(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235309-Zwischenablage02.jpg)
***....Huttwil....***
คนเมืองBernจะเรียกชื่อเมืองนี้ว่า...Huttu....(ฮุ๊ทตู่...)
เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นอยู่กับตำบลTrachselwaldอยู่ในเขตBern
Huttwil ตั้งอยู่บนความสูง638เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เนื้อที่17.3ตารางกิโลเมตร
จำนวนประชากร 4723(31.ธันวาคม 2004)
Huttwil...ด้านตะวันออกมีอาณาเขตติดต่อกับ Kanton Luzern ทางทิศเหนือมีอาณาเขตติดต่อกับ Amtsbezirk Aarwangen
และอาณาเขตแถบEmmentalมีอาณาเขตติดต่อระหว่างเมือง Eriswil,เมืองWyssachen(เมื่อปีคศ.1908ได้เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เป็นทางการว่าเมืองWyssachengraben)
เมืองDürrenrothและเมือง Walterswil...(เมืองWalterswil...เป็นชื่อเรียกที่ซ้ำกันหลายรัฐในประเทศสวิตฯซึ่งบางคนอาจสับสนว่าอยู่รัฐไหนกันแน่) แต่คนสวิสแท้ๆจะไม่สับสนเพราะชื่อเมืองWalterswilจะมีชื่อรัฐต่อท้ายเสมอซึ่งเราสามารถเห็นได้ดังนี้
Walterswil SO....รัฐ Kanton Solothurn
Walterswil ZG ......Kanton Zug
Walterswil BE...... Kanton Bern
ตามแผนที่จะห็นว่า Huttwil...อยู่ในเขตของส่วนบนของLangententals..
**คำขวัญของเมืองนี้คือ **
... ist abhängig vom gegenseitigen Respekt der Bevölkerung, Verwaltung und Behörde.
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0922 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235356-Zwischenablage03.jpg)
***.Huttwil......***
ชื่อที่เรียกครั้งแรกนั้นจะเรียกว่า Huttiwilare
เป็นคำที่ชาว Alemannenใช้เรียกชื่อเมื่อ700หรือ800ปีที่ผ่านมา
เพราะเดินแดนส่วนนี้จะมีลักษณะคล้ายเนินเขาภาษาละตินเรียกว่า(lat. wilare = Weiler).
เมื่อปีคศ.1100/1200 Grafen von Rheinfelden ได้ครอบครอง Huttwil
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235459-Zwischenablage01.jpg)
***เครื่องหมายธงของ Huttwil***
เป็นรูปกุญแจเงินไขว้บนพื้นสีน้ำเงิน มีรูปดาวทองข้างบนระหว่างดอกกุญแจทั้งสองดอก
เมื่อปีคศ.1913ชาวเมือง Huttwil ได้ร่วมมือพร้อมใจรวมตัวกัน เลือกสีธงประจำเขตกัน
ความหมายของสัญลักษณ์นี้หมายถึง
เครื่องหมายของกุญแจหมายถึงกุญแจสวรรค์ของ Apostels Paulus Himmelsschlüssel des Apostels Paulus
ส่วนดาวทองเพิ่งจะนำมาใส่เมื่อปีคศ.1834 เพื่อให้เห็นโดดเดี่ยวชัดเจนไม่ให้ซ้ำกับธงของเมือง Wangen
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235602-Zwischenablage04.jpg)
***การคมนาคม***
การเดินทางไป Huttwilสะดวกสบายมาก
1.เส้นทาง**ทางรถไฟ...
จาก...Zürich-via Olten/Langenthal
จาก....Bâle.. via Olten/Langenthal
จาก...Bern via Langenthal
จาก....Luzern (direct)...เส้นทางตรง
2.เส้นทางรถยนต์
***15.Okt. 05***
ไปดูเทศกาลเนยที่Huttwil จะเป็นการแสดงเนยใช้เวลา2วันคือ
15.Okt. 05 และ....16.Okt. 05
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235715-Zwischenablage05.jpg)
วันนี้อากาศสลัวมัวซัวหมอกลงจัดมาก ถ้าไม่มีการจัดเทศกาลเนยแล้ว
รับรองว่าคงไม่เห็นหน้าป้าช่วงเช้ามืดแบบนี้แน่ๆ
ลุงแกไม่อยากไปหรอกงานแบบนี้แกเบื่อมาก แต่พอเห็นหน้าเจ้าของเวบที่จ่ายค่าตัวเลยต้องจำใจไป
เพราะกลัวโดนหักค่าตัวนายแบบ
เราออกเดินทางจากWorbหลัง9โมงเช้าไปแล้ว จุดหมายปลายทางที่จะไปคือHuttwil
การออกเดินทางก็สะไตด์เดิม,.... รถก็คันเดิมคือน้องซาร่าที่มีอายุเป็นสาวเบญจเพสแล้ว
