Pall's Webboard

General Category => ห้องทู้เก่า Pall's Webboard => Topic started by: pall on February 01, 2005, 12:14:53 AM

Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 12:14:53 AM
สวัสดีค่ะป้าพอล  
 
 วันนี้มีโอกาสเลยรีบเข้ามาถามความขอ้งใจที่อยากจะรู้มานาน....ถ้าป้ามีเวลาก็ตอบส้มตำดว้ยนะคะ...แต่ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ....ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยนะคะ  
 
 คือส้มตำอยากจะรู้เรื่องภาษีของคนที่มีกิจการเป็นของตัวเอง...ไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร...เอาง่ายๆนะคะน้องสาวสามีอายุสามสิบสาม....เรียนจบช่างภาพมา...แล้วเขาเดินสายหางานเองหาลูกค้าเองไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร...มาสามปีแล้ว...ที่ส้มตำรู้มาก็บางทีมีงานก็มีมากจนรับไม่ใหว...บทจะไม่มีก็เกือบเดือนก็ยังไม่มี...ฉะนั้นรายได้เขาก็ไม่คงที่...แล้วถ้าเป็นแบบนี้เขาจะเรียกเก็บภาษีรายได้แบบใหน???บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ถามเขาโดยตรงว่าเขาโดนหักภาษีแบบใหน???อยากถามค่ะแต่สามีไม่ให้ถาม..เพราะเขาบอกเรื่องสว่นตัวของเขา....แต่เขาก็เป็นหว่งน้องสาวเขาเหมือนกันตอนไม่มีงานเข้ามา....เพราะเขาพึ่งจะเป็นมือไม่และยังไม่ดังมากเท่าที่ควร....เขาเป็นช่างถ่ายภาพโฆษณานะคะ...ที่รู้ๆเขาก็ได้รับว่าจ้างจากบริษัทดังๆหลายบริษัทเหมือนกัน...แต่งานถ่ายภาพโฆษณามันก็มีเป็นบางโอกาสที่เขาว่าจ้าง....ฉะนั้นส้มตำเลยอยากจะถามป้าว่า..เขาหักภาษีรายได้แบบใหน???เขาเฉลี่ยรายได้ของเราจากอะไร???ถ้าป้าไม่ยุ่งๆก็เข้ามาตอบดว้ยนะคะ..ขอบคุณล่วงหน้าคะ
 
 ส้มตำ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0535 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 12:16:38 AM
 
 สวัสดีจ๊ะสัมตำ
 
 เพิ่งจะเข้ามาจับคอมจนเกือบจะตี1
 รอให้ว่างอีกนิดจะเข้ามาเขียนเกี่ยวกับ
 ธุรกิจส่วนตัว...ผลดี...และผลไม่ดี...
 ..หรือ...ประกันสังคมต่างๆที่ได้รับ
 รวมทั้งการจ่ายภาษี
 
 
 
 **งานส่วนตัว...กับการจ่ายภาษี**
 
 ขอบอกก่อนว่าการตอบนี่ยากมากๆและซับซ้อน
 เพราะกิจการส่วนตัว..แตกต่างกันหลายอย่าง
 และการประกอบอาชีพก็แตกต่างกันไป
 บางอาชีพไม่ซับซ้อนแต่บางอาชีพ...ยุ่งวุ่นวาย
 
 อาชีพส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นกิจการค้าพาณิชย์
 อาชีพรับเหมาก่อสร้าง
 อาชีพจิปาถะทั่วๆไป.......ฯลฯ  
 
 **ขอตอบแบบสั้นๆ....**
 
 
 ป้าขอตอบคำถามที่ถามมาสั้นๆแบบคุยกันธรรมดา
 ไม่ต้องใช้คำยุ่งยาก...ให้พอได้ใจความก่อนนะจ๊ะ
 
 
 
 **อาชีพทุกอาชีพที่นี่ไม่ว่าส่วนตัวหรืออาชีพอะไร...***
 
 ทุกคนที่อยู่ในSwitzerland
 ถ้าทำงานมีรายได้เมื่อไรต้องจ่ายภาษีกันทุกคน.
 ไม่ว่าจะทำธุรกิจส่วนตัวหรือเป็นลูกจ้าง
 หรือได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
 หรือเงินอะไรที่ได้รับมาต้องแจ้ง
 เสียภาษีทั้งนั้น.
 
 
 หรือคนที่ไม่ได้ทำงานอะไร
 ได้รับเงินเลี้ยงดูจากรัฐบาล
 เมื่อมีรายได้เข้ามาเมื่อไรเราจะต้องแจ้งยอดเงิน
 รายรับที่เราได้รับมาต่อSteuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 (การทำงานหักภาษี...กี่%...ทุกKanton จะแตกต่างกัน)
 และเขตที่อยู่Geminde ก็แตกต่างกันด้วย
 
 สมัยก่อนการจ่ายภาษีจะเป็นการรวบยอดรายรับที่หาได้มา
 2ปีรวมกัน....ปัจจุบันจะจ่ายภาษีย้อนหลังปีละครั้ง
 จากปีที่แล้วที่ผ่านมา
 
 ทุกๆปีทางSteuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 ประมาณเดือนมกราคมทางSteuerverwaltung des  
 Kanton...เขตที่ตัวเองอยู่.....หรือเขตที่อยู่Geminde  
 จะส่ง Formula ให้เรากรอกข้อความ
 แจ้งรายรับที่ได้รับมาจากปีที่แล้วทั้งหมด
 และเราต้องคืนกลับไปประมาณเดือนมีนาคม
 ไม่ทราบว่าทุกKanton...เหมือนกันไหม
 ของป้าต้องส่งกลับคืนสิ้นเดือนมีนาคม
 ถ้าเลยกำหนดจะโดนปรับ.
 หลังจากนั้น
 ทางSteuerverwaltung des  
 Kanton...เขตที่ตัวเองอยู่.....
 ก็จะคิดภาษีว่าเราจะต้องจ่ายให้เท่าไร.
 
