่า เยี่ยม 3 ครั้ง ผ่านตลอดไม่มีปัญหา อะไร      ทำเรื่องแต่งงานก็ไม่มีปัญหา  เตรียมเอกสาร ตามที่อ่านในเวบป้าพอล ทุกอย่าง

(ดิชั้นแต่งงานที่เมืองไทยคะ)    ทำวีซ่าติดตามก็ไม่ยาก  จนท จะบอกว่า เตรียมเอกสารอะไร มาบ้าง

แต่ต้องกรอก  Application 3 ชุด     ถ้าสงสัยอะไร โทรไปที่ สถานทูต ได้เลยคะ

แต่ต้องเป็นช่วงบ่าย  เพราะ ช่วงเช้า จะยุ่งเรื่องเอกสาร   คำตอบชัดเจน   

ตอนที่โทรไปถาม ดิชั้นก็จด เป็น ข้อๆ ว่า ต้องการรู้เรื่องอะไรบ้าง   แนะนำว่าขอให้คุยกับ จนท โดยตรง

เพราะคนที่เราคุยด้วยตอน จองคิวเพื่อยื่นเอกสาร ขอวีซ่า จะให้คำตอบ ต่างไปจาก จนท

ตอนนี้ เอกสารที่เรากรอก ค่อนข้างเยอะคะ  เทียบกับเมื่อ สองปีที่แล้ว ที่เข้าสวิสครั้งแรก

มีเอกสาร ที่เราต้องเซ็นต์ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงวีซ่า ในขณะที่ ถือ Visitor  ถ้ามีการ เปลี่ยนแปลง

จะถูกดำเนินการตามกฏหมาย    ปี49  เพื่อนดิชั้น มาแต่งงานที่สวิส  ด้วยVisitor 3 เดือน

ซึ่งถือว่าโชคดีมาก :D   

เขียนมาซะยาว    เผื่อมี ท่านใดผ่านมาอ่าน   

เป็นกำลังใจให้ คะ  วีซ่า สวิสไม่ยาก   ถ้าผ่านครั้งนึงแล้ว ครั้งต่อไป ง่ายมาก  :)

Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: aum on July 20, 2009, 11:21:33 AM
        สวัสดีค่ะ คุณ jitjit
               อุ้มว่ามันผิดซอง ผิดคนรึเปล่าคะ เพราะตอนที่อุ้มทำนั้น ครั้งแรกโดนปฏิเสธ จะไม่มีกระดาษแปะข้างใน มีแค่เอกสารด้านในที่บอกว่าเราโดนปฏิเสธข้อหาอะไร แต่ดูแสตมในพาสแล้ว น่าจะปฏิเสธนะคะ อุ้มว่ามันเป็นความผิดของสถาณทูตมากกว่าค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on July 20, 2009, 03:13:57 PM
สวัสดีค่ะพี่จิต(ขอเรียกตามแพทละกันนะคะ) คือฝนไ่ม่ได้โดนสแตมในพาสปอร์ตตอนวีซ่าโดนปฏิเสธในครั้งแรกเลยไม่รู้ว่าหน้าตามัน
เป็นอย่างไร แต่สแตมที่พี่จิตได้รับมาเท่าที่ฝนเห็นก็มีเฉพาะสแตมวันที่(หรือมีข้อความอื่่นแล้วฝนมองไม่เห็นหรือเปล่า)ก็คล้ายๆกับสแตมที่ฝนได้รับเมื่อเดือน มิย.ที่ผ่านมา(ได้วีซ่าปกติคือเค้าคงจะสแตมวันที่ที่เราไปรับผลวีซ่าน่ะค่ะ) เลยยิ่งทำให้ฝนงงตามไปด้วยค่ะว่าตกลงเป็นไงกันแน่ คงต้องรอให้เพื่อนท่านใดที่โดนสแตมปฏิเสธช่วงที่ผ่านมาเข้ามาดูให้ว่าีมีข้อความบอกว่าปฏิเสธอะไรนอกเหนือจากวันที่ที่เค้าสแตมป์มานี้หรือเปล่าค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 20, 2009, 05:02:54 PM
 :) วันนี้พี่โทรไปขออุธรณ์วีซ่าแล้ว ได้วันที่ 30 กค. นี้จ้า และพี่ก็เมล์ไปถามสถานทูตเกี่ยวกับซองจดหมาย และก็ขอคำแนะนำจากสถานทูตเกี่ยวกับเอกสารที่จะต้องยื่นเพิ่มเติมตอนอุธรณ์น่ะ หวังว่าเขาคงจะตอบเรานะ

คุณ sasi...ซองที่พี่ได้เป็นสีเขียวขี้ม้าอ่อนๆค่ะ ไม่ใช่สีน้ำตาลค่ะ ขอบคุณสำหรับแชร์ประสบการณ์นะคะ

คุณ Aum....พี่ไม่แน่ใจว่าผิดซองหรือเปล่า แต่จดหมายน่ะมีชื่อพี่ไม่ผิดแน่นอนค่ะ...สู้ๆๆๆ  ;D

น้องฝน....พี่ก็เห็นชัดเฉพาะวันที่เหมือนกัน แล้วนอกนั้นมันก็จางๆ แหละ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจจ้า  ;)


Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 20, 2009, 05:17:59 PM
ถึงพี่JitJit  ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ แต่ไม่เป็นไรนะค่ะ ยื่นอุธรณ์ดีกว่าค่ะ ประมาณ2เดือนทราบผลค่ะ หนูก็เป็นคนนึงที่โดนปฏิเสธมาค่ะด้วยเหตุผลคือเราน่ารักเกินไปห้ามเข้าประเทศเขา 555 พูดเล่นนะค่ะ

จากที่ดูแล้วหน้าตาซองของพี่เหมือนของหนูเปะเลยค่ะ แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าหนูไม่มีกระดาษแปะว่าให้ส่งไปสวิสนะค่ะ

ภายในซองจะมีพาสปอร์ตที่มีแสตมป์มาค่ะ เด่วหนูแสกนให้ดูดีกว่าเพื่อความมั่นใจ

และมีกระดาษอยู่อีกใบในนั้นติกไว้1ข้อว่า  the purpose and conditions of your stay could not be ascertained

ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาทำงานไม่เรียบร้อยทำให้เราเกิดความซับซนแบบนี้ แนะนำว่าให้พี่อีเมลล์ไปถามเลยนะค่ะ ว่าจริงๆแล้วคุณมั่วหรือเปล่า มีที่ไหนให้ส่งปฏิเสธวีซ่าไปให้แฟน โกรธๆ >:(  >:(  >:(


Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 20, 2009, 05:30:55 PM
(//)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 20, 2009, 05:34:26 PM
(//)

ไม่มีอายเลยค่ะ เอามาเป็นตัวอย่างให้สาวๆดูเลยค่ะ เพราะสาวๆเว็บนี้รู้กันดีแล้วว่าPenguin ถูกปฏิเสธมา 555+
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 20, 2009, 05:36:57 PM
แทรกเพิ่มเติมนะค่ะว่าวันที่ สีแดงตามตัวอย่างนั้นเป็นวันที่ที่ Penguin ไปยิ่นอุธรณ์แล้วเขาแสตมป์เพิ่มมาค่ะ

ไม่แน่ใจว่าเหมือนของสมาชิกท่านอื่นไหมค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 20, 2009, 06:11:08 PM
น้อง Penguin...พี่เมล์ไปถามสถานทูตแล้วหละ แต่เขาจะตอบพี่หรือเปล่านี่ซิ และขอบคุณนะคะ ที่สแกนมาให้ดูน่ะจ๊ะ ใช่เลยเหมือนสแตมป์บนพลาสปอร์ตของพี่เลย และก็ใช่เลยน้อง..พี่ก็โกรธๆๆๆนะน้องที่ให้เราส่งปฏิเสธวีซ่าไปให้แฟนดูเท่านั้นยังไม่พอ พี่ยังโชว์โง่กับแฟนอีกนะจะเล่าให้ฟังนะ อย่าเบื่ออ่านล่ะ

??? วันเสาร์ที่ผ่านมา พี่ก็ได้รับ SMS จากแฟนนะว่า เขาเสียใจและไม่มีความสุขเลย พี่ก็คิดว่า เอ๊ะ! มันเรื่องอะไร งั้นเราโทรคุยกันดีกว่านะ
...เขาก็บอกพี่ว่าวีซ่าเราโดนปฏิเสธนะ
...จะโดนปฏิเสธได้ไงก็ฉันอ่านภาษาไทยหน้าซอง ว่าเมื่อเธอได้รับจดหมายแล้วเธอก็แค่ถือไปติดต่อตำรวจที่สวิสเซอร์แลนด์ แล้วมันจะอะไรนักหนาเชียว
...เขาก็บอกว่าที่รัก แต่มันไม่ใช่ชื่อฉันนะ แล้วฉันจะไปได้อย่างไร
...เราก็ยังดื้ออยู่ เดี๋ยวถ้าฉันไปได้นะฉันจะไปต่อยเธอที่นั่นเลย รอเดี๋ยวนะ..เดี๋ยวฉันจะเปิดเว็บป้าพอลดูแล้วเช็คว่า มันเป็นอย่างไงกันแน่...แต่ว่าวันนั้นเว็บป้าพอลล่ม ไม่สามารถเช็คได้ แต่ก็พอจำได้คร่าวๆว่าคนที่ได้หน้าซองอย่างนี้ เขาก็โอเควีซ่าผ่านกันนี่ แต่ก็ไม่มีใครพูดถึงจดหมายด้านในกันเลยนี่นา ส่วนคนที่วีซ่าไม่ผ่านเขาก็ไม่ได้คุยว่าได้ซองที่แปะกระดาษอย่างนี้นี่นา แล้วมันอะไรกันนี่ ..ทำไมแฟนฉันดื้อจังเลย
...เขาก็บอกว่าที่รักฉันก็เสียใจที่เธอไม่ได้มาสวิสน่ะ ไม่ใช่ฉันไม่อยากให้เธอมา
...งั้นก็ โอเค งั้นเดี๋ยวรอวันจันทร์ ค่อยเช็คให้แน่นอนอีกทีแล้วกัน พอวันอาทิตย์ เว็บป้าพอลใช้ได้เลยเข้าไปเช็คดู โอ้มายก๊อด ฉันโดนปฏิเสธจริงๆหรอเนี่ย...หน้าแหกอย่างแรง อายแฟนมากเลย หลังจากนั้นก็ส่ง Sms ไปบอกแฟนว่าฉันแน่ใจแล้วว่าวีซ่าไม่ผ่านชัวร์  :'(
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on July 20, 2009, 06:29:43 PM
ถ้าเป็นหนูเจอแบบพี่นะ หนูจะสแกนทั้งซองและใบปฏิเสธแล้วอีเมลล์ไปถามแน่นอนค่ะ ปฏิเสธไม่ว่าแต่ทำไมต้องใสซองแบบนี้ด้วย เท่านั้นเองค่ะ

อย่าเสียใจไปเลยนะค่ะ เรามาคิดถึงว่าจะยื่นเอกสารอุธรณ์ยังไงดีกว่านะค่ะ กรณีพี่หนูว่าต้องหาเอกสารเพิ่มเติมแน่ๆค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าต้องเพิ่มอะไรบ้างนะค่ะ ต้องรบกวนพี่ๆท่านอื่นมาแนะนำนะค่ะ

กะจะต่อยแฟนเลยเหรอเนี้ย โหดจัง...ตอนหนูโดนปฏิเสธมารีบแสกนและโชว์ให้แฟนดูทุกอย่างผ่านแคมเลยค่ะ ไม่มีอายเลย  ;D  ;D สู้สู้นะค่ะ ตอนนี้ก็มาอยู่แกงค์ waiting lists กับหนูไปก่อนนะค่ะ  :D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 20, 2009, 11:35:34 PM
น้อง Penguin....พี่ก็สแกนรูปซองส่งไปด้วยน่ะแหละ และก็ถามเขาอย่างสุภาพค่ะ เพราะพี่คิดว่า ไม่รุ้ว่าควรจะโทษสถานทูตผิดพลาด หรือว่าอะไรดี และพี่ก็คิดว่าข้อผิดพลาดนี้ถ้ามันเกิดกับคนอื่นมันอาจจะไม่เป็นอย่างพี่แน่ๆ...แต่ก็ยังอยากได้คำตอบจากสถานทูตนะ ว่าเป็นอย่างไร  ???

