บทสรุปขอการขอ Visitor Visa ครั้งที่ 3

Previous topic - Next topic

kurumi

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ ในบอร์ดนี้ ขอย้อนไปครั้งแรก ปี 2008 ผมขอไปหา แม่ของผมเอง ได้คิวสอบสวนกับทางเจ้ช่อง 3 ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ^^' ครั้งนั้นผลออกมา ไม่ผ่าน -*- เซงเป็ด ... แต่ก็ยังไม่ท้อแท้ ต้นปี 2009 เลยทำเรื่องยื่นอุธร
รอผล 2 เดือนผลออกมาก้ไม่ผ่านอยู่ดี งง รอบ 2 .. เลยตัดสินใจไปขอที่เยอรมัน โดยให้ลุงเป็นคนเชิญแทน ผลออกมาก็ไม่ผ่านอยู่ ดี งง รอบ 3 เลยคิดในใจว่า ชีวิตนี้ คงไม่ได้ไปเยียบแผ่นดินยุโรบแล้วมั้ง เล่าให้เพื่อนที่อังกฤษ ฟัง เพื่อนก็ปรอบใจ งั้นลองขอไปอังกฤษ มั้ยล่ะเดียวจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ ผมก็คิดแล้วว่า ในรอบ 4 เดือน ที่ผ่านมา ขอวีซ่า 3 ครั้งก็ไม่ผ่านสักครั้ง
ครั้งนี้ อย่างไงก็ไม่ผ่านอยุ่ดี แต่ด้วยความเพื่อนบอกว่าจะออกให้หมดทุกอย่างตั้งแต่ค่ารถไปสถาณทูต ด้วยความอยากเจอผมไม่เจอกันมา 5 ปี เลยตัดสินใจขอวีซ่าอังกฤษ ช่วงเดือน มีนา 2009
ผมก็ชิน กับการขอวีซ่า แล้วไม่ผ่านก็เลยไม่ได้คิดมากอะไรเพระไง มันก็ไม่ผ่านอยุ่แล้ว แต่ก็แอบเสียดายเงินค่าวีซ่า ค่ารถ ค่าเตรียมเอกสารต่างๆ แต่ผลที่ออกมา จากสถานทูต อังกฤษ ผ่านครับ
ทำให้ งงกัน ไปอีก รอบ 4  555+ ปี 2009 เลยได้ไปเที่ยวอังกฤษ แต่ก็ยังคาใจ กับสถาณทูต สวิส อยู่ไม่น้อยขอไปหาแม่ผม ที่เป็นเจ้าของบริษัท อยู่ที่สวิส มีบ้านเป็นของตัวเองไม่ผ่าน แต่ขอไปอังกฤษ ที่เพื่อนผมเป็นคนเชิญ เป็นพนักงานอยุ่ร้านอาหารไทยเสียค่าเช่าห้อง ทุกเดือนรายได้ไม่เยอะมากแต่ด้วยความอยากเจอเพื่อนเลยลองชวนดู แต่ผมก็ไม่เลิกความพยายามปี 2010 เลยตัดสินใจว่าจะขอวีซ่า สวิสอีกครั้งเพราะความคาใจ ทำไมถึงไม่ยอมให้ผมผ่าน ช่วงซัมเมอ แต่ช่วงนั้น ดันมีปัญหา ยุโรบ งดบินเพราะภูเขาไฟระเบิด  เลยไม่ได้ขอเพราะเวลามีน้อย พอมาปีนี้ เลยตัดสินใจขออีกครั้ง เพราะยังคาใจอยู่ ขอไปเมื่อวันที่ 10 มีนา
เอกสารที่เตรียมไป  ของตัวผม
1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.หนังสือเชิญ
4.สำเนาหน้าพาสปอต + กับ พาสสปอต ตัวจริง
5.สำเนาบัตรนักศึกษา 2 สถาบัน (ปกติผมเรียนอยู่ 2ที่)
6.ใบประกัน ทำมาจากที่สวิส เพราะ คิดว่าน่าจะเพิ่มความน่าเชื่อถือ
7.ใบจองตั๋วเครื่องบิน

ของทางสวิส
1.สำเนาพาสปอตสวิส ของแม่และแฟนของแม่
2.สำเนาบัตรประชาชนของแม่ ทั้ง ไทย และสวิส
3.สำเนาทะเบียนบ้านที่แฟนแม่เป็นเจ้าบ้าน เอง
4.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ ของแม่ผม




ก็ไปเจอเจ้ ช่อง 3 คนเดิม คนที่ผมขอวีซ่าไม่ผ่านนั้นล่ะคับ คำถามทุกอย่างเหมือนเดิมเมื่อตอนปี 2008 ที่ขอแล้วไม่ผ่านเป๊ะทุกอย่าง ผมก็ตอบเหมือนเดิม เพราะเราตอบความจริง

