Pall's Webboard

General Category => ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆ => Topic started by: schwenner suwannee on May 14, 2008, 01:11:29 AM

Title: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: schwenner suwannee on May 14, 2008, 01:11:29 AM
สวัสดีป้า pall ด้วยนะคะ ตอนอยู่ที่สวีสกับแฟนอยู่ที่ Seebacher Zurich.  เหงา มากๆ เลย ตอนอยู่ที่นั่น แต่ก็คงจะต้องกลับไปอยู่กับแฟนเร็วๆนี้  อีกใจหนึ่งก็อยากไป ใจหนึ่งก็คิดถึงบ้าน ตอนที่ป้า pall ไปอยู่ที่นั่นใหม่ๆคิดถึงบ้านบ้างรึเปล่าคะ :D
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: pall on May 14, 2008, 03:06:49 AM
สวัสดีค่ะคุณSeebacher Zurich 
ยินดีต้อนรับน้องใหม่ค่ะ  :Dร้องเพลงลูกทุ่งขยับคอสวิสต้อนรับ เอไม่ทราบว่าเคยฟังไหมคะ? ::)
คุณจะมาสวิตฯเมื่อไรคะ?อย่ามาตอนฤดูหนาวเลยค่ะเพราะจะยิ่งดีเพรสมากขึ้นกว่าเดิม
ช่วงนี้สวิสสวยมาก ดอกไม้สวยมากค่ะ
เข้าใจถึงความรู้สึกค่ะกว่าจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างสูงค่ะ
เมื่อ30กว่าปีที่ผ่านมา..ช่วงนั้นไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนสมัยนี้  ไม่มีอาหารไทย ไม่มีหนังสือพิมพ์อ่าน
ไม่มีข้าวไทยกิน ไม่มีน้ำปลา ฯลฯ  ยอมรับค่ะว่าอยากกลับบ้านมาก  ว้าเหว่ และพูดภาษากับเขาไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ และตั้งท้องด้วย  คนไทยตอนนั้นมีไม่มากเหมือนสมัยนี้  แต่ละคนจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ   ถ้าเจอกันจะไม่ค่อยยิ้มให้กินนัก ป้าสงสัยนะที่เขาบอกว่ายิ้มสยาม สงสัยคงจะไม่ใช่ยิ้มจริงซะแล้ว

คนรุ่นหลังป้าว่ามีบุญนะ เพราะทันสมัยมาก อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ จะดูหนังฟังละคร ฟังเพลง คุยสกายเป้
หรือไม่เป้ ไม่ต้องโฮมซิคแล้ว คนไทยมีมากในสวิส ที่ซูริคมาก ไม่แน่คุณอาจจะหายเหงาหรืออยากอยู่คนเดียวก็ได้   คิดถึงบ้านตอนมาอยู่ใหม่ๆแต่ตอนนี้ป้าไม่คิดถึงแล้วค่ะรักที่นี่มาก 
ถ้าคุณมาอยู่จริงๆถ้าเหงาก็แวะเข้ามาคุยกันที่นี่ ถ้าไม่มีคนคุยด้วย  ป้าจะเป็นคนหนึ่งที่คุยกับคุณค่ะ
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: Beck on May 14, 2008, 02:43:10 PM
Hello Paa Pall
Hello schwenner suwannee

เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แต่งงานและต้องย้ายตามสามีมาอยู่ที่สวิส ปีนี้ก็ย่างเข้าปีที่สามแล้วค่ะ แต่อยากบอกว่าอยู่ยังไงก็ไม่ชิน อาจเป็นเพราะว่าไม่ชอบไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่อย่างมากๆ และที่นี่ก็เงียบเกินความจำเป็น กอรปกับไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าเมืองไทยบ้านเราค่ะ เคยคิดนะคะต่อให้รวย ไม่ขัดสนเงินทองอยู่สวิสก็ไม่มีความสุขในแบบที่ต้องการ

