(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-111221-Zwischenablage018.jpg)
<<<..พาเที่ยว....Allalin.VS ..ตอน1.>>>
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,1778.0.html
แนะนำให้รู้จัก... **
***Drehrestaurant Allalin***
Drehen เป็นคำกริยาหมายถึงการหมุน
ภัตราคารบนเขา Allalin เป็นภัตราคารที่หมุนรอบ360°
และภัตราคารนี้ได้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเลยได้รับสมญานามว่า
***Das höchstgelegenste Drehrestaurant der Welt***
***ภัตราคาร Allalin หมุน360° ที่สูงที่สุดในโลก***
ตั้งอยู่บนความสูง 3500m การหมุนครบ1รอบใช้เวลาประมาณ1ชม.
ข้างในเปิดบริการทุกอย่าง ข้างบนสุดเปิดเป็นห้องอาหารบรรจุที่นั่ง240 คน
มีอาหารบริการแบบตักกินเองและอาหารตามสั่ง ขณะที่รับประทานอาหารสามารถชมวิวอันสวยงามทุกมุม
สามารถมองเห็นภูเขาสูงมากกว่า4000mประมาณ15ลูก
ข้างล่างมีร้าน Kiosk เปิดบริการขายของที่ระลึกต่างๆ
และมีร้านSportshopเปิดบริการให้เช่าสกี ข้างล่างเป็นเขตสำหรับการเตรียมตัวเล่นสกี
และข้างนอกมีโต๊ะให้แขกนั่งกินอาหารจำนวน300ที่นั่ง และคนนั่งพักผ่อนชมวิวและธารน้ำแข็ง
หรือเดินเล่นหิมะและออกไปเล่นสกี
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0012 ห้อง guide (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112025-Zwischenablage9999999999999.jpg)
**ถ้ำน้ำแข็ง Eisgrotte**
Der grösste Eispavillon der Welt
ถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อยู่ตรงกลางของภัตตราคารหมุน Drehrestaurant Allalin
ข้างในมีอุณหภูมิประมาณ -1°C และ -1.5°C. พื้นที่ข้างในประมาณ 5'500 m3
**ราคาเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง Eintrittspreise Eispavillon**
- Erwachsene ผู้ใหญ่ CHF 4.00
- Kinder เด็ก CHF 2.00
- Einzelfahrten zum Volltarif gratis
ซื้อตั๋วไมได้ลดครึ่งราคาเข้าชมฟรี
- Gruppen สอบถามราคาได้
http://www.eispavillon.ch/eispavillon_zentralbau.htm
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112137-Zwischenablage092.jpg)
การเดินทางในสวิตฯกรมรถไฟSBB จะมีตั๋วบริการขายอยู่
ด้านหน้ามีลักษณะดังภาพที่เห็นลดครึ่งราคา ด้านหลังจะมีรูปผู้ใช้ตั๋ว
บอกจำนวนปีที่ทำไว้และกำหนดอายุของตั๋วที่ใช้ การเดินทางโดยใช้เส้นทางรถไฟSBB
กรมรถไฟจะมีตั๋วปีบริการอยู่ที่เรียกกันว่า HalbtaxAbo
ตั๋วที่ให้การบริการมีให้เลือกหลายราคาเช่น
1-Jahres-Halbtax 150.- (ตั๋วลดครึ่งอายุ1ปี)
2-Jahres-Halbtax 250.-(ตั๋วลดครึ่งอายุ2ปี)
3-Jahres-Halbtax 350.-(ตั๋วลดครึ่งอายุ3ปี)
**สำหรับคนมีลูกจะมีตั๋วJunior-Karte**ราคาตั๋ว20.-
สำหรับเด็กอายุ6-16ปี(6 bis 16 Jahre)เดินทางเที่ยวกับผู้ปกครองฟรี
และจะลด%สำหรับลูกที่ทางSBBกำหนดไว้ในจำนวนกี่คน
**ตั๋วบริการทาง SBBได้จัดขายในราคาโดยเฉพาะ**
สำหรับเยาวชนที่มีอายุ16ปีแล้วแต่ละปีทาง SBBจะแจ้งให้ทราบ สำหรับปีนี้จัดให้ผู้เกิดปีคศ.1989
จะขายตั๋วปีคนอายุ16ปีเกิดที่เรียกว่า
**Jahrgänger-Halbtax** ราคาตั๋ว89.-
มีกำหนดอายุตั๋วที่ใช้แค่1ปี
Für alle mit Jahrgang 1989, Kauf im 2005, gültig 1 Jahr
***Kombikarte Gleis 7 und 1-Jahres-Halbtax***ราคา 249.-
เป็นตั๋วลดครึ่งราคาพิเศษรวมตั๋วปีสำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน25ปี
แต่ถ้าใช้บริการตั๋วเยาวชนปี Gleis 7 ราคา99.-
นั่งชั้น2และการเดินทางใช้บริการ***เริ่มเวลา 19.00น**
จะใช้การบริการก่อน19.00นไม่ได้
ใช้ได้ตั้งแต่19.00 นขึ้นไป
**นอกจากนี้ยังมีต่ววันTageskarte...ตั๋วเดือนMonatskarte**
**สนใจเกี่ยวกับการใช้ตั๋วเข้าไปอ่านได้ที่นี่**
SBB: Abonnemente - Halbtax-Abo (http://mct.sbb.ch/mct/reisemarkt/abonnemente/halbtax.htm)
SBB: OnlineTicket Instructions (http://mct.sbb.ch/mct/en/reisemarkt/billette/online-ticket/onlineticket-anleitung.htm)
