มาแบ่งปันประสบการณ์การมีลูกครึ่งกันเถอะ

Previous topic - Next topic

kornnika

 :)สวัสดีคะทุกคน เทวีกลับมาอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานมากๆ เพราะมัวแต่ยุ่งกะเจ้าตัวเล็กที่กำลังโตวันโตคืน นี่ก็จะได้7เดือนแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เข้ามาอ่านเวปบอร์ดอีกครั้งก็พบว่าคุณโจ้ท้อง7เดือนแล้ว ดีใจด้วยนะคะคุณโจ้(เทวีรู้ว่าคุณโจ้ต้องเข้ามาอ่านแน่) อีกอย่างเทวีเล่นแต่เฟจบุ๊คเลยไม่ได้เข้ามาหาเวปป้าพอลเลย ขอโทษนะคะ
ตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมาอยากจะรับรู้และแบ่งปันเรื่องราวของเด็กๆลูกครึ่งทั้งหลายว่าเป็นยังไงกันบ้าง ยังไงทั้งคุณแม่คุณลูกช่วย(รบกวน)เข้ามาแนะนำตัวหน่อยนะคะ ชื่ออะไรกันบ้างมีชื่อฝรั่งชื่อไทยยังไง กี่ขวบแล้ว แล้วพูดกันคนละกี่ภาษา (ขอมากไปปะเนี้ย) แบบว่าจะได้เอามาเป็นตัวอย่างให้ลูกชายของเทวีบ้างนะคะ
เทวีขอแนะนำตัวเองก่อนเลยนะ(สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกัน ...หรืออาจจะลืมกันไปแล้ว)
อยู่ซังค์กาแลนด์นะคะ งานไม่ทำแล้วเลี้ยงลูกอย่างเดียวค่ะ อ้อไม่ซิ ตั้งแต่ลูกได้6เดือน ก็ไปทำงานที่เดียวกะสามีอาทิตย์ละวัน ปล่อยให้ลูกชายวัย6เดือนครึ่งอยู่กะคุณญาย่าเพื่อฝึกภาษาสเปนค่ะ
น้องชื่ออรกร(อ่านว่า อะระกร)Aragorn Manuel คนไทยฟังเป็นชื่อไทย คนฝรั่งฟังเป็นชื่อฝรั่งดังนั้นอรกรมีชื่อเดียวคือชื่อไทยและชื่อฝรั่ง ยกเว้นชื่อรองคือ มานูแอล
น้องเป็นลูกครึ่ง ไทย-สเปน-อิตาลี ที่ได้พาสสวิสเป็นพาสแรกและตามด้วยพาสไทยครับป๋ม
ตอนนี้อรกรเริ่มนั่งได้แล้ว นั่งได้2วันแล้วค่ะ กินเก่งมากๆ เห็นใครกินอะไรอยากกินบ้าง กินทีละกาละมัง นน.8กก.สูง67ซม. โตขึ้นแม่ฝันอยากให้เป็นนายแบบหรือไม่ก็เจ้าของธนาคาร555

นันทนา

Hi Khun Tewee,

I have read yout forum for many time but never wrote to you ,sorry that I can't write in Thai because my computer notebook is broken .I'm Thai ,I married a Swiss man ,now we have a lovely daughter .we live in  Bellinzona ,Ticino ,south of switzerland.I also want my daughter become MissSwitzerland.55555555555
It 's true that time goes by very quick when we are always busy taking care of kids. Tkae care of your son and your family.