ตอนนี้ก็ไม่คิดมากเพราะคิดอย่างเดียวว่าเรามาอยู๋เพื่อสามีและอีกไม่กี่ปีคงปล่อยบ้านที่สวิสให้เขาเช่าและย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพบ้านเราทำธุรกิจของเราที่นั่น และ อีกอย่างคือเรากลับไทยบ่อยๆ ต่อปี และอยู่ที่เมืองไทยหลายเดือนทีเดียว เพราะมีบ้านอยู่สองที่ แต่ค่าใช่จ่ายบานเลยทีเดียว เฮ้อ คิดแล้วเกิดอาการงกขึ้นในบัดดล อิอิ

อ้อ. . ได้อ่านที่ป้าpallพูดไว้ เห็นภาพเลยค่ะ และก็แอบยิ้มตอนป้าพอลบอกว่า

คนไทยตอนนั้นมีไม่มากเหมือนสมัยนี้  แต่ละคนจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ   ถ้าเจอกันจะไม่ค่อยยิ้มให้กินนัก ป้าสงสัยนะที่เขาบอกว่ายิ้มสยาม สงสัยคงจะไม่ใช่ยิ้มจริงซะแล้ว

อิอิ สมัยนี้ก็ยังมีแบบนี้อยู่บ้างประปราย แต่ยังไงอยากบอกคุณ schwenner suwannee ว่าถ้ามีอะไรก็มาคุยกับป้าได้ที่นี่นะคะ เราเองไม่ได้เข้ามาโพสมาเขียนอะไรที่นี่บ่อยๆ แต่ก็ได้มาอ่านบ้างเป็นบางเวลา ก็จะได้อ่านสิ่งที่ป้าตอบและที่ป้ามาโพสความรู้ต่างๆ เราก็อยากบอกว่า ป้าPall เป็นคนไทยคนหนึ่งในสวิสที่เรารู้สึกได้ว่าป้าเป็นคนมีจิตใจดี และมีเมตตามากๆ และ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยทีเดียวค่ะ

ยังไงก็ต้องอดทน และ หนักแน่นนะคะ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต้องพึ่งตัวเอง ดูแลตัวเองและดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดี เข้มแข็งเข้าไว้ค่ะ

Beck
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: BUAKAO on May 14, 2008, 09:30:03 PM
สวัสดีค่ะทุกคน ตามมาให้กำลังใจน้องใหม่อีกคน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้กันทั้งนั้นเลยค่ะ ของเราอยู่ปุ๊บก็ตั้งครรภ์เลยค่ะ ก็เลยเรียนภาษาเยอรมันไปด้วย ตั้งครรภ์ไปด้วยค่ะ พอคลอดก็เลี้ยงลูกคนโตเองถึงสองขวบ แล้วก็ก็ส่งไปเนอรเซอรี่บ้างค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกวัน ประมาณสองวันต่อสัปดาห์ แล้วก็ช่วงที่ลูกคนโตได้ขวบก็ตั้งครรภ์คนเล็กอีก ช่วงนั้นตัวโตเหมือนหมีมาก มาก เลย เหนื่อยมาก เหงาด้วย ทั้งท้องด้วย เลี้ยงลูกวัยขวบกว่าด้วยเหนื่อยสุด สุด ชีวิต พอลูกสาวคนที่สองคลอดก็เลี้ยงเองอีกถึงอายุสองขวบ แล้วก็ส่งไปเนอรเซอรี่ก็ลูกชายสองวันต่ออาทิตย์ แล้วก็เริ่มเรียนและทำงานค่ะ

วิธีปราบความเหงานะค่ะ ต้องหางานทำค่ะ เพราะตื่นเช้าขึ้นมาเรายังจะได้มีโครงการว่าจะทำอะไรวันนี้ ถ้าไม่มีงานทำก็ต้องเรียนค่ะ เพราะถ้าเราได้ออกไปพบผู้พบคนมันจะทำให้รู้สึกดีค่ะ  ;D
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: schwenner suwannee on May 14, 2008, 10:53:37 PM
tak ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ   :D สำหรับคำแนะนำแล้วก็กำลังใจ ตอนนี้ก็วุ่นๆอยู่กับตัวเล็ก fiona เพิ่งจะคบ 5 เดือน กำลังดื้อเลย ไปอยู่ที่โน้นสงสัย คงจะต้องเลี้ยงลูกไปก่อน ถึงจะค่อยทำงาน เพราะภาษาไม่ได้เลยค่ะ
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: Nath on May 17, 2008, 09:17:36 AM
สวัสดีค่ะ ป้า Pall. . และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน. .