สามารถใช้บริการทางonline สั่งซื้อตั๋วได้
**ตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยว**
ตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวมีหลายแบบเช่น
Swiss Card
Swiss Half Fare Card
Swiss Transfer Ticket
Swiss Pass
สนใจเข้าไปอ่านได้ที่นี่มีรายละเอียดและข้อมูลชัดเจน
https://www.sbb.ch/mct/wi/shop/b2c/tree.do?key=40
SBB: Internationale Gäste (http://mct.sbb.ch/mct/reiselust/int-gaeste/sts.htm)
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112229-Zwischenablage029.jpg)
**ค่าโดยสารตั๋วลดครึ่งราคาของSBB...รวมค่ารถPost***
ในการเดินทางไปSaas Feeครั้งนี้ เป็นตั๋วที่กรมรถไฟSBBได้จัดทำขึ้นมา
ค่าตั๋วลดราคา30%และใช้กับตั๋วรถไฟลดครึ่งราคา การเดินทางไปเที่ยวจึงถูกมากกว่า
จะรวมทุกอย่างไว้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยกระเช้าหรือรถไฟ , รถPost
***ตั๋วเข้าชมถ้ำน้ำแข็งด้านขวามือ**
Leistungen
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112328-Zwischenablage075.jpg)
แผนที่ของการเดินทางไปเที่ยวที่ภูเขา Allalin จะเห็นเครื่องหมายกระเช้าและรถไฟในภูเขา
พาขึ้นไปยัง Allalin
เครื่องหมายสีส้มยาวคือเส้นทางการเล่นสกี จากข้างบนลงมายังข้างล่าง
การเดินทางไปยัง Allalin ต้องนั่งกระเช้า2ครั้ง ต้องหยุดและเปลี่ยนกระเช้าใหม่
หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟขึ้นไปข้างบน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112423-Zwischenablage074%20Kopie.jpg)
***การเดินทางไปยัง Allalin**
**เส้นทางการเดินทางขึ้นไปยัง Allalin**
**อักษร A**
เป็นจุดเริ่มต้นขึ้นกระเช้าจากสถานี AlpinExpress
เครื่องหมายรูป *
หมายถึงสถานีที่ต้องเปลี่ยนกระเช้า
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112533-Zwischenablage072.jpg)
**หมายเลข1..และหมายเลข2...**
เป็นกระเช้าที่ใช้ในการเดินทางไปเที่ยวยัง Allalin
**หมายเลข1..**
จากสถานี AlpinExpress ...
Saas-Fee (1'800m)-Mittelstation(2500m)
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปนั่งกระเช้าใหม่
****หมายเลข2...**
จากสถานี..Mittelstation(2500m)- Felskinn (3'000m)
พอลงจากกระเช้าก็ต้องเดินไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อนั่งรถไฟขึ้นข้างบน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112648-Zwischenablage071.jpg)
**หมายเลข3..**
จะนั่งรถไฟสายเล็กMetro-Alpin
จากสถานี...Felskinn (3'000m) เพื่อขึ้นไปยัง Allalin
ภัตตราคารหมุน360°ที่สูงที่สุดในโลก (3'500m)
รถไฟสายเล็กMetro-Alpin
เป็นรถไฟที่ทำการวิ่งภายในภูเขาที่ได้ทำการเจาะภูเขาข้างในเป็นอุโมงค์ยาวสูงขึ้นข้างบน
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟคันเล็ก เส้นทางที่ใช้วิ่งค่อนข้างจะสูงชันพอสมควร
ลักษณะการทำงานจะใช้ไฟฟ้าวิธีดึงลาก เหมือนกับรถไฟสายNiesenอย่างที่เคยเขียนอธิบายมาแล้ว
สร้างปีคศ.1984
ความยาวของเส้นทาง1434 m
ความแตกต่างของระดับ 476 m
ใช้ในการเดินทางทั้งหมด3,2นาที
ความสูงชัน 48 %
ความเร็ว 36 km/h.
..................................................................
***เริ่มการเดินทางไป Allalin**
จากWorb - Bern
จากBern - Brig
หลังจากนั้นก็ข้ามถนนตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟBrig
ไปยืนรอรถPostที่เขาเขียนหมายเลข1.....ตัวใหญ่สีเหลืองบนพื้น
รถPost..ที่รอจะเป็นหมายเลขหมายเลข 711
และรถPostที่เรารอควรดูให้ดีจะเขียนคำว่า Saas Fee Direkt..ตรงด้านหน้ารถแบบนี้ขึ้นไปได้เลย
** 27.10.2005**
**เตรียมตัวออกเดินทาง**
ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยว Allalin เราต้องดูดินฟ้าอากาศก่อนอื่น
การไปเที่ยวไกลๆและรายจ่ายสูงแบบนี้ ถ้าไปเที่ยวแล้ว..ฝนตกฟ้าร้อง..
