Pall's Webboard

General Category => Pall`s short stories Webboard => Topic started by: pall on November 11, 2005, 11:20:43 PM

Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:20:43 PM
https://www.google.ch/search?q=1+rappen&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=fgE2U93lDY6ShQfLuYHYCg&ved=0CAYQ_AUoAQ&biw=1120&bih=537#q=MARRONI&tbm=isch


**ลูกเกาลัด**  
เวลาออกไปข้างนอกเรารู้สึกหนาวมาก  
ขนาดใส่ถุงมือและเสื้อผ้าหนามากจนแทบจะขยับตัวไม่ได้  
แต่เรายังรู้สึกหนาวมากหนาวจนมือไม้แทบจะแข็ง  
วิธีที่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่เราถึงแม้จะชั่วคราว  
ก็คือการหาซื้อลูกเกาลัดคั่วซึ่งมีขายทั่วไปหมด  
มีขายทุกหนทุกแห่งราคาก็แตกต่างกันไป  
ซื้อมากก็ได้ลดหน่อย  


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0014 ห้อง stories (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:25:12 PM
https://www.google.ch/search?q=Kastanien&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=YQI2U8SnNMyQhQfY8YGABQ&ved=0CAYQ_AUoAQ&biw=1120&bih=537

เกาลัดรู้จักกันดีทุกคนและชอบกินกันมาก  
เกาลัดสามารถนำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน  
ที่Switzerland เมื่อปี 1340ในKanton Schwyz  
คนสวิสได้รู้จักลูกเกาลัด(Kastanien)เป็นครั้งแรก  
และต่อมาปี 1378 เริ่มแพร่ไปสู่ Weggis
และในWalchwil  
ปี 1434 ได้ทำการทดลองปลูกต้นเกาลัด ที่ Horw เป็นครั้งแรก  
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มีการถูกโยงกล่าวเล่าไปถึง  
ตำนานการปลูกต้นเกาลัดต้นแรกคงจะฝังที่นี่  
และขยายจากที่เขตนี้ในสวิตเซอร์แลนด์ให้เป็นศูนย์กลาง  
 
ในสมัยก่อนถือว่าต้นเกาลัดมีความหมายมาก  
เป็นการแสดงให้เห็นทางด้านประวัติศาสตร์ซึ่งหลักฐาน  
ที่ได้มาเห็นได้จาก Weggis เมื่อ120ปีที่ผ่านมา  
Weggisได้กำไรจากการค้าขายลูกเกาลัด  
มากกว่าการขายนมเสียอีก  
คนสวิสสมัยก่อนกินลูกเกาลัดเป็นอาหารหลัก  
 
หนังสือปกอ่อนเล่มเล็ก Wendelsglocken  
ที่แต่งโดย Josef Muheim  
เป็นหนังสือที่เขียนคามคำบอกเล่าของผู้คนที่สูงอายุในนั้น  
โดยการเล่าถึงการออกดอกเกาลัดประสบการณ์ที่ผ่านมา  
ในเขตVierwaldstaetterseeที่บานในสมัยก่อน  
 
จากการเดินทางผ่าน Gemeinde Greppen  
ซึ่งเป็นเขตปลูกต้นเกาลัดมากกว่า 300 ต้น  
 
http://www.murg.ch/vv/
 
เคยมีคนสงสัยว่าชาติไหน
เป็นชาติที่นำต้นเกาลัดมาปลูกที่Murg  
แถบ Walenseeเป็นชาวโรมัน หรือพวก Kelten กันแน่  
เพราะว่านอกจากนี้คือที่ตั้งดินฟ้าอากาศ
และเชิงภูมิศาสตร์ใต้ดิน  
วิชาธรณีวิทยา(Verrucanosteinก้อนหินของที่ตกตะกอนเปรี้ยว)  
ที่ทำให้ต้นเกาลัด ในMurg เจริญเติบโตดี
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:26:26 PM
https://www.google.ch/search?q=Kastanien&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=YQI2U8SnNMyQhQfY8YGABQ&ved=0CAYQ_AUoAQ&biw=1120&bih=537

เกาลัดเป็นพืชจำพวกมีผลเปลือกรูปสามเหลี่ยมที่กินได้  
ต้นเกาลัดต้องการอากาศที่เบา และพื้นดินที่ลึก.  
ออกดอกจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ละปีจะออกผลไม่เท่ากัน  
 
เก็บลูกเกาลัดระหว่างเดือนกันยายนและพฤศจิกายน  
ต้นเกาลัดมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากต่อสวิตเซอร์แลนด์  
เป็นศูนย์กลางต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ธรรมชาติทิวทัศน์  
การค้าขายกิจการป่าไม้เรียกว่ามีผลต่อเช่นเดียวกับเศรษฐศาสตร์และวัฒนธรรม.  
 