เลิกเสียใจแล้วหละ และก็กำลังจะคุยกับแฟนว่าเราควรเพิ่มเอกสารอะไรดี และเขาก็บอกว่าถ้าอีก 2 เดือนข้างหน้า ที่สวิสอาจจะไม่สวยเหมือนช่วงเวลาที่เราจะไปตอนนี้...แต่ก็แอบคิดนะว่า แหม! ตัวเองอยากให้ผ่านแต่ดูดิให้เอกสารเรามาแค่เนี้ยนี่นะ ทำอย่างกับเล่นขายของแนะ :'(

;D พี่ก็แค่คุยเล่นๆเท่านั้นแหละ ไม่กล้าต่อยเขาหรอกจ๊ะ...ที่พี่อายแฟนนะไม่ใช่เรื่องวีซ่าถูกปฏิเสธหรอก แต่เป็นเรื่องที่อวดรู้ เท่านั้นแหละ เขาพยายามอธิบายแต่ก็ไม่ค่อยเชื่อเขา  ;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on July 21, 2009, 01:34:10 PM
Dear Pi Jit,

I am so sorry for you na ka but I hope you will get a visa finally.
I just log in pallswiss today I just know the embassy make a big mistaked to you.
You must be strong na ka. take care be happy.
Nan
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 21, 2009, 06:32:51 PM
น้องแนน...พี่ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจ เป็นอย่างไงบ้างสนุกหรือเปล่าเที่ยวน่ะ อากาศดีไหม และสวยหรือเปล่าที่นั่นน่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on July 22, 2009, 01:43:25 AM
sawasdee ka pi Jit,

I enjoyed and very happy here. It is very beautiful here. Pi Jit
You must enclosed documents of your condo when you appeal na ka.
It will help you and the embassy and FOM in Bern will know that you have an income.
if no job and no income then difficult to get a visa na ka.
good luck
nan
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on July 22, 2009, 08:08:23 AM
น้องแนน...ใช่เลยคราวนี้พี่คงต้องเพิ่มเรื่องการผ่อนคอนโด กับ คนเช่า ด้วยแล้วหละ และก็เพิ่มเอกสารของแฟนด้วย แล้วแฟนพี่เนี่ยให้เขาโชว์เอกสารการจดทะเบียนของบริษัทเขา และก็ใบเสียภาษีปีล่าสุดเท่านั้นได้หรือเปล่า โดยไม่ต้องโชว์บัญชีเงินฝากของเขา
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on July 22, 2009, 12:35:53 PM
sawasdee ka Pi Jit,
About documents of your boyfriend's occupation thoes are enough. If you have any questions
you can email me or I will be online about noon in Thailand time ka. take care...Nan
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 08, 2009, 02:25:13 PM
มา update การอุธรณ์วีซ่า  จ้า

พี่โทรเปลี่ยนวันยื่นอุธรณ์เป็นวันที่ 7 สค.น่ะ เพราะพี่รอเอกสารจากแฟนพี่ คราวนี้ ขอไปหลายอย่างเลย และเขาก็ส่งมาให้ทุกอย่างที่ขอ ไม่เหมือนครั้งแรก เพราะเขาไม่ยอมเชื่อเรา และตัวพี่เองก็เตรียมเอกสารหลายอย่างด้วยเลยคิดว่าต้องใช้เวลาหน่อย

"แต่น้องๆบนเว็บป้าพอล เขาแนะนำพี่ว่าเอกสารของแฟนไม่ต้องรอเพราะว่าเขาต้องส่งเอกสารไปสวิส และทางสวิสจะขอเอกสารฝ่ายชายที่นั่นเอง แต่พี่โทรไปขอแฟนก่อนที่จะถามน้องๆ ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป"

- เริ่มปริ้นเอกสารคำร้อง 3 ชุด กรอกเอกสารเหมือนครั้งแรกทุกอย่าง แม้กระทั่งวันเดินทาง และวันที่ประกันคุ้มครองด้วยไม่ต้องเปลี่ยน
- รูป 4 ใบ
- เงิน 3060 บาท
- เอกสารที่ส่งไปแล้วครั้งแรกไม่ต้องส่งอีก นอกจากเอกสารที่ต้องการยื่นเพิ่มเติม เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเรา เพื่อให้เขาพิจารณาว่าเรามีภาระผูกพันที่เมืองไทย ของพี่มีเพิ่มเติม 4 อย่าง ไม่รู้จะช่วยได้แค่ไหนหลักฐานการเป็นหนี้ กับบ้านบนที่ดินที่ไม่ใช่ของเรา แต่ก็ไม่รู้จะหาอะไรมาช่วยแล้ว หวังว่ามันคงช่วยได้นะ
          * เอกสารสัญญาผ่อนคอนโดห้องที่ 1 + ใบเสร็จผ่อนคอนโด + เอกสารคนเช่าห้อง
          * เอกสารสัญญาผ่อนคอนโดห้องที่ 2 + ใบเสร็จผ่อนคอนโด + เอกสารคนเช่าห้อง
          * เอกสารเจ้าของบ้านบนที่ดินเช่า + ใบเสร็จค่าเช่าที่ดิน 3 ปี + เอกสารคนเช่าบ้าน
          * เอกสารการดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว ไปทำที่อำเภอมา + ใบเกิดลูก เพื่อยืนยันว่าเราจะกลับมาดูแลลูกเรา
- เอกสารของผู้เชิญ อย่างที่บอกไม่จำเป็นต้องให้เขาส่งอะไรมา เพราะสถานทูตต้องส่งไปสวิส แล้วทางสวิสจะขอเอง แต่ไหนๆก็ส่งมาแล้ว ก็ส่งไปด้วยเลย
          * หลักฐานการจดทะเบียนบริษัท
          * ใบเสียภาษีปีที่แล้ว
          * เงินบัญชีในธนาคาร
          * หลักฐานการเสียค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ เพราะครั้งแรกไม่ได้โชว์
          * จดหมายเชิญจากบริษัท
          * จดหมายอธิบายเพิ่มเติม (อ่านไม่ออก)
     


*** ไปสถานทูตทุกอย่างเหมือนเดิม ***
     แต่ตอนเช็คเอกสาร   ??? 
          คุณลุงเช็คเอกสาร เช็คเอกสารคำร้อง3ชุด ระหว่างเช็คเอกสารก็แอบคุยเรื่องเอกสารผิดซองของเราน่ะ 
- เออ! คุณลุงคะ วันที่มารับผลวีซ่าน่ะคะ คือว่าข้างในน่ะเป็นจดหมายปฏิเสธวีซ่า แต่ซองเป็นระบุให้ส่งเอกสารไปให้ผู้เชิญติดต่อตำรวจที่สวิสน่ะคะ
- ไหนเอามาดูซิ นานหรือยังเนี่ย
หยิบให้ดูได้เลย เพราะว่าพกไปด้วย
- ใช่เลยจดหมายปฏิเสธ แต่ซองผิด แล้วทำไมไม่ถามก่อน อย่ากลับไปพร้อมความสงสัย
- ไม่ได้สงสัยเลยค่ะ เพราะคิดว่าให้ส่งก็ส่งไปเลย (จบข่าว )ไม่ถามมากช้ำใจพอแล้ว อายอีกต่างหาก
***เมื่อตรวจเอกสาร 3 ชุดเสร็จ ลุงเห็นเอกสารที่เตรียมไปยื่นเพิ่มเติมอีกกอง***
- นั่นเอกสารอะไรน่ะ
- เอกสารยื่นเพิ่มเติมค่ะ
- ไม่ต้องส่งเพราะว่าเขาไม่ได้ขอ ให้เราเก็บไว้ใช้เอง  ??? (ใช้ทำอะไรหรอ)
- เอ๊ะ!จริงหรอ(คิดในใจ)เสียเวลาเตรียมตั้งนานเนี่ยนะ อะไรเนี่ย
- ยื่นช่อง 2 เลยครับ
- นั่งรอไปก็นึกไปอะไรวะ เตรียมเอกสารตั้งนาน ต้องหอบกลับหรอเนี่ย แล้วอะไรจะยืนยัน หรือช่วยเราได้ล่ะ ถ้าไม่ยื่นไอ้เอกสารพวกนี้ไปเนี่ย ??? คิดๆๆๆๆๆตลอด
- ช่อง 2 เรียก "รอ 2 เดือนนะคะ"  พร้อมยื่นเอกสาร 1 ใบ ประมาณว่าใบเสร็จรับเงินน่ะ
- ต้องถามแล้วไม่ได้หล่ะ "เออ พี่คะ แล้วเอกสารที่เตรียมมาเพิ่มเติมล่ะคะ"
- ไหนล่ะ ส่งมาเลย
- โอ๊ย! โล่งอก (ปาดเหงื่อเลยเรา)เกือบไปอีกแล้วหรอเราเนี่ย (ลุงนะลุง เล่นเอาเหงื่อตกเลย  :'() แต่ไม่โกรธลุงนะ คุณลุงใจดีมาก พูดจาดี ให้ความช่วยเหลือดีมากเลย

