**DES COMMBAT DES REINES**
เป็นการต่อสู้ของวัวเพื่อชิงแชมป์ราชินีวัว รางวัลจะเป็นกระดิ่งผูกคอวัวและเงินรางวัล
สถานที่จัดการแข่งขันที่เมือง Martigny รัฐ Wallis
กำหนดการแข่งขันวันที่ 3 Okt.04
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0005 ห้อง guide (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
เครื่องหมายธงของ Martigny
Martigny ตั้งอยู่บนความสูง471 m เหนือระดับน้ำทะเล มีเนื้อที่จำนวน24.9 km²
จำนวนประชากร14'046 คน...(31. Dezember 2002)
การเดินทางสามารถเดินทางโดย
1.โดยทางรถไฟ
2.ทางรถยนต์
**กำหนดหมายการเดินทาง**
**วันที่ 3 Okt.04**
ลุงกับป้าได้วางโครงการอยากไปดูวัวขวิดกันตั้งแต่ปีที่แล้ว..เผอิญลุงล้มป่วยด้วยโรคหัวใจกระทันหัน
เลยทำให้การเที่ยวหยุดชะงักไปหมดไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวขั้วโลกเหนือ
และประจวบกับป้ามาล้มป่วยเกี่ยวกับเรื่องเลือดเลยทำให้การไปเที่ยวออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์และไปเที่ยวเมืองไทยต้องหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิง
งานนี้ป้ายิ้มแป้นเลยเพราะงบประมาณในคลังจะได้ไม่ร่อยหรอไปกว่าเดิม
อยู่มาวันหนึ่งลุงมาสะกิดสีข้างเบาๆ บอกว่าวันที่3ตุลาคม เป็นการแข่งขันชิงแชมป์นางงามวัวจะไปดูไหม
ป้าหูผึ่งเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ไม่เคยดูการชิงแชมป์ราชินีวัวเลยอยากดูมาก
อยากดูมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาศไปดูสักที เลยรับปากกับลุงทันทีว่าอยากไปมาก
งานนี้ไม่พ้นมัคคุเทสก์เดิมหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์เจ้าเก่า...ท้าพิสูจน์แบบไม่ลองไม่รู้...
ใครที่จะไปทัวร์กับลุงได้ต้องมีสภาพประสาทเอ๋อและหูไม่ค่อยดี จึงจะไปทัวร์แกอย่างมีความสุข...
คนไหนที่สุขภาพจิตดีมองโลกแบบใสกระจ่าง...สุขภาพหูได้ยินแบบ100%
ถ้าได้มาเที่ยวด้วยรับรองว่า..ครั้งเดียวก็เกินพอ..
ดูจากลูกทัวร์แกเหลือแค่ป้าคนเดียวคนอื่นส่ายหัวโบกผ้าขาวอำลากันหมดแล้ว...
**ก่อนออกเดินทาง**
วันศุกร์ที่2ตค.04มีแขกมาบ้านแบบกะทันหันเลยไม่มีเวลาเตรียมตัวทำอะไรเลย
คิดว่าพอแขกกลับแล้วจึงจะได้เตรียมตัวทัน ที่ไหนได้พอแขกกลับไปแล้วก็ไม่มีอารมณ์จัดทำอะไร
ป้าเห็นลุงนั่งดูรายการสุดโปรดคือดูกีฬาเตะบอลก็เลยถือโอกาสมาจับคอมที่ไหนได้กลายเป็นการแชทจนลืมเวลา...
แชทเพื่อชาติจนลุงด่า..กว่าจะเข้านอนได้ดึกเอาการนอนหลับๆตื่นๆตาค้างบอกไม่ถูก
สงสัยคงเครียดจากเสียงด่าของลุง...มาตกใจตรงเสียงอะไรเหๆๆตอนๆๆ(เสียงด่าของคนสวิส)
เห....หล่อนตอน...เพาล่า..ลุกๆได้แล้วจะโมงเช้าแล้วชั้นบอกแล้วอย่านอนดึก...
เป้ยังไม่จัดเลยของกินยังไม่ได้เตรียมแล้วอยากจะไปดูวัวหรือเปล่า..
หลังจากลุกและเตรียมตัวจัดของโยนลงเป้เรียบร้อยแล้วเริ่มออกเดินทางกัน...
แต่ก่อนอื่นต้องไปเติมน้ำมันก่อนเพราะจะหมดถังแล้ว.
หลังจากเติมน้ำมันเสร็จก็สะไตล์เดิม คือขับรถผิดเส้นทาง.
