(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183220-Zwischenablage030.jpg)
***Rubigen**
อยู่จากBernประมาณ10กม.
ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาและสามารถเห็นทิวเขาสวยงามขึ้นชื่อ
จำนวนประชากร 2455 คน(1.1.04)
เนื้อที่ 7.072 km2
เนื้อที่ประมาณ68 % จะเป็นเขตกสิกร
เขตนี้จะมีป่ามากทีสุด
เขตที่สูงที่สุดของเขตนี้คือBeitenwil มีความสูงประมาณ596 m ü.M
และอยู่ในภูมิภาคที่เรียกว่าAaretal
คำว่าAaretalหมายถึงภูมิภาคระหว่างBern และ Thun
ที่มีแม่น้ำAare ไหลผ่าน
***Rubigen**
มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจมากพอๆกับWorb
เคยตกอยู่ในความครอบครองของชาวโรมัน
ปัจจุบันมีผู้ค้นพบเครื่องใช้และก้อนหินการก่อสร้างสมัยก่อน
ชาวนาเคนขุดดินและเจอสิ่งของใช้และเหรียญของชาวโรมันมาแล้ว
และเขตนี้ก็เคยตกอยู่ในความครอบครองของชาวAlemannen
และเคยตกอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศสนะโปเลียน
เมื่อปีคศ.1798ตอนยกทัพเข้ามาและได้ยึดครองสถานที่แห่งนี้
ชาว Rubigenบางส่วนได้สืบเชื้อสายของฝรั่งเศส
**การคมนาคม**
1.ทางรถยนต์
ขับผ่านเส้นทางAaretal ใช้เส้นทาง |Autobahn A6
Rubigen/Belp
2.ทางรถไฟ
S-Bahn-จาก Bahnhof BernไปThun
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0931 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
**20 .Okt 05**
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183352-Zwischenablage03.jpg)
วันนี้อากาศอบอุ่นสบายแดดออกทั้งวัน
เราสองคนเลยหอบเป้เดินทางไกลกัน
การเดินทางเราทำกันช่วงบ่ายหลังกินอาหารกลางวันกันแล้ว
จุดหมายปลายทางของการเดินทางคือ Rubigen/Beitenwil
เวลาที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้ประมาณ2หรือ3ชั่วโมง
เราออกเดินทางร่วมบ่าย3โมง
เส้นทางที่ใช้เดินทางต้องผ่านฟาร์มชาวนา
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน
เจอชาวนาที่รู้จักกันกับลุงกำลังต้ม
และกรอกน้ำแอปเปิลที่คั้นสดๆเสร็จแล้วใส่ขวด
ความร้อนที่ใช้จะเริ่มตั้งแต่0องศาจนกระทั่งถึง75องศา
การทำแบบนี้เป็นการรักษาและเก็บน้ำแอปเปิลคั้นได้นาน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183510-Zwischenablage05.jpg)
หลังจากคุยทักทายกันแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ
เพราะระยะทางที่จะต้องใช้เดินประมาณร่วม10กม.
ไปกลับก็ตกประมาณร่วม20กม.