****เสร็จแล้วกลับบ้าน สบายใจ...ตอนนี้ก็ให้ฝ่ายผู้เชิญติดตามตอนต่อไป  ;D หมดหน้าที่เราแล้ว ***



Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 08, 2009, 02:31:54 PM
*** ประสบการณ์การขอใบรับรองการปกครองบุตร***
- มีลูกกับแฟน แต่เราไม่ได้จดทะเบียนกัน สิทธิการปกครองลูกจะเป็นของแม่
- นำใบเกิดลูก
- ถ้าลูกมีบัตรประชาชน ก็ถ่ายเอกสารของบัตรประชาชนลูกไปด้วย
- ถ้าลูกเปลี่ยนชื่อ ก็เอาใบเปลี่ยนชื่อไปด้วย
- ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนของแม่
**เคยอ่านเจอว่าต้องเอาพยานไปด้วย 2 คน แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนแล้ว เพราะโทรถามปลัดอำเภอ เขาบอกว่าไม่ต้องก็เลยไปคนเดียว**
- ยื่นเอกสารที่ปลัดอำเภอ เขาก็จะสัมภาษณ์ เรานิดหน่อยว่าจะเอาไปทำไม แล้วเขาก็เช็คเอกสารเรา หลังจากนั้นก็นั่งรอ เขาก็จะไปพิมพ์เอกสารบันทึกคำใหการรับรองการปกครองบุตร  เรื่องการปกครองเลี้ยงดูบุตร
- เช็คเอกสารว่าพิมพ์ชื่อถูกหรือเปล่า เซ็นต์ชื่อ แล้วก็รับเอกสาร ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
;D**เร็วและง่ายจริงๆสมัยนี้** ;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 08, 2009, 10:24:46 PM
สวัสดีค่ะพี่จิต หนูเคยมาอ่านกระทู้ของพี่แล้วรอบนึงตอนที่พี่ส่งเอกสารไปให้แฟน แต่ว่าที่ส่งไปกลับไม่ใช่
เป็นหนูคงเจ็บใจมากเลยเพราะความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ แต่ตอนนี้พี่ก็กำลังรออยู่เหมือนหนูเลยค่ะ(พี่จิตยื่นไปเมื่อวานใช่มั้ยคะ) ตอนนี้หนูรอจดหมายครบ4 อาทิตย์แล้วค่ะ แฟนหนูเค้าก็ไม่เชื่อหนูหรอกค่ะทีแรกเรื่องเอกสารตอนยื่น และอีกทีตอนที่หนูรอได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เค้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่เจนีวาค่ะ (หนูยื่นที่นี่ค่ะ)แล้วทางนั้นก็บอกว่าทางหนูจะต้องส่งเอกสารไปให้เค้าก่อนเค้าถึงจะดำเนินการได้ พอแฟนหนูกลับมาจากสถานทูต เค้าก็ถามเราอีกเหมือนว่าไม่เชื่อเราเลยว่าเราไม่ได้เอกสารอะไรที่ต้องส่งให้เค้าเลยจริงๆ เหรอ  :'( เเล้วท้ายสุดเค้าก็เมล์ไปไปถามที่เบิร์นค่ะ ทางนั้นตอบมาว่าเค้าได้รับเอกสารแล้ว แต่ว่าต้องรอกระบวนการ 6-8 อาทิตย์ค่ะ เรื่องถึงได้ยุติ บางทีการทำงานที่โน่นกับที่นี่ไม่เหมือนกันก็ได้ค่ะ (พยายามทำความเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงไม่เชื่อเรา (แล้วไหนบอกว่ารักกัน)) ??? ขอให้พี่จิตโชคดีนะคะ ไปเมืองไหนเอ่ย
อย่าลืมส่งข่าวมาเรื่อยๆนะคะ  :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 09, 2009, 12:14:51 AM
น้อง nadaa....ใช่จ๊ะ พี่ไปยื่นเมื่อวันที่ 7 สค.ที่ผ่านมานี้เองแหละจ๊ะ และขอบใจนะที่เจ็บใจแทนพี่ด้วยอีกคนเรื่องเอกสารผิดซองน่ะ นึกแล้วก็ขำๆๆ ปนโมโหนิดๆ และก็เก็บไว้เป็นประสบการณ์ชีวิตต่อไป  ;D
- จริงอย่างที่หนูพูดแหละ แฟนพี่ไม่เชื่อพี่  พี่ก็ไม่อยากพูดมาก ต้องปล่อยให้เขารู้ด้วยตัวเองเดี๋ยวจะหาว่าเรารู้มาก ให้มาแค่ไหนก็ส่งแค่นั้นแหละ 
- ดูเหมือนแฟนหนูเนี่ยจะตามงานดีนะ ตามเช็คตลอดเลย คงจะคิดถึงน้องมากซินะ ;D
- พี่ว่าเค้านะรักหนูมากแหละ แต่ก็ขอเช็คให้แน่ใจก่อนถึงค่อยแน่ใจ แต่แฟนพี่เขาเลือกที่จะเชื่อตัวเองก่อนน่ะ  :'( 
- พี่ไป Conthey อยู่ในเมือง Sion อยู่ไม่ไกลทะเลสาปเจนีวาเท่าไหร่ (ดูในแผนที่น่ะ แต่จริงๆไกลหรือเปล่าไม่แน่ใจ)
- แล้วหนูไปเมืองไหนหรอ คงจะได้ไปเร็วๆนี้แล้วซิ เหลืออีก 2-4 อาทิตย์เอง ขอให้หนูได้ข่าวดีเร็วๆนี้นะจ๊ะ

***พี่ก็คงจะมาส่งข่าวเรื่อยๆ แหละเผื่อจะได้ให้น้องๆรุ่นหลังๆเขาได้เข้ามาหาข้อมูล บางอย่างจากพี่ได้บ้าง อาจจะนิดหน่อยก็ยังดี เพราะพี่ก็ได้ข้อมูลจากบนเว็บป้าพอลนี้เยอะเลยแหละ ทำให้อะไรมันง่ายขึ้น***
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on August 09, 2009, 03:36:26 AM
สวัสดีค่ะพี่จิต ดูเอกสารเพิ่มเติมของพี่จิตแล้วแน่นดีจังค่ะน่าจะผ่านแล้วล่ะคราวนี้ ฝนขออวยพรให้ทุกอย่างราบรื่นและ้วีซ่าผ่านนะคะรวมทั้ง
อวยพรให้น้องๆแก็งค์ "รอ" ได้รับวีซ่ากันทุกคนเลยค่ะ(อวยพรผ่านกระทู้พี่จิตซะเลย  :D) แล้วจะเ้ข้ามาติดตามฟังข่าวเรื่อยๆค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 09, 2009, 02:11:46 PM
สวัสดีค่ะพี่จิต เมื่อวานนี้ที่เจนีวามีการจุดพลุเเพื่อเฉลิมฉลองเริ่มเดือนสิงหาหรือเริ่มฤดูกาลอะไรซักอย่างนี่แหล่ะค่ะ รู้สึกว่าเค้าจัดมา2 วันก่อนด้วยแล้ว แฟนเล่าให้ฟังว่าหลักๆเค้าจุดพลุที่ทะเลสาปนั่นแหล่ะค่ะ เค้าไปดูและถ่ายรูปไว้ แล้วหนูคิดว่าตรงที่แฟนพี่อยู่(Conthey,Sion)ก็น่าจะเห็นพลุด้วยนะคะเพราะไม่ไกลจากทะเลสาป  :) ในตั๋วเดินทางหนูไปวันที่ 20 สิงหาค่ะ แต่คงไม่ทันแล้ว หนูคงต้องเลื่อนไปเป็นต้นเดือนหน้า เพราะตอนนี้ก็รอจดหมายยังไม่ได้เลยค่ะ(เดือนหน้านี้หมดหน้าร้อนแล้วหรือยังคะพี่จิต) แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะช่วงหน้าหนาวเค้าพากันหนีหนาวมาเที่ยวบ้านเรา ส่วนเราก็หนีร้อนไปเที่ยวบ้านเค้า(ดีหรือเปล่าเนี่ย)แต่อย่างน้อยจะอยู่ที่ไหนก็ได้ใช่มั้ยคะถ้ามีคนรักอยู่ใกล้ๆ หัวใจอบอุ่นตลอดเวลา อิอิ

ขอบคุณค่ะพี่ฝนที่ช่วยเป็นกำลังใจให้แก็งค์"รอ"..
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ทั้งพี่จิต และพี่ฝน :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on August 10, 2009, 01:56:28 AM
ขออนุญาตพี่จิตเจ้าของกระทู้สวัสดีน้องนาดานะคะ ขอบคุณมากๆจ้ะนาดา พี่ฝนสุขภาพโอเคดีจ้ะแต่ออกแนวดูแลตัวเองมากไปหน่อยเริ่มอวบขึ้นเรื่อยๆ  ;D แบบว่าพักนี้บ้าทำอาหาร ส่วนเดือนหน้าก็คงจะเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก็น่าจะสวยไปอีกแบบพี่ก็หวังว่าจะได้เห็นก่อนกลับอยู่เหมือนกัน ยังไงก็รีบตามมาไวๆนะจ๊ะ  ;D รักษาสุขภาพเช่นกันจ้าาา
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 10, 2009, 09:00:46 AM
น้องฝน....พี่ขอบใจมากนะที่ตอบคำถามแทนพี่ เพราะพี่ก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอกจ๊ะ ระวังความอ้วนด้วยหละเพราะว่าอ้วนนะง่ายมากแต่ลดความอ้วนนี่ซิยากมากเลย...สำหรับเอกสารของพี่ไม่แน่ใจว่าแน่นหรือเปล่า เพราะอะไรก็ไม่แน่นอนสำหรับสถานทูต แล้วน้องฝนกลับเดือนไหนหรอ และอยู่เมืองอะไรหรอ เที่ยวให้สนุกต่อไปนะจ๊ะ เก็บความทรงจำไว้เยอะๆ(ถ่ายรูปน่ะ)
น้อง nadaa....วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้พี่ยังไม่ได้คุยกับแฟนพี่เลย ถ้าได้คุยจะถามให้นะว่าเขาจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลองอะไรกันแน่  หรือว่าถ้าน้องรู้ก่อนก็บอกกันบ้างนะจะได้รู้ไว้เป็นประสบการณ์ แล้วเราก็มาเข้าแก๊งค์รอกันต่อไป  ;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 10, 2009, 09:31:46 AM
เรื่องเอกสารหน้า 6..ของแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่า
คือว่าตอนพี่ยื่นครั้งแรกน่ะ พี่ไม่ได้ยื่นหน้า 6 แต่ก็ไม่มีอะไรนะ ลุงที่เขาตรวจเอกสารเขาก็ไม่ได้ถาม แต่พอพี่ยื่นอุธรณ์ พี่ก็ไม่ได้ส่งหน้า 6 เหมือนครั้งแรกนะ
แต่ว่า.. ลุงเขาบอกว่าหน้า 6 เป็นลายเซ็นต์ของเราแกก็หยิบกระดาษแบบฟอร์ม 1 ใบซึ่งเป็นหน้า 6 มาให้พี่เซ็นต์ชื่อของพี่ ลงไปในหน้า 6
พี่ก็บอกแกนะว่า "ครั้งแรกเราไม่ได้ส่งนะ" แต่คุณลุงบอกว่า "ส่งซิ ทำไมไม่ได้ส่ง"  พี่ก็แอบงง นะ หรือแกเบลอๆ เพราะแกอาจจะตรวจเอกสารเยอะมาก ใน 1 วัน

แล้วน้องๆ ส่งหน้า 6 กันหรือเปล่าจ๊ะ ยังไงช่วยบอกเล่าด้วยนะ เพราะพี่เขียนไปบนกระทู้ว่าหน้า 6 ไม่ต้องส่งเลยอยากถามให้แน่ใจจ๊ะ
และค่ายื่นวีซ่าก็เปลี่ยนเป็น 2,900 บาท แล้วด้วย และยื่นอุธรณ์วีซ่าก็ 3,060  บาท
อาจจะพึ่งขึ้นเดือนนี้ก็ได้นะ เพราะเดือนที่แล้วยัง 2,800 กับ 2,960 บาท อยู่เลย
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on August 10, 2009, 02:53:42 PM
ถึงเพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคน

  สวัสดีคะ พี่จิต ...เห็นเตรียมเอกสารแน่นๆ เลย พี่เก่งมากเลยคะ ...เตรียมพร้อมดีอย่างนี้ทางสถานฑูตจะได้ไม่มีข้อแม้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้..ลองดูซิ..เอกสารแน่นขนาดนั้นแล้ว 5555.......แต่รออีกหน่อยนะคะพี่ เด๋วก็ได้มาเที่ยวหน้าหนาว เมืองสวสิ หละตอนนี้ก็เตรียมตัวเสื้อผ้าหน้าหนาวไว้ได้เลย คะ........
  เมืองที่พี่จิต และน้องนาดาอยู่ เจนีวา และ sion พอดีแพทไปเที่ยวมาแล้ววว ทะเลสาปสวยมากกกกกกกกก คะ .....
ยังไงเอาใจช่วยนะคะ พี่จิต และคนอื่น ๆ ด้วย แก๊ง "รอ" ไม่ได้มาวันนี้..วันหน้าก้ได้มาอยู่ดี ......

