การทำงานที่สวิสเซอร์แลนด์

Previous topic - Next topic

เพ็ญ

อยากฟังประสพการณ์ของคนที่ได้งานที่นี่บ้างค่ะ  ได้ทำงานอะไรกันบ้าง  ชอบไหม  แล้วตรงกับที่เรียนมาไหม  เล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้ แลกเปลี่ยนประสพการณ์ ความคิดเห็น และทีสำคัญเป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังหางาน หาไม่ได้  มีปัญหาในการทำงาน ท้อแท้เรื่องงาน อย่างเราตอนนี้ ฮิ  ฮิ  
 ชีวิตการทำงานที่นี่มันไม่ได้ง่ายเลย  จำกัดด้วยเหตุผลหลายอย่าง  เช่น พาสบี  ภาษา การปรับตัว  
 เคยได้ยินบางคนจบปริญญา จากเมืองไทย  ทำงานดีๆ มั่นคงมาจากเมืองไทย  แต่พอมาอยู่ที่สวิส ต้องทำความสะอาด ทำงานโรงงาน  ทำร้านอาหาร  แต่ก็ต้องทำ เพราะงานอื่นหาไม่ได้
 แต่บางคนก็มีบุญ  โชคดีจนน่าอิจฉา มาอยู่ได้ไม่นาน ได้งานดีๆ  มีเคล็ดลับหรือปัจจัยอะไร เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0593 ห้อง openroom (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

บัวขาว

ค่ะมาอยู่สวิสปีที่ห้า...แล้วค่ะ...มาถึงก็เรียนภาษาเยรมันก่อน...ท้องไปด้วยเรียนไปด้วยนะค่ะ จบมาได้ใบประกาศสองใบ ใบประกาศเรียนภาษาหนึ่ง ลูกอีกหนึ่ง หุ หุ ตอนนี้ลูกสองแล้วละค่ะ คือห้าปีที่ผ่านมาไม่ได้หางาน หรือ ทำงานเลยค่ะ เลี้ยงลูกอยู่บ้านอย่างเดียว ตอนนี้ลูกทั้งสองคน คนหนึ่งก็สี่ขวบกว่า อีกคนก็จะสองขวบครึ่งแล้ว ปล่อยได้แล้วนะค่ะ ก็ส่งไปเนอรเซอรี่ พอดีกว่าสองเดือนที่ผ่านมาพึ่งได้บัตร ซี พอดีนะค่ะ  
 
 ลูกเริ่มไปเนอรเซอรี่ทั้งสองคน ตั้งแต่เดือน ก.ค. ช่วงนั้นเราก็พักผ่อนก่อนนะค่ะ พอ กลางเดือน ส.ค ก็เริ่มหางานค่ะ โดยการ หาทางอินเตอร์เน็ท เราก็ต้องรู้ตัวเองนะค่ะว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อย่างเช่นตัวเราเอง ไม่ชอบเลี้ยงเด็ก ไม่ชอบดูแลคนแก่ เราก็ตัดไปเลยค่ะ ก็มามองทำความสะอาจในครัวบ้าง ขายของบ้าง หรืออะไรที่เราสามรถทำได้นะค่ะ เพราะงานอย่างอื่นก็ต้องใช้ใบประกาศนียบัตร หรือผ่านการฝึกงาน หรือประสบการณ์  
 