ป้าคะ แรกๆ ที่อยู่ที่นี่ นอกจากเหงาแล้ว ป้าเคยร้องไห้บ้างมั้ยคะ  นัทว่า นัทเองคงเป็นคนนึงที่วันๆ คงร้องไห้คิดถึงบ้านแน่ๆ เลย  แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไปมั้ยคะ. . อย่างน้อยก็มีอีกหลายท่านที่มีความรู้สึกคล้ายๆ กัน และเราคงเป็นกำลังใจให้กันและกันได้. . . . . ถ้าเป็นไปได้. . แค่อยากเข้มแข็ง ได้สักครึ่งนึง ของป้าค่ะ  . . อืมมม ที่สำคัญดีใจนะคะ ที่ยังสามารถเข้ามาคุยกะป้า และเพื่อนสมาชิกได้  เป็น web ที่อบอุ่นสำหรับคนไกลบ้านจริงๆ ค่ะ. . ตอนนี้ก็พยายามตักตวง และเก็บความทรงจำในเมืองไทย ให้มากที่สุด  . .  Office หยุด 3 วันค่ะ 17-19 จะกลับไปนอนกอดแม่แล้วล่ะ. . ไว้จะมากวนป้าใหม่นะคะ. .  :-*

สวัสดี คุณ Schwenner Suwannee. . ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ นัท เองก็กะลังจะไปเป็นน้องใหม่ที่นั่นเหมือนกัน เข้าใจว่าตอนนี้ความรู้สึกคงมิต่างกันเท่าไร  เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆ  ยังไงก็อยู่กับคนที่เรารัก และเค้าก็รักคุณมากเช่นกัน  . . .  ;)
Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: pall on May 18, 2008, 03:22:59 PM
สวัสดีค่ะทุกๆคน...สวัสดีค่ะคุณNath
หายหน้าไปหลายวันจนมีบางคนสงสัยว่าไปไหนมีปัญหาอีกแล้วเกี่ยวกับคอมและคอเคล็ดเอี้ยวคอไม่ได้เลย
เพราะนอนตกหมอน.. บางคนอาจจะคิดว่าเอี้ยวคอไม่ได้แต่ขยับมือได้จริงจ้าแต่มันต้องมีอารมณ์ร่วมในการเขียนมือจึงจะขยับได้ 
ตอบคำถามคุณNath เลยนะคะ ตอบจากก้นบึ้งของหัวใจ..ขอเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะคะ
ป้ามาสวิตฯอายุประมาณ24ปีเกือบ25ปี... และเมื่อ 30กว่าปีที่ผ่านมา..ยังไม่มีความทันสมัยเหมือนสมัยนี้  แค่เปิดคอมเสริ์ชหาข้อมูล มีคนป้อนข้อมูล ถามไปยังเวบต่างๆก็ได้คำตอบแล้ว ไม่ว่าจะถามเรื่องอะไร
ยอมรับค่ะว่าไม่อยากมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว ยอมรับค่ะว่ากลัวมากและการมีผัวฝรั่งสมัยนั้นติดลบสุดๆ
ใครที่แต่งงานกับฝรั่ง..และจะใช้คำว่าจีไอ..อยู่อู่ตะเภาและคิดว่าต้องเป็นน้องตัว...ยิ่งเดินคู่กับฝรั่งยิ่งโดนหนักเลย
บางคนโดนด่า  โดนคำหยาบคายซึ่งๆหน้า...บางคนซื้อของ..และต่อราคาหน่อยเดียวโดนซะกระจุยเลย
ป้าเคยโดนครั้งหนึ่ง...เขาถามว่าหาผัวไทยไม่ได้เหรอจึงเอากับฝรั่ง...ยอมรับว่าโกรธสุดๆ
ที่เล่ามาไม่เกี่ยวกับที่ถามเลย..แต่มันเกี่ยวข้องกันจ้า..เพราะใจไม่อยากมาตั้งแต่แรก..พอมาอยู่ที่นี่..มันเลยติดลบหนักขึ้น..(เล่าต่อ)
ป้าไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทำหนังสือถามใครก็ไม่มีใครรู้...ไปกรุงเทพฯถามใครก็ไม่มีใครรู้  จนมีคนพาไปทำหนังสือเดินทางถึงได้มา 
เล่าถึงความเปิ่นบนเครื่องบิน...คนไม่เคยบินจะกลัวนะยิ่งคนขี้กลัวแบบป้ายิ่งหนักใหญ่ 
ไม่มีข้อมูลไม่รู้อะไรเลย  คนเดินทางมาเมืองนอกถ้าใครบินได้จะฮือฮามาก สมัยนี้ใครๆก็บินได้จริงไหม
และการหาข้อมูลรวดเร็วทันใจ  ไม่ต้องกลัวอะไร..
ตอนป้าบินไม่กล้ากินของที่เขามาเสริฟกลัวไม่มีเงินจ่าย  เพราะมีเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อยบาท  (ทองบาทละ300)
ตอนบินมาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร  ตอนนั้นมีข่าวดังมากผัวฝรั่งเยอรมันบังคับให้เมียไทยทำงานขายตัว
เมียไม่ทำตามโดนตบด้วยแก้วจนหน้าเสียโฉม..ป้าเลยกลัวว่าลุงจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
ป้าไม่ยอมกินอะไรจนแอร์มาอนวอนขอให้กินสักนิดหน่อย  สงสัยกลัวจะหาม ป้ากินไปนับเงินไป..ฮ่วยเฉิ่มสุดๆ
หลังจากลงจากเครื่องบินเสียดายมากที่กินน้อยไป..อาหารที่เขามาเสร์ฟดีมากเลย ลืมบอกไปว่าป้าบินสายสวิสแอร์
การบริการเยี่ยมมาก  จานที่ใช้ไม่ใช้พลาสติค และอาหารดีมาก