สู้ ๆๆๆๆๆๆ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on August 10, 2009, 07:24:23 PM
หวัดดีค่ะพี่จิต ฝนอยู่ Haag ค่ะใกล้ๆกับแนนค่ะฝั่งประเทศ Liechtenstein จะกลับก็ปลายเืดือนหน้าค่ะรอดูใบไม้เปลี่ยนสีก่อน  :D
ส่วนเรื่องหน้า 6 นั้นฝนเข้าใจว่าเป็นการเซ็นต์ปฏิญาณตนว่าจะไม่ไปทำอะไรที่ไม่ดีที่สวิตฯ ฝนก็เซ็นต์ส่งไปนะคะตอนยื่นวีซ่าแต่ไ่ม่รู้ว่าจริงๆแล้วถ้าไม่ยื่นมันจะมีผลหรือเปล่าต่อการพิจารณา แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเป็นสาระสำคัญมากมายนักเพราะตอนแรกฝนก็จะไม่ยื่นอยู่แล้วเนื่องจากคุณลุงเค้าก็ไม่ได้ถามหา แต่ไหนๆก็เตรียมไปก็เลยถามแกดูแกก็บอกว่ายื่นมาเลย(จำได้ว่าหนก่อนฝนก็ไม่ได้ยื่นค่ะแต่วีซ่าก็อนุมัติปกติ) แต่ถ้าจะให้ดีก็ทำให้ครบๆตามกระบวนการของทางสถานฑูตคงจะเป็นการดีที่สุด เอาใจช่วยให้ได้รับข่าวดีไวๆนะคะจะได้มาโต้ลมหนาวที่นี่ค่ะ  :D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 11, 2009, 08:17:57 AM
น้องแพท...สวัสดีจ้า ไม่ได้ทักทายกันนานเลย ตอนนี้พี่ยังไม่ได้ไปแต่บรรยากาศเหมือนอยู่ที่นั่นเลย เพราะน้องๆมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความสวยงามที่นั่น พี่ก็เลยได้ฝันไปด้วยเลย ;D แต่อย่างไงวันหน้าคงได้เห็นของจริงสักวันหนึ่ง  ???

น้องฝน...หวัดดีจ้า น้องอยู่ใกล้แนน งั้นก็เจอกันแล้วซินะ หรืออย่างไงก็ยังอุ่นใจมีคนไทยอยู่ใกล้ๆด้วย

ส่วนเรื่องเอกสารหน้า 6 ... งั้นเราก็สรุปว่าส่งกันนะ พี่ดันเขียนไว้ว่าไม่ต้องส่ง ยังไงแก้ไข ไว้นะตรงนี้เลยนะ  

***แล้วก็มาเข้าแก๊งค์ รอกับน้องๆ คนอื่นๆต่อไป ดีใจกับคนที่ได้ไปด้วยนะจ๊ะ***
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 12, 2009, 08:55:54 PM
สวัสดีค่ะพี่จิต หนูว่าพี่ต้องผ่านแน่ๆเลยค่ะ เอกสารยืนยันตั้งมากมาย ไม่ให้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วค่ะ แต่เค้าต้องเห็นใจเราบ้างสิคะ เรามีความพยายามขนาดนี้ ครั้งที่หนูยื่นเอกสารคร้งที่สอง หนูยื่นเพิ่มแค่อย่างเดียวค่ะคือจดหมายรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษาเก่าที่มหาลัยค่ะ แต่ไม่มีเอกสารทางโน้นเพิ่มเลยค่ะ (เอกสารการเสียภาษี หรือสลิปเงินเดือน ฯลฯ)ตอนนี้ก็ 44 วันแล้วค่ะ(เข้าสัปดาห์ที่ 6แล้ว)ยังไม่มีวี่แววเลยค่ะ ทางโน้นก็ร้อนรนจะเข้าไปถามที่แคนทันน่อลที่ เจนีวา อีกเพราะเค้าคิดว่าคงไม่ได้วีซ่าแล้ว  :'( แต่หนูก็เผื่อใจไว้อย่างละครึ่งค่ะ บอกเค้าว่าเนี่ยเพื่อนที่รอด้วยกันก็เพิ่งจะได้รับจดหมายนะ รออีกหน่อยสิแล้วหนูก็แอบถอนหายใจอยู่ลึกๆ หวังว่าคงจะได้รับความกระจ่างในเร็ววันนี้ :'(

ขอให้พี่จิตมีความสุขในวันแม่เยอะๆนะคะ และพี่ฝนกับพี่แพทอย่าลืมที่ยวสนุกจนลืมดูแลสุขภาพนะคะ :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ladypatth on August 12, 2009, 10:58:08 PM
น้องนาดา

ขอบคุณนะจ๊ะ ... เที่ยว บ่อย ๆ ไม่ได้ หรอกจ๊ะ 55555 เพราะแฟนทำงาน ก็ไปบ้างนิดหน่อย... ที่เหลือ เป็นแจ๋วอยู่กับบ้าน 555
ยังไง เราต้องรอด้วยความหวังต่อไปนะ ...เด๋วก้ได้ สู้ ๆ ๆทุกคนเลยนะคะ

    ปล. น้องนาดา เจนนีวา สวยมากกกก นะ ..แต่เค้าพูดอิตาลีกัน .....Caio เอาใจช่วยนะจ๊ะ สู้ ๆ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 13, 2009, 11:59:01 AM
น้องนาดาจ๊ะ...ไม่ต้องกังวลนะ เอกสารของทางแฟนเดี๋ยวทางสวิสเขาจะถามจากแฟนเองจ๊ะ แต่ที่พี่มีส่งเพราะเขาส่งมาให้แล้วพี่ก็เลยส่งไป พี่คิดว่าภายใจอาทิตย์นี้แฟนน้องต้องได้อะไรเพิ่มเติมแน่นอน น้องนาดาใจเย็นๆนะ
** ;D  ขอบคุณนะคะสำหรับคำอวยพร พี่ก็ขอให้น้องได้รับข่าวดีเร็วๆนี้นะ  ;D **
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 13, 2009, 02:48:09 PM
ขอบคุณค่ะพี่จิต นาดาขอให้ได้รับจดหมายในไม่ช้านี้ค่ะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะพี่จิต แล้วนาดาจะมาบอกความคืบหน้าเรื่อยๆค่ะ :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Fon2008 on August 13, 2009, 06:37:48 PM
หวัดดีค่ะพี่ิจิต ค่ะฝนอยู่ใกล้กับแนนแล้วก็เจอกันแล้วค่ะ ปั่นจักรยานหากันได้เลยค่ะอยู่ไม่ไกลกัน วันอังคารที่ผ่านมาก็ทำส้มตำกินกัน
(ส้มตำประยุกต์แบบไม่ได้ใช้มะละกอตำ  ;D)) ส่งกำลังใจช่วยพี่จิตลุ้นเรื่องให้ได้วีซ่าเช่นเคยนะคะ

้น้องนาดา พี่ฝนไม่ค่อยได้เที่ยวสักเท่าไหร่หรอกจ้ะ่ส่วนใหญ่อยู่บ้านมากกว่า ตอนนี้ก็พยายามจริงจังด้านภาษาหนักขึ้น แทงกิ้วนะจ๊ะจะรักษา
สุขภาพให้ดีเลยจ้ะ น้องนาดาเองก็เช่นกันนะอย่ากังวลให้มากจนเกินไปล่ะรักษาสุขภาพด้วย เมื่อถึงเวลาเราก็จะรู้ทุกอย่างเองจ้ะแต่ห้าม
หมดหวังเป็นอันขาดนะจ๊ะเราต้องสร้างความหวังให้กับชีวิตเราอยู่เสมอ   ;) พี่ฝนส่งกำลังให้น้องนาดาเรื่องได้วีซ่าไวๆเสมอจ้ะ

แพท ฝนไม่ได้หรอกนะปลาร้ามันแพงเกินแต่ครกน่ะได้แล้ว :D แพทไม่ต้องห่วงแล้วว่ามานี่แล้วฝนกะแนนจะแกล้งเอาปลาร้าใส่ส้มตำให้กินอ่ะหายห่วงได้จ้าา  ;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 19, 2009, 01:54:48 AM
พี่จิตเป็นไงบ้างคะ สบายดีมั้ยคะ คงยุ่งอยู่แน่เลย :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on August 19, 2009, 03:33:41 PM
sawasdee ka Pi Jit,
How are you? I am fine. I met Fon yesterday. We ride a bicycle
to Austria, Feldkirch. It takes time 2 hours we are tired but
we have fun. It sounds funny? we ride a bicycle to Austria ;D
We live near a border ka so not far. I wish you join with us..hehe and wish you get a visa soon ka. Good luck
Nan
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Penguin on August 19, 2009, 08:13:42 PM
สวัสดีค่ะ พี่จิต

เป็นไงบ้างค่ะ ผ่านไปกี่วีคแล้วค่ะ มาทักทายและให้กำลังใจคนแก็งเดียวกัน

ช่วงนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

พี่แนน อย่ามัวแต่เที่ยวจนเพลินล่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ เมื่อไหร่น้าจะได้ไปทานข้าวที่บ้านพี่แนน
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on August 27, 2009, 09:27:36 AM
สวัสดีค่ะน้องๆทุกคน ขอโทษที่ไม่ได้เข้ามาดูหลายวัน พอดีไปต่างจังหวัดมาน่ะจ๊ะ ของพี่ก็อาทิตย์ที่ 3 กำลังจะผ่านไปแล้วจ๊ะ แต่ยังไม่ได้มีอะไรติดต่อไปทางแฟนพี่เลยจ๊ะ

น้องแนน...ดีนะจ๊ะ มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆด้วย พี่หวังว่าคงจะได้ไปปั่นจักรยานเที่ยวกับน้องซักวันนึงนะ พี่สบายดีจ๊ะ

น้อง Penguin...เป็นอย่างไงบ้างจ๊ะกับผลของวีซ่าน่ะ  ;D

น้องนาดา...พี่หวังว่าน้องคงได้รับข่าวดีแล้วนะ  ;)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nadaa on August 27, 2009, 11:30:26 PM
ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยค่ะ ทางโน้นยังไม่ได้รับจดหมายเลย อาทิตย์หน้านี้ก็ครบสองเดือนแล้วค่ะ
พี่จิตสบายดีใช่มั้ยคะ หนูไม่อยากที่จะหวังเลยค่ะ ห่อเหี่ยวมากนึกถึงทีไรใจหายทุกครั้ง
หนูหวังว่าคงจะได้รับคำตอบในไม่ช้านี้
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: rattimichael on October 28, 2009, 08:24:34 PM
อ่านไปด้วย ลุ้นไปด้วย เรื่องราวสนุกดีค่ะ
ได้วีซ่าเมื่อไหร่ ฉลองให้แซ่บไปเลยนะคะ 
;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on January 25, 2010, 09:01:22 AM
หลังจากรอคอยกันมายาวนาน ก็ได้ข้อสรุปว่า วีซ่าไม่ผ่าน  ค่ะ