 จากนั้นเราก็มาทำใบ Lebenslauf ค่ะ รูปที่ติดนี่หาสวย สวย ดี ดี นะค่ะ อย่าเป็นรูปดูเด็กเกินไปให้เป็นคนพร้อมทำงาน แต่งหน้าก็อย่าเป็นนกแก้ว สีเขียว สีแดงนะค่ะ เอาให้ดูว่าพร้อมที่จะทำงาน ถ่ายแถวตู้ไม่ดีหรอกค่ะ ไปหาถ่ายแถวร้านเอา เขาจะได้ช่วยดูให้ด้วย จากนั้นก็ ทำประวัติของเรานะค่ะ เรียนจบที่ไหนเมื่อไร (หาดูตัวอย่าง Lebenslauf ได้ที่ใน Google นะค่ะ )
 ส่วนจดหมายสมัครงาน เวลาเราเขียนนี้เราต้องตีโจทก์เขาให้แตกนะค่ะ อย่างเขาต้องการพนักงานขายที่มีประสบการณ์ เรามีประสบการณ์อะไรอย่างไงที่ไหนเราก็ การเขียนจดหมายสมัครงานมันมีสองแบบ คือแบบครอบคุมทุกอย่าง กับ แบบต้องแนบ Lebenslauf ไปด้วย  จดหมายสมัครงานที่ดีควรจบในกระดาษแผ่นเดียว คือไม่ต้องยาว แต่ได้ใจความ และตอบโจทก์ที่เขาให้มาได้เป็นอย่างดี  
 ถ้าจะให้ดีไปซื้อหนังสือมาอ่านเลยค่ะ ไปที่ร้านหนังสือถามหนังสือ Bewerbung Buch จะมีทั้งตัวอย่างการเขียนจดหมายสมัครงาน และ การทำLebenslauf  ด้วยค่ะ หรือหาข้อมูลการสมัครในเว็ปไซด์พันทิป ห้องสีลมก็ได้ค่ะ แต่ของเราเป็นภาษาเยอรมันก็ซือ้หนังสือมาอ่านประกอบจะดีมาก มาก  
 
 สรุป ของเราก็เริ่มหางานและสมัครงาน ตั้งแต่ กลางเดือน ส.ค. โดยบัตร ซี และ ลูกสองคน และ ใบประกาศภาษา เราหางานไม่ร้อยเปอร์เซนต์ คือประมาณ สามสิบถึง หกสิบเปอร์เซนต์ ก็มีเรียกสัมภาษณ์มา เราก็เพิ่งไปสัมภาษณ์มา วันศุกร์ ก็โชคดีที่ได้ เป็นงานร้านอาหาร ขายอาหาร ก็ต้องทำทุกอย่างนั้นแหละ ทั้งเตรียมอาหาร ทั้งทำความสะอาดร้าน ทั้ง เก็บเงินลูกค้า ก็ต้องทุกอย่าง ทำสามวัน อังคาร พฤหัส อาทิตย์ ชอบหรือไม่ชอบยังไม่รู้ เพราะจะเริ่มทำ ต้นเดือน ต.ค  (คือเดือนนี้เราจะไปเที่ยวบนดอยอยู่ หุ หุ)  
 แต่ทนได้ทนไม่ได้ยังไงก็ต้องทน ตราบใดที่เขายังจ่ายค่าจ้างเราอยู่ เพราะงานก็ใช่ว่าจะหาง่าย ง่าย ได้มาก็ถึงว่าโชคดี ก็ต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุดหละ ยิ่งเป็นงานแรก ก็ต้องเอาจดหมายปฏิเสธงานปึกใหญ่ในตู้ไว้เป็นแรงใจ ว่า งานมันหากันไม่ใช่ง่าย ง่าย อดทนไว้ ทำให้ดีที่สุด ทำงานไปด้วย เราก็ต้องลงเรียนไปด้วย ถ้าเราไม่อยากลำบากตลอดไป ตอนนี้เราก็ลงเรียน Handel Schule ไปด้วย ลงทุนกับการศึกษาไม่มีความว่าขาดทุนหรอก  
 
 ถ้าเป็นคนไม่มีลูกมีเต้า แนะนำให้ไปฝึกงานพวก Lerhstellen คือได้เงินเดือนนักศึกษา แต่พอฝึกเสร็จเราก็หางานทำได้ คือ บางอย่างพวกค้าปลีกอะไรนี้ก็สองปี ฝึกกับมิกโกร ก็ได้ คอปก็ได้ หรือฝึกทำอาหาร ฝึกอะไรที่เขามีให้ฝึก สองปีสามปี คือมันเป็นใบประกาศทางวิชาชีพให้เราได้เหมือนกัน เหมือนเราเรียน แต่คือทำงานได้เงินเดือนน้อย แต่พวก Lerhstellen นี่ก็แย่งกัน เหมือนสมัครงานนั่นแหละ เวลาส่งจดหมายไปก็ต้องส่งไปดีดี ก็ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับการสมัคร Lerhstellen มาอ่านอีก  
 ว่าเขียนจดหมายยังไง ทำLebenslauf ยังไง พวกที่สมัครLerhstellen นี้จะเป็นพวกนักเรียนจบใหม่ ไม่เรียนต่ออะไร ก็ ทำ Lerhstellen พ่อ แม่ ก็ไม่ต้องเสียเงินส่งเสีย พวกเราก็สมัครได้เหมือนกัน แต่ยังไงก็มันก็ต้องแข่งกันอยู่ดี  
 

