Pall's Webboard

General Category => ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆ => Topic started by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 24, 2006, 05:20:22 PM

Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 24, 2006, 05:20:22 PM
ใครมีวิธีดีๆ ช่วยบอกกันบ้าง
 
 แฟนของแม่จิ๋วจิ้วฯเคยบอกตั้งแต่ก่อนที่แม่จิ๋วจิ้วฯจะมาเยี่ยมบ้านเขาครั้งแรกว่าคนสวิสค่อนข้างจะเป็นคนเย็นชานะ  เป็นเหมือนคำเตือนกลายๆว่า อย่าไปหวังว่ายิ้มให้ใครแล้วเขาจะยิ้มตอบ  หรือมีไมตรีให้ใครแล้วจะได้รับไมตรีตอบ  ประมาณนั้น  
 
 แฟนแม่จิ๋วจิ้วฯบอกว่า ถ้าคนสวิสได้เคยออกไปเที่ยวนอกประเทศสักครั้งหนึ่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ไปเที่ยวในประเทศยากจนแถบเอเชียและแอฟริกา รับรองว่าจะติดใจในความอบอุ่นที่ได้รับจากคนท้องถิ่นเหมือนที่เขาได้รับ จนทำให้ต้องกลับไปเที่ยวครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อมีโอกาส  จะเรียกว่าโดยส่วนลึกในใจแล้วคนสวิสเป็นคนขาดความอบอุ่นจากคนสวิสด้วยกันเองก็ว่าได้
 
 ไม่ทราบว่าใครคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้างคะ  แล้วมีวิธีทำใจยังไงกันบ้างเพื่อให้ตัวเรารู้สึกดีกับตัวเองในยามที่ต้องมาอาศัยบ้านเมืองเขาอยู่
 
 เมื่อตอนมาสวิสครั้งแรกเพื่อร่วมงานแต่งเพื่อน  แม่จิ๋วจิ้วฯไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากกับปฏิกิริยาคนท้องถิ่นเพราะตอนนั้นพวกเยอะ มาจากเมืองไทย 5 คน รวมเจ้าสาวด้วยก็เป็น 6 คน มีเจ้าบ่าวชาวสวิสทำหน้าที่ไกด์และขับรถ  ก็ยกขบวนกันไปเที่ยวเมืองสำคัญเกือบทุกภาคของประเทศสวิสประมาณ 1 อาทิตย์ ตั้งแต่ Geneva, Lausanne, Vevey, Montreux, Zermatt, Lucerne, Zurich, Berne, Gruyeres, Interlaken, Grindelwald จนถึง Jungfraujoch ตอนนั้นโรคซาร์กำลังระบาดแถบเอเชีย  เวลาเจอฝรั่งทำสีหน้าท่าทางประมาณว่าเราอาจเป็นตัวแพร่เชื้อโรคซาร์ให้เขาได้  พวกเราก็จะทำเป็นไอค๊อกแค๊ก
 แกล้งเขาเล่น  สนุกดี  
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0190 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 24, 2006, 05:32:12 PM
แต่พอมาสวิสครั้งที่ 2 ที่ 3 ชักเริ่มรู้สึก เพราะคราวนี้เป็นคนไทยหัวเดียวไม่มีพวก  
 
 เมืองที่แม่จิ๋วจิ้วฯอยู่เป็นเมืองเล็กๆแถบ Lucerne แต่ก็ไม่ถึงกับเล็กมาก  มี Migro ขนาด M เดียวหนึ่งแห่ง กับมี Coop ขนาดกลางหนึ่งแห่ง  มีร้านเบอเกอรี่ 4-5 ร้าน  ร้านพิซซ่า 2 ร้าน ร้านอาหารอิตาเลี่ยน 1 ร้าน ร้านอาหารพื้นเมือง 4-5 ร้าน ร้านทำผม 3-4 ร้าน ร้านขายเนื้อ 2 ร้าน ร้านหนังสือและเครื่องเขียน 2 ร้าน  ธนาคาร 2-3 แห่ง โรงหนังขนาดเล็ก 1 โรง  มีเขตเมืองเก่าให้เดิน Window Shopping หลังอาหารเย็น  
 
 คนที่นี่ แม่จิ๋วจิ้วฯยิ้มให้ เขาไม่ยักยิ้มตอบ แถมทำสีหน้าแววตาเฉยเมยใส่  นานๆจะเจอคนยิ้มให้ที ส่วนใหญ่จะเป็นคนแก่ที่แก่มากๆ เคยขี่จักรยานเที่ยวคนเดียวแล้วหยุดกางแผนที่ดูู  มีคนแก่ผู้หญิงอายุน่าจะ 70-80 ได้ขี่จักรยานผ่านมาเห็นเข้า ยิ้มแย้มเข้ามาถามไถ่แม่จิ๋วจิ้วฯว่าจะไปที่ไหนยังไง ช่วยแม่จิ๋วจิ้วฯดูแผนที่  เสียดายที่แม่จิ๋วจิ้วฯฟังภาษาเยอรมันไม่ออก แต่ก็รู้สึกดีมากถึงความมีน้ำใจ  เมื่อ 3-4 วันที่แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวเมือง St.Gallen คนเดียว ตอนเปลี่ยนรถไฟที่ซููริค กำลังยืนดูโพยในมือว่าจะต้องต่อรถไฟช่องไหน ก็มีหนุ่มสวิสคนนึงมีน้ำใจมาถามแล้วชี้ช่องให้  แต่วันหนึ่งไปเดินเล่นในเมืองคนเดียว  เจอเด็กผู้หญิง 3 คนอายุน่าจะ 9-10 ขวบ ทำท่าเบะปาก ยักไหล่ให้ มือก็โบกขึ้นลงแถวจมูก  ทำท่ารังเกียจเหมือนเราเป็นพวกตัวประหลาดสกปรก  หรือตอนไปดููเขาแข่งแฮนด์บออลกับแฟน ตอนเดินเข้าไปนั่งในสนาม คนที่นั่นก็จะพากันมองมาที่แม่จิ๋วจิ้วฯเป็นตาเดียว แล้วทำหน้าเฉยๆใส่ ไม่มีใครยิ้มให้เลย  ไม่เหมือนบ้านเรา ที่พอฝรั่งเดินผ่านหน้าบ้าน เราก็ยิ้มให้ เด็กๆส่งเสียงฮัลโหลๆตื่นเต้นตามประสา
 