ระหว่างทางที่เดินชมนกชมไม้ชมต้นแอปเปิล
ที่ชาวนาสวิสส่วนมากชอบปลูกไว้เป็นจำนวนมากมาย
หลายพันธ์เพื่อนำมากิน,ขายและทำน้ำแอปเปิลคั้นไว้กิน
และไว้ขายหารายได้ต่อปี
เราเดินผ่านบ้านเลี้ยงรังผึ้งของชาวนาซึ่งเขาเลี้ยงไว้
ผึ้งเลี้ยงเหล่านี้ป้ารู้จักและคุ้นเคยดีมาก
เพราะน้องเขยเลี้ยงผึ้งและทำน้ำผึ้งขาย
ป้าเคยดูและเห็นเขาใช้น้ำตาลให้ผึ้งเหล่านี้กิน
ควบคู่กับเกสรดอกไม้
น้ำผึ้งในสวิสมีมากมายหลายชื่อหลายชนิด
และจะมีการประกวดชิงรางวัลเหรียญทองกัน
วันหลังจะมาเล่าถึงการทำน้ำผึ้งให้ฟัง
สวิตฯช่วงหลังจะมีการเลี้ยงผึ้งขายเป็นจำนวนมากมาย
ทุกๆปีจะมีการสอนหลักสูตรการเลี้ยงผึ้งให้แก่ผู้สนใจ
น้องเขยป้าก็สอนหลักสูตรนี้อยู่
การเลี้ยงผึ้งต้องมีความอดทนมาก
บางครั้งผึ้งจะหนีไม่กลับบ้านและพาฝูงของตัวเองไปหลบอยู่ในป่า
ต้องไปตามตัวกลับมา และบางครั้งต้องเจอกับปัญหาเกี่ยวกับโรค
ราคาน้ำผึ้งจะขายประมาณ กก.ละ20กว่าๆ
ถ้าฤดูไหนได้น้ำผึ้งน้อยราคาจะแพงขึ้นแต่น้ำผึ้งจะเก็บได้นานพอสมควร
น้ำผึ้งของน้องเขยที่ทำขายจะมีความอร่อยมากกว่าที่อื่น
และเป็นที่รู้จักกันดีในเขตที่เขาอยู่
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183613-Zwischenablage07.jpg)
การเดินของเราช่วงนี้จะเดินผ่านแปลงดิน
ที่ชาวนาได้พรวนไว้หลังจากที่ได้ขุดมันเรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่ได้เก็บหมด ยังมีมันที่หลงเหลืออยู่มากมายในนาที่ขุดไว้
ลุงอยากเก็บมากแต่ไม่มีเวลาเก็บ
ยังจำได้ดีตอนที่ป้ามาอยู่ที่สวิตฯใหม่ๆ
เราเคยไปเก็บมันที่ชาวนาขุดและเก็บไม่หมดทิ้งไว้ในแบบนี้
เราเก็บมากินได้ร่วม10กก.
ราคามันที่ชาวนาขายจะถูกกว่าร้านค้ามาก
บางแห่งขายกก.ละ .70รัพเพิ่ล
สุดแสนจะเสียดายแต่ก็ตอ้งเร่งเดินทางกันต่อ
**เคยเขียนเกี่ยวกับมันเอาไว้**
*** Kartoffeln *** (http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,1022.0.html)
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183725-Zwischenablage02.jpg)
ทางที่ใช้ในการเดินทางต้องผ่านเส้นทางของSBB
ช่วงนี้มีหมอกเล็กน้อย เราเดินผ่านบ้านชาวนาอีกหลายหลัง
เห็นฝูงม้าที่เขามาจ้างชาวนาเลี้ยงไว้
เป็นการหารรายได้เพิ่มอีกแบบหนึ่งของชาวนา
ฝูงวัวจำนวนมากมายยืนเละเล็มหญ้าเขียวชอุ่มอย่างมีความสุข
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183815-Zwischenablage019.jpg)
เดิน*งออกจากหมู่บ้านที่อยู่เห็นออกไปเรื่อยๆ
และเริ่มเดินทางเข้าสู่สถานีรถไฟของSBBของWorb
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-183933-Zwischenablage06.jpg)
Worbเป็นเขตที่การคมนาคมสะดวกสบายมาก
เราสามารถใช้เส้นทางในการเดินทางได้3อย่าง
คือรถไฟสีส้ม,รถไฟสีฟ้าและรถไฟS-Bahn
SBBอย่างที่เห็นในรูป
เผอิญรถไฟแล่นข้ามาสู่สถานีพอดี
เราต้องรอให้เครื่องกั้นรถไฟยกขึ้นถึงจะสามารถเดินข้ามถนนได้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184108-Zwischenablage09.jpg)
หลังจากเดินผ่านหยุดรอจนรถไฟออกจากสถานีไปแล้ว