kornnika

สวัสดีค่ะคุณนันทนา
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาร่วมแบ่งปันความสุขตามประสาคนมีลูกกัน แล้วก็รู้สึกยินดีมากๆค่ะที่(แอบติดตามผลงานเทวีฮิฮิ)แม้ว่าช่วงนี้ผลงานที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวคือเลี้ยงลูกค่ะ คุณนันทนายังไม่ได้เล่าให้ฟังเลย ว่าน้องสาวว่าที่มิสสวิสเนี้ย อายุเท่าไรแล้วชื่ออะไรเอ่ย เลี้ยงง่ายไหมคะ มีแววเป็นนางงามหรือยังคะ สอนให้รักเด็กนะ จะได้เป็นางงมเร็วๆ อย่างนี้เทวีต้องขอหมั้นกะ อรกรไว้แล้วละ คุณนันทนาอยู่สวิสนานหรือยังคะ แล้วภาษาอิตาเลี่ยนเป็นยังไงบ้าง ถึงไหนแล้ว ใกล้ถึงกรุงโรมหรือยังคะ เทวีว่าภาษาอิตาลีเพราะดีค่ะ เพราะกว่าภาษาเยอรมันมากๆเลย อรกรไม่ค่อยได้เรียนภาษาเยอรมันหรอกค่ะ ยกเว้นว่าเราไปหาเพื่อนๆ หรือไม่ก็ฟังจากโทรทัศน์เอา เพราะว่าที่บ้านเทวีหลายภาษามากๆ และกลัวลูกเสียโอกาศเรียนหลายภาษา เพราะไหนๆเราก็มีโอกาศให้เขาเรียนหลายๆภาษาแล้ว ดังนั้น อัดเข้าไปอย่างเดียวค่ะ แม่ภาษาไทยกะอังกฤษ พ่อกะย่าภาษาสเปน ส่วนเพื่อนๆก็เยอรมัน ตอนนี้อรกรพูดได้แล้วค่ะ แต่ยังแยกไม่ได้ว่าภาษาอะไร เพราะอรกรพูดว่า มา มา ม่า ปา ปา ป่า ญา ญา ญ่า เลยไม่รู้ว่าภาษาอะไรกันแน่555 มีประสบการณ์ยังไง มาเล่ากันฟังบ้างนะคะ โชคดีในการเลี้ยงลูกเช่นกันค่ะ

spa

สวัสดีค่ะทุกท่านคุณเทวีเจ้าของทู้
ถ้าลูกโตแล้วคุยด้วยได้หรือเปล่าจ้ะ
สปาร์

kornnika

สวัสดีค่ะคุณspa
ยินดีค่ะ ลูกโตแล้วนี่กี่ขวบ กี่ปีค่ะ อย่างนี้คุณสปาต้องประสบการณ์เยอะแน่ๆ ยังคงจำตอนลูกเล็กได้ไหมคะ เอามาแบ่งปันกันบ้างนะคะ รอฟังค่ะ ก่อนอื่นต้องรายงานตัวก่อนนะคะ ทั้งลูกทั้งแม่เลย เอ้า เอาเลยค่ะ รออ่าน

นันทนา

Hi Khun Tewee,

I am glad to talk with you too.I live in Switzerland since February 2009.My Italian is not good still in switzerland or maybe arrive the border of Italy  55555.I din't have much time to study as you know to raise a child you have to spend all your time with him or her , You are good that you can do both as mother and working woman.Actually I would like to work too. My first problem is that I can't speak italian well.Second I don't know what kind of job I can do here.I have so many things that I would like to do but I still do nothing.Right now only tkae care of my daughter .I think we are lucky that we can take care of our kids.

anyway,my daughter is 13 months old,We named her Giada .It's Italian name,it means jade in English.I also speak English and Thai with my daughter and sometimes I speak Italian too.It's a good anvantages if we can speak many languages with kids because they can learn languages without any problem but they might speak later than the other kids whose parents speak only one language.Right now she can understand some Thai words and can follow what I say for example when I would like to undress her and I told her to put her hand up and she always does it right.

Seem like your son is very healthy too.My daughter never get sick over her first year.this is great .
Anyway, take care
hope to hear from you .