พอป้าลงมาที่สนามบินตอนนั้นไม่เหมือนปัจจุบัน...ป้ารอลุงนานมากหลายชั่วโมงจนใจเสีย
และมีผู้หวังดีจะพาไปที่บ้านเขา...ป้ามานั่งคิดว่าถ้าป้าหลวมตัวไปกับเขาอนาคตจะเป็นอย่างไร...
ป้ารอจนลุงมารับ..... (ช่วงนี้ขอตัดตอนเล่าไวๆ) ป้ามาอยู่ก็ตั้งท้องมาจากเมืองไทยแล้วแต่ไม่รู้
พอมาอยู่ยังไม่ทันจะปรับตัว....คนท้องจิตใจจะอ่อนไหวและดีเพรสมาก  ป้ายอมรับว่าไม่อยากอยู่
อยากกลับบ้าน  นอนร้องไห้ทุกคืน  นิสัยฝรั่งกับคนไทยแตกต่างกันมาก 
ใครที่แต่งงานกับฝรั่งควรเรียนรู้ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่จะอยู่กันไม่ยืด  อย่าไปคาดหวังว่าฝรั่งจะหวานแหวว
เหมือนหนังที่เราดู  คนที่แต่งงานเพื่ออยากมีชีวิตดีกว่าอยู่เมืองไทยหรือเพราะอยากอยู่ที่นี่ เพราะความสวยงามของประเทศ  บอกก่อนนะว่าถ้ามาอยู่จริงๆแล้วจะรู้  และผัวไม่ได้มานั่งเอาใจเรา เราต้องทำทุกอย่างเองช่วยตัวเอง
บางคนโชคดี บางคนโชคร้าย 
ป้าว่าคนไทยรุ่นใหม่โชคดีมากกว่ารุ่นป้ามาก  ถ้าแต่งงานแล้วมีปัญหาจะมีหน่วยงานช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
หรือมีคนอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือ ฯลฯ 
ตอนป้ามาอยู่ที่นี่เหงามากเจอคนไทยแล้วดีใจมาก เหมือนเจอเพชร แต่ผิดหวังมาก  ไม่มีใครพูดด้วยถ้าเราไม่ได้ร่วมกลุ่มกับเขา หรือพูดกับเราแล้วมองดูด้วยหางตาดูถูกมาก  ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ
ทำไมเราจะไม่รู้ล่ะว่าเขาคิดอย่างไรกับเราจริงไหม...(เขาคิดว่าเราเป็นอีตัว )..

กับลุงป้าก็ยังปรับตัวไม่ได้ ภาษาก็พูดไม่ได้  นี่คือปัญหาใหญ่นะ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษาจะรู้ดี ทำให้เราว้าเหว่ยิ่งไปกว่าเดิม   คนที่ดีเพรสมากๆจะมีบางช่วงที่คิดสั้น..ป้าเคยคิดสั้นเหมือนกัน
ใครที่มีความรู้สึกแบบนี้อย่าอยู่คนเดียวนะ   มีอีกมากมายแต่วันนี้ป้าขอเขียนเล่าสั้นๆให้รู้ว่า 
ป้าเข้าใจถึงความรู้สึกของคนมาอยู่ใหม่ดี  ถ้าสิ่งไหนที่ป้าพอจะช่วยได้ยินดีเสมอ
มีความทุกข์อะไรเข้ามาคุยกันได้ที่นี่  ถ้าเหงา ว้าเหว่  เข้าไปเสริชหาเวบต่างๆไปเขียนพูดคุยสนุก
ถึงแม้บางคนจะคิดว่าไร้สาระ   ป้าคิดว่าอย่าคิดว่าเป็นเรื่องของความไร้สาระเลย
การพูดการคุยถึงแม้ไม่มีอะไรแต่เป็นการผ่อนคลายทางด้านจิตใจอย่างหนึ่ง

คุณNath คะป้าตอบคำถามของคุณแล้วนะคะ..เขียนสั้นไปหน่อยเพราะคอยังเอี้ยวไม่ไหว
สุขภาพกายไม่ดีเลยทำให้สุขภาพจิตไม่ดีตามไปด้วย...อยากเขียนอยากเล่ามากกว่านี้
แต่ขอบอกว่า ป้ายังรักที่นี่และอยากอยู่ต่อไปจ้า....