หลังจากรออยู่ 2 เดือนก็ไม่มีจดหมายหรืออะไรถึงแฟนเราที่สวิส เลย แต่เราก็คุยกันว่า ให้เวลาเขาอีกหน่อยนะ ไม่ต้องโทรไปถามเขาหลอก ก็เลยรอมาจนถึง 4 เดือน มันชักนานเกินไปก็เลยไปที่สถานทูตสวิสอีกทีถามว่าทำไมนานจังเลย
"คุณคะยื่นวีซ่าอุธรณ์ไปตั้งนานแล้วทำไมยังไม่มีคำตอบ หรือจดหมายถึงแฟนที่สวิสเลยคะ"
"เอาพลาสปอร์ตมาหรือเปล่า"
"ค่ะ"
ยื่นพลาสปอร์ตให้ไปแล้วเขาก็เช็คบนจอคอมพิวเตอร์
"เรื่องส่งไปที่สวิส แล้วนะคะ ให้แฟนไปติดต่อได้เลย"
"แต่ปกติต้องส่งจดหมายมาไม่ใช่หรอ"
"บางทีเอกสารมันเยอะก็อาจจะมีตกหล่นบ้างน่ะ"
"แต่นี่มัน 4 เดือนแล้วนะคะ ทำไมมันช้าจังเลย"
"ไม่ช้าหรอก บางคนเป็นปียังมีเลย"
คิดในใจว่า "จริงหรอเนี่ย"

เสร็จธุระก็กลับแล้วก็เลยคุยกับแฟนให้ไปติดต่อที่สถานีตำรวจที่ bern แล้วแฟนก็โทรไปถามผลสรุปว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาบอกว่าให้รอประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ได้รับจดหมายว่า ปฏิเสธ การขอวีซ่า ด้วยเหตุผลเดิม "กลัวเราจะไม่กลับมาเมืองไทย เพราะไม่มีภาระผูกพันที่เมืองไทย" และถ้าทางแฟนไม่พอใจการปฏิเสธนี้ให้เขียนจดหมายโต้กลับไป

ทีนี้ก็มานั่งคิดว่า เอะ! เขาได้รับเอกสารที่เรายื่นเพิ่มเติมไปหรือเปล่า เพราะเราก็มีภาระผูกพันตั้งเยอะ แฟนก็เลยเขียนจดหมายยาวเหยียดส่งกลับไปอีกที และก็รอคำตอบอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ คำตอบที่ได้ก็คือ วีซ่าไม่ผ่านเหมือนเดิมเหตุผลคือ เราไม่มีงานทำ นั่นเอง

จบข่าว! สำหรับการรอคอยอันยาวนาน เฮ้อ!เลยอดไปเที่ยวเลยเรา ทำไมมันยากเย็นขนาดนี้นะ

...สงสัยต้องลงมือทำธุรกิจ 100 ล้านของเราซะแล้วถึงจะผ่านซะที ฮิฮิ(ล้อเล่นนะคะ) ก็ไม่อยากซีเรียสน่ะ ;D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: aum on January 26, 2010, 04:11:44 AM
สวัสดีค่ะ คุณ jitjit
      อุ้มอ่านแล้ว รู้สึกว่าว๊าววๆๆๆ ทำไมนานจัง แล้วแถมวีซ๋ายังไม่ผ่านอีก รอมาตั้งสี่เดือน :oเนี่ยอุ้มยังเข้าใจคุณ jitjit มาเที่ยวสวิสจนกลับไปแล้วซะอีกนะคะเนี่ย ทำไมการขอวีซ่าตอนนี้มันถึงได้ยากจังคะ แต่เท่าที่อุ้มรู้มายังไม่มีคนผ่านซักคนเลยค่ะ แต่ดีแล้วค่ะที่คุณ jotjit ไม่เครียด ยังไงลองใหม่อีกครั้ง เผื่อเอกสารมันจะตกหล่นจริงๆ โชคดีนะคะ :)
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on January 26, 2010, 11:59:59 AM
เสียใจด้วยนะคะพี่จิต  เอ..ช่วงหลังๆนี้ สวิตให้วีซ่ายากจังนะคะ เมื่อก่อนคนที่ขอพร้อมแนน
ไม่มีงานทำบ้าง เป็นนักศึกษาบ้าง ยังได้วีซ่าเลย เห็นน้องเขาบอกว่าแฟนต้องเอาเงินใน Bank
ไป garantee ไว้เพราะเขากลัว น้องไปแล้วไม่กลับค่ะ จริงๆ แฟนพี่ต้องเข้าไปคุยกับเขา
และปรึกษาเขาว่า ต้องทำอย่างไร ถ้าอยากให้แฟนมาจริง เขาน่าจะมีข้อเสนอให้นะคะ
แต่ก็แล้วแต่เมือง แต่เขตอีกมั้งคะ ไม่เป็นไรคะ ลองใหม่ สู้ๆ นะคะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on February 27, 2010, 10:59:53 AM
Quote from: JitJit on July 16, 2009, 01:25:13 AM
  ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเว็บป้าพอลมากๆเลยค่ะที่ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนได้มาเล่าประสบการณ์การขอวีซ่าให้ฟังนะคะ มีประโยชน์และได้ข้อมูลมากมายเลยจริงๆ จึงอยากขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้าง เพื่อทดแทนที่หาข้อมูลที่นี่มาตลอด อาจจะมีประโยชน์บ้างเล็กน้อยก็ยังดีนะคะ                    
           ;D เริ่มต้นด้วยแฟนอยากให้ไปเที่ยวดูประเทศเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากรู้จักกันมาได้ 4 ปี เราก็ไม่คิดว่าจะไปเที่ยวดูประเทศของเขาหลอกเพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ รอเขาขึ้นมาเที่ยวหาเราดีกว่า  แต่ก็ปีละ 1 ครั้งเอง และตอนนี้แฟนก็บอกว่ามันน้อยเกินไปนะปีละ 1 ครั้งน่ะ เอางี้ไหมให้เราบินไปหา 1 ครั้ง และ เขาบินมาเมืองไทย 1 ครั้ง ดังนั้นปีนึงเราก็จะได้เจอกัน ปีละ 2 ครั้ง ก็เป็นอันโอเคตามนั้น
* เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ การขอวีซ่า ก็โชคดีได้เจอเว็บป้าพอล และก็มีน้องๆพี่ๆ มาแชร์ประสบการณ์ ขอขอบคุณทุกๆคนด้วยนะคะโดยเฉพาะน้องแนนจ้า
* อันนี้แฟนแนะนำให้อ่าน
       รายละเอียดเกี่ยวกับการขอ วีซ่า visitor จากสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์  เป็นภาษาไทย
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0307.File.tmp/visitor_th.pdf
      เพราะแฟนอ่านอันนี้ ตอนแรกแฟนจะให้แค่จดหมายเชิญ กับจะซื้อประกันการเดินทางให้จากที่สวิสเลยแต่เราบอกว่าไม่ต้องหลอกซื้อจากเมืองไทยง่ายกว่า และถ้าไม่ผ่านอย่างไงก็คืนเงินได้
........และเราก็เลยบอกไปอีกว่า เห็นน้องๆ เขาบอกว่าต้องมี
- พาสปอร์ตผู้เชิญหน้าที่มีรูปผู้เชิญ และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออก เมืองไทยด้วย 
- หลักฐานการเช่าหรือ การเป็นเจ้าของบ้าน
- ต้องโชว์บัญชีเงินฝากด้วย
- หลักฐานของการทำงานหรือถ้ามีบริษัทก็ต้องเอาด้วย
.....แต่แฟนให้มาแค่.....
1...จดหมายเชิญ
2...พลาสปอร์ตหน้าที่มีรูปแฟน และหน้าพลาสปอร์ตที่เข้า-ออกเมืองไทย
3...หลักฐานที่อยู่อาศัยของแฟน
       
       ??? แค่ 3 อย่างเท่านั้นเองเราก็แอบกังวลนะว่า ทำไมไม่โชว์เรื่องงาน เรื่องเงิน ด้วยเพื่อสถานทูตจะได้เห็นไปเลยว่า สามารถดูแลเราได้และก็มีงานแน่นอน แต่ก็พูดไปแค่ครั้งเดียวไม่ได้ตอกย้ำอะไรอีก :'(
   
******เมื่อเอกสารฝ่ายชายเรียบร้อยก็คิดว่าน่าจะโทรไปนัดสถานทูตได้แล้ว เพราะเอกสารของเราไม่ยุ่งยากและไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากไหน  ผู้ยื่นขอวีซ่าทุกคนต้องโทรนัดทางโทรศัพท์เพื่อขอยื่นวีซ่า ที่หมายเลข 1900-222-340 (นาทีละ 9 บาท และโทรได้เฉพาะภายในประเทศ)*********   
       

    ต่อมาก็มาดูเอกสารของตัวเราหละทีนี้ก็แอบคิดว่า ต้องเยอะกว่าฝ่ายชายแน่ๆเลย และอีกอย่างแอบกังวลด้วยเพราะว่าตัวเองไม่ได้ทำงาน มา 2 ปีแล้ว เพราะแฟนอยากให้มีเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เวลาเขามาเที่ยว และเราก็คิดว่าจะหาอะไรทำซักอย่างที่เป็นธุรกิจส่วนตัวของเราเอง แต่เศรษฐกิจอย่างนี้นะ อย่าดีกว่า เก็บเงินไว้ จะได้ไม่เจ็บตัว แต่แฟนก็ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนนะ เราก็เลยเตรียมเอกสารอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยจากคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เท่าไหร่

1...บัญชีธนาคารที่โชว์ว่าแฟนส่งเงินมาให้ประมาณ 6 เดือน และหน้าบัญชีธนาคาร
2...ใบผ่านงานจากบริษัทเก่าที่ทำงานมา 14 ปี แนบใบเสียภาษีปีสุดท้าย และใบเงินสะสมจากที่บริษัทตัดเงินเดือนเก็บไว้
3...อีเมล์ที่เราติดต่อกันปริ้นท์ปีละ 2 ใบ และพอดีมีอีเมล์รูปที่แฟนส่งรูปครอบครัวมาให้ดูก็เลยปริ้นไปด้วย
4...มีใบปริ้นท์ตั๋วเครื่องบินที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันที่เชียงใหม่ปี 2008 ด้วย ก็เลยเอาแนบไปด้วยกับรูปถ่ายคู่ 2 ใบ
5...พลาสปอร์ตตัวจริง พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
6...บัตรประชาชน พร้อมถ่ายเอกสารเซ็นต์รับรองสำเนา 1 ใบ
7...สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
8...สำเนาใบประกันอุบัติเหตุ *****ข้อควรระวัง : ประกันที่ซื้อมาจะต้องเรียกเงินคืนได้ ในกรณีที่ไม่ได้รับวีซ่า
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0291.File.tmp/Travel-Health%20Insurance%20Co's%20in%20THA.pdf

9...ใบจองตั๋วเครื่องบิน  *****ข้อควรระวัง ห้ามซื้อตั๋วเดินทางก่อนจะได้รับวีซ่าสถานเอกอัครราชฑูตฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ได้ หากเกิดการล่าช้าหรือวีซ่าได้รับการปฎิเสธ
***ที่นี้น้องแนนแนะนำ และเราก็ได้ไปจองตั๋วบินที่นี่ด้วย ขอการันตีด้วยอีกคนจ๊ะว่าน้องเขาคุยง่ายและเข้าใจดีจ๊ะhttp://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,3033.0.html 

