สืบเนื่องจาก การจากไปของผู้เป็นบิดาของแม่ลูกแฝด (นิด) ทำให้ต้องเดินทางด่วนกลับไปปฏิบัติภาระกิจของลูก เป็นครั้งสุดท้าย...
พี่ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของผู้เป็นพ่อตา ไว้ณ.ที่นี้ด้วย
เราไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเลย แม้แต่การได้โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขวนของพี่ ในยามที่เธอทุกข์ใจ และต้องการกำลังใจ...
พี่อยากจะทำเช่นนั้น เฉิกเช่นคู่สามีภรรยา ทั่วๆไป แต่มีหลายสิ่งที่วิ่งผ่านเข้ามาให้พี่ต้องคิดถึงคำว่า ไม่ควรทำเช่นนั้น อยากกอดเธอไว้ทุกวันเวลา ตลอดไป....
สิ่งหนึ่งที่อยากให้เธอรับรู้ไว้เสมอว่า พี่ไม่เคยที่จะทำลายเธอ จะขออยู่เฝ้ามองและเป็นกำลังให้เธอและลูกๆตราบชั่ว ลมหายใจของพี่จะมีอยู่ ขอเพียงเธอเข็มแข็งและพร้อมที่จะต่อสู่กับอุปสรรค์ทั้งปวงนะจ๊ะ
จำได้ไหมประโยคนี้ "ใครตายก่อน ถือว่าไม่รักกันจริง"
**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0735 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ คนเราจะเห็นใจกันที่สุดก็ยามนี้ ขอให้ประคับประคองกันไป อย่าได้ทอดทิ้งกัน เพราะยามทุกข์ใจนั้น คนที่เป็นคู่ชีวิตคือคนที่ใกล้ชิดที่สุด และเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดค่ะ
เสียใจด้วยนะคะ แต่ อนิจจัง อนิจจา สังขารไม่เที่ยงแท้ แน่นอน
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา
อยู่ที่ว่า เราๆ ท่านๆ ลืมกันไปรึป่าว
ว่า สมควร รีบ สร้างความดี สร้างความรัก ให้กับคนที่เรารัก
ก่อนทีมันจะสายเกินไป
ขอแสดงความเสียใจกับแม่ลูกแฝดมาณที่นี้ด้วยจ๊ะ
การเกิด..แก่...เจ็บ...ตาย...เป็นธรรมดาของมนุษย์
เจอ..แล้วจาก...และพลัดพรากจากสิ่งรัก...
เป็นความทุกข์ทั้งสิ้น...
การเกิดมาเป็นมนุษย์ตั้งแต่ลืมตาดูโลก...
เราเรียกว่าเกิดมาเพื่อรับทุกข์แล้ว...
จากกันวันนี้หรือวันไหน...เราก็ตอ้งจากกันอยู่ดี...
ไม่มีใครที่ฝืนสังขาร..หรืออยู่ค้ำฟ้าได้...
ช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่..ควรตักตวงทำความดี
และเอาใจใส่กัน...รักกัน..หรือทำสิ่งดีๆต่อกัน..
คิดดี..ทำดี..แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการอยู่อย่างมีความสุข
ป้าขอแสดงความเสียในมาณที่นี้ด้วย
และหวังว่าแม่ลูกแฝดคงทำใจได้..อย่าคิดมากนะจ๊ะ...
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต...
ไม่ว่าทุกข์อะไร...หรือปัญหาอะไร...
หรือการพลัดพรากสูญเสียจากสิ่งอันเป็นที่รักยิ่ง.......
ขอให้พยายามทำใจและถือว่าเป็นกฎธรรมดาของมนุษย์
เอาใจช่วย..ขอให้แม่ลูกแฝดเข็มแข็ง..และมองโลก
อย่างคนมีสติ.....
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เกิดแก่ เจ็บตาย เป็นเรื่อง ธรรมชาติ ของมนุย์ ไม่มีใครหนีพ้น ส่วนคนอยู่ก็พยายามสั่งสมความดี พอถึงวันที่จะต้องไปจริงๆจะได้ไม่กลัวมาก ถือว่าได้ทําดีมาพอสมควร ถ้าจะตายก็คงนอนตายตาหลับ.. ขอให้ น้อง นิด แข้มเข็ง ยังไงพ่อก็ไปสบายแล้ว คนที่อยู่ก็ต้องสู้และดูแลกัน ชีวิตต้องเดินต่อไป
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะพี่นิด เข้มแข็ูงค่ะพี่ ตอนนี้คนที่ยังอยู่ก็สู้ต่อไปค่ะ
ขอแสดงความเสียใจกับนิดดัวย พยายามคิดถึงลูกๆและครอบครัว เพื่อจะได้มีแรงกายแรงใจต่อสู้ต่อไป
Sending a "Sympathy " to Twin's Mum who lost a father ka.