ถ้าเป็นเส้นเอาโต้บาน(ทางซุบเปอร์ไฮเวย์)จะขับแยกไม่ได้..แกหันมาด่าว่าทำไมไม่ช่วยดู..
จะดูทันได้อย่างไรแกซิ่งไวมากป้ามัวสะกดชื่อเมืองอยู่....
วันนี้บนถนนใหญ่ไม่ค่อยมีรถเท่าไร ข้างๆทางมีลูกพลาสติกกลมๆเต็มไปหมด.
พลาสติกเหล่านี้เป็นหญ้าที่ชาวนาตากให้แห้งแล้ว ใช้พลาสติกห่อแล้วจะมาเล่าให้ฟัง
ทางที่ขับสวยมากสองฟาก เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ใบเริ่มเปลี่ยนสีแล้วสวยสุดๆ...
อากาศช่วงเช้าเหนาวเย็นพอควร
**เส้นทางที่ใช้จะเป็นสีเขียวแบบในรูป**
เป็นเส้นทางที่เรียกกันว่าAutobahn เส้นทางที่ใช้ต้องระมัดระวังดูให้ดี
ลุงขับจากBern และแยกเข้า Freiburg หลังจากนั้นก็จะขับมาเรื่อยๆจนเข้าเขต รัฐ Wallis
<<<<..Siloballe..+ Heuballe ..(ตอน1..ทุ่งหญ้า)>>>
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,375.0.html
<<<<..Siloballe..+ Heuballe ..(ตอน2..หญ้าแห้งอัด)>>>
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,377.0.html
***ภาพที่เห็นคือเมือง SION (Sitten)**
**Martigny**
อยู่ในความปกครองของรัฐ Wallis
รัฐ Wallis เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว ในด้านความสวยงามทางธรรมชาติและทางด้านการเกษตร
และมีเมืองหลวงคือSION (Sitten) ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับชื่อนี้มีดังต่อไปนี้
เมื่อปี999 Kaiser Rudolf IIIได้ก่อตั้งเมืองนี้และเรียกชื่อนี้และเรียกชื่อมาถึงปัจจุบัน
*ธงของรัฐ Wallis**
เมื่อปี 1507 ได้มีรูปดาวทั้งหมด9ดวงซ้ายมือ4ดวงขวามือ5ดวง
ต่อมาเมื่อวันที่ 12พฤษภาคม1815
ได้เปลี่ยนจำนวนดาวเพิ่มขึ้นมีดาวทั้งหมด13ดวงและได้ใช้จนถึงปัจจุบัน
จำนวนรูปดาวที่อยู่ในรูปธงนี้
เป็นจำนวนตำบลเขตของรัฐ Wallis
***ธงประจำเขตของรัฐ Wallis **
พื้นธงจะเป็นสีขาวซึ่งหมายถึงความบริสุทธิ์สีแดงหมายถึงความรัก
**ป้ายรถยต์เขตนี้จะใช้อักษรย่อว่า VS**
***ผลไม้ที่เห็นในภาพชื่อลูกApikosen**
เขตรัฐ Wallis
เป็นเขตขึ้นชื่อมากในเรื่องการปลูกผล Apikosen เป็นจำนวนมาก
เป็นเขตที่น่าสนใจมากมีเสน่ห์และเป็นเขตที่มีการปลูกผลไม้ต่างๆมากมายเช่นผลApikosen,แอปเปิล,ลูกแพร์.....จำหน่ายทั่วไปในสวิตฯ
สามารถนำมาประกอบทำอาหาร,แยมกวน,ผ่าปอกเปลือกแช่ในน้ำเชื่อมเก็บไว้กินหน้าหนาวหรือนำมากินกับPolenta ข้าวโพดกวน
หรือตากอบให้แห้งกินได้ตลอดปีเป็นผลไม้ที่คนนิยมกินกันมาก
Apikosen เขตรัฐ Wallis
จะนำรายได้เข้าเขตนี้เป็นจำนวนมากมายและนำออกจำหน่ายปีหนึ่งประมาณ400-600 ตัน
น่าเสียดายมากที่กสิกรเขตนี้ได้ค่อยๆสูญหายไปร่วม90%จะเหลือแต่การปลูกพวกผลไม้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกแพร์,แอปเปิล,
พวกผลไม้ทางเขตนี้จะทำการส่งออกจำหน่ายไปขายแต่ละปีมีมูลค่ามหาศาลผลไม่ตกเป็น100ล้านกก.ต่อผลไม้แต่ละชนิดตามที่คิดเฉลี่ยคร่าวๆ