 
 เดือนมกราคม 2005ที่ผ่านมา
 ป้าคิดว่าทุกคนต้องได้รับ Formula
 ที่ทาง Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....ส่งมา
 ให้กรอกรายได้ของปี2004เพื่อส่งคืน
 ไปยัง Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 
 **ระหว่างรอ....การจ่ายภาษีจริง*
 แต่ละKanton จะมีการทำงานไม่เหมือนกัน
 การจ่ายเงินจากการประเมินรายได้คร่าวๆ
 
 เราจะต้องจ่ายภาษีประเมินจำนวน...3หน...
 เป็นการจ่ายภาษีประเมินของKanton
 ที่ให้เราจ่ายเช่น
 
 1Rate จะเป็นช่วง Juli-August
 
 
 2Rateจะเป็นช่วง Oktober
 
 
 3Rateจะเป็นช่วง December
 ซึ่งเป็นการคิดภาษีจริงๆที่เราต้องจ่ายให้
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 
 **บางคนอาจจะได้รับเงินคืนหรือ
 บางคนอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก**
 
 
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 12:17:53 AM
**คำตอบที่ถามมา**
 
 1.เรื่องการจ่ายภาษี
 
 ไม่ทราบว่าน้องทำการกรอกภาษีเองหรือให้ทาง
 Treuhandbüro ทำให้
 การหักภาษีของน้องก็เป็นการหักภาษีรายได้
 เหมือนคนอื่นๆทุกๆคนที่มีรายได้ทั่วๆไป
 
 เขาจะต้องแสดงรายรับ
 หรือแสดงรายจ่ายที่รวมยอดประจำปีให้ทาง
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่......ให้เขาดู
 
 
 การกรอกภาษีสมัยนี้สบายมาก
 ทาง  
 เขาจะส่ง Formula
 พร้อมใบคู่มือเอกสารที่ช่วยในการกรอกข้อความ
 ที่เรียกว่า Allgemeine Wegleitung
 และ
 Zusatz-Wegleitung
 
 บางแห่งจะมีการแจกซีดีรอมให้เราเปิดดูตัวอย่าง
 ช่วยในการกรอกเอกสาร.
 **สำหรับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้าง...การกรอกง่ายมาก**
 เพราะรายรับคงตัวทุกเดือน.
 ตอนสิ้นปีเขาจะได้รับ
 Lohnausweis
 รวมยอดประจำปีรายรับนำมาแสดงภาษี
 
 *****เป็นอันว่าน้องสาวของส้มตำต้องเสียภาษีเหมือนคนทั่วๆไป**
 หรือแสดงภาษีเหมือนคนทั่วๆไป
 
 ..............เพียงแต่จะมีบางอย่าง
 ที่น้องของส้มตำมีสิทธิพิเศษในการขอลดหย่อนภาษี
 ป้าจะยังไม่ขอเอ่ยถึงเพราะถ้าเขียนจะยาวกว่านี้.
 
 ............................
 
 2.ธุรกิจส่วนตัวบางครั้งก็มีงานล้นมือ
 บางครั้งก็ไม่มีงานทำเลย....
 อาชีพธุรกิจส่วนตัว
 บางเดือนก็มีเงินเข้ามาก
 บางเดือนไม่มีเลย...แบบนี้ต้องรู้จักการเก็บเงิน
 เพื่อใช้จ่ายยามไม่มีรายรับเข้ามา.
 
 **ประกันสังคม**
 คนที่ทำงานส่วนตัวตกงาน
 หรือไม่มีรายรับเข้ามาเลย
 แบบนี้ถ้าไม่มีเงินสำรองอดตายลูกเดียว
 
 เพราะไม่สามารถ
 ไปปั๊มแสตมป์คนตกงานเหมือนคนทำงานเป็นลูกจ้าง
 ทั่วๆไปได้.
 
 ไม่ทราบว่าน้องของส้มตำทำประกันตกงานหรือเปล่า
 การทำประกันแบบนี้แพงมาก
 ถ้าน้องส้มตำทำไว้ประกันจะจ่ายเงินในวงเงินที่ทำไว้
 หรือถ้าประสพอุบัติเหตุทำงานไม่ได้
 ประกันก็จะจ่ายเงินให้จนกว่าสามารถทำงานได้
 ซึ่งอยู่ในวินิจฉัยของแพทย์
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 12:18:57 AM
**สรุป**
 
 น้องของส้มตำต้องกรอกภาษีรายรับรายจ่าย
 ที่ต้องกรอกรวมยอดประจำปีเหมือนคนที่ทำงาน
 มีรายได้ทั่วๆไป
 
 เขาจะเฉลี่ยรายได้ทั้งหมดที่ได้รับมาตลอดทั้งปี
 จะนำมากรอกใน Formulaที่
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....ให้มา
 
 **น้องของส้มตำต้องรู้จักสะสมเงิน**
 ตอนที่มีงานเข้ามาเพื่อใช้จ่ายยามไม่มีงานทำ
 จนกว่าจะมีรายได้เข้ามาอีก...
 
 **ถ้าส้มตำยังงงไม้เข้าใจเข้ามาถามใหม่ได้นะ**
 
 ป้าเขียนเองตอบเองยังงงเองเลย
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ส้มตำ on February 01, 2005, 06:12:47 AM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105131-151247-20050128-011758-9175.jpg)

สวัสดีค่ะป้า
 
 ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาให้รายละเอียด...ภาษีของครอบครัวส้มตำไม่มีอะไรยุ่งยาก..เพราะเรามีรายได้จากที่เดียวกันและไม่มีอหังสาริมทัพร์ให้หักลบ....แต่ของนอ้งสาวสามีเราก็มีความเกี่ยวข้องกันจนต้องน่าเป็นหว่ง...เปิดทำกิจการเองโดยที่ไม่มีทุนรอนมากอ่น....ทำเครดิตก็ดอกแพง....พี่นอ้งเลยให้เงินกันยืมไปทำก่อนโดยไม่มีดอก....และก็ขอให้ทยอยใช้คืนให้...คือพี่สาวคนโตที่ยังไม่มีครอบครัวเป็นคนให้ยืม...และพี่สาวเลยเสนอตัวเป็นบุคฮาลตุงให้....พี่แกก็เป็นหว่งเพราะรายได้ไม่คงที่ต้องประหยัดมากๆเลยถึงจะตั้งตัวได้และแกก็เป็นนายทุนให้แกเลยเข้มงวดเรื่องรายจ่ายรายรับ....พี่สาวกับน้องสาวมีความคิดที่แตกต่างกันเลยยมีเรื่องมาเล่าให้พวกเราฟัง....ส้มตำก็เลยได้มีสว่นรว่มในการรับรู้ของปัญหา....หลังจากนั้นเขาก็ให้ทรอยฮันบูโรทำรายรับรายจ่ายให้....แม่ของเขาที่แก่แล้วก็เทียวมาหารือบอกเป็นหว่งลูกสาวคนเล็กของเขา...สามีของส้มตำเลยบอกอยากจะลองทำบุคฮาลตุงให้นอ้งรองดูไม่รู้จะได้ใหม..เพราะเขาก็ไม่ได้เรียนบัญชีมาแต่เขาก็อยากลองทำเพื่อประหย้ดค่าใช้จ่ายให้นอ้งเขา....เพราะเขาสนิทสนมกับนอ้งสาวคนเล็กของเขามากกว่าพี่สาวคนโตของเขา....มันก็มีหลายเรื่องที่ต้องเคลียกัน..บางเรื่องมันก็เป็นสว่นตัวมากเกินไปน่ะค่ะป้า..เลยจะพูดกันตรงๆก็ไม่ได้....อย่างไรก็ขอขอบคุณป้ามากนะคะ..ทีเข้ามาคลายความในใจให้
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 07:49:45 AM
อืมฟังที่ส้มตำบอกแล้วเข้าาใจและเห็นด้วย
 บางสิ่งบางอย่างเราพูดมากไปก็ไม่ดี
 
