เอกสารขอวีซ่าแต่งงานครับ

Previous topic - Next topic

Rattasart

    สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนอีกครั้งก่อนไปยื่นวันที่25นี้นะครับ คือว่า ผมเตรียมเอกสารครบเกือบทุกอย่างแล้วเหลือแต่ใบรับรองความประพฤติ(นัดรับ25นี้ครับ)ผมอ่านในลิ้งที่พี่ๆตอบกันแล้วงงนะครับไม่เหมือนกันเลยครับ อยากขอคสามแน่ใจนะครับจากพี่ๆที่เพิ่งไปทำมาครับคิดว่าสถาณทูตคงเปลี่ยนรูปแบบการยื่นนะครับ
  1.เอกสารที่ผมต้องไปแปลจริงๆมีอะไรบ้างครับผมมีแล้วคือ (ไม่อยากเสียค่าแปลไปฟรีๆนะครับแพงเกิน)
      -ใบรับรองโสด
      -ใบรับรองสำเนาทะเบียนราษฎ์ (ไปรับรองเอกสารจากกรมกงสุลแล้วครับ)
   -ใบเกิด (ไปรับรองเอกสารจากกรมกงสุลแล้วครับ)
   -ทำเบียนบ้าน
      -บัตรประจำตัวประชาชน
      -พาสปอร์ต
      -ใบเปลี่ยนชื่อ (ไปรับรองเอกสารจากกรมกงสุลแล้วครับ)
   -ใบรับรองความประพฤติ (นัดรับ25นี้ครับ)
2.ผมไม่มีงานประจำทำจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับแล้วถ้าเกิดเขาต้องการใบรับรองการทำงานเราต้องทำอย่างไรได้บ้างครับ

     รบกวนพี่ๆช่วยผมด้วยนะครับ ผมปรึกษาหลายคนนะครับแต่บอกไม่ค่อยเหมือนกันนะครับอยากได้คนที่เพิ่งไปมานะครับโทรไปถามที่สถานทูตแล้วเขาไม่ให้ข้อมูลอะไรเลยครับบอกให้โทรไปที่TLS อย่างเดียวเลยพอผมโทรไปที่TLS กลับบอกให้โทรถามสถานทูต ผมเลยมืดสิบด้าน
รบกวนพี่ๆด้วยนะครับ   ขอบคุณมากครับ

กิ๊ป

สวัสดีค่ะ
ขอตอบเป็นข้อๆนะค่ะ
1.เอกสารที่ต้องแปลก็มีเอกสารที่เป็นฉบับภาษาไทยทั้งหมดค่ะส่วนพาสปอร์ตไม่ต้องแปลนะค่ะ
1.1 ใบรับรองโสด
1.2 ใบเกิด
1.3 ทะเบียนบ้าน
1.4 ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล
1.5 ใบรับรองสำเนาทะเบียนราษฏ์ (เอกสารตัวนี้ใช้ในกรณีที่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและหย่าเรียบร้อยแล้วแต่ถ้ายังไม่เตยจดทะเบียนสมรสมาก่อนตัวนี้ไม่ต้องใช้ค่ะ)
1.6 บัตรประชาชน (ถ้ามีพาสปอร์ตอยู่แล้วตัวนี้ไม่ต้องแปลค่ะ)
1.7 ใบรับรองความประพฤตื สามารถขอเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะและไม่ต้องแปลค่ะ

2.วีซ่าแต่งงานเค้าไม่ขอดูใบรับรองการทำงานค่ะแต่จะดูของอีกฝ่ายแทนค่ะ (แต่งงานกับชาวสวิสไช่รึเปล่าค่ะโดยส่วยใหญ่จะดูเอกสารรับรองงานของฝ่ายที่เราแต่งงานด้วยค่ะ)

Rattasart

ขอบคุณ คุณกิ๊ปมากๆเลยครับ
  ใช่แล้วครับผมแต่งกับคนสวิตฯครับ อยู่ซูริค ครับ เดี๋ยวหลังจากไปยื่นแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ แฟนผมเขามาด้วยครับคิดว่าคงน่าจะไม่ยาก(แค่คิดครับครั้งก่อนสำภาษณ์คนละที่)