 เจอเหตุการณ์ประมาณนี้ได้สัก 2 อาทิตย์แม่จิ๋วจิ้วฯถึงกับร้องไห้  ไม่รู้ใครเคยเป็นบ้าง  หลังๆเวลาเดินสวนใคร แม่จิ๋วจิ้วฯก็เลยทำหน้าเฉยๆบ้าง นึกถึงคำพูดเพื่อนที่ว่าอย่าไปสนใจ  ไม่ต้องเก็บเอามาใส่ใจ คิดซะว่าเราไม่ได้ไปขอข้าวใครกิน ก็พอช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง  หรือแม่จิ๋วจิ้วฯกำลังจะกลายเป็นคนเย็นชาเหมือนคนสวิสไปซะแล้ว
 
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เทียนหอม on March 24, 2006, 06:22:51 PM
เข้ามานั่งฟัง ประสบการณ์เรื่องมนุษยสัมพันธ์ ของคุณแม่จิ๋วจิ้ว และเพื่อนๆท่านอื่นด้วย ได้ยินมามากว่า คนยุโรปจะไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใสกับคนแปลกหน้าเท่าไร โดยเฉพาะ คนเยอรมัน  
 
 อยากรู้ว่า  
 1. เป็นเพียงท่าที บุคลิกเพียงภายนอก ซึ่งอาจมีผลมาจากสภาพอากาศที่ทำให้คนต้องอยู่แต่ในบ้าน มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นน้อย ก็เลยดูเหมือนจะเย็นชากับคนแปลกหน้า แต่ถ้าถึงเวลาต้องช่วยเหลือ เขาจะไม่นิ่งนอนใจ
 
 หรือ
 2. เป็นนิสัยที่ไม่สนใจใคร ไม่มีมิตรภาพ ไม่มีน้ำใจ
 
 ที่อเมริกา เมืองที่อยู่ ผู้คนจะยิ้มแย้มแจ่มใสมาก ชอบคุยกับคนแปลกหน้าซะด้วยซ้ำ หน้าตาคนไทยจะยิ้มแย้มอยู่แล้วด้วย ฝรั่งก็จะยิ้มตอบเสมอ บางทีไม่ได้ยิ้มด้วยซ้ำ เค้าก็ส่งยิ้มให้ เมื่อตาสบตา
 
 หรืออย่างที่ NZ ฝรั่งก็เป็นมิตรมาก ทักทายคนแปลกหน้า เวลาเดินสวนกัน  
 
 ตอนอยู่เจนีวา ก็ไม่มีความรู้สึกว่า คนที่นั่นไม่เป็นมิตร อาจจะยิ้มน้อยหน่อย แล้วก็เป็นประสบการณ์ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เลยอยากเรียนรู้นิสัยใจคอของคนยุโรปมากกว่านี้ค่ะ
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: namelin on March 24, 2006, 07:15:55 PM
ดีค่ะ
 ขอร่วมด้วยคนนะคะ กะลังว่าง
 อย่าว่าแต่คนทั่วๆไปเลย คนสวิสเห็นดาราดังๆก็ยังเฉยๆ
 เคยได้ยินว่าดาราบางคนชอบมาที่นี้ เพราะไม่มีใครสนใจดี ไม่เหมือนที่อื่น ที่ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
 การที่เขาเฉยๆ ก็อย่าไปมองว่าเขา ไม่ชอบ หรือรังเกียจ ก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน แต่มันอาจจะเป็นเพราะมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ได้ เช่นคนเยอรมัน ที่ชอบพูดอะไรตรงไปตรงมา ไม่ต้องรักษาใจกัน เขาก็บอกว่า เขาก็เป็นแบบนี้ละ แต่ไม่ได้มีอคติอะไรหรอก ก็ต้องเข้าใจ เรียนรู้กันไป  
 แต่จากที่สังเกตุมา คนแก่น่ารักสุด คนที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกะคนต่างชาติกลับเป็นพวกวัยรุ่น แต่ส่วนตัวเห็นว่า อาจจะเป็นเพราะวัยรุ่นยังมีพัฒนาการทางสังคมไม่เพียงพอ จึงปฏิบัติเช่นนั้น  
 ประสบการณ์ส่วนตัวเคยเจอแต่คนมาถามทาง เป็นประจำ เห็นหน้าไม่ได้ แล้วจะตอบได้ไงละ ขนาดคนเจ้าถิ่นบางคนยังไม่รู้เลย  
 จขกทเป็นคนยิ้มง่าย เป็นมิตรก้อดีแล้วละคะ ใครไม่ยิ้มตอบก็ช่างเถอะ ถือว่าได้บริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าก็แล้วกัน แถมยังอารมณ์ดีด้วยนะ (เพราะถ้ายิ้มก็คงจะอารมณ์ดีใช่ป่าว) จบดีกว่า :>  
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: โอเ on March 24, 2006, 09:06:49 PM
สวัสดีค่ะ  เห็นด้วยกับคุณ namelin ค่ะ ที่ว่า วัยรุ่นไม่ค่อยเป็นมิตร เพราะยังมีพัฒนาการทางสังคมไม่เพียงพอ  อย่างว่าแหล่ะค่ะ คนเรามีทั้งเป็นมิตรและไม่เป็นมิตรล่ะ คิดซะว่าอยู่ส่วนใครส่วนมัน เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วเราอยู่ที่นี่ก็ถูกกฎหมาย ไม่ได้ทำผิดอะไร ขึ้นรถก็ซื้อตั๋วเหมือนกับคนประเทศเค้าทั่วไป คิดในแง่ดีเข้าข้างตัวเองเข้าไว้ก็จะสบายใจเองแหล่ะค่ะ อิๆ  โอเลี้ยงอยู่แถบๆลูเซิร์นเหมือนกัน นั่งรถไฟประมาณ 17 นาที  อยากมีเพื่อนคุย นัดเจอกันที่ลูเซิร์นได้นะคะ  
 ระยะเวลาจะช่วยทำให้เราชินกับสิ่งแวดล้อมเองล่ะค่ะ  ไม่ต้องคิดมาก
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: pall on March 24, 2006, 11:37:30 PM
สวัสดีค่ะทุกๆคน
 มาขอออกความเห็นด้วยคน
 ถ้าเราพูดกันจริงๆแล้วป้าว่าทุกๆชาติจะคล้ายๆกัน
 เรื่องการมอง..ความเย็นชา...หรือท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตร
 ไม่ว่าคนสวิส..หรือชาติอื่นๆ...
 หรือคนไทยเราก็เหมือนกัน(อย่าเพิ่งมาด่าป้านะ)
 เป็นแค่การออกความเห็น...
 
 ยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีปัญหากับคนสวิส
 รู้จักและเข้าใจถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอุปนิสัยใจคอ
 ของคนสวิสดีพอสมควร..จึงพยายามทำความเข้าใจ
 และปรับตัวเข้าหาเขา..ทุกอย่างเราต้องเริ่มก่อน..
 จะรอให้เขาเข้ามาหาเราอย่าหวัง...
 เหมือนรอให้น้ำท่วมหลังเป็ด..ไม่มีวันเจอ..
 ดังนั้นป้าจะเป็นคนเริ่มก่อนตลอดเวลา..
 ไม่ว่าจะทักทายหรือพูดกับลมๆแล้งๆ...ซึ่งก็ได้รับการทักทาย
 หรือการพูดคุยกลับมาอย่างเป็นมิตร...(บางครั้งก็เก้อ.แต่ไม่เคยผิดหวัง)
 การมอบไมตรีเราต้องยื่นให้เขาก่อน...
 คนสวิส...ถึงจะเย็นชา...แต่ถ้าเราต้องการความช่วยเหลือ
 เขาจะรีบช่วยเรา..(ถึงแม้จะไม่ทุกคน)
 โชคดีมากๆเลย.เขตที่ป้าอาศัยอยู่ไม่เคยเจอคนสวิสทำท่าดูถูก
 หรือเกลียดคนต่างด้าว...ทุกคนล้วนเป็นมิตรและทักทายกัน
 อย่างมีไมตรี..หรือเขตที่ป้าอยู่อาจจะเป็นบ้านนอกก็ได้
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: พรหล้า on March 25, 2006, 01:26:43 PM
หนูก็เหมือนป้าค่ะ
 ไม่เคยเจอชาวสวิตทำท่าไม่เป็นมิตรกับหนูสักที
 มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูกับแฟนได้รับเชิญไปค้างที่บ้านเค้า
 ก็เลยนั่งรถไฟกันไปเรื่อยๆ ต่อด้วยนั่งรถรางขึ้นไปบนเขา
 หนูกับแฟนก็แบบว่านั่งเลยป้าย นั่งไปสุดสายซะงั้นแล้วมันก็เย็นมาก
 โทรหาเจ้าของบ้านก็ไม่มีคนรับ ก็เลยนั่งอยู่แถวๆนั้น อากาศก็เย็นมาก
 มีรถวิ่งมาคันหนึ่ง เลี้ยวเข้ามาหนูก็นึกว่ามีคนมารับ ที่ไหนได้เป็นใครก็ไม่รู้ แต่เค้าเข้ามาถามว่ารอใครอยู่เหรอ มีอะไรให้ช่วยไหม หนูก็บอกว่ารอ คุณ.... แล้วก็ยื่นนามบัตรไป เค้าอ่านแล้วบอกไม่รู้จัก แต่แทนที่เค้าจะกลับ เค้ายื่นรอเป็นเพื่อนซะงั้น แล้วก็คุยอะไรกันเรื่อยเปื่อย สุดท้ายหนูก็โทรติด แล้วก็บอกเค้าว่ามีคนขึ้นมารับแล้ว เค้าก็เลยกลับไป ส่วนเจ้าบ้านที่หนูโทรไปแล้วไม่มีคนรับเพราะ เค้าทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถ แล้วตัวเค้าออกไปเดินหาหนูกับแฟนที่สถานีรถไฟ มีแต่คนดีๆทั้งนั้นเลย เล่าแล้วก็ประทับใจค่ะ
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 26, 2006, 10:45:44 AM
อืม...เกตุว่าถ้าอยู่นอกเมืองผู้คนจะน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใสนะ พอย้าย
 เข้ามาอยู่ในเมืองรู้สึกว่าผู้คนแข็งกระด้าง ยิ้มไม่เป็น ทักทายกันไม่
 เป็น นอกจากคนแก่ ไม่เฉพาะแต่พวกวัยรุ่นหรอกค่ะ คนรุ่นทำงานนี้ก็
 เป็น ขนาดที่พักตึกเดียวกันนี้ เกตุทักไปเขาก็ไม่ทักตอบ ยิ้มให้ก็เมิน
 หน้าหนี เดินไปตามถนนก็เหมือนกัน เฮ้อ อยากย้ายออกนอกเมือง
 มากกว่า เกตุเลยรู้สึกว่าคนที่อยู่ในเมืองกระด้างสู้ผู้คนนอกเมืองไม่
 ได้ แต่ตอนหลังเกตุก็ไม่เคยทักเขาอีกเลย เจอหน้าก็ทำเฉยมั้ง  แต่
 บางคนในตึกก็น่ารักดี
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ตุ้ม on March 26, 2006, 04:41:38 PM
สวัสดีทุกๆคนค่ะ
 ในประเทศสวิตฯมีพลเมืองที่เป็นชาวต่างชาติมากกว่า 20% ซึ่งสูงมากว่าประเทศใดๆในยุโรป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่จะมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่หนาแน่นกว่าเมืองเล็กๆ  ในจำนวน 20% นี้ไม่นับชาวต่างชาติที่ได้โอนสัญชาติเป็นชาวสวิสแล้วและชาวต่างชาติที่ข้ามชายแดนเข้ามาทำงานในสวิสฯทุกๆวันอีกทั้งผู้ที่รับวีซ่านักท่องเที่ยวที่พำนักระยะสั้นชั่วคราวไม่กี่เดือน  การที่เราประสบเหตุการณ์ที่ทำให้เราคิดว่าคนสวิสไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส อาจจะเป็นไปได้ถึงกว่า 20% ได้ว่าบุคคลนั้นไม่ใช่ชาวสวิสที่แท้จริง  ชาวสวิสส่วนใหญ่เป็นคนที่ซื่อสัตย์และเที่ยงตรงอีกทั้งเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นมาก  อาจจะเป็นไปได้มั๊ยคะที่การที่เค้าเคารพความเป็นส่วนตัวทำให้เราเข้าใจผิดว่าไม่เป็นมิตร  ลักษณะเด่นข้อนี้ของชาวสวิสทำให้ประเทศสวิสฯได้เป็นศูนย์กลางของการธณาคารและการบริหารเรื่องการเงิน  ในประสบการณ์ของตัวเองที่อยู่ที่นี่มากว่า 20 ปี ยังไม่เคยพบเหตุการณ์ที่ทำให้คิดว่าชาวสวิสไม่เป็นมิตรเลย  ทุกๆครั้งที่พูดทักทายใครจะได้รับการทักทายตอบทุกครั้ง  มีอีกข้อที่สังเกตุง่ายมากคือในระหว่างเวลาเดินทางในเครื่องบิน กัปตันจะพูดกับผู้โดยสาร
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ตุ้ม on March 26, 2006, 04:46:19 PM
ขอโทษค่ะ  เขียนยังไม่จบกดผิด
 กัปตันสวิสจะพูดกับผู้โดยสารแบบตรงไปตรงมาไม่มี Sex Appeal หรือลูกเล่นเลย  ถ้าเป็นชาติอี่นเราจะรู้ได้ทันทีเพราะการพูดผิดกันมาก  โดยเฉพาะเวลาที่เครื่องมีปัญหากัปตันชาวสวิสจะพูดเหมือนกับแถลงข่าวแต่ชาติอื่นจะพูดปลอบใจไปดัวย
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 27, 2006, 12:22:51 PM
ขอบคุณทุกท่านมากค่ะที่แวะเข้่ามา  จะว่าไปคนไทยเรานี่ก็แปลกที่ยิ้มง่าย  เป็นไปได้ไหมคะว่า เป็นเพราะ  
 