ไปเที่ยวไม่สนุกแน่ๆดีไม่ดีจะกลายเป็นทัวร์ทุบถองไป
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ
หัวหน้าทัวร์เจ้าเก่าเลยต้องทำหน้าที่ดูดินฟ้าอากาศแทบทุกวัน
ทั้งกดอ่านจากโทรทัศน์ที่มีบริการทุกอย่าง ไม่ว่าข่าวสารหรือการกีฬา
ทั้งอ่านหนังสือพิมพ์ที่แจกฟรี..
พอแน่นอนใจกับการพยากรณ์ดินฟ้าอากาศเรียบร้อยแล้วก็วางแผนกำหนดทัวร์การเที่ยวทันที
คือวันที่27.10.2005อากาศดีมาก การพยากรณ์อากาศที่นี่นับว่าน่าเชื่อถือได้
ถึงแม้บางครั้งจะผิดพลาดบ้างก็พอจะอะลุ่มอล่วยได้
สำหรับลูกทัวร์กระทรวงการคลังก็ทำหน้าที่บวกลบคูณหาร แบบไม่ยอมให้เงินกระเด็นไปไหน
ใช้นิ้วมือนับและใช้เครื่องคิดเลขกดคิดจนลุงรำคาญ..
ตอนแรกป้าคิดจะซื้อตั๋วรถไฟลดครึ่งราคา
และรถPostจากSBBอย่างเดียวเพราะมีตั๋วลดครึ่งอยู่แล้ว
และจะซื้อตั๋วกระเช้าและลดไฟที่จะขึ้นไปAllalinต่างหากแต่พอโทรถามราคาตั๋วที่Saas Fee
ว่าราคากระเช้ากับรถไฟคิดเท่าไร พอเขาบอกราคามาซึ่งมีราคาแพงกว่าซื้อจากSBB
เลยให้ลุงไปจัดการซื้อรวมการเดินทางทั้งหมดจาก
และย้ำ***ให้ลุงให้ลุงขอตารางรถไฟและรถPostมาด้วย**
ถ้าใครอยากเที่ยวในสวิตฯอยากรู้อะไรไปถามที่ช่องขายตั๋ว เขาจะบอกข้อมูลทุกอย่าง
และจะให้ตารางการเดินทางมา..***ถ้าไม่ขอเขาก็ไม่ให้** นี่คือระบบการบริการของSBB
**ราคาค่าใช้จ่าย**
**ราคาตั๋วเป็นช่วงที่SBB...ลดให้เป็นพิเศษ30%)**
ค่าตั๋วรถไฟจะรวมค่าเดินทางทั้งหมดทุกอย่างไป-กลับรถไฟชั้น2..ลดครึ่งราคา
ราคาตั๋วจ่ายคนละCHF 91.40 รวมเครื่องดื่มเพิ่มให้คนใช้บริการเป็นกาแฟคนละ1แก้วฟรี
และรวมค่ารถแท็กซี่ไฟฟ้านั่งที่Saas Feeให้นั่งฟรี
รถไฟที่สวิตฯจะมีที่นั่งบริการแค่2ชั้น คือชั้น1และชั้น2
จะแตกต่างกันตรงชั้น1.จะมีผ้าขาวเล็กๆคาดไว้บนที่นั่ง
สมัยก่อนคนที่ใช้บริการจะรู้สึกภาคภูมิใจมาก
เพราะราคาแพง ใครที่นั่งชั้นนี้แล้วจะรู้สึกยืดนิดหน่อย
คนที่นั่งชั้นนี้ต้องเป็นคนมีฐานะหรือพวกรายได้สูงมากๆ
คนที่นั่งชั้น1จะแต่งตัวโก้หน้าเชิดพอๆกับคนไทยเลย
ต่อมาค่านิยมเปลี่ยนไปปัจจุบันนี้ใครๆก็นั่งได้ หอบเป้เป็นบ้าฟอบฟาง...ใส่รองเท้าแตะ..
หรือสรวมรองเท้าเดินเขานั่งชั้นนี้ก็ทำได้ คนสวิสหันมาใช้การบริการของการรถไฟมากขึ้น
และรักการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ
การท่องเที่ยวภายในประเทศจึงรู้สึกธรรมดากัน ไม่มีใครที่จะทำตาโตหรือร้องกรี๊ดกร๊าดตื่นเต้น
ถ้าคนเดินทางบ่อยๆหรือใช้บริการทุกวัน
ถ้าซื้อตั๋วรถไฟเป็นปีที่เรียกว่า General-Aboจึงจะคุ้ม
http://mct.sbb.ch/mct/reisemarkt/abonnemente/ga.htm
ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะนั่งชั้น1หรือชั้น2 ก็ถึงจุดหมายปลายทางเดียวกัน
และที่นั่งชั้น2ก็เป็นที่นั่งที่บุด้วยเบาะสวยงาม และพอๆกับเบาะชั้น1
ตามสถิติที่สำรวจกันปีนี้ คนสวิสหันมาใช้การบริการ
รถไฟกันมากเพื่อรณรงค์ถึงสิ่งแวดล้อมไร้มวลพิษ และอีกอย่างรถยนต์มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ทุกปีต้องจ่ายภาษีบำรุงถนน,ประกันรถยนต์,ค่าน้ำมัน ค่าซ่อม การตรวจสอบสภาพรถ .ฯลฯ...