เราก็เดินทางลัดเข้าป่าตรงทางแยกที่เห็น
ป่าที่เห็นสวยงามมากช่วงนี้
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีหลากสีทั้งสีส้มอมทอง
ออกแดงสวยงามเหมือนใช้พู่กันแต้มระบายสี
บางช่วงแสงแดดส่องสวยงามสุดบรรยาย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184223-Zwischenablage012.jpg)
ประเทศสวิตฯจะมีป่าค่อนข้างจะสมบูรณ์เขียวชอุ่ม
และคนนิยมจะเข้าป่าเก็บเห็ดกันมากทุกปี
ป่าที่นี่ทุกแห่งที่เห็นจะมีเจ้าของทั้งนั้นเป็นป่าส่วนตัว
แต่ไม่ได้หวงห้ามไม่ให้คนเข้ามา
นอกเสียจากบางแห่งจะมีที่ขวางกั้นไม่ให้เข้า
สมัยก่อนชาวนาจะนิยมซื้อป่าไว้
ถ้าใครมีป่ามากที่สุดจะถือว่าเป็นชาวนาที่มั่งคั่งมาก
ไม้จะเป็นสิ่งที่มีราคาสูงที่สุดในสมัยนั้น
ชาวนาจะตัดไม้เองและขาย
ปัจจุบันราคาป่าไม่มีราคาสูงเหมือนสมัยก่อน
และแทบจะไม่มีราคา
ตลอดทั้งเสี่ยงต่อการดูแลรักษา
และมีพวกแมลงทองที่ชอบมาแทะต้นไม้กินจนพรุนไปหมด
มีชาวนาบางแห่งดูแลป่าของตัวเองไม่ไหว
ถึงกับประกาศขายไปก็มี
ขณะที่เราเดินผ่านจะเห็นกองไม้ที่ตัดและมัดไว้เรียบร้อย
รอคนมาซื้อ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184328-Zwischenablage014.jpg)
หลังจากเดินทางลัดโดยใช้เส้นทางในป่าใหญ่แล้ว
เราต้องเดินออกมาข้างนอกโดยใช้เส้นทางใหญ่
ที่รถยนต์และรถBusใช้
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางคมนานาคมใช้วิ่ง
เพื่อเข้าเมืองBern
การคมนาคมในประเทศฯนี้สะดวกและสบายมาก
คนไม่มีรถยนต์ใช้ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะแต่ละแห่งจะจัดรถบัสวิ่งบริการ
และรถไฟซึ่งจะทำงานประสานกันทั้งกลางวันและกลางคืน
ที่คนสวิสเรียกการบริการแบบนี้ว่าMoonliner
เรียกว่าคนที่ชอบเที่ยวไม่ต้องกังวลกับการกลับบ้าน
http://www.moonliner.ch/
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184414-Zwischenablage015.jpg)
ช่วงนี้เราเดินเข้าหมู่บ้านของเขตRubigenแล้ว
เดินผ่านบ้านพักคนชราและบ้านที่อยู่อาศัยของคน
ร้านอาหารและร้านค้าเปิดบริการ
และเดินผ่านเครื่องหมายรูปเด็กผู้ชายทำมือห้ามรถชะลอลดความเร็ว
ประเทศสวิตฯถ้าเข้าเขตหมู่บ้าน
จะมีสัญญาณเครื่องหมายทำเป็นรูปบอกให้คนขับรถ
ระวังในการใช้ความเร็วบอกเตือนไว้
เพื่อให้รู้ว่าเป็นเขตที่เด็กใช้เส้นทางหรือเป็นย่านที่มีเด็กอาศัยอยู่
คนขับรถยนต์จะลดความเร็วลงและระมัดระวังมาก
เพราะบางครั้งเด็กจะวิ่งออกมาไม่ดูถนนหรือเด็กขาดความระมัดระวัง
รูปที่เขาใช้บอกสัญญาณ
จะทำเป็นรูปเด็กตามภาพที่เห็น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184521-Zwischenablage018.jpg)
เราเดินเลียบถนนมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งเห็นเครื่องหมายสี่เหลี่ยมสีเหลืองในรูป
จึงได้เดินตัดถนนเดินตามเครื่องหมายอันนี้
เส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไกลที่คนสวิสเรียกกันว่าWander
เขาจะทำเครื่องหมายบอกเอาไว้สำหรับเส้นทางที่ใช้
เครื่องหมายจะทำเป็นรูปสีเหลี่ยมสีเหลืองตามภาพที่เห็น
!...
เครื่องหมายเดินทางไกลเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นบนเขาสูงหรือที่ราบจะมีคนทำการสำรวจมาก่อน
และเครื่องหมายการเดินบนภูเขาสูงและที่ราบจะแตกต่างกันมาก
ถ้าเดินบนภูเขาสูงจะเป็นเครื่องหมายยาวสีขาวแดง
และสีน้ำเงินซึ่งจะเป็นการบอกให้รู้ว่าเส้นทาง
อันตรายต้องระมัดระวังในการเดิน
เส้นทางที่ใช้เดินในวันนี้ลุงเดินมาก่อนแล้วจึงรู้จักเส้นทางดี
เราเดินตัดจากป้ายบอกเครื่องหมายเด็กที่อยู่ตรงกันข้าม
เดินลัดมาใช้เส้นทางนี้
ระหว่างทางเจอแต่บ้านชาวนาเรียกว่าเขตนี้
เป็นเขตของชาวนาทั้งนั้น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184619-Zwischenablage021.jpg)
เจอป้ายบอกเครื่องหมายเด็กอีก
เรียกว่าช่วงนี้จะมีแต่เครื่องหมายเด็กตลอดทางที่เดิน
มีเด็กลูกชาวนาเล่นอยู่ข้างนอกหลายคน
อากาศสดชื่นแบบนี้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
จะใช้เวลาแทบทั้งหมดอยู่ข้างนอก
ใครที่เป็นเมียชาวนาอย่างแท้จริง
บางคนอาจจะสงสัยว่าหมายถึงอะไร
ชาวนาปัจจุบันจะแตกต่างกันไปตามเศรษฐกิจ
ชาวนาบางแห่งจะไม่ทำนาแล้ว
จะรับเลี้ยงวัวให้คนอื่นเท่านั้นและปลูกหญ้าขาย
ใครเป็นเมียชาวนาแบบนี้จะค่อนข้างสบาย
ไม่ต้องทำงานหนักแค่ทำงานบ้านและทำงานสวนเท่านั้น
และชาวนาเหล่านี้จะหางานทำกินเงินเดือนข้างนอก
เพื่อเสริมรายได้ ชาวนาเหล่านี้จะมีเงินเก็บ
และมีวันพักผ่อนหยุดเที่ยว
แต่มีชาวนาอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังทำอาชีพชาวนาอย่างแท้จริง
จะเลี้ยงวัวและรีดนมวัวขาย
ปลูกมัน,ผักและผลไม้ขายเป็นอาชีพรองเสริมรายได้
และรวมทั้งปลูกและเก็บเกี่ยวหญ้า,ข้าวสาลีและข้าวโพด
เรียกว่าทำงานหนักมาก
ใครที่เป็นเมียชาวนาแบบนี้จะทำงานกันหนักมาก
ไม่ว่าจะเป็นงานนอกบ้านและในบ้าน
รวมทั้งการทำสวนเก็บผักไว้กินหน้าหนาว
เมียชาวนาเหล่านี้จะทำขนมปังกันเก่งมาก
จะทำกันอาทิตย์ละครั้งหรือ2ครั้งต่อเดือน
บ้านชาวนาบางแห่งอยู่นอกเมืองมากๆ
จะลำบากและทำงานหนักเป็นหลายเท่าของเมียชาวนาเขตใกล้ความเจริญ
ผู้หญิงเมียชาวนาที่เห็นยังอายุน้อยมาก
ทำงานสวนและปลูกดอกไม้ขายเสริม
เพื่อหารายได้เพิ่ม
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184745-Zwischenablage023.jpg)
บ้านชาวนาจะเลี้ยงหมาและแมวกันมาก
การเลี้ยงแมวมีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการจับหนู
ซึ่งมีชุกชุมเต้มไปหมด
หมาชาวนาที่เลี้ยงไว้พวกนี้จะปากเปราะมาก
และทำท่าจะกัดคนเดิน
แต่พอเราทักทายคุยด้วยจะกระดิกหางไปมาและเป็นมิตรดี
ทางที่เห็นคือเส้นทางที่จะใช้เดินต่อไป
เพื่อที่จะเข้าไปในป่าที่เห็นข้างหน้าลางเลือน
ช่วงนี้เราอยู่ในเขตของBeitenwilแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184841-Zwischenablage022.jpg)
เราหยุดทักทายกับเด็กชาวนาน่ารักมาก
กำลังเล่นขี่จักรยานไม้อยู่
ชาวนาบางแห่งยังอนุรักษ์ของเก่าแก่อยู่