 (1) อากาศบ้านเราดีตลอดปี  แสงแดดทำให้ใจคนปลอดโปร่ง  
 
 (2) เมืองไทยเราสงบสุข  และถึงแม้จะมีเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่ก็ไม่ค่อยกระทบกระเทือนความเป็นอยู่ของคนหมู่มาก ไม่เหมือนกับประเทศแถบตะวันออกกลาง  
 
 (3) เมืองไทยตั้งอยู่ในทำเลดี  ไม่มีภัยธรรมชาติร้ายแรงให้ขวัญผวา ( ยกเว้นสึนามิ )  
 
 (4) ถึงแม้ประเทศไทยเราจะยากจนแต่เรื่องอาหารการกินกลับอุดมสมบููรณ์  มีกินตลอดปี  
 
 (5) บ้านเราไม่มีปัญหาร้ายแรงเรื่องความแตกต่างในการนับถือศาสนา ชาวพุทธ มุสลิม คริสต์ และอื่นๆ อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข  
 
 ทั้งหมดนี้อาจทำให้คนไทยเป็นคนสบายๆไม่ค่อยเครียดมากนัก  จะว่าไปก็น่าเห็นใจคนเมืองหนาวที่อากาศหดหู่พาลให้คนรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ท้อแท้ on March 27, 2006, 03:23:50 PM
สวัดดีค่ะ ร่วมลงขันออกความเห็นด้วยคนนะ  
 อ่านทุกๆควมเห็นมานานแล้ว ทนไม่ไหวเลยต้องขอแจมด้วยคน  
 ใครเคยโดนประเภทหัวเราะเยาะบ้างหละ คงไม่มีหละซิท่า  
 นี่ค่ะอิฉันเองโดนเต็มๆเลยค่ะ ตอนไปหัดเรียนออกเสียงภาษาเบิ์รนด้อย  
 *คนสอนเลยและไร้จรรยาบรรณไม่รู้มาเป็นคูรสอนได้ยังไง  
 หัวเราะเยาะเราตอนเราออกเสียงไม่ถูก ไม่ได้แกล้งพูดผิดนะ แต่เราออกเสียงลำบาก  
 บอกเราดีๆก็ได้ทำไมต้องเยาะเย้ยเราด้วย แค่นั้นไม่พอวันต่อมาทำเหมือนเราไม่ได้อยู่ในห้องเรียนด้วย.  
 เราเอากลับมาเล่าให้แฟนฟัง เขาก็บอกว่าเราคิดมาก น้อยใจจริงๆ .  
 ยังไม่จบนะเรื่องของคนฝรั่งสวิสนะ ยังมีอีกเยอะเลย .  
 ขอเล่าอีกเรื่องนะมันค้างคาใจมานานแล้ว คนอายุมากที่นี่ไม่เหมือนผูสูงอายุบ้านเราใจดี.  
 เหตุการณ์นี้เจอมาสองครั้งแล้วไม่นั้นไม่กล้าจะเอามาเล่าให้ฟังแน่ ตอนไปขึ้นรถราง เราเห็นที่ว่างเราก็เดินไปนั่งมีผู้หญิงแก่คนหนึ่งตะโกนเสียงดังลั่นรถเลย บอกเราให้ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ฉันจะนั่ง แล้วพูดอีกว่าคนที่นี่เขาเห็นคนแก่ต้องลุกให้นั่ง เป็นคนต่างชาติให้รู้ด้วย พวกคุณๆรู้ไหมนึกเหรอว่าเราเห็นคนแ่ก่เราจะไม่ลุกให้เขานั่ง.  
 แม่เฒ่าคนนี้เดินผ่านผู้คนสวิสที่นั่งในรถรางหัวให้แดงตั้งหลายคนแต่กลับไม่ยักกะขอนั่ง แต่ดันมาหยุดขอนั่งตรงเรามันน่าเจ็บใจไหมหละ.ขอไม่ขอเปล่าประจานเราอีกแน่ะ.เอาเราก็อายไปซิไม่รู้จะพูดตอบยังไงงงเลยหละ.เหตุการณ์ที่2หลังจากนั้นไม่นาน อิฉันเจออีกแล้วคล้ายๆกันเลยแต่คนละที่ และก็คนหละคนกัน.  
 บนรถไฟทีนี้เป็นท่านเจ้าคุณสวิสแต่งตัวเหมือนพวกอนุรักษ์ชาติ หรือเรียกอีกทีว่าพวกชาตินิยมแหละ.  
 อิฉันเอากระเป่าวางไว้ข้างๆเบาะใกล้ๆตัว แต่ยอมรับว่ามันพลุงพลังหน่อย แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับท่านผู้เฒ่าคนนี้เลยเพราะแกนั่งคนละฝั่งกับเราและคนละที่ด้วย แต่พ่อก็ยังสอดตามาหาด่าเราจนได้ ไม่รู้ไปทำอะไรให้แต่ชาติปางไหนเกลียดเพราะเราหัวสีดำหรือไงไม่รู้.แกด่าว่าที่ตรงนี้เอาไว้นั่งไม่ไช่ที่วางของเอาลงหรือถือเอาไว้ซิ.  
 *เราไม่อยากใส่ใจเพราะเห็นคนอื่นเขาก็วางกัน ทำไมเราวางไม่ได้ ก็เลยทำเป็นเฉยๆไม่ฟังแกพูด.  
 ทีนี้แก่เล่นเดินมาหยิบของเราวางตรงพื้นเลย ตรงหน้าที่เรานัง แล้วพูดเสียงดังเลยว่า่่่ห้ามวาง.  
 แล้วพูดอีกหลายอย่างเลยเยอะแยะจำไม่หมดหรอก.แบบว่าด่าเราเลย.  
 *เราก็เฉยอีกไม่อยากยุ่ง สุดแสนจะอายเลยก็ทุกคนเล่นหันมามองเราตอนแกด่าหนะ.  
 เอาเราก็แอบมองค้อนให้ด้วย โกรธด้วย.นี้แหละคะเหตุการณ์ในสวิสที่น่าประทับใจมากที่อิฉันเคยเจอมา.  
 คิดแล้วอยากจะกลับบ้านวันนี้พรุ่งนี้เลย.แต่ว่าไปส่วนดีก็เยอะแยะ แต่ดิฉันจะขอจำเรื่องแบบนี้เอาไว้กับดิฉันตลอดไป เอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ว่าดิฉันเจออะไรที่ต้องทนกับคนสวิสบ้าง.  
 ขอบคุณที่มีที่ให้ฉันท์ระบายความในใจบ้าง.  
 จาก ท้อแท้
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ตุ้ม on March 27, 2006, 06:07:24 PM
เสียใจดัวยกับคุณท้อแท้ค่ะที่โชคไม่ดีไปพบคนที่มีนิสัย(สันดาน)ที่รังเกียจชาวต่างชาติ  คนเหล่านี้เค้าจะไม่มีความสุขในชีวิตของเค้าหรอกค่ะ  เพราะจิดใจของเค้าไม่แจ่มใส  น่าเสียดายที่คุณไม่แจ้งให้ทาง รร ที่คุณเรียนทราบถึงพฤติการณ์ของครูที่ทำตัวไม่เหมาะสม  ผู้ที่ไปเรียนอะไรก็ตามแสดงว่ามีความสนใจและต้องการศึกษาเพิ่มเติมถ้าผู้นั้นรู้ดีหรือทำได้แล้วจะไปเรียนเพื่อเหตุใด  ขอให้คุณท้อแท้คิดเอาไว้เสมอหรือจะเอาไปตอบกลับกับคนที่เยาะเย้ยคุณว่าออกสำเนียงภาษาไม่ถูกต้องว่า  ผู้ใดก็ตามที่ออกสำเนียงภาษาอื่นไม่ได้ถูกต้องนั้นเป็นเพราะผู้นั้นพูดภาษาอื่นๆได้อย่างน้อยอีกภาษาหนึ่ง  ผู้ที่หัวเราะเยาะคุณนั้นสามารถจะพูดภาษาที่คุณพูดคล่องได้โดยไม่ผิดสำเนียงหรือไม่  อย่าท้อแท้นะคะ  ขอเอาใจช่วยคุณมาได้ถึงไกลแค่นี้แล้วมุ่งหน้าต่อไปค่ะ
 