 พูดถึงการยื่นกรอกภาษีนั้นลุงไม่ได้ทำด้วยตนเอง
 เราให้Treuhandbüro
 ทำให้เพราะเขาชำนาญกว่าเรามาก
 และอีกอย่างเขารู้วิธีซิกแซกและช่วยเราลดหย่อนภาษีให้
 บางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็หักออก.
 ทุกๆเดือนลุงจะต้องทำรายรับรายจ่าย
 พอสิ้นปีก็นำยอดรายรับรายจ่ายทั้งหมด
 นำไปให้Treuhandbüro
 เพื่อสำรวจยอดเงินทั้งปี
 
 ทางTreuhandbüro  
 ก็จะหาทางช่วยเราคิดรายจ่ายหักออก
 และหาทางลดหย่อนภาษีเท่าที่จะทำได้
 และคิดภาษีให้เราเพื่อนำไปยื่นให้
 Steuerverwaltung des Kanton...  
 เขตที่ตัวเองอยู่...
 ซึ่งเขาจะสำรวจอีกทีว่าที่Treuhandbüro
 นำมายื่นนั้นถูกต้องใช้ได้ไหม.
 บางครั้งเราได้รับลดหย่อนมากกว่าเดิม
 บางครั้งก็น้อยกว่าเดิม
 เพราะบางอย่างที่Treuhandbüro
 เขาขอลดภาษีนั้นทางSteuerverwaltung des Kanton
 เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
 แต่ส่วนมากที่เขาทำให้ลุงนั้นจะโอเคทุกอย่าง
 เราเห็นว่าถ้าเราทำเองจะไม่ได้รับการลดหย่อนมากกว่านี้
 เรียกว่าคุ้มกับรายจ่ายที่เสียไป
 
 Treuhandbüro บางแห่งเขาทำงานดีมากเลย
 Treuhandbüroที่ลุงจ่ายให้เขานี่เราทำกันมา20กว่าปีแล้ว
 เขาช่วยลุงได้ลดหย่อนภาษีได้มากเลย
 เงินที่จ่ายให้Treuhandbüro
 เราก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
 
 ว่าไปนะเห็นจากของลุงที่เป็นตัวอย่างง่ายๆ
 เงินที่เราจ่ายไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต
 เจ็บป่วย,คนแก่
 หนี้สิน.หรือทุกอย่างที่จ่ายไปเรานำมายื่นลดภาษีได้
 เช่นค่าโทรศัพท์,น้ำมันรถ,ประกาศรับจ้างทำงาน
 เครื่องมือในการประกอบอาชีพ,เสื้อผ้าที่ใช้ทำงาน
 รถยนต์ที่ซื้อมาใช้เราจะถือว่าใช้สำหรับทำงาน
 ซึ่งคนทำงานทั่วๆไปนำมาขอยื่นลดหย่อนภาษีไม่ได้
 และมีอีกมากมายหลายอย่าง.
 การมีหนี้สินที่ใช้ในการลงทุนมากเท่าไร
 ยิ่งได้ลดหย่อนภาษีมาก.และถ้าได้เงินไม่ตรงเป้าหมาย
 หรือต่ำกว่ากำหนดก็ได้รับความช่วยเหลือ
 ทางด้านประกันเจ็บป่วย.
 เขาจะช่วยเราจ่ายประกันทุกเดือน.
 
 อืมTreuhandbüro นี่เขาชำนาญมากกว่าเรามาก
 ถ้าไม่ซับซ้อนยุ่งยากราคาที่จะต้องจ่ายก็ไม่แพงเท่าไร ต่อปี
 ว่าไปเรื่องเงินยืมที่น้องสามีของส้มตำ
 นำมาใช้ในรูปของเงินลงทุน
 เรานำมาหักภาษีได้นะ.
 
 
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 01, 2005, 10:31:20 AM
ถ้าไม่รังเกียจจะขอเพิ่มเติมอีกนะคะ
 1  การทำงานส่วนตัวนั้นเราต้องไปขอจดทะเบียนกับ Eidgenössische Steuerverwaltung เพื่อจะได้หมายเลขที่เราต้องใช้ในการเก็บ MWSt. จากลูกค้าและนำไปใช้ในการจ่ายภาษีที่เราเก็บมาจากลูกค้าด้วย  ใบเสร็จสำหรับลูกค้าต้องมีแสดงหมายเลขนี้อยู่ดัวย  ของใช้ที่เราซื้อมาใช้ในการทำงานก็นำมาคิดหัก MWSt. ในการแจ้งภาษีในแบบฟอร์มนี้ดัวย  ถ้าสินค้าส่งออกนอกประเทศเงินที่เราจ่าย MWSt. ของวัสดุจะได้รับกลับ
 2  AHV คิดจากรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายเช่นค่าวัสดุ ค่าเช่าสถาณที่(ถ้าทำจากบ้านที่อยู่อาศัยก็หักได้บางส่วน) ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ  บางอาชีพหักค่าเลื้อผ้าและค่าอาหารที่เลี้ยงรับรองลูกค้าได้ดัวย  ใบเสร็จที่จะนำมาหักนี้ถ้าเกิน 200 ฟรังค์ต้องให้เค้าเขียนชื่อกิจการค้าของเราในใบเสร็จดัวย  ข้อสำคัญที่สุดผู้ที่ประกอบอาชีพส่วนตัวไม่มีสิทธิ์รับเงินคนว่างงานเมื่อหยุดกิจการ  จึงจำเป็นที่จะต้องหาประกันส่วนตัวที่จ่ายเวลาที่มีเหตุเกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ค่าประกันหักจากรายได้ได้
 3 ภาษีรายได้คิดจากรายได้ลบรายจ่าย  ภาษีนี้หักเงินสะสมออกได้ การเสียภาษีมากน้อยนั้นขึ้นกับรัฐและเมืองที่เราอยู่และเมืองที่กิจการตั้งอยู่ดัวย  ถ้ากิจการใหญ่ควรตรวจดูว่าอัตราภาษีเมืองใดต่ำและตั้งกิจการที่เมืองนั้น
 นี่เป็นเพียงข้อเคร่าๆเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องศึกษากันเป็นปีๆและต้องคอยจับตาเวลารัฐเปลี่ยนแปลงกฎดัวย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกิจการที่ทำและความใหญ่โตเท่าใดดัวย  ในกรณีย์ที่ใหญ่โตเราอาจจะขอสิทธิ์พิเศษในเรื่องลดภาษีได้
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ส้มตำ on February 01, 2005, 12:41:03 PM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105131-214103-22-.jpg)

