Pall's Webboard

General Category => Pall`s short stories Webboard => Topic started by: pall on November 13, 2005, 08:36:04 AM

Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:36:04 AM
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051112-173604-Zwischenablage01000000000.jpg)


**DREIKOENIGSTAG**
**วันกษัตริย์สามพระองค์***  
 
**วันที่ 6มกราคม**  
เป็นวันสำคัญที่ชาวคริสต์ทุกคนทราบกันดี  
เป็นวันที่กษัตริย์ทั้งสามพระองค์คือ
Caspar,MelchiorและBalthasar
ได้นำของขวัญ
เช่น Weihrauch(พวกกำยานมีกลิ่นหอมมาก)  
Gold (ทอง) Myrrhe(ชันหอม)  
นำมาถวายแด่องค์พระเยซู

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0025 ห้อง stories (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:41:10 AM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051112-174110-10413-005431-Clipboard09.jpg)

**วันที่ 6 มกราคม**  
 วันนี้พวกเด็กๆและผู้ใหญ่ทั้งหลายชอบกันมาก  
 เพราะจะมีการคัดเลือกวัดดวงว่าใคร  
 จะได้รับเลือกเป็นพระราชาและราชินี  
 ทุกปีที่สวิตฯเราจะมีพระราชาราชินีเต็มไปหมด  
 และอีกอย่างปีหนึ่งมีหนเดียวที่จะได้กินขนมปังรสหวานอร่อย  
 และมีความหมายแบบนี้ ขนมปังแบบนี้เราจะเรียกว่า  
 **DREIKOENIGSKUCHEN**  
 **ขนมกษัตริย์สามพระองค์**  
 
 พวกเด็กๆจะรอคอยวันนี้กันแบบคงอยากสรวมมงกุฎกันมาก  
 ลูกชายป้าสองคนมันจะนับวันที่....ทุกวัน....อยากให้ถึงวันนี้ไวๆ  
 ยิ่งลูกชายคนโตของป้ามันชอบกินมากขนมปังแบบนี้มาก  
 และอีกอย่างมันเป็นคนกินเก่ง
 ถ้าใครเชิญไปไหนไม่ต้องกลัวของเหลือ  
 เพราะสามพ่อลูกกินกันเก่งและจุมาก  
 บ้านป้าจะไม่มีคำว่า ของเหลือต้องเททิ้ง
 
 **วันที่ 6 มกราคม**  
 
 ขนมที่เห็นในรูปข้างล่างจะมีเครื่องหมายราชาอันละ1องค์  
 วันนี้ที่อื่นเขาจะมีราชาแค่คนเดียว  
 แต่บ้านป้าถ้าคนไหนหาเครื่องหมายเจอ  
 อีกคนแทบจะตีกันตาย  
 ตกลงต้องให้สรวมมงกุฎกันสองคนตัดปัญหาไป  
 สองคนมันจะยิ้มย่องผ่องใสกันทั้งวัน  
 เวลาทะเลาะกันยิ่งหนักใหญ่  
 เพราะต่างคนต่างเป็นพระราชา  
 
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:46:13 AM
https://www.google.ch/search?q=DREIKOENIGSKUCHEN&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=gfw1U_6JMZSjhgfljIGACQ&ved=0CAcQ_AUoAg&biw=1120&bih=537

**DREIKOENIGSKUCHEN**  
 
ประวัติของขนม**กษัตริย์สามพระองค์**  
 
ชาวโรมันเก่าแก่เป็นต้นตำรับทำขนมแบบนี้  
ทำเพื่อถวายแด่พระเจ้าSaturn ผู้ดูแลคุ้มครอง  
พวกพืชพันธัญญาหารได้ผลอุดมสมบูรณ์คนอยู่กันไม่อดอยาก  
การถวายสักการะขอบคุณต่อท่าน  
ก็คือการทำขนมที่ทำมาจากแป้ง  
การถวายเครื่องสักการะจะทำกันฤดูหนาว  
และจะจัดงานฉลองกันทั้งหมดทั่วทุกหมู่บ้าน  
วันนี้จัดว่าเป็นวันที่ทุกคนมีความเสมอภาคและมีอิสรเสรี  
พวกทาสทั้งหลายจะได้สิทธิเป็นพิเศษ  
และมีสิทธิได้ร่วมฉลองกับงานรื่นเริงแบบนี้ด้วย  
 