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 27, 2006, 06:21:25 PM
กรี๊ดดดดดดดด ขอคืนตำแหน่งรักเด็กชั่วคราว (เกี่ยวไรกะคนแก่ฟ่ะ) อ่านของคุณท้อแท้แล้วทนได้งั๊ย ไม่ด่ากลับไปเลย แค้นใจเหลือหลาย เป็นเราหน่อยไม่ได้ ไม่ยอมให้มาทำฝ่ายเดียวหรอก ถึงภาษาจะไม่แข็งแรงแต่ก็ขอให้ได้ด่ากลับหน่อยเถอะ เรื่องไรปล่อยให้เขาทำอย่างเดียว เจอคราวต่อไปคุณท้อแท้ด่ากลับไปเลยนะคะ  
 
 แต่ก็จริงเหมือนป้าตุ้มว่าแร่ะ ตึกเกตุนี้มีแต่ต่างชาติค่ะ มิมีสวิตฯ มีป๋มคนเดียวที่นามสกุลสวิตฯ แต่หัวดำ จมูกแบนอีกต่างหาก
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 27, 2006, 06:22:28 PM
อีกหน่อย ถ้าเราโดนแล้วไม่ได้เอาคืนนี้ เรานอนไม่หลับไปหลายคืนเลยนะเนี่ย ขนาดแค่อ่านยังเจ็บใจแทน
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ท้อแท้ on March 27, 2006, 08:59:48 PM
ขอโทษที่ค่ะคุณเกตุ ที่เราเขียนอะไรหลายเรื่องทำให้คุณเครียดหรือเปล่าคะ.  
 ขอบคุณพี่ตุ้มมากค่ะที่มาช่วยสนทนาด้วย ดิฉันหวังว่าไม่ได้ทำให้พวกคุณเครียดนะคะ.  
 ใจจริงแล้วอยากตอบโต้กลับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแหละค่ะ (บอกตรงจากความรู้สึกเลยนะว่าไม่กล้าพอ)  
 ได้แต่คิดอย่างเดียวแหละเก็งที่สุดแล้ว เราไม่ชอบการโวยวายเรากลัว พูดไม่ทันเขา.  
 (ไม่ได้เป็นนางเอกนะ ขอเป็นตัวนางรองดีกว่า)ใจเราไม่กล้าพอ ขี้กลัว.  
 แต่ไม่ท้อทอยหลอก เราถือว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้นแหละ.  
 ขอบใจนะคะที่เป็นกำลังใจให้ แค่นี้ก็แอบปลื้มนำ้ใจของคนไทยเราแล้ว.  
 นอนหลับฝันดีนะคะ ขอให้ทุกวันเจอแต่เรื่องดีๆนะคะ.  
 เปลี่ยนนามแฝงแล้วนะ ไม่เอาแล้วท้อแท้ ชื่อไม่สร้างสรรเลย.(ไม่รู้เราคิดได้ไง สงสัยอารมณ์พาไป)  
 นามแฝงใหม่ชื่อ หนุกหนาน ดีกว่านะ  
 จาก หนุกหนานจ๊ะ
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: นิด ( แม่ลูกหมูสามตัว ) on March 27, 2006, 11:00:38 PM
                            สำหรับตัวนิดเองนะค่ะ เคยเจอกับเหตุการณ์แย่ๆคล้ายๆหลายๆคนในนี้ แต่ส่วนที่ดีก็เจอด้วยเช่นกัน แต่สำหรับเรื่องที่แย่ ที่มองดูถูกเรา ไม่ว่าจะเป็นที่เราเป็นคนต่างชาติ บ้านป่าเมืองเถื่อน สกปรก และไปจำสับสนกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา ในกรณีคนที่ไม่เคยรู้จักเมืองไทยไม่เคยเที่ยวเมืองไทย หรือจะมองดูถูกว่าเป็นผู้หญิงทำงานบาร์ ไม่มีการศึกษา ไม่มีมรรยาท นิดเอาสิ่งนั้นมาทำมาพิสูจน์ให้เค้าเห็นให้ยอมรับเปิดใจมองเราในแง่มุมใหม่ว่า เราก็มีสิ่งดีที่เค้ายังไม่รู้จัก คนสวิต เค้าจะชื่นชมคนที่ไขว้หาความรู้ ยอมรับคนในความสามารถ แม้เพียงการที่เค้าเห็นเราพยายามเรียนภาษาของเค้า พูดผิดพูดถูกแต่พยายามเรียนฝึกฝน ถึงพูดไม่ชัดเลิศแบบของต้นแบบเค้า  
 
