**ตอนที่1....***
อ่านได้จากที่นี่
<<<<ไปเดินเขาที่....Niesen....ตอน 1..>>>> (http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,1771.0.html)
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0004 ห้อง guide (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
**อุปการณ์ในการเดินเขา**
***Wanderschuhe**
รองเท้าเดินเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นักเดินเขาจะรู้เกี่ยวกับรองเท้าพวกนี้ดี
รองเท้าเดินเขาจะมีให้เลือกหลายแบบหลายราคา หรือรองเท้าที่ใช้เดินกับเขาระดับสูงกี่พันเมตร
รองเท้าเดินเขาจึงเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้ และหาซื้อใส่เดินเขาเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ต้องเรียนรู้ถึงเครื่องหมายของการเดินทางให้เข้าใจก่อนเพื่อความปลอดภัย
การเดินเส้นทางธรรมดาจะมีเครื่องหมายเดินให้รู้จะเป็นเครื่องหมายสีเหลืองแบบนี้
รองเท้าเดินจะค่อนข้างธรรมดา
แต่ถ้าเดินบนภูเขาสูงจะมีเครื่องหมายสีแดงขาว บอกให้รู้ซึ่งการเดินค่อนข้างจะอันตราย
หรือเครื่องหมายสีน้ำเงินจะเป็นการเดินบนภูเขาที่สูงมากอันตรายต้องระมัดระวัง
รองเท้าเดินเขาที่ดีจะต้องเป็นรองเท้าหนังและกันน้ำได้
พื้นรองเท้าเดินเขาที่ดีจะต้องมีพื้นเกาะหยักเป็นร่องตามภาพ สำหรับยึดเกาะไม่ไห้ล้ม
รองเท้าเดินเขาที่ดีมีคุณภาพมักจะมีราคาค่อนข้างแพงแต่ก็ใช้คุ้ม
ถ้าใครการเดินบนเขาสูงต้องยอมซื้อรองเท้าเหล่านี้
**การเรียนรู้เส้นทาง**
การเดินบนเขาสูงสำคัญมากที่สุดคือการใช้เส้นทางตามที่เขาบอกไว้ สิ่งนี้คนเดินเขาจะเคร่งครัดกัน
**Rucksaecke**
เป้สะพายหลังใช้ใส่อาหาร,เครื่องดื่ม,ของใช้บนภูเขา เป้เดินเขาพวกนี้จะมีหลายแบบหลายราคา
นักเดินเขาส่วนใหญ่จะรู้จักกันดี ขนาดเป้สะพายหลังจะมีหลายขนาด
ที่เราเรียกเป้สะพายหลังเหล่านี้เป็นลิตร มีทั้งขนาดใหญ่,ขนาดกลาง,และขนาดเล็ก
เป้สะพายเหลังขนาดใหญ่
จะประมาณ 80 ลิตรขึ้นไป
น้ำหนักจะร่วม3กก.ขึ้นไปซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของลิตร
เป้สะพายหลังเหล่านี้ส่วนมากจะใช้สำหรับนักเดินเขาที่ขึ้นไปค้างคืนบนยอดเขาแล้วแต่จำนวนวัน
ถ้าหลายคืนก็จะใหญ่หน่อย
เป้สะพายหลังขนาดกลาง
ประมาณ40ลิตรขึ้นไป น้ำหนักร่วม2กก.
เป้สะพายขนาดเล็ก24ลิตร
น้ำหนักร่วมกิโลกรัมหรือต่ำกว่านี้
เป้สะพายหลังที่ดีควรเป็นเป้ที่กันน้ำได้ เพราะอากาศบนเขาจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่เปียกข้างใน และเป้สะพายหลังที่ใช้เดินบนภูเขาสูง
ควรจะให้ความสะดวกกระชับกับแผ่นหลัง และมีที่รัดหน้าอกและรัดเอว
**สิ่งอื่นๆ**
ไม้เท้าเดินเขา(ตามใจชอบ) พวกครีมกันแดด,หมวก,แว่นตา,อุปกรณ์พยาบาล,เสื้อกันฝน ฯลฯ....