Title: Re: ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องใหม่ค่ะ
Post by: เทวี on May 18, 2008, 04:01:37 PM
สวัสดีค่ะคุณนัท สวัสดีค่ะป้าพอล
ขอบคุณป้าพอลมากๆนะคะที่เข้ามาแบ่งปันประสบการ์ของคนมาอยุ่ใหม่ที่นี่ได้อย่างชนิดเห็น ;)ภาพตามมามากๆ
เอ้อ. . มีแต่คนมีปัญหาตอนมาอยู่ใหม่น้องใหม่อ่านแล้วก็อาจจะกลัวๆกล้าๆไปเป็นธรรมดา แต่เทวีอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะมีปัญหา คนที่มาอยู่แล้วไม่มีปัญหาเทวีว่าก็มีเยอะแยะไป มันอยู่ที่ความคิดและการปรับตัว บวกกับการไม่คาดฝันอย่างรุนแรงก่อนมา และเมื่อมาแล้วไม่เจอไอ้สิงที่คาดฝันไว้มันก็ผิดหวังเป็นธรรมดา เหมือนป้าพอลว่าไว้ อยากมาอยู่เพียงแค่เพราะอยากมีชีวิตที่สะดวกสะบายกว่า อยากมาเพราะประเทศสวิสรวย และมีธรรมชาติที่สวยงามกว่า ก็เตรียมตัวผิดหวังได้เลย . . แต่หากเตรียมพร้อมและเรียนรู้ก่อนมาอยู่แล้วว่าเราจะเจออะไรบ้าง ปัญหานั้นก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะรับมันแน่นอน ฝรั่งกับคนไทยความแตกต่างสูงมาก หากจะแต่งงานกับฝรั่งแล้วต้องถามตัวเองก่อนว่ารักฝรั่งจริงหรือว่ารักแบบฉาบฉวย เพราะเมื่อแต่งงานแล้ว มาอยู่ที่นี่แล้ว แน่นอนว่าไม่ได้มีฝรั่งเฉพาะแค่สามีของเราคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีครอบครัวสามี เพื่อนสามีเจ้านายสามี และอีกแปดแสนรายการเข้ามาพัวพันกับชีวิตเราและสามีด้วยแน่นอน และทั้งหมดเป็นฝรั่ง ซึ่งหากเราเข้าใจฝรั่ง ชีวิตที่นี่จะไม่มีปัญหาเลย วัฒนธรรมที่แตกต่างของเราเพียงแต่เปิดใจลองมองดูว่าทำไมฝรั่งถึงเป็นแบบนี้ ทำไมบ้านเมืองเขาจึงเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่เทวีมองไปที่ต่างๆที่สวิส มันจะมีคำถามตลอดว่าทำไมไอ้นี่จึงเป็นอย่างนี้และทำไมไอ้นั้นจึงเป็นอย่างนั้น เทวีก็ลองหาคำตอบให้กับตัวเอง และคำตอบที่ได้ก็คือ ของส่วนใหญที่นี่ได้ถูกคิดขึ้นมาและคิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าแล้ว และเมื่อเราได้มองถึงปัญหาที่จะเกิดไว้ล่วงหน้าแล้ว เราก็จะหาทางกันไว้ก่อน เรียกว่ากันดีกว่าแก้นั่นเอง มันก็เหมือนชีวิตที่นี่ละ เทวีว่าทุกคนเลยดีกว่าคงเคยได้ยินคำขู่หรือคำพูดต่างๆนานก่อนมาอยู่สวิส โอ๊ยมันเหงามากเลย ประเทศเงียบมาก เลย คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่สามีก็คุยกันไม่รู้เรื่อง. . ขอโทษนะค่ะ หากคำบางคำที่เขียนนี่รุนแรงแต่ลองตรองดูก่อนนะว่ามันจริงหรือเปล่า
คุยกับสามีก็ไม่รู้เรื่อง แค่ภาษาผัวเมียซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าจะเป็นภาษาไหน กะอีแค่สามีตัวเองยังคุยไม่รู้เรื่องแล้วแต่งงานกันทำไมเอ่ย อันนี้บ่งบอกถึงสาเหตุอื่นมากกว่าที่แต่งงานกัน มิใช่แค่รักกันงั้นเหรอ และเมื่อมันเป็นอย่างนั้นจริงๆละก็เตรียมรับกับปัญหาที่เราเองคาดหวังไว้ก่อนมาสูงเกินไปว่าเราต้องเจอกับมันแน่นอนอีกสามล้านปัญหา มันมาแน่ๆ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง คราวนี้ความเหงามาเยีอนทันใด