เมื่อวันที่ วันที่15เมษายนปี2000 พวกนักการค้ามืออาชีพได้ให้ความสนใจต่อ  
การสหภาพแบบอุตสาหกรรมมากเพราะเกาลัดเป็นที่ต้องการของ  
-agriculture  
- forest  
- nature protection  
- offspring and cultivation  
- wood  
- fruits  
- catering
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:27:03 PM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051111-082703-1031226-081646-Clipboard09.jpg)

ปัจจุบันไม้ที่ทำมาจากต้นเกาลัดมีบทบาทมาก  
 บ้านจัดสรรส่วนมากจะใช้พัสดุที่ทำจากไม้เกาลัดเพราะ  
 ไม้เกาลัดแข็งแรง และเทคโนโลยีชั้นนำ  
 คุณภาพที่ยืดยาว,ที่คุณภาพสูงเช่นเดียวกับสีที่สวยงาม  
 และสิ่งก่อสร้างอย่างพิเศษไม้เกาลัด  
 และเครื่องเฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็ทำมาจากไม้เกาลัด
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:28:15 PM

(http://www.pallswiss.com/images/old_board/1051111-082815-1031226-081820-Clipboard03.jpg)

**Bern**  
 
 
 ถ้าใครมาเที่ยว Bern ช่วงหน้าหนาวจะเห็นทุกหนทุกแห่ง  
 มีเกาลัดร้อนคั่วขายเต็มไปหมด ถ้าพูดถึงการค้าขายเกาลัดแล้ว  
 อาจจะตาโตมาก เพราะเกาลัดที่ขายที่ Bern ใช้จำนวนประมาณ  
 12 ตัน/ วัน(คิดเอาเองว่าเป็นจำนวนกี่ กก.ต่อวัน)  
 บริษัทที่ทำการค้าเกาลัดจนร่ำรวยคือ  
 บริษัท Firma Gysi +Strazzini AG  
 
 เฉพาะที่ Bern ขายเกาลัดประมาณ 400 กก. ต่อวัน  
 Firma Gysi +Strazzini AG  
 เป็นบริษัทที่เปิดทำการค้าขายเกี่ยวกับเกาลัดมาประมาณ 165 ปีแล้ว  
 ราคาเกาลัดคั่วที่ขายกันจะตกประมาณ CHF 2.80 / 100 กรัม  
 คือตกขีดละ CHF 2.80 ( 80 กว่าบาท)  
 ปีนี้ราคาเกาลัดแพงกว่าปีที่แล้ว CHF - .30  
 
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:28:55 PM
ต้นเกาลัดจะใช้เวลานานพอสมควรในการออกผลครั้งแรก  
 จะใช้เวลาประมาณ 25 ถึง 30 ปีต้นเกาลัด  
 สามารถมีอายุถึง 500ปี  
 
 ** เกาลัด **  
 
 ** ใน 100 กรัมเกาลัด **  
 
 น้ำ 51 กรัม  
 Eiweiss 3g  
 Kohlenhydrate 42g  
 Fett 2g  
 K-cal 195  
 K-joule 818  
 
 ** Mineralstoffe **  
 
 Sodium 1,5 mg  
 Kalium 707 mg  
 Magnesium 0,75 mg  
 Calcium 33 mg  
 Eisen 1,32 mg  
 Kupfer 0,2 mg  
 Phosphor 87 mg  
 Chloride 13 mg  
 
 ** Vitamine **  
 
 Vitamin E 1,2 mg  
 Carotine 24 mg  
 Vitamin B 1 0,2 mg  
 Vitamin B 2 0,21 mg  
 Vitamin B 6 0,35 mg  
 Niacin 0,87 mg  
 Phantothensäure 0,5 mg  
 Biotin 1,5 mg  
 Vitamin C 27 mg  
 
 จะเห็นได้ว่าการกินเกาลัดคุ้มกับราคาที่เราจ่ายหรือไม่  
 เกาลัดมีคุณค่าทางอาหารมากมายนัก  
 