แสดงความเสียใจด้วยนะคะพี่นิด ขอให้เข้มแข็งค่ะ เป้นกำลังใจ
ขอแสดงความเสียใจกับพี่นิด ด้วยค่ะ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ยังไงก็ขอให้เข็มแข็ง ทำหน้าที่ลูกที่ดีเป็นครั้งสุดท้าย เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ
ขอแสดงความเสียใจนะค้า อย่างไรก้อขอให้เข้มแข็งเพื่อลูกๆ อีก 3 คนนะค้า
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
มาแสดงความเสียใจด้วยคนครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะพี่นิด ยังไงก็รักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
ขอแสดงความเสียใจนะคะพี่นิด ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่นิด สุขภาพแข็งแรง
ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
ขอแสดงความเสียใจนะคะ
ขอแสดงความเสียใจกับแม่ลูกหมูสามตัว ด้วยนะคะ คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ จะเป็นกำลังใจให้นะคะ
อ่านแล้วซึ้งมากๆเลยค่ะ " คุณสามี " เขียนได้แบบ...อ่านแล้วแทบจะร้องไห้เลยค่ะ ( ข้าวจ้าว เซ็นซิทีฟน่ะคะ)
พี่ก้องจ๋าไปเปิดบ้านที่แพนทาวก็ไม่บอกทำได้สวยมากเลย
เวปไหนจ๊ะ ขอไปดูด้วย
ปิดเทอมหน้าร้อนของปีที่แล้ว หนูได้พาลูกๆไปเยี่ยมพ่อหลังจากสี่ปีที่เราไม่ได้เจอกัน ภาพของพ่อที่เห็นในครั้งนี้ พ่อยังคงเหมือนเดิม ขาวอ้วนท้วมจะมีที่เปลี่ยนไปคือ สีผมที่ขาวหมด กับใบหน้าที่ดูเหนื่อยอิดโรย พอพ่อเห็นหนูและลูกๆ สายตาและสีหน้าของพ่อแสดงออกถึงความตกใจและดีใจ พ่อเข้ามากอดหนูลูบหัว กอดหลานๆทั้งสาม คำพูดแรกที่พ่อเอย " หนูสบายดีไหมลูก ทำไมผอมจังไม่อ้วนท้วมสักนิดหล่ะลูกจะได้ดูมีราศี มีน้ำมีนวล มาเมืองไทยเมื่อไหร่หล่ะ อยู่ที่สวิต มีความสุขดีไหม พ่อเจ้าสามคนดูแลดีไหม ครอบครัวเค้าดีกับลูกไหม" พ่อจับตัวหนูหันซ้ายหันขวาพิจรณาดู พร้อมคำถามที่พรั่งพรูจากปากถึงสาระทุกข์สุขดิบด้วยหัวใจของพ่อที่รักและห่วงใยอีกมากมาย พ่อดึงที่หนีบผมของหนูออกแล้วหวีผมให้หนูเหมือนสมัยที่หนูยังเป็นลูกสาวตัวเล็กๆของพ่อ ที่ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนพ่อต้องจัดการกับผมให้เรียบแบ้แล้วจึงจะให้ไปโรงเรียนได้ วันนี้พ่อก็ยังคงจัดการกับผมของหนูอีกเช่นเดิมที่เจอหน้า พร้อมกับบ่นว่า " ผมยาวๆไปตัดทิ้งออกทำไม เป็นลูกผู้หญิงต้องไว้ผมยาวๆถึงจะสวย แล้วนี้หนูหวีผมมั้งหรือป่าวทำไมมันถึงได้ยุ่งแบบนี้ เป็นแม่คนแล้วนะ "พร้อมกับหัวเราะชอบใจ หนูกับหลานแกะผลไม้ให้พ่อกิน พ่อกินได้เยอะ กินทุกชิ้นที่หลานป้อนตา หนูนั่งมองดูพ่อกอดรัดฟัดเหวี่ยงเล่นกับหลานสามคน เสียงหัวเราะดังลั่น เรานั่งคุยกันอีกมากมายจึงทำให้รู้ว่าพ่อไม่มีความสุขเลย พ่อเหงาและคิดถึงลูกๆ หนูคลานเค้าไปนอนหนุนตักพ่อ กราบที่เท้าพ่อก่อนกลับ พ่อลูบหัวหนูแล้วร้องไห้ บอกกับหนูว่า " ถ้ากลับมาสวิต อยู่แล้วไม่มีความสุข มันลำบาก ให้กลับมาอยู่เมืองไทยนะ มาอยู่บ้านพ่อก็ได้ พ่อจะยกบ้านหลังนี้ให้ " ขนาดที่หนูกำลังขึ้นรถกลับหนูหันไปมองบ้านพ่ออีกครั้ง ภาพที่เห็นและมันยังคงติดตาหนูอยู่จนบัดนี้คือ " ชายชราผมขาว ที่ดูเหมือนตรากตรำเหนื่อยล้ามาชั่วชีวิต แม้จะขาวอ้วนท้วม ที่นั่งเอามือปาดน้ำตา ชะเง้อมองตามรถที่กำลังแล่นออก จนสุดสายตา "