kornnika

สวัสดค่ะคุณนันทนา
นั่งอ่านภาษาอังกฤษของคุณแล้วในหัวก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษตามเลยอะ ภาษาอังกฤษคุณดีมากๆเลยนะคะ ที่อีกอย่างชื่อลูกสาวเพราะมากๆค่ะ ไม่ทราบว่าน้องมีชื่อไทยไหมคะ อายุ13เดือนแล้ว เดินหรือยังเอ่ย คุณพ่อคงพูดอิตาเลี่ยนด้วยแน่ๆเลยใช่ไหมเนี้ย แล้วไม่ทราบคุณแม่พูดอังกฤษด้วยตอนไหนละคะ เพร่าะเทวีก็พูดกับลูกเหมือนกัน เวลาร้องเพลงเด็ก หรือเล่านิทานอะไรประมาณเนี้ย แล้วก็เวลาสื่อสารกับคุณพ่อเขาก็พยายามคุยภาษาอังกฤษค่ะ มีแต่คุณพ่อนี่ละดื้อ บางทีก็ติดภาษาเยอรมันกะเทวี แต่กับลูกนี่เค้าคุยแต่สเปนอย่างเดียว คุณพ่อบอกว่าเวลาเรียนสเปนก่อนแล้วอิตาเลี่ยนจะตามมาทีหลัง เพราะความใกล้เคียงของภาษา ข้อได้เปรียบคือ คนสเปนฟังคนอิตาลีพูดรู้เรื่องแต่คนอิตาลีฟังคนสเปนไม่ค่อยรู้เรื่องดังนั้นจึงเลือกเรียนสเปนก่อน อีกอย่างเลือดสเปนของพ่อน้องอรกรแรงกว่าเลือดอิตาลีค่ะ (ยิ่งบอลโลกชนะเนี้ย ไม่ต้องพูดถึงเลย55) แฟนเทวีเกิดที่สวิส พ่อเป็นอิตาลีแม่เป็นสเปน ที่บ้านไม่มีใครพูดเยอรมันเลย สามีเทวีพูดเยอรมันไม่ได้จนเข้าสถานรับเลี้ยงเด็ก แม่ยายเล่าให้ฟังว่า3เดือน พูดเหมือนเด็กสวิสไม่มีผิด และภาษาสเปนของเขาก็เป็นสเปนที่เป็นภาษาแม่จริงๆ คือสำเนียงก็เหมือนถิ่นที่มาของแม่ นี่คือข้อได้เปรียบของการเรียนตั้งแต่เด็ก เพราะเด็กจะไม่ลืมเลยค่ะ ไม่เหมือนเทวีอะ เทวีเป็นคนชอบเรียนมากๆ ตอนเรียนมหาลัยที่เมืองไทย ได้เรียนภาษาญี่ปุ่น4ปี ตอนนั้นพูดปร่อเลย มาถามตอนนี้ซิ จำไม่ได้เลย และจำไม่ได้เลยจริงๆนะคะ ข้อเสียของผู้ใหญ่ถ้าไม่ได้ใช้ก็ลืม ส่วนเรื่องงานเทวีเข้าใจคุณนันมากๆว่า โครงการพันแปดร้อยล้านเต็มหัว แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็เริ่มกับลูกไปก่อนละคะดีแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าชีวิตและความสามารถของลูกที่เราจะร่วมกันสนับสนุนในขวบปีแรกและปีที่2ได้เลย

kornnika

มาต่อค่ะ
เพราะเห็นว่าชีวิตและความสามารถของลูกที่เราจะร่วมกันสร้างกับเขาไม่มีเงินมากมายมาซื้อได้ สามีเห็นดีเห็นงามเพราะให้มาอยู่สวิสในฐานะภรรยามิใช่ มาหางานทำ จริงๆที่บ้านเทวีก็ไม่ได้มั่งมีมากมายอะไร แค่พอประมาณอยากได้อะไรก็ได้(หลังจากพิจารณาอยู่นาน55) เรียกว่าปานกลางแล้วกัน แต่เราก็มีความสุขกันดีเพราะไม่ได้เห็นเงินเป็นเรื่องใหญ่ เงินทองของนอกกาย แต่ถ้ามีใครให้ก็เอา (เฮ้ย ตัวตนที่แท้จริงออกมานะเนี้ย) แค่ได้มีความสุขกับลูกและสามี ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เท่านั้นก็โอเคค่ะ นี่เทวียังมีโครงการอยากเรียนต่อโทที่สวิสด้วยนะเนี้ย มันยังอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหนสักที แบบว่าเทวีเป็นคนขี้อิจฉาอะ เห็นเพื่อนที่เมืองไทยใครๆก็จบโทกันทั้งนั้น เราตอนนี้จะจบเอกกับอรกรอยู่แล้ว เลยฝันไว้ว่าอยากได้ปริญญาเมืองนอกไปแปะฝาบ้านให้แม่ที่บ้านเอาไว้โม้เวลาใครมาหาแกไง แม่บอกว่าหากเทวีได้ป.โทสวิส แม่จะจัดโต๊ะจีนเลี้ยง55(เพราะเทวีไม่ได้แต่งงานที่เมืองไทยด้วยละ แกเลยไม่ได้จัดงานอะไรให้เทวีเลย)..แบบว่าหาเรื่องจัดงานไง
โม้เรื่องตัวเองเยอะอีกแล้ว แทนที่จะโม้เรื่องลูก

นันทนา

 ;D Hi Khun Tewee,

It's nice to know more about you and your family.My daughter still can't walk but she can go 4 parts like a cat ,she goes around everywhere and whereever she goes she always make a mess.she likes to empty the drawers or trash if she can reach them.I think it 's normal for kids at this age.They enjoy playing around and  they are interested in things around themselves more than toys.Her Thai name is " Baimon" .