กระจกรถมีขี้แมลงที่บินมาชนรถตายจนเต็มกระจกรถไปหมดก็เหมือนเดิม
เห็นจากรูปที่ถ่ายจะมีน้องแมลงเกาะตายเต็มไปหมด เพราะสองเราไม่ได้ล้างรถยนต์มานานร่วมปีแล้ว
ถ้ามีขี้แมลงมาจับหนากระจกตรงที่ลุงขับหนามากเกินไป
จนมองไม่เห็นลุงถึงจะควักทิสชู่อันยับยู่ยี่มาเช็ดกระจก พอให้ลูกตาแกพอจะมองเห็นเส้นทาง
ถ้าถูกหวยลอตโตที่นี่เมื่อไรจะจ้างคนมาล้างรถให้
ระหว่างทางที่ขับต้องระวังมากเพราะบางส่วนหมอกลงหนามาก มองผ่านกระจกแทบจะมองไม่ค่อยเห็น
เพราะขี้แมลงก็หนาพออยู่แล้ว พอมาเจอหมอกเลยยิ่งมองไม่เห็นใหญ่
การขับรถต้องระวังสุดๆ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235757-Zwischenablage06.jpg)
ระหว่างทางที่รถขับผ่านจะเห็นโรงอบหญ้าที่รับบริการอบหญ้าพ่นควันโขมง
มีรถบรรทุกหญ้าของชาวนาที่ตัดหญ้าช่วงนี้จอดรอเต็มไปหมด
เพราะกำลังของแสงแดดไม่แรงพอที่จะทำให้หญ้าแห้งได้ ต้องนำมาให้โรงอบหญ้าอบให้แห้ง
เพื่อเก็บไว้ให้วัวกินช่วงหน้าหนาว
ช่วงนี้ตอนเช้าจะเห็นน้ำค้างเกาะบนหญ้าเต็มไปหมด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235855-Zwischenablage09.jpg)
ระหว่างทางที่ขับผ่านจะเห็นKuerbis..(ฟักทอง) วางขายเรียงรายเต็มไปหมด
ถ้าคนช่างสังเกตจะเห็นช่วงเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม
จะมีฟักทองรูปร่างแตกต่างกันมากมายถูกนำมาขายเต็มไปหมด
ฟักทองเหล่านี้มีรูปร่างและสีแตกต่างกัน
และตระK..ลของKuerbisมีจำนวนมากมาย ร่วม800ชนิดซึ่งเรารู้จักและเรียกชื่อต่างกันไป
เราคิดกันว่าฟักทองเป็นอาหารของชาวอินเดียนแดงที่นำมาปรุงอาหารกัน
ต่อมาปีคศ.1600ได้ถูกนำมาปลูกแถบยุโรป และเป็นอาหารสำหรับคนที่ยากจน
นำมาปรุงอาหารกินกันและเป็นอาหารของพวกสัตว์เลี้ยง เช่นพวกวัว....ฯลฯ..เป็นต้น
เพราะฟักทองปลูกได้ผลเป็นจำนวนมาก และปลูกง่ายไม่ต้องลุงทุนดูแลเท่าไร
และกินอยู่ท้องมีวิตามินมากมายเช่น A, C, D และ E
95%จะเป็นน้ำปัจจุบันคนนำใช้ในการลดความอ้วน
เนื้อและผลของฟักทองสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง และเมล็ดนำมาใช้ทำขนมปัง,ใส่สลัดและทำน้ำมัน
Kuerbisเริ่มจะปลูกกันจริงจังและเป็นอาชีพเสริมของชาวนา เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051017-235945-Zwischenablage011.jpg)
Flaschenkürbis ฟักทองรูปขวดที่ได้รับรางวัลประจำปี2002
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000050-Zwischenablage07.jpg)
เรามาจอดรถที่เขาจัดให้ตอนล่างสุดของสถานีรถไฟ
และต้องเดินขึ้นข้างบนเพื่อเข้าไปสู่ตลาดที่เขาจัดการแสดงเนย
การเดินขึ้นข้างบนใช้เวลาไม่ถึง5นาทีก็เห็นซุ้มข้างหน้าที่เขาจัดไว้
ถนนส่วนนี้จะมีป้ายห้ามไม่ให้รถใช้เส้นทาง
ป้าเห็นถนนเงียบเหงาและไม่ค่อยมีคนเลย นึกว่ามาผิดงานเสียแล้ว...
การจัดการแสดงเนยของ Huttwil ซึ่งจัดเป็นครั้งที่5
การจัดการเทศกาลเนยเหล่านี้ เป็นการจัดหลังจากที่ชาวนาได้พาฝูงวัว ลงมาจากเขาสูงและนำเอาเนยที่ทำไว้ตอนอยู่บนเขาลงมา เพื่อขายและจัดการแข่งขันชิงรางวัลเนยของตัวเอง
ว่าเนยที่ทำมามีคุณภาพเท่าไร ซึ่งสมาคมกลุ่มจะเป็นคนตัดสิน
ซึ่งถ้าได้เกรดออกมาจะมีราคาสูง มีแต่คนต้องการบางแห่งจะจัดการประมูล
ซื้อขายเนยเหล่านี้. ประเพณีเก่าเหล่านี้ของสวิตฯจัดกันมานานแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000149-Zwischenablage013.jpg)
งานเทศกาลแสดงเนยแบบนี้ต้องไปซื้อPinมาติดในราคา5สวิสฟรังก์
Pin ราคา5สวิสฟรังก์แบบนี้ จะแถมเหรียญพลาสติกสีแดงเล็กๆสำหรับนำไปดื่มเหล้าฟรี แค่1แก้ว...