 ( ให้กำลังใจคุณ ท้อแท้ สู้ค่ะ ออกเสียงผิดถูก ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ใช่ภาษาพ่อแม่เรา ขอให้พยายามให้ดีที่สุดเป็นอันพอค่ะ )  
 
 หรือ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดดล้อมของบ้านเมืองเค้า  เค้าก็ชื่นชมเรามากกว่าคนที่ไม่เคยคิดจะยอมรับ เปลี่ยนแปลงปรับให้เข้ากับเค้า
 
                  นิสัยของคนสวิตจะทรนงจนดูคล้ายหยิ่งยโส แต่จริงๆเค้าไม่ได้หยิ่ง เค้าภาคภูมิใจในตัวเอง เค้ารักสบงจนดูเหมือนสันโดษ ไม่สนใจใยดีใคร เหมือนต่างคนต่างอยู่ แต่ถึงเวลามีปัญหาอะไรเค้ายังคงมีน้ำใจช่วยเหลือและไม่เคยเอามาพูดเป็นบุญเป็นคุณเหมือนคนชาติเดียวกับเราเสียด้วยซ้ำ
 
 อย่างคนแก่คนหนึ่งแถวบ้าน เค้าไม่พูดไม่ทักสวัสดีกลับกับนิดเป็นปีตั้งแต่มาอยู่ใหม่ๆ นจะรังเกียจอะไรฉันนักหนา พ่อแม่เลี้ยงมาถนุถนอมฉันมีศํกดิ์ศรีความเป็นคนเหมือนกันนะ  ทำไมมามองดูถูกดูแคลนแบบนี้ น้อยใจค่ะ กลับบ้านร้องไห้ เปิดคู่มือนักท่องเที่ยว ท่องๆๆๆ แค่คำว่า สวัสดีของเค้า  ประโยคสั้นๆในการทักทายแล้วทุกครั้งที่นิดเดินสวนทางกับเค้า ( เอาวะเป็นไงเป็นกัน ถึงภาษายังไม่คล่องวันนี้ไม่พูดวันหน้าไม่พูดกับเราให้มันรู้ไป )หรือเห็นเค้าทำสวนดอกไม้ของเค้าจะเดินเข้าไปทักไปชมสวน ชวนคุย จนยิ่งนิดมาได้รู้เรื่องดอกฟันสิงโต ที่สามารถนำมาทำน้ำเชื่อมที่คล้ายน้ำผึ้งจากป้าเพลา ครั้งที่ไปเยี่ยมบ้านที่เบริ์น แล้วนำไปคุยกับเค้า เค้ายิ่งทึ่งมาก ขึ้นจากเมื่อก่อนที่แค่ยอมแพ้ลูกตื้อของนิด ทักสวัสดีเค้าได้ทุกวันทุกครั้งที่เจอ เค้าทึ่งที่เราเป็นคนต่างชาติ แต่กลับสนใจเรื่องเล็กๆน้อยของบ้านเมืองเค้า รู้จักดอกไม้ชนิดนี้ที่เป็นเพียงดอกหญ้าที่ขึ้นเป็นหย่อมๆตามสนามหญ้า จนทุกวันนี้เค้าเป็นฝ่ายตะโกนทักนิดก่อนแต่ไกลที่เห็นเรียกให้ดูสวนของเค้า  ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเรายาวเลย  
 
 ที่เขียนมาเล่าให้ฟังไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยตอบโต้กลับในบางครั้งที่เราเจอเรื่องแย่ๆ แต่ขอให้เราฉลาดที่โต้กลับ แบบเค้าลืมเราไม่ลงและจำไว้เป็นบทเรียนว่า อืม "  เค้ามองคนผิดไป ตัดสิ้นคนผิดไป "
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 28, 2006, 06:26:45 AM
ก๊ากกกกกกกกกก ไม่ได้เครียดค๊า แต่เจ็บใจแทน
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: บัวขาว on March 28, 2006, 07:04:41 AM
พวกรังเกียจชาวต่างชาตินะมีแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น...แต่ขอบอกอย่าไปสนใจพวกนี้....มันหัวคิดไม่อินเตอร์...คนเราต่างจิตต่างใจ ชาติไหนก็ชาติไหนก็ช่าง....คนดี ดีเขาก็มีเหมือนกัน....ไปคุยกับคนดีดีที่เขาเปิดใจ...จะทำให้จิตใจสบายกว่า...พวกที่จิตแคบอย่าไปคุย...เซ่ ฮาโหลก็พอ...แล้วทำเป็นรีบเดินไปเร็ว เร็ว .... อยู่เกือบสี่ปีตอนนี้รู้สึกชอบที่นี่แล้ว ปรับตัวได้แล้ว ทั้งเรื่องอากาศ อาหารการกิน การอยู่กับผู้คน ตอนนี้รู้สึกชอบความเป็นส่วนตัวของที่นี่ .... ความเท่าเทียมกัน ..ความที่เขาสนับสนุนสร้างทรัพยากรมนุษย์ ... ความปลอดภัย ...ความอิสระ ...หลายสิ่งหลายอย่าง....
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เทียนหอม on March 28, 2006, 07:49:54 AM
อ่านที่คุณนิดเขียนแล้ว
 คิดว่า คนสวิสภูมิใจในความเป็นสวิส ภูมิใจมีวัฒนธรรมเก่าแก่ยาวนาน คนอเมริกันขาดเสน่ห์ตรงที่ไม่มีวัฒนธรรมยาวนานแบบนี้
 
 สำหรับตัวเอง ถือโอกาสที่ได้มาเรียนในระดับปริญญาเอก และใช้ชีวิตต่างแดนนี้ แสดงให้คนต่างชาติเห็นว่า สาวไทยไม่ได้เป็นแบบที่ฝรั่งบางคนคิด หรือรู้จักเมืองไทยว่าเป็นเมืองเซ็กซ์
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 28, 2006, 12:37:59 PM
อ่านเรื่องของคุณหนุกหนานแล้ว  อดคิดไม่ได้ว่าถ้าโดนเข้ากับตัวเอง แม่จิ๋วจิ้วฯจะตอบโต้ยังไงดีให้ดููดีแต่สะใจ  
 
 อาจจะแกล้งทำหน้าประหลาดใจเบิกตาโตๆและก็ยิ้มกว้างๆหวานๆให้ยายแก่คนนั้น  แล้วลุกขึ้นยืน พูดประมาณว่า Oh..I am so sorry that I make you bad mood ( อุ๊ย ตายจริง ขอโทษจริงๆค๊าที่อิฉันทำให้คุณป้าอารมณ์บ่จอย )  
 