4854006204

สวัสดีค่ะ ชื่อแป้งนะคะ เพิ่งไปยื่นเรื่องแต่งงาน กับขอวีซ่าติดตามสามีมาเมื่อเร็วๆนี้ค่ะ ก่อนอื่น วีซ่าแต่งงานนี่คือคุณรัฐศาสตร์(คิดว่าอ่านจาก Rattasart ถูกนะคะ) บอกมานี่คือ จะขอไปจดทะเบียนที่สวิสเหรอคะ แต่ของแป้งนี่จดที่ไทยนะคะ เอาตามประสบการณ์ตรงเลยแล้วกัน

เอกสารสำหรับยื่นขอจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทย
1.เอกสารที่ต้องแปล และ ใช้ยื่นกับสถานฑูต ของแป้ง
1.1 ใบรับรองโสด
1.2 ใบเกิด
1.3 ทะเบียนบ้าน
1.4 ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้าหากเคยเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล แต่ถ้าไม่เคยก็ไม่ต้องค่ะ)
1.5 สำเนาพาสปอร์ต (**สำหรับพาสปอร์ต *ไม่ต้องแปล*นะคะ)
1.6 ใบรับรองสำเนาทะเบียนราษฏ์ (เอกสารตัวนี้ใช้ในกรณีที่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและหย่าเรียบร้อยแล้วแต่ถ้ายังไม่เตยจดทะเบียนสมรสมาก่อนตัวนี้ไม่ต้องใช้ค่ะ สำหรับตัวแป้งเองไม่มีค่ะเลยไม่ต้องแปล ประหยัดไปอีก 800บาท)
1.7 ใบเปลี่ยนชื่อของแม่ค่ะ (แม่แป้งเค้าเปลี่ยนชื่อ ก็เลยต้องแปลใบเปลี่ยนชื่อแม่ด้วยค่ะ เพราะมันไม่ตรงกับใบเกิด,แล้วแป้งก็เอาสำเนาบัตรประชาชนของแม่แล้วก็ทะเบียนบ้านที่มีชื่อแม่ติดไปด้วยค่ะ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะต้องขอดูประกอบค่ะ แล้วก็ขอดูจริงๆค่ะ แต่ไม่ต้องแปลนะคะบัตรประชาชนแม่กับทะเบียนบ้านแม่น่ะค่ะ)
  **เอกสารด้านบนทั้งหมดของแป้งนั้นเอาไปแปลที่ร้านที่สถานฑูตแนะนำเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เอาไปให้กงศุลรับรอง เพราะวันนั้นที่แป้งเอาเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่แผนกแต่งงานเช็คให้ก่อนจะยื่นเค้าบอกว่ายังไม่ต้องให้กงศุลรับรองค่ะ  ชื่อร้าน EXPRESS TRANSLATION SERVICE & TRAVEL เลขที่ 888 ตึกมหาทุนพลาซ่า ฝั่งตรงข้ามกับ โฮมโปรน่ะค่ะ เบอร์ 02-2520337 ค่ะ**

2.เอกสารของแฟน ไม่ต้องแปลนะคะ ได้แก่
   1.หนังสือรับรองสถานภาพการสมรส(อายุไม่เกิน 6 เดือน)= Den Personenstandsausweis ( nicht aelter als 6 Monaten).
   2.หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่ (อายุไม่เกืน 6 เดือน) = Eine Wohnsitzbescheinigung (nicht aelter als 6 Monaten).
   3.หนังสือรับรองรายได้  = Arbeit-und Lohnbestaetigung Ihres Arbeigeber. (แฟนขอมาจากธนาคารที่เงินเดือนเข้าน่ะค่ะ)
   4.ที่อยู่ของบุคคลในสวิสจำนวน 2 แห่ง = 2 Referenzadressen von in der Schweiz wohnhaften-Personen. (เอาแค่ชื่อ กับที่อยู่ เบอร์โทร แค่นั้นค่ะ เขียนใส่กระดาษแนบไปให้เจ้าหน้าที่)
   5.สำเนาหนังสือเดินทาง = Reissepass.
   6.หนังสือรับรองการทำงานจากที่ทำงานของแฟนค่ะ
  **แฟนแป้งใช้ทั้งหนังสือรับรองรายได้จากธนาคาร แล้วก็หนังสือรับรองจากที่ทำงานเค้าเลยค่ะ เค้าบอกว่า เอาให้หมดเลยจะได้ไม่ต้องถามเยอะ แล้วก็ได้ผลค่ะ เจ้าหน้าที่ไม่ขออะไรเยอะไม่ถามมากด้วย**

   จากนั้นก็จูงมือแฟนคุณไปยื่นเอกสารที่แผนกแต่งงานได้เลยค่ะ ไม่ต้องโทรนัดเวลานะคะ แต่ให้ไปเช้าๆหน่อยเผื่ออะไรขาดเหลือจะได้มีเวลาทันค่ะ เวลาทำการก็ 9.00-11.00 ค่ะ **แนะนำนะคะ จะให้ดี คุณเตรียมเอกสารของคุณที่คุณจะยื่นชุดที่เป็นภาษาไทยยังไม่ได้แปลก็ได้ค่ะ ไปให้เจ้าหน้าที่เค้าเช็คก่อนค่ะว่าใช้อะไรบ้าง แล้วเค้าก็จะจัดชุดให้คุณเลยค่ะว่ามันมีอะไร อะไรต้องแปลกี่ใบ ที่ไหน สำหรับใบที่คุณแปลแล้วก็ไม่ต้องเอาไปแปลค่ะ ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ที่เป็นคุณป้ามีอายุๆหน่อย อ้วนๆ ไม่สูงนัก ใส่แว่น รีบเลยนะคะ เพราะคุณป้าแกเช็คให้ละเอียดมากทั้งเอกสารเราและของแฟน แกเอาไปเช็คให้จนหมดค่ะว่าของแฟนนี่ใช้ได้หรือไม่ได้ยังไงค่ะ

   หลังจากนั้น เค้าก็จะให้ใบ marriage application มา 1 ใบค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ แล้วเราก็นำไปแปลเป็นภาษาไทยค่ะ แป้งแนะนำให้แปลทันทีเลยนะคะ รีบวิ่งไปร้านที่แป้งบอกแล้วบอกเค้าว่ารอรับเลยค่ะจะเอาไปยื่นที่กงศุลเลย เค้าจะรีบแปลให้เลยค่ะประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้ค่ะ และเสียอีก 400 หรือ 500 แหละค่ะจำไม่ได้ จากนั้นก็ให้ไวเลยค่ะ BTS ลงหมอชิต แล้วควบแทกซี่ หรือจะทางด่วนลงแจ้งวัฒนะก็ได้ค่ะ จากนั้นก็นำทั้งใบภาษาไทยและอังกฤษไปให้กงศุล ที่แจ้งวัฒนะรับรองค่ะ ถ้าเป็นช่องด่วนก็ 800 บาทค่ะ รอได้วันนั้นเลยแต่ต้องยื่นเรื่องก่อนเที่ยงวันนะคะ และขอบอกด่วนแต่ะรอหมดวันเลยค่ะ ส่วนถ้าเป็นธรรมดา ก็ 3 วันได้ค่ะ แต่เท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกัน นี่คือเหตุผลว่าให้ไปยื่นเรื่องที่สถานฑูตแต่เช้าค่ะ เพราะมันจะมาเร่งเอาตอนจะไปกงศุลนี่แหละค่ะ สุดๆ ที่จอดรถก็หายากมากกกกกกก สุดท้ายก็จะได้แค่ ตราประทับของกระทรวงต่างประเทศสีเขียวๆตรงหัวมุมเอกสาร แต่การรอคอยนานเหลือเกินค่ะเกิน 3 ชั่วโมงจริงๆ

  จากที่ได้รับตราประทับรับรองมาจากกงศุลแล้ว ก็เกี่ยวก้อยกันไปจดทะเบียนสมรสได้เลยค่ะ (แต่คงต้องเป็นวันรุ่งขึ้นแน่ๆค่ะ) ที่สถานฑูตเค้าบอกมานะคะ เค้าบอกว่า จดที่ไหนก็ได้ แต่อย่าเป็นบางรักเลย ก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่เหมือนว่ามันเป็นที่ที่ต่างชาติเค้านิยมจดกันเยอะ มันเลย....ไม่รู้เหมือนกัน แป้งฟังละก็งงๆ แต่ก็ตามนั้นค่ะ ไม่จดบางรัก Go to สำนักงานเขตพระโขนง ค่ะ อ่อ อย่าลืมถ่ายเอกสารใบขอทำการสมรสเอาไว้นะคะ สัก 2-3ชุดก็ดีค่ะ เพราะทางเขตที่เราไปจดทะเบียนเค้าจะเก็บตัวจริงไว้ค่ะ เตรียมถ่ายเอกสารพาสปอร์ตทั้งของเราของแฟนไปให้เรียบร้อยเลยนะคะ และที่สำคัญ อย่าลืมหาพยานไปด้วย 2 คน จะพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูง ได้หมดค่ะ เพราะถ้าไม่มีก็ไม่ได้จด (แป้งต้องไปเสียตังค์ 2500 บาท จ้างเอเจนข้างหน้าเขตมาเป็นพยานให้ค่ะ เค้ามีบริการด้านนี้เลยค่ะแถมกรอกเอกสารที่เขตให้มาให้เราด้วยค่ะ ก็สะดวกดีแต่เปลืองอะ) หลังจากจดเรียบร้อย ก็เปลี่ยนนามสกุล คำนำหน้า ใน บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทำพาสปอร์ตใหม่ ให้เรียบร้อยค่ะ อ่อ แต่คุณรัฐศาสตร์เป็นผู้ชายก็ดีหน่อย ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร แป้งนี่ต้องทำใหม่ยกชุดเลย ทั้งนามสกุลทั้งคำนำหน้าในทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน พาสปอร์ต เหนื่อยค่ะ
     อ่อ พอได้ใบทะเบียนสมรสมาแล้วนะคะ ทางเขตเค้าจะให้ใบ คร.2 มา 4 ใบ(จะมีหน้าหนังนะคะ เค้าจะมีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียน ชื่อของเรา แฟนเรา คือข้อมูลทุกอย่างค่ะ) แล้วก็ให้ใบ คร.3 นี่เป็นใบสวยงาม ลายดอกกุหลาบเอาไปใส่กรอบสวยๆได้เลยค่ะ  พอได้แล้วก็เอาใบ คร.2 กลับมายื่นให้เจ้าหน้าที่แผนกแต่งงานของสถานฑูต 2 ใบนะคะ จากนั้นก็ไปขอใบรับรองความประพฤติที่สำนักงานตำรวจรอได้เลยค่ะ ใช้เวลารอ 2 อาทิตย์ก็ได้แล้วค่ะ แต่ต้องขอเป็นภาษาอังกฤษนะคะ แป้งแนะนำให้ขอหลังจดทะเบียนแล้วค่ะ เพราะชื่อ-นามสกุล ในบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และพาสปอร์ตของเรา จะเป็นชื่อนามสกุลใหม่ของสามีค่ะ สำหรับผู้หญิงนะคะ เวลาเข้าสวิสจะได้ไม่มายุ่งยากทีหลังค่ะ (อันนี้เจ้าหน้าที่แนะนำมาค่ะ)
      จบกระบวนความจากเรื่องแต่งงาน ก็เป็นการขอวีซ่าติดตามคู่สมรสค่ะ
   เอกสารที่ใช้ยื่นแผนกวีซ่าก็มีตามนี้ค่ะ
  1.แบบฟอร์มวีซ่าระยะยาว (VISA D)  3 ชุดค่ะ
  2.สำเนาพาสปอร์ตแฟน 3 ใบ (แป้งให้เค้าเซ็นชื่อรับรองเอกสารด้วยแต่ไม่รู้พี่ๆคนอื่นเค้าให้แฟนเซ็นชื่อกันรึเปล่า)
  3.สำเนาพาสปอร์ตของเรา 3 ใบ (เซ็นชือรับรองสำเนาค่ะ) เอาตัวจริงไปด้วยนะคะ
  4.สำเนาทะเบียนสมรส 3 ใบ ( ใบ คร.2 นะค่ะ เซ็นชื่อรับรองสำเนาค่ะ)
  5.รูปถ่าย ขนาด 3.5 cm x 4 cm จำนวน 4 รูป (พื้นหลังขาว เห็นหน้าเต็มๆค่ะ)
  6.สำเนาใบรับรองประวัติอาชญากรรมภาษาอังกฤษ 3 ใบ (เซ็นชื่อรับรองสำเนาค่ะ)
       ***เมื่อคุณเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็เดินทางไปยื่นที่สถานฑูตได้เลยค่ะ โดยไม่ต้องโทรนัดใดๆค่ะ ไปถึงก็ไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่หน้าทางเข้าแผนกวีซ่าค่ะ แล้วก็นั่งรอเค้าเรียกชื่อ อ่อ ติดรูปที่แบบฟอร์มวีซ่าทั้ง 3ใบไปเลยก็ดีค่ะจะได้ไม่ต้องไปทำที่นั่น รูปอีกใบที่เหลือก็แนบๆไว้กับเอกสารแหละค่ะ พอยื่นเอกสารเสร็จแล้วเค้าก็จะเอาสติ๊กเกอร์สีเหลืองๆมาแปะไว้ที่เล่มพาสปอร์ตเรา แล้วก็คืนพาสปอร์ตให้ และสุดท้ายก็บอกว่าให้รอประมาณ 2 เดือนค่ะ