การขนส่งจะใช้รถบรรทุกหรือตู้รถไฟที่จัดโดยเฉพาะร่วม10000 ตู้/ปี
**ชุดแต่งกายประจำเขตรัฐ Wallis**
Kanton Wallis
พื้นที่5'224 km²(มากเป็นอันดับที่3)
จำนวนประชากร 288'800 คน(ปี2004)มากเป็นอันดับที่9
เข้าร่วมรวมกลุ่มสวิตฯปี1815
ภาษาพูด คือภาษาฝรั่งเศส,และภาษาเยอรมัน
ศาสนา
Katholisch: 81.2% (89%)
Protestantisch: 6.3% (5%)
Andere/Keine: 12.5% (6%)
รัฐนี้มีบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีหลายคนเช่น
Kardinal Matthäus Schiner (1465-1522)
Domherr Peter Joseph Ruppen (1815-1896)
Joseph S. Blatter (ประธานฟุตบอลฟีฟ่า)
Pirmin Zurbriggen (นักสกีสวิสได้รับเหรียญทองหลายรางวัล)
http://www.vs.ch/Navig/home.asp
รัฐWallisจะมีแพะภูเขาที่เรียกว่าDie gletschergeiss
แพะภูเขาที่มีขนยาวขาว-ดำแบบนี้
จะมีในเขต Wallisเท่านั้น
ปัจจุบันสูญพันธ์ไปเกือบจะหมดแล้ว
แต่ยังหาดูได้อยู่ไม่มากเหมือนสมัยก่อนที่ป้ามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ
**ภาพที่เห็นคือDie Lötschentaler Masken **
เขตนี้จะมีประเพณีเก่าแก่ที่รู้จักขึ้นชื่อกันดี
การสรวมหน้ากากเหล่านี้จะจัดกันในช่วง Fasnachts
ที่เราเรียกกันว่า"Tschägättä"
ลุงเริ่มขับรถเข้าเขตของเมือง Martigny
มาตินี่ เป็นเมืองเล็กๆแต่มีชื่อเสียง
รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปมาก.
สำหรับคนไทยเราอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนัก.
เมือง Martignyอยู่ในรัฐ
หรือเรียกง่ายๆจังหวัด Wallis
ใครที่มาเที่ยวเขตนี้
จะสามารถสัมผัสกับกลิ่นไอ
และสิ่งก่อสร้างของพวกชาวkelt ,
ชาวโรมันสมัยก่อน,
และNapoleons
ที่ได้ทิ้งร่องรอยเหลือไว้ให้เราได้เห็น
เมือง Martignyจัดว่าเป็นศูนย์รวม
และเมืองวัฒนธรรมของชาวโรมันเก่าแก่
ที่สามารถเห็นได้จากสิ่งก่อสร้าง
ที่เหลือร่องรอยไว้เป็นตัวอย่าง
แก่การศึกษาและการกีฬาที่ชื่นชอบของชาวโรมันยุคนั้น
เมือง Martigny
เพิ่งจะมาเป็นที่รู้จักกันดีเมื่อไม่กี่ปีมานี้
เมื่อปีคศ.1978Pierre Gianadda
ได้มาเปิดKunstgallerie
ให้คนได้เข้ามาชมจนรู้จักกันดีทั่วโลก.
ข้างในจะเป็นภาพวาดอันมีชื่อเสียงก้องโลก
ของคนดังต่างๆไม่ว่าจะเป็น
Picasso,Gauguin, Klee หรือคนอื่นๆ.
ลุงขับรถเข้าเมืองMartigny แล้ว แทบจะตาเหล่เพราะต้องขับขับรถวนไปมา
เพื่อหาสนามแข่งขันวัวขวิดกัน... หาสถานที่ไม่เจอเลยต้องหยุดถามคนไปตลอดทาง..
ทางเขตนี้ใช้ภาษาฝรั่งเป็นภาษาหลัก ภาษานี้ป้าส่งคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว ลุงเลยต้องจัดการแทน..
คนบอกทางเป็นคนอยู่ในวัยรุ่นเดอะ..แต่แลดูกระชุ่มกระชวยมาก
ได้ยินเสียงแกบอกว่าขับรถไปจนถึงวงเวียน แล้วให้เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวไปเรื่อยๆ....