***ออกการเดินทางเดินเขา***
เครื่องหมายลูกศรสีแดงที่เริ่มจากร้านอาหารข้างบน(guesthouse)
คือเส้นทางที่เริ่มการเดินลงจากเขาไปยังข้างล่าง ซึ่งเป็นสถานีรถที่ขึ้นมาเมื่อเช้า
เครื่องหมายบอกกำหนดเวลาที่เราจะใช้ในการเดินเขา ซึ่งแล้วแต่ใครต้องการเดินลงไปยังจุดไหน
จุดที่กลุ่มของเราจะเดินลงข้างล่างคือ Muelenen
ซึ่งในกระดานเขาเขียนบอกไว้ว่าจะใช้การเดินทางทั้งหมด
เมื่อเดินไปถึงข้างล่างประมาณ 3ชั่วโมง30นาที ถ้าสังเกตจะเห็นตรง3เหลี่ยมจะเป็นเครื่องหมายขาวแดง
คือบอกให้คนที่ต้องการเดินเขารู้ไว้ว่าเส้นทางจะต้องระมัดระวังและอันตราย
รองเท้าที่จะใส่เดินเหมาะสมหรือไม่
หัวหน้าทัวร์กำลังปรึกษาหารือกับลูกทัวร์ดูเส้นทางที่จะใช้เดิน ลูกทัวร์คือน้องชายลุงฟังแบบตั้งใจมากขนาดเอามือใส่กระเป๋าเลย
หลังจากนั้นเราก็เริ่มต้นออกดินทางจากNiesen Kulm(2332 m)
เพื่อลงไปข้างล่าง ถนนสายเล็กๆที่เห็นจากเขาอีกด้าน
คือเส้นทางที่เราต้องใช้ในการเดินทาง
การเดินช่วงนี้เราจะเห็นวิวของเทือกเขาJura และพรมแดนฝรั่งเศสซึ่งเห็นแถบสีขาวไกลๆ
การเดินทางลงเขาช่วงนี้ต้องระมัดระวัง
เพราะการเดินบนก้อนหินเล็กๆและยิ่งเดินบนที่ราดสูงชัน
จะกลิ้งลื่นได้ง่ายๆเขตที่เดินเขตนี้
จะมีเครื่องหมายขาวแดงเตือนบอกตลอด
ทางที่เดินจะกว้างพอเดิน
การเดินเขาถ้าเป็นที่ชันมากๆ
เขาจะเอาไม้ท่อนเล็กๆมาทำเป็นบันใดบริการให้คนเดินเขาเดิน
เส้นทางเดินเขาที่นี่แต่ละแห่งจะมีคนสำรวจเส้นทาง
และจับระยะทางทุกแห่งก่อน
คนที่ทำหน้าที่เหล่านี้จะเป็นกลุ่มนักเดินเขา
หรือมีใจรักและรู้เกี่ยวกับเส้นทางดี
เส้นทางแต่ละเส้นที่ใช้เดินเขาจึงเชื่อใจได้
เราเริ่มต้นใช้เส้นทางที่เห็นในรูป
วิวเขาอีกด้าน
ช่วงนี้ต้องใช้ความระมัดระวังที่สุดเพราะทางเดินจะสูงชันและเล็กถ้าเดินไม่ระมัดระวังกลิ้งตกเขาก็หมายถึงเลี้ยงไม่ค่อยโตเท่าไร
เราเดินกันมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงยอดแล้ว
ช่วงที่เดินช่วงนี้เราจะเห็นวิวเขาสวยสุดๆและเห็นหมู่บ้านข้างล่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นKiental ,Gerihorn
เส้นทางที่เราเดินผ่านมาจากขางบนสุดที่เห็นคือ guesthouseที่ไปดื่มกาแฟกันมา
เดินมาถึงจุดสูงสุดแล้วพากันหยุดดูวิวเขา
เก็บความสวยไว้ในความทรงจำและเริ่มการเดินทางกันต่อไป
ขณะที่เราพากันเดินสวนกับคนเดินเขา
ที่เดินมาจากอีกด้านหนึ่ง
เส้นทางที่ใช้เดินผ่านมา
การเดินช่วงนี้เราจะเห็นวิวอันสวยงามของ
Thun และทะเลสาบทูน( Thunersee)
เราเดินกันไปเรื่อยๆด้วยความระมัดระวังมากที่สุด
ระวังไม่ให้เกิดการสะดุด
สังเกตดูจะเห็นว่าเขาสูงชันแค่ไหน
ถ้ากลิ้งลงไปจะไม่มีอะไรให้เกาะเลย
หยุดพักชมวิวข้างล่าง