คำถาม
1.แม่ชื่ออะไร
2.แฟนแม่ชื่ออะไร
3.น้องสาว ของผมที่อยุ่สวิสชื่ออะไร
4.แม่กับแฟนแม่ ทำงานอะไร
5.ตอนนี้เรียนอะไรอยู่
6.เรียนเกี่ยวกับอะไร
7.แล้วจะจบเมื่อไร
8.เคยไปประเทศอะไรมาบ้าง
9.ตอนไปอังกฤษไปกี่วัน
10.หลังจากเมื่อ 9 ปีที่แล้วเคยขอวีซ่าไปสวิสอีกครั้งรึมั้ย << ตอบว่าเคยครับ แถมไม่ผ่านอุธรก็ไม่ผ่าน ผมตอบความจริงไปเลยทั้งๆ ที่เจ้แกไม่ได้ถามเรื่อง อุธรด้วยซ่ำ 555+
11.แล้วทำไม ถึงไม่ไปอยู่กับแม่ <<< ข้อนี้ผมตอบว่า ชอบเมืองไทย มากกว่า
12.ไปกี่วัน
13.พูดภาษาอะไรได้มั้ง


ไม่ว่าจะถามกี่ครั้ง เราก็ตอบเหมือนเดิม อยุ่แล้ว แต่มีคำถามที่เพิ่มมาว่าเคยขอวีซ่า สวิสอีกครั้ง หลังจากเมื่อตอน ไป 10 ปีที่แล้วผมก็ตอบว่าเคยคับเมื่อปี 2008 ผลออกว่าไม่ผ่าน อุธรก็ไม่ผ่าน ก็ตอบไปตามความจริงทุกอย่าง ในเมื่อเราบริสุทธิ์ใจ ช่ายม่ะ หลังจากโดนสอบสวนเสร็จ เจ้แก ยื่นใบสีขาวแล้วบอกว่ามีรับผลและคำตัดสิน วีซ่า วันที่ 17 ตรงหน้าป้อมยาม
พอถึงเช้าวันที่ 17 ผมตื่นแต่เช้า แต่วันนั้นเป้นวันที่ กทม. หนาวมาก 17 องศา แถมฝนยังตกลงมาอีก ก่อนขึ้น BTS ตัวผมก็เปียกไปทั้งตัว หนาวมาก ยื่นสั่นอยู่ในรถไฟฟ้า คิดในใจ เห้ออเรามาทำอารายที่นี้ เนี่ย วีซ่า อย่างไงก็ไม่ผ่าน เสียทั้งตัง เหนื่อยก็เหนื่อย เปียกฝน หนาวสุดอีก เห้อออ..
  พอไปถึงเพลินจิต ก็ ต้อง รีบวิ่งเพราะ ฝนตกลงมาอีก วันนั้นผมใส่ชุดนักศึกษา ตัวเองเปียกไปทั้งตัว พอไปถึงหน้าป้อม ก็มีผู้หญิงคนนึงกำลังคุยโทรศัพท์ ร้องให้ เพราะเนื่องจากวีซ่า ไม่ผ่าน ผมก้ทำใจแล้ว เพราะชินกับการขอวีซ่าไม่ผ่าน 5555+ ยืนใบสีขาว ให้พี่ยาม พี่ยามแกก็ไปหาเอกสาร พี่แกบอกว่า เอกสารไม่มี อยุ่ที่นี้น่ะคับน้อง แลกบัตรแล้ว เข้าไปถามด้านใน ผมก้ งงเป้นไก่ตาแตก ทำไมถึงไม่มีล่ะ คนอื่นเค้าก็มีกันหมดทุกคน แถม ยังจะให้เรา แลกบัตรเข้าไปข้างในอีก ทั้งๆที่สภาพเราตอนนี้ม่อมแม่ม มากๆ ตัวเปยีกทั้งตัว เห้อออ แต่ก็แลกบัตรเข้าไป ถามพี่สุดหล่อ
ที่คอยแนะนำเรื่องเอกสาร เค้าก้บอกว่าให้เข้าไปได้เลย ยืนเอกสาร ที่ช่อง 3 คิดในใจอีกแล้วเหรอ
เจอเจ้ แก อีกแล้วววว ใจผมตกไปอยุ่ที่ตาตุม แต่ว่ารีบๆรับ พาสสปอตแล้สรีบกลับดีกว่าเดียวฝน จะตกลงมาอีก พอเข้าไปข้างใน เปิดแอร์เย็นมาก  + กับตัวผม เปียกทั้งตัว ยืนหนาวสั่น รอคิวอยุ่ข้างใน พอเห็นแกแก ว่างแหละ ผมก็ ไปยืนใบสีขาว แต่เจ้แก มอง ตั้งแต่หัวจนเท้าผมเจ้แก คงคิดในใจว่าไอ้นี้มัน ไปเดินตกท่อที่ใหนมา ทั้งเปียก ทั้งม่อมแม่ม แกเจ้แกก็หันไป ค้นเอกสารแล้วก็หยิบซอง ขึ้นมา แล้วบอกกับผมว่า  อ่านข้อความหน้าซอง  ผมก็บอกว่า ขอบคุณครับ แบบเสียงสั่นๆเพราะความหนาว ผมมองหน้าซอง 'ให้ส่งเอกสารในซอง นี้ไปให้เจ้าบ้านทางสวิตเซอร์แลนด์ '
พอผมเห็นแค่ข้อความนี้เท่านั้นแหละ แทบอยากจะกระโดด ตรงนั้นเลย จากความเหนื่อย ความหนาว ความม่อมแม่ม หายไปอย่าง ปริบทิ้ง หลังจากนั้นก็รีบ ขับรถกลับบ้าน เลยตรงไปที่ สุวรรณถูมิ เพื่อส่งจกหมาย พอดีบ้านผมอยู่ใกล้สนามบิน ส่งของไปรษณีไทย เนี่ยแหละครับ 800 บาท 2 วันถึงเหมือนกัน เพราะส่งที่ สนามบินเลย ถูกว่าส่ง DHL 300 - 400 บาท ตอนนี้ก็รอเรื่องจากทางสวิสอยู่อ่ะครับ ล่าสุด วันนี้ ทางอำเภอ ให้รอ 2-3 วันแล้วให้ผมเอาพาสสปอต ไปที่สถาณทูตเพื่อรับวีซ่า