ผู้สูงวัยเลิกใช้รถยนต์หันมาใช้รถไฟแทน
การเดินทางด้วยรถไฟเป็นการเดินทางที่มีแต่ความสะดวกสบาย รถไฟสวิสจะตรงเวลามาก
ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ถ้ามีปัญหาต้อการรู้เกี่ยวกับข้อมูลการเดินทาง
ใช้การบริการรถไฟ ไม่ต้องอายเดินเข้าไปถามที่ช่องInformation ได้เลย
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112850-Zwischenablage027.jpg)
**เวลาที่ใช้ในการเดินทาง**
ออกเดินทางจาก Worb 7.30 ถึง..Bern 7.54
เดินทางออกจาก..Bern 8.09 ถึง.. Brig 9.47
เดินทางออกจาก.Brig( เดินทางด้วยรถPost Nr. 711)ถึง 10.05- Saas Fee เวลา11.00
**เริ่มการออกเดินทาง**
ทัวร์เที่ยวนี้มีลูกทัวร์หลงมาอีก1คนคือน้องชายลุง
ตั้งแต่ไปเดินเขาที่Niesenกันแล้วก็ติดสอยห้อยตามมาด้วย
สงสัยคงติดใจที่เข้าห้องส้วมบนเขาที่เข้าไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขกันมา
นัดกัน6โมงช้าแต่พี่ท่านมาตั้งแต่ตี5ครึ่ง
เรียกว่าเป็นฝรั่งเกินเพราะฝรั่งนัดตรงเวลามากแต่นี่มาก่อนนัด
สองเราก็เหมือนเดิมคือทำอะไรตามใจฉันไม่รีบร้อน แต่พอจะถึงเวลาจึงจะรีบเป็นไฟจุดก้น
เรารีบพากันเดินไปยังสถานีรถไฟใกล้บ้าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ5นาทีก็มาถึง
รอไม่นานรถไฟก็ออกเดินทางมุ่งเข้าตุวเมืองคือBern
ช่วงเช้าจะมีคนใช้บริการรถไฟแน่นมาก หลังจากนั้นรถไฟมาจอดที่Bernแล้ว
เรายังมีเวลา10กว่านาทีก็เดินโต๋เต๋ไปมา หลังจากนั้นก็ไปยืนรอรถไฟ
การยืนรอขึ้นรถไฟ จะมีคนประกาศบอกว่าคนที่ซื้อตั๋วชั้น1หรือชั้น2
ควรจะไปยืนรอขึ้นรถไฟตัวอักษรอะไร เช่นตัวอักษร A B C D
เขาจะบอกว่าชั้น1รอตัวอักษรไหน
ซึ่งเป็นการบริการที่ดีมากที่ผู้โดยสารจะได้วิ่งขึ้นรถเพื่อหาชั้นนั่งได้อย่างถูกต้อง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-112952-Zwischenablage028.jpg)
รถไฟแล่นเข้ามาสู่ชานชาลาและหยุดจอดเรียบร้อยแล้ว
ทุกคนต่างหาที่นั่งกัน
ที่นั่งที่เรานั่งแคบมากขนาดคนหุ่นซูโม่ที่นั่งยังแคบเลย
ดูหน้าคนใช้บริการก็รู้ว่าที่นั่งเป็นอย่างไร
ที่นั่งจะเป็นแบบดูที่นั่งดูหนังไม่มีการหันหน้ามาชนกัน
ป้าเซ็งมากเลยไปแอบหาที่เหมาะๆสำหรับถ่ายรูป
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-170052-Zwischenablage030.jpg)
ที่นั่งแคบมากไม่พอ...หน้าต่างยังมีรอยขูดขีด
ตากล้องแบบป้าเลยต้องหาที่ถ่ายรูปจนฝรั่งรำคาญมาก
ภาพที่เห็นเป็นสะพานมีชื่อเสียงของBern ที่เห็นไกลไปหน่อยคือสะพานKirchenfeldbrücke
สร้างปี1881ส่วนสะพานที่เห็นชัดเจนคือ สะพาน Kornhausbrücke
เป็นสะพานเก่าแก่สร้างปี1719 หลังจากนั้นก็ทำการซ่อมแซมหลายหนครั้งสุดท้ายปี1997
มีข่าวออกมาว่าจะทำการซ่อมแซมใหม่อีกครั้งเพราะครั้งที่แล้วซ่อมแซมไม่ดีเท่าที่ควร
ภาพที่เห็นแนวเขาที่มีชื่อเสียงของBerner Oberland และ Munster อันมีชื่อเสียงของBern
Munsterเริ่มสร้างเมื่อปี 1421เริ่มการสร้างและทำใหม่เรื่อยๆ
จนถึงปี1455และได้นำเอาระฆังเข้าไปแขวนเมื่อปี1611 ระฆังที่Munsteเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในสวิตฯ
หมอกที่ปกคลุมพื้นช่วงเช้าๆแบบนี้ เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นฤดูใบไม้ล่วง