สวรรค์ที่สวิสกับทัศนยภาพที่สวยงามกลายเป็นนรกทันใด. . . มันเป็นเพียงเพราะขาดความรักแท้ๆ และเมื่อขาดความรักแท้ๆแล้วเราเองก็ไม่มีเกราะหรือกำลังใจใดๆที่จะให้เราได้ต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่นี่ได้เลย โรงเรียนจะไปเรียนภาษาก็ไม่มีโอกาสได้ไป เพราะอย่าว่าแต่สามีคิดจะให้ไปเลย เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ารักเรา เราเองก็ไม่แน่ใจว่ารักเขา โอ๊ยค่าเทอมแพงๆนะลืมไปได้เลย . . แล้วจะมีสักกีคนที่ทนขวนขวายเรียนภาษาเองตรัสรู้เองอยู่กับบ้านในขณะที่สามีก็ไม่ได้ใส่ใจ เป็นธรรมดาว่าเราเองก็ไม่อยากเรียน เพราะไม่รู้จะเรียนไปทำไม. . . ปัญหาอีกแล้ว เหงาอีกแล้วเพราะอะไรละ. . . ขาดความเข้าใจ. . ขาดความรัก
แต่. . . เมื่อใดก็ตามที่มีความเข้าใจ. . . มีความรัก ปัญหาเหล่านี้น้อยมากที่จะเกิดขึ้น
เพราะสามีรักเราและเราก็รักสามี . สามีจะเข้าใจทันทีว่าที่เธอต้องมาแต่งงานกับเราที่เธอต้องจากบ้านจากเมืองไทยมากเพราะเรา เขาจะรู้สึกผิดและรู้สึกรับผิดชอบเรามากขึ้นเป็นทวีคูณ ควาวนี้ทุกๆปัญหาเขาจะช่วยเราแก้. . เทวีเองโชคดีมาก เพราะจากความรู้สึกของเทวีเองเทวีว่าสามีของเทวีรู้สึกอย่างนั้น คราวนี้จะเอาอะไรหรือปัญหาอะไรเกิด. . เขาจะอยู่ข้างเราเสมอ
พูดภาษาไม่ได้เหรอ . . . ไปโรงเรียนซิ โรงเรียนคือการลงทุนที่ดีที่สุด แม้จะต้องใช้เงินหรือใช้เวลามากหน่อย หากแต่ถ้าเราพยายามให้เขาเห็นนะว่าเราอยากเรียนมากขนาดไหน. . . เหมือนเทวีน่ะ สามีก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรไม่มีเงินเสียค่าเทอมเมียยังไปกู้เงินมาให้เมียเรียนเลย แล้วอย่างนี้เราจะไม่ตั้งใจเรียนได้ไง
เมื่อคุยกันรู้เรื่องไม่ใช่เฉพาะแต่กับสามีแต่กับคนอื่นๆด้วย. . . คำว่าเหงาไม่เคยเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชาติไหนก็ไม่มีปัญหาเพราะคุยกันรู้เรื่อง. . สามีไม่ว่างเหรอ ไม่เป็นไรเราไปเที่ยวกับคนอื่นก็ได้ เพื่อนของเรา เพื่อนของสามี โอ๊ยไม่มีเวลาเหงาหรอก เมื่อรู้จักคนมากขึ้นโอกาสต่างๆก็มากขึ้น มีงานไหนที่เราพอจะทำได้ก็มีคนช่วยบอกเรา อย่างเทวีที่ได้งานทำดีๆนี่เพราะเพื่อนสามีตกงานแท้ๆแล้วหางานจากอินเตอร์เน็ต เห็นงานนี้น่าจะเหมาะกับเราก็โทรมาบอกเรา เทวีเองไม่ได้งานงานยังมาหาเราเลย เพราะเรามีเพื่อนนั่นเอง
พูดมายืดยาวแค่อยากจะบอกว่ามันอยู่ที่เราทั้งหมดว่าจะมองปัญหาและจะแก้ปัญหานั้นยังไง
เทวีไม่เคยรู้จักคำว่าเหงา และไม่เคยเห็นว่าสวิสไม่ดี ที่นี่คือสวรรค์ดีของเทวี เพราะเทวีไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนมาจากเมืองไทย
สวิสคือสวรรค์ของเทวีเพราะเทวีมีสามีที่น่ารักมีเพื่อนๆมากมายหลายประเทศมากๆ มีงานให้ทำ มีประสบการณ์ใหม่ๆที่หาจากเมืองไทยไม่ได้
แต่วันหนึ่งเทวีก็จะกลับบ้าน จะกลับไปอยู่เมืองไทย เพราะต่อให้สวิสคือสวรรค์แต่เมืองไทยคือบ้าน คือที่ที่ให้กำเนิด ที่นั่นเทวีมีพ่อมีแม่รออยู่ ยังไงก็รักกกกกเมืองไทยมากกว่าอยู่แล้ว แต่เราอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหาเพราะเราไม่ทำตัวมีปัญหานั่นเอง. . .