เท่ากับ การขอ Visitor Visa ขอผมเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ถ้า ขอทางสวิส ถือว่าเป็นครั้งที่ 3
ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆๆคน ที่กำลังขอวีซ่า น่ะครับ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ อย่าเพิ่งยอมแพ้
น่ะครับ ตัวผมเองพยายามมาตลอด เกือบ 3 ปี เพื่อจะมีวันวันนี้ ถึง ผลวีซ่า ครั้งนี้ยังออกมาว่าไม่ผ่าน ผมก็ จะพยายามต่อไป ไปเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าต้องมีสักวันนึงที่เป็นวันของเรา  ในเมื่อเราบริสุทธิ์ใจเราก็สู้ สู้จนถึงที่สุดของที่สุดเพื่อจะได้พิสูดตัวเอง

ขอขอบคุณทุกๆคนสำหรับกำลังใจในบอร์ดนี้ น่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะไป ซูริค
วันที่ 9 เมษายน นี้ แล้วเจอกันน่ะครับ

kurumi

ขอโทษน่ะครับ ถ้าพิมภาษาผิดไปบ้าง ^^'

Wandee

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหญิงค่ะ
กำลังจะไปขอวีีซ่าไปสวิสครั้งแรก แฟนต้องการไปพบพ่อแม่ และไปดูการเป็นอยู่ของเขา  วีซ่าที่ขอคือแฟนเป็นคนเชิญค่ะ เตียมกันทุกอย่างค่ะ แฟนให้กำลังใจสุดสุด  ตัวหญิงเองไม่เคยไปต่างๆประเทศเลย จึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี เห็นทุกๆๆคน ในนี้ แล้วน่ารักมากค่ะ ทำให้ตัวเองมีกำลังใจที่จะทำวีซ่าค่ะ  (หวังนะค่ะ ว่าจะได้ไป)  แต่คิดว่าคงยากน่าดู ถ้ามีใครที่เคยไปของแบบหญิง ขอคำแน่นำบ้างนะค่ะ ยินดีทีีได้รู้จักทุกคนนะค่ะ  ขอให้ทุกคนที่ได้ไปและไม่ได้ไปสวิส มีแต่ความสุขและโชคดี นะค่ะ   หญิงจะไปยืนเอกสารวันที่ 12/ เมษา/54 กะไปเล่นสงการ์ที่กทมด้วยเลย 555+

kurumi

สวัสดีคร้าบ คุณหญิง  แนะนำต้องลองไปหาดูกระทู้เก่าๆ เพราะส่วนใหญ่คนในบอร์ดนี้จะไปหาแฟนกัน เรื่องเอกสารก็เตรียมไปตามที่สถานทูตบอกแหละครับ แต่ควรจะเพิ่ม พวกรูปถ่าย เรากับแฟนเรา ตอนที่อยู่ไทย หน้าพาสสปอตของแฟนเรา หน้าที่เข้าประเทศไทย แล้วก็ เอกสารอื่นๆ ที่จะแสดงให้สถานทูต เห็นว่าเรากับแฟน เป็นแฟนกันจิงๆ อาทิเช่น จดหมายที่เค้าเขียนมาหาเรา
e-mail ค่าโทรสัพที่เค้าโทรมาหาเรา หรือไม่งั้น อาจจะเงินที่เค้าส่งมาให้เราทุกๆเดือนมันต้องโชว์ในบุคแบงค์อยู่แล้วครับ  เอาไปให้หมด ทำทุกๆอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรา เป็นแฟนกันจิงๆ
ก็เตรียมตัวตอบคำถาม จำชื่อแฟนให้แม่น ครอบแฟน หน้าที่การทำงาน อะไรจำพวกนี้ ถึงจะมีแต่คนบอกว่าขอครั้งแรกมันยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ช่ายม่ะ ขอแค่เพียงเราทำให้ดีที่สุด

เป็นกำลังใจช่วยให้น่ะครับ

Wandee

ขอบคุณมากนะค่ะ ขอให้โชคดีนะค่ะ ในการไปสวิส  ขอมูลเป็นประโยชน์มากค่ะ ขอบจริงๆค่ะ