(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-032957-Clipboard03.jpg)
ก่อนจะไปถอนฟันป้าพรเอาแกงสับนกใส่ถุง
มาวางใส่ถาดตั้งขายเพื่อสาวๆจะซื้อกลับบ้าน
ไปสักคนละถุงสองถุงจ๊ะ
ใครนะตั้งชื่อว่าแกงสับนกไม่เห็นมีนกสักตัวหนะ
แต่สูตรต้นตำราดั้งเดิมคงจะต้องเป็นนื้อของนก
ที่ เขาไปดักไปยิงกันมาได้ตามท้องไร่ท้องนา
ท้ายสวนแน่นอน เลยทีเดียว
เราคนกรุงสมัยนี้ไม่มีนกมาให้จับให้ยิงกันแล้ว
งั้นก็ใช้ เนื้อปลามาสับแทนแกงกันไปก่อนแล้วกัน
เครื่องปรุงก็ไม่ยุ่งยากอะไรเนื้อปลารวนให้สุก
เครื่องแกงเผ็ดแดง,กระชาย,มะเขือพวง มะเขือเปาะ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดง เขียว, ถั่วฝักยาวหั่นท่อนสั้นๆ เล็กๆ
ใบโหระพา ใบมะกรูดฉีก, กะทิ
เครืองปรุงรสชาติของแกง ก็ น้ำตาลปี๊บ ,น้ำปลา , เกลือ เป็นหลักจ๊ะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0020 ห้อง kitchen (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-033258-Clipboard03.jpg)
ปลารวนให้สุกเวลารวนเราก็เหยาะน้ำปลาลงไปนิดหน่อย
เพื่อที่ว่าเนื้อปลาจะได้มีรสชาติ เค็มปุแร่มๆหนะจ๊ะไม่ใช่เค็มปี๊หลี
เวลาเรารวนถ้าเนื้อปลายังสุกไม่ทั่วและน้ำแห้ง
ก็เทน้ำลงไปช่วยให้ปลาสุกสักหน่อยก็ได้นะจ๊ะ
และรวนต่อไปจนเนื้อปลาสุกน้ำแห้งดีแล้วจึงนำมาแกงต่อไปจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-033435-Clipboard03.jpg)
เวลารวนเราก็คอยคนเราตะหลิวสับเนื้อปลาให้เป็นชิ้นเล็กๆ
ขนาดตามชอบใจจ๊ะ ถ้าใหญ่มากๆก็จะไม่เข้าเนื้อเข้าน้ำกันจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-033601-Clipboard03.jpg)
หลังจากที่เราได้ปลารวนเนื้อสุกแล้ว
ก็นำเครื่องแกงมาผัดให้หอมกับหัวกะทิ
ใช้ไฟอ่อนถึงกลางถ้ากะทิแห้งคอยช้อนหัวกะทิใส่ผัดลงไป
ทำซ้ำแบบนี้ไปจนกว่าเครื่องแกงจะหอมและเนื้อเครื่องแกงฟู
และกะทิแตกมันเครื่องแกงเป็นสีแดง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-033735-Clipboard03.jpg)
หลังจากที่เครื่องแกงแตกมันได้ที่แล้วก็นำเอาปลาที่เรารวนไว้สุกแล้วมาใส่ผสมลงไปกับเครื่องแกง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-033923-Clipboard03.jpg)
พวกผักกระชายซอยเป็นชิ้นเล็กๆ บีบน้ำออกใหแห้ง
พริกหั่น ,มะเขือหั่น,ถั่วฝักยาวที่เราหั่นไว้เรียบร้อย
เตรียมพร้อมที่จะใส่รวมลงไปในหม้อแกง
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-034112-Clipboard03.jpg)
หลังจากที่เราใส่ปลาผสมลงไปในเครื่องแกงแล้ว
ก็ใส่กระชายลงไปเป็นอันดับแรก
เพื่อที่เราจะต้องผัดกระชายกับปลาและเครื่องแกง
ให้กระชายมีกลิ่นหอมเสียหน่อยก่อนที่จะใส่ผักอย่างอื่น
และปรุงรส ของแกงจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-034329-Clipboard03.jpg)
หลังจากนั้น ใส่ น้ำปลาน้ำตาลปี๊บปรุงรส
แล้วใส่พริกมะเขือตามลงไปขณะนี้เราใส่เครื่องไปเยอะแล้ว
น้ำแกงอาจจะแห้งตักน้ำกะทิใส่ลงไปในหม้อแกงสักหน่อยก่อน
เพื่อแกงจะได้ไม่แห้งเกินไป
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-034446-Clipboard03.jpg)
หลังจากนั้นก็ใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นไว้ที่หลัง
เพราะถั่วเนียเราหั่นท่อนเล็กมากจะสุกง่ายดายอยู่แล้วหละจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-034656-Clipboard03.jpg)
ทีนี้แหละเมื่อเราก็ค่อยๆกะใส่น้ำกะทิลงไป
อย่าใส่มากเกินไปกะดูให้พอดีไม่น้ำนอ้ยน้ำมากจ๊ะ
แกงคั่วแบบนี้น้ำมากไปก็จะไม่อร่อยเข้มข้นจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-034858-Clipboard03.jpg)
ทีนี้ พอเราใส่น้ำ กะทิ เพิ่มไป ตามปริมาณที่เราต้องการ แล้ว
ก็เอาช้อนมาตักชิมดูรสชาติของแกงสักหน่อยว่าอ่อนแก่รสไหน
เราก็ค่อยๆเพิ่มรสชาติหรือว่าถ้าเราปรุงมาแบบแม่นยำแล้ว
ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ เครื่องปรุงเพิ่มรสชาติจ๊ะ
พอแกงเดือดแล้วก็ใส่ใบโหระพาใบมะกรูดฉีกลงไป
เป็นรายการสุดท้ายเวลาใส่ใบโหระพาไปแล้ว
ต้องรีบเอาทัพดี กดลงไปให้จมลงไปในน้ำแกงที่กำลังเดือดให้หมดโดยเร็วใบโหระพาจะได้ไม่ดำจ๊ะ
เป็นอันว่าเราก็จะได้ แกงสับนก ที่อร่อย เข้มข้นจ๊ะ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-035044-Clipboard03.jpg)
แกงสับนกปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-035315-Clipboard03.jpg)
แกงสับนกแบบนี้จะกินกับข้าวสวยร้อนๆ
หรือกับขนมจีนก็ได้หนะจ๊ะ
ทีนี้มีผักสด อะไรที่ชอบ ก็เอามาเลย
พร้อมทั้งเครื่องเคียงที่กินกับแกงเผ็ดอย่าง
เช่น ไข่เค็ม,ปลาเค็ม,กระเทียมดอง,ไข่ฟุทอด ,กุนเชียง, ฯลฯ
ก็จัดการไปทอด ไปหั่นใส่จานมากินควบกันไปด้วย
ก็จานเดียวจะไม่เคยพอหนะซิ อิ อิ
(http://www.pallswiss.com/images/old_board/104115-035405-Clipboard02.jpg)
แกงหม้อเบ้อเล่อเบ้อล่าตักขายได้แค่ไม่กิ่ถุงเองจ๊ะ
อ้าวใครมาช้า แกงถุงหมดไม่รู้หนะจ๊ะ อิ อิ
ป้าพรขา.........นำลายหกรดแป้นพิมพ์ค่ะ
หน้าตาดูดีมากๆ แกงแบบนี้แหละชาดำชอบมาก
หน้าตาคล้าย แกงป่า แต่ใส่กะทิ กับเนื้อปลา
เมนูนี้สุดยอดเลยค่ะป้า