เพ็ญ

ขอบคุณ คุณบัวขาวมากนะคะ  สนุกและมีสาระ อ่านจนเพลินเลยค่ะ ได้ประโยชน์มากเลย  ดีใจด้วยนะคะกับงานใหม่  ขอให้มีความสุขและประสพผลสำเร็จนะคะ  

ลูกบั๊นซ์ ณ. ลาเคิน


umm

อืม...เข้าใจแล้วล่ะ แล้วตำแหน่ง Hilfskochin มันเป็นตำแหน่งที่ต้องเีรียนรุ้ในโรงเรียนฝึกงานหรือเปล่า หรือต้องมีความรู้่มาก่อนถึงจะทำได้ ไม่ใช่แค่ช่วยหยิบจับอะไรต่าง ๆ ในคร้ัว   ได้ทำงานตำแหน่งนี้ แต่ไม่เค้ยผ่านงานด้านนี้เลย และก็เป็นงานแรกที่ได้ด้วย *จะหางานออฟฟิสเหมือนที่เราเคยทำ ก็ทำไม่ได้เพราะภาษายังไม่ถึงขั้น ช่วยให้คำจำกัดความกับคำนี้ด้วยเถอะค่ะ

เพ็ญ

นึกว่ากระทู้นี้จะตกไปซะแล้ว ขอบคุณมากนะคะ  ยังไงรบกวนท่านอื่นมาให้ความรู้ และประสพการณ์ด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

บัวขาว

สวัสดี คุณเพ็ญ คุณumm คุณ ลูกบั๊นซ์ ณ.ลาเคิน
 
 Hilfskochin แปลตามตัวผู้ช่วยกุ๊กค่ะ

tom

Hilfskoch this position if u never worked in kitchen before it will be very hard job for u nakub.
 u have to do everything in the kitchen,clean everythings but u have to listen carefully what the chef,the cooks want
 so u need also good Deutsch and many words in kitchen here in swizz they used also french words.
 u have to work fast or very fast (sometimes) when they are busy in the kitchen
 for the first month would be super hard for u but this is a real job here in thai we said u do..Sak ka bue yun rue rob..
 if u dont understand u have to ask chef or cooks also service (waiter,waitress)
 it is veryyyyyyyyy different from cook helper in thailand nakub..forget everything in thailand
 but if u get this job in thairestaurant would be ok.
 this is a good start how is the REAL job here in swizz its not easy but also not too difficult nakub..u can do it.
 i know bcoz i was a cook in hotel Meridien in bkk before i come here and now also working as a cook (before was hilfskoch) in swizz-german restaurant kub.(11 year)
 

umm

ขอบคุณมากค่ะ มันก็เป็นอย่างที่คุณต้อมว่านั่นล่ะ ถ้าจะฟังที่เชพสั่งยังคงยากอยู่ ไหนจะเสียงกะทะ เสียงล้างจาน มัลติซาวน์เชียวล่ะ งานนี้ยากพอดูสำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อน (อย่างเราเป็นต้น) อีกทั้งยังเป็นอาหารญี่ปุ่นและของหวาน (แบบฝรั่ง) กลับมาบ้านร้องไห้เลยอ่ะ (ดูแย่เนอะ) และนี่ก็เป็นงานแรกที่ได้ทำ ตั้งแต่ได้มาอยู่สวิตหนึ่งปีถ้วน ท่องไ้ว้คำเดียว อดทน ๆๆๆๆ