 ต่อด้วย Please take over my seat and sit happily. Have a nice trip to the heaven. ( เชิญนั่งแทนที่อิฉันเลยค่า  ขอให้นั่งอย่างมีความสุขตลอดการเดินทางไปสรวงสวรรค์นะค๊า )  
 
 ตอนพูดเราต้องทำหน้าชื่นมื่นเข้าไว้  อย่าสลดเด็ดขาด  เสร็จแล้วก็หัวเราะใ้ห้ตัวเอง  ใครมองมาก็ส่งยิ้มกลับไป  ถ้าเรายังหาที่นั่งใหม่ไม่ได้ก็ยืนข้างๆยายแก่นั่นแหละ ไม่ลืมที่จะโปรยยิ้มให้แกเป็นระยะๆ  ดููซิยายนั่นจะทำหน้ายังไง  ก๊าก...( โทษทีค่ะ  วันนี้วิญญาณนางมารร้ายเข้าสิงแม่จิ๋วจิ้วฯ ขอบคุณคุณหนุกหนานมากที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง  แม่จิ๋วจิ้วฯเลยมีเวลาเตรียมแผนตั้งรับเอาไว้  เผื่อได้ใช้ หุหุ )
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ตุ้ม on March 30, 2006, 08:44:52 AM
สวัสดีทุกๆคนค่ะ
 เมื่อคืนได้พบกับเพื่อนชาวสวิสเยอรมัน 2 คู่และได้นำหัวข้อเรื่องเกี่ยวกับคนสวิสว่าไม่เป็นมิตรขึ้นมาคุย  ทั้ง 4 คนให้ความเห็นว่าคนสวิสโดยเฉพาะอย่างยี่งทางสวิสเยอรมันมักจะทำตัวเป็นตำรวจเอง  เมื่อเห็นอะไรที่เค้าคิดว่าควรจะทำเค้าจะลงมือจัดการเองหรือไม่ก็โทรศัพท์แจ้งตำรวจ  ความเคลื่อนไหวในรอบที่พำนัก ใครจะไปใครจะมาอย่าคิดว่าเค้าไม่รู้เค้าจะมองจากบ้านเค้าเอง  (มิน่าถึงได้ไม่ค่อยเห็นตำรวจสวิสตามถนนเหมือนในประเทศอื่นๆ)  วัฒนธรรมนี้ผิดไปกับคนไทยมาก  เพราะเราจะไม่ทำอะไรหักหาญหรือไปก้าวก่ายผู้อื่นถ้าไม่เดือดร้อนถึงเรา
 
 ส่วนเรื่องบนรถรางนั้นคุณหนุกหนาน(ท้อแท้)อยู่ที่เบอร์นหรือเปล่าคะ  เพราะเพื่อนคู่ที่มาจากเบอร์นเล่าว่า  ที่เบอร์นจะมีผู้หญิงแก่คนหนี่งซึ่งสติไม่ค่อยจะสมประกอบ  เมื่อผู้หญิงคนนี้ขี้นรถประจำทางหรือรถรางจะต้องไปนั่งที่ประจำของเค้าที่เดียว  ถ้ามีใครนั่งอยู่แล้วเค้าจะไล่ให้ลุกขึ้นค่ะ  ถ้าคุณหนุกหนาน(ท้อแท้)อยู่ที่เบอร์นอาจจะไปนั่งทีประจำของเค้าเข้า  ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนี้มังคะที่ขอส่วยที่นั่ง 5555  เพราะเพื่อนบอกว่าเค้าก็คอยระวังผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน  (อย่าถือคนบ้านะคะ)
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 30, 2006, 12:07:38 PM
เข้ามาเห็นด้วยกับป้าตุ้มค่ะ ว่าเพื่อนบ้านรู้ความเคลื่อนไหวเราหมด เคยดูในหนังที่แบบคนแก่แอบเปิดผ้าม่านหน้าต่างแอบดูข้างบ้าน โหยยยยย ไม่คิดว่ามีจริงกั่กๆ เหมือนไม่มีใครสนใจแต่จริงๆแล้วแอบดูตลอดเอิ้กๆ
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: โอเลี้ยง on March 30, 2006, 12:39:46 PM
สวัสดีค่ะป้า และทุกๆท่าน เข้ามาเม้าท์หน่อยค่ะ  ที่ว่าแถบสวิสเยอรมัน คนมักจะตัวเป็นตำรวจเอง สอดส่องดูพฤติกรรมอะไรต่างๆ ที่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะโทรแจ้งความ อันนี้โอเลี้ยงประสบจากแม่สามีตัวเองนี่ล่ะค่ะ แต่ขอเล่าแบบขำๆ เพราะโอเลี้ยงไม่ได้ซีเรียสอะไร เพียงแต่คิดว่า แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นจากเมืองไทย อิๆ  เธอจะมีกล้องส่องดูดาวน่ะค่ะ แต่ไม่ส่องดูดาวนะ แต่จะส่องดุชาวบ้านรอบๆ ว่าทำอะไรกันบ้างวันๆ นี่ล่าสุดเธอให้สามีโอเลี้ยงล่างจดหมายถึงเทศบาล เพราะเพื่อนบ้านมาตั้งตู้คอนเทนเนอร์ไว้นานแล้ว และไม่มีใบอนุญาต นี่ล่ะค่ะ ตลกดี  แต่ถ้าเราคิดในทางหนึ่ง ก็นับว่าดี เพราะประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาล ซึ่งมันตรงข้ามกับบ้านเราที่ประชาชนส่วนมากจะโดนปิดหูปิดตา หรือทำปิดหูปิดตาไม่อยากยุ่งในเรื่องที่ก่อความไม่สงบ หรือไม่โปร่งใส
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เทียนหอม on March 30, 2006, 06:08:18 PM
555 อาตุ้มเขียนได้เห็นภาพดีจัง คนสวิสทำตัวเหมือนเป็นโปลิศจับขโมย
 