การฉลองงานรื่นเริงแบบนี้ได้มีการจัดการละเล่นที่ยิ่งใหญ่  
และสนุกมากคือการใส่เครื่องหมายลงในขนมที่ทำ  
เครื่องหมายนี้ถ้าใครได้รับจะได้รับสิทธิพิเศษ  
และได้เป็นพระราชาแต่เป็นพระราชาแค่วันเดียว  
วันนี้คนที่ได้รับแต่งตั้งจะสามารถทำอะไรหรือออกคำสั่ง  
ได้ทุกอย่างเทียบเท่าพระราชาจริง............  
ถึงจะเป็นพระราชาแค่วันเดียว...แต่ก็คุ้มมาก.........  
พวกทาสทั้งหลายในยุคนั้นต่างก็มีสิทธิไปเลือกด้วย  
ถ้าหาเครื่องหมายนี้เจอก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นราชาทันที  
วันนี้ถึงได้กล่าวว่าเป็นวันที่มีสิทธิเสมอภาคกัน  
ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ  
 
**เครื่องหมายที่ใช้ใส่ลงไปในขนม DREIKOENIGSKUCHEN **  
 
ชาวโรมันจะเอาเม็ดถั่วใส่ลงไปในขนม  
ยุคนั้นยังไม่มีรู้จักเซรามิคหรือรูปพลาสติกอะไร  
วิธีเดียวที่ทำได้คือการใช้เม็ดถั่ว  
และเม็ดถั่วต้องไม่ใหญ่ด้วยเพราะคนเลือกจะใช้นิ้วกดหา  
การหาแบบนี้หายากมากต้องโชคดีจริงๆจึงจะเจอ  
การใช่ถั่วใส่ลงไปทำให้รสชาติของขนมไม่เปลี่ยนแปลง  
 
การเรียกชื่อยุคชาวโรมันยุคนั้นจะเรียกราชาแบบนี้ว่า  
**BOHNENKOENIG** พระราชาถั่ว  
ต่อมางานพิธีฉลองรื่นเริงแบบนี้ได้แพร่ขยายเข้ามาสู่ยุโรป  
ปี 1311 สวิตเซอร์แลนด์ได้ฉลองและมีการจัด  
**DREIKOENIGSTAG**กับเขาด้วย  
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:50:58 AM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051112-175058-10413-010109-Clipboard12.jpg)

สมัยก่อนคนสวิสจะใช้เครื่องหมายทำด้วยเงินใส่ลงไปในขนม  
 ต่อมาปี 1850 คนเริ่มเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายที่ใส่ลงไปในขนม  
 ซึ่งจะใช้เครื่องหมายเป็นเซรามิค
  และพอย่างเข้าปี1950 ก็ใช่พลาสติกทำเป็นรูปราชา  
 ใส่ลงไปและเครื่องหมายอันนี้ใช้กันจนถึงทุกวันนี้  
 
 อีกไม่กี่วันจะถึงวัน**DREIKOENIGSTAG**แล้ว  
 เราจะได้กินขนมปังอร่อยๆแบบนี้อีก  
 และเราจะได้มีราชากับราชินีในบ้านเราหลายคน  
 ขอให้ทุกคนฉลองและสนุกกับงานต้อนรับราชาราชินี
 
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:55:54 AM

https://www.google.ch/search?q=DREIKOENIGSKUCHEN&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=gfw1U_6JMZSjhgfljIGACQ&ved=0CAcQ_AUoAg&biw=1120&bih=537