และแก้วเล็กมีเหล้าใส่นิดเดียวเอง ถ้าอยากดื่มเพิ่มก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง
ที่เขานำมาสำหรับบริการในงานนี้โดยเฉพาะ
Pin อันนี้ใครซื้อมาแล้วต้องนำมาติดหน้าอกให้เห็น
ถ้าไม่ติดเขาจะไม่ให้กินเนยที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆใส่ชาม หรือเขาตัดแจกให้ลองกิน
นับว่าเป็นหัวการค้าอย่างหนึ่งที่คนสวิส ที่ได้รับเรียกชื่อว่าอะไรทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด
ป้าไม่ได้ซื้อหรอกเพราะเสียดายเงิน5ฟรังก์มาก
เลยซื้อให้ลุงแกคนเดียว และลุงก็เป็นคนสวิสที่หัวการค้าพอๆกันคือหยิบเพิ่มมาแอบส่งให้ป้าลองกิน
เป็นอันว่างานนี้เราซื้อ1แถม1 งานนี้นับว่าโชคดีสุดๆที่มีคนสวิสรุ่นเดอะแบบลุงทำ
หัวการค้าแบบนี้คนเดียว ไม่เช่นนั้นงานนี้คงขาดทุนแน่ๆ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000301-Zwischenablage012.jpg)
การจัดเทศกาลเนยครั้งนี้มีร้านแสดงเกี่ยวกับเนยร่วม50ร้าน และมาจากหลายๆรัฐในประเทศสวิตฯ
นอกจากร้านขายเนยแล้วยังมีร้านขายของทั่วๆไปอีก
วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นมากและมีหมอกตลอดเวลา รูปที่ถ่ายออกมาจึงค่อนข้างจะมัว
ซึ่งธรรมดาก็มัวอยู่แล้ว
ระหว่างที่เดินดูร้านเนยพวกนี้ ป้ามัวแต่ถ่ายรูปพอหันมาดูนายแบบจะถ่ายรูปสักหน่อย
ปรากฏว่านายแบบของเราหายจ๊อยไปเลย
การมาเที่ยวครั้งนี้ไม่ค่อยมีรูปนายแบบเท่าไร เพราะนายแบบของเรามัวไปฝอยและชิมเนย
ให้คุ้มกับราคา5ฟรังก์ที่จ่ายไป
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000415-Zwischenablage029.jpg)
***ด้านหลังเวทีจะเป็นเนยEmmentaler***
***เวลา 10.45**
พิธีการเปิดงานเทศกาลแสดงเนยทำการเปิดพิธีโดยผู้แทนของพรรคการเมืองหัวเก่า
ชื่อพรรคSVP คือElisabeth Zölch ของKanton Bern แขกที่นั่งโต๊ะนี้จะเป็นแขกรับเชิญทั้งนั้น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000508-Zwischenablage030.jpg)
หลังจากการพูดปราศรัยจบลงก็เริ่มการแสดงการเล่นดนตรี
หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงการเขย่าระฆัง การเขย่าระฆังแบบนี้ต้องรู้จังหวะการเขย่า
และจะเขย่าโดยใช้หน้าขากระแทกกับระฆัง
กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้จะพากันเขย่าระฆังไปรอบงานเป็นอันว่าจบพิธีลง
หลังจากนั้นคนดูทั้งหลายก็แยกสลายตัวไปกินเนยกันต่อ
แต่บนเวทียังมีการเล่นดนตรีออแกรนให้คนฟังอยู่ ซึ่งคนฟังมีจำนวนนับคนได้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000552-Zwischenablage015.jpg)
เนยที่นำออกมาแสดงในเทศกาลแสดงเนยเหล่านี้จะเป็นเนยที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
และมีรูปร่างและรสชาติแตกต่างกันออกไป
เนยที่เห็นในรูปเป็นเนยที่รู้จักกันดีทั่วโลก และเป็นเนยที่ผลิตออกมาเขตEmmental
และเนยที่เห็นเป็นรูแบบนี้เราเรียกกันว่าเนยEmmentaler ซึ่งมีหลายชนิด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000728-Zwischenablage018.jpg)
มีทั้งเนยแข็งที่ทำมาจากบนเขาที่เรียกกันว่าBergkaese(แบรคแคเซ่ะ)
และเนยกลมที่เราเรียกกันว่าMuetschli..(มุ๊ทชะลี่)
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000814-Zwischenablage025.jpg)
สัญลักษณ์ของแถบ Emmental
ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่บางแห่งจะมีรูปปั้นน้องวัว ในภาพที่เห็นเป็นสีของเนย Emmentaler
เนย Emmentalerที่เห็นก้อนนี้มีน้ำหนักประมาณ 110กก.