 น่าสนใจดีนะคะ ถ้าพฤติกรรมนี้ตั้งอยู่บนความรักและความหวังดีต่อกัน ก็จะดี สังคมไทยน่าจะเอาเยี่ยงอย่าง  
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เกตุ on March 30, 2006, 06:59:54 PM
อ่ะมีอีก มีอีกหน่อย ตอนสมัย (เหมือนนานเลยเน่อะ) ที่เคยแนบชิด
 สนิทสนมกันกับอิดีตสามีอยู่นั้น มีเพื่อนบ้านมาแง่ะถุงขยะดูด้วย แต่
 ไม่รู้ของใครหรอก เพราะมันทิ้งรวมๆกัน คงจะประมาณเช็คว่าแยกขยะ
 อ่ะป่าว ทิ้งมั่วมั๊ยประมาณนี้ล่ะ แล้วแถวบ้านอิดีตสามีอ่ะก่อนที่เกตุจะ
 มาอยู่ตรงมิโกรส์มีที่ทิ้งขวด ทิ้งกระป๋องด้วย ตอนหลังคนชอบเอาขยะ
 ไปทิ้งมั่ว เขาเลยเลิกแล้วไปตั้งไว้ไกลโคตรๆเลยกั่กๆ แบบว่าเทศบาล
 แก้เผ็ดอ่ะ
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว on March 31, 2006, 02:10:16 PM
ตอนแม่จิ๋วจิ้วฯเจอเพื่อนๆแฟนครั้งแรก เขาชอบถามกันว่าเมื่อนึกถึงสวิส คนไทยทั่วไปจะนึกถึงอะไร แม่จิ๋วจิ้วฯก็บอกไปว่าน่าจะเป็น ช็อคโกแลต  นาฬิกา คนเล่นสกี และก็ทุ่งดอกไม้ที่มีวัวกำลังกินหญ้าและมีฉากหลังเป็นยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ  แ่ต่โดยส่วนตัวแม่จิ๋วจิ้วฯจะนึกถึงเรื่องอื่นด้วย เช่น สวิสมีธนาคารที่เก็บความลับเป็นเลิศ  สวิสเป็นประเทศที่โดดเดี่ยวท่ามกลางสหภาพยุโรป  และเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึงว่า คนสวิสชอบทำตัวเป็น Spy ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ( เพื่อนๆเขาหัวเราะกันใหญ่ สงสัยจะเรื่องจริงแฮะ ) และก็ คนสวิสภูมิใจในประเทศตัวเองมาก แต่ไม่ชอบแสดงออกอย่างที่ควรจะเป็น เช่น ถ้ามีใครบอกว่าบาเซิลเป็นเมืองที่น่าอยู่ คนสวิสก็จะบอกข้อเสียหรือจุดด้อยของเมืองบาเซิลให้ฟัง แต่ถ้ามีใครบอกว่าเมืองบาเซิลเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่เลยเป็น  คนสวิสก็จะบอกข้อดีของเมืองบาเซิลให้ฟัง ( เพื่อนเขายิ้มและพยักหน้ากันหงึกหงัก ท่าจะเป็นเรื่องจริงอีก )
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เด็กใต้ on January 06, 2008, 08:48:40 PM
แจมด้วยคน เราก็เคยเจอเราไปซื้อลิปกลอสที่ Coop แล้วเราก็เดินไปบ้านเพื่อนที่อยุ่ใกล้กันก็ลองแกะออกมาทาดู ปรากฏว่าลิปมันเสียเนื้อของลิปกลอสมันแข็งบีบไงก็ไม่ออก เราก็เดินกลับไปเปลี่ยนเพราะยังเก็บบิลไว้อยู่ เราก็พูดภาษาอังกฤษนะ (เราพูดด้อยท์ได้นิดหน่อย แต่เราฟังเข้าใจ )พนักงานมันบอกว่ามันไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แล้วมันก็พูดกันว่าไม่ให้เปลี่ยนหรอก เราทำงัยรู้มั้ยเราด่ามันทั้งไทยทั้งอังกฤษ
 ทั้งด้อยท์ ถูกๆๆผิดๆๆนั้นแหละแล้วบอกให้มันแหกตาดูบิลเพราะเราเพิ่งซื้อไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว ทำไมละเราจะเปลี่ยนไม่ได้ เรานะถ้าไม่ผิดเราไม่ยอม เราด่ามันนะจนคนที่นั่นหันมามอง แต่ก็มีคนดีนั่นแหละถามเราว่าทำไม เราก็เลยบอกเขา เขาก็คุยให้ขอเจอผู้จัดการร้าน เราเลยได้เปลี่ยน ฮิ ฮิ ฮิ คราวหลังนะเราก็ยังไปเสนอหน้าให้มันเห็นอยู่บ่อยๆๆจะได้รู้งัยว่าอย่ามาเอาเปรียบหัวดำอย่างเรา
Title: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: เด็กใต้ on January 06, 2008, 08:54:03 PM
อีกหน่อย แต่คนดีก็เยอะนะ โดยเฉพาะที่หมู่บ้านซุค ที่นี่มีแต่คนน่ารักเป็นส่วนใหญ่นะ เดินสวนกันเขาจะทักทายกันทั้งๆที่เราเป็นคนไทยนะเขาก็ทักทาย และเพื่อนบ้านทุกๆๆคนก็น่ารัก เราจะมีลัดเปลี่ยนกันทำอาหารและเขาก็ชอบอาหารไทยนะ เรายังสอนให้ลูกสาวเขาบ่อยๆๆเลย
Title: Re: วิธีสร้างภูมิคุ้มกันใจตัวเอง เพื่อให้ใจอยู่รอดในสวิส
Post by: ซกมก on January 08, 2010, 02:32:58 AM
 หวัดดีค่ะ อยากบอกว่าตัวเองก้อเคยเจอ แต่ก้อชอบสวนกลับว่าไม่พอใจไปลากตํารวจมาคุยกันดิ ประโยคเด็ดประจําตัว แล้วก้อ ต่อด้วย ไล่เข้าป่าไปอีกตังหาก นี่สุภาพสุดแล้วนะคะ เคยซื้อของในมิโกร มีเพื่อซื้อด้วยกัน เพื่อนถือของอยู่ในมือด้วย และในตะกร้าก้อมี ก้อเอาของว่างแล้วก้อคั่นให้เพื่อนเพราะเค้ามัวชะโงกหยิบลูกอม แล้วก้อมียายฝรั่งไมกลางคนมายืนคั่นเพื่อนพอดี พอเค้ายัยบ้านี่เห็นเราเอาไม้คั่นมันหยิบไม้ออกเฉยเลยแล้วบอกว่ามันยืนอยู่ก่อนก้อคิดรวมไปสิ เพื่อนก้อเลยว่าให้ แถมเราก้อไม่สนบอกแคชให้คิดตังค์แยกของเรากะเพื่อน ก่อนออกไปยังมีหน้ามาหันมาพูดเห็นแม๊ะๆ อีก เราก้อเลยสวนกลับแถมด่าดังพอควร มันรีบเดินจํ้าอ้าวหนีเลยค่ะ บอกกงๆอยู่นี่เจอแบบไหนตัวเองก้อสวนกลับไปแบบนั้นตลอด เป็นคนไม่ค่อยเก็บความรู้สึกเท่าไรหรอกค่ะ เก็บไม่ได้กลัวตัวเองเครียดค่ะ