บัวขาว

สู้ สู้ นะคุณumm เราฝึกงานวันนี้วันสุดท้ายเสร็จแล้ว....เย้ เมื่อวานเราก็ถูกดุนะ หยิบขนมปังผิด เนื้อผิด ลูกค้ารอสิบเจ็ดนาที สำหรับที่นี่ไม่ได้เลยนะ แต่เราไม่เก็บมาคิดเลย หมดเวลางานก็จบไปแค่นั้น ฝรั่งเขาไม่แค้นฝังหุ่นนะเราว่า เราก็ว่าดีที่เขาดุ เขาเตือน ก่อนที่งานมันจะพัง  ดุแล้ว แล้วไปจริง จริง วันนี้เขาก็พูดดีกันทุกคน เราชอบทำงานแบบฝรั่งเนี่ยะ เขาใช้อะไรทำหมด พอลูกค้ามาก็ทำอาหาร พอลูกค้าไปเขาใช้ไปเก็บกวาดโต๊ะ เช็ดห้องน้ำ เช็ดครัว เราก็ทำ ก็ทำอะไรก็ได้เงินเท่ากันนั้นแหละ มีอะไรทำก็ทำ ทำ ไป ห้ามยืนเฉย เฉย ยืนเฉยไม่ได้ เขาจะมีกล้องวงจรปิดดูอยู่ด้วย ทำงานไป หมดเวลาปุ๊บออกทันทีไม่มีสิทธิใช้เราแล้วนะยะ ฮ่า ฮ่า ทุกอย่างเป็นระบบ :-) เราชอบมาเลยอ่ะสนุกดี  

ีumm

ทำงานจริง กับตอนฝึกงาน คงจะต่างกันมากนะคะ อย่างที่คุณบ้ัวขาวบอกเนี่ย ดูเหมือนจะง่ายแต่ทำยากนะคะ ให้ทิ้งไว้ที่ทำงาน  ตอนนี้ก็เลยต้องทำสมาธิก่อนนอนทุกครั้ง (ฮ่าๆๆ) ระบบงานก็คล้้าย ๆ กันแต่นี่เป็นครัวโรงแรมอาจจะมีอะไรยึดหยุ่นมากกว่า

เพ็ญ

ถึงคุณเทวี
 อ่านกระทู้ข้างบน ที่คุณเทวีเขียน น่าสนใจมากค่ะ  แต่ต้องขอบอกเลยว่า คุณเทวีคงเป็นคนเก่งน่าดูเลย  น่าอิจฉาจัง ยังไงเพ็ญขออวยพรให้ได้งานนี้นะคะ แล้วมาเขียนเล่า ส่งข่าวให้พวกเราอ่านกันอีกนะคะ โชคดีค่ะ

เก๋

อ่านของเพื่อนๆ หลายๆคนแล้ว ชื่นชมค่ะ
 อยากแชร์ประสบการณ์ การทำงานของตัวเองบ้างค่ะ
 
 อย่างที่เพื่อนข้างบนบอก ว่าก่อนหางานถามตัวเองว่าชอบและไม่ชอบอะไร
 เราเช่นกันไม่ชอยเลี้ยงเด็ก และไม่ชอบดูแลคนแก่ งานต่อมาที่จะหาได้คือทำความสะอาด
 
 งานทำความสะอาดหาไม่ยากค่ะ แต่อาจจะมีงานไม่เต็มร้อยเปอร์เซนต์
 บางทีให้ทำเช้าอย่างเดียวทุกวันๆละสองชั่วโมง ก็จะได้ประมาณเดือนละ 700-800 chf.
 คุณก็ควรหาบ่ายหรือเย็นอีก ผสมกันไปหลายๆที่ ได้เดือนละ 1500 สำหรับการเริ่มต้น ภาษายังไม่เก่งนี่ก็ถือว่าเก่งแล้วค่ะ
 
 ของเราทำเป็น housekeeping กับทางโรงแรมค่ะ ก็ไปสมัคร ภาษาที่ควรได้คือ ภาษาท้องถิ่น และ ภาษาอังกฤษ ค่ะ เพราะส่วนมากเวลารับงานช่วงเช้า ก็จะคุยกันเป็นภาษาท้องถิ่นเขา ส่วนแขกที่มาพักส่วนมากจะพูดภาษาอังกฤษกันได้ทั้งนั้นค่ะ (ภาษาพอใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องเก่งมากค่ะ) แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ
 