10...รูปถ่าย 2 นิ้วพื้นหลังขาว 2 ใบ ใบนึงติดที่ใบคำร้องขอวีซ่า อีกใบแนบไปด้วยแล้วเดี๋ยวพี่ที่เขาตรวจเอกสารจะแยกไปติดกับพลาสปอร์ตให้เรา

11...ใบคำร้องขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่าย
http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0284.File.tmp/Visumantrag%20Schengen%20e_d_f%20online_fill_in.pdf
      และบอกตรงๆ ว่าปวดหัวมากเพราะเป็นภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการมาก จนแปลไม่ออก เลยนอนดูอยู่เฉยๆ สัก 1 อาทิตย์ จะทำไงดีเนี่ยจะถามแฟนก็แหม แค่นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรอ และก็ให้บังเอิญถามน้องแนนน้องเขาก็เลยแนะนำเว็บที่แปลภาษาไทยมาให้โชคดีอีกแล้ว เลยหายปวดหัวเลย  ถ้าช่องที่ไม่มีอะไรตอบให้ใส่ NONE ค่ะ
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp01.jpg  หน้า 1
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp02.jpg  หน้า 2
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp03.jpg  หน้า 3
http://www.plan4swiss.com/images/visaapp04.jpg  หน้า 4
หน้าที่ 5 ก็ กรอกที่ ชื่อที่อยู่ของแฟน 
หน้าที่ 6 ไม่ต้องส่งจ๊ะ

12...เตรียมเงิน 2800 บาท ให้พอดีนะ เพราะไม่มีทอนให้จ๊ะ
     
     ตรงนี้ขอเล่าความไม่รู้ (โง่นั่นเอง :o) ให้ฟังนะ คิดว่า เอกสารทุกอย่างที่เราเตรียมไปยื่นที่สถานทูตนั้นจะต้องแปล เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ทั้งๆที่ก็อ่านที่น้องๆเขาแนะนำการเตรียมเอกสารนะ.. เขาก็ไม่ได้พูดว่าต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย แล้วเราไปเอามาจากไหนเนี่ยก็ งง ตัวเองเหมือนกัน)ก็ไปถามราคาเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่าแปลหน้าละ 300 บาท เราก็ว่ามันถูกดีนะ แต่ทำไมดูในเว็บป้าพอลเขาบอกว่าประมาณ 900-1200 บาท ก็เลย เอ๊ะ!! มันแปลกๆนะหรือเราต้องไปเสียค่าอะไรอีกหรือเปล่า เลยโพสต์กระทู้ถามบนเว็บป้าพอลว่าแปลเอกสารแผ่นละเท่าไหร่กันหรอ ปรากฎว่า ขอวีซ่าเยี่ยมเยียนเนี่ยไม่ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอื่นเลย ใช้ภาษาไทยนั่นแหละ โชคดีเป็นที่สุด ไม่ต้องเสียเงิน เฮ้อ!! เกือบไปแล้วเรา




          *****เมื่อถึงวันนัดก็จัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และอย่าลืมรหัสที่ สถานทูตให้ไว้นะคะ เพื่อเวลาถึงที่เขาตรวจเอกสารเขาจะได้เช็คได้ง่ายๆ  ว่าเราโทรมานัดแล้ว ไปยื่นมาเมื่อวันที่ 9 กค. 09 ค่ะ*****     

- พอถึงสถานทูตยามหน้าประตูจะขอบัตรประชาชนจากเราเพื่อแลกกับบัตรผ่านเข้าไปในสถานทูต

- เดินเข้าไปก็จะเจอพี่ที่เขารอตรวจเอกสารเราอยู่ เราก็ให้รหัสเขาไป แล้วเขาก็จะเช็คว่ามีรหัสนั้น แล้วหลังจากนั้นก็จะเช็คเอกสารเรา ถ้าไม่มีปัญหาก็เรียกเงิน 2800 บาท เพื่อเอาไปเสียบไว้กับกองเอกสารของเรา แล้วให้เราเข้าไปยื่นให้ช่อง 3

- เราก็เอาเอกสารไปวางไว้ที่ช่อง 3 แล้วก็ออกมานั่งรอ แล้วเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มารับเอกสารไปเช็คอะไร ต่อมิอะไรอีกก็ไม่รู้  ทีนี้ก็นั่งรอๆๆๆ รออยู่ประมาณ 2 ชม. เพราะไปเร็วกว่าเวลานัด 1 ชม. เพื่อความแน่นอนเกี่ยวกับเอกสารว่าไม่มีปัญหาอะไร ระหว่างรอก็แอบตื่นเต้นอยู่มากๆเลย ว่าเขาจะสัมภาษณ์อะไรเราบ้างนะ

- เวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปสัมภาษณ์
**** อายุเท่าไร 
**** ไปทำอะไร
**** เคยไปมาก่อนไหม
**** เจอกันครั้งแรกที่ไหน 
**** เขามาเมืองไทยบ่อยไหม
**** รูจักแฟนมานานหรือยัง
**** เคยไปยุโรปไหม
**** อาชีพอะไร.....ไม่มีงานค่ะ 
**** ใครดูแลล่ะ ...แฟนส่งเงินให้ค่ะ
**** แฟนทำงานอะไร
**** เคยแต่งงานไหม
**** มีลูกหรือเปล่า
**** แล้วเราล่ะมีลูกหรือเปล่า
**** เคยแต่งงานหรือเปล่า
**** ชือแฟนสะกดอย่างไร...ขอบอกตอนแรกสะกดผิดไป 1 ตัว  ;D ตื่นเต้นมากมาย
******//////เอาหละซิเจอคำตอบที่ไม่รู้เยอะเลย**//////  
-พ่อแฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ไม่รู้
-แม่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว ยิ้ม
-พี่แฟนชื่ออะไร...ส่ายหัว โอ้ยตายแล้วเรา
-น้องแฟนชื่ออะไร.........ไม่รู้เลยยยยยยยยยย
-รู้จักเพื่อนแฟนบ้างหรือเปล่า....ไม่รู้ค่ะ เพราะเขามาคนเดียวตลอด 
-ถนนที่แฟนอยู่ชื่ออะไร.....ไม่รู้ค่ะ แหะ ๆ
-เมืองที่ไปชื่ออะไร....CONTHEY ค่ะ
-เจอแฟนครั้งที่ 2 เเดือนอะไร....จำไม่ได้
-ครั้งที่ 3ล่ะ...จำไม่ได้
-ครั้งที่ 4 .... ใช่เลยจำได้เพราะปีนี้เอง 
-พูดภาษาอังกฤษได้ไหม..ค่ะ  งั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าเมื่อวานไปทำอะไรมา.....พูดไปได้ประมาณ 2 ประโยค  
จบข่าว....ก็บอกว่า ให้มาฟังผลวันที่ ระบุไว้ในใบกระดาษเล็ก ที่เจ้าหน้าที่ยื่นให้มาก็ได้ฟังผลวันที่ 15 กค.52
     ******ถามได้เร็วมาก บอกตรงๆ ประหม่ามากมาย  ไอ้ที่น่าจะตอบได้ก็ลืมไปเลย ******
แต่เจ้าหน้าที่ก็โอเคนะ เป็นผู้ชาย ถึงจะถามเร็ว แต่ก็ยังสุภาพอยู่ และดูแล้วเจ้าหน้าที่ก็งานเยอะทุกคนเลย เห็นแล้วก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ค่ะ




     
     และถึงวันฟังผล ก็เอาไปกระดาษเล็กๆ ที่เจ้าหน้าที่ให้ไว้ ไปยื่นให้ยามหน้าประตู  ยามก็เลือกซองมาให้แล้วเขาบอกว่าเปิดดูก่อนแล้วเช็คด้านในดูว่าใช่ของเราหรือเปล่า เมื่อเช็คเรียบร้อยก็มาดูที่ หน้าซองเขียนว่า ให้ส่งเอกสารที่อยู่ในซองนี้ไปให้เจ้าบ้านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ดำเนินการ เจ้าบ้านจะเป็นผู้ติดต่อกับตำรวจที่ประเทศสวิส เอง หลังจากส่งเอกสารไป 1 เดือน ให้นำหนังสือเดินทางพร้อมใบจองเที่ยวบิน  มาตรวจสอบผลกับสถานทูตฯ
*******ตอนนี้ก็ส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วรอประมาณ 3 อาทิตย์ค่อยเช็คอีกที*******

         
****เมื่อถึงวันนั้นจะ มาเขียนให้อ่านอีกนะคะ ว่าผลจะเป็นอย่างไรบ้าง  หวังว่าคงจะทนอ่านกันได้นะคะและหวังว่าคงจะช่วยให้น้องๆ  เพื่อนๆ พี่ๆ ที่จะทำเรื่องขอวีซ่า VISITOR คงจะได้ประโยชน์บ้างนะคะ เพราะอาจจะแตกต่างจากที่น้องๆพี่ๆ ที่แชร์ประสบการณ์ การขอวีซ่าแบบเดียวกันนี้ไม่มากนัก แต่ก็หวังว่าคงจะมีสักนิดที่สามารถช่วยอะไรใครได้บ้าง ไม่มากก็น้อย****
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on February 27, 2010, 11:27:55 AM


   
อ้างถึง Re: การขอวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ประเภทเยี่ยมเยือน visitor
« ตอบ #5 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:17:15 PM »

--------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ
ตู่เป็นสมาชิกใหม่และกำลังเตรียมเอกสารจะขอ visa แบบเยี่ยมเยือนค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์เหมือนคุณ jit jit เลยในส่วนส่วนเอกสารของแฟน ส่งมาให้แค่นี้เหมือนกัน คือ แฟนส่งมาแค่ จม.เชิญ เอกสารการเช่า apartment และ passport ก็กังวลมากแต่พออ่านกระทู้นี้แล้วก็สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้วจะส่งข่าวบอกนะค่ะว่าผลเป็นอย่างไร

วันอังคารที่ 2 มี.ค.53 จะโทรไปนัดกับทงสถานฑูตแต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ นานไหมค่ะ เพราะทำการจอง ticket และซื้อประกันไว้ออกเดินทาง 25 เม.ย.53 กลับ 16 พ.ค. 53ค่ะ จะทันกับขั้นตอนของการขอ visa ไหมค่ะนี้ 

ตู่
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on February 27, 2010, 11:33:48 AM
สวัสดีค่ะงค.
ตู่เป็นสมาชิกใหม่และกำลังเตรียมเอกสารจะขอ visa แบบเยี่ยมเยือนค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์เหมือนคุณ jit jit เลยในส่วนส่วนเอกสารของแฟน ส่งมาให้แค่นี้เหมือนกัน คือ แฟนส่งมาแค่ จม.เชิญ เอกสารการเช่า apartment และ passport ก็กังวลมากแต่พออ่านกระทู้นี้แล้วก็สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้วจะส่งข่าวบอกนะค่ะว่าผลเป็นอย่างไร

วันอังคารที่ 2 มี.ค.53 จะโทรไปนัดกับทงสถานฑูตแต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ นานไหมค่ะ เพราะทำการจอง ticket และซื้อประกันไว้ออกเดินทาง 25 เม.ย.53 กลับ 16 พ.ค. 53ค่ะ จะทันกับขั้นตอนของการขอ visa ไหมค่ะนี้ 