เช่นของเล่นเด็กอย่างภาพที่เห็นใช้ไม้ทำจักรยาน
และบางแห่งยังใช้รถเข็ญเด็กอ่อนที่ทำด้วยไม้อยู่
ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากในสมัยนี้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-184949-Zwischenablage025.jpg)
พูดทักทายและถ่ายรูปเด็กเสร็จแล้วก็รีบเดินทาง
เพื่อเข้าป่า เด็กโบกมืออำลาอย่างเป็นมิตร
การเดินช่วงนี้ผ่านบ้านชาวนาทั้งแถบ
ระหว่างทางที่เดินจะมีเครื่องหมายแบบนี้เป็นตลอด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185046-Zwischenablage024.jpg)
นี่อีกเช่นกัน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185144-Zwischenablage026.jpg)
เส้นทางที่เราใช้เดินจะเห็นชาวนาทำงานไถคราดดิน
เพื่อรีบเร่งแข่งกับเวลาและช่วงที่อากาศดีแบบนี้
มีฝูงวัวจำนวนมากมายเล็มหญ้าเต็มไปหมด
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวนาจะทำงานกันหนักมาก
ต้องรีบทำก่อนที่จะเข้าฤดูหนาว
เพื่อเร่งปลูกพวกข้าวสาลีและข้าวอื่นๆ
ซึ่งจะใช้เวลาช่วงฤดูหนาวปลูกอยู่ในดิน
และจะเร่งผลิชูช่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ใครที่อยู่ที่นี่และอยู่เขตบ้านชาวนาจะเห็น
พื้นดินมีต้อนไม้เล็กๆขึ้นอยู่ถึงแม้หิมะจะตกทับ
ต้นพืชเหล่านี้ก็ไม่ตายนี่คือต้นข้าวสาลีและต้นข้าวอื่นๆ
บางแห่งใช้ท่อยางที่นำรถแท็คเตอร์ขับ
ราดน้ำเยี่ยวผสมขี้วัวลงบนพื้นนาเพื่อให้เป็นปุ๋ย
ทำให้หญ้าขึ้นอุดมสมบูรณ์ในอนาคต
น้ำเยียวปนขี้วัวหมักจะส่งกลิ่นเหม็นมาก
เราเรียกปุ๋ยของชาวนาอันนี้ว่าGuelle (กลืนนฺเล่)
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185254-Zwischenablage028.jpg)
เราเดินผ่านชาวนาที่กำลังไถคราดดินอยู่
และเดินผ่านเครื่องเปิดน้ำตามภาพที่เห็น
ในสวิตฯตามเขตที่อยู่จะมีที่เปิดใช้น้ำแบบนี้
เพื่อใช้ในกรณีย์เกิดเพลิงไหม้
ซึ่งสามารถเปิดน้ำใช้ได้ทันท่วงที
ตอนที่ป้าอยู่บ้านเก่า
นักดับเพลิงจะมาทำการเปิดใช้น้ำทุกเดือน
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดข้องถ้าเกิดไฟไหม้จริงๆ
และทดสอบการดับเพลิงตลอด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185357-Zwischenablage031.jpg)
ช่วงนี้เราสองคนจะเดินลัดผ่านบ้านชาวนาตลอด
ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย
ชาวนารุ่นใหม่จะมีความเป็นอยู่ดีกว่าชาวนารุ่นเก่า
ที่ป้ารู้จักมาก ชาวนารุ่นใหม่จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย
และมีรถนอนและสามารถออกไปเที่ยวพักผ่อนได้
ในขณะที่ชาวนารุ่นเก่าจะทำงานหนัก
และไม่เคยได้พักผ่อนเลย
แม้กระทั่งการท่องเที่ยวในสวิตฯยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว
หรือเห็นโลกกว้าง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185459-Zwischenablage033.jpg)
เราสองคนเป็นคนที่ชอบหมามาก
ถ้าไปไหนเจอหมาจะทักทายตลอด
หมาตัวที่เห็นเป็นหมาที่หน้าตาเหมือนหมีมาก