 งาน housekeeping บางคนบอกว่าเป็นงานหนัก เพราะต้องเก็บทำความสะอาดห้องพักที่ลูกค้าเช็คเอ๊าไปแล้ว และต้องจัดวางเตรียมห้องใหม่หมด "ให้สะอาด และสวยงาม" สำหรับเรา เราชอบงานนี้ค่ะ (ในระหว่างที่ไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้) เพราะรับรายการทำความสะอาดห้องตอนเช้า และก็จัดแจงทำงานจนเสร็จ ไม่มีใครมาชี้นิ้วว่ากล่าวติเตียนหรือควบคุมให้น่ารำคาญใจค่ะ...(จะมีก็แต่แรกๆ ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น ก็จะมีคนมาตรวจเช็คคุณภาพการทำงานของคุณ ว่ารู้งานดีหรือไม่ ถ้าทำงานนานแล้ว เขาก็จะไม่ค่อยมาตรวจ หรือมา แต่ก็ไม่มีอะไรจะว่ากล่าวกันแล้ว เพราะเราได้ทำดีตามข้อกำหนดทุกอย่างแล้ว เพราะรู้งาน)
 พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านค่ะ เจ้านายจ่ายตามชั่วโมงที่ทำงานค่ะ  
 
 ลักษณะงาน Housekeeping พนักงานทำความสะอาดห้องพักคือ ต้องทำงานไว(มาก) สะอาด(มาก)และสวยงาม(ตามที่โรงแรมแต่ละโรงแรมกำหนด จะไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ผ้าปูที่นอน กี่ชั้น ต้องคุมผ้าหรือไม่ ต้องเหน็บชายหรือไม่ ต้องกำหนดลายผ้าหรือไม่ ผ้าขนหนูกี่ผืน ลักษณะการไว้ในห้องน้ำควรไว้อย่างไร ทิชชู่สำรองในห้องกี่ม้วน )
 
 งานนี้หาไม่ยากค่ะ ลองไปที่เอเย่นต์ รับรองไม่ผิดหัวง..

pati

สวัสดีทุกคนค่ะ แอบอ่านมานาน แต่ไม่เคยเขียนอะไรเลย ตอนนี้ทำงานอยู่คาสิโน่ค่ะ อยู่มาห้าปีกว่าแล้วค่ะ ตอนที่แต่งงานเราก็เริ่มหางานเลยค่ะ ไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆ  ภาษาก็ยังไม่ได้มาก แต่คิดว่าถ้าอยู่บ้าน คงไม่ได้ฝึกภาษาแน่  
 
 พอดีมีเพื่อนฟิลิปปินส์ ทำงานอยู่ เค้าบอกให้ลองส่งใบสมัครไป  ส่งไปเค้าก็เรียกให้ทำแบบpart time เราก็ตกลง ดีกว่าอยู่บ้าน  
 
 ตอนที่เข้าทำงานครั้งแรก ภาษาเราน่ารำคาญมาก พูดอะไรกับใครไม่ได้ แต่ก้ต้องฝึก แล้วทำงานตามเค้าโทรเรียก คือถ้าวันไหนขาดคน เค้าก็จะโทรตามเรา  
 
 งานที่ทำหลักๆก็คือ ตรวจเอกสารคนที่จะเข้าบ่อน ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ทำถามได้นะคะ ตอนนี้ขอเล่าแค่ ทำไงให้ได้งาน  
 
 พอดีว่าทำได้ สองสามเดือน คนที่ทำงานประจำสองคน เค้าลาออก เพราะทำกะดึกไม่ไหว ที่ทำงานเค้าก็เลยให้เราทำประจำ เราอยากได้งานอยู่แล้วก็เลยตกลงค่ะ  
 
 ตอนนี้ทำมาได้สี่ปีกว่า และก็กำลังหางานใหม่อยู่ค่ะ เพราะทำกะดึกนี่ไม่ไหวจริง ตัวเองยังไม่มีลูก แต่ก็คิดไว้เหมือนกัน เพื่อนที่ทำงานบางคนเค้าก็มีความสุขที่ได้ทำงานตอนกลางคืนเพราะตอนกลางวันมีเวลาทำอย่างอื่น
 
 โดยรวมนะคะ คือถ้าอยากได้งาน อยากแรก คือ ความมั่นใจแล้วก็ภาษาสำคัญมากๆ ตอนที่เราไปสัมภาษณ์ภาษาที่เราพูดคืออิตาเลียนปนกะภาษาอังกฤษ พอดีคาสิโน่เราพิ่งเปิดใหม่ พวกที่ทำงานนี้ก็มาจากอังกฤษมั่ง เจ้านายบางคนมาจากฮอนแลนด์มั่ง คืนคนที่ทำงานเค้าก็สื่อภาษาอังกฤษกันส่วนมาก  
 