My husband always speaks Italian with her.I speak Thai but when I speak with my husband I speak Italian and english together because my Italian is not good when I dont know how to say or explain in Italian I always speak English with him.Well, I would like her to be able to understand Thai first because when we go to Thailand I would like her to be able to understand grandparents and other relatives and also to feel close to them if she can understand them. I'm not worry about the languages for her.She can learn Italian from school.Education system here, kids learn in Italian,but they also learn French and English now.so right now I focus on Thai first when she goes to school I will teach her English.WE realize that languages are important here if you want to get good job. My husband he can speak Italian ,French, German,Egnlish and now he can understand some Thai words or sentences when I speak to our daughter.So we would like our daughter to speak many languages too.

I also would like to study master degree here too ,When I was in collage.I took two courses of Japanese ,I was able to communicate a bit but now I can rememebr only one or two sentences.My hunsband has the same idea with your hunsband that have wife here to raise kids and have family not to get job and get money to send to Thailand.55555 Well, I understood that is the good reason for it but I still want to work because I love working a lot.Although to be housewife is hard work and have to work 24 hours but if I can get a job it would be more challenge.

I have 2 sisters ,the oldest sister married ,she has 2 kids.My other sister still single . They are goverment officers.I was goverment officer when I was in Thailand but that not important anymore.now everythings new for me have to begin life here.

Ok, I have to go I have do laundry and go for a walk to make my daugther fall asleep.Anyway ,it's nice to talk with you and hope that we can get to know each toher more and share our experience together.
bye bye ,have a good day and take care

kornnika

Dear K. Nantana,
It is also great to know you more!
We may know each other more as you would like. When it is ok for you we can talk or chat by Facebook. just add me as a friend. My name is Kornnika Matteagi. See you there.

spa

สวัสดีค่ะคุณเทวีและทุกท่าน
ขออนุญาตบอกเฉพาะเรื่องเด็กๆนะเจ้าคะมีลูกสองคนค่ะ ลูกสาวอายุ 14 ปี และลูกชายอายุ 12 ปี กำลังปวดหมองเลยหล่ะ
ชีวิตตอนที่เลี้ยงลูกตอนเล็กๆถ้าย้อนกลับไปได้อีกมันเป็นความสุขอีกแบบเพราะว่าได้เห็นการพัฒนาการทางร่างกายและทางสมองไปพร้อมๆกับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการใช้ชีวตในต่างแดน (เรียกว่าไงดีจะว่าใช้ชีวิตที่เป็นครอบครัวก็ไม่เชิงเรียกง่ายๆแล้วกันว่าปรับตัว) เพราะว่าพอมาอยู่ปีแรกต้องเรียนภาษาเพื่อที่จะสื่อสารกับชาวบ้านชาวช่องได้

พออยู่ไปอยู่มามันเหมือนขาดอะไรก็เลยตกลงมีลูกซะเลยพอเปิดปุบติดปับเลยเหมือนกดปุ่มและต้องเลี้ยงลูกคนเดียวเรียกว่าเลี้ยงคนเดียวจริงๆไม่มีเอาไปให้ใครเลยส่วนคุณสามีก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานจะไปพื่งพาในยามคำ่คืนเหมือนในหนังมันยากมากก็เลยต้องเลี้ยงเองขอบอกว่ามันสุดยอดแทบอยากจะลาออกจากการมีครอบครัวเลยหล่ะ

เรื่องการเลี้ยเด็กเล็กตัวคุณแม่จะมีความรู้สืกชื่นชมวาดฝันว่าอยากจะให้เป็นต่างๆนาๆพอพวกเค้าโตไอ้ความฝันที่เราวาดทำไมมันชักจะไม่ใช่เลยถือคติทำวันนี้และขณะนี้ให้ดีที่สุดที่เหลือเราไม่มีความสามารถจับลูกๆให้มานั่งนอนกินเหมือนเค้าเป็นเด็กเลักๆช่วงระหว่างหนื่งขวบปีแรกได้

แม่ๆยังต้องพบและเจออะไรอีกมากมายมีคติที่ต้องเตือนตัวเองประจำว่าลูกเล็กปัญหาเล็กลูกโตปัญหามันก็โตตามตัวแล้วแต่ว่ามันจะออกมารูปไหนเวลาไหนมันจะโผ่มาให้เราแก้เรื่อยๆในขณะเดียวกันถ้าลูกเราเชื่อฟังยังไม่แตกแถวและนำชื่อเสียงมาให้คนเป็นพ่อแม่ก็เกิดความภาคภูมิใจ