ป้าเห็นสภาพมันพิกลๆ เลยบอกลุงว่าไหนเขาบอกว่า
....อา..โก๊ส...(แปลว่าซ้าย)ดูแล้วมันไม่ใช่
เผอิญมีคนรุ่นเดอะหลงมาอีกแล้ว เป็นหญิงแก่พยุงหญิงแก่ซึ่งแก่ทั้งคู่ เดินโดะเดะมาเลยหยุดรถถาม
ลุงแกปาดหน้าจนเขาสะดุ้งโหยง ดีนะที่คนแก่ดับเบิ้ลแก่ทั้งคู่ไม่ช๊อกไปเสียก่อน...
เกือบไม่ได้ดูวัวขวิดกันเสียแล้ว.เขาบอกว่า...อา...ด๊วด..อืมด๊วดก็ด๊วด....คำนี้แปลว่าขวมือ...
ตาลายมากกับการจราจรเขตนี้ ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังสูง
ป้าเห็นรถจอดเป็นจำนวนมากผิดสังเกตุเลยให้ลุงหยุดถาม ปรากฏว่าเป็นสถานที่ที่เขาจัดงาน
ดีใจที่ยังมีที่ว่างจอดรถได้ มีคนมาชมเป็นจำนวนมากเดินเต็มไปหมด
ป้าเห็นวัวเขาเอาเชือกผูกยืนหน้าตูมเป็นจำนวนมากกะคร่าวๆหลายร้อยตัว แต่ละตัวหุ่นเหมือนสาวยกน้ำหนัก
เราเดินไปจนถึงสถานที่จัดงานและซื้อตั๋ว กว่าจะซื้อได้น้ำลายยืดเลยเพราะต้องคิดหาศัพท์
...เดอ....ทิ..เค๊ท.....อา..เว...วู...ปู...แพง..ซิ...ออง...
คนขายมองหน้าและเกาหัวไปมาพร้อมทั้งยื่นบัตรให้มา
...แวง...กาด..
ได้ตั๋วมาแล้วต่างพากันเดินไปหาที่นั่ง เขาจะแบ่งเป็น2ข้าง
ตอนแรกป้ากับลุงไม่รู้เพราะ ภาษาฝรั่งเศสไม่ค่อยแข็งแรงกัน
ตอนหลังถึงได้รู้ว่าตั๋วที่ซื้อมาราคาถูก... ถึงว่าด้านนี้คนแทบจะขี่คอกันดู
วัวที่นำมาแข่งขันเป็นพันธ์ที่เลี้ยงแถบรัฐ Wallis
วัวพันธ์นี้เป็นพันธ์ ที่เลี้ยงสำหรับใช้การแข่งขันขวิดกันโดยเฉพาะ
กีฬานำวัวมาขวิดกันจะมีอยู่รัฐเดียวคือ Wallis
และเราเรียกวัวพันธ์นี้ว่า Eringer
ในประเทศสวิตฯจะมีวัวพันธ์นี้ประมาณ
700,050 ตัว หรือมากกว่านี้
วัวพันธ์Eringer
เป็นวัวมีรูปร่างเล็กๆป้อมๆลำตัวสั้นๆ
และขาจะสั้นหน้าเหมือนดุร้าย.
ไม่รับแขก...เหมือนซ่าหาเรื่องคนไปทั่ว
แต่ความเป็นจริงแล้ววัวพันธ์นี้อารมณ์ดี
แต่ชอบการต่อสู้...และมีความอดทนมาก
การเลี้ยงดูก็คล้ายๆกับวัวทั่วๆไป
คือหน้าหนาวนำมาเลี้ยงในคอก
แต่พอย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิก็นำขึ้นไปเลี้ยง
บนทุ่งหญ้ากว้างบนภูเขา
**การแข่งขันต่อสู้**
วัวที่นำมาแข่งขันทุกตัว
จะมีหมายเลขเขียนบอกไว้...
และชื่อของวัวแต่ละตัว.
เราจะดูได้จากกระดาษที่เขาแจกไว้.
วัวแต่ละตัวจะผูกกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งกังวานไปทั่วสนาม.
การแข่งขันจะแบ่งออกเป็น2ประเภท
A.คือกลุ่มแรกเป็นวัวที่อยู่ในวัยที่นมยังไม่ตั้งเต้า
ซึ่งอายุคงประมาณ2หรือ3ปี
น้ำหนักตกประมาณ3หรือ400กก.