เลยถ่ายคู่..และเจ้าของหมาเข้ามาคุยด้วย
เป็นอันว่าโลกกลมมาก..คุยไปคุยมาเป็นเพื่อนเก่ารุ่นเดอะ
ลุงแกไปไหนจะเจอแต่คนรู้จัก
ไปกับคนดังก็แบบนี้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185557-Zwischenablage036.jpg)
ช่วงนี้เราเริ่มเดินเข้าป่าของRubigenแล้ว
ป่าที่นี่เขียวชอุ่มมากและมีเครื่องหมายห้ามไม่ให้คนขับเข้าไปข้างใน
ป่าบางแห่งจะมีเครื่องหมายห้ามไม่ให้ขับรถยนต์
ใครฝ่าฝืนถ้ามีการตรวจเจอจะโดนปรับ
คนที่สามารถใช้เส้นทางนี้คือคนเป็นเจ้าของหรือคนมีหน้าที่ในป่า
และจะมีเครื่องหมายสี่เหลี่ยมสีเหลือง
บอกถึงเส้นทางเดินทางสำหรับนักเดินทางทั้งหลาย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185715-Zwischenablage034.jpg)
ตลอดระยะทางที่เดินในป่า
จะมีร่องไม้เพื่อให้น้ำไหลเวลาฝนตก
เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำขังท่วมป่า
เป็นความคิดที่ดีอย่างหนึ่ง
และในป่าจะมีเห็ดขึ้นมากมายเต็มไปหมด
มีทั้งกินได้และกินไม่ได้
พวกหญ้ามอสขึ้นเขียวชอุ่มเดินนุ่มเหมือนเดินบนพรม
ตลอดทางที่เดินจะเจอแต่พวกนักวิ่ง
ที่วิ่งออกกำลังกายกัน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-185844-Zwischenablage040.jpg)
เราเดินผ่านเครื่องหมายออกกำลังกายที่เรียกกันว่า
Vita Parcours
ซึ่งเป็น Fitness-Klubที่ใหญ่ในสวิตฯ
ซึ่งจัดบริการให้คนมาออกกำลังกายในป่าทุกแห่งในสวิตฯ
คนที่เดินเล่นในป่าหรือเข้ามาออกกำลังกายจะรู้จักกันดี
เขามีเครื่องออกกำลังกายบริการมีหมายเลขบอกไว้
เราจะเดินออกกำลังกายและเดินใช้บริการออกกำลังกายท่าต่างๆ
นับเป็นการบริการที่มีประโยชน์ที่สุด
นอกจากนี้ในป่าจะมีบริการเครื่องย่างหรือปิ้งเนื้อ
รวมทั้งโต๊ะที่นั่งกินให้คนเอาของมาปิ้งกินกันในป่า
http://www.vitaparcours.ch/d/html/
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190005-Zwischenablage041.jpg)
เราเดินดูพวกเห็ดเดินดูพวกต้นไม้และใบไม้ที่เปลี่ยนสีสวยงาม
จนกระทั่งมาถึงจุดที่ลุงต้องการพามาดู
สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในย่านแห่งนี้
คือKohlenmeiler...ที่เผาถ่านขายของ Rubigen
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190332-Zwischenablage037.jpg)
***ทางเข้าสู่Kohlenmeiler***
Kohlenmeiler
เป็นโปรเจคหนึ่งของรัฐบาลที่เรียกว่า Projekt Meiler
สำหรับให้คนตกงานอยู่ในระหว่างปั๊มแสตมป์
และคนไม่มีงานทำมาทำงานหารายได้จากที่นี่
สถานที่นี่ถ้าเราเรียกเป็นภาษาไทยก็คือสถานที่เผาถ่านนั่นเอง
Köhlerplatz Schwandwald
สถานที่เผาถ่านนี้เป็นของส่วนตัว
และป่าที่เราเดินนี้ก็เป็นป่าของสถานที่เผาถ่านแห่งนี้
อยู่ระหว่าง Münsingen และ Rubigen
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190425-Zwischenablage032.jpg)
ทางที่เดินผ่านเข้าไปข้างในจะมีฟืนที่ตัดเหลือ
ทิ้งไว้ให้คนมารับฟรี