ดังนั้นยินดีกับทุกๆท่านที่มีน้องๆเล็กๆมันเป็นความสุขที่ยากจะอธิบายเก็บเกี่ยวความน่ารักและประสบการณ์ที่เราเลี้ยงพวกเค้ามาให้มากๆขอยำ้เผื่อเอาไว้ตอนมันทำให้เราเสียใจจะได้เตือนให้เราย้อนคิดกลับไปในวันวานยังง่ายอยู่555555555555

เรื่องทำงานนอกบ้านมันขื้นอยู่กับการจัดการของแต่ละบ้านความจริงส่วนตัวอยากออกไปทำงานมากกกกกกกกกก ถามว่าเคยทำงานที่นี่ไหม๋ก็เคยมันเป็นความสุขส่วนตัวและความภาคภูมิใจอย่างหนื่งเพราะไม่ได้ขื้นชื่อว่าเกาะสามีกินอย่างเดียวมันก็จะมีแต่อีกว่ามันคุ้มค่าหรือเปล่าที่เราออกไปทำงานและมีคำถามมากมายให้กับตัวเองสรุปก็ต้องเกาะสามีกินไปเรื่อยๆจนกว่าลูกๆจะออกจากอกแล้วค่อยว่ากันใหม่

ถ้ามีคำถามเรื่องเด็กๆถามได้นะคะเพราะลูกกำลังเข้าวัยรุ่นจะมีบทสนทนาที่มันสุดยอดแล้วแต่ประสบการณ์ของใครของมันเมื่อตัวเราเองเป็นวัยรุ่นเพื่อนๆเคยบอกว่าถ้าลูกเข้าวัยรุ่นให้คิดถืงตอนที่ตัวเราเองเป็นวัยรุ่นเออมันจริงของเค้าเว้ย

วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะยังคงต้องทำหน้าที่แจ๋วแหวอยู่เหมือนเดิมแต่ขอยืนยันว่ามีความสุขตามอัตภาพแล้วแต่อากาศและคนรอบข้างว่าจะมาไม้ไหน55555555555

สปาร์

Jojo

สวัสดีค่ะทุก ๆ คน

พอเปิดมาเจอหัวข้อนี้ปุ๊บต้องรีบเข้ามาแจมสักหน่อย  ;D
ถ้าจะให้แชร์ประสบการณ์ลูกครึ่งก็คงต้องเป็นครึ่งแรกก่อน เพราะครึ่งหลังยังอยู่ในท้อง อีกสองเดือนถึงจะเข้ามารายตัวได้..555
ลูกสาวคนแรก ชื่อธัญวัน ชื่อเล่นธัญญ่า น้ำหนักแรกคลอด 3.5 กก. มีปัญหาเรื่องการคลอดเลยต้องผ่าคลอดฉุกเฉินแบบซีซ่า ลูกมีอาการขาดอ๊อกซิเจนตั้งแต่ในท้อง แต่หลังคลอดทุกอย่างปกติดี ตอนนี้อายุ 8 ขวบค่ะ คลอดที่กรุงเทพฯ แต่ไปโตที่เกาะสมุย  ;D

ธัญญ่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากๆๆๆๆ กินง่าย อยู่ง่าย ร้องไห้เฉพาะเวลาหิว ง่วง และไม่สบายเท่านั้น โจ้ออกจากงานตั้งแต่ท้องได้ 2 เดือน เพราะแพ้ท้องอย่างแรง พอลูกคลอดก็เลี้ยงลูกเองตลอด เพราะอยู่ไกลพ่อไกลแม่ จะบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่สนุกและมีความสุขมากค่ะ ได้เห็นพัฒนาการของเค้าแต่ละเดือน มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ชีวิตนี้ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน น้องตัวเองก็ไม่เคยเลี้ยง เพราะพื้นฐานเป็นคนที่เกลียดการเลี้ยงเด็กมาก แต่ชอบแกล้งเด็กอ่ะ...อิอิ แต่พอมามีลูกเอง มันเหมือนสัญชาตญาณความเป็นแม่มันออกมาเองนะคะ ศึกษาจากหนังสือดวงใจพ่อแม่ และรักลูก ผสมผสานกับการเลี้ยงแบบโบราณ ตามคนเก่าคนแก่เค้าว่ากันมา ช่วง 0-3 เดือนก็ไม่มีอะไรมากเพราะเค้ากินนมอย่างเดียว พอเริ่ม 4 เดือนก็เริ่มให้น้ำส้มเสริม พอเข้า 6 เดือนช่วงนี้สนุกค่ะ สนุกกะการคิดเมนูให้คุณลูก เพราะจะทำอาหารให้ลูกเอง จะไม่ให้กินอาหารสำเร็จหรืออาหารขวด  แต่ก็หัดให้เค้ารู้รสอาหารขวดบ้าง เพราะจะได้ไม่ลำบากเวลาเดินทางค่ะ  ;D

ด้วยความเป็นคนชอบทำอาหารเป็นนิสัยอยู่แล้ว วัน ๆ ก็คิดเมนูอาหารให้ลูกอย่างสนุกค่ะ ปรับเปลี่ยนไปแต่ละวันไม่ซ้ำ เพราะเป็นการฝึกให้เค้ารู้รสอาหาร จนกลายเป็นเด็กกินง่าย และไม่เกลียดผักจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ไม่ใช้เครื่องปั่นเดี๋ยวจะเสียคณค่าวิตามินไปหมด บดมันกับกระชอนเนี่ยล่ะค่ะ น้ำซุปก็สลับกันไป ซุปกระดูกไก่ กระดูกหมู ซุปปลา แต่จะฝึกให้เค้ากินอาหารทีละประเภท ทีละอย่างเพื่อสังเกตุเรื่องการแพ้อาหารด้วยค่ะ เช่น ไข่ หรืออาหารทะเลเป็นต้น หรืออาหารที่มีผลต่อการขับถ่าย พอเค้าได้ลองกินหลาย ๆ อย่างแล้วไม่มีปัญหา ต่อจากนั้นถึงจะทำแบบรวม ๆ ปน ๆ กันไปได้ ;D
อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

Jojo

ฝึกให้ลูกกินผักตั้งแต่ 6 เดือน ผักชี ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ก็ต้ม ๆ บด ๆ ผสมลงไปด้วยค่ะ ด้วยความที่เราดูแลเรื่องอาหารดีมาก น้ำหนักคุณลูกพุ่งกระฉูด ลูกอ้วนตัวเป็นปล้อง ๆ เหมือนโลโก้ยางรถยนต์มิชชารีนอ่ะค่ะ สุขภาพแข็งแรงดี ตลอด 8 ปี ป่วยแบบนอนโรงพยาบาล 2 ครั้ง ;D

เรื่องกินไปแล้ว ต่อกันด้วยเรื่องพัฒนาการ ลูกคนนี้อ้วนค่ะขาใหญ่ เลยคว่ำช้ามาก โบราณเค้าว่าช่วงลูกคว่ำห้ามช่วยเพราะจะต้องช่วยลูกไปตลอดชีวิต  ??? พอคว่ำได้ก็นั่ง นั่งแล้วก็เดินเลยค่ะ เดินตอน 11 เดือน แต่ไม่ยอมคลาน ??? ตลอดระยะเวลาจะคอยสังเกตุและทดสอบเรื่องการเห็น ได้ยิน การพูดกับลูกตลอด สังเกตุดูว่าลูกมองตามเรามั๊ย จะเห็นเรารึป่าว พูดแล้วได้ยินเรามั๊ย คอยมองตามเสียงเรารึป่าว พอพูดได้แล้วพูดเป็นภาษามั๊ย พัฒนาการการพูดเพิ่มมากขึ้นหรือป่าว  จากหนึ่งคำ เป็นสองคำ และคำอื่น ๆ พูดเพิ่มมั๊ย ::) ช่วงที่เค้าเริ่มนั่งได้ จับของได้ ก็จะให้เค้าเริ่มหัดจับสีเทียน เขียนลงในกระดาษป่าวหรือสมุดระบายสี เหมือนจะให้เรียนเร็วไปนิดแต่มันดีสำหรับ กล้ามเนื้อหมัดมือ (ไม่รู้เรียกถูกหรือป่าวนะคะ) ในการหัดจับดินสอ แรก ๆ ลูกก็ทำได้แต่ จุด ๆๆๆๆ ลงในกระดาษต่อมาก็พัฒนาเป็นขีดๆๆ  ;D