หมอกพวกนี้เราสัมผัสถึงความชื้นเมื่อสูดลมหายใจเข้าไป
ช่วงนี้ป้าไม่ได้ถ่ายรูปแล้วเพราะถึงถ่ายก็ออกมาไม่ดี
และทิวทัศน์หรือเมืองที่ผ่านก็เขียนมาหมดแล้ว ถ้าใครสนใจเข้าไปอ่านที่เคยเขียนไว้
นั่งชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ถ้าใครต้องการชมวิวทะเลสาบควรนั่งด้านซ้ายมือ
แต่ถ้าใครต้องการวิวสวยตอนเข้าBrigควรนั่งที่นั่งขวามือเป็นความงามคนละแบบ
ถ้าเป็นไปได้ก็เปลี่ยนที่นั่งไปมาถ้ากรณีย์ไม่มีคนนั่งข้างๆ
ส่วนตัวป้าเองจะนั่งทั้งสองฝั่งเพราะวิวทะเลสาบสวยมาก
จะเห็นทะเลสาบมีชื่อของBerner Oberland และเมืองที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-170349-Zwischenablage032%20Kopie.jpg)
**เครื่องหมาย....0...สีแดง**
****ที่แสดงให้เห็นพนักนั่งของรถไฟเป็นลักษณะนั่งเป็นแถวและมีสภาพแคบ***
นั่งดูวิวเพลินจนถึงBrig ต่างพากันตระเกรียกตะกรายลงรถ
พอป้าลงมาแล้วก็รีบกดๆๆเพราะไม่มีเวลาเล็งกล้อง
พอมาดูรูปใหม่อีกทีถึงได้รู้ว่าโบกี้ที่นั่ง มีที่นั่งแบบนี้เขาก็เขียนแจ้งไว้แล้ว
มีทั้งที่เก็บรถจักรยาน ที่รถเข็นคนพิการ..
ถึงว่าที่นั่งจึงแคบมากและนั่งไหล่ชนกันเลย เหมาะมากสำหรับคู่หนุ่มสาวๆ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-170634-Zwischenablage034.jpg)
เดินตามลุงไปถ่ายรูปไป..แบบไม่ให้คลาดสายตา
เราเดินออกมาจากหน้าสถานีรถไฟของBrig
รีบเดินมายังกลุ่มคนที่รอรถPost
การหาที่ขึ้นรถPostง่ายมาก อยู่ข้างๆรถไฟที่จะไปZermat
ดูหมายเลข1 เขาจะเขียนไว้บนพื้นสีเหลืองในช่องสีเหลี่ยม
หมายเลข1ตัวใหญ่มาก.........รถPostหมายเลข711
และเขียนคำว่า Saas Fee direckt ข้างหน้าข้างบนขึ้นได้เลย
ไปเที่ยวที่ Saas Fee ไม่ต้องกลัวหลงหรือขึ้นรถผิด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-171308-Zwischenablage033.jpg)
มาแล้วรถ Saas Fee direckt
วิ่งเข้ามาจอดที่หมายเลข1 ที่คนรออยู่
ป้ารีบวิ่งออกมาถ่ายรูปรถเก็บไว้
ปรากฏว่ากลุ่มคนที่อยู่ข้างๆยืนรอรถผิด
รถที่จะไป Saas Fee เหมือนกันแต่ไม่ใช่รถที่วิ่ง
แบบ Saas Fee direckt แบบนี้จะวิ่งตรงไป Saas Fee เลย
จะหยุดรับผู้โดยสารแค่1ครั้งหยุดที่หมู่บ้าน Saas(Saastal)
คนที่รอรถผิดต่างวิ่งเข้ามายังรถที่จอดและหาที่นั่งกันใหญ่
พอถ่ายรูปเสร็จ...ตากล้องเลยหมดสิทธิ์นั่งข้างหน้าเพื่อหาวิวถ่ายรูปสวยๆ
ยอมรับว่าไปเที่ยวแถบนี้บ่อย
ไปนอน..ไปเดินเขา...แต่ไม่เคยเขียนหรือถ่ายรูปออกมาเป็นกิจลักษณะ
เพราะสมัยแรกร่วม20กว่าปีที่ตะลอนเที่ยวกันมา
ทุกอาทิตย์จะออกเที่ยวกันอย่างน้อย2หรือ3ครั้ง
ไม่เคยใส่ใจหรือชอบการเขียนบอกเล่าเท่าไร
ถ้าลงมือเขียนเหมือนปัจจุบัน
คงได้หนังสือเป็นเล่มๆซึ่งส่วนมากจะเป็นแบบการเดินเขา
หรือการเข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้านพื้นเมือง
ยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ชอบกล้อง
หรือการถ่ายรูปสวยๆออกมาเก็บเป็นที่ระลึก
ส่วนมากมักจะเก็บในความทรงจำตอนเที่ยวกับลุง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-171514-Zwischenablage021.jpg)
**เวลา 10.06 น**
รถPost ก็เริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานีรถไฟBrig
รถPost ที่นั่งอยู่ในสภาพใหม่แต่ที่นั่งค่อนข้างจะแคบพอสมควร
เป้ที่ลุงหอบมาจะนำลงวางบนพื้นไม่ได้เลย
ต้องนำมากอดกับอกไว้ ถึงมีที่วางข้างบน
ลุงไม่ยอมนำไปเก็บหรอก
เพราะแกต้องการนำของกินจากเป้ออกมากินอาหารเช้ากัน
ตั้งแต่นั่งรถไฟมายังไม่ได้กินอะไรกันเลย
บนท้องถนนวันนี้เงียบไม่มีรถแล่นเท่าไร
ท้องฟ้าเริ่มมีแดดส่องนิดหน่อย
ป้ากับลุงนั่งด้านหลังการถ่ายรูปออกมาค่อนข้างจะลำบาก
และได้วิวไม่ดีเท่าไร ส่วนมากจะติดรูปคนขับและคนนั่งด้านหน้า
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-171756-Zwischenablage038.jpg)
วิวข้างๆที่ผ่านจะเห็นหมู่บ้านที่ปลูกเรียงรายข้างๆภูเขา
การก่อสร้างรูปทรงจะแข็งแรงค่อนข้างจะเทอะทะ
ไม่นุ่มนวลเหมือนบ้านแถบBerner Oberland
ถ้าพูดถึงดินฟ้าอากาศแถบนี้จะอบอุ่นกว่าเขตอื่นๆ
แถบนี้ขึ้นชื่อในการปลูกผลไม้ต่างๆ
ช่วงฤดูร้อนถ้าใครใช้เส้นทางขับรถเส้นทางนี้
จะเห็นเขานำผลไม้มาวางขายหรือตั้งร้านขาย
Kanton Wallis , Kanton Graubünden, Kanton Tessin
เมื่อสมัยหลายร้อยปีที่ผ่านมาจัดเป็นเขตที่ยากจนมาก
ช่วงนั้นเป็นช่วงปี1700หรือ1800
ยิ่งทางแถบ Kanton Tessin ความยากจนอดอยาก
บางครอบครัวถึงขนาดขายลูกชายให้คนที่เข้ามากวาดต้อน
หาเด็กที่มีรูปร่างเล็กเพื่อนำไปทำงานทำความสะอาดปล่องไฟเขตแดนอิตาลี
เวลาเด็กๆเดินไปตามถนนจะร้องเรียก
หางานทำความสะอาดว่า
ชะ....ปัส....โช่......กา.....มิ.....โน.....
ประโยคนี้เลยพูดกันมาจนติดปากและรู้จักกันดี
ป้าเคยดูหนังสวิสเก่ามากเป็นหนังขาวดำ
เขาสร้างเกี่ยวกับเรื่องนี้
น่าสงสารมากที่เด็กบางคนล้มตายไปเพราะเขม่าไฟ
เป็นโรคปอด เด็กบางคนก็โชคดีได้กลับบ้าน
เด็กที่โตแล้วเข้าทำงานกวาดปล่องไฟไม่ได้
ก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-171928-Zwischenablage093.jpg)
**ต้นLärche**
แถบนี้สองข้างทางสวยมาก ฤดูใบไม้ล่วงเป็นช่วงที่สวยที่สุด
จะมีต้นLärche ขึ้นเต็มไปหมด ต้นLärche จัดเป็นต้นสนพันธ์หนึ่ง
ใบมีลักษณะก้านยาวเรียวแหลมเหมือนเข็มยาวประมาณ1ซม.ถึง3ซม.
เป็นต้นไม่ที่จัดว่าสวยงามสูงประมาณ50เมตร
หน้าร้อนก้านจะเป็นสีเขียวพอถึงฤดูใบไม้ล่วง จะเปลี่ยนเป็นสีทองอมส้ม
ไม้ชนิดนี้เขาจะนำมาทำเป็นอุปกรณ์การตบแต่งบ้าน ผิวของไม้จะออกสีเหลืองนวลสวยมาก
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-172033-Zwischenablage041.jpg)
ถนนที่ใช้แล่นผ่านขึ้นไปยังSaas Feeเป็นถนนที่ยังจัดว่าไม่ค่อยดีเท่าไร
บางช่วงจะเริ่มแตกร้าว ถ้าพูดถึงธรรมชาติแถบนี้สวยมาก
มีที่เที่ยวรู้จักกันดีทั่วโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นZermatt - Matterhorn
คนไทยเรารู้จักกันดีโดยเฉพาะชอกโกแลตแท่ง3เหลี่ยมToberlone ที่วางขายในห้างสรรพสินค้า
เขตWallisเป็นเขตที่มีสวยงามทางธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวมากมายที่เข้ามาพักผ่อน
และการกีฬาที่ผาดโผน แต่เท่าที่เห็นน่าเสียดายมากที่ทางแถบนี้ไม่ค่อยสนใจ
เกี่ยวกับการบำรุงรักษาธรรมชาติเท่าที่ควร
ทุกๆปีที่ป้าไปเที่ยวกับลุงจะเห็นการทำลายสร้างบ้านเรือนใหม่ๆ
และอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามามีสิทธิซื้อที่ดินคอบครอง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173019-Zwischenablage042.jpg)
นิสัยคนแถบWallisจะแตกต่างกว่าคนแถบอื่นๆ
คนแถบนี้จะมีนิสัยค่อนข้างเปิดเผยโผงผาง เป็นมิตร......สนุกและชอบดื่ม
เขตWallis จัดว่ามีชื่อเสียงทางด้านทำไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ระหว่างที่นั่งชมวิวอยู่เพลินๆ มารู้สึกตัวอีกทีมีอะไรมาหยุกหยิกตรงหน้าอก
นึกว่าลุงเล่นพิเรนอะไรที่ไหนได้แกกำลังใช้มีดพก กำลังปาดขนมปังทั้งๆที่รถกำลังแล่นอยู่
พูดถึงมีดพกสวิส คนหนุ่มๆทั่วไปจะไม่ค่อยมีคนพกเท่าไร
คนที่พกมีดพกแบบนี้มักจะเป็นคนรุ่นเดอะ เท่าที่เห็นมา อย่างลุงแกจะมีมีดพกสวิสติดตัวตลอดเวลา
เคยถามว่าทำไมชอบพก แกก็บอกไม่รู้เหมือนกัน
พูดต่อถึงการปาดขนมปัง คนสวิสมักจะใช้มีดปาดหรือตัดเข้าหาตัว
ซึ่งคนไทยเราจะรู้สึกว่าหวาดเสียวมาก อย่างลุงแกเคยปาดขนมปังจนเสื้อขาดมาแล้ว
แกเสียใจมากเพราะเสื้อที่ขาดเป็นเสื้อสุดหล่อของแก
ขณะที่ลุงกำลังปาดขนมปังกินอยู่ รถที่แล่นรู้สึกจะเบรคเล็กน้อย
มือที่ถือมีดค้างเกือบจะแทงเข้าลูกตาป้าเลย ผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าคงจะแอบดูอยู่ร้องอะจึ๋ยๆๆเลย
ป้าเลยด่าและยึดมีดลุงไม่ให้ตัดขนมปังอีกต่อไป ขืนให้แกตัดขนมปังกินต่อสงสัยไม่ได้ไปเที่ยวแน่ๆ
รถแล่นใช้ความเร็วคงที่ไม่มีการซิ่งเลย ผู้โดยสารแต่ละคนไม่เห็นคุยกัน ทุกคนนั่งกันสงบมาก
จะมีแต่เสียงลุงกับป้าส่งภาษาโนะเนะกันมาตลอดทาง
รถมาหยุดส่งผู้โดยสารที่Saas( Saastal) เป็นการหยุดแค่ครั้งเดียวที่นั่งรถมา
เป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ในSaas( Saastal) ช่วงนี้รถได้แล่นเข้าเขตSaas Feeแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173134-Zwischenablage096%20Kopie.jpg)
ทางที่จะเลี้ยวเข้าSaas Fee จะเห็นเครื่องหมาย....X...สีแดง
เป็นที่จอดรถที่เปิดบริการให้รถยนต์เข้ามาจอด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173301-Zwischenablage046.jpg)
เวลาประมาณ10.50น.นับว่าเป็นเวลาที่เที่ยงตรงจริงๆกับที่เขาจัดตารางรถไว้
นับว่าเป็นการจัดระบบการตั้งเวลาที่เป็นมาตรฐานจริงๆ
ช่วงนี้รถกำลังแล่นเข้าไปสู่ที่จอดรถPostที่อยู่ในอู่ข้างล่าง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173405-Zwischenablage049.jpg)
สถานที่จอดรถมีสภาพกว้างขวางมาก
มีรถบัสจอดอยู่แค่1คัน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173442-Zwischenablage050.jpg)
พอรถจอดผู้โดยสารต่างพากันเดินขึ้นประตูเพื่อขึ้นไปข้างบน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173536-Zwischenablage051.jpg)
พอขึ้นมาข้างบนแล้วจะเห็นวิวสวยมาก
ตรงที่เราขึ้นมาข้างบนจะมีห้องน้ำเปิดบริการ
ป้าเข้าไปข้างในไม่ได้ดูป้าย
ปรากฏว่าไปเข้าห้องน้ำผู้ชายเกือบซวยไป
พูดถึงการเข้าห้องน้ำผิด
ป้าจะทำผิดประจำจนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว
มีอยู่ครั้งหนึ่งเข้าไปแล้วออกไม่ได้
เพราะข้างนอกยังมีผู้ชายเข้ามาบำบัดทุกข์บำรุงสุขตลอดเวลา
ป้าต้องรอจนคนออกไปหมดถึงได้ออกมาได้
ลุงด่าจนหูชาเพราะรอนานร่วมครึ่งชม.