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190509-Zwischenablage038.jpg)
ข้างทางที่เราเดินผ่านจะมีของที่ประดิษฐ์ทำจากไม้ขาย
เช่นเทียนไขที่ทำด้วยไม้ที่ใช้จุดตอนมีงานปาร์ตี้ข้างนอก
ให้ความสว่างและโรแมนติกมาก
เทียนที่ทำด้วยไม้แบบนี้เรียกว่า Finnenkerzen
ถ้าใครอยู่ที่สวิตฯคงจำช่วงที่เกิดลมพายุใหญ่ได้
เมื่อวันที่26ธันวาคม1999ลมพายุที่มีชื่อว่า Lothar
ได้ทำลายป่าไม้ต้นไม้หักโค่นมากมาย
ช่วงนั้นมีไม้ที่หักโค่นมากมาย
และมีการแจกฟรีก็ยังไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไร
ป่าไม้ที่โดนทำลายประมาณ40%เป็นป่าส่วนตัว
และป่าไม้เหล่านี้ไม่มีประกันความเสียหาย
ดังนั้นการประดิษฐ์ไม้มาทำประโยชน์
แทนที่จะทิ้งให้อยู่เฉยๆเป็นการหารายได้อย่างหนึ่ง
เพื่อมาทำประโยชน์ในรูปของ Finnenbahn
ถนนที่ใช้ออกกำลังกายในป่าที่เรียกกันว่า
Lauf,walking และwandersport
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190552-Zwischenablage039.jpg)
เราไปถึงข้างในเย็นมากแล้วมีคนกำลังผ่าฟืนยืนอยู่คนเดียวและหมาอีก1ตัว
เราเลยเข้าไปทักทายและคุยด้วย
สอบถามวิธีการทำถ่านเขาก็ชี้ให้ดู
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190636-Zwischenablage043.jpg)
**ลักษณะการก่อฟืนที่จะทำการเผาทำถ่าน***
เครื่องหมาย X เป็นเศษถ่านที่ป่นละเอียดชุบน้ำให้เปียก
มาปั้นทับกิ่งสน
เครื่องหมาย O เป็นกิ่งสนที่นำมาปิดฟืนที่ก่อไว้
เครื่องหมาย
.!.....เป็นท่อนไม้ที่จะนำมาวางไว้ตรงกลาง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190718-Zwischenablage044.jpg)
ท่อนไม้อันนี้ที่ผ่าข้างในกลวง
นำไปวางไว้ตรงกลางเพื่อให้มีอากาศระบาย
ตอนที่ปิดฟืนทุกอย่างแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190800-Zwischenablage045.jpg)
จะทำการเผาถ่านตามภาพที่เห็น
การที่มีไม้ล้อมเป็นขั้นๆข้างนอก
เขาทำเพื่อใช้ในการยืนคอยเอาซ่อมแทงเข้าไปข้างในให้อากาศระบาย
และคอยให้ถ่านป่นละเอียดที่หุ้มเปียกตลอดเวลา
หลังจากนั้นเขาก็จะนำไม้ที่ล้อมเป็นชั้นๆออก
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190844-Zwischenablage046.jpg)
และจะใช้บันไดแทน
ธรรมดากทาเผาถ่านแบบนี้ใช้เวลาไม่มากแค่2อาทิตย์ก็ใช้ได้แล้ว
แต่การเผาถ่านของสถานที่แห่งนี้จะใช้เวลานาน4อาทิตย์
เพื่อต้องการให้ถ่านมีคุณภาพจุดคงทนกว่า
พอครบกำหนดเขาก็เกลี่ยถ่านออกมา
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-190927-Zwischenablage042.jpg)
หลังจากพูดคุยซักถามจนได้เวลาอันสมควร
ลุงก็เร่งให้ออกเดินทางเพื่อหาที่กินอาหารผลไม้ที่นำติดตัวมา
จนถึงจุดหมายปลายทางที่ก็นั่งกินอาหารและผลไม้กัน
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเดินทางเพื่อจะกลับบ้าน
ระหว่างทางที่เดินเราจะเห็น
จะเห็นเครื่องหมายสีเหลี่ยมสีเหลืองบอกทางสำหรับใช้เดินทางไกล