พาลูกออกสังคม เจอคนแปลกหน้า คนนอกครอบครัวบ่อย ๆ ค่ะ แล้วเค้าจะไม่กลัวคน แล้วก็ไม่หวงลูกค่ะ ใครอยากอุ้มเอาไปเลย เพราะอุ้มคนเดียวเมื่อยมาก..555 เลี้ยงลูกไม่ถึงขนาดพาสเจอร์ไรซ์ คืออนามัยจัด เล่นกะดินกะทรายก็ปล่อยค่ะ ขนมตกลงพื้นไม่ถึงกับสกปรกมาก ก็ให้กินต่อ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคให้กับตัวเอง (อันนี้คิดเอาเองนะคะ...555) เคยให้ลูกกินนมบูดแบบไม่รู้ ลูกยังท้องไม่เสียเลย...หุหุ


อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

Jojo

เรื่องภาษา  ตอนอยู่เมืองไทยที่บ้านพูด 3 ภาษาค่ะ ไทย อังกฤษ สวิสเยอรมัน ลูกถนัดพูดไทยค่ะ แต่สามารถเข้าใจทุกภาษา แต่พอย้ายมาสวิสถนัดพูดสวิสเยอรมันค่ะ ส่วนภาษาเยอรมันพูดเวลาอยู่โรงเรียน ภาษาอังกฤษยังเข้าใจอยู่ แต่ภาษาไทยเริ่มทยอยนั่งเครื่องบินกลับเมืองไทยไปทีละตัว...555 แต่ก็ยังฝึกให้ลูกพูดไทยอยู่ค่ะ ฝืน ๆ กันบ้าง เวลาเค้าพูดผิดหรือใช้คำผิด ฟังแล้วขำดีค่ะ แล้วก็จะสอนให้เค้าพูดใหม่ อธิบายให้เค้าฟังใหม่  ;D

อนาคตอยากให้ลูกเป็นอะไร ??? ??? มิสสวิสคงไม่ได้เพราะตัวเล็กความสูงไม่ถึง แต่เท่าที่สังเกตุเค้าจากการที่ให้เค้าลองทำกิจกรรมหลาย ๆ แบบ หลาย ๆ อย่าง รู้สึกว่าลูกจะชอบละครเวที แนวตลก ๆ ขำ ๆ อ่ะ คิดว่าคงจะให้ไปสมัครอยู่ในคณะเชิญยิ้ม...555 ส่วนลูกชายนี่พ่อแม่ฝันอยากให้เป็นนักกีฬา ไอซ์ฮ็อกกี้ค่ะ แต่ก็ไม่อยากหวังไว้เยอะ กลัวโตแล้วกลับชอบบัลเล่ย์ขึ้นมาล่ะ..จบกัน เอาว่าลูก ๆ อยากเป็นอะไรก็เป็นไป แต่ต้องเรียนหนังสือให้สูงที่สุดก็พอ ;D

นอกจากเรื่องไอคิวแล้วก็ต้องเป็นเรื่องอีคิว เรียนเก่งแต่อยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ก็จบ สอนให้เค้าเห็นความเป็นจริงของสังคม ทำอย่างไรให้อยู่ให้ได้  และต้องรู้จักปรับตัวไปตามสังคม จะได้ไม่ลำบาก สอนให้ยึดสถาบันครอบครัวเป็นหลัก ไม่ให้ติดเพื่อน มีอะไรพูดคุยกะพ่อแม่ทุกเรื่อง บางเรื่องกลัวพ่อก็พูดกับแม่ รักษาความลับของลูกไว้ แล้วลูกจะไว้ใจเราที่สุด (แต่ก็แอบไปปรึกษาสามีเงียบ ๆ แบบไม่ให้ลูกรู้) ไม่เลี้ยงลูกเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ให้ความสำคัญกับเค้าทุกครั้งเวลามีกิจกรรมที่โรงเรียน เวลาทำโทษลูก หรือดุลูก จะจบด้วยคำว่า "พ่อแม่รักหนูน่ะ ที่ทำโทษเพราะหนูทำผิด ไม่ใช่ลงโทษเพราะไม่รัก" เพราะตอนเด็ก ๆ เวลาโจ้ถูกทำโทษจะคิดเสมอว่าพ่อแม่ไม่รัก แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ แต่ช่วงวัยนั้นเราไม่เข้าใจลึกซึ้งต่างหาก มันเลยเก็บสะสมเป็นปมในใจทุกครั้งที่โดนทำโทษ บางครั้งเราก็ต่อต้านด้วยการประชดประชันซะเลย :-\