โชคดีมากที่สุดที่ได้เจอกลุ่มแพะภูเขา (Gemsen)
เป็นจำนวนมากหลายกลุ่มนับดูร่วม30ตัว
กำลังเล็มหญ้าอยู่
ช่วงนี้ยังมีหิมะอยู่นิดหน่อย
**นำภาพตัวอย่างมาให้ดูหน้าตาของแพะภูเขาให้เห็นอย่างชัดๆ**
ขอขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายที่ไปขอยืมมา
แพะภูเขา Gemsen
คนสวิสบางคนเชื่อกันว่าน้ำมันของสัตว์พันธ์นี้
ช่วยรักษาโรคไขข้อได้
หลังจากนั้นเราก็พากันเดินกันต่อไป
เส้นทางที่เดินผ่านมา
นอกจากจะเจอแพะภูเขาแล้ว
เรายังโชคดีมากที่ได้เจอดอกEnzianพันธ์ดอกเล็ก
ซึ่งจะออกดอกฤดูใบไม้ล่วง
Enzian พันธ์นี้จะเห็นถ้าใครอยากเห็นตอ้งขึ้นมาบนภูเขา
กลีบดอกเล็กสีฟ้าสดใสสวยมาก
Enzian จะมีอีกพันธ์หนึ่งลักษณะคล้ายกันแต่กลีบดอก
จะเรียวเล็กกว่าซึ่งจะออกดอกฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
เราจะเห็นถึงความแตกต่างกันได้
การถ่ายรูปช่วงนี้ยอมรับว่าไม่สามารถจัดกล้องได้เลย
ใช้วิธีเดินกดเอาและต้องระมัดระวังมากที่สุดไม่ให้สะดุดล้ม
รูปออกมาไม่ค่อยชัดและไม่ค่อยดีเท่าไร
บางครั้งต้องหยุดนิดหน่อย
เพื่อพักหายใจจากการเดินทาง
เห็นหลังคาแดงแต่ไกลเป็นจุดที่เราจะหยุดพักกินอาหารจากเป้กัน
บ้านหลังคาแดงนี้เคยลงรูปจากตอน1มาแล้ว
อาหารที่กินกันจะเป็นอาหารง่ายๆ
เช่นขนมปัง,ใส้กรอก,ผลไม้,เนยแข็งและน้ำดื่ม
บ้านที่เห็นเหล่านี้จะเป็นบ้านร้างชั่วคราวจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
ชาวนาจะพาฝูงวัวขึ้นมาข้างบนอีก
บ้านเหล่านี้เป็นบ้านชาวนาที่พาฝูงวัวขึ้นมาบนเขาช่วงไม่กี่เดือน
การหยุดกินอาหารกลางวันเรากินกันนานพอสมควร
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวจะออกเดินทางกัน
ก่อนจะออกเดินทางเราก็พากันทำธุระส่วนตัว
ห้องส้วมของชาวนาบนภูเขาจะยังคงเป็นห้องส้วม
ที่คนไทยบางคนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน
ส้วมที่นั่งทำธุระจะเป็นรูกลมแบบนี้
สำหรับขับถ่ายทั้งหนักและเบาจะไม่มีเอาน้ำราด
กลิ่นจะพุ่งขึ้นมาเหม็นมาก
ถ้าก้มมองข้างล่างจะเห็นสิ่งที่เราปล่อยไปทั้งของเก่าและของใหม่
ส้วมแบบนี้เราเรียกว่าBlumps Clo..(บุลมโคล)
พอทำธุระเสร็จก็ปิดฝาแบบนี้
หลังจากนั้นก็พากันเดินทางต่อไป
วิวจะเห็นบางแห่งชัดมากกว่าข้างบน
วิวสวยมากสุดๆ
วิวที่เห็นนี่คือEiger Moench Jungfrau
และSchwalmelen เขาที่เป็นสีเข้ม
การเดินเขาช่วงนี้เป็นช่วงที่อันตรายมาก
ถ้าพลาดนิดเดียวก็เป็นอันว่าเลี้ยงไม่โต
ทางชันมากและต้องปีนป่ายก้อนหินใหญ่
ขณะที่เดินจะเห็นภูเขาBreinzergrad
ซึ่งอยู่ทางแถบBreinzersee
สังเกตดูทางที่เรากำลังเดิน จะเล็กนิดเดียวและชันมาก
เห็นเขาสูงข้างบน
ช่วงนี้การเดินเกร็งสุดๆเพราะถ้าลื่นพลาดก็หมายถึงเราลงข้างล่าง
ดูทางว่าอันตรายแค่ไหนสูงชันมาก