 นอกจากภาษาแล้ว เราว่าอุปนิสัยก็สำคัญด้วยนะคะ คือคนที่สัมภาษณ์งานตามธรรมชาติเค้าจะมีสัมผัสว่าคนนี้น่าจะเข้ากันคนได้ดี เข้าสังคมได้ หรือไม่ก็ทำงานมีประสิทธิภาพ อันนี้ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะคะ  
 
 งานเดิมที่ทำที่เมืองไทยคือพนักงานต้อนรับบนเครื่องค่ะ คิดว่าเค้าคงดูประสบการณ์จากตรงนี้ด้วย
 
 ตอนที่เค้าเรียกสัมภาษณ์ เราก็บอกไปตรงๆเลยว่าปัญหาของเราตอนนั้นคือภาษา แต่ก็คุยพอสื่อสารได้ แล้วเรายังบอกไปอีกว่า ถ้าพูดอิตาเลียนได้ ต่อไปจะเรียนเยอรมัน แล้วก็ถ้าเป็นไปได้อยากเรียนฝรั่งเศลด้วย แต่ตอนนี้คล่องแต่อิตาเลียนค่ะ ไม่มีเวลาเรียนอย่างอื่นเลย
 
 ตอนที่เริ่มทงานเราเองก็ทำทุกอย่างที่เค้าบอก ถึงเค้าไม่บอกให้ทำก็ทำค่ะ ตัวเองเป็นคนอยู่นิ่งๆได้ไม่นาน เวลาไม่มีงานทำ คือไม่มีแขกเข้าบ่อน เราก็ทำโน่นทำนี่ไป มีอะไรที่ช่วยคืนอื่นถึงไม่เกี่ยวกับงานเรา ก็ช่วยเค้าหมด จริงๆแล้วคนเราก็เหมือนกันหมด คือถ้าอยู่ที่ไหนไม่นิ่งดูดาย ทำอะไร หรือช่วยเหลืออะไรได้ ใครๆก็จะพูดถึงเราในทางที่ดี เราเองก็ช่วยแบบไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเพื่อนที่ทำงานบางคนก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกะพ่อกะแม่เรา ถ้าช่วยอะไรได้เราก็ทำไป อย่างเรื่องโปรแกรมคอม เราเองก้ไม่ได้เก่งมาก แต่ก็ช่วยๆเค้าเวลาเจ้านายให้ทำอะไร ตรงจุดนี้เอง เค้าถึงให้เราเป็นพนักงานประจำด้วยค่ะ
 
 คือถ้าอยากได้งาน ต้องขยันหาค่ะ งานที่เราทำตอนนี้  ค่อนข้างสบายและก็อยู่ตัวแล้ว แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ คงจะทำอยู่อีกไม่นาน  
 
 ใครมีอะไรอยากถาม ก็ถามมาได้นะคะ ยินดีตอบคำถามให้ค่ะ และก็
 ขออวยพรให้คนที่กำลังหางานทำ ได้งานเร็วๆนะ  
 
 

เก๋

เขามาต่ออีกนิดเดี๋ยวจะสับสนเรื่องเงินเดือนที่บอกข้างต้น
 
 เงินเดือนที่บอกข้างต้นนั้นเป็นเงินเดือนทำความสะอาดธรรมดาๆ 25% ประมาณ 800 chf.  
 50% ประมาณ 1500-1600 chf.
 ซึ่งขึ้นอยู่กับชั่วโมงที่ทำในแต่ละเดือนไม่เท่ากนทุกเดือน อาทิตย์ทำห้าวันจันทร์ถึงศุกร์
 
 ถ้าเป็น Housekeeping ชั่วโมงล่ะ 19.50+vacation 8.33% ทำงานแล้วแต่โรงแรมห้องทำเยอะหรือไม่ ส่วนมากก็ 5-8 ชั่วโมง หรือ บางทีอาจจะมีมากกว่านั้นด้วย
 ถ้าเป็นเงินเดือนประจำก็จะได้ประมาณเดือนละ 3400-3600 chf.(เงินเดือนก่อนหักๆๆๆภาษีค่ะ)
 รายได้พอยู่ได้ ไม่เครียด รอภาษาดี แล้วหางานใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ (แต่สำหรับเรา แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ)