น้องเกี๊ยวจ๋าเชิญข้างในหน่อยค๊า...มีข่าวดีมาบอก

Previous topic - Next topic

เกี๊ยว

หนูโทรคุยกับแม่แล้วค่ะ ถ้าแม่ไปถามเกไมเดอร์แล้วได้เรื่องยังไงจะมาบอกนะคะ ^^
 
 ตอนนี้ไม่มีเวลาง่ะค่ะ แว๊บมา  
 
 ถึงจะไม่ได้ไปก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจของทุกคนที่คอยช่วย และให้กำลังใจหนู
 
 ขอบคุณมากค่ะ

เกี๊ยว

ตอนนี้มีข่าวมาบอกนิดหน่อยอะค่ะ
 คือแม่โทรไปถามเกไมเดอร์กะสมาคมหญิงไทยแล้ว ก็ได้เรื่องว่าในกฎหมายคือให้โอนสัญชาติได้ในกรณี 18 ปีบริบูรณ์เท่านั้น ในกรณีที่อายุไม่เกิน 21 ปีนี่คือลองไปเสี่ยงดู ซึ่งคนที่สามารถยื่นเรื่องผ่านได้มีน้อยมาก
 แล้วตอนนี้ที่บ้านคือมีห้องแค่ 3 ห้อง ถ้าจะทำเรื่องก็ต้องหาบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่านี้ (กฎหมายสวิสเค้าควบคุมในเรื่องนี้ด้วยใช่ปะคะ)
 หาบ้านก็ยากอีกเหมือนกัน แม่บอกว่าที่สวิสการหาบ้านอยู่ไม่ใช่ง่าย ๆ อีกอย่างพ่อเลี้ยงหนูเคยติดแบลคมาก่อน ก็ทำเรื่องบ้านยากหน่อย
 
 ปัญหาอีกอย่างคือ เรื่องน้องของหนูอีกคนยังทำเรื่องไปที่นู่นไม่เสร็จเลยค่ะ แล้วถ้าเคลียร์ของน้องคนนี้ไม่เสร็จในปีนี้ กลัวว่าน้องเค้าจะหลุดไม่ได้ไปอีกคน
 
 แต่ยังไงแม่หนูก็จะพยายามหาทางทำเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ  พอเมษาหนูไปซัมเมอร์ที่นู่นก็จะพยายามเดินเรื่องให้เร็วเผื่อได้อยู่ต่อเลย  
 หนูก็ไม่รู้ว่ายากจริงรึปล่าว เอาใจช่วยแม่น่าดู  
 
 ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ
 
 

แม่น้องติ๊ดตี่

ก็เป็นอันว่าตอนนี้ก็ทำเรื่องมาก่อนนะเกี๊ยว  เรื่องสัญชาตินะมันที่หลัง  กรณีขอสัญชาติของเกี๊ยวนะมีโอกาสได้อยู่แล้ว(ยืนยัยว่ามีโอกาสได้จริง ๆ ถึงจะเกิน 18 ปี ซึ่งอันนี้พี่ยังไม่เคยได้ยินว่าถ้าเกิน 18 ไม่มีสิทธิ์โอน พี่(หรือป้าดิง่ะ)เองได้ตอน 37 เกิน 18 มาตั้งเกือบ 20 ปีแนะ แถมเอามานอนกอดนอนไว้ตั้ง 5 ปี แก่แย๊ว   ....555)  แต่กรณีของเกี๊ยวอาจจะต้องอยู่นานกว่าคนอื่น หรือเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเท่านั้นละ  ที่สำคัญก็คือขอให้ได้มาในวิธีนี้ก่อนนะ
 
 เรื่องบ้านที่ต้องย้ายนี่  ข้อสำคัญตรงแค่ถ้าบุตรเพศไม่ตรงกันนะ  แล้วเราโต ๆ แล้ว  เค้าก็ไม่ต้องการให้เราอยู่ห้องเดียวกัน  แต่ถ้าเพศเดียวกันนี่อยู่ห้องเดียวกันได้นะ......ทำไมคุณแม่ไม่ทำเรื่องน้องกับเกี๊ยวมาพร้อมกันเลยล่ะจะได้ไม่ไปวิ่งเปรี๊ยวสองเที่ยว  แล้วทำเรื่องน้องนานแล้วยัง แล้วตอนนี้น้องอยู่กับใครนะ  ทำไมเกี๊ยวบอกตอนแรกอยู่คนเดียวล่ะ เออถามยังงั๊นเองละไม่ต้องตอบก็ได้เรื่องส่วนตัว....แฮ่ ๆ
 
 ปกติที่รู้จักคนเค้าทำกันนะ และก็เคยช่วยเค้าเตรียมเอกสารให้นะ ไม่เกินหนึ่งเดือนเรียบร้อยทุกอย่างละ  และหลังจากเสร็จนี่ต้องเดินทางภายในสามเดือนละ  ถ้าเกินก็ต้องเดินเรื่องใหม่ ซึ่งอาจจะยุ่งยากกว่าเดิมนะ  เพราะคงต้องบอกเหตุผลว่าทำไม่ตอนแรกไม่มา  เท่าที่ทราบ  ถ้าเอกสารมีครบ  และเอกสารก็ไม่ได้ยุ่งยากเท่าไรนะเท่าที่ทราบ  ส่วนมากก็พวกใบเกิด พาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้าน ยิ่งคุณพ่อเสียแล้วก็ใช้ใบมรณะบัตร  และก็สำเนาเงินได้รายเดือนของคุณพ่อเลี้ยง เพื่อรับรองว่าเรามาอยู่นี่เค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายประจำวันที่จะเกิดขึ้นกับเราภายหลังนะ และก็มีกำลังที่สามารถจ่ายได้นะ (เห็นบอกว่ามีแบล็กลิส ไม่ทราบเรื่องอะไรถ้าเกี่ยวกับการเงินเรื่องอาจจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ถ้าเหตุผลพอเพียงนะก็ไม่น่าจะมีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องป่วยของเกี๊ยวนี่  คิดว่าเป็นเหตุผลที่ดีมาก ๆ ที่น่าจะเป็นโอกาสให้เกี๊ยวได้มา)
 
 เรื่องเอกสารนะเกี๊ยวบอกแม่เลย  ต้องไปคุยกับเกไมเดอร์  เค้าจะให้ลิสรายการเอกสารมาเลยว่ากรณีของเกี๊ยวต้องการเอกสารอะไร  เป็นข้อ ๆ เลยนะ  เพราะแต่ละที่เอกสารไม่เหมือนกัน  เค้าต้องการอะไรเค้าเขียนให้เราหมดเลย  จริง ๆ แล้วถึงจะเป็นช่วงเวลาไหน เจ้าหน้าที่เค้าก็ต้องทำงานกันละนะ  เค้าไม่ใช่พวกเช้าชามเย็นชาม  ใครอู้นะที่สวิสโอกาสเด้งนะมีสิทธิ์มาก ๆ  
 
 เรื่องเรียนนะเกี๊ยว  เด่วพี่จะลองติดต่อที่โรงเรียนสอนภาษาในเขตเบิร์นดูให้  แบบมันคา ๆ ใจพี่ยังไงไม่ทราบ  คนถามเรื่องเรียนเรื่องค่าใช้จ่ายเยอะนะ  หลังปีใหม่ว่าง ๆ จะไปศึกษาเรื่องนี่มาให้ละเอียดที่โรรงเรียนสอนภาษา  เพราะตอนแรกมาสวิสคงมาเรียนปริญญาตรงๆ เลยไม่ได้หรอกเพราะเค้าไม่ได้สอนภาษาไทย  ปีถึงสองปีต้องเรียนภาษาอยู่แล้ว  ล้านบาทคิดว่ามันเยอะเกินด้วยซ้ำไป  (ในกรณีของเกี๊ยวนะเพราะที่พักที่กินอยู่กับแม่เงินล้านบาทวน่าจะเรียนได้ตั้งสามปี) สัญญาว่าดูให้เรื่องนี้ขอหลังปีใหม่เคลียร์งานก่อน  จะไปขุดถามมาให้หมดเลย
 
 ช่วยลุ๊นแบบสุด ๆ เลยให้ได้มาอยู่แบบมีเกียรติของหญิงไทย
 
 
 

เกี๊ยว

จริง ๆ เหรอคะ (หนูขออนุญาติเรียกว่าน้าดีกว่าค่ะ เพราะแม่หนู เกิน 40 แล้ว) คุณน้าโอนเองได้ตอน 37 เหรอคะ โอนยังไงง่ะ ทำวิธีเดียวกันกะที่แนะนำหนูมาเหรอคะ รึแต่งงาน  
 
 น้องอีกคนไม่ได้อยู่ที่เดียวกะหนูค่ะ คือเรื่องครอบครัวหนูค่อนข้างจะซับซ้อนซักหน่อย คล้ายกะในละครไทยบางเรื่อง T-T หุหุ แต่ก็ไม่มีปัญหาอารายเหมือนในหนังหรอกง่ะ  
 
 เหรอคะ เรื่องบ้านอยู่ห้องเดียวกันได้เหรอคะ แม่หนูบอกว่าที่นู่นบังคับให้มีห้องส่วนตัวคนละห้องเลยในเด็กที่โตแล้ว ดีจังที่ได้มาเจอเวบบอร์ดนี้ อยากให้แม่เข้ามาถามเองจัง ^^" แต่แม่หนูม่ายว่างเล่นเนทอ่าจิ
 
 ปัญหาแบลคลิสต์ของพ่อเลี้ยงก็เรื่องเงินอะค่ะ ติดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อะ ไปขอลดจ่ายอารายก็ม่ายรุ เลยติด  
 
 เรื่องเรียนที่คุยกะแม่ไว้ก็คือเรียนภาษาก่อนอยู่แล้วชัวร์ ๆ อะค่ะ เรียนต่ออะไรไว้คิดอีกที แต่หนูมีความหวังว่าจะได้เรียนปริญญา
 หนูก็รู้ตัวว่าไม่สามารถไปเรียนร่วมชั้นกะคนเยอรมันได้ในทันทีที่ไปแน่ ๆ ได้ข่าวว่าภาษาเยอรมันยากมาก หนูเองยังไม่รู้เลยว่า a b c อ่านในภาษาเยอรมันว่ายังไง แฮ่
 
 เรื่องเรียนแม่บอกค่าใช้จ่ายเย๊อะเยอะ ( จริง ๆ แล้วเท่าที่ฟังมามันก็แพงทุกอย่างเลยง่ะ) หนูก็ไม่ทราบว่ามันเป็นไงง่ะค่ะ
 
 เรื่องน้องกะหนูทำไมไม่ทำทีเดียว เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าสามารถทำเรื่องได้หลังจากอายุเกิน 18 อ่าค่ะ  แล้วเรื่องน้องอีกคนเค้าเดินเรื่องได้มาเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จซะที แล้วยังไงอีกหว่าที่แม่บอก .... หนูลืมไปแล้วง่ะค่ะ ถ้านึกออกจะบอกอีกที -_-"
 
 ขอบคุณในความกรุณาของคุณน้ามาก ๆ เลยค่ะ ถ้าคุณน้าไม่บอก หนูคงมืดแปดด้านแน่ ๆ เลย  
 
 ลุ้นตัวโก่งละค่ะงานนี้ แต่ .. คงอีกพักใหญ่ ๆๆๆๆ เลยถึงจะรู้ว่าผลออกมายังไง  
 
 

แม่น้องติ๊ดตี่


นิด( แม่ลูกหมูสามตัว)

ข้อมูลนี้ได้จาก การดำรงชีวิตในสวิต โครงการเผยแพร่ ความรู้และกฏหมายเพื่อการดำรงชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์  
 จัดทำโดย สถานทูตไทย ณ. เบร์น ร่วมกับ  กลุ่มหญิงไทยเพื่อหญิงไทยในสวิตเซอร์แลนด์
   
    ##  หน้าที่12   อยู่ใน  หัวข้อ ผู้ที่สมรสกับชาวสวิต  ##
  สิทธิอื่นๆที่ได้รับ หลังจากจดทะเบียนสรมกับชาวสวิตแล้ว หากมีความประสงค์จะนำบุตรของตนที่อายุไม่เกิน 18 ปี มาอยู่ด้วยสามารถยื่นคำร้องได้ บางรัฐยินยอมอนุมัติเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน16 ปีเท่านั้น
     นี่คือ เรื่องการนำบุตรติดตามมาอยู่ ของผู้ที่สมรสกับชาวสวิส
   
               

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

ชาวไทยที่จดทะเบียนสมรส กับชาวสวิตมีสิ?ยื่นคำร้องขอสัญชาติสวิตตามกฎหมายสิทธิพลเมือง ( BUEG ) มาตราที่ 27
 
   
 ผู้มีสิทธิขอสัญชาติสวิต จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
   
  1. พำนักอยู่ในประเทศสวิตเป็นเวลา ติอต่อกันตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
  2. ในกรณีที่อยู่ในประเทศสวิตเป็นเวลาติดต่อกันมาแล้ว 5 ปี แยงมิได้สัญชาติสวิต เมื่อออกไปอยู่นอกประเทศและกลับเข้ามาอยู่ในประเทศสวิตต้องพำนักอยู่ในประเทศสวิต อีก 1 ปีขึ้นไป
  3. จดทะเบียนสมรสกับชาวสวิตและอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาเป็นเวลาตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป กับคู่สมรสเดิม แต่ทั้งนี้อาจมีข้อยกเว้น
  4. ยอมรับและเข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณี และความเป็นอยู่ของชาวสวิต เข้าใจสิทธิหน้าที่พลเมือง และระเบียบปฏิบัติทั่วไปของประเทศสวิต
          ข้อมูล Zivilstand und Bürgerechtdienst
      เอกสารของ หญิงไทยเพื่อหญิงไทย

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

น้องเกี้ยว พี่เข้าใจถูกไหมค่ะว่า  
 1. คุณแม่ของน้องเปิดร้านอาหารในสวิต ตามข้อมูลที่น้องเขียนที่หน้า 6 ในกระทู้ที่ 0920
     ** ตรงนี้ คุณแม่น้องมีหลักทรัพย์ขนาด เปิดร้านอาหาร ก็น่าจะทำการรับรองบุตรติดตามมาได้ ไม่น่าจ้างแต่ง
 
 2.คุณแม่ยังถือใบอนุญาตพำนักอาศัย B ตามที่น้องบอกไว้ในความคิดเห็นที่10 ของกระทู้นี้
    **  ถ้าสมมุติ น้องสามารถทำเรื่อง บุตรติดตามมารดามาอยู่ได้ น้องก็ยังถือได้เพียงใบอนุญาตพำนักอาศัย ไม่ใช่พาสสวิต ต่อเมื่อน้องมาอยู่แล้วครบตามกำหนดระยะเวลาและมีคุณสมบัติ ตรงตามที่พี่เขียนไว้ข้างบน น้องถึงจะยื่นคำร้องขอโอนสัญชาติสวิตได้ และมีสิทธิ์ทำพาสสวิตได้ตามมา
 
 3.คุณพ่อเลี้ยงยังติดแบลคลิสต์เรื่องเงิน
   **  ตรงนี้ยากเลยสำหรับการจะค้ำประกันใคร
 
 4.ปัญหาอีกอย่างคือ เรื่องน้องของหนูอีกคนยังทำเรื่องไปที่นู่นไม่เสร็จเลยค่ะ แล้วถ้าเคลียร์ของน้องคนนี้ไม่เสร็จในปีนี้ กลัวว่าน้องเค้าจะหลุดไม่ได้ไปอีกคน  
   ** พี่งง งะน้อง ตรงลง คือ แม่ของหนูกำลังทำเรื่องจะเอาลูกสองคนจากเมืองไทยมาอยู่ที่สวิต คือ น้องของหนู ตรงนี้อยากทราบว่าแม่ทำเรื่องแบบไหน  
 
 

เกี๊ยว

1 ตอนแรกไม่ทราบว่าเอาหนูเข้าไปได้เพราะอายุเกิน 18 เลยต้องเลือกวิธีที่เหลืออยู่วิธีเดียวที่คิดว่ามีในตอนนั้น
 
 2. รับทราบค่ะ
 
 3. ค่ะ
 
 4. น้องอีก 2 คนแม่กำลังทำเรื่องโอนสัญชาติไปอยู่กับแม่ เพราะอายุยังไม่ถึง 18 ปี รึอาจจะขอใบ b ก่อน อันนี้หนูไม่แน่ใจค่ะ ตรงนี้ถามแม่แล้ว คืออธิบายให้หนูเข้าใจง่าย ๆ โดยเรียกว่าโอนสัญชาติ จริง ๆ ก็เคยอธิบายเรื่องใบ b  นี่อะค่ะ แต่เป็นการคุยทางโทรศัพท์ แล้วหนูจำได้ไม่ทุกคำอะ  
 
 อ่านดู ตอบคุณน้าแม่น้องติ๊ดตี้ผิดประเด็น คือตอนนี้ทั้งสองคนก็ไปอยู่กับแม่แล้ว แต่อีกคนนึงเรื่องยังไม่เสร็จค่ะ แต่ก็ไปก่อน คาดว่าน่าจะเสร็จทัน 3 เดือน ก็เหลือหนูคนเดียวค่ะ
 
 * แม่หนูอายุเท่าคุณน้านะคะ ^^

เกี๊ยว

อ่า .. ฐานะของแม่ก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย  
 ที่เปิดร้านได้นี่จริง ๆ แล้วแทบจะไม่มีทุนก็ว่าได้  
 เริ่มจากติดลบ คือ ไป*้มา ร้านโตเร็วมาก จนวันนี้หนี้หมดแล้ว แต่ก็มีแค่เงินที่ต้องเอามาหมุน ยังไม่มีเงินเก็บมากนักอะค่ะ

แม่น้องติ๊ดตี่

เอางี๊เกี๊ยว  "เรื่องโอนสัญชาติ"  นะน้าไม่ได้โอนนะจ๊ะ  แต่ว่าน้าถือสองสัญชาติ คือสัญชาติไทย กับสัญชาติสวิสอยู่  ต้องเรียกให้ถูกก่อน  ซึ่งหลักการดำเนินการขอสัญชาตินะยังมีหลายวิธี  ซึ่งไม่ใช่ขอได้เฉพาะแต่งงานกับชาวสวิสเท่านั้นนะ  เรื่องนี้ถ้าเกี๊ยวได้มาจริง ๆ มาอยู่ที่สวิสแล้วค่อยศึกษาเพิ่มอีกทีละกัน  เพราะมีวิธีขออยู่อีกหลายวิธี
 
 หมายความว่าตอนนี้เกี๊ยวมีพี่น้องกันสามคนใช่ป่ะ  แต่ว่าคนแรกแม่ทำไปก่อนเรียบร้อยแล้ว  คนที่สองมาอยู่สวิสแล้วตอนนี้และก็กำลังทำเรื่องอยู่ที่นี่  และตอนนี้แม่กำลังดำเนินการขอสัญชาติสวิสอยู่ และถ้าแม่ได้นะลูก ๆ ที่ติดตามก็จะได้ตามไปด้วยล่ะ(เท่าที่ทราบนะ ) และน้องที่มาอยู่ก่อนคงได้ตามแม่ไปด้วยล่ะ .............เข้าใจละ  
 
 ถ้าคุณแม่ถึงกับเปิดร้านอาหารไทยได้  ก็คิดว่าคงจะมีตังค์มั้งล่ะ  ยิ่งเห็นบอกว่าร้านกำลังโตเร็วด้วย จนใช้หนี้หมดนี่น่าจะเป็นข่าวดีนะ  ก็แสดงรายได้ตรงนี้ให้เค้าเห็นนะ  เพราะถ้ากำลังขอสัญชาติอยู่คงมาอยู่ประมาณห้าปีละ  ถ้าใครอยู่ห้าปีที่นี่ตั้งตัวได้ละก็ไม่ธรรมดาเลยนะ  จัดอยู่ในขั้นดีมาก ๆ เลย  
 
 นิดจ๊ะ  จริง ๆ เมื่อก่อนก็เคยได้ยินเหมือนกันว่า ชาวต่างชาติที่แต่งงานกับชาวสวิส  สามารถเอาลูกติดจากสามีเก่ามาอยู่ด้วย แต่ว่าต้องอายุไม่เกิน 18  ปีเหมือนกัน  แต่ไม่ได้อ่านเจอนะฟัง ๆ ต่อมา จนมีการมาพูดถึงกันเรื่องกระทู้ของเกี๊ยวเรื่องอายุเกิน 18 ปีแล้วไม่มีสิทธิ์มา......แต่ว่าคราวนี้พี่ดันมาอ่านเจอจากจดหมายข่าวของสมาคมหญิงไทยเพื่อหญิงไทย ซึ่งก็มีการอ้างถึงหน่วยงานตามความเห็นที่พี่เขียนไว้ที่ ความเห็น 4 นะ  ข้อมูลที่บอกว่าสามารถมานำบุตรที่เกิดจากสามีเก่ามาอยู่ได้ถ้าไม่เกิน 21  ปี  อันนี้ก็คัดลอกมาจากจดหมายข่าวของสมาคมหญิงไทยเพื่อหญิงไทยเช่นกันกับที่นิดได้มาเหมือนกัน  ไม่ทราบของนิดนี่ตั้งแต่พ.ศ.ไหน  ลองบอกเกี๊ยวหน่อยนะ  เพราะเห็นว่าแม่ของเกี๊ยวก็โทรถามสมาคมหญิงไทยเพื่อหญิงไทยแล้ว  เค้าก็บอกว่าลองเสี่ยงดู  เป็นอันว่าตอนนี้เกี๊ยวก็ลองเสี่ยงทำดูก่อน เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์  เนื่องจากเกี๊ยวอยู่คนเดียวที่เมืองไทยไม่มีคนดูแล และยังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพด้วย  
 
 

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

จัดทำโดย สถานทูตไทย ณ. เบริ์น ร่วมกับ กลุ่มหญิงไทยเพื่อหญิงไทยในสวิตเซอร์แลนด์ 5/2004
 

เกี๊ยว

มีข่าวความคืบหน้าเล็ก ๆ มาบอกค่ะ
 คือว่าจากที่แม่ไปคุยกับทางเกไมเดอร์อะนะคะ
 ตอนหลัง ๆ นี่เค้าจะเข้มงวดขึ้นมากกับการขอติดตามแม่มาอะค่ะ  
 พออายุเกิน 15 เค้ากันไว้ ไม่อยากให้เข้าประเทศเค้าแล้ว เรื่องของน้องคนกลางเลยยังไม่เสร็จซะที บางทีอาจต้องขึ้นศาล ซึ่งค่าใช้จ่ายนี่คงอ่วมเลย
 
 ส่วนที่แม่มีร้านอาหาร ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ในเรื่องของความมั่นคงทางการเงิน  
 แต่ในเรื่องของความอบอุ่นของครอบครัว ในเรื่องของตัวเด็กเอง ถ้าอายุมาก ๆ แล้วก็จะมีปัญหามากขึ้นตามมา  
 
 ปัญหาที่เกิดก็อย่างเข้าไปแล้วท้อง ไม่ทำงาน หลายครอบครัวต้องให้รัฐช่วยเลี้ยงดูทั้งแม่และลูก
 
 เมื่อก่อนเค้าปล่อยให้เข้ามามาก แต่โดยมากเข้ามาแล้วมีแต่ปัญหา โดยเฉพาะคนไทยจะมีชื่อเสียงในด้านลบแบบนี้อยู่มาก ๆ ทำให้คนไทยที่จะขอเข้าไปรุ่นหลัง ๆ ยิ่งเข้าไปยากขึ้น
 
 ฉะนั้น เรื่องของหนูนี่มีโอกาสน้อยมาก เพราะขนาดน้องของหนูอายุ 17 ยังทำท่าจะไม่ผ่านเลยตอนนี้
 
 หนูสงสัยว่า คนที่ผ่านเข้าไปตอนหลัง 18 ที่เคยบอกมานี่เรื่องนี้มีมานานรึยังคะ แล้วเค้ามีเหตุผลอะไรถึงได้เข้าไปได้อะคะ