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173634-Zwischenablage052.jpg)
ก่อนจะออกเดินทาง
ตรงที่เราเดินทางขึ้นมาจากอู่รถPost
เขาจะมีป้ายตามภาพที่เห็นให้คนดูแผนที่
หัวหน้ากับลูกทัวร์พากันดูแผนที่
ที่จะไปขึ้นกระเช้าที่สถานี AlpinExpress
เห็นกำลังพยักพเยิดดูเส้นทางที่จะใช้เดิน
เวลาที่ใช้จากจุดที่ที่เราเดินออกมาจากอู่รถPost
เดินไปยังสถานี AlpinExpress
จะใช้เวลาประมาณร่วม10นาที
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173722-Zwischenablage076%20Kopie.jpg)
**นี่คือแผนที่ที่เราจะต้องใช้เดิน***
จุดอักษรA
คือจุดที่เราลงมาจากรถPost และเราจะต้องเดิน ไปยังจุดBซึ่งเป็นสถานี AlpinExpress
ที่เราต้องนั่งกระเช้าและรถไฟขึ้นไปยัง Allalin
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173828-Zwischenablage055.jpg)
หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินลงไปข้างล่าง
ทางที่เดินง่ายมากไม่ต้องกลัวหลง เดินไปเรื่อยๆและเลี้ยวซ้าย ก็จะเห็นสะพานยาวมีอยู่แห่งเดียว
ช่วงนี้เราจะเห็นบ้านหลังเล็กๆ ที่คนแถบWallisสมัยก่อนเก็บพวกอาหาร ตุนไว้กินตอนหน้าหนาว
ตั้งเรียงรายเต็มไปหมด
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-173913-Zwischenablage054.jpg)
ช่วงนี้เราเริ่มเดินเข้าไปบนสะพานแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174000-Zwischenablage057.jpg)
สะพานที่เดินยาวพอสมควรสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของหมู่บ้าน วิวภูเขาและข้างล่างที่มีน้ำไหล
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174058-Zwischenablage058.jpg)
วิวหมู่บ้านและด้านขวามือคือโบสถ์เก่าแก่ปี1889
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174200-Zwischenablage060.jpg)
เริ่มถึงสถานี AlpinExpress แล้ว
ต่างคนต่างรีบเดินเพราะต้องการขึ้นข้างบน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174247-Zwischenablage059.jpg)
นี่คือสถานี AlpinExpress
ถ้าใครมาเที่ยวอย่าขึ้นข้างบนแบบนี้
ทางที่จะเข้าข้างในสถานีอยู่ข้างล่าง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174352-Zwischenablage065.jpg)
ทางเข้าไปยังสถานีจะมีรูปร่างโค้ง
และเขียนตรงทางเข้าประตูว่า AlpinExpress
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174620-Zwischenablage066.jpg)
ก่อนจะเดินทางขึ้นข้างบน
เราต้องรีบเอาตั๋วที่ซื้อมาไปเปลี่ยนเป็นบัตรแข็งเล็กๆ
ลองกลับไปดูภาพของบัตรแข็งเป็นรูปภัตราคารหมุนจะเห็น
ที่เราต้องเปลี่ยนจากบัตรใหญ่เป็นบัตรแข็งเล็กๆ
เพราะเราต้องใช้ในการเสียบเข้าช่องตอนเข้าประตูไปข้างใน
ถ้าใครไม่เสียบบัตรจะไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
เพราะที่กั้นเหล็กจะไม่หมุนให้เราเดิน
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174710-Zwischenablage068.jpg)
ระหว่างรอเปลี่ยนบัตร
ปรากฏว่านายแบบสุดหล่อของเราหาตั๋วไม่เจอ
ตอนนี้เลยเริ่มภาษาขอมแล้ว
และหันมาพาลพะโรกับตากล้องหาว่ามัวแต่ถ่ายรูป
พอเริ่มภาษาขอมเท่านั้นแหละหาเจอทันที
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/105121-174753-Zwischenablage070.jpg)
หลังจากนั้นก็พากันเดินเข้าไปข้างในเพื่อนั่งกระเช้ากัน
***ติดตามอ่านตอน3***
เป็นการเดินทางด้วยกระเช้าและรถไฟใต้เขา
ขอแก้เวลาที่เขียนผิดพลาดของความคิดเห็นที่ 21
จากเวลาประมาณ10.50น.
ขอแก้เป็น.....เวลาประมาณ10.56น.
เวลาประมาณ10.56น.นับว่าเป็นเวลาที่เที่ยงตรงจริงๆ
กับที่เขาจัดตารางรถไว้
นับว่าเป็นการจัดระบบการตั้งเวลาที่เป็นมาตรฐานจริงๆ
ช่วงนี้รถกำลังแล่นเข้าไปสู่ที่จอดรถPostที่อยู่ในอู่ข้างล่าง
**ขอแก้ความเห็นที่8**
**ราคาค่าใช้จ่าย**
**ราคาตั๋วเป็นช่วงที่SBB...ลดให้เป็นพิเศษ30%)**
ค่าตั๋วรถไฟจะรวมค่าเดินทางทั้งหมดทุกอย่างไป-กลับ
รถไฟชั้น2..ลดครึ่งราคา
ราคาตั๋วจ่ายคนละCHF 91.40
รวมเครื่องดื่มเพิ่มให้คนใช้บริการเป็นกาแฟคนละ10แก้วฟรี
และรวมค่ารถแท็กซี่ไฟฟ้านั่งที่Saas Feeให้นั่งฟรี
***รวมเครื่องดื่มเพิ่มให้คนใช้บริการเป็นกาแฟคนละ10แก้วฟรี **
ขอแก้เป็น
**รวมเครื่องดื่มเพิ่มให้คนใช้บริการเป็นกาแฟคนละ1แก้วฟรี **