**วิธีทำขนม**
**DREIKOENIGSKUCHEN**  
 
**เครื่องปรุงที่ใช้ทำ**  
 
แป้ง500กรัม  
ยีสต์ ½ อัน  
นมสด ¼ ลิตร  
เนย ( Butter)หรือ Margarine 50กรัม  
ลูกเกดองุ่นแห้ง 100Gramm  
ไข่ไก่ 1ฟอง  
ไข่แดง 1 ฟอง  
น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา  
ช็อกโกแลต1 ก้อน(หรือจะใช้เครื่องรูปกษัตริย์พลาสติกแทนก็ได้)  
ครีม 1 ช้อนโต๊ะ  
เกลือ 1 ช้อนชา  
 
**วิธีทำขนม**  
 
1.นำยีสต์มาใส่จานใส่นมสดลงไป1ช้อนโต๊ะบดให้เหลว  
2.นำเนยไปใส่ในหม้อตั้งไฟให้ละลายใส่นมสดลงไป  
คนให้เข้ากันแล้วยกลง  
3.นำแป้งมาใส่ชามใหญ่ใส่เกลือลงไปผสมให้เข้ากัน  
แล้วใส่เนยกับนมที่ผสมกันไว้มาเทใส่ลง  
4.นำไข่กับน้ำตาลมาตีให้เข้ากันแล้วเทใส่ลงไปในชามแป้ง  
และใส่ยีสต์สดลงไป  
5.นวดแป้งไปมาประมาณ 10 นาที  
และใส่ลูกเกดหรือองุ่นแห้งลงใต้แป้งนวดให้เข้ากัน  
6.พอนวดครบ 10 นาทีแล้วเอาผ้าคลุมเอาไปตั้งในที่ให้ความอุ่น  
เพื่อให้แป้งฟูปล่อยทิ้งไว้ 20 นาที  
7.เอาSpringformที่เราจะใช้อบที่มีขนาด 20-25 ซม.  
เอาเนยมาทาให้ทั่ว  
8.เอาแป้งที่เราคลุมไว้ออกมานวดปั้นแบ่งออกเป็น5 ก้อน  
9.ปั้นเป็นกล้อนกลมลูกแรกวางใส่ตรงกลาง  
ลูกต่อๆไปเอามาใส่ลงให้หมดจนเต็มSpringform  
 
**ช็อกโกแลตหรือรูปกษัตริย์พลาสติก  
อย่าลืมเอาใส่ลงในก้อนแป้งก้อนใดก้อนหนึ่ง**  
 
10.นำครีมมาตีกับไข่แดงให้เข้ากันและนำไปทาลงบนแป้ง  
ที่ปั้นไว้ให้ทั่วแล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที  
11.เปิดเตาอบด้วยความร้อนประมาณ 200 องศา  
อบประมาณ 40 นาทีเป็นอันว่าเสร็จ  
เอาลงออกจากเตาอบ  
 
**เป็นอันว่าวันนั้นถ้าใครได้เจอสัญลักษณ์แบบนี้  
จะได้เป็นพระราชาและพระราชินีได้1วัน**  
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: นี่นะ on November 13, 2005, 08:57:05 AM
แปลกนะคะที่วัฒนธรรมของโรมันไปไกลถึงสวิสเซอร์แลนด์ อันนี้เป็นอะไรที่น่าคิด .... น่าสนใจ แสดงว่าที่สวิสเอง ก็คงจะมีพวกกรีกโรมันอยู่กันไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมคะป้า
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: pall on November 13, 2005, 08:59:08 AM
ไม่น่าแปลกใจเลยจ๊ะนี่นะเพราะว่าโรมันเข้ามาปกครองสวิส  
 ร่วม 400 ปีเราได้รับวัฒนธรรมของชาวโรมันเต็มตัว  
 ทั่วสวิตฯเราจะยังเห็นสิ่งก่อสร้างและประเพณีบางอย่าง  
 ของชาวโรมันอยู่ ทางเดินสมัยก่อนยังมีอีกมากมายหลายแห่ง
 ที่เหลือไว้ให้เราได้สัมผัสและเห็น  
 ที่ Bern ก็มีให้เห็นทั่วๆไป  
 