แม้ระหว่างเราพ่อลูกไม่ได้อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน พ่อไม่ได้อยู่ดูแลเราสามคนแม่ลูก มาเป็นเวลานานนับยี่สิบปี แม้ว่าระหว่างเราพ่อลูกจะมีเหตุที่ทำให้ไม่ติดต่อกันมานาน แม้ในบางครั้งที่เราพ่อลูกมีความคิดไม่ตรงกัน งัดข้อกันเสมอที่เจอหน้ากัน แม้พ่อจะเคยทำให้หนูเสียใจ น้อยใจ แต่พ่อก็ยังคงเป็นพ่อของหนู เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นพระที่อยู่บนหัวคุ้มครองหนูชั่วชีวิต หากวันนั้นหนูรู้ว่า จะได้กอดพ่อ ได้นอนหนุนตักพ่อ ให้พ่อหวีผมเหมือนเด็กเล็กๆ เป็นครั้งสุดท้าย หนูจะอยู่ตรงนั้นให้นาน นานที่สุด วันนี้พ่อจากไป หนูทำทุกอย่างให้พ่ออย่างดีที่สุดเท่าที่ลูกคนนี้จะทดแทนพระคุณพ่อครั้งสุดท้ายให้ได้ หนูยกมือไหว้เมียของพ่อเป็นครั้งแรกทั้งที่ตลอดเวลายี่สิบปีไม่เคยไหว้เค้า ขอบคุณที่เค้าดูแลปรนนิบัติพ่อต่อหน้าไฟที่กำลังลุกไหม้ ที่กำลังจะพรากร่างกายของพ่อไปจากหนู หนูบอกแม่และน้องเราจะไม่เรียกร้องสิทธิ์ความเป็นลูกในสมบัติของพ่อสักชิ้นเดียว แม้ว่าย่าและอาต้องการให้หนูเรีย กร้องสิทธิ์นี้ หนูต้องการให้เมียพ่อเอาไว้ดำเนินชีวิตต่อไปเมื่อเค้าไม่มีพ่อแล้ว เพียงแต่ขอให้เค้าให้ย่าบ้างเพื่อให้ย่ามีค่ายาดูแลสุขภาพของท่าน หนูไม่อยากให้พ่อมีห่วงใดๆ อยากให้พ่อตายตาหลับ.
เมื่อวันของวาระสุดท้ายที่เราจะจับต้องสัมผัสร่างกายพ่อได้มาถึง สัปเหร่อได้เปิดฝาโลงให้เราได้เห็นพ่อ " ชายชราผมขวา นอนหลับตาพริ้ม เหมือนคนนอนหลับทั่วไป ใบหน้าที่ดูสงบ "เราสองคนพี่น้องได้เข้าไปกอดพ่อ เราอยากหยุดเวลาตรงนี้ไว้ แต่ความเป็นจริงมันคงทำไม่ได้คนรอบข้างต้องล็อกน้องชายออกมาก่อนที่น้ำตาจะล่วงลงถูกพ่อ หนูจำต้องปล่อยพ่อถอยออกมา เพราะมันถึงเวลา เวลาที่เราไม่ต้องการให้ถึง เมื่อร่างพ่ออยู่ในเตาที่กำลังลุกโชนไปด้วยไฟ เสียงของโลงไม้ที่แตกลั่น มันเหมือนมีดที่กรีดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าลงที่หัวใจไม่มีอีกแล้ว ไม่เห็นอีกแล้ว " พ่อ " เราสองคนพี่น้องนั่งกอดกันร้องไห้อยู่ตรงนั้น หัวใจจะแตกสลายให้ได้ ในวินาทีนั้น ไม่มีศัพท์เสียงใดๆ ที่จะดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเรา ให้รับรู้ได้ ทุกสิ่งรอบตัวมันหยุดตรงนั้น " พ่อจ๋า หลับให้สบาย ทุกสิ่งหนูได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว หนูจะดูแลแม่และน้องเอง หากมีสิ่งใดที่ลูกเคยล่วงเกินทำให้พ่อเสียใจ ลูกกราบขอโทษพ่อ บุญคุณที่ลูกได้ทดแทนให้น้อยนิด ขอให้ชาติหน้าได้เกิดมาทดแทนมากกว่านี้ หนูรักพ่อ "
ในช่วงเวลานี้คงไม่มีถ้อยคำใดได้มากกมาย นอกจากอยากจะบอกว่า " ขอบคุณ " ป้าๆ พี่ๆ เพื่อนๆทุกคนที่ปลอบใจและให้กำลังใจค่ะ " ขอบคุณจริงๆ "
แม้นานๆจะเข้ามาครั้ง
แต่ก็รู้สึกเสียใจกับคุณนิดเป็นอย่างมาก
เข้มแข็งไว้นะคะ