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-000942-Zwischenablage020.jpg)
เนยที่ทำมาจากนมแพะของชาวBuendner
เขตGemeinde Sufers...อยู่...Kanton Graubünden
เขตนี้อยู่สูงประมาณ1424 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อยู่ติดพรมแดนอิตาลี
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-001023-Zwischenablage021.jpg)
Gemeinde Sufers อยู่ในเครื่องหมายสีแดง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-001224-Zwischenablage023.jpg)
นายแบบประจำเวบ กำลังคุยกับชาวBuendner คุยไปชิมไป..
เป้ที่เห็นเป็นเป้ประจำตัว ข้างในจะพกพวกของกินไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล
หรือนมดื่ม..แบบกระเป๋าเงินจะทากาวตราช้างสุดขีด
ดูมาดโจ๋ของนายแบบ มือจะพกในกระเป๋าข้างหนึ่งตลอดเวลา
ป้าถามไปถามมาว่าทำไมต้องพกมือแบบนั้น
ปรากฏว่านายแบบของเราหนาวมาก มือเย็นเหมือนน้ำแข็ง
วันที่เราไปดูงานอากาศหนาวมาก ขนาดป้าแต่งตัวเป็นชาวเอสกิโมยังถ่ายรูปไปหนาวไปเลย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-001308-Zwischenablage026.jpg)
ช่วงนี้ต้องคอยลากนายแบบมาอยู่ข้างๆ เพราะเห็นเนยที่น่าสนใจอยู่ชนิดหนึ่ง อยากให้แกมาฟังด้วย..
ตอนแรกแกก็บ่นจนน้ำลายกระเด็น แต่พอเห็นเนยไม่ต้องลากอีกต่อไปเลย
คนขายเนยก็แสนจะใจดีมากลากเอาก้อนเนยออกมาให้ถ่ายรูปเลย
ป้าเดินสวนกับแกในงานแกจะอมยิ้มกับป้ามากเห็นลุงบอกว่าเพราะในงานมีป้าคนเดียวที่ซักถาม
เป็นลูกอีช่างซักคนเดียว...
เนยFloesser...เนยของKanton Bern
เป็นเนยที่ทำมาจากนมของแม่วัวที่ยังมีอายุไม่มาก
และแม่วัวจะกินหญ้าสมุนไพรจึงทำให้ได้น้ำนมที่มีคุณค่าสูงมาก
Flösserkäse เป็นเนยแข็งที่ผลิตมาจากโรงทำเนยKäserei Zaugg ใน Heimisbach
เนยชนิดนี้มีเอกลักษณ์และประวัติความเป็นมาเก่าแก่ของเนยชื่อนี้น่าฟังมาก
http://www.chaeser.ch/cms/produkte/produkt-floesserkaese.php?navid=9
ขอมาแซวป้าก่อนจะออกไปทำงาน ยังอ่านไม่ทุกความคิดเห็น แต่พออ่านถึงความคิดเห็นที่5 - 6 เห็นรูปที่ถ่ายผ่านกระจกน้องซาล่า " ป้ายังไม่ล้างกระจกรถอีกเหรอ จะอณุรักษ์ของเก่ากระทั้งขี้ฝุ่นเชียวหรือป้า "555555 เดี๋ยวเลิกงานจะมาแซว มาอ่านต่อนะป้า ชุแว๊ปปปป
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-001849-Zwischenablage031.jpg)
ในสมัยก่อนเขตEmmentalยังเป็นป่า และยังใช้การคมนาคมทางน้ำ
และเขตนี้เป็นเขตที่มีความเจริญทางด้านค้าขาย
และการบรรทุกของการค้าขายจะใช้ไม้ที่ตัดเป็นท่อนๆมัดรวมกัน ที่เรารู้จักกันดีที่มีชื่อว่าแพ
พวกของที่ทำการค้าขายกันจะต้องจ่ายเงินภาษีในจำนวนสูงมากดังนั้นจึงมีกลุ่มคนที่ไม่ยอมเสียภาษีที่ต้องจ่ายด้วยเงิน ก้อนสูงแบบนี้จึงทำการลักลอบหลบซ่อนสินค้า ด้วยกลยุทธ์วิธีต่างๆ
พอดีมีเจ้าของโรงแรมและร้านอาหารGasthauses"Bären"ใน Langnauที่มีชื่อเสียง
ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ส่งถังเบียร์ใหม่ ส่งไปให้รัฐ Solothurn
ดังนั้นจึงมีคนมีความคิดนำเอาเนยแข็งใส่หลบซ่อนไว้ในถังเบียร์
และการทำการหลบซ่อนแบบนี้ ไม่ได้ถูกตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่
เนยแข็งชนิดนี้เลยได้รับการขนานนามว่า
***Flösserkäse***
ซึ่งหมายถึงเนยแพ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-002500-Zwischenablage032.jpg)
การจัดการแสดงของการบรรทุกเนย Flösserkäse ซึ่งนำบรรทุกใส่ลงบนแพไม้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-002636-Zwischenablage033.jpg)
***เนยHanfkaese เนยกัญชา***
เนยชนิดนี้เป็นเนยที่มีส่วนผสมของเมล็ดกัญชาแก่ที่ทุบเป็นชิ้นเล็กๆข้างใน
มีรสชาติอร่อยและราคาค่อนข้างสูงพอสมควร
ราคาที่วางขายในงานนี้ประมาณกก.ละ25สวิสฟรังก์
ลุงแกหลงคารมคนขาย ควักเงินจากกระเป๋าที่ทากาวตราช้างซื้อมาตั้ง2ขีด
เรามานั่งฟัดกันช่วงเย็นเป็นอาหารค่ำกินกับขนมปังกินแบบกันตายไป1มื้อ
ถ้าป้าขยันทำให้แกกินอาหารเย็นของลุงส่วนมากจะเป็นมันผัดสำเร็จรูปที่แกะออกมาจากห่อได้เลย
แต่ถ้าขี้เกียจก็ทำอาหารแบบง่ายๆ ที่คนสวิสจะกินกันคือพวกกาแฟ ซุบกินกับขนมปัง,แยม,เนย....