 ใครมาเที่ยวลองมาดูที่ St. Bernhard อยู่แถบรัฐ Wallis  
 จะเห็นถนนที่ชาวโรมันมาสร้างไว้เพื่อใช้ในการคมนาคม  
 ที่รัฐนี้ยังคงเหลืออารยะธรรมของชาวโรมันมาก  
 
 ใครไปรัฐ Wallisถ้าผ่านอุโมงค์ St. Bernhard  
 จะยังสัมผัสกับกลิ่นไอของชาวโรมัน  
 แถวนี้ขึ้นชื่อมากถึงความสวยงามตามธรรมชาติ  
 ชีวิตความเป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม  
 และการเดินเขาสวยมากป้าไปเดินมาแล้ว ฯลฯ  
 ยิ่งทางตอนเหนือของWallis  
 จะมีหมู่บ้าน Bourg-St-Pierre, Liddes, Orsières
  และ Sembrancher  
 คนไปเที่ยวกันมาก และยิ่งถ้าเอ่ยถึง MARTIGNY  
 นี่เป็นที่รู้จักกันดี เป็นเมืองของชาวโรมันตัวจริงเลย  
 ป้าไปมาหลายหนแล้วแต่ไม่เคยเบื่อ  
 นี่กำลังจะจัดทัวร์ไปดูเขาชนวัวกัน
 กีฬาแบบนี้เป็นของชาวโรมัน  
 ที่ถ่ายทอดมาถึงปัจจุบัน  
 
 ที่ Avenchesชาวโรมันเข้ามายึดอยู่อาศัย  
 ทำเป็นจุดศูนย์กลางของชาวโรมัน  
 พวกนี้จะสร้างกำแพงปลูกล้อมรอบ
 ป้องกันข้าศึกให้พวกตัวเองอยู่  
 ช่วงนั้นก็ราวๆประมาณ 5หมื่นคน  
 Avenchesอยู่ไม่ไกลจากบ้านป้าเลย
 ยังเคยพาเด็กไ ปมุดใต้กำแพงไปดูส้วม  
 ที่อาบน้ำและสนามกีฬาของชาวโรมันยุคนั้น  
 เรียกว่า Avenches เป็นของชาวโรมันอย่างแท้จริง  
 หลักฐานทุกอย่างหาได้จากที่นี่ นี่คือตัวอย่าง  
 การแสดงละครกลางแจ้งของชาวโรมัน
Title: <<<DREIKOENIGSTAG>>>
Post by: black tea on November 13, 2005, 09:00:41 AM
สวัสดีค่ะป้าจ๋า นี่นะ สบายดีนะคะ  
 ขอบคุณป้านะคะ ที่นำเรื่องราวดีๆ มาเล่าสูกันฟัง  
 ชาดำเคยไปเที่ยวปราสาทที่สวิสนะคะ (จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว)  
 ชาดำชอบดูปราสาทค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนๆ  
 ในรายการทัวร์จะต้องมีทัวร์ปราสาทอยู่ด้วยตลอดเลยค่ะ  
 จนเพื่อนๆ พากันแซว หาว่าเราบ้าชีวิตคนโบราณ  
 ชาดำประทับใจปราสาทที่สวิสมากค่ะ เห็นได้ชัดว่าคนสวิส  
 มีชีวิตกินดีอยู่ดี มาตั้งแต่โบราณ เสียดายชาดำจำชื่อเมืองไม่ได้  
 ว่าอยู่เมืองอะไร ชาดำทึ่งในความสามารถของคนโบราณค่ะ  
 ว่าเขาช่างมีความเพียรเหลือเกิน ในการสร้างสิ่งปลูกสร้างมหึมา  
 เพราะสมัยก่อนไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย หรือเครื่องทุ่นแรง  
 เหมือนสมัยปัจจุบันนี้ แล้วพวกเขาก็ต้องคอยระวังภัยตลอดเวลา  
 เพราะทุกปราสาทจะมีพวกอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้จัดโชว์อยู่ทุกที่  
 ชาดำขอเวลาไปดูรูปเก่าๆ ที่ถ่ายเก็บไว้ เดี๋ยวจะเอามาให้ดูด้วยค่ะ