B.เป็นวัวที่อยู่ในวัยสาวนมตั้งเต้า
สวยงามเห็นห้อยโตงเตงนิดหน่อย
แต่บางตัวก็ยานโตงเตงเห็นชัด.
ภายในสนามแข่งจะจัดเป็นวงกลม
จะนำวัวประมาณ10ตัว
ถ้าเป็นวัวที่อยู่ในวัยรุ่น
แต่ถ้าเป็นสาวนมโตก็12ตัว
เขาจะแยกแข่งแต่ละกลุ่มก่อน
แล้วนำมาแข่งกัน
ถึงเวลาแข่งกรรมการจะประกาศ
ให้เจ้าของวัวนำวัวเข้ามาตามหมายชื่อที่เรียก.
เขาจะเอาวัวเข้าไปกั้นในเชื่อก
ที่ผูกไม้ที่มัดวัดกับหลักไว้.
พอนำวัวเข้ามาจนครบก็ปิดเชือกกั้น.
หลังจากเรียบรอ้ยแล้ว.
กรรมการที่ตัดสินจะมี5คน
จะให้เจ้าของเอาเชือกที่มัดปากและคอวัวเอาออกไป
เพื่อทำการต่อสู้
หลังจากนั้นกรรมการจะจับเขาของวัวมาชนกัน.
คู่ต่อสู้จะพยายามกดหัวให้อีกฝ่ายตรงข้ามหมดทางสู้
และพยายามเอาใบหน้าของตนกดไว้
ตัวที่เสียเปรียบพยายามเสยหาทางออก.
วัวบางตัวไม่ยอมต่อสู้กัน
กรรมการจะให้เวลา...
แต่ถ้าไม่ต่อสู้กันจริงๆก็เป็นอันว่า
แพ้ตกรอบ.เจ้าของต้องมาผูกปากจูงออก.
การต่อสู้ของบางคู่จะเร้าใจมาก...
ไม่ยอมกันจะต่อสู้จนอีกฝ่ายวิ่งหนียอมแพ้
.เขาจะจัดการแข่งขัน 2รอบ
ช่วงเช้าจะให้แข่งขันเพื่อชิงเข้ารอบสุดท้าย
ซึ่งจะจัดตอนบ่ายหลังจากให้คนหยุดพักกินอาหารแล้ว
ก็จะจัดต่อ เป็นการชิงแชมป์ราชินีวัว
สำหรับวัวที่เข้ารอบหรือตกรอบ
เจ้าของจะให้น้ำให้ท่าดูแลอย่างดี
วัวบางตัวจะขุดดินเป็นหลุม
เพราะเครียดต่อการต่อสู้
และเกิดความกลัว....
ซึ่งคล้ายๆกับเราตอนลงสนามแข่ง
วัวตัวไหนที่ตกรอบ
เจ้าของวัวจะนำกลับบ้าน
เพื่อนำมาต่อสู้ในคราวต่อไป
หรืออาจจะเลือกเอาตัวใหม่เข้ามาแทน.
การจัดการแข่งขันจะจัดที่รัฐWallisทุกๆปี
ถ้าใครต้องการดูจะหาดูได้ปีหน้า.
น่าสงสารวัวอ่ะค่ะป้า อิ อิ อิ แต่ลุงซิ่งน่าดูเลยนิ ซิ่งจนหลง เอิ้กๆๆ
หวัดดีค่ะป้าพร เคยไปเที่ยว Wallisมาเหมือนกันค่ะป้า
แต่ไป saa-feeมาค่ะสวยมากชอบค่ะ
เป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่โรมานติคค่ะ อยากไปอีกแต่ยังไม่เคยไปดูวัวชนกันเหมือนป้าไปมาค่ะ ขอบคุณค่ะที่เก็บภาพมาให้ดูค่ะ
อีกภาพค่ะ
แม่ท้องป่องคนนี้ค่ะ
ภาพนี้ก็สวยดีค่ะ หน้าร้อนหิมะจะละลายไหลลงสู่ข้างล่างค่ะ
ขับรถขึ้นเขา นานๆเหนื่อยก็พักเข้าห้องน้ำ นั่งดื่มกันก่อนได้ค่ะที่นี่ แต่ขอบอกว่าทัวร์ริสเยอะมากๆๆค้า
วัว น่ารักอ่ะค๊า
สงสารเนอะ ปายชนกันให้เจ๊บตัว ทามมาย
พี่ยาหยี แจงก็ไปมาเหมือนกันค๊า ตรงเนี้ย
ซื้อบัตรเข้าไปในถ่ำหิมะด้วยจ้า