งานนอกบ้านยังมีเวลาพัก เวลาหยุดพักร้อน แต่งานเลี้ยงลูกขอบอกว่าเหนื่อยค่ะ พักไม่ได้หยุดไม่ได้ ทำ 24 ชม. 365 วัน :'( :'( แต่สนุกและมีความสุขค่ะ ถึงว่าปัจจุบัน ตัวเองต้องบริหารเวลามากขึ้น ไหนจะเรียนภาษา ไหนจะทำงานนอกบ้าน (งกอ่ะค่ะ อยากได้ตังค์) แต่ก็ไม่ละเลยหน้าที่หลักคือลูก และสามี  ดีตรงที่สวิสเค้าเปิดโอกาส มีงาน 20-50 เปอร์เซ็นต์ให้ทำ เราก็ทำได้ทุกหน้าที่อย่างไม่มีข้อบกพร่อง  ;D

แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกไว้เท่านี้ก่อนล่ะกันค่ะ ไว้รอคนที่สองออกมาแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ล่ะกันค่ะ  ;D
อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

kornnika

สวัสค่ะเหล่าคุณแม่ทั้งหลาย ทั้งคุณแม่ลูกโตแล้วและคุณแม่ลูกอ่อน และคุณแม่ครึ่งแรกและอีกครึ่งหลังที่กำลังจะตามมาอีก2เดือน
ขอบคุณมากสำหรับประสบการณ์ดีๆค่ะ ทั้งจากคุณสปาร์ที่ตอนนี้ลูกโตปัญหาก็โตตาม และจากลูกยังเล็กๆเหมือนพี่นันและคุณโจ้ (ที่เทวีกะแล้วว่าต้องไม่พลาดกระทู้นี้แน่ๆ) เทวีได้อ่านกระทู้ของคุณโจ้มากเหมือนกันเรื่องเลี้ยงเด็กแล้วก็อยากบอกว่าส่วนใหญ่แล้วเทวีเห็นดีเห็นงามและทำตามคุณโจ้ว่าทั้งสิ้นเลยค่ะ แต่ตอนนี้เทวีจะสอนลูกมากขึ้น สอนกันทั้งที่ยังเล็กนี่ละ ขวบปีแรกเด็กเรียนได้เร็วมาก เทวีอ่านหนังสือฝรั่งเล่มหนึ่ง ชื่อ ทารกของคุณก็ทำได้ อันนี้ภาษาเยอรมันค่ะ (ใช้ความพยายามสูงมากในการอ่าน) ตอนนี้เทวีฝึกอรกรนั่งโถส้วมเองแล้วค่ะ อรกรอายุ6เดือน ตอนนี้ไม่เปลืองแพมเพริสแล้ว แค่วันละ2ผืนเท่านั้น อรกรไม่อึในแพสเพิสเลย กินเสร็จแม่จะถอดผ้าอ้อมออกแล้วให้นั่งกระโถนเลยค่ะ ปรากฏว่าอรกรทำได้ภายใน2วัน เราก็ประหยัดค่าผ้าอ้อมไป
อีกเรื่องคือเรื่องอันตรายต่างๆรอบตัวเรา ให้เราสอนลูกถึงเหตุและผล ว่าถ้าลูกทำอย่างนี้จะเกิดอะไรขึ้น อย่าใช่แต่คำว่า ..อย่า.. อย่างเดียว เพราะเด็กจะไม่เข้าใจว่าทำไม อย่างเช่นไม่ให้ลูกถือส้อม เพราะส้อมมันแหลมมันจะทิ่มลูกแล้วลูกจะเจ็บ เทวีเอาจิ้มให้ดูเลย ให้เขารู้ว่าเจ็บคือแบบนี้นะ อันนี้ต้องค่อยๆดูไปว่าจะได้ผลขนาดได้ แต่ที่ได้ผลอีกอย่างคือตอนเปลี่นผ้าอ้อมบนโต๊ะสูง เทวีจะให้ลูกดูว่ามันสูงขนาดไหน ถ้าแม่ไม่เห็นแล้วลูกดิ้นไปมา ลูกหล่นลง ลูกจะเจ็บได้ ดังนั้นลูกต้องรู้ว่าลูกจะไม่ดิ้นตอนแม่ไม่เห็นหรือไม่อยู่กับลูกที่โต๊ะ อรกรไม่เคยดิ้นเลยเวลาที่เทวีห่างจากโต๊ะ แต่เวลาที่เทวีอยู่ด้วยอรกรดิ้นตลอด เหมือนรู้เลยค่ะ
วันนี้ง่วงแล้ว ค่อยมาต่อใหม่พรุ่งนี้เรื่องอาหารการกินของเจ้าหมูน้อยที่บ้านนะคะ