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: นิด on November 11, 2005, 11:29:24 PM
ป้าจ๋า ของโปรดนิดเลย แต่ซื้อกินทุกรอบที่เจอไม่ไหวหล่ะเจ้าค่ะ 100 กรัว ปาเข้าไป 3.80 ฟรังแย้ว เลยต้องหัดซื้อลูกเกาลัดมาคั่วเองที่บ้านเอาใช้หม้อ หรือกะทะ ที่เคลือบ กรีดเปลือกลูกเกาลัด และใส่หม้อ พรมน้ำเล็กน้อย ทำแบบนี้ถูกไหมค่ะ คุณครูขา อย่างไง มาแนะนำวีธีคั่วเกาลัดหม่ำเองด้วยนะค่ะ สงสาร ลูกหมูตาดำๆที่บ้านหนูด้วยเถอะค่ะ
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: ป้าพร Stockholm on November 11, 2005, 11:29:53 PM
โฮ้ ป้าจ๋า น้องพร ผ่านมา สี่สิบกว่าฝน เกือบจะห้าสิบฝนแล้ว เพิ่งเคยเห็นต้น และ ผลเจ้าลูก เกาลัด ก็ตอนนี้เองแหละจ๊ะ สมัยอยู่เมืองไทย ถ้าไปตลาดเก่า เยาวราช ก็ต้องซื้อเจ้าลูก เกาลัด มากินทุกครั้ง เพราะลูกใหญ่ และ แพงดี เขาว่าเจ้าลูกเกาลัด นั่นหนะมาจากเมืองจีน ทีเดียว มาอยู่สวีเดน ก็ยังได้กินลูกเกาลัด สดๆ ที่ เขาแกะเปลือกออกไปแล้ว ส่งมาจากเมืองจีน หรื อ ฮอลแลนด์ อีก แต่ป้าพรไม่ยักรู้ว่า  
 ประวัติ ความเป็นมา ของลูกเกาลัดเนีย ก็มีที่ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์  
 
 ขอบคุณป้าจ๋า มากที่ เอาความรู้ใหม่ๆ มาแบ่งปันให้เสมอๆ
 
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: แจง on November 11, 2005, 11:30:28 PM
แจงก็ชอบทานเช่นกันค่ะ ตะก่อนไปเดินแถวสำเพ็ง คลองถม จะเห็นเจ๊กเค้าคั่วๆๆ ไม่มีปัญญาซื้อห้าห้า....แพงดี เหมือนป้าพรว่าเลย ห้าห้า มาถึงที่นี่ก็ยังเห็นเกาลัดคั่ว วุ้ย...ไม่กินไม่ได้แล้ว อิอิ จากนั้นมาก็ชอบมาตลอดค่ะ แต่ไม่ถึงขั้นคั่วเองแบบคุณนิดหรอกนะคะ...(แจงขี้เกียจน่ะ แฮะๆ ทำไม่เป็นอีกตะหาก) หะหะ  
 
 อ้อ แบบ เกาลัดบด ก็อร่อยดีค่ะ Vamisell เขียนผิดขออภัยด้วย กินกับไอติมวนิลากับ อะไรน้า..?? ทีทำมาจากไข่ข่าวกับน้ำตาลน่ะค่ะ แฮะๆ แจงลืม.. อีกแล้ว...
 
 
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:30:57 PM
นอ้งพร ป้าเคยไปเก็บลูกเกาลัดตอนไปเที่ยวภาคใต้  
 ข้างทางมีต้นเกาลัดขึ้นสูงเต็มไปหมดแต่เป็นต้นเกาลัดป่า  
 ลูกเกาลัดเล็กหน่อยแต่อร่อยมาก ลุงกับป้าและเด็กๆ  
 ลงไปเก็บกัน บางทีต้องกระทืบเพราะว่าเปลือกมันมีหนาม  
 ชอบแทงมือเลยต้องกระทืบแต่สนุกมาก  
 
 เราเก็บมาได้หลายกล่องกะว่าจะกินให้หนำใจเลย  
 ที่ไหนได้ตอนเช้ามีหนอนออกมาจากลูกเกาลัดเดินเพ่นพล่าน  
 ไปหมดรีบเก็บทิ้งไม่ทัน พวกเด็กๆดีใจมากได้เล่กับหนอน  
 ที่เดินขบวนเป็นกองทัพเลย  
 
 ไปเที่ยวลูกาโน่ทางรถไฟเห็นต้นเกาลัดขึ้นเต็มไปหมด  
 นึกถึงความหลังแล้วขำมาก
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:31:22 PM
นิดป้าทำแบบมั่วๆและถามคนอิตาเลี่ยนที่ขายลูกเกาลัด  
 ป้าชอบยืนดูเขาทำและคุยกับเขา เขาบอกใช้มีดคมกรีดนิดหน่อย  
 ตามขวาง เวลาคั่วมันจะอ้าเอง  
 
 ป้าทำกินเองบ่อยๆแต่แบบมั่วๆกรีดแบบที่เขาบอก  
 และแช่น้ำนิดเดียวเอาน้ำออก  
 แล้วเอาลงคั่วเพราะไม่มีไฟลนเผาแบบที่ทำขาย  
 แต่อรอ่ยมากนิดเปลือกจะอ้าและสุกถึงข้างใน  
 
 ที่Coop และมีโกรถูกมากกก.หนึ่งแค่ 8 ฟรังก์มัง  
 ไม่ได้ซื้อนานแล้ว อืมที่ซูริคราคาที่เขาขายแพงกว่า  
 สงสัยที่โน่นคนรวยกว่าเบิร์น
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: pall on November 11, 2005, 11:31:50 PM
แจงจ๊ะที่แจงบอกมาป้าชอบกินมากเลยราดครีมด้วย  
 กินเสร็จนน.ขึ้นทันตาเลย  
 ลูกเกาลัดบดVermicelles  
 กินกับที่แจงบอกใช่อรอ่ยมาก  
 ที่แจงบอกนั่นชื่อว่าMeringue  
 
 วันหลังว่างๆจะมาเขียนเล่าประวัติของMeringue  
 ให้ฟังมีประวัติมากเลย
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: นิด on November 11, 2005, 11:32:15 PM
ป้าจ๋า นิดว่า เกาลัดที่บ้านป้าอร่อย กว่าที่อื่นนะ ค่ะ เพราะนิดกินแล้วไม่เสียตังแน่ๆ อิอิอิอิ
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: เกตุ on November 11, 2005, 11:32:50 PM
แหะๆๆ เข้ามาอ่านบ่อยแต่ไม่ได้ออกความเห็นเอิ้กๆๆ แต่ทนเกาลัดม่ายล่ายซะแล้วเพราะว่าข้อยโปรดมั่กๆๆ แต่ที่ซูริคแพงจริงๆด้วยล่ะจ้าถ้าไปซื้อที่เขาคั่วขายตามถนนละก็ 100 กรัม นี้ 5 ฟรังเลยเด้อ ส่วนถ้าซื้อมาทำเองถ้าก่อนหน้านี้ละก็แพงสุดๆ กิโลละ 12 ฟรังเลยล่ะ แต่ตอนนี้ราคาตกเอิ้กๆๆอยู่ที่ 8-9 ฟรัง แต่ถ้าคาร์ฟูร์จะลดบ่อยและลดเยอะด้วยละก๊าข้อยไปซื้อบ่อยโลละ 4.80 ฟรัง เอิ้กๆๆ  
 
 แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นขายเท่าไรสงสัยใกล้หมดหน้าแล้วป่าวไม่รู้ แหะๆๆจะมาบอกวิธีฉามีข้อยทำให้ข้อยกิน เครืออย่างนี้เด้อ ฉามีเอากะละมังใส่น้ำและผสมกับน้ำตาลด้วยเท่าไรก็ประมาณเอาอิๆๆ เสร็จแล้วก็เอาเกาลัดมาปาดทางขวางโยนๆลงไปในน้ำนั่นแหละ แช่ไว้สัก 30 นาที แล้วก็เข้าเตาอบถ้าไปซื้อหม้อคั่วเลยนี้คงไม่คุ้ม บ้านข้อยฉามีเอาเข้าไมโครเวฟเลยคอยดูทุกๆ 10 นาที เพราะกะไม่ถูกเหมือนกันว่าสุกตอนไหน พอเห็นเปลือกอ้าซ่าแล้วก็เอามาลองกินดูก่อน ว่าสุกอ่ะป่าว แค่นี้ล่ะ  
 
 แต่ตอนนี้ข้อยน่ะกำลังบ้ากินเค้กมาโรนี่อ่ะเอิ้กๆๆเลยขาดหายมาโรนี่คั่วไปเลยเอิ้กๆๆ  
 
 สวัสดีค่ะป้า pall พูดซะยาวลืมฉาหวัดลี
 
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: เต่า บอสตัน on November 11, 2005, 11:33:05 PM
เห็นคุยเรื่อง เมอริง ใช้ไข่ขาว สองสามวันนี้อยากกิน* nougat  
 มาก หาสูตรทางเนต ทำได้มา รสชาดอร่อย หนืดๆๆเหมือนตังเมถั่วลิสง แต่เราใส่อัลมอนท์แทน และ แคนเบอรรี่แห้งคะ  
 
 สูตรนี้หาได้เนต โดยลงเสิชว่า almond nougat candy recipe  
 จะได้สูตรเดียวกันเลย ถ้าอยากจะลองมั่งนะ
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: นี่นะ on November 11, 2005, 11:33:30 PM
เพิ่งรู้ว่าไม้จากเกาลัดเอามาทำเฟอร์นิเจอร์ได้ ป้าจ๋านี่เจ๋งเจงเจงค่ะ  
 นี่นะเคยกินเค้กเกาลัดค่ะ อร่อยดี
Title: <<<MARRONI>>>
Post by: บัวขาว on November 11, 2005, 11:34:01 PM
มาสวิสครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกัน เขามีเกาลัด ด้วยเหรอ เหมือนบ้านเราเลยแหะ ทำให้คิดถึงเยาวราช ขึ้นมาทันที บัวขาวก็ชอบกินเจ้าค่ะ