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-002744-Zwischenablage034.jpg)
Rauchkaese
เป็นเนยรมควันเนยชนิดนี้Kanton Schwyzนำมาแสดงในงานเทศกาลครั้งนี้
เนยRauchkaese เป็นเนยที่มีลักษณะรูปร่างพิเศษแตกต่างจากเนยที่วางขายทั่วๆไป
ถ้ามองแบบผิวเผินจะนึกว่าเป็นแท่งเนื้อรมควัน
**วิธีการทำเนยรมควัน**
กรรมวิธีการทำเนยรมควันชนิดนี้ทำกันมานานนับร้อยปีแล้ว เป็นการทำเนยรมควันที่เก่าแก่มาก
การทำเนยจะทำเหมือนเนยทั่วๆไป และนำมาใส่แบบเป็นสีเหลี่ยม
หลังจากนั้นพอมีอายุครบ5เดือนแล้ว จะนำเนยมาตัดเป็นแท่งยาว
หลังจากนั้นก็นำเชือกตาข่ายมามัดให้แน่น และนำไปรมควันด้วยเศษไม้Buch
การทำอาหารรมควันแบบนี้ทำกันมานับเป็นพันปีแล้ว การรมควันด้วยเศษไม้Buch
เป็นการเพิ่มความหอมและรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น
การรมควันแบบนี้ใช้เวลาทั้งหมด5ชั่วโมงก็เป็นอันว่าเสร็จ
นำออกมาข้างนอกได้เนยชนิดนี้สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่างและใช้กินได้เลย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-002851-Zwischenablage036.jpg)
เนยเครื่องหมายธงชาติสวิสที่Kanton Schwyz นำมาแสดง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-002958-Zwischenablage037.jpg)
เนยTÊTE DE MOINE
เป็นเนยที่นิยมและรู้จักกันดีที่นี่ และได้รับเครื่องหมายยอมรับจากสมาคมทำเนย
เนยTÊTE DE MOINE เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง
ในการแข่งขันชิงแชมป์เนยมาแล้วเมื่อปีคศ.2004ที่Wisconsin USA
ประวัติความเป็นมาเข้าไปอ่านได้ที่
http://www.tetedemoine.ch/de.aspx
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-003109-Zwischenablage061.jpg)
นำเนยTÊTE DE MOINE ปาดข้างบนออกมาใส่ลงในลงในเครื่อง Pirouetteตัดที่เห็นในรูป
คำว่า Pirouetteหมายถึงการหมุน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-003208-Zwischenablage039.jpg)
การขูดปาดเนยแบบนี้จะหมุนเป็นวงกลมหนึ่งรอบ จะได้เนยขูดเหมือนดอกไม้
ต้องคอยระมัดระวังในการจับเพราะเนยที่ขูดเป็นดอกไม้แบบนี้จะแตกหักง่ายและถ้าจับตรงปลายจะทำให้ติดกัน
คนสวิสชอบกินกันมาก จะกินหลังอาหารหรือช่วงตอนพักผ่อนนอนอยู่บ้านช่วงบ่าย
กินพร้อมผลไม้และดื่มเหล้าไวด์
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-003409-Zwischenablage040.jpg)
เนยแข็งBergkaese เป็นเนยที่มีรสชาติอร่อยมาก
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-003907-Zwischenablage045.jpg)
Hobelkaese โฮเบิลแคเซ่ะ
เป็นเนยแข็งที่ทำมาจากข้างบนภูเขาสูงเนยแข็งBergkaese
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004002-Zwischenablage049.jpg)
Hobelkaese
คำว่าHobel...หมายถึงกบใสไม้
เนยที่จะนำมาใสต้องเป็นเนยแข็งที่เราเรียกว่าBergkaeseเท่านั้น
การขูดใสเนยแข็งแบบนี้จะทำเหมือนน้ำแข็งใส คือวางบนไม้และขูดออกมา
หลังจากนั้นก็จะม้วนเป็นแท่งกลมตามภาพที่เห็น
เป็นเนยที่กินอร่อยมากและมีราคาแพงพอสมควร
ถ้ากินเนยแบบนี้จะดื่มเหล้าไวด์ขาวและผลไม้หรือขนมปังตามมา
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004117-Zwischenablage042.jpg)
เนยTilsiter Switzerland
เป็นเนยที่ทำกันมาร้อยกว่าปีแล้วมีหลายชนิดเป็นเนยที่มีรสชาติเข้มมีรูข้างในตามรูปที่เห็น
เป็นเนยที่นิยมและชอบกินกันมาก เพราะมีคุณลักษณะพิเศษ
โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเนยชนิดนี้เท่าไรเพราะไม่ชอบกลิ่นที่ค่อนข้างจะมีกลิ่นมากกว่าเนยชนิดอื่น
และรสค่อนข้างจัด เนย Tilsiterจะทำออกมาไม่ใหญ่เหมือนเนยชนิดอื่น
เนยTilsiter Switzerland
จะมีสี3สีและเป็นเนยที่แตกต่างกันออกไปสีที่นำมาติดเพื่อบอกความแตกต่างของชนิดเนยให้รู้
จะมี3สีคือสีแดง,สีเขียวและสีเหลือง
Tilsiterเป็นเนยที่ทำจากKanton Thurgau
ถ้าใครอยากจะซื้อเนยชนิดนี้ ต้องดูตรงชื่อที่ติดให้ดีถ้ามีชื่อเขียนแบบนี้Tilsiter Switzerland
จะได้รู้ว่าซื้อเนยที่ผลิตมาจากประเทศสวิตฯโดยตรงเพราะเนยTilsiterจะผลิตจากในประเทศ
และนอกประเทศคือผลิตจากประเทศRussland (ตั้งแต่ปี 1946)
***Tilsiter Switzerland**
เมื่อปีคศ.1893 ที่ Thurgau
Otto Wartmann และ Hans Wegmüllerได้ริเริ่มทำการผลิตเนยTilsiter
นำออกมาขายสู่ท้องตลาด Otto Wartmann มีฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดช่วงนั้น
และผลิตเนยออกมาได้รับความนิยมมากมาย และเป็นผลสำเร็จมาก
และชื่อของเนยชนิดนี้ได้นำชื่อของเมืองStadt Tilsitมาแต่งตั้งชื่อเนยเป็น Tilsiter
ปัจจุบันเนย Tilsiter มีโรงงานทำเนยร่วม30แห่งผลิตเนยชนิดนี้ออกมาขาย สู่ท้องตลาด
และจะผลิตจากหลานรัฐเช่น Kantone Thurgau, St.Gallen และ Zürcher Oberland
เนย Tilsiter3ชนิดที่เราเห็นตามท้องตลาดจะเป็น
Tilsiter Switzerland, Tilsiter Switzerland
surchoixและ Bio-Tilsiter Switzerland
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004223-Zwischenablage051.jpg)
เนยทางซ้ายมือเป็นเนยที่ทำมาจากนมแกะที่เราเรียกว่าSchafkaese
เนยทางขวามือเป็นเนยที่ทำมาจากน้ำนมของควายที่เรียกว่าBueffelkaese
เป็นเนยที่มีราคาแพงและคนนิยมกินกันมาก เนยชนิดนี้มีราคาแพงมากเพราะความให้น้ำนมน้อยกว่าวัว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004353-Zwischenablage052.jpg)
นอกจากนั้นยังนำนมควายมาทำเป็นเนยที่รู้จักกันดีคือMozzarella
เขตที่นำนมควายมาทำเนยคือเขต Schangnau
ถ้าใครสนใจแวะไปอ่านจากที่เขียนไว้ จะมีเรื่องเล่ามากมายข้างใน
**EMMENTAL** (http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,1055.0.html)
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004443-Zwischenablage054.jpg)
เนยแข็ง Le Maréchal
เป็นเนยแข็งเก่าแก่มากมีลักษณะคล้ายเนยGruyere เป็นเนยที่ผลิตมากจากเมืองPayerne
เป็นเมืองเล็กๆทีอยู่ไม่*งจากทะเลสาบของNeuchatel
เนยชนิดนี้มีราคาค่อนข้างแพงพอสมควรและรสอร่อย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004545-Zwischenablage050.jpg)
เนยที่ทำมาจากนมแพะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004630-Zwischenablage053.jpg)
เนยแข็งที่ทำมาจากEngelberg - Trübsee
Kanton Luzern
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004708-Zwischenablage055.jpg)
***เนย Bon Mignon**
เป็นเนยอ่อนเหลวใส่เห็ดChampignonsที่โรงงานทำเนยEmmentaler Schaukäserei Affoltern i.E.
เขตEmmental เมือง Affoltern i.E ได้มีความคิดผลิตเนยชนิดนี้ขึ้นมาเป็นโรงงานแรกของสวิส
และน้ำนมที่ทำก็ผ่านการ pasteurisierterมาแล้ว
น้ำหนักของเนยจะหนักประมาณ170กรัม จะเก็บได้นานแค่1เดือน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004804-Zwischenablage057.jpg)
ป้าเดินหาลุงผ่านซุ้มร้านต่างๆที่กำลังขายเนยให้ลูกค้า ไม่มีแรงถ่ายรูปแล้วเพราะเริ่มหิวมาก
เดินตามตัวนายแบบที่หายไปตั้งแต่เริ่มงานจนป่านนี้ยังตามตัวไม่เจอ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004856-Zwischenablage058.jpg)
มาเจอนายแบบสุดหล่อของเราตรงระฆังผูกคอวัว รีบเก็บภาพนายแบบอย่างรีบเร่งก่อนจะหาตัวไม่เจออีก
หลังจากนั้นก็เข้ามามุงดูเขาเย็บสายหนัง มีกลุ่มคนดูแค่สองคน
แต่คนเย็บหนังคาดกระดิ่งต้องทำงานหนักมาก เพราะทั้งลุงและป้าถามจนเขาอยากจะย้ายร้านหนี
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-004959-Zwischenablage056.jpg)
หนังที่ใช้คาดคอวัวผูกระฆัง มีความหนาพอสมควรและบนหนังจะวาดลวดลาย
เป็นรูปดอกไม้หรือข้าวสาลีตามจินตนาการ หรือตามที่ลูกค้าสั่งไม่ว่าจะเขียนชื่อนามสกุล
หรือของขวัญในวาระพิเศษ การใช้เชือกหนังเล็กๆหลากสีจะมีแตกต่างกันทางด้านวัสดุ
หรือหนังที่ใช้เช่น
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005119-Zwischenablage060.jpg)
ที่เห็นกองอยู่คือเชือกหนังที่ทำมาจากหนังจิงโจ้ ราคาของหเชือกหนังจิงโจ้จะมีราคาสูง
และจะทำตามที่ลูกค้าสั่ง
การรักษาจะยุ่งยากถูกน้ำไม่ได้เมื่อต้องการทำความสะอาด
ส่วนหลอดหนังหลายสีที่เห็นคือเชือกหนังลักษณะเหมือนพลาสติก จะหุ้มเส้นด้ายเหนียวข้างใน
การรักษาทำความสะอาดแบบนี้ง่ายมากสามารถใช้น้ำล้างได้และหนังที่ถูกน้ำก็นำมาทาทาหนังได้ไม่มีปัญหา
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005227-Zwischenablage063.jpg)
หลังจากฟังเสร็จสะกิดลุงบอกว่าหิวแล้วแต่ลุงบอกไม่หิวเลยเพราะไปกินเนยแข็งทุกซุ้มร้านร่วม50ร้าน
เรียกว่างานนี้แกจ่ายค่าPinแค่5ฟรังก์กินจนเกินคุ้มเลย ป้าลากแกไปซื้อ Kaeseschnitte
ซื้อมา2อันแล้วเอาให้ลุง1อัน ขนาดแกบอกอิ่มแล้วแกยังฟัดชิ้นใหญ่จนหมด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005320-Zwischenablage065.jpg)
หลังจากกินอิ่มแล้วก็รีบพากันเดินชมงานต่อ ไปเจอซุ้มร้านหนุ่มหล่อชาว St.Gallant
ชุดที่เขาใส่เป็นชุดประจำรัฐ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005647-Zwischenablage066.jpg)
ถูกใจกับระฆังผูกคอวัวข้างร้านหนุ่ม St.Gallant ที่เขานำมาแสดงโชว์ในงาน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005758-Zwischenablage064.jpg)
ระหว่างที่ถ่ายรูปปรากฏว่านายแบบรูปหล่อของเราหายไปอีกแล้ว
เดินตามหาตัวเจอกำลังดื่มนมชิงรางวัลที่1 ซึ่งเป็นใบรางวัลราคา60ฟรังก์อยู่
เห็นแกดื่มทำปากมุบมิบนึกว่าด่า ที่ไหนได้แกกำลังลองนมอยู่
นมที่เขาให้ทายนั้นเป็นน้ำนมจากสัตว์หลายอย่าง เช่น นมวัว,นมแพะ,นมแกะ,นมควาย,
นมที่ผ่านการฆ่าเชื้อ,นมที่มีไขมันผสมน้อย
ป้ามัวไปหยิบจะลอกกากะบาดคำตอบที่แกทำสักหน่อยปรากฏว่าแกยื่นส่งเขาไปแล้ว
ถามให้แกช่วยแกก็บอกว่าที่แกกากะบาดนั่นก็กามั่วๆเหมือนกัน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005857-Zwischenablage068.jpg)
เดินผ่านร้านขายขนมปังถามลุงว่าหิวไหมจะซื้อให้ แกเลยด่าว่าเพิ่งกินมาแหม็บๆๆ...
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-005942-Zwischenablage069.jpg)
ร้านแต่ละร้านในงานจะตัดเนยให้คนมาชิมเป็นชิ้นเล็กๆ
เนยที่ตัดออกมาจะมีส่วนผสมแล้วแต่ของใครของมัน
เช่นผสมต้นหอม,ผสมเมล็ดพริกไทยและพริก,ผสมกระใบกระเทียม...และอีกมากมาย
ลุงที่ด่าป้าเมื่อกี้ แต่พอเห็นเนยที่เขาตัดให้ชิมแกไปหยิบกินอีก
เดินชิมทุกร้านนี่..ขนาดบอกว่าเพิ่งกินไปแหม็บๆๆ..
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010029-Zwischenablage070.jpg)
เดินคุยกันกระหนุงกระหนิงจูงมือกันดูเนย ที่จูงมือเพราะกลัวนายแบบเราเดินหนีแตกวงไปอีก
เดินผ่านเห็นเด็กหนุ่มกวนอะไรในหม้อดำ กวนไปยิ้มไป...กวนทีก็ยิ้มที....
ป้านึกในใจว่าหน้าตาหน้ารักโถ่ไม่น่าเลย...
ที่ไหนได้ที่เขายืนกวนของในหม้อ และยิ้มนั้นเพราะร้อนจัดต่างหาก
ของที่กวนไปมาในหม้อนึกว่าจะเป็นลูกเกาลัดคั่ว กลับกลายเป็นเขากวนเนยเหลวที่เรียกว่าฟองดู
คนยืนรอกินกันสลอนรวมทั้งลุงและป้าด้วย
หม้อที่กวนนี้เป็นการผลิตรุ่นใหม่สำหรับการใช้ทำฟองดูเนย
หม้อนี้จะใช้ไฟใส่ในตัวเครื่องด้านล่างไปเลย และควันจะไปยังปล่องที่ยื่นออกมา
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010135-Zwischenablage072.jpg)
หม้อกวนฟองดู Indianer-Fondue เหมาะมากสำหรับการจัดงานใหญ่หรือปาร์ตี้ต่างๆ
ที่คนสามารถมาใช้และกินกันได้แทบทุกคน แค่ใช้ช้อนยาวที่เสียบขนมปังก็จุ่มกินได้แล้ว
การแสดงโชว์ครั้งนี้เป็นของ Napf-Chäsi AG เมือง Luthern รัฐLuzern
http://www.napf-chaesi.ch/default.asp?id=1&mnu=1
http://www.luthern.ch/
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010252-Zwischenablage073.jpg)
ตากล้องมัวแต่เล็งถ่ายรูปของนายแบบ
พอถ่ายเสร็จปรากฏว่านายแบบแสดงท่ากินฟองดูสมบทบาทมาก
ฟองดูที่ให้ถือไว้...หายจ๊อยลงท้องไปเลย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010347-Zwischenablage074.jpg)
บางร้านขายไส้กรอกรมควันแบบนี้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010503-Zwischenablage076.jpg)
ถั่วยาวที่อบให้แห้งด้วยเครื่องอบ ที่คนสวิสรู้จักกันดีทุกคน
การอบถั่วฝักยาวแบบนี้เป็นการเก็บรักษาไว้กินช่วงฤดูหนาว
ก่อนจะทำอาหารจะนำมาแช่น้ำให้นิ่ม กินกับไส้กรอกหรือหมูรมควันอร่อยมาก
คนสวิสนอกจากจะอบถั่วฝักยาวแล้ว ยังทำการอบแอปเปิลแห้ง,ผลไม้ต่างๆด้วย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051018-010541-Zwischenablage075.jpg)
เดินผ่านเจอร้านทำ Alphorn สนใจมากเลยดึงลุงแวะไปดู
การทำ Alphornแบบนี้คนทำต้องรู้จักการเป่าเป็นอย่างดี
ไม้ที่เขานำมาทำจะเป็นต้นสนแดง จะนำมาเล่าถึงการทำภายหลัง
สวัสดีค่ะป้า ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่านนะคะ ยังอ่านไม่ละเอียดเลยค่ะ ไล่ๆ ดูรูปไปก่อน เดี๋ยวมีเวลาจะกลับมาอ่านให้ละเอียด ชอบค่ะเรื่องกินๆ เนี่ย Bergkäse เนี่ย เป็นชีสที่โอเลี้ยงชอบมากที่สุดเลย กลิ่นตุๆ แต่อร่อยดี
สวัสดีจ๊ะโอเลี้ยง
ป้าก็ชอบมากเลยBergkäse เราจะขึ้นไปซื้อบนภูเขาทุกปีตอนช่วงที่ชาวนายังอยู่ข้างบนอยู่
ไปดูวิวและกินเนยขูดHobelkaese
สวัสดีค่ะคุณ Pall ขอบคุณที่เอาหนังมาฉายจนหมดม้วนเลย เกือบเหมือนได้ไปดูหนังโรงจริงๆเพราะยาวและมีการบรรยายพร้อม อีกทั้งพร้อมหน้าทั้งดาราเด่นกับตัวประกอบมาก ผู้กำกับก็แน่นิ้งๆทั้งๆที่ Budget ไม่ใหญ่เท่าฮอลลี่วู้ดแต่ก็ได้คนมาชมคับคั่ง อิ อิ
เห็นแล้วอยากกิน คือจริงๆ แล้วไม่ได้หิวแต่ว่าตะกละค่ะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่น้ำหนักขึ้น ๕กิโลแล้วค่ะ อยากลดความอ้วนแต่ทำไม่ได้สักที จิ๊บเรียนอยู่ปารีสแต่มีแฟนอยู่เจนีวาค่ะ อยากจะมีเพื่อนเยอะๆ