ขนาดน้องชายลุงต้องบ่นออกมาเลย
ช่วงนี้เราตั้งใจเดินกันมาก
บางครั้งลื่นนิดหน่อย
และไม่สามารถถ่ายรูปได้
ดูแนวทางจะเห็นความชันของเส้นทาง
ในรูปเห็นไม่ชัดเท่าของจริงซึ่งจะเห็นว่าชันถึงหุบเขาข้างล่างเลย
ช่วงนี้เราเดินมาใกล้ถึงสถานีรถไฟสถานีกลางที่ชื่อว่าSchwandegg
ที่ต้องเปลี่ยนสถานีเพื่อขึ้นรถไฟไปNiesen หรือลงไปสถานีข้างล่าง
ในป้ายเขียนบอกว่าอีก2นาทีจะถึงสถานี
เราเดินผ่านสถานีSchwandegg
ช่วงนี้ถ้าใครเหนื่อยเดินไม่ไหว
ไม่ต้องการเดินลงไปข้างล่าง
ก็สามารถนั่งรถไฟแทนการเดินลงเขาได้
ช่วงที่เราเดินนี้ยังตั้งอยู่บนความสูงอยู่1667 m
เรายังต้องเดินลงเขากันต่อไป
ช่วงนี้จะเห็นวิวของหมู่บ้านAeschiข้างล่างชัดเจนมาก
เห็นหมู่บ้านAeschiและเขาNiederhorn
เราเดินไปเรื่อยๆจนถึงป้ายที่เขียนบอกไว้ว่า
จะเดินไปถึงสถานีMuelenenที่อยู่ข้างล่าง
ต้องใช้เวลาในการเดินทางอีก1ชั่วโมงกับ10นาที
ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะถึงข้างล่าง
ช่วงนี้การเดินทางลำบากสุดๆ
ทางที่เดินมีแต่รากไม้เต็มไปหมดต้องดูให้ดีไม่เช่นนั้นจะกลิ้งล้ม
ขณะที่เดินหูก็ได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าดังลั่นไปทั้งหุบเขา
พอเรามาถึงทางข้างหน้าก็เห็นป้ายเขียน
บอกเตือนว่ามีการตัดไม้อยู่ข้างหน้า
การตัดไม้ที่นี่จะมีป้ายเตือนบอกไว้
เจอแล้วคนตัดไม้ซึ่งเป็นของรัฐบาล
ป้าที่เราเดินมาบนเขาเป็นของรัฐ
ไม้ที่ตัดนี้เขาขายเพื่อทำเฟอร์นิเจอร์
การขนส่งจะใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์มาทำการขนส่งไปข้างล่าง
ช่วงนี้เราต้องปีป่ายต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นขวางไว้ตลอด
และเดินบนกิ่งซึ่งทำให้ลื่นได้
เนื้อตัวเสื้อผ้าติดยางไม้ไปหมด
ลุงไม่รู้ทำอีท่าไหนเป้สุดรักหูขาดต้องนั่งมัดจึงออกเดินทางกันได้
วิวช่วงนี้เป็นวิวของAeschiriedที่ไปเดินกับลุงมาแล้ว
การเดินทางครั้งนั้นเขียนบันทึกไว้เรียบร้อยถึงการเดินทาง
แต่มือพลาดลบออกไปหมดน่าเสียดายมาก
การเดินทางลงเขาช่วงนี้เป็นช่วงที่การถ่ายรูปจะขาดตอน
เพราะต้องทำสมาธิกับการเดินอย่างมาก
มีหลายครั้งไม่ว่าลุงหรือป้าต้องลื่นถลาเกือบตกเขา
ทางที่เดินช่วงนี้มีใบไม้ตกเต็มไปหมด
และยิ่งกิ่งสนหล่นอันตรายสุดๆเพราะทำให้ลื่นได้
น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้
จะทำให้เห็นเด่นชัดว่าอันตรายแค่ไหน
ทางที่เดินลงไปข้างล่างเต็มไปด้วยใบไม้
และรากไม้เต็มไปหมด
บางครั้งต้องยึดเหนี่ยวไม่ให้ลื่นตกเขา
ขณะที่เดินเสียงลุงตะโกนบอกว่าเห็นดอก
Campanula (Glockenblumen)
เป็นดอกระฆัง ความยาวของต้นประมาณ50-150ซม.
ลักษณะใบจะกว้างยาวรี
ลักษณะดอก ยาวประมาณ4-5ซม.
ดอกไม้ลักษณะคล้ายกันแบบนี้สามารถเห็นได้จากข้างล่าง
แต่ดอกไม้ที่เห็นในรูปจะเจอเฉพาะบนเขาอยู่ในป่า
ดอก Campanulaมีมากมายหลายพันธ์สวยสุดๆ
เราเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่ง
เป็นครั้งแรกที่เดินเขากันโดยไม่ได้เรียนรู้ข้อมูลมาก่อน
โดยใส่รองเท้าคัทชูและรองเท้าผ้าใบเดินเขา
การเดินทางอันตรายมากเห็นลื่นและต้องคลานตลอด
ถ้าไม่คลานจะกลิ้งลงเขาแน่ๆ
เห็นลูกสาวร้องไห้พ่อต้องช่วยดึง
จากจุดีแดงเห็นภาพไม่ชัดเขากำลังคลานลงเขากัน
ไม่กล้าถ่ายตรงที่เขากำลังคลานเพราะเสียมรรยาทมาก
เลยแอบถ่ายไวมากภาพเลยมัว
ช่วงนี้ป้าล้มหลายหนเพราะใบไม้ทำให้ลื่นมาก
เราเดินใช้เวลานานพอสมควรเพราะต้องระวังสุดๆ
เดินพ้นออกจากป่าแล้วช่วงนี้
ป้าดีใจมากไม่ต้องระวังในการเดินอีกต่อไป
และเริ่มเห็นหมู่บ้านข้างล่าง
เห็นหมู่บ้านใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ดีใจมากเห็นป้ายเขียนบอกทาง
ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางที่ชี้บอกเดินทางไปNiesen
ที่เดินขึ้นข้างบน
ยอมรับว่าขาเริ่มแข็งเพราะใช้กำลังและเกร็งสุดๆ
หน้าขาเริ่มปวดหน่อยๆ
เห็นสถานีรถที่ขึ้นมาดีใจมาก
เราเดินผ่านสะพานเพื่อไปหารถที่จอดไว้ข้างๆสถานี
ลุงกับน้องชายเดินมาถึงรถก่อน
ป้าเดินตามไม่ไหวต้องค่อยๆเดิน
พอมาถึงเห็นสองคนกำลังโด๊ปดื่มน้ำกัน
ช่วงเดินเขาไม่สามารถดื่มน้ำกันได้
ทั้งคู่ยิ้มย่องผ่องใส
ในที่สุดเราก็กลับมาถึงข้างล่างกันอย่างปลอดภัย
**ตู้สีฟ้าที่เห็นด้านซ้ายมือ**
เป็นตู้ที่คนสวิสนำขวดที่ใช้แล้วมาทิ้งใส่ตามช่องที่เขียนบอกสีไว้
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวขับรถกลับบ้านกัน
NIESEN NIESEN NIESEN
การเดินเขาครั้งแรกที่Niesenครั้งนี้
คงไม่ลืมอีกเลยในชีวิต
เวลาที่ใช้ในการเดินทางนานกว่าที่เขาเขียนไว้
เราเดินทางใช้เวลาทั้งหมด4ชั่วโมงกว่าๆ
กว่าจะเดินกันมาถึงข้างล่าง
ปีหน้าฤดูใบไม้ผลิจะไปเดินดูดอกไม้ภูเขากันใหม่
สวัสดีค่ะ ป้าพอล
โอ้โห งามไฉไลไร้คำบรรยายจริงๆ
จะสูดอากาศให้เต็มปอด
และใจจะพองโตมากเลยถ้าได้ไปยืนบนโน้น
แต่ได้เห็นภาพก็ยังดี ขอบคุณนักๆเจ้า
ขุนเขาช่างยิ่งใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว มันดูมีพลังแลอำนาจ
บางครั้งมนุษย์เราคิดว่าเรามีอำนาจแต่เหนือสิ่งอื่นใดธรรมชาติก็ย่อมมีอำนาจเหนือกว่า
ธรรมชาติสร้างให้โลกมีความสมดุลและเป็นเสมือนยาจรรโลงใจให้มนุษย์
ป.ล. ขอบคุณป้ามากที่ได้นำสิ่งดีๆมาแบ่งปันเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
สวยมากเลยค่ะป้า
ปล. เมื่อไรป้าจะทำให้ล็อคอินเข้าแล้วไม่ต้องใส่ชื่อทุกครั้งมั่งอ่ะ อิๆๆ