   หลังจากนี้ก็เป็นเวลาการรอคอยแล้วค่ะ ว่าเมื่อไหร่วีซ่าเราจะออก ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องไปติดตามความคืบหน้าจากสามี/ภรรยา ที่อยู่ที่สวิสค่ะ เพราะเค้าจะมีจดหมายเอกสารส่งไปให้ทางคุณแฟน ไปจ่ายตังหรืออะไรตามที่พี่ๆเค้าได้บอกๆเอาไว้ในกระทู้ต่างๆค่ะ เพราะตอนนี้แป้งก็อยู่ในช่วงรอคอยเหมือนกันค่ะ เพิ่งไปยื่นวีติดตามมาเมื่อวันที่ 10 เมษา นี้เองค่ะ

  สำหรับคำถามเรื่อง ใบรับรองการทำงานของตัวเรานั้น ไม่ต้องใช้ค่ะ เพระาแป้งก็ไม่มีใบรับรองการทำงานค่ะ ช่วยกิจการของแม่ไปตามเรื่อง แล้วก็เป็นแม่บ้านให้แฟนไป เลยไม่มีใบนี้เหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าเค้าจะใช้เฉพาะวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาตินะคะ เราแต่งงาน ข้ามขั้นมาแล้วค่ะ อิอิ

   ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่อ่านและคุณรัฐศาสตร์บ้างหรือเปล่านะคะ เพระาแป้งก็จดทะเบียนที่เมืองไทยไม่รู้ว่าเหมือนขอไปจดที่สวิสหรือเปล่า ก็หาความรู้จากพี่ๆในนี้เหมือนกันค่ะ ก็ได้พี่ๆแนะนำ โดยเฉพาะ คุณกิ๊ปและพี่กิ๊กนี่มาตอบปัญหาแป้งเสมอค่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบคำถามแป้งนะคะ แป้งเข้าใจเวลามันมืดแปดด้านค่ะไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง โทรไปสถานฑูตก็ไม่มีข้อมูล โทรไปTLS ก็ไม่ช่วยอะไรเลยโยนให้ไปถามสถานฑูตอีก ยังไงก็ขอให้คุณรัฐศาสตร์โชคดีในการยื่นวีซ่าแต่งงานนะคะ......^^





Rattasart

ขอบคุณคุณแป้งมากๆเลยครับ
   ผมยื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ก้อรออย่างเดียวครับ

4854006204

งั้นตอนนี้เราก็อยู่ในสถานะรอเหมือนกันแล้วสิคะ.....ช่วงความทรมานมาเยือนแล้วค่ะ...(สำหรับแป้งทรมานมากกกกค่ะ) ยังไงก็ยินดีที่ยื่นเรื่องได้เรียบร้อยนะคะ ขอให้ได้ข่าวดีไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