สวัสดีค่ะป้าพอล...สวัสดีค่ะคุณ..ตุ้ม
 
 ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาช่วยคลายปัญหา....มันจะเป็นปัญหามากก็ไม่ใช่แต่ถ้าเรามีทางที่จะทำให้ดีขึ้นก็อยากจะชว่ยกัน..คือยังไงเราก็รู้จุดที่จะต้องแก้หลายอย่าง...เพราะน้องสาวสามียังไม่มีประสพการณ์ในการทำงานมากเท่าที่ควร...แต่เขาก็ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร...เลยเดินสายเอง..ก็อย่างที่ส้มตำบอกมาน่ะแหละค่ะคือไม่มีทุน....แล้วพี่สาวก็ให้ยืมเงินมาทำทุนโดยไม่คิดดอก..แต่เขาต้องเข้มงวดกับรายรับรายจ่าย...ซึ่งเขาบกพร่องในจุดนี้...พี่สาวก็อยากทำให้ความฝันของน้องเขาก้าวต่อไปโดยมีหนี้สินนอ้ยมากหรือแทบจะไม่มีหนี้สินเลย...แต่มันก็ยังไม่ลงตัว...ส้มตำก็คิดว่าทรอยฮานบูโรเขาก็คงทำให้ดีที่สุดนั่นแหละ....ยังไงส้มตำก็ขอขอบคุณทั้งป้าพอลล่า...และคุณตุ้มมากเลยนะคะ...ที่ทำให้ใด้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้..ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 08:18:42 PM
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 
 ขอบคุณมากที่เข้ามาตอบเพิ่มเติม
 ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอีกมาก
 อย่างที่บอกธุรกิจส่วนตัว
 มีมากมายซับซ้อนมากขึ้นอยู่ว่ากิจการใหญ่โตแค่ไหน
 ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้มากมายนัก.
 และอีกอย่างธุรกิจกิจการทำมาหากินของสองเรา
 เป็นธุรกิจที่ไม่โต
 กิจการของเราเป็นกิจการเล็ก..
 .และขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้านายและลูกน้อง
 
 **ขอคุยด้วยคน**
 
 
 ข้อที่1....เกี่ยวกับ MWST(Mehrwertsteue)
 
  เราไม่เคยทำกันเลยไม่เคยแจ้ง
 กับDie Eidg. Steuerverwaltung (ESTV)
 เพราะกิจการไม่ใหญ่โตและเงินรายรับไม่ถึง
 ที่เขาระบุไว้ว่าถ้าเกิน CHF 75 000 ต้องแจ้ง
 
 และกิจการที่ทำมี2อย่างคือสวนและหลังคา
 ซึ่งแต่ละอย่างเรียกว่ากิจการของเราแบบตามใจฉัน
 หรือรักเธอเท่าฟ้า.....
 เลยได้อนุโลมรอดตัวไปเพราะไม่นำมารวมกัน
 เราไม่บวกระยะทางหรือบวกค่าใช้จ่ายระหว่างทาง....
 เราไม่คิดบวกเพิ่มได้แต่ลด.....
 เรียกว่าทำเท่าไรก็ให้เขาจ่ายเท่านั้น....
 นอกจากบางครั้งคิดค่าชม.เพิ่ม...เจอลูกค้าพูดถูกใจ
 จ่ายสดลดอีก10%
 ทำเกินเวลาฟรี.....ให้เขาเลี้ยงกาแฟ....
 
 .......อีกอย่าง...ถ้าเห็นอากาศดีก็โดดงานออกเที่ยว
 ปีนเขา....อาทิตย์หนึ่งทำแค่2หรือ3วัน...
 เหมาะๆเลื่อนนัดไม่ทำงานจนลูกค้าอ่อนใจ
 แต่ก็รอเรา....เรียกว่าลูกค้าที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้
 เป็นลูกค้าที่เก่าแก่ทำกันมาตั้งแต่หัวดำจนหัวหงอก....
 
 อิอิ...ถึงว่าไม่รวยสักที....
 
 นี่ลูกค้าเก่าแก่มากเดินเซแล้วเซอีก....
 ให้เราไปทาสีบนอลูมิเนียมบนหลังคา.
 ป้าบอกลุงกลับจากเที่ยวถึงจะทำให้เขาบอก...โอเช่ๆๆ..รอ
 ลูกค้าคนนนี้ขี้เหนียวมาก...แต่จ่ายให้เราเกินกว่าที่เขียนบิลให้.
 ซึ้งใจลูกค้าแบบนี้มากๆๆ.
 
 พูดถึง MWST  
 ตอนมาอยู่ที่สวิตฯใหม่ๆประมาณ2หรือ3%กว่าๆเอง
 ถ้าจำไม่ผิด  
 ตอนหลังมาลงคะแนนเสียงกันรู้สึกว่าจะเป็น2หน
 เลยจ่ายเพิ่มขึ้น.
 เมื่อปีคศ.1995รู้สึกจะประมาณ 6.5%
 ต่อมาปี1999ประมาณ7.5%
 และปีคศ.2001 จนถึงปัจจุบันประมาณ 7.6%
 ยอมรับว่าไม่ค่อยชอบ MWST
 เพราะทำให้เราต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น
 แต่ดีสำหรับการเก็บเงินเข้าคลัง
 รู้สึกว่าจะนำเงินส่วนนี้เข้าAHV, IV
 มากหน่อย
 
 พูดถึงเรื่อง MWSTแล้วซับซ้อนมาก
 ขอบอกก่อนว่าไม่ค่อยจะรู้เรื่องมากเท่าไร
 ถ้าใครรู้เรื่องนี้ดีเข้ามาช่วยบอกจะดีมากเลย
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: blacktea on February 01, 2005, 09:08:51 PM
ได้ความรู้ประดับสมองน้อยๆ อีกแล้ว
 ในฐานผู้สนใจประกอบกิจการส่วนตัว(อะ แฮ่ม) ในอนาคต
 ขอยกตำแหน่งที่ประธานที่ปรึกษา(ส่วนตัว)ให้ท่านป้าทั้งสอง
 ตอนนี้ตามล่าหาความรู้ใส่สมองให้มีรอยหยักเพิ่มไปก่อนค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 01, 2005, 09:17:26 PM
สวัสดีค่ะคุณ Pall จริงค่ะเรื่อง MWSt. เป็นเรื่องมากและอัตราไม่เท่ากันด้วยค่ะ อย่างพวกหนังสือก็จะเป็นอีกคนละอัตรากับสินค้าทั่วไป  ไม่ค่อยชำนาญเรื่องนี้ค่ะ  พอรู้บ้างงูๆปลาๆค่ะ  ไม่เคยมีกิจการเองเคยเป็นแต่ลูกจ้างบริษัทค่ะ  ถ้ามีกิจการเองป่านนี้ยาโกรกผมคงไม่ยอมทำงานแน่ๆเลย  ขนาดเป็นแค่ลูกจ้างยังต้องโกรกบ่อยๆเลยค่ะ  พอจะรู้เรื่องบ้างค่ะเรื่องนี้แต่ไม่มีปัญญาอธิบายค่ะ  ถ้าถามมาตรงๆก็พอตอบได้ค่ะ  เป็นนักประพันธ์ไส้แห้งแน่นอนค่ะ
 คุณ Pall กับคุณลุงทำหลังคาแล้วทำกระจกบนหลังคาที่ให้แสงส่องเข้ามาด้วยหรือเปล่าคะ  คุณลุงเก่งนะคะท่าทางยังแข็งแรงจึงเต้นรำเก่งและยังปีนหลังคาไหว  ลุงที่บ้านหลังไม่ดีค่ะผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทมาสองครั้งแล้วค่ะอีกทั้งมีโรคหัวใจแบบพระเอกของคุณ Pall ด้วยค่ะมี stents 3 ตัวค่ะ  ขนาดไม่เคยหักอกเค้านะคะยังต้องซ่อมแซมเลย  เอาอกเอาใจสามีบังเกิดกล้าอย่างที่สู้ดเลย  ถึงเวลากินก็ให้กินถึงเวลานอนก็ให้นอนค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 01, 2005, 09:57:41 PM
สวัสดีจ๊ะบี
 รวยเมื่อไรจะล้มทับ.
 
 สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 
 โหเพิ่งรู้ว่าลุงของคุณตุ้มเหมือนลุงบ๊อบ.
 ว่าไปลุงของพี่หลังก็ไม่ดีนะ..ต้องทำเทราปีทุกเดือน
 ว่าไปอายุแกก็น่าจะเลิกทำงานได้แล้ว.
 แต่เพราะเงินคนแก่ได้น้อยและแกอยากทำงานต่อ
 ไม่อยากไปขอเงิน ELแบบทำงานแล้วได้เงินมากกว่า
 และได้ออกกำลังกายด้วย...พี่จะไปช่วยทำหลังคา
 ก็ช่วงหน้าร้อน.
 
 อืมงานหลังคาเราจะทำแค่ซ่อมแซมกระเบื้อง
 หลังคาส่วนไหนชำรุด...หรือทาสีขอบLukane
 กวาดใบไม้รางน้ำ...เรียกว่าทำกระจุกกระจิกไม่ใหญ่
 บางทีเจ้านายกับลูกน้องก็จะตีกันตายบนหลังคา
 เพราะวิจัยงานกันคนละมุม5555
 
 พี่จะรับทำหน้าที่เป็นเลขาพิมพ์ใบจ่ายให้ลูกค้า
 ดูแลเงิน..และช่วยทำงานบางครั้งถ้างานแกล้นมือ.
 
 งานทำสวน...ลุงจะทำคนเดียวเพราะเรียนมาทางนี้.
 แค่งานเดียวก็ทำไม่ไหวเพราะงานที่Schloss  
 มีงานทำมาก.พี่ไม่เคยช่วยงานสวนด้านนี้
 เพราะถ้าช่วยกิจการแกคงเจ๊งแน่ๆๆ
 ขนาดสวนที่บ้านพี่ยังทำตายหลายต้น5555
 
 เห็นไหมกิจการขของ2เราระทดระทวยสุดๆๆ.
 ลุงของน้องเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้
 หัวใจลุงของพี่กล้ามเนื้อตาย30%
 แต่ไม่ต้องกลัวแกตายไวหรอก
 เห็นหมอดูบอกอายุแกยืนถึง90ปี.
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 02, 2005, 08:55:43 PM
สวัสดีค่ะคุณ Pall ลุงแกทำเทราปิสบ่อยค่ะเพราะเกิดมาก็กระดูกสันหลังโค้งอยู่แล้(เกือบเหมือนเต่า)  พอมาประสบอุบัติเหตุ 2 ครั้งและผ่าตัดทั้งสองครั้งก็แย่  ไปอยู่ทีศูนย์ 8 อาทิตย์ที่เค้าให้ออกกำลังกายและช่วยทุกอย่างก็ไม่ดีขึ้นค่ะ  สุดท้ายหยุดงานไป 3 ปีกว่าเพิ่งกลับไปทำอีกเมื่อเดือนที่แล้วแต่แค่ 80 % ทางบริษัทจะให้ทำเต็มแต่ลุงอยากทำแค่ 3 วันเลยต่อรองลงมาเป็น 4 วัน  แต่ไม่ได้ทำตำแหน่งเดิมเพราะต้องใช้แรงงานหนักและเดินทางด้วย  เดี๋ยวนี้เวลาไปซื้อของกันเราก็เป็นแจ๋วเพราะลุงไม่หิ้ว  เดินเร็วก็เจ็บหัวใจทั้งๆที่เราก็รักที่สุดแล้วก็ยังเจ็บอีก  ตัดหญ้าก็ต้องทำเองหมดจะคลานแล้วค่ะ งานนอกก็ทำงานบ้านก็ทำอีก ดีว่าทำแค่หอมปากหอมคอเพราะไม่กะเอาคะแนนแบบคนสวิสค่ะ  แกคงตายทีหลังแกแน่เพราะแจ๋วตายก่อน
Title: ตอบคำถาม
Post by: blacktea on February 03, 2005, 09:55:22 AM
สวัสดีค่ะป้าจ๋า
 สวัสดีคะป้าตุ้ม
 
 สองบ้านนี้คล้ายๆ กันจังค่ะ
 คุณลุงทั้งสองก็ไม่สบาย
 ก็อย่างงี้แหละนะคะ พออายุมากขึ้น
 รายกายสังขารก็ร่วงโรย
 ชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบเป็นร่างกาย
 ก็เลยพลอยหลุดร่วง เสียหาย จนต้องซ่อมแซม
 
 ขนาดชาดำเองอายุยังน้อยๆ อยู่เลย
 ก็มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังค่ะป้า
 เคยยกของหนักๆ ตอนย้ายบ้านหลายปีมาแล้ว
 ทีนี้ก็ทำให้ปวดและชาไปครึ่งซีก คือซีกซ้ายทั้งแถบ
 ชาจนไม่อยากจะขยับเขยื้อนเลยแหละค่ะ
 ไปหาหมอหลายที่ หมอแต่ละที่บอกไม่เหมือนกันอีกแน่ะ
 สุดท้ายไปเจอหมอหนุ่มถูกใจ พูดเหมือนหมอดูเลย
 เขาว่าชาดำไปยกของหนักๆ มาแน่ๆ  
 ทีนี้กระดูกสันหลังไปทับเส้นประสาท
 เลยทำให้ชาไปทั้งแถบ
 หมอสั่งยามาให้กิน อาการชาหายไปเลยค่ะ
 แต่ต้องไม่ไปกระแดะยกของหนักอีกนะคะ
 ก็มีบางครั้งกระแดะอยากเป็นนางเอกจอมอึด
 ยกโน่นยกนี่ อาการปวดก็กลับมาอีกค่ะ
 ชาดำจะปวดเฉพาะซีกซ้ายค่ะ แต่อาการชาหายไปแล้ว
 
 มาอยู่นี่ดีหน่อย มีพระเอกคอยดูแล อิอิ
 ของหนักๆ ก็ละไว้ให้เขาทำ
 แต่ก็มีบางครั้งเวลาไปข้างนอกคนเดียว
 แล้วซื้อของกลับมาหนักๆ หิ้วหนักๆ แล้วอาการปวดก็กลับมาอีกค่ะ
 
 เลยกะว่ากิจการอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องทำงานหนักๆ ก็จะไม่เอา
 อย่างร้านอาหาร ทำแล้วรายได้ดี แต่ก็ไม่เอาค่ะ
 รวยจริง แต่ทำแล้วต้องมาคอยซ่อมแซมร่ายกายก็ไม่เอาค่ะ
 ก็มองๆ อยู่ว่า นางเอกแบบบางอย่างเราจะทำอะไรได้เนี่ย
 หรือจะเป็นนางแจ๋วให้คุณผู้ชายอย่างเดียวก็ยังไม่รู้เลยค่ะ
 
 
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 03, 2005, 12:40:32 PM
สวัสดีจ้าชาดำ  มีปัญหาเรื่องหลังเหมือนกันหรือจ๊ะ  ควรระวังอย่าหลวมตัวไปยกของหนักหรือเอี้ยวตัวผิดที่เชียวนา  ลุงแกเป็นครั้งแรกเป็นอัมพาตชั่วคราวไปครึ่งตัว  และไม่ได้อยู่ที่ในสวิสต้องมากับเครื่องบินและต่อด้วยรถพยาบาล  ป้าเลยเป็นแจ๋วคอยหิ้วของเดินตามคุณผู้ชาย  ฝรั่งที่ไม่รู้จักเค้าคงคิดว่าลุงแกฝึกแจ๋วไว้ดี  ชาดำหาทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงก็ได้มีหลายอย่างค่อยมองหาไปจนกว่าจะถูกใจนะ  ออกกำลังกายเฉพาะแบบที่หมอเค้าแนะนำมาก็จะช่วยบ้าง  เรื่องหลังสำคัญนะจ๊ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: blacktea on February 03, 2005, 05:33:34 PM
ป้าตุ้มคะ อยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ทำอะไรหนักๆ หรอกค่ะ
 คุณผู้ชายเขารู้ว่ามีปัญหาเรื่องหลัง ก็ละให้เขาทำไป
 
 แต่เวลากลับเมืองไทย อาการกำเริบทุกที
 เพราะที่บ้านพ่อก็แก่แล้ว ไม่กล้าใช้ให้พ่อทำ
 ที่เผลอทำประจำก็ยกกระถางต้นไม้ค่ะป้า
 ย้ายโน่น โยกนี่ แล้วอาการก็กลับมาอีกทุกที
 
 พูดถึงเรื่องหลังนี่ต้องระวังไว้มากๆ  
 พลาดท่าเสียทีไป ต้องซ่อมแซมกันใหญ่โตเลย
 เวลาปวดมาที โอ๊ย นั่งนอนท่าไหนก็เหมือนจะไม่สบายไปซะทุกท่า
 แล้วตอนนี้ลุงเป็นไงบ้างคะ
 หายดีหรือยัง หรือยังต้องคอยพบหมออยู่หรือเปล่า
 ระวังสุขภาพด้วยนะคะ  
 ขอบคุณป้าที่ห่วงใยค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: ต๋อย on February 03, 2005, 07:23:35 PM
สวัสดีค่ะป้าพอล ป้าตุ้ม พี่ส้มตำ ชาดำ.  ต๋อยก็เข้ามาแอบอ่านความรู้ที่ป้าๆ เข้ามาแชร์กัน.  เห็นแฟนต๋อยเขาก็ได้รับFomula มาเร็วๆ นี้เหมือนกันแต่ยังไม่ได้กรอก. เวลาเขากรอกข้อมูลคงไปนั่งดูและศึกษาด้วยเผื่อนานๆ ไปเราสามารถทำเองหรือช่วยแฟนทำ.  ไม่รู้ว่าค่าเรียนภาษาที่โรงเรียนจะหักลดหย่อนได้หรือเปล่า  คือว่าจ่ายประมาณ 6000 ฟรัง. หรือว่าค่ารถเดินทางไปเรียน.  
 รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วงค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 03, 2005, 08:09:59 PM
สวัสดีจ๊ะชาดำ  ขอบคุณที่เป็นห่วงลุง  หมอเค้าบอกว่าไม่มี่ทางดีขึ้นก็เลยพยุงไว้ไม่ให้เลวลงก็ใช้ได้แล้ว  หมอบอกว่าไม่ผ่าตัดให้แล้วเพราะไม่กล้าไปเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังเนื่องจากมีผุกล่อนอยู่หลายข้อ  ป้ากับลุงก็พอใจในสภาพของเราตามอัตภาพ  คนอื่นๆที่แย่กว่าเรายัวมีอีกมาก  ไม่เรื่องนี้ก็เรื่องอื่น  เราขอบคุณพระที่ให้สิ่งชดเชยมาในด้านอื่นจ๊ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 03, 2005, 08:27:12 PM
สวัสดีจ้าต๋อย  ทำงานหรือเปล่าจ๊ะ  ถ้าทำค่าเรียนภาษาหักได้ เพราะถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการประกอบวิชาชีพ  ต๋อยมาอยู่นานหรือยังจ๊ะ ถ้าเพิ่งมาและตั้งใจจริงๆว่าจะทำงานให้ไปที่ Arbeitslosenkasse และบอกว่าเราต้องการหางานทำ  เค้าจะสัมภาษณ์เราซึ่งก็แน่ๆอยู่แล้วว่าภาษายังดีไม่พอ เอาเอกสารเช่น Identitätskarte , AHV-Karte, Lebenslauf und Ausbildungs-Zertifikate  เค้าจะส่งให้ไปเรียนและอาจจะได้รับเงินขั้นต่ำสุดดัวยเพราะต๋อยยังไม่เคยทำงานมาก่อน(แบบเดียวกับพวกเด็กที่เพิ่งเรียนจบมากและยังหางานไม่ได้)  ขอให้โชคดีนะจ๊ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 04, 2005, 11:36:22 AM
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 อืมฟังที่คุณเขียนพี่เห็นใจลุงของน้องมากๆเลย
 อย่างลุงของพี่ก็คิดว่าแย่แล้ว...แต่ของน้องน่าเป็นห่วงกว่า.
 ชีวิตคนเราสั้นนัก..พี่คิดว่าจะพยายามใช้เวลาที่เหลือทบทวน
 ชีวิตใหม่และพยายาหาความสุข..ใส่ตัวเท่าที่จะทำได้..
 เพราะเวลาที่เหลือของลุงและป้าเหลือน้อยลงทุกวัน.
 เพราะลุงของพี่อายุมากกว่า...
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 04, 2005, 01:25:44 PM
 
 สวัสดีจ๊ะต๋อย  
 กรอกข้อมูลใบภาษีได้ผลเป็นอย่างไรบอกด้วย.  
 ลุงบอกถ้าได้เงินคงที่กรอกง่ายมาก.  
 
 ของลุงนี่ทำเองไม่ได้หรอก
 ยุ่งยากซับซ้อนวุ่นวายมาก
 ดูสภาพของเจ้าของงานก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กฮาร์ดขนาดไหน
 แบบจับแพะชนแกะ...
 รายได้ของลุงไม่ได้มาจากทางเดียวกัน.  
 มีพวกประกันอะไรมั่วไปหมด.  
 เงินคนเเก่...อะไรจิปาถะ.. แต่เงินเม้มเมียไม่ยอมบอก...
 
 อีกอย่างถ้าให้ลุงแกกรอกเองสงสัยกินแกลบเเน่ๆ
 เพราะกว่าจะกรอกเสร็จโดนปรับหลายหน
 เพราะมัวตะลอนออกทัวร์ร้องเพลง..รบกับวัว..เล่นไพ่...
 อีกอย่าง...คนที่ทำงานให้เราเขารู้ลู่ทางช่วยประหยัดภาษีให้.  
 แต่กระนั้นก็หูลีบเพราะจ่ายมากเหมือนกัน.  
 
 อืมเรื่องเรียนแบบที่คุณตุ้มบอกนั่นแหละ  
 นำมาหักภาษีได้...
 แต่ละKanton จะคิดไม่เหมือนกัน.  
 เขามีกำหนดหักให้ว่าให้เราหักได้  
 ในกำหนดประมาณเท่าไร.
 
 ยกตัวอย่างง่ายๆเป็นเรื่องใกล้ตัวจากฝ่าน
 ลูกชายป้า...เขาเรียนหนังสือจากโรงเรียนส่วนตัว
 เมื่อไมกี่ปีที่ผ่านมาคิดว่าจะเรียน3ปีแล้วเรียนต่อไปอีก.
 ค่าเรียนประมาณ 10500 สวิสฟรังก์.ต่อปี
 เราได้ลดหย่อนหักภาษีได้แค่4500 สวิสฟรังก์เอง.
 ที่เหลือหักไม่ได้.
 
 แต่ที่ต๋อยอยู่คงไม่มีปัญหาอะไรมังอยู่เขตBasel  
 ไม่เรื่องมากเหมือนที่Bern.
 
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 04, 2005, 09:34:23 PM
คุณ Pall คะ ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง  ถ้าเป็นคงตัวแค่นี้ไม่มีปัญหาค่ะเคยคิดกลัวกันว่าจะต้องนั่งรถเข็นมากเลย  ก่อนทีจะมีอุบัติดเหตุครั้งหลังนี้เราเคยกะกันว่าจะหยุดทำงานตอนลุงอายุ 60 แล้วก็ไปอยู่เมืองไทยตอนหน้าหนาวกลับมาอยู่นี่ตอนหน้าร้อน  ตอนนี้แผนการณ์เปลี่ยนหมดค่ะ  เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับประกันสุขภาพเค้าให้ไปนอกประเทศได้แค่ครั้งละ 4 เดือน  เราทำงานเลี้ยงลูกมาจนโตคิดว่าจะหาความสงบสุขไปอยู่เมืองไทยทำไร่ทำสวนเป็นงานอดิดเรกและท่องเที่ยวไปในประเทศต่างๆเรื่อยๆไป  ลุงก็เปลี่ยนใจมาเป็นกลับเข้าไปทำงานอีกเพราะถ้าลุงไปไม่ได้ ตัวเองก็ไม่รู้จะไปทำไมก็เลยทำงานต่อไปอีกจนกว่าจะเกษียรนั่นแหละค่ะ  ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไรที่แน่นอนขอมีความสุขด้วยกันไปก่อนค่ะ  เสาร์อาทิตย์ถ้าอากาศดีก็เผ่นทันทีค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: pall on February 04, 2005, 11:41:36 PM
คุณตุ้ม
 อืมเพิ่งรู้จากคุณเกี่ยวกับประกัน.ขอบคุณมากเลยที่ได้ข้อมูลใหม่ๆ
 ลุงของคุณต้องพยายามรักษาสุขภาพให้มากนะ.
 คุณด้วยต้องรักษาสุขภาพเช่นกัน.
 พูดถึงกลับไปอยู่เมืองไทยตอนบั้นปลายชีวิต
 สมัยแรกๆพี่ก็คิดแบบคุณแต่ต่อมา..เมื่อมาอยู่ที่นี่นานๆเข้า
 รู้สึกผูกพันธ์กับที่นี่มากเพราะครึ่งชีวิตใช้เวลาอยู่ที่นี่มากกว่าเมืองไทย
 พี่คิดว่าคงไม่กลับไปอยู่แล้ว.
 ช่วงที่เหลือก็จะพยายามหาความสุขประสพการณ์
 กับการไปชมโลกกว้าง...เปิดหูเปิดตาก้าวทันโลก.
 