ป้ายติดตามต้นไม้ตามรูป........../..สีแดงที่เห็น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-191143-Zwischenablage050.jpg)
เดินผ่านต้นไม้เล็กๆที่ยังไม่โตเต็มที่
เขาเอากระดาษสี่เหลี่ยมแข็งมาปิดต้นไม้ไว้
ต้นไม้ในป่าบางแห่งจะมีกระดาษแข็ง
หรือไม้สีเหลี่ยมยาวตอก4ด้านปิดต้นไม้ไว้
การทำเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กวางมากัดแทะเล็มกินเปลือกไม้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-191226-Zwischenablage035.jpg)
เราเดินลัดออกจากป่าและเริ่มเดินเข้าไปตามทางที่ต้องผ่านบ้านชาวนาหลังหนึ่ง
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวนากำลังรีดนมวัว
วัวที่นี่ถ้าถึงเวลารีดนมวัวแล้ว
ไม่ว่าจะกินหญ้าไกลแค่ไหนก็ตาม
ถ้าถึงเวลาจะรีดนมวัวจะพากันมายืนรอเจ้าของให้เปิดที่กั้น
ถ้าเจ้าของยังไม่มาจะพากันร้องเรียกเจ้าของลั่นทุ่งไปหมด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-191301-Zwischenablage047.jpg)
เราเดินผ่านหัวมันชนิดหนึ่งพอดี
เป็นหัวมันที่ชาวนาใช้เลี้ยงวัวนอกจากพวกหญ้าสด
หรืออาหารเสริมบางอย่างแล้ว
ยังมีพืชอีกอย่างหนึ่งที่ชาวนาใช้ในการเลี้ยงวัว
คือRunggle (รุ้งเก่อะ)หรือ Runkelruebe
คำว่าRungหมายถึงกลมหรืออ้วน
ซึ่งพืชที่เห็นคล้ายหัวมัน
จะมีลักษณะกลมเลยเรียกชื่อตามนั้น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-191527-Zwischenablage048.jpg)
ยังมีหัวมันคล้ายๆกันอีกชนิดหนึ่ง
ถ้าคนไม่รู้จักจะนึกว่าเป็นหัวอย่างเดียวกัน
คือZuckerrueben
ซึ่งเขานำมาใช้ทำเป็นน้ำตาลทรายขาว
ซึ่งในสวิตฯมีโรงงานทำน้ำตาลใหญ่2แห่งคือ
ที่AarbergและFrauenfeld
สนใจเข้าไปอ่านได้
http://www.zucker.ch/
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051024-191617-Zwischenablage052.jpg)
ตอนแรกเราจะเดินทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางใหม่
ซึ่งต้องผ่านบ้านชาวนาอีกแห่งหนึ่ง
และเข้าป่าอีกแห่งหนึ่ง
แต่ทำไม่ได้เพราะเริ่มจะเย็นมากแล้ว
เลยตัดสินใจเดินกลับบ้านโดยใช้เส้นทางเดิมที่เดินผ่านมา
กลับมาถึงบ้านเกือบทุ่มหนึ่ง
นอนแผ่สองสลึงนอนหลับเป็นตาย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051025-125052-dogswiss.gif)
ป้ากะลุงแข็งแรงม๊าก ป้าพอลจำเจ้าตัวนี้ได้ป่าวคะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051025-125248-bjf.jpg)
นู๋ชื่อ บ๊ะจ่าง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051025-125338-bkf.jpg)
นู๋ชื่อ บุ้งกี๋
สวัสดีครับป้า pall ,
ได้ความรู้เยอะเลยอ่านไปอมยิ้มไปโดยเฉพาะที่ป้าเล่าให้ฟังตอนที่ไปตามผึ้งกลับมาจากป่าส่วนภาพเด็กน่ารักมากและคิดว่าของเล่นที่ทำจากไม้คงไม่ต่างจากม้าก้านกล้วยที่เล่นในสมัยที่ยังเป็นเด็กของเด็ก
ไทยน่ะ ขอบคุณป้ามากสำหรับประสบการณ์ที่นำมาบอกเล่าไว้เป็นความรู้
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