ตู่
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Rin07 on February 27, 2010, 07:08:22 PM
สวัสดีค่ะ คุณตู่ รินเพิ่งไปขอวีซ่ามาค่ะ รับผลเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เองค่ะ เลยเข้ามาเป็นกำลังใจให้ คุณตู่เตรียมเอกสารไปให้พร้อมเลยนะคะ จะได้ไม่เหนี่อยวิ่งไปวิ่งมา รินยื่นวันที่ 23 ก.พ. ค่ะ วันที่ไปยื่นคนก็เยอะนะคะ บางคนเอกสารไม่ครบต้องวิ่งไปวิ่งมา แต่รินเตรียมเอกสารพร้อมค่ะ เลยไม่ได้วิ่ง(อิอิอิอิ)อ่อ ลืมบอกไปว่า รินได้รับซองเอกสารให้ส่งไปให้เจ้าบ้านที่สวิสแล้วค่ะ หวังว่าคุณตู่คงจะโชคดีเช่นกันนะคะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on February 27, 2010, 08:34:19 PM
ขอบคุณค่ะคุณริน
ไม่ทราบว่าหลังจากโทรนัดทาง tel กับ embassy แล้ว กี่วันถึงได้คิวค่ะ
ตู่
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Rin07 on February 27, 2010, 08:44:10 PM
สวัสดีค่ะ คุณตู่โทรไปได้เลยช่วงนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ รินเลือกวันยื่นเองค่ะ โทรเมื่อวันศุกร์ 20 ก.พ.แล้วรินเลือกวันอังคาร 23 ก.พ.แล้วทราบผลวันศุกร์ 26 ก.พ.ค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on March 03, 2010, 09:46:12 PM
สวัสดีค่ะทุกๆ คน

วันนี้ (3 มี.ค. 53) ตู่ไปเยื่อนเอกสารมาแล้วค่ะ...รอรับผลวันจันทร์...เครียดจังเลย...ไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า

ตู่

Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on March 08, 2010, 04:20:20 PM
สวัสดีค่ะ

วันนี้ตู่มารายงานผลการขอ visa ค่ะ...ตู่ได้รับ จม. ให้ส่งไปให้เจ้าบ้านค่ะ ;D

ตู่
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: ปุ๋ม on March 08, 2010, 08:40:01 PM
ดีใจด้วยนะคะคุณตู่ ปุ๋มเองก็จะต้องไปยื่นวีซ่าเยี่ยมเยื่อนในวันพรุ่งนี้เหมือนกันคะ(9 มี.ค.53)แต่เรายื่นแบบรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองนะคะขอถามคุณตู่หรือผู้รู้หน่อยนะคะว่า คนที่เชิญเราเขาเช่าบ้านอยู่เหมือนกัน ที่นี้ถ้าวีซ่าผ่านจะต้องให้เจ้าบ้านเซ็นเหมื่อนเคสคุณตู่หรื่อไม่คะ ถ้าให้เซ็นละก็ ขั้นตอนต้องทำอย่างไรถ้าเอกสารไปถึงเจ้าบ้านแล้ว
ขอบคุณมากนะคะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: JitJit on March 09, 2010, 01:04:22 AM
ดีใจด้วยนะคะน้องตู่  :D ... สำหรับน้องปุ๋ม รอคนที่รู้มาตอบคำถามนะคะ และขอให้น้องโชคดีค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: toosonglho on March 09, 2010, 05:14:51 AM
ขอบคุณค่ะพี่จิต :D
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Tangmo on June 02, 2010, 10:56:39 PM
สวัสดีค่ะ พี่จิต และพี่ๆ ทุกคน
  โมอ่าน เรื่องของพี่จิตแล้วนับถือจริงๆ น่ารักมากๆ ที่ต่อสู้ ไม่เป็นไรนะคะโมเป็นกำลังใจให้ แล้วถ้าไม่ผ่านอย่างนี้ถ้าเราไปขอวีซ่าที่อยู่ในกลุ่งเซงเก้นแล้วค่อยเข้าสวิสเซอร์แลนด์ ทีหลังไม่ได้หรอค่ะ
คือตอนนี้โมไปยื่นเรื่อง ขอวี่ซ่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย53 และจะไปรับวีซ่า วันที่ 4 นี้และค่ะ ค่อนข้างที่จะกังวล มากมายกลัวไม่ผ่าน แต่แฟนบอกโมว่า"ผ่านแน่นอนที่รัก"ให้กำลังใจกันสุดฤทธิ์ เอกสารครบหมดค่ะ นะ เพราะก็ไม่รู้จะเอาอาไรมายื่นอีกและ โมดูดวง เช็คดวงทุกที่เลย เค้าบอกว่าผ่านแน่นอน เล่นไสยศาสย์ 555 เอาพาสปอร์ตไปเจิม เยอะแยะมากมาย 
   แฟนโมบอกว่า ทางสถานฑูตเค้าสามารถเช็ค ประวัติของคนที่อยู่หรือทำงานอยู่ในสวิตได้ เกี่ยวกับการเสียภาษี การทำงาน ที่พัก ทางอินเตอร์เน็ตได้เนี่ยจิงป่ะคะ คือแฟนโมทำงานอยู่ สวิต อินเตอร์เนชั่นแนล แอราย มีสัญญาการทำงาน 5 ปีค่ะ โมไปอยู่สวิต 3 วันจากนั้นต้อง บินไปอิตาลี่ต่อหน่ะคะ และไปต่อเดนมาร์ก ซึ่งจดหมายเชิญโมระบุหมด ไฟร์เที่ยวบิน และก็ตั๋วเครื่องบิน ยื่นพร้อมไปเลยหน่ะคะ 
    โมเจอคำถาม
- ทำงานอะไร   =เป็น Marketing ให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ (โมมีเอกสารของเจ้านายด้วยนะคะ ทะเบียนการค้า,ใบสรรพกร,บัตรประชาชน,ใบรับรองการทำงานและการลางาน)
-แฟนชื่ออะไร,ทำงาน,พี่น้องแฟนมีกี่คน ชื่อ,เจอครั้งแรก,ครั้งสุดท้าย
- นิดนึงค่ะ โมตอบไปว่าเจอกันครั้งแรกที่ร้านโมที่ทำงาน แฟนเอาคอมไปซ่อม เจ้าหน้าที่สวนเลย แฟนคุณเป็นวิศวกร ทำไมเค้าต้องเอาคอมไปซ่อมกับคุณ ซ่อมเครื่องบิน กับ โปรแกรมอ๊อฟฟิตไม่เหมือนกันนะคะ (อยากตอบ)แล้วคนไปเที่ยวใครจะบ้าเอาแผ่นโปรแกรมติดกระเป๋าไปเที่ยวด้วย
555 เหมือนเค้าจะสงสัยนิดนึง เค้าก็บอกว่าแปลกจิงๆ แต่จิงๆ มันก็แปลกหน่ะคะ คงเป็นเพราะพรหมลิขิตมั้ง รึเค้ามาจีบโมก็ไม่รู้ ฟอร์มหน่ะคะ
และเค้าก็ไม่ถามอะไรเลยค่ะ บอกให้ฟังผลตามใบนัด แค่นี้เอง(อยากให้ถามเยอะๆจะได้แน่ใจหน่ะ)
เอาหล่ะคะ แล้วถ้ายังไงวันที่ไปรับวีซ่า จะมาเล่าให้ฟัง นะคะ 
พี่จิตค่ะ สู้ๆ นะคะ
แตงโม ;D
-
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Tangmo on June 05, 2010, 07:55:40 PM
หวัดดีค่ะ มารายงานตัว
แตงโมค่ะ
หลังจากฟังผลแล้ว ยังไม่ผ่านค่ะ เค้าให้ส่งจดหมายไปให้แฟนติดต่อกับสถานฑูตและตำรวจสวิตรับทราบ และเซ็นเอกสารเกี่ยวกับการรับผิดชอบเกี่ยวกับตัวเราหากมีอะไรผิดพลาด แต่แฟนโมรับจดหมายแล้วบอกว่าได้แน่นอน ตอนนี้แฟนเครียดยิ่งกว่าโมอีก
รออีกเดือน มั้งค่ะ
วันนี้เล่าแค่นี้ก่อนนะ
จุ๊ฟๆ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: หญิงม้อย on June 16, 2010, 03:08:22 AM
หวัดดีเจ้าของกระทู้และหวัดดีทุกๆคนที่เข้ามาชมในห้องนี้ด้วยค่ะ

    เพิ่งจะเป็นสมาชิกใหม่ของเวปคุณป้าพอลนี้ กำลังเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมเอกสารจะไปเยื่นเรื่องขอวีซ่าค่ะ ทำวีซ่าเยี่ยมเยือน หรือ VISITOR แฟนอาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะตอนนี้ เราไม่
ได้แต่งงานกัน และมีแพลนว่าจะไปเยี่ยมแม่แฟนพร้อมกับเค้าในเดือนสิงหาคมนี้ เรามีธุรกิจเล็กๆร่วมกันที่ภูเก็ตค่ะ โดยขอเวิร์คเพอร์มิทให้กับแฟนด้วย เรื่องขอวีซ่า แฟนบอกว่าจะให้แม่เค้าเป็นคนเชิญค่ะ โดยเค้าจะช่วยอีกแรงค่ะ กันเหนียว ตอนนี้เค้าก็อยู่ด้วยกันที่นี่ จึงอยากจะถามผู้รู้ในเรื่องการยื่นเอกสารขอวีซ่าค่ะ

- เอกสารในเรื่องการขอวีซ่าแบบเยี่ยมเยือน VISITOR เอกสารจากฝ่ายเรา จำเป็นจะต้องไปแปลเอกสารหรือเปล่าคะ หรือว่าใช้เอกสารภาษาไทยเลย พอดีอ่านๆเจอในหลายๆกระทู้ บ้างก็ว่า
ไม่ต้องแปล บ้างก็ว่าต้องแปลแล้วเอาไปทำเรื่องยืนยันกับกรมการกงศุลก่อน จึงอยากทราบข้อเท็จจริงน่ะค่ะ ว่าต้องทำอย่างไร ต้องขออภัย เป็นมือใหม่ในเรื่องการจะขอวีซ่าน่ะค่ะ  กรุณาช่วยตอบให้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

/ หญิงม้อย ณ ภูเก็ต
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: tanatporn on June 17, 2010, 03:55:18 PM
สวัสดีค่ะ หญิงม้อย เจ้าของกระทู้ และสมาชิกทุกๆท่าน
แอบเข้ามาตอบจ้า :Dปิ๋วเองอยู่ภูเก็ต เหมื่อนกันจ้า เอกสารที่ใช้ในการยื่น เรื่องขอวีซ่า
พาสปอร์ตตัวจริง และสำาเนา
ใบจองตั๋วเครื่องบินระบุจำนวนวันไปและกลับ(อย่าพึ่งซื้อนะค่ะเอาแค่ใบจองอย่างเดียว)
ใบประกันอุบัติเหุตการเดินทาง(ก่อนซื้อต้องถามก่อนนะค่ะว่าคืนได้ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน)
หนังสือเชิญ จากเจ้าบ้าน
รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว และต้องเห็นใบหน้าประมาณ80 เปอร์เซ็นอะ ???(2ใบจ้า)
ใบกรองแบบฟอร์ม มีในสถานฑูตจ้า
เอกสารทั้งหมด ไม่ต้องแปลนะคะ่ แต่ในกรณีของหญิงม้อย ฝ่ายชายทำงานอยู่ในประเทศไทย อาจมีเอกสารอย่างอื่นอีก ปิ๋วไม่แ่นใจ ::)
ไงรอผู้รู้ ท่านอื่นเข้ามาตอบนะคะ :D

Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: หญิงม้อย on June 18, 2010, 01:50:36 AM

ขอบคุณหญิงปิ๋วมากเลยนะคะที่เข้ามาให้คำตอบ และต้องขอบคุณเจ้าของกะทู้ที่มีกะทู้นี้เอาไว้
ให้เราคอยปรึกษาหรือขอคำแนะนำดีๆมาเล่าสู่กันฟัง

** อยากจะถามหญิงปิ๋วน่ะค่ะ ว่าหญิงปิ๋วเคยมีประสบการณ์ในการขอวีซ่าที่สถานทูตสวิสหรือเปล่าคะ อยากให้หญิงปิ๋วช่วยแนะนำและเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นวิทยาทานให้ความรู้แก่สาวๆคนอื่นๆ
ที่กำลังจะเตรียมตัวเตรียมใจไปโดนเชือด ว๊ายย ไม่ใช่ เตรียมไปขอวีซ่ากัน
และโดยส่วนตัวเอง อยากถามหญิงปิ๋วอีกนิดนึงค่ะ
 
- หากเราเป็นฝ่ายถูกเชิญโดยทางผู้เชิญเค้ามีความพร้อมทุกอย่าง ทางฝ่ายเราจำเป็นจะต้องโชว์
หลักฐานทางการเงินด้วยไหมคะ ทางสถานทูตเค้าจะต้องการขอดูจากเราไหมคะ  เท่าที่เข้ามาอ่าน
ในหลายๆกะทู้ของเวปป้าพอลนี้ บางท่านก็บอกว่า วีซ่าเยี่ยมเยือนโดยเรามีผูเชิญ ไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีมาโชว์ เพราะสปอร์นเซอร์ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ผู้มีความรู้และประสบการณ์กรุณา
ช่วยตอบให้หายข้องใจด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: tanatporn on June 18, 2010, 05:10:14 AM
หวัดดีค่ะหญิงม้อย ในกรณีที่เรามีผ้เชิญให้ทางผู้เชิญระบุบว่า เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในระหว่างที่อยู่ในสวิส เรื่องเอกสารเอาแน่ไม่ได้
บางครั้งเตรียมไป ไม่เอาจะเอาที่ไม่ได้เตรียม >:(บางที่ก็แล้วแต่อารมณ์ของเจ้าหน้าที่ปิ๋วว่า หญิงม้อยเตรียมไปเลยดีก่วา เพราะอยู่ต่างจังหวัด)ส่วนเรื่องประสบกาณ์การ ขอวีซ่าของปิ๋ว ก็ไม่แตกต่างกับสมาชิกท่านอื่นๆนัก เช่น เคยไปสวิสมั้ย ไปหาใคร รู้จักกันนานแค่ไหน
แฟนมีพี่น้องกี่คน พ่อแม่แฟนชื่อไร อยู่เมืองไหน และอีกหลายอย่างแล้วแต่เจ้าหน้าที่จะ นึกได้ ::)หลังจากนั้นถ้าเอกสารที่เจ้าหน้าที่ต้อง
การครบ ก็จะนัดวันให้มารับเล่มพาสคืน ใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการครบกำหนดนัด ก็จะมีสองกรณีคือได้รับวีซ่าเลย กับให้ส่งเอกสารที่
ทางสถานทูตให้ กับผู้เชิญเมื่อผู้เชิญได้รับเอกสาร ก็จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด(เอกสารก็จะเป็นการเช็คประวัติของผู้ เชิญว่า เคยทำผิดกฎหมายมั้ย เสียภาษีถูกต้องหรือไม่)หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ทางผู้เชิญจะเป็นผู้แจ้งให้หญิงม้อยทราบ อาจใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนบาง
เขตอาจเร็วกว่านี้ หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เชิญ หญิงม้อยก็สามารถนำพาส เข้าไปช็คได้ที่สถานฑูต ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ทางสถานฑูตก็จะ
ออกวีซ่าให้ใช้เวลา 3 วันทำการต้องลำบากขึ้นลงกรุงเทพหน่อยจ๊ะ แต่ของปิ๋วให้น้องที่รับเช็ค วีซ่าเป็นคนทำให้เพียงแต่ถ้าได้รับแจ้งจากผู้
เชิญก็โทรมาบอกน้องเขาคุ้มกว่าขึนมาเองเยอะจ้า(แต่ถ้ามาเช็คเอง หญิงม้อยไม่ต้องโทรนัดนะจ๊ะ สามารถเข้าไปเช็คกับเจ้าหน้าที่ได้เลย)
ไงๆปิ๋วขอเป็นกำลังใจ ขอให้หญิงม้อยโชคดีจ้า ไงมาให้ทันวันชาติสวิสนะมาดูพรุซวย จังหู
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: nudao on June 18, 2010, 02:06:45 PM
วันจันทร์นี้มีใครไปยื่นวีซ่าบ้างคะ

ดาวจะไปยื่นวันจันทร์แล้ว รู้สึกประหม่าจังเลยค่ะ 55+

ตอนนี้เตรียมเอกสารครบแล้ว เตรียมใจไว้แล้วคร่า





Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: tanatporn on June 18, 2010, 02:49:36 PM
สวัสดีค่ะ คุณดาว
ไม่ได้ไปยื่นวีซ่าแต่มาเป็นกำลังใจจ้า ;D
ขอให้คุณดาวโชคดีค้า
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: หญิงม้อย on June 19, 2010, 01:53:43 AM

   หวัดดีค่ะทุกๆคน

   ขอบคุณหญิงปิ๋วมากเลยนะคะที่คอยมาให้กำลังใจและให้ความรู้กับทุกคน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วง
เตรียมเอกสาร คิดว่าคงจะไปไม่ทันฉลองวันชาติแน่นอนค่ะ แต่ไม่เป็นไร ขอให้ได้ไป หรือวีซ่าได้
ผ่านก็ถือว่าบรรลุจุดประสงค์แล้วค่ะ ขอบคุณหญิงปิ๋ว และทุกๆคนที่เข้ามาอ่านและมาพูดคุยแลก
เปลี่ยนกันนะคะ

  / หญิงม้อย ณ ภูเก็ต
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: mill on March 30, 2011, 02:14:52 PM
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
   ถ้าขอวีซ่า visitor แบบแฟนมาเมืองไทย แล้วไปสถานทูตด้วยกัน การขอวีซ่าจะง่ายขึ้นไหมคะ
             Mill
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Tasmalee on June 06, 2011, 05:27:28 PM
สวัสดีคะ เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของที่นี่คะ
เพิ่งขอวีซ่า แบบ visit ไป สวิสครั้งแรกคะ
ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ก้อ ได้ซองสีนำ้ตาลส่งให้เจ้าบ้านแล้วค่ะ
แล้วเจ้าบ้านก้อติดต่อทางตม. ที่โน้นแล้วคะ
แล้วก้อโทรมาบอกให้เราไปที่สถานทูตสวิสมาเมื่อเช้าคะ เอาประกันการเดินทางอันใหม่ไปให้ทางสถานทูต พร้อมกับใบจองตั๋วอันใหม่คะ
เจ้าหน้าที่ก้อรับใบจองอันใหม่กับประกันอันใหม่ไปแล้วก้อให้ใบนัดมารับพาสปอร์ตได้หลังจากอีก 7 วันคะ
ดว้ยความไม่แน่ใจ ในกรณีนี้คือ วีซ่าผ่าแล้วใช่ไหมคะ (เพราะ แอบกระซิบถามพี่ ร.ป.ภ. ข้างหน้าเค้าบอกว่า กรณีของเรา ผ่าน 100 เปอร์เซน)  แต่เราไม่แน่ใจคะ
ก้อเลยอยากฟังประสบการณืจากเพื่อนๆๆๆ อีกครั้งคะ

ปล. เนื่องจากเคยอกหักจาก วีซ่าเยอรมันมาสองครั้งแล้ว ก้อเลยกลัวๆๆๆ
ถ้าหากใคร พอจะรู้คำตอบที่ชัดเจนว่า เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว คือไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหมคะ

ตอนนี้ก้อตั้งหน้าตั้งตารอ อีกหนึ่งอาทิตย์

ขอบคุณคะ สำหรับประสบการร์จากเพื่อนๆๆทุกคน
Title: VISITOR 2
Post by: LauraP on March 03, 2012, 03:48:46 PM
Hi,

I am going through the process of applying for a visitor visa to the US as my girlfriend British citizen is traveling to the US on a J-1 visa as a nanny for 1 year minimum. In order to stay longer I am looking into applying for a student visa whilst in the US so I can study whilst I am there, and hence stay longer.

Firstly, does anyone know how long it takes on average for a visitor visa to be processed? And also, how easy is it to transfer from visitor visa to student visa? I am a 29 year old British citizen.

Thanks,
K
Title: VISITOR 2
Post by: LauraP on March 12, 2012, 01:58:00 AM
Hi,

I am going through the process of applying for a visitor visa to the US as my girlfriend British citizen is traveling to the US on a J-1 visa as a nanny for 1 year minimum. In order to stay longer I am looking into applying for a student visa whilst in the US so I can study whilst I am there, and hence stay longer.

Firstly, does anyone know how long it takes on average for a visitor visa to be processed? And also, how easy is it to transfer from visitor visa to student visa? I am a 29 year old British citizen.

Thanks,
K
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Nantaree on March 12, 2012, 01:26:37 PM
Hello,
I think nobody know about applying for a visa to the USA because this website people shared experience about applying a visa to SWITZERLAND. Sorry maybe you please try another website. I hope you find the inforamtion you need. Good luck
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: Da_beauty on August 07, 2012, 02:43:29 PM
 เรืองประสบการณ์วีซ่าเยี่ยมดาก็ โดนปฎิเสธเหมือนกันคะ่ที่ยื่นครั้งแรก แต่ดาว่าสวิสใจดีคะ่ยังให้อุทรธ์ หลังจากยื่นครั้งแรกแล้วครั้ง2-3ก็ผ่านตลอดคะ่ ครั้งล่าสุดนี่แต่งแล้วคะ่ ดาขอเอาใจช่วยนะคะเพื่อนที่ยังไม่ผ่าน ยังไงก็ผ่านคะ่ เราไม่ใช่บุคคลต้องห้าม ต้องคดีอะไร เจตนาเราบริสุทธิ์ไงก็ได้คะ่ อดทนหน่อยนึงคะ่ งานนี้ไม่อาศัยเส้นคะ่ ว่ากันด้วยเอกสาร หลักฐานล้วนๆคะ่ เร็ว ช้า ขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบคะ่
  ดา บิวตี้+s
Title: Re: ประสบการณ์การขอวีซ่า VISITOR แบบประเภทไม่ได้ทำงานมา 2 ปีแล้ว
Post by: auchubhawan on August 24, 2012, 03:29:05 AM
อยากสอบถามว่า  ถ้าเราไม่ไดให้แฟนเป็นผู้ขอ  แล้วก็ไม่ใช่ญาติในสายเลือด

แต่เป็นเพื่อนกัน  ขอวีซ่า 90 วันจะมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้ไหมค่ะ