 อย่างคุณเท่าที่เก็บเกี่ยวมาพี่คิดว่าคุณได้รับ
 ประสพการณ์มากเหลือเกิน...
Title: ตอบคำถาม
Post by: ต๋อย on February 05, 2005, 01:06:23 PM
ป้าตุ้ม ต๋อยยังไม่ได้ทำงานเลย ไปเรียนอย่างเดียวเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์  ก็แปลว่าเงินค่าเรียนต๋อยก็หักภาษีไม่ได้ล่ะสิ ตายล่ะหว่า หลงแอบดีใจช่วยแฟนทางอ้อมได้นิดๆๆๆๆๆนึง   ตอนนี้หัวสมองก็คิดอยากจะทำแต่งาน แต่ความจำเป็นคือเราต้องเรียนภาษาก่อนเป็นอันดับพื้นฐาน ตอนนี้ก็เรียนมาถึงครึ่งทางแล้วเรียนอีก 6 อาทิตย์ก็คงพักก่อน ลองหางานดู ส่วนอีกปลายทางของดก่อนให้เวลาสะสมทรัพย์ก่อน เพราะค่าเรียนแพงเหลือหลาย
 ป้าพอลที่นี่ก็ยุ่งยากเหมือนกันแหละภาษีจิปาถะ แต่ดีตรงที่แฟนต๋อยเขาทำงานที่มหาลัยมีรายได้คงตัวก็เลยไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เราก็คิดเหมือนกันอยากให้บริษัทหรือทนายช่วยทำภาษีให้ เพราะเขารู้วิธีซิกแซกมากกว่าเรา และตอนนี้แฟนเขากำลังทำบริษัทของตัวเองด้วยคือรับงานพิเศษเกียวกับทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์.ถือว่าเป็นรายได้พิเศษ
 อ้อป้าตุ้มต๋อยเพิ่งมาอยู่สวิสเป็นจริงๆจังๆก็ประมาณ 7 เดือนแล้วจ้าเรียนก็เข้า 5 เดือน
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 05, 2005, 02:05:22 PM
สวัสดีค่ะคุณ Pall ลุงแกขอทำงานอีก 3 ปีจนเกษียรแล้วเราก็จะหยุดพร้อมกัน  เที่ยวไปเรื่อยๆเหมือนกับคุณ Pall กับคุณลุงแหละค่ะ ถ้าลุงแกยังพอเดินทางไหว เมื่อก่อนนี้ก็ไม่เคยคิดกลับไปอยู่เมืองไทยค่ะเพราะอยู่นอกประเทศมานานกว่าอยู่เมืองไทย แต่พอย้ายมาอยู่ที่สวิสแล้วก็ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน อีกทั้งเงินทีสะสมไว้ก็เอามาใช้เป็นค่าเรียนของลูกที่โรงเรียนส่วนตัว ก็เลยไม่คิดอยากจะอยู่ถาวรค่ะ ลูกๆเค้าเรียนจบก็กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อและทำงานมีบ้านไปแล้ว ก็เลยไม่กลับมาที่สวิสอีกค่ะ  เราไม่เคยอยู่แฟลตมาก่อนก็มาจุกรวมกันอยู่  ที่อยู่ที่เจนีวาแย่งกันมากเพราะมี่ไม่พอค่ะ  ก็เลยคิดว่าเราทำงานมาตลอดชีวิตแต่ไม่มีบ้าน ถ้าอยู่เมืองไทยก็พอจะมีปัญญาปลูกบ้านได้ พอหน้าร้อนก็กลับมาอยู่บนเขาที่สวิสกันจนสุขภาพเราสู้ไม่ไหวก็ค่อยกลับไปอยู่ใกล้ลูกๆและครอบครัวเพราะเรายังมีบ้านอยู่ที่นั่นค่ะ  แต่ตอนนี้ไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไรนักค่ะเรื่องที่จะไปอยุ่เมืองไทย  เพราะได้รู้เห็นอะไรของเมืองไทยมากขึ้นจากการอ่านข่าว  บางครั้งเสียวค่ะไม่ใช่ว่าไม่รักบ้านเมืองแต่อาจจะเป็นเพราะความที่เคยชินในการอยู่ต่างประเทศมานานก็ได้ค่ะ  ลุงแกก็ไม่ให้ซื้อบ้านที่สวิสแล้วเพราะตอนนี้อายุมากขึ้นไม่เหมือนเมื่อก่อน  เลยคิดว่าจะทำงานการกุศลตอนหยุดงานอาชีพและท่องเที่ยงไปเรื่อยๆค่ะ
Title: ตอบคำถาม
Post by: ตุ้ม on February 05, 2005, 03:30:59 PM
สวัสดีจ๊ะต๋อย  ถ้าอยากจะหางานทำจริงๆ ก็ไปที่ป้าบอกจะได้ให้เค้าส่งเรียนหนังสือต่อก่อนไปทำงาน หรือไม่อีกทีก็เป็นพนักงานของบริษัทของแฟนต๋อยไป  เค้าจะได้หักต๋อยไปได้อีกคนในภาษี  ต๋อยเพิ่งมาได้ 7 เดือนกลัวว่าหลงดีใจว่าช่วยแฟนไม่ได้  ก็เค้าหักค่าเลี้ยงดูต๋อยได้ในภาษีกับได้ที่รักไว้แนบข้างและแจ๋วไว้ใช้